Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1827 ควมคุมมด

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1827 ควมคุมมด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1827 ควมคุมมด

 

การเปลี่ยนอาณาจักรแห่งความฝันเป็นกายาแห่งความฝันดึงดูดความสนใจของแม่ทัพมังกรทั้ง

 

หากเขาเป็นผู้อมตะเผ่ามนุษย์ แม่ทัพมังกรทั้งสี่จะโจมตีเขาทันที แต่ร่างแยกมนุษย์มังกรของฟางหยวนเป็นมนุษย์มังกรที่แท้จริงไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือดวงวิญญาณ

 

ดังนั้นแม่ทัพมังกรทั้งสี่จึงเปิดเผยตัวตนของพวกเขาออกมา ฟางหยวนอ้าปากค้างเมื่อได้ยินความลับเรื่องนี้

 

ในชีวิตก่อนหน้า เขาเคยเห็นเพียงไปหนิงปิงควบคุมวังมังกรและตี้จางเฉิงเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งสุดท้ายแต่ไม่เห็นแม่ทัพมังกรทั้งสี่

 

“ดังนั้นผู้อมตะทั้งสี่ก็เป็นทาสของวังมังกร พวกเขาถูกปราบปรามโดยวังมังกรและกลายเป็นแม่ทัพมังกร!”

 

“นี่เป็นแผนการที่ซ่อนไว้ลึกมาก”

 

“ข้าควรลงมือด้วยตนเองหรือไม่?

 

ฟางหยวนมีความคิดมากมายเกิดขึ้นในใจ

 

ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา เขาสามารถจัดการผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ในเวลาเดียวกัน

 

วิธีการที่แข็งแกร่งที่สุดของฟางหยวนในเวลานี้คือวิธีบนเส้นทางแห่งพลังปราณ เพียงร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งพลังปราณอย่างเดียว มันก็เหนือกว่าผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ไปไกลแล้ว

 

“แต่พวกเขาเป็นผู้อมตะระดับแปด แม้ข้าจะสามารถเอาชนะและฆ่าพวกเขา มันก็ยังจะก่อให้เกิดความโหลาหลครั้งใหญ่ ข้าไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว

 

พิจารณาจากสถานการณ์ของราชันมังกร นอกจากผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ วังมังกรก็สามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเอง มันสามารถหลบหนี

 

“หากข้าพยายามต่อสู้ มันอาจจบลงไม่ดีนัก ข้าจะอยู่ในสภาพเดียวกับราชันมังกรในชีวิตก่อนหน้า”

 

ฟางหยวนอนุมานผลลัพธ์ที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด

 

เขามาที่นี่เพื่อยึดครองวังมังกรอย่างลับๆ หากเขาทําให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่และเปิดเผยการบ่มเพาะระดับแปดรวมถึงวิธีการบนเส้นทางแห่งพลังปราณออกไป มันจะส่งผลกระทบต่อแผนการอื่น

 

ฟางหยวนคิดเรื่องนี้และมองไปยังหม้อปรุงโชค

 

มังกรม่วงติดอยู่ในเมฆสีดําแต่มันยังกัดฟันด้วยความตื่นเต้น นอกจากนั้นตอนนี้มันยังมีร่องรอยของปราณสีฟ้าม่วงที่คลุมเครือเกิดขึ้นในกลุ่มเมฆสีดํา

 

ร่องรอยของโชคปราณสีฟ้าม่วงมีความหมายที่ลึกซึ้ง มันแสดงให้เห็นว่าร่างแยกมนุษย์มังกรมีโอกาสเป็นเจ้าของวังมังกร

 

“ร่างแยกมนุษย์มังกรเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดขณะที่แม่ทัพมังกรทั้งสี่เป็นผู้อมตะระดับแปดพวกเขาไม่พบการคงอยู่ของข้า ดังนั้นมันจึงไม่น่าจะเป็นไปได้ที่พวกเขาจะโกหก”

 

“หากร่างแยกมนุษย์มังกรทําตามกฏและสํารวจอาณาจักรแห่งความฝัน หลังจากผ่านการทดสอบข้าจะได้รับวังมังกรรวมถึงผู้ใต้บังคับบัญชาสีผู้อมตะระดับแปด!”

 

“ดูเหมือนวังมังกรจะเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งทาสจริงๆ มันสามารถกดขี่ผู้อมตะระดับแปดสี่คนในเวลาเดียวกัน ช่างอัศจรรย์นัก!”

 

“ตามข้อมูลในชีวิตก่อนหน้า ข้ายังมีเวลาอีกมาก”

 

เมื่อคิดได้เช่นนี้ร่างหลักของฟางหยวนก็ตัดสินใจปล่อยให้ร่างแยกมนุษย์มังกรสํารวจอาณาจักรแห่งความฝัน

 

นี่เป็นวิธีที่มีประโยชน์มากที่สุด

 

ร่างแยกมนุษย์มังกรได้รับคําสั่งจากร่างหลักอย่างลับๆให้นําอาณาจักรแห่งความฝันกลับคืน

 

การกระทํานี้ทําให้การแสดงออกของสี่แม่ทัพมังกรดูเป็นมิตรมากขึ้น

 

ยายหรงกล่าว “ในการทดสอบ ร่างกายและดวงวิญญาณของเจ้าต้องเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน เจ้าต้องเสี่ยงด้วยทุกสิ่งเพื่อที่จะเป็นเจ้าของวังมังกร”

 

การแสดงออกของร่างแยกมนุษย์มังกรเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เมื่อพิจารณาว่าร่างหลักกําลังเฝ้าดูและปกป้องเขาอยู่อย่างลับๆ เขาก็พยักหน้าและเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน

 

เมื่อเขาเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน เขาพบกับความมืด

 

“อู่ส่วย ตื่น ตื่น” คนที่อยู่ด้านข้างร่างแยกมนุษย์มังกรสะกิดเขา

 

ร่างแยกมนุษย์มังกรเปิดเปลือกตาขึ้นและเห็นเด็กสาวมนุษย์มังกรที่น่ารักและไร้เดีย งสากําลังทําหน้าลําบากใจ“เหตุใดเจ้ายังหลับอยู่ที่นี่? ทุกคนกําลังรอเจ้าอยู่ อย่าลืมว่าวันนี้เป็นวันที่เราต้องต่อสู้กับเฉินฟูและเจิ้งซวง”

 

“ดังนั้นข้าก็คืออู่ส่วย อึม ข้าเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสาม” ร่างแยกมนุษย์มังกรตรวจสอบตนเองอย่างรวดเร็ว

 

“เร็วเข้าไปกันเถอะ” เด็กสาวมนุษย์มังกรไม่สามารถอดทนรอและเริ่มลากดึงเขาไปพร้อมกัน

 

พวกเขาวิ่งไปถึงลานประลองของสถานศึกษาในที่สุด

 

คนสองกลุ่มรวมตัวกันอยู่ที่นี่ พวกเขาแยกออกเป็นสองกลุ่มอย่างชัดเจน

 

กลุ่มทางทิศตะวันตกประกอบด้วยผู้ใช้วิญญาณหนุ่มสาวเผ่ามนุษย์ พวกเขามีผู้นําที่ดูเย่อหยิ่ง

 

กลุ่มทางทิศตะวันออกประกอบด้วยผู้ใช้วิญญาณหนุ่มสาวเผ่ามนุษย์มังกรที่ปราศจากผู้นํา พวกเขากําลังถูกกดันจากฝ่ายตรงข้าม

 

เมื่อเห็นฟางหยวนปรากฏตัว กลุ่มมนุษย์มังกรหนุ่มสาวเริ่มตื่นเต้น บางคนส่งเสียงโห่ร้องด้วยความยินดีขณะที่บางคนตําหนิการมาสายของเขา

 

“อู่ส่วย ในที่สุดเจ้าก็มา ข้าคิดว่าเจ้าคงกลัวและไม่กล้ามาที่นี่” หนึ่งในสองผู้นํากลุ่มเด็กหนุ่มสาวเผ่ามนุษย์เย้ยหยัน

 

เด็กสาวมนุษย์มังกรที่พาฟางหยวนมาเร่งโต้ตอบ “อย่ายโสให้มากนัก เฉินฟู ตอนนี้ส่วยอยู่ที่นี่แล้ว เขาจะทุบตีพวกเจ้าทั้งหมด!”

 

“เลิกบ้าได้แล้ว อู่ส่วย มาสู้กัน! ครั้งนี้ข้าจะทําให้แน่ใจว่าข้าจะตอบแทนความอัปยศจากการสูญเสียครั้งก่อน!” ผู้ใช้วิญญาณที่ชื่อเจิ้งซวงก้าวออกมาและต้องการต่อสู้ทันที

 

“รอก่อน” ฟางหยวนยกมือขึ้น เนื่องจากเป็นการต่อสู้เดิมพัน แล้วของเดิมพันอยู่ที่ใด?”

 

เขากล่าวขณะลอบประเมินสถานศึกษาแห่งนี้

 

ลานประลองของที่นี่ไม่ธรรมดาเลย มันอยู่ในค่ายกลวิญญาณอมตะ!

 

นี่หมายความว่าฟางหยวนไม่ได้อยู่ในสถานที่ธรรมดา การคงอยู่ของค่ายกลวิญญาณอมตะมันหมายความว่าที่นี่เป็นอาณาเขตของกองกําลังใหญ่ การสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะไว้ในลานประลองของสถานศึกษาหมายความว่าที่นี่เป็นสถานที่สําคัญมาก

 

พิจารณาจากเสื้อผ้าของทั้งสองฝ่าย เห็นได้ชัดว่าที่นี่คือนิกาย

 

“ชัดเจนว่าของเดิมพันเป็นสิ่งกระตุ้นเด็กเหล่านี้

 

“พวกเขามีการบ่มเพาะระดับสองเป็นอย่างน้อย แม้พวกเขาจะพึ่งบ่มเพาะได้ไม่นาน แต่พรสวรรค์ของพวกเขาสูงมาก”

 

ข้ามีระดับการบ่มเพาะสูงที่สุด เช่นเดียวกับเจิ้งปวงและเฉินฟู พวกเขาเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสามทุกคนเป็นอัจฉริยะวัยเยาว์ ถัดจากข้าคือเด็กสาวมนุษย์มังกรที่อยู่ข้างกายข้า นางมีการบ่มเพาะระดับสองขั้นสุดยอด

 

“อู่สวย อย่าดูถูกข้า ข้านําของเดิมพันมาแล้ว ดูให้ดี!” เฉินฟูกล่าวและหยิบวิญญาณออกมาจากกระเป๋าอย่างระมัดระวัง

 

ฟางหยวนชําเลืองมองและพบว่ามันเป็นวิญญาณผู้บังคับบัญชาระดับห้า

 

ฟางหยวนประหลาดใจเล็กน้อย เขามีวิญญาณอมตะมากมาย เขาไม่สนใจวิญญาณระดับมนุษย์มากนัก แต่วิญญาณผู้บังคับบัญชาดวงนี้แตกต่างออกไป แม้มันจะเป็นวิญญาณระดับมนุษย์แต่มันเป็นวิญญาณบนเส้นทางมนุษย์ที่ส่งผลกระทบบนเส้นทางแห่งทาส มันมีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์แต่มันสูญพันธุ์ไปแล้ว

 

ตามข่าวลือ วิญญาณผู้บังคับบัญชามีความสามารถหลากหลาย มันสามารถใช้งานร่วมกับวิญญาณหลายประเภท

 

ร่างแยกมนุษย์มังกรของฟางหยวนมีระดับความสําเร็จเท่ากับร่างหลัก

 

ร่างหลักของฟางหยวนเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางมนุษย์และผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งทาสร่างแยกมนุษย์มังกรของเขาก็เช่นกัน

 

ความสําเร็จระดับผู้เชี่ยวชาญสามารถใช้สัญชาตญาณ

 

ตอนนี้สัญชาตญาณกําลังเตือนร่างแยกมนุษย์มังกร “ตราบเท่าที่ข้าผ่านฉากนี้ ข้าจะได้รับเคลดลับการหลอมรวมวิญญาณผู้บังคับบัญชา!”

 

“ไม่แปลกใจเลยที่โชคมังกรม่วงของข้าต้องการทดลอง อาณาจักรแห่งความฝันบนเส้นทางแห่งทาสนี้เป็นการเผชิญหน้าโดยบังเอิญครั้งใหญ่ของข้า!”

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ร่างแยกมนุษย์มังกรก็รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น

 

ขณะที่เขาเดินทางมาที่นี่ เขาตรวจสอบวิญญาณของอู่ส่วยและเตรียมวิธีการบางอย่างไว้แล้ว

 

ฟางหยวนยิ้ม “ในกรณีนี้เราก็มาสู้กันเถอะ ข้าจะให้เจ้าเริ่มก่อน”

 

เจิ้งซวงโกรธมากเมื่อได้ยินคํากล่าวของฟางหยวน “ดี อู่ส่วย เจ้าช่างยโสนัก เจ้ากล้าดูถูกข้า ข้าจะแสดงให้เจ้าดู!”

 

เขาโยนหินสิบก้อนออกไปรอบๆ

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะดูดซับพวกมันเข้าไปทันที

 

ต่อมาฝูงมดก็เริ่มโผล่ขึ้นมาจากพื้น

 

เจิ้งซวงใช้วิธีการของเขาจัดการมดเหล่านี้

 

ฟางหยวนตกใจมาก พวกมันไม่ใช่มดธรรมดา พวกมันมีอักขระปรากฏอยู่บนร่างกาย มันคือกองทัพมดในตํานาน?”

 

มนุษย์มังกรไม่ใช่มนุษย์กลายพันธุ์ตามธรรมชาติแต่ถูกสร้างขึ้นโดยฝีมือมนุษย์

 

กองทัพมดและมนุษย์มังกรมีความคล้ายคลึงกัน พวกมันไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติแต่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้อมตะที่ยิ่งใหญ่

 

กองทัพมดประเภทนี้จะถูกใช้โดยผู้ใช้วิญญาณบนเส้นทางแห่งทาส

 

กองทัพมดขนาดเล็กสามารถใช้ในการฝึกฝนขณะที่กองทัพมดขนาดใหญ่สามารถสร้างคลื่นสัตว์อสูรที่ทรงพลัง

 

เจิ้งซวงจับมดสีเหลืองสิบตัวเป็นทาสอย่างรวดเร็ว

 

เป็นเพียงเวลานี้มดชนิดใหม่โผล่ขึ้นมา พวกมันมีขนาดใหญ่กว่ามดก่อนหน้าและมีสีดํา

 

เจิ้งซวงมีความสุขมากและเริ่มปรับแต่งมดดําเหล่านั้น

 

บนร่างกายของมดสีเหลืองมีอักขระคําว่า คนงาน

 

บนร่างกายของมดสีดํามีอักขระคําว่า ทหาร

 

เมื่อเห็นสิ่งนี้ กลุ่มเด็กหนุ่มสาวมนุษย์มังกรเริ่มวิตก เด็กสาวมนุษย์มังกรที่อยู่ด้านข้างฟางหยวนเร่งกล่าว “อู่สวยเริ่มเร็วเข้า หากเราแพ้การต่อสู้ครั้งนี้ เจ้าจะสูญเสียวิญญาณสําคัญของเจ้าอีกฝ่ายไร้ยางอาย เขามีมดงานมากกว่าสิบตัวและมดทหารสามตัวแล้ว”

 

“ไม่มีปัญหา” ฟางหยวนยิ้ม เขานั่งลงและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายเพื่อจัดมด

 

หลังจากไม่กี่ลมหายใจ มดหลายสิบตัวก็รวบตัวกันอยู่ด้านหน้าฟางหยวน

 

ท่ามกลางพวกมันมีทั้งมดงานและมดทหาร

 

กลุ่มเด็กหนุ่มสาวเผ่ามนุษย์อุทานด้วยความตกใจขณะที่กลุ่มเด็กหนุ่มสาวเผ่ามนุษย์มังกรตะโกนให้กําลังใจด้วยความตื่นเต้น

 

เจิ้งซวงมองฟางหยวนด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ใบหน้าของเขากลายเป็นซีดขาวเมื่อเห็นกองทัพมดของฟางหยวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

“ข้าแพ้!” เจิ้งซวงกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “แต่นี่เป็นท่าไม้ตายชนิดใด?”

 

ฟางหยวนไม่รู้ชื่อของท่าไม้ตายนี้ เขาพึ่งสร้างมันขึ้นมาอย่างไม่เป็นทางการ ดังนั้นเขาจึงหลีกเลี่ยงที่จะกล่าวถึง “เมื่อเจ้ายอมรับความพ่ายแพ้ แล้วเดิมพันอยู่ที่ใด?”

 

เจิ้งซวงก่นเสียงเย็น เขาส่งวิญญาณผู้บังคับบัญชาให้ฟางหยวนก่อนจะหันหลังกลับและจากไปทันที

 

เฉินฟูแสดงออกด้วยความเขินอายแต่เขายังทิ้งคํากล่าวเอาไว้ก่อนจากไป “อู่ส่วย ผู้ใดจะคิดว่าเจ้าจะเป็นคนเจ้าเล่ห์ เจ้าลอบเรียนรู้ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งทาสที่ทรงพลัง อย่าได้ใจมากนักเราจะท้าทายเจ้าอีกครั้งอย่างแน่นอน!”

 

“เราชนะ อู่ส่วย เจ้าช่างยอดเยี่ยมนัก!”

 

“สมกับเป็นอู่สวย!”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเขาตลกมาก พวกเจ้าเห็นหรือไม่ว่าใบหน้าของเจิ้งซวงกับเฉินฟูน่าเกลียดเพียงใด”

 

ฟางหยวนยิ้ม เขากําลังจะตอบสนองเด็กหนุ่มสาวเผ่ามนุษย์มังกร แต่ในจังหวะนี้การแสดงออกของเด็กหนุ่มสาวเหล่านี้กลับเปลี่ยนเป็นแข็งค้างเมื่อพวกเขาเห็นบางคนยืนอยู่ด้านหลังฟางหยวน

 

“ท่านพ่อ…” บางคนแจ้งเตือนเบาๆ

ฟางหยวนหันหลังกลับและเห็นผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรยืนอยู่ด้วยใบหน้ามืดครื้ม

 

ฟางหยวนตกตะลึงราชันมังกร?”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1827 ควมคุมมด

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1827 ควมคุมมด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1827 ควมคุมมด

 

การเปลี่ยนอาณาจักรแห่งความฝันเป็นกายาแห่งความฝันดึงดูดความสนใจของแม่ทัพมังกรทั้ง

 

หากเขาเป็นผู้อมตะเผ่ามนุษย์ แม่ทัพมังกรทั้งสี่จะโจมตีเขาทันที แต่ร่างแยกมนุษย์มังกรของฟางหยวนเป็นมนุษย์มังกรที่แท้จริงไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือดวงวิญญาณ

 

ดังนั้นแม่ทัพมังกรทั้งสี่จึงเปิดเผยตัวตนของพวกเขาออกมา ฟางหยวนอ้าปากค้างเมื่อได้ยินความลับเรื่องนี้

 

ในชีวิตก่อนหน้า เขาเคยเห็นเพียงไปหนิงปิงควบคุมวังมังกรและตี้จางเฉิงเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งสุดท้ายแต่ไม่เห็นแม่ทัพมังกรทั้งสี่

 

“ดังนั้นผู้อมตะทั้งสี่ก็เป็นทาสของวังมังกร พวกเขาถูกปราบปรามโดยวังมังกรและกลายเป็นแม่ทัพมังกร!”

 

“นี่เป็นแผนการที่ซ่อนไว้ลึกมาก”

 

“ข้าควรลงมือด้วยตนเองหรือไม่?

 

ฟางหยวนมีความคิดมากมายเกิดขึ้นในใจ

 

ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา เขาสามารถจัดการผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ในเวลาเดียวกัน

 

วิธีการที่แข็งแกร่งที่สุดของฟางหยวนในเวลานี้คือวิธีบนเส้นทางแห่งพลังปราณ เพียงร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งพลังปราณอย่างเดียว มันก็เหนือกว่าผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ไปไกลแล้ว

 

“แต่พวกเขาเป็นผู้อมตะระดับแปด แม้ข้าจะสามารถเอาชนะและฆ่าพวกเขา มันก็ยังจะก่อให้เกิดความโหลาหลครั้งใหญ่ ข้าไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว

 

พิจารณาจากสถานการณ์ของราชันมังกร นอกจากผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ วังมังกรก็สามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเอง มันสามารถหลบหนี

 

“หากข้าพยายามต่อสู้ มันอาจจบลงไม่ดีนัก ข้าจะอยู่ในสภาพเดียวกับราชันมังกรในชีวิตก่อนหน้า”

 

ฟางหยวนอนุมานผลลัพธ์ที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด

 

เขามาที่นี่เพื่อยึดครองวังมังกรอย่างลับๆ หากเขาทําให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่และเปิดเผยการบ่มเพาะระดับแปดรวมถึงวิธีการบนเส้นทางแห่งพลังปราณออกไป มันจะส่งผลกระทบต่อแผนการอื่น

 

ฟางหยวนคิดเรื่องนี้และมองไปยังหม้อปรุงโชค

 

มังกรม่วงติดอยู่ในเมฆสีดําแต่มันยังกัดฟันด้วยความตื่นเต้น นอกจากนั้นตอนนี้มันยังมีร่องรอยของปราณสีฟ้าม่วงที่คลุมเครือเกิดขึ้นในกลุ่มเมฆสีดํา

 

ร่องรอยของโชคปราณสีฟ้าม่วงมีความหมายที่ลึกซึ้ง มันแสดงให้เห็นว่าร่างแยกมนุษย์มังกรมีโอกาสเป็นเจ้าของวังมังกร

 

“ร่างแยกมนุษย์มังกรเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดขณะที่แม่ทัพมังกรทั้งสี่เป็นผู้อมตะระดับแปดพวกเขาไม่พบการคงอยู่ของข้า ดังนั้นมันจึงไม่น่าจะเป็นไปได้ที่พวกเขาจะโกหก”

 

“หากร่างแยกมนุษย์มังกรทําตามกฏและสํารวจอาณาจักรแห่งความฝัน หลังจากผ่านการทดสอบข้าจะได้รับวังมังกรรวมถึงผู้ใต้บังคับบัญชาสีผู้อมตะระดับแปด!”

 

“ดูเหมือนวังมังกรจะเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งทาสจริงๆ มันสามารถกดขี่ผู้อมตะระดับแปดสี่คนในเวลาเดียวกัน ช่างอัศจรรย์นัก!”

 

“ตามข้อมูลในชีวิตก่อนหน้า ข้ายังมีเวลาอีกมาก”

 

เมื่อคิดได้เช่นนี้ร่างหลักของฟางหยวนก็ตัดสินใจปล่อยให้ร่างแยกมนุษย์มังกรสํารวจอาณาจักรแห่งความฝัน

 

นี่เป็นวิธีที่มีประโยชน์มากที่สุด

 

ร่างแยกมนุษย์มังกรได้รับคําสั่งจากร่างหลักอย่างลับๆให้นําอาณาจักรแห่งความฝันกลับคืน

 

การกระทํานี้ทําให้การแสดงออกของสี่แม่ทัพมังกรดูเป็นมิตรมากขึ้น

 

ยายหรงกล่าว “ในการทดสอบ ร่างกายและดวงวิญญาณของเจ้าต้องเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน เจ้าต้องเสี่ยงด้วยทุกสิ่งเพื่อที่จะเป็นเจ้าของวังมังกร”

 

การแสดงออกของร่างแยกมนุษย์มังกรเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เมื่อพิจารณาว่าร่างหลักกําลังเฝ้าดูและปกป้องเขาอยู่อย่างลับๆ เขาก็พยักหน้าและเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน

 

เมื่อเขาเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน เขาพบกับความมืด

 

“อู่ส่วย ตื่น ตื่น” คนที่อยู่ด้านข้างร่างแยกมนุษย์มังกรสะกิดเขา

 

ร่างแยกมนุษย์มังกรเปิดเปลือกตาขึ้นและเห็นเด็กสาวมนุษย์มังกรที่น่ารักและไร้เดีย งสากําลังทําหน้าลําบากใจ“เหตุใดเจ้ายังหลับอยู่ที่นี่? ทุกคนกําลังรอเจ้าอยู่ อย่าลืมว่าวันนี้เป็นวันที่เราต้องต่อสู้กับเฉินฟูและเจิ้งซวง”

 

“ดังนั้นข้าก็คืออู่ส่วย อึม ข้าเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสาม” ร่างแยกมนุษย์มังกรตรวจสอบตนเองอย่างรวดเร็ว

 

“เร็วเข้าไปกันเถอะ” เด็กสาวมนุษย์มังกรไม่สามารถอดทนรอและเริ่มลากดึงเขาไปพร้อมกัน

 

พวกเขาวิ่งไปถึงลานประลองของสถานศึกษาในที่สุด

 

คนสองกลุ่มรวมตัวกันอยู่ที่นี่ พวกเขาแยกออกเป็นสองกลุ่มอย่างชัดเจน

 

กลุ่มทางทิศตะวันตกประกอบด้วยผู้ใช้วิญญาณหนุ่มสาวเผ่ามนุษย์ พวกเขามีผู้นําที่ดูเย่อหยิ่ง

 

กลุ่มทางทิศตะวันออกประกอบด้วยผู้ใช้วิญญาณหนุ่มสาวเผ่ามนุษย์มังกรที่ปราศจากผู้นํา พวกเขากําลังถูกกดันจากฝ่ายตรงข้าม

 

เมื่อเห็นฟางหยวนปรากฏตัว กลุ่มมนุษย์มังกรหนุ่มสาวเริ่มตื่นเต้น บางคนส่งเสียงโห่ร้องด้วยความยินดีขณะที่บางคนตําหนิการมาสายของเขา

 

“อู่ส่วย ในที่สุดเจ้าก็มา ข้าคิดว่าเจ้าคงกลัวและไม่กล้ามาที่นี่” หนึ่งในสองผู้นํากลุ่มเด็กหนุ่มสาวเผ่ามนุษย์เย้ยหยัน

 

เด็กสาวมนุษย์มังกรที่พาฟางหยวนมาเร่งโต้ตอบ “อย่ายโสให้มากนัก เฉินฟู ตอนนี้ส่วยอยู่ที่นี่แล้ว เขาจะทุบตีพวกเจ้าทั้งหมด!”

 

“เลิกบ้าได้แล้ว อู่ส่วย มาสู้กัน! ครั้งนี้ข้าจะทําให้แน่ใจว่าข้าจะตอบแทนความอัปยศจากการสูญเสียครั้งก่อน!” ผู้ใช้วิญญาณที่ชื่อเจิ้งซวงก้าวออกมาและต้องการต่อสู้ทันที

 

“รอก่อน” ฟางหยวนยกมือขึ้น เนื่องจากเป็นการต่อสู้เดิมพัน แล้วของเดิมพันอยู่ที่ใด?”

 

เขากล่าวขณะลอบประเมินสถานศึกษาแห่งนี้

 

ลานประลองของที่นี่ไม่ธรรมดาเลย มันอยู่ในค่ายกลวิญญาณอมตะ!

 

นี่หมายความว่าฟางหยวนไม่ได้อยู่ในสถานที่ธรรมดา การคงอยู่ของค่ายกลวิญญาณอมตะมันหมายความว่าที่นี่เป็นอาณาเขตของกองกําลังใหญ่ การสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะไว้ในลานประลองของสถานศึกษาหมายความว่าที่นี่เป็นสถานที่สําคัญมาก

 

พิจารณาจากเสื้อผ้าของทั้งสองฝ่าย เห็นได้ชัดว่าที่นี่คือนิกาย

 

“ชัดเจนว่าของเดิมพันเป็นสิ่งกระตุ้นเด็กเหล่านี้

 

“พวกเขามีการบ่มเพาะระดับสองเป็นอย่างน้อย แม้พวกเขาจะพึ่งบ่มเพาะได้ไม่นาน แต่พรสวรรค์ของพวกเขาสูงมาก”

 

ข้ามีระดับการบ่มเพาะสูงที่สุด เช่นเดียวกับเจิ้งปวงและเฉินฟู พวกเขาเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสามทุกคนเป็นอัจฉริยะวัยเยาว์ ถัดจากข้าคือเด็กสาวมนุษย์มังกรที่อยู่ข้างกายข้า นางมีการบ่มเพาะระดับสองขั้นสุดยอด

 

“อู่สวย อย่าดูถูกข้า ข้านําของเดิมพันมาแล้ว ดูให้ดี!” เฉินฟูกล่าวและหยิบวิญญาณออกมาจากกระเป๋าอย่างระมัดระวัง

 

ฟางหยวนชําเลืองมองและพบว่ามันเป็นวิญญาณผู้บังคับบัญชาระดับห้า

 

ฟางหยวนประหลาดใจเล็กน้อย เขามีวิญญาณอมตะมากมาย เขาไม่สนใจวิญญาณระดับมนุษย์มากนัก แต่วิญญาณผู้บังคับบัญชาดวงนี้แตกต่างออกไป แม้มันจะเป็นวิญญาณระดับมนุษย์แต่มันเป็นวิญญาณบนเส้นทางมนุษย์ที่ส่งผลกระทบบนเส้นทางแห่งทาส มันมีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์แต่มันสูญพันธุ์ไปแล้ว

 

ตามข่าวลือ วิญญาณผู้บังคับบัญชามีความสามารถหลากหลาย มันสามารถใช้งานร่วมกับวิญญาณหลายประเภท

 

ร่างแยกมนุษย์มังกรของฟางหยวนมีระดับความสําเร็จเท่ากับร่างหลัก

 

ร่างหลักของฟางหยวนเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางมนุษย์และผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งทาสร่างแยกมนุษย์มังกรของเขาก็เช่นกัน

 

ความสําเร็จระดับผู้เชี่ยวชาญสามารถใช้สัญชาตญาณ

 

ตอนนี้สัญชาตญาณกําลังเตือนร่างแยกมนุษย์มังกร “ตราบเท่าที่ข้าผ่านฉากนี้ ข้าจะได้รับเคลดลับการหลอมรวมวิญญาณผู้บังคับบัญชา!”

 

“ไม่แปลกใจเลยที่โชคมังกรม่วงของข้าต้องการทดลอง อาณาจักรแห่งความฝันบนเส้นทางแห่งทาสนี้เป็นการเผชิญหน้าโดยบังเอิญครั้งใหญ่ของข้า!”

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ร่างแยกมนุษย์มังกรก็รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น

 

ขณะที่เขาเดินทางมาที่นี่ เขาตรวจสอบวิญญาณของอู่ส่วยและเตรียมวิธีการบางอย่างไว้แล้ว

 

ฟางหยวนยิ้ม “ในกรณีนี้เราก็มาสู้กันเถอะ ข้าจะให้เจ้าเริ่มก่อน”

 

เจิ้งซวงโกรธมากเมื่อได้ยินคํากล่าวของฟางหยวน “ดี อู่ส่วย เจ้าช่างยโสนัก เจ้ากล้าดูถูกข้า ข้าจะแสดงให้เจ้าดู!”

 

เขาโยนหินสิบก้อนออกไปรอบๆ

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะดูดซับพวกมันเข้าไปทันที

 

ต่อมาฝูงมดก็เริ่มโผล่ขึ้นมาจากพื้น

 

เจิ้งซวงใช้วิธีการของเขาจัดการมดเหล่านี้

 

ฟางหยวนตกใจมาก พวกมันไม่ใช่มดธรรมดา พวกมันมีอักขระปรากฏอยู่บนร่างกาย มันคือกองทัพมดในตํานาน?”

 

มนุษย์มังกรไม่ใช่มนุษย์กลายพันธุ์ตามธรรมชาติแต่ถูกสร้างขึ้นโดยฝีมือมนุษย์

 

กองทัพมดและมนุษย์มังกรมีความคล้ายคลึงกัน พวกมันไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติแต่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้อมตะที่ยิ่งใหญ่

 

กองทัพมดประเภทนี้จะถูกใช้โดยผู้ใช้วิญญาณบนเส้นทางแห่งทาส

 

กองทัพมดขนาดเล็กสามารถใช้ในการฝึกฝนขณะที่กองทัพมดขนาดใหญ่สามารถสร้างคลื่นสัตว์อสูรที่ทรงพลัง

 

เจิ้งซวงจับมดสีเหลืองสิบตัวเป็นทาสอย่างรวดเร็ว

 

เป็นเพียงเวลานี้มดชนิดใหม่โผล่ขึ้นมา พวกมันมีขนาดใหญ่กว่ามดก่อนหน้าและมีสีดํา

 

เจิ้งซวงมีความสุขมากและเริ่มปรับแต่งมดดําเหล่านั้น

 

บนร่างกายของมดสีเหลืองมีอักขระคําว่า คนงาน

 

บนร่างกายของมดสีดํามีอักขระคําว่า ทหาร

 

เมื่อเห็นสิ่งนี้ กลุ่มเด็กหนุ่มสาวมนุษย์มังกรเริ่มวิตก เด็กสาวมนุษย์มังกรที่อยู่ด้านข้างฟางหยวนเร่งกล่าว “อู่สวยเริ่มเร็วเข้า หากเราแพ้การต่อสู้ครั้งนี้ เจ้าจะสูญเสียวิญญาณสําคัญของเจ้าอีกฝ่ายไร้ยางอาย เขามีมดงานมากกว่าสิบตัวและมดทหารสามตัวแล้ว”

 

“ไม่มีปัญหา” ฟางหยวนยิ้ม เขานั่งลงและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายเพื่อจัดมด

 

หลังจากไม่กี่ลมหายใจ มดหลายสิบตัวก็รวบตัวกันอยู่ด้านหน้าฟางหยวน

 

ท่ามกลางพวกมันมีทั้งมดงานและมดทหาร

 

กลุ่มเด็กหนุ่มสาวเผ่ามนุษย์อุทานด้วยความตกใจขณะที่กลุ่มเด็กหนุ่มสาวเผ่ามนุษย์มังกรตะโกนให้กําลังใจด้วยความตื่นเต้น

 

เจิ้งซวงมองฟางหยวนด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ใบหน้าของเขากลายเป็นซีดขาวเมื่อเห็นกองทัพมดของฟางหยวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

“ข้าแพ้!” เจิ้งซวงกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “แต่นี่เป็นท่าไม้ตายชนิดใด?”

 

ฟางหยวนไม่รู้ชื่อของท่าไม้ตายนี้ เขาพึ่งสร้างมันขึ้นมาอย่างไม่เป็นทางการ ดังนั้นเขาจึงหลีกเลี่ยงที่จะกล่าวถึง “เมื่อเจ้ายอมรับความพ่ายแพ้ แล้วเดิมพันอยู่ที่ใด?”

 

เจิ้งซวงก่นเสียงเย็น เขาส่งวิญญาณผู้บังคับบัญชาให้ฟางหยวนก่อนจะหันหลังกลับและจากไปทันที

 

เฉินฟูแสดงออกด้วยความเขินอายแต่เขายังทิ้งคํากล่าวเอาไว้ก่อนจากไป “อู่ส่วย ผู้ใดจะคิดว่าเจ้าจะเป็นคนเจ้าเล่ห์ เจ้าลอบเรียนรู้ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งทาสที่ทรงพลัง อย่าได้ใจมากนักเราจะท้าทายเจ้าอีกครั้งอย่างแน่นอน!”

 

“เราชนะ อู่ส่วย เจ้าช่างยอดเยี่ยมนัก!”

 

“สมกับเป็นอู่สวย!”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเขาตลกมาก พวกเจ้าเห็นหรือไม่ว่าใบหน้าของเจิ้งซวงกับเฉินฟูน่าเกลียดเพียงใด”

 

ฟางหยวนยิ้ม เขากําลังจะตอบสนองเด็กหนุ่มสาวเผ่ามนุษย์มังกร แต่ในจังหวะนี้การแสดงออกของเด็กหนุ่มสาวเหล่านี้กลับเปลี่ยนเป็นแข็งค้างเมื่อพวกเขาเห็นบางคนยืนอยู่ด้านหลังฟางหยวน

 

“ท่านพ่อ…” บางคนแจ้งเตือนเบาๆ

ฟางหยวนหันหลังกลับและเห็นผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรยืนอยู่ด้วยใบหน้ามืดครื้ม

 

ฟางหยวนตกตะลึงราชันมังกร?”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1827 ควมคุมมด

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1827 ควมคุมมด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1827 ควมคุมมด

 

การเปลี่ยนอาณาจักรแห่งความฝันเป็นกายาแห่งความฝันดึงดูดความสนใจของแม่ทัพมังกรทั้ง

 

หากเขาเป็นผู้อมตะเผ่ามนุษย์ แม่ทัพมังกรทั้งสี่จะโจมตีเขาทันที แต่ร่างแยกมนุษย์มังกรของฟางหยวนเป็นมนุษย์มังกรที่แท้จริงไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือดวงวิญญาณ

 

ดังนั้นแม่ทัพมังกรทั้งสี่จึงเปิดเผยตัวตนของพวกเขาออกมา ฟางหยวนอ้าปากค้างเมื่อได้ยินความลับเรื่องนี้

 

ในชีวิตก่อนหน้า เขาเคยเห็นเพียงไปหนิงปิงควบคุมวังมังกรและตี้จางเฉิงเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งสุดท้ายแต่ไม่เห็นแม่ทัพมังกรทั้งสี่

 

“ดังนั้นผู้อมตะทั้งสี่ก็เป็นทาสของวังมังกร พวกเขาถูกปราบปรามโดยวังมังกรและกลายเป็นแม่ทัพมังกร!”

 

“นี่เป็นแผนการที่ซ่อนไว้ลึกมาก”

 

“ข้าควรลงมือด้วยตนเองหรือไม่?

 

ฟางหยวนมีความคิดมากมายเกิดขึ้นในใจ

 

ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา เขาสามารถจัดการผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ในเวลาเดียวกัน

 

วิธีการที่แข็งแกร่งที่สุดของฟางหยวนในเวลานี้คือวิธีบนเส้นทางแห่งพลังปราณ เพียงร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งพลังปราณอย่างเดียว มันก็เหนือกว่าผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ไปไกลแล้ว

 

“แต่พวกเขาเป็นผู้อมตะระดับแปด แม้ข้าจะสามารถเอาชนะและฆ่าพวกเขา มันก็ยังจะก่อให้เกิดความโหลาหลครั้งใหญ่ ข้าไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว

 

พิจารณาจากสถานการณ์ของราชันมังกร นอกจากผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ วังมังกรก็สามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเอง มันสามารถหลบหนี

 

“หากข้าพยายามต่อสู้ มันอาจจบลงไม่ดีนัก ข้าจะอยู่ในสภาพเดียวกับราชันมังกรในชีวิตก่อนหน้า”

 

ฟางหยวนอนุมานผลลัพธ์ที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด

 

เขามาที่นี่เพื่อยึดครองวังมังกรอย่างลับๆ หากเขาทําให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่และเปิดเผยการบ่มเพาะระดับแปดรวมถึงวิธีการบนเส้นทางแห่งพลังปราณออกไป มันจะส่งผลกระทบต่อแผนการอื่น

 

ฟางหยวนคิดเรื่องนี้และมองไปยังหม้อปรุงโชค

 

มังกรม่วงติดอยู่ในเมฆสีดําแต่มันยังกัดฟันด้วยความตื่นเต้น นอกจากนั้นตอนนี้มันยังมีร่องรอยของปราณสีฟ้าม่วงที่คลุมเครือเกิดขึ้นในกลุ่มเมฆสีดํา

 

ร่องรอยของโชคปราณสีฟ้าม่วงมีความหมายที่ลึกซึ้ง มันแสดงให้เห็นว่าร่างแยกมนุษย์มังกรมีโอกาสเป็นเจ้าของวังมังกร

 

“ร่างแยกมนุษย์มังกรเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดขณะที่แม่ทัพมังกรทั้งสี่เป็นผู้อมตะระดับแปดพวกเขาไม่พบการคงอยู่ของข้า ดังนั้นมันจึงไม่น่าจะเป็นไปได้ที่พวกเขาจะโกหก”

 

“หากร่างแยกมนุษย์มังกรทําตามกฏและสํารวจอาณาจักรแห่งความฝัน หลังจากผ่านการทดสอบข้าจะได้รับวังมังกรรวมถึงผู้ใต้บังคับบัญชาสีผู้อมตะระดับแปด!”

 

“ดูเหมือนวังมังกรจะเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งทาสจริงๆ มันสามารถกดขี่ผู้อมตะระดับแปดสี่คนในเวลาเดียวกัน ช่างอัศจรรย์นัก!”

 

“ตามข้อมูลในชีวิตก่อนหน้า ข้ายังมีเวลาอีกมาก”

 

เมื่อคิดได้เช่นนี้ร่างหลักของฟางหยวนก็ตัดสินใจปล่อยให้ร่างแยกมนุษย์มังกรสํารวจอาณาจักรแห่งความฝัน

 

นี่เป็นวิธีที่มีประโยชน์มากที่สุด

 

ร่างแยกมนุษย์มังกรได้รับคําสั่งจากร่างหลักอย่างลับๆให้นําอาณาจักรแห่งความฝันกลับคืน

 

การกระทํานี้ทําให้การแสดงออกของสี่แม่ทัพมังกรดูเป็นมิตรมากขึ้น

 

ยายหรงกล่าว “ในการทดสอบ ร่างกายและดวงวิญญาณของเจ้าต้องเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน เจ้าต้องเสี่ยงด้วยทุกสิ่งเพื่อที่จะเป็นเจ้าของวังมังกร”

 

การแสดงออกของร่างแยกมนุษย์มังกรเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เมื่อพิจารณาว่าร่างหลักกําลังเฝ้าดูและปกป้องเขาอยู่อย่างลับๆ เขาก็พยักหน้าและเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน

 

เมื่อเขาเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน เขาพบกับความมืด

 

“อู่ส่วย ตื่น ตื่น” คนที่อยู่ด้านข้างร่างแยกมนุษย์มังกรสะกิดเขา

 

ร่างแยกมนุษย์มังกรเปิดเปลือกตาขึ้นและเห็นเด็กสาวมนุษย์มังกรที่น่ารักและไร้เดีย งสากําลังทําหน้าลําบากใจ“เหตุใดเจ้ายังหลับอยู่ที่นี่? ทุกคนกําลังรอเจ้าอยู่ อย่าลืมว่าวันนี้เป็นวันที่เราต้องต่อสู้กับเฉินฟูและเจิ้งซวง”

 

“ดังนั้นข้าก็คืออู่ส่วย อึม ข้าเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสาม” ร่างแยกมนุษย์มังกรตรวจสอบตนเองอย่างรวดเร็ว

 

“เร็วเข้าไปกันเถอะ” เด็กสาวมนุษย์มังกรไม่สามารถอดทนรอและเริ่มลากดึงเขาไปพร้อมกัน

 

พวกเขาวิ่งไปถึงลานประลองของสถานศึกษาในที่สุด

 

คนสองกลุ่มรวมตัวกันอยู่ที่นี่ พวกเขาแยกออกเป็นสองกลุ่มอย่างชัดเจน

 

กลุ่มทางทิศตะวันตกประกอบด้วยผู้ใช้วิญญาณหนุ่มสาวเผ่ามนุษย์ พวกเขามีผู้นําที่ดูเย่อหยิ่ง

 

กลุ่มทางทิศตะวันออกประกอบด้วยผู้ใช้วิญญาณหนุ่มสาวเผ่ามนุษย์มังกรที่ปราศจากผู้นํา พวกเขากําลังถูกกดันจากฝ่ายตรงข้าม

 

เมื่อเห็นฟางหยวนปรากฏตัว กลุ่มมนุษย์มังกรหนุ่มสาวเริ่มตื่นเต้น บางคนส่งเสียงโห่ร้องด้วยความยินดีขณะที่บางคนตําหนิการมาสายของเขา

 

“อู่ส่วย ในที่สุดเจ้าก็มา ข้าคิดว่าเจ้าคงกลัวและไม่กล้ามาที่นี่” หนึ่งในสองผู้นํากลุ่มเด็กหนุ่มสาวเผ่ามนุษย์เย้ยหยัน

 

เด็กสาวมนุษย์มังกรที่พาฟางหยวนมาเร่งโต้ตอบ “อย่ายโสให้มากนัก เฉินฟู ตอนนี้ส่วยอยู่ที่นี่แล้ว เขาจะทุบตีพวกเจ้าทั้งหมด!”

 

“เลิกบ้าได้แล้ว อู่ส่วย มาสู้กัน! ครั้งนี้ข้าจะทําให้แน่ใจว่าข้าจะตอบแทนความอัปยศจากการสูญเสียครั้งก่อน!” ผู้ใช้วิญญาณที่ชื่อเจิ้งซวงก้าวออกมาและต้องการต่อสู้ทันที

 

“รอก่อน” ฟางหยวนยกมือขึ้น เนื่องจากเป็นการต่อสู้เดิมพัน แล้วของเดิมพันอยู่ที่ใด?”

 

เขากล่าวขณะลอบประเมินสถานศึกษาแห่งนี้

 

ลานประลองของที่นี่ไม่ธรรมดาเลย มันอยู่ในค่ายกลวิญญาณอมตะ!

 

นี่หมายความว่าฟางหยวนไม่ได้อยู่ในสถานที่ธรรมดา การคงอยู่ของค่ายกลวิญญาณอมตะมันหมายความว่าที่นี่เป็นอาณาเขตของกองกําลังใหญ่ การสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะไว้ในลานประลองของสถานศึกษาหมายความว่าที่นี่เป็นสถานที่สําคัญมาก

 

พิจารณาจากเสื้อผ้าของทั้งสองฝ่าย เห็นได้ชัดว่าที่นี่คือนิกาย

 

“ชัดเจนว่าของเดิมพันเป็นสิ่งกระตุ้นเด็กเหล่านี้

 

“พวกเขามีการบ่มเพาะระดับสองเป็นอย่างน้อย แม้พวกเขาจะพึ่งบ่มเพาะได้ไม่นาน แต่พรสวรรค์ของพวกเขาสูงมาก”

 

ข้ามีระดับการบ่มเพาะสูงที่สุด เช่นเดียวกับเจิ้งปวงและเฉินฟู พวกเขาเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสามทุกคนเป็นอัจฉริยะวัยเยาว์ ถัดจากข้าคือเด็กสาวมนุษย์มังกรที่อยู่ข้างกายข้า นางมีการบ่มเพาะระดับสองขั้นสุดยอด

 

“อู่สวย อย่าดูถูกข้า ข้านําของเดิมพันมาแล้ว ดูให้ดี!” เฉินฟูกล่าวและหยิบวิญญาณออกมาจากกระเป๋าอย่างระมัดระวัง

 

ฟางหยวนชําเลืองมองและพบว่ามันเป็นวิญญาณผู้บังคับบัญชาระดับห้า

 

ฟางหยวนประหลาดใจเล็กน้อย เขามีวิญญาณอมตะมากมาย เขาไม่สนใจวิญญาณระดับมนุษย์มากนัก แต่วิญญาณผู้บังคับบัญชาดวงนี้แตกต่างออกไป แม้มันจะเป็นวิญญาณระดับมนุษย์แต่มันเป็นวิญญาณบนเส้นทางมนุษย์ที่ส่งผลกระทบบนเส้นทางแห่งทาส มันมีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์แต่มันสูญพันธุ์ไปแล้ว

 

ตามข่าวลือ วิญญาณผู้บังคับบัญชามีความสามารถหลากหลาย มันสามารถใช้งานร่วมกับวิญญาณหลายประเภท

 

ร่างแยกมนุษย์มังกรของฟางหยวนมีระดับความสําเร็จเท่ากับร่างหลัก

 

ร่างหลักของฟางหยวนเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางมนุษย์และผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งทาสร่างแยกมนุษย์มังกรของเขาก็เช่นกัน

 

ความสําเร็จระดับผู้เชี่ยวชาญสามารถใช้สัญชาตญาณ

 

ตอนนี้สัญชาตญาณกําลังเตือนร่างแยกมนุษย์มังกร “ตราบเท่าที่ข้าผ่านฉากนี้ ข้าจะได้รับเคลดลับการหลอมรวมวิญญาณผู้บังคับบัญชา!”

 

“ไม่แปลกใจเลยที่โชคมังกรม่วงของข้าต้องการทดลอง อาณาจักรแห่งความฝันบนเส้นทางแห่งทาสนี้เป็นการเผชิญหน้าโดยบังเอิญครั้งใหญ่ของข้า!”

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ร่างแยกมนุษย์มังกรก็รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น

 

ขณะที่เขาเดินทางมาที่นี่ เขาตรวจสอบวิญญาณของอู่ส่วยและเตรียมวิธีการบางอย่างไว้แล้ว

 

ฟางหยวนยิ้ม “ในกรณีนี้เราก็มาสู้กันเถอะ ข้าจะให้เจ้าเริ่มก่อน”

 

เจิ้งซวงโกรธมากเมื่อได้ยินคํากล่าวของฟางหยวน “ดี อู่ส่วย เจ้าช่างยโสนัก เจ้ากล้าดูถูกข้า ข้าจะแสดงให้เจ้าดู!”

 

เขาโยนหินสิบก้อนออกไปรอบๆ

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะดูดซับพวกมันเข้าไปทันที

 

ต่อมาฝูงมดก็เริ่มโผล่ขึ้นมาจากพื้น

 

เจิ้งซวงใช้วิธีการของเขาจัดการมดเหล่านี้

 

ฟางหยวนตกใจมาก พวกมันไม่ใช่มดธรรมดา พวกมันมีอักขระปรากฏอยู่บนร่างกาย มันคือกองทัพมดในตํานาน?”

 

มนุษย์มังกรไม่ใช่มนุษย์กลายพันธุ์ตามธรรมชาติแต่ถูกสร้างขึ้นโดยฝีมือมนุษย์

 

กองทัพมดและมนุษย์มังกรมีความคล้ายคลึงกัน พวกมันไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติแต่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้อมตะที่ยิ่งใหญ่

 

กองทัพมดประเภทนี้จะถูกใช้โดยผู้ใช้วิญญาณบนเส้นทางแห่งทาส

 

กองทัพมดขนาดเล็กสามารถใช้ในการฝึกฝนขณะที่กองทัพมดขนาดใหญ่สามารถสร้างคลื่นสัตว์อสูรที่ทรงพลัง

 

เจิ้งซวงจับมดสีเหลืองสิบตัวเป็นทาสอย่างรวดเร็ว

 

เป็นเพียงเวลานี้มดชนิดใหม่โผล่ขึ้นมา พวกมันมีขนาดใหญ่กว่ามดก่อนหน้าและมีสีดํา

 

เจิ้งซวงมีความสุขมากและเริ่มปรับแต่งมดดําเหล่านั้น

 

บนร่างกายของมดสีเหลืองมีอักขระคําว่า คนงาน

 

บนร่างกายของมดสีดํามีอักขระคําว่า ทหาร

 

เมื่อเห็นสิ่งนี้ กลุ่มเด็กหนุ่มสาวมนุษย์มังกรเริ่มวิตก เด็กสาวมนุษย์มังกรที่อยู่ด้านข้างฟางหยวนเร่งกล่าว “อู่สวยเริ่มเร็วเข้า หากเราแพ้การต่อสู้ครั้งนี้ เจ้าจะสูญเสียวิญญาณสําคัญของเจ้าอีกฝ่ายไร้ยางอาย เขามีมดงานมากกว่าสิบตัวและมดทหารสามตัวแล้ว”

 

“ไม่มีปัญหา” ฟางหยวนยิ้ม เขานั่งลงและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายเพื่อจัดมด

 

หลังจากไม่กี่ลมหายใจ มดหลายสิบตัวก็รวบตัวกันอยู่ด้านหน้าฟางหยวน

 

ท่ามกลางพวกมันมีทั้งมดงานและมดทหาร

 

กลุ่มเด็กหนุ่มสาวเผ่ามนุษย์อุทานด้วยความตกใจขณะที่กลุ่มเด็กหนุ่มสาวเผ่ามนุษย์มังกรตะโกนให้กําลังใจด้วยความตื่นเต้น

 

เจิ้งซวงมองฟางหยวนด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ใบหน้าของเขากลายเป็นซีดขาวเมื่อเห็นกองทัพมดของฟางหยวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

“ข้าแพ้!” เจิ้งซวงกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “แต่นี่เป็นท่าไม้ตายชนิดใด?”

 

ฟางหยวนไม่รู้ชื่อของท่าไม้ตายนี้ เขาพึ่งสร้างมันขึ้นมาอย่างไม่เป็นทางการ ดังนั้นเขาจึงหลีกเลี่ยงที่จะกล่าวถึง “เมื่อเจ้ายอมรับความพ่ายแพ้ แล้วเดิมพันอยู่ที่ใด?”

 

เจิ้งซวงก่นเสียงเย็น เขาส่งวิญญาณผู้บังคับบัญชาให้ฟางหยวนก่อนจะหันหลังกลับและจากไปทันที

 

เฉินฟูแสดงออกด้วยความเขินอายแต่เขายังทิ้งคํากล่าวเอาไว้ก่อนจากไป “อู่ส่วย ผู้ใดจะคิดว่าเจ้าจะเป็นคนเจ้าเล่ห์ เจ้าลอบเรียนรู้ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งทาสที่ทรงพลัง อย่าได้ใจมากนักเราจะท้าทายเจ้าอีกครั้งอย่างแน่นอน!”

 

“เราชนะ อู่ส่วย เจ้าช่างยอดเยี่ยมนัก!”

 

“สมกับเป็นอู่สวย!”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเขาตลกมาก พวกเจ้าเห็นหรือไม่ว่าใบหน้าของเจิ้งซวงกับเฉินฟูน่าเกลียดเพียงใด”

 

ฟางหยวนยิ้ม เขากําลังจะตอบสนองเด็กหนุ่มสาวเผ่ามนุษย์มังกร แต่ในจังหวะนี้การแสดงออกของเด็กหนุ่มสาวเหล่านี้กลับเปลี่ยนเป็นแข็งค้างเมื่อพวกเขาเห็นบางคนยืนอยู่ด้านหลังฟางหยวน

 

“ท่านพ่อ…” บางคนแจ้งเตือนเบาๆ

ฟางหยวนหันหลังกลับและเห็นผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรยืนอยู่ด้วยใบหน้ามืดครื้ม

 

ฟางหยวนตกตะลึงราชันมังกร?”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+