Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1840 กําเนิดวังมังกร

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1840 กําเนิดวังมังกร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1840 กําเนิดวังมังกร

 

อู๋ส่วยเป็นคนฉลาดและเด็ดเดี่ยว เขามองการณ์ไกลและมีบุคลิกที่แข็งกร้าว เขาไม่อ่อนแอเหมือนผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรส่วนใหญ่ เขารวบรวมทรัพยากรอย่างลับๆเพื่อแผนการสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด

 

แต่ช่วงเวลาดีๆมักอยู่ไม่นาน เมื่อเผ่ามนุษย์มังกรแข็งแกร่งขึ้น เผ่ามนุษย์ก็ยิ่งต่อต้านพวกเขามากขึ้น ในความเป็นจริงกระทั่งอู่ส่วยก็ยังต้องยอมรับว่าเหตุผลส่วนใหญ่มาจาการแย่งชิงผลประโยชน์ระหว่างเผ่ามนุษย์มังกรกับเผ่ามนุษย์

 

แต่การคงอยู่ของราชันมังกรทําให้ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ไม่กล้าสร้างปัญหาให้พวกเขามากนัก

 

ในวันเกิดของราชันมังกรมีการเฉลิมฉลองครั้งใหญ่

 

ตัวอักษรคําว่าอายุยืนถูกเขียนไว้ในวังหลังใหญ่ของราชันมังกรอย่างเด่นชัด

 

ราชันมังกรนั่งอยู่บนที่นั่งหลักและรายล้อมไปด้วยบุตรหลานเผ่ามนุษย์มังกร

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรเดินเข้าไปมอบของขวัญทีละคน

 

“ท่านพ่อ ขอให้ท่านอายุยืนหมื่นปี” ผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรผู้หนึ่งมอบดอกไม้หยกให้กับราชันมังกร

 

“ท่านพ่อ ข้าขอให้ท่าน…” พ่อของอู๋ส่วยมาที่นี่เช่นกัน

 

ราชันมังกรพยักหน้าด้วยการแสดงออกที่เคร่งขรึม เขาสั่งให้คนรับใช้รับของขวัญทั้งหมด

 

หลังจากบุตรก็เป็นหลาน

 

การแสดงออกของราชันมังกรอ่อนโยนมากขึ้นและเผยรอยยิ้มอบอุ่นมากขึ้น

 

“ท่านปู่ ข้ามาที่นี่เพื่ออวยพรวันเกิดท่าน! ขอให้ท่านอายุยืนยาวดั่งทะเลตะวันออกและเอก เขาของภาคใต้ นี่คือสัตว์อสูรที่ข้าล่ามาด้วยตนเอง ข้าหวังว่าท่านปู่จะชอบมัน” มนุษย์มังกรหนุ่ม คุกเข่าลงบนพื้นและส่งจานที่วางไว้ด้วยม้าน้ําให้กับราชันมังกร

 

“นี่คือม้าน้ําแห่งความสุข มันรวดเร็วและยากที่จะจับ”

 

“นายน้อยเจ็ดเป็นผู้อมตะระดับหก มันยากมากสําหรับเขาที่จะฆ่ามัน แต่ผู้ใดจะคิดว่าเขาจะสามารถจับมันทั้งเป็น!”

 

“ข้าได้ยินมาว่าเพื่อจับม้าน้ําแห่งความสุข นายน้อยเจ็ดใช้เวลาหนึ่งเดือนอยู่ที่ก้นทะเลโดยไม่เคลื่อนไหว ความกตัญญูของเขาช่างน่าประทับใจนัก”

 

ผู้คนที่อยู่รอบๆพูดคุยกัน ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หลายคนเข้าร่วมในงานเลี้ยงครั้งนี้เช่นกัน

 

นายน้อยเจ็ดเป็นหลานชายคนโปรดของราชันมังกร เขายิ้มและรับม้าน้ําแห่งความสุขเอาไว้ และกล่าว “ดี ดี ดี ข้ามีความสุขมาก”

 

แต่เมื่อถึงคราวของอู่ส่วย ราชันมังกรกลับหุบยิ้ม “ในสถานการณ์ปัจจุบัน เจ้าคือหลานชายที่ประสบความสําเร็จมากที่สุดของข้า แต่จําไว้ว่าการไปไกลเกินไปอาจส่งผลเสีย”

 

“ทราบแล้ว” อู๋ส่วยเดินออกไปด้วยความเคารพ

 

คืนนั้นราชันมังกรเรียกอู่ส่วยไปพบที่ห้องทํางานของเขา

 

“คืนเกาะดอกไม้แดนใต้ให้พวกเขา” ราชันมังกรกล่าวอย่างตรงไปตรงมา

 

อู๋ส่วยตกใจเล็กน้อย เขาฝืนยิ้ม “ท่านปู่ ท่านอาจไม่รู้ ข้าได้รับเกาะนี้เป็นรางวัล ข้าวางแผนที่จะทําให้มันเป็นบ้านของเผ่ามนุษย์มังกร”

 

ราชันมังกรแสดงออกอย่างเคร่งขรึม “อู๋ส่วย อย่าคิดว่าไม่มีผู้ใดสามารถมองเห็นอุบายเล็กๆ ของเจ้า เกาะดอกไม้แดนใต้เป็นของนิกายเมฆาวายุ แต่เจ้าคว้ามันมาด้วยแผนการบางอย่างเจ้า พยายามทําสิ่งใด? นํากลุ่มมนุษย์มังกรของเจ้าอย่างถูกต้อง มันไม่ดีงั้นหรือที่จะอยู่ในนิกาย? เหตุใดเจ้าต้องย้ายไปอยู่ที่เกาะดอกไม้แดนใต้? บอกข้า เจ้าต้องการสิ่งใด?”

 

อู๋สวยกลั้นหายใจ หลังจากชั่วครู่เขาก็เปิดปากตอบ “ท่านปู่ ข้าไม่ได้มีความทะเยอทะยานมากมายนัก ข้าเพียงต้องการให้คนของข้ามีชีวิตที่ดีขึ้น”

 

“ชีวิตที่ดีขึ้นงั้นหรือ? นั่นเป็นความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่!” ราชันมังกรขึ้นเสียง

 

อู๋ส่วยยอมรับ “ท่านปู่ ต่อให้นี่เป็นความทะเยอทะยาน แล้วอย่างไร? เราไม่มีสิทธิที่จะทะเยอทะยานเช่นนั้นหรือ? เราไม่มีสิทธิที่จะต่อสู้เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นงั้นหรือ?”

 

“เหตุใดเราต้องอยู่ที่นี่? ท่านปู่ ท่านไม่รู้หรือว่าผู้อมตะเผ่ามนุษย์เหล่านั้นข่มเหงและเอาเปรียบพวกเราอย่างไร?”

 

“ข่มเหงงั้นหรือ? เอาเปรียบงั้นหรือ? ตลอดหลายปีที่ผ่านมาข้าได้ยินแต่การกระทําของเจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าจึงโปรดปรานเจ้าเจ็ดมากที่สุด? เพราะเขาเห็นความงามของโลกใบนี้ เขาเป็นคนใจดีจากส่วนลึกของหัวใจ เขาไม่เคยคิดเรื่องความแตกต่างระหว่างมนุษย์กับมนุษย์มังกร แต่เจ้า? เจ้าใช้ชื่อของข้าทําชั่วไปทั่ว เจ้าแย่งอาณาเขตของผู้คนและฉกชิงผลประโยชน์ของนิกายเพื่อตนเอง หยุดการกระทําทั้งหมดโดยเร็วที่สุด!” ราชันมังกรตะคอกเสียงเย็น

 

“ท่านปู่ หากผู้อมตะเผ่ามนุษย์ไม่ปฏิบัติต่อเราเช่นนี้ เหตุใดพวกเราถึงต้องทําเรื่องเหล่านี้?”

 

“มนุษย์อันใด? มนุษย์มังกรอันใด? มนุษย์กับมนุษย์มังกรแตกต่างกันอย่างไร?” ราชันมังกรตําหนิ

 

“หากไม่มีความแตกต่างระหว่างเผ่าพันธุ์ แล้วเขาบนศีรษะของข้าคือสิ่งใด? หางด้านหลังของข้าหมายความว่าอย่างไร?” อู๋ส่วยกล่าวด้วยความโกรธ “ท่านปู่ ท่านเป็นมนุษย์ที่กลายเป็นมนุษย์มังกร ชีวิตส่วนใหญ่ของท่านถูกใช้ไปในฐานะมนุษย์ ท่านเป็นมนุษย์มังกรเพียงช่วงเวลาสั้นๆ!”

 

“แต่พวกเรา?”

 

“ท่านปู่ ท่านเคยคิดเกี่ยวกับพวกเราบ้างหรือไม่? พวกเราเกิดมาเป็นมนุษย์มังกร พวกเราเกิดมาพร้อมกับเขาบนศีรษะและหางบนหลัง!”

 

“พ่อแม่และผู้อาวุโสทุกคนบอกข้าตั้งแต่ยังเด็กว่าพวกเรามีต้นกําเนิดมาจากมนุษย์ แต่เมื่อข้ายังเด็ก เด็กรอบตัวข้าต่างล้อเลียนข้าเพราะรูปร่างหน้าตาของข้า พวกเขาทําตัวเหินห่างจากข้า พวกเขาดึงหางและกลั่นแกล้งข้า ทั้งหมดนี้บอกข้าว่าข้าไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเผ่าพันธุ์มนุษย์!”

 

“เมื่อข้าโตขึ้น ข้าก็ตระหนักว่าไม่ใช่เพียงแค่เด็กๆ แต่มนุษย์ผู้ใหญ่ก็ปฏิบัติต่อพวกเราแตกต่างออกไปเช่นกัน พวกเขาเพียงใช้วิธีที่ละเอียดอ่อนมากขึ้นเท่านั้น”

 

“หากข้าล้มเหลว พวกเขาจะบอกว่ามันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์มังกรที่จะพ่ายแพ้ต่อมนุษย์ หากข้าประสบความสําเร็จ พวกเขาจะกล่าวว่ามนุษย์มังกรสามารถมาถึงขั้นนี้ได้อย่างไร เขาใช้แผนการหรืออุบายใด”

 

“มนุษย์เหล่านั้นมักคิดว่าพวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุด พวกเขาดูถูกมนุษย์มังกรว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่ด้อยกว่า พวกเขากล้าดีอย่างไร!”

 

“มนุษย์มังกรไม่ด้อยกว่าพวกเขา พวกเราเกิดมาพร้อมกับร่างกายและร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งทาสที่เหนือกว่ามนุษย์เหล่านั้น หากผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์ไม่ใช้วิญญาณ การการต่อสู้ด้วยร่างกายของพวกเขาจะไม่สามารถทําร้ายร่างกายของพวกเรา สิ่งที่พิเศษกว่านั้นก็คืออายุขัยของพวกเรายืนยาวมากกว่าพวกเขา มนุษย์เหล่านั้นมีอายุขัยสั้นกว่าพวกเรามาก”

 

“ผู้อมตะเผ่ามนุษย์มากมายเปลี่ยนตนเองเป็นมนุษย์มังกรเพราะพวกเขาต้องการยืดอายุขัย เห็นได้ชัดว่าพวกเขาละทิ้งความเป็นมนุษย์ของตนเองแต่พวกเขากลับดูถูกเผ่ามนุษย์มังกร นี่เป็นความคิดที่ผิด!”

 

“พอแล้ว!” ราชันมังกรทุบโต๊ะด้วยใบหน้ามืดครื้ม

 

“ไม่!” เสียงของอู่ส่วยสงบลงแต่เขายังมองราชันมังกรอย่างกล้าหาญ “ท่านปู่ ท่านคือผู้สร้างวิธียืดอายุขัยโดยการเปลี่ยนเป็นมนุษย์มังกร หากไม่มีท่าน เผ่ามนุษย์มังกรจะเกิดขึ้นได้อย่างไร? ท่านคือบรรพบุรุษของเผ่ามนุษย์มังกร เหตุใดท่านต้องเข้าข้างมนุษย์เหล่านั้นตลอดเวลา? เราคือ ครอบครัวของท่าน! ข้าจะไม่คืนเกาะดอกไม้แดนใต้แม้ข้าต้องตาย ท่านปู่ หากท่านยืนยันเช่นนั้น ท่านต้องจบชีวิตของข้าเป็นอันดับแรก”

 

หลังกล่าวจบคํา อู๋ส่วยก็หันหลังและเดินจากไป

 

ราชันมังกรไม่ได้หยุดอู่ส่วย เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน

 

“เห้อ…บุตรหลานของข้าโตแล้ว พวกเขามีความทะเยอทะยานของตนเอง”

 

“แต่พวกเขาไม่เคยใส่ใจภาพรวมของมนุษยชาติ”

 

“ข้าประมาทเกินไปหรือไม่? คลื่นมนุษย์มังกรก่อตัวขึ้นแล้วโดยมีข้าเป็นคนเปิดประตูกั้นน้ํา?”

 

อู๋ส่วยได้รับเกาะดอกไม้แดนใต้ นั่นทําให้นิกายเมฆาวายุไปหาราชันมังกรเพื่อขอให้เขานําเกาะดอกไม้แดนใต้กลับมาให้นิกายเมฆาวายุ แต่อู๋ส่วยไม่ฟังคําสั่งของราชันมังกรและยังยืนกรานเที่จะทําตามความตั้งใจของเขา

 

นิกายเมฆาวายุไม่ยอมแพ้ พวกเขาใช้ทุกวิธีเพื่อปราบปรามอู๋ส่วย

 

อู๋ส่วยจัดการกับพวกเขาและรักษาเสถียรภาพอย่างยากลําบาก ขณะที่ราชันมังกรไม่ทําสิ่งใด เขาไม่ช่วยหลานชายของเขาแม้แต่น้อย มีเพียงผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรบางส่วนที่ลอบช่วยเหลือเขาอย่างลับๆ

 

เนื่องจากความช่วยเหลือของผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรและการคงอยู่ของราชันมังกร นิกายเมฆาวายุจึงไม่สามารถแสดงท่าที่ก้าวร้าวมากเกินไป ส่วยประสบความสําเร็จในการย้ายผู้คนของเขาไปอาศัยอยู่ที่เกาะดอกไม้แดนใต้

 

แต่เรื่องเกาะดอกไม้แดนใต้ยังไม่จบเพียงเท่านี้

 

แม้มันจะผ่านไปนับร้อยปี นิกายเมฆาวายุก็ยังไม่ยอมแพ้ พวกเขายังพยายามทวงคืนเกาะดอกไม้แดนใต้อยู่เสมอ

 

อู๋ส่วยจัดการปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร้ที่ติ นิกายเมฆาวายุไม่ประสบความสําเร็จ

 

“หลังจากร้อยปี ในที่สุดแผนการของข้าก็บรรลุผล!” อู๋ส่วยมองคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่อยู่ด้านหน้าอย่างมีความสุข

 

ย้อนกลับไปเขาคว้าเกาะดอกไม้แดนใต้มาเพราะต้องการสถานที่ลับเพื่อสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะ

 

พ่อของอู๋ส่วยยืนอยู่ด้านข้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “เจ้าประสบความสําเร็จจริงๆ! บุตรของข้า เจ้ายอดเยี่ยมกว่าข้ามาก!”

 

“แม้นิกายต่างๆจะปราบปรามและพยายามแย่งชิงเกาะดอกไม้แดนใต้ของข้ามาตลอดหลายปี แต่ข้าก็พบการเผชิญหน้าโดยบังเอิญหลายครั้ง ข้าได้รับทรัพยากรมากมาย ในเวลาเดียวกัน ด้วยความช่วยเหลือจากผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรตลอดหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา ในที่สุดคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเจ็ดหลังนี้ก็ถูกสร้างขึ้น” อู๋ส่วยยิ้ม “ให้เวลาข้าอีกสองสามร้อยปี ข้าอาจทําให้มันกลายเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด!”

 

“มันมีชื่อหรือไม่?” พ่อของอู๋ส่วยถาม

 

“ในฐานะผู้สร้าง ข้าจะตั้งชื่อมันว่า…วังมังกร!” ดวงตาของอู๋ส่วยส่องประกายขึ้น

 

“วังมังกร?” การแสดงออกของพ่ออู่ส่วยเปลี่ยนแปลงไป “นี่อาจไม่เหมาะสม?”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า เหตุใดจึงไม่เหมาะสม? มันสามารถเปรียบเทียบกับวังสวรรค์!” อู๋ส่วยหัวเราะ

 

“บุตรของข้า เจ้าควรพิจารณามันใหม่ ในสายตาของมนุษย์ วังมังกรอาจเป็นสัญญาณของการก่อกบฏ”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า” อู๋ส่วยหัวเราะเสียงเย็น “พวกเขาสามารถคิดสิ่งที่พวกเขาต้องการ”

 

“อย่ากล่าวเช่นนั้น มนุษย์ยังเป็นผู้ปกครองโลกใบนี้”

 

“ท่านพ่อ” อู๋สวยยกมือขึ้น “อย่าพูดอีกเลย ข้าตัดสินใจแล้ว นี่คือคฤหาสน์วิญญาณอมระวังมังกร!”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1840 กําเนิดวังมังกร

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1840 กําเนิดวังมังกร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1840 กําเนิดวังมังกร

 

อู๋ส่วยเป็นคนฉลาดและเด็ดเดี่ยว เขามองการณ์ไกลและมีบุคลิกที่แข็งกร้าว เขาไม่อ่อนแอเหมือนผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรส่วนใหญ่ เขารวบรวมทรัพยากรอย่างลับๆเพื่อแผนการสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด

 

แต่ช่วงเวลาดีๆมักอยู่ไม่นาน เมื่อเผ่ามนุษย์มังกรแข็งแกร่งขึ้น เผ่ามนุษย์ก็ยิ่งต่อต้านพวกเขามากขึ้น ในความเป็นจริงกระทั่งอู่ส่วยก็ยังต้องยอมรับว่าเหตุผลส่วนใหญ่มาจาการแย่งชิงผลประโยชน์ระหว่างเผ่ามนุษย์มังกรกับเผ่ามนุษย์

 

แต่การคงอยู่ของราชันมังกรทําให้ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ไม่กล้าสร้างปัญหาให้พวกเขามากนัก

 

ในวันเกิดของราชันมังกรมีการเฉลิมฉลองครั้งใหญ่

 

ตัวอักษรคําว่าอายุยืนถูกเขียนไว้ในวังหลังใหญ่ของราชันมังกรอย่างเด่นชัด

 

ราชันมังกรนั่งอยู่บนที่นั่งหลักและรายล้อมไปด้วยบุตรหลานเผ่ามนุษย์มังกร

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรเดินเข้าไปมอบของขวัญทีละคน

 

“ท่านพ่อ ขอให้ท่านอายุยืนหมื่นปี” ผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรผู้หนึ่งมอบดอกไม้หยกให้กับราชันมังกร

 

“ท่านพ่อ ข้าขอให้ท่าน…” พ่อของอู๋ส่วยมาที่นี่เช่นกัน

 

ราชันมังกรพยักหน้าด้วยการแสดงออกที่เคร่งขรึม เขาสั่งให้คนรับใช้รับของขวัญทั้งหมด

 

หลังจากบุตรก็เป็นหลาน

 

การแสดงออกของราชันมังกรอ่อนโยนมากขึ้นและเผยรอยยิ้มอบอุ่นมากขึ้น

 

“ท่านปู่ ข้ามาที่นี่เพื่ออวยพรวันเกิดท่าน! ขอให้ท่านอายุยืนยาวดั่งทะเลตะวันออกและเอก เขาของภาคใต้ นี่คือสัตว์อสูรที่ข้าล่ามาด้วยตนเอง ข้าหวังว่าท่านปู่จะชอบมัน” มนุษย์มังกรหนุ่ม คุกเข่าลงบนพื้นและส่งจานที่วางไว้ด้วยม้าน้ําให้กับราชันมังกร

 

“นี่คือม้าน้ําแห่งความสุข มันรวดเร็วและยากที่จะจับ”

 

“นายน้อยเจ็ดเป็นผู้อมตะระดับหก มันยากมากสําหรับเขาที่จะฆ่ามัน แต่ผู้ใดจะคิดว่าเขาจะสามารถจับมันทั้งเป็น!”

 

“ข้าได้ยินมาว่าเพื่อจับม้าน้ําแห่งความสุข นายน้อยเจ็ดใช้เวลาหนึ่งเดือนอยู่ที่ก้นทะเลโดยไม่เคลื่อนไหว ความกตัญญูของเขาช่างน่าประทับใจนัก”

 

ผู้คนที่อยู่รอบๆพูดคุยกัน ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หลายคนเข้าร่วมในงานเลี้ยงครั้งนี้เช่นกัน

 

นายน้อยเจ็ดเป็นหลานชายคนโปรดของราชันมังกร เขายิ้มและรับม้าน้ําแห่งความสุขเอาไว้ และกล่าว “ดี ดี ดี ข้ามีความสุขมาก”

 

แต่เมื่อถึงคราวของอู่ส่วย ราชันมังกรกลับหุบยิ้ม “ในสถานการณ์ปัจจุบัน เจ้าคือหลานชายที่ประสบความสําเร็จมากที่สุดของข้า แต่จําไว้ว่าการไปไกลเกินไปอาจส่งผลเสีย”

 

“ทราบแล้ว” อู๋ส่วยเดินออกไปด้วยความเคารพ

 

คืนนั้นราชันมังกรเรียกอู่ส่วยไปพบที่ห้องทํางานของเขา

 

“คืนเกาะดอกไม้แดนใต้ให้พวกเขา” ราชันมังกรกล่าวอย่างตรงไปตรงมา

 

อู๋ส่วยตกใจเล็กน้อย เขาฝืนยิ้ม “ท่านปู่ ท่านอาจไม่รู้ ข้าได้รับเกาะนี้เป็นรางวัล ข้าวางแผนที่จะทําให้มันเป็นบ้านของเผ่ามนุษย์มังกร”

 

ราชันมังกรแสดงออกอย่างเคร่งขรึม “อู๋ส่วย อย่าคิดว่าไม่มีผู้ใดสามารถมองเห็นอุบายเล็กๆ ของเจ้า เกาะดอกไม้แดนใต้เป็นของนิกายเมฆาวายุ แต่เจ้าคว้ามันมาด้วยแผนการบางอย่างเจ้า พยายามทําสิ่งใด? นํากลุ่มมนุษย์มังกรของเจ้าอย่างถูกต้อง มันไม่ดีงั้นหรือที่จะอยู่ในนิกาย? เหตุใดเจ้าต้องย้ายไปอยู่ที่เกาะดอกไม้แดนใต้? บอกข้า เจ้าต้องการสิ่งใด?”

 

อู๋สวยกลั้นหายใจ หลังจากชั่วครู่เขาก็เปิดปากตอบ “ท่านปู่ ข้าไม่ได้มีความทะเยอทะยานมากมายนัก ข้าเพียงต้องการให้คนของข้ามีชีวิตที่ดีขึ้น”

 

“ชีวิตที่ดีขึ้นงั้นหรือ? นั่นเป็นความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่!” ราชันมังกรขึ้นเสียง

 

อู๋ส่วยยอมรับ “ท่านปู่ ต่อให้นี่เป็นความทะเยอทะยาน แล้วอย่างไร? เราไม่มีสิทธิที่จะทะเยอทะยานเช่นนั้นหรือ? เราไม่มีสิทธิที่จะต่อสู้เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นงั้นหรือ?”

 

“เหตุใดเราต้องอยู่ที่นี่? ท่านปู่ ท่านไม่รู้หรือว่าผู้อมตะเผ่ามนุษย์เหล่านั้นข่มเหงและเอาเปรียบพวกเราอย่างไร?”

 

“ข่มเหงงั้นหรือ? เอาเปรียบงั้นหรือ? ตลอดหลายปีที่ผ่านมาข้าได้ยินแต่การกระทําของเจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าจึงโปรดปรานเจ้าเจ็ดมากที่สุด? เพราะเขาเห็นความงามของโลกใบนี้ เขาเป็นคนใจดีจากส่วนลึกของหัวใจ เขาไม่เคยคิดเรื่องความแตกต่างระหว่างมนุษย์กับมนุษย์มังกร แต่เจ้า? เจ้าใช้ชื่อของข้าทําชั่วไปทั่ว เจ้าแย่งอาณาเขตของผู้คนและฉกชิงผลประโยชน์ของนิกายเพื่อตนเอง หยุดการกระทําทั้งหมดโดยเร็วที่สุด!” ราชันมังกรตะคอกเสียงเย็น

 

“ท่านปู่ หากผู้อมตะเผ่ามนุษย์ไม่ปฏิบัติต่อเราเช่นนี้ เหตุใดพวกเราถึงต้องทําเรื่องเหล่านี้?”

 

“มนุษย์อันใด? มนุษย์มังกรอันใด? มนุษย์กับมนุษย์มังกรแตกต่างกันอย่างไร?” ราชันมังกรตําหนิ

 

“หากไม่มีความแตกต่างระหว่างเผ่าพันธุ์ แล้วเขาบนศีรษะของข้าคือสิ่งใด? หางด้านหลังของข้าหมายความว่าอย่างไร?” อู๋ส่วยกล่าวด้วยความโกรธ “ท่านปู่ ท่านเป็นมนุษย์ที่กลายเป็นมนุษย์มังกร ชีวิตส่วนใหญ่ของท่านถูกใช้ไปในฐานะมนุษย์ ท่านเป็นมนุษย์มังกรเพียงช่วงเวลาสั้นๆ!”

 

“แต่พวกเรา?”

 

“ท่านปู่ ท่านเคยคิดเกี่ยวกับพวกเราบ้างหรือไม่? พวกเราเกิดมาเป็นมนุษย์มังกร พวกเราเกิดมาพร้อมกับเขาบนศีรษะและหางบนหลัง!”

 

“พ่อแม่และผู้อาวุโสทุกคนบอกข้าตั้งแต่ยังเด็กว่าพวกเรามีต้นกําเนิดมาจากมนุษย์ แต่เมื่อข้ายังเด็ก เด็กรอบตัวข้าต่างล้อเลียนข้าเพราะรูปร่างหน้าตาของข้า พวกเขาทําตัวเหินห่างจากข้า พวกเขาดึงหางและกลั่นแกล้งข้า ทั้งหมดนี้บอกข้าว่าข้าไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเผ่าพันธุ์มนุษย์!”

 

“เมื่อข้าโตขึ้น ข้าก็ตระหนักว่าไม่ใช่เพียงแค่เด็กๆ แต่มนุษย์ผู้ใหญ่ก็ปฏิบัติต่อพวกเราแตกต่างออกไปเช่นกัน พวกเขาเพียงใช้วิธีที่ละเอียดอ่อนมากขึ้นเท่านั้น”

 

“หากข้าล้มเหลว พวกเขาจะบอกว่ามันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์มังกรที่จะพ่ายแพ้ต่อมนุษย์ หากข้าประสบความสําเร็จ พวกเขาจะกล่าวว่ามนุษย์มังกรสามารถมาถึงขั้นนี้ได้อย่างไร เขาใช้แผนการหรืออุบายใด”

 

“มนุษย์เหล่านั้นมักคิดว่าพวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุด พวกเขาดูถูกมนุษย์มังกรว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่ด้อยกว่า พวกเขากล้าดีอย่างไร!”

 

“มนุษย์มังกรไม่ด้อยกว่าพวกเขา พวกเราเกิดมาพร้อมกับร่างกายและร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งทาสที่เหนือกว่ามนุษย์เหล่านั้น หากผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์ไม่ใช้วิญญาณ การการต่อสู้ด้วยร่างกายของพวกเขาจะไม่สามารถทําร้ายร่างกายของพวกเรา สิ่งที่พิเศษกว่านั้นก็คืออายุขัยของพวกเรายืนยาวมากกว่าพวกเขา มนุษย์เหล่านั้นมีอายุขัยสั้นกว่าพวกเรามาก”

 

“ผู้อมตะเผ่ามนุษย์มากมายเปลี่ยนตนเองเป็นมนุษย์มังกรเพราะพวกเขาต้องการยืดอายุขัย เห็นได้ชัดว่าพวกเขาละทิ้งความเป็นมนุษย์ของตนเองแต่พวกเขากลับดูถูกเผ่ามนุษย์มังกร นี่เป็นความคิดที่ผิด!”

 

“พอแล้ว!” ราชันมังกรทุบโต๊ะด้วยใบหน้ามืดครื้ม

 

“ไม่!” เสียงของอู่ส่วยสงบลงแต่เขายังมองราชันมังกรอย่างกล้าหาญ “ท่านปู่ ท่านคือผู้สร้างวิธียืดอายุขัยโดยการเปลี่ยนเป็นมนุษย์มังกร หากไม่มีท่าน เผ่ามนุษย์มังกรจะเกิดขึ้นได้อย่างไร? ท่านคือบรรพบุรุษของเผ่ามนุษย์มังกร เหตุใดท่านต้องเข้าข้างมนุษย์เหล่านั้นตลอดเวลา? เราคือ ครอบครัวของท่าน! ข้าจะไม่คืนเกาะดอกไม้แดนใต้แม้ข้าต้องตาย ท่านปู่ หากท่านยืนยันเช่นนั้น ท่านต้องจบชีวิตของข้าเป็นอันดับแรก”

 

หลังกล่าวจบคํา อู๋ส่วยก็หันหลังและเดินจากไป

 

ราชันมังกรไม่ได้หยุดอู่ส่วย เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน

 

“เห้อ…บุตรหลานของข้าโตแล้ว พวกเขามีความทะเยอทะยานของตนเอง”

 

“แต่พวกเขาไม่เคยใส่ใจภาพรวมของมนุษยชาติ”

 

“ข้าประมาทเกินไปหรือไม่? คลื่นมนุษย์มังกรก่อตัวขึ้นแล้วโดยมีข้าเป็นคนเปิดประตูกั้นน้ํา?”

 

อู๋ส่วยได้รับเกาะดอกไม้แดนใต้ นั่นทําให้นิกายเมฆาวายุไปหาราชันมังกรเพื่อขอให้เขานําเกาะดอกไม้แดนใต้กลับมาให้นิกายเมฆาวายุ แต่อู๋ส่วยไม่ฟังคําสั่งของราชันมังกรและยังยืนกรานเที่จะทําตามความตั้งใจของเขา

 

นิกายเมฆาวายุไม่ยอมแพ้ พวกเขาใช้ทุกวิธีเพื่อปราบปรามอู๋ส่วย

 

อู๋ส่วยจัดการกับพวกเขาและรักษาเสถียรภาพอย่างยากลําบาก ขณะที่ราชันมังกรไม่ทําสิ่งใด เขาไม่ช่วยหลานชายของเขาแม้แต่น้อย มีเพียงผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรบางส่วนที่ลอบช่วยเหลือเขาอย่างลับๆ

 

เนื่องจากความช่วยเหลือของผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรและการคงอยู่ของราชันมังกร นิกายเมฆาวายุจึงไม่สามารถแสดงท่าที่ก้าวร้าวมากเกินไป ส่วยประสบความสําเร็จในการย้ายผู้คนของเขาไปอาศัยอยู่ที่เกาะดอกไม้แดนใต้

 

แต่เรื่องเกาะดอกไม้แดนใต้ยังไม่จบเพียงเท่านี้

 

แม้มันจะผ่านไปนับร้อยปี นิกายเมฆาวายุก็ยังไม่ยอมแพ้ พวกเขายังพยายามทวงคืนเกาะดอกไม้แดนใต้อยู่เสมอ

 

อู๋ส่วยจัดการปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร้ที่ติ นิกายเมฆาวายุไม่ประสบความสําเร็จ

 

“หลังจากร้อยปี ในที่สุดแผนการของข้าก็บรรลุผล!” อู๋ส่วยมองคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่อยู่ด้านหน้าอย่างมีความสุข

 

ย้อนกลับไปเขาคว้าเกาะดอกไม้แดนใต้มาเพราะต้องการสถานที่ลับเพื่อสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะ

 

พ่อของอู๋ส่วยยืนอยู่ด้านข้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “เจ้าประสบความสําเร็จจริงๆ! บุตรของข้า เจ้ายอดเยี่ยมกว่าข้ามาก!”

 

“แม้นิกายต่างๆจะปราบปรามและพยายามแย่งชิงเกาะดอกไม้แดนใต้ของข้ามาตลอดหลายปี แต่ข้าก็พบการเผชิญหน้าโดยบังเอิญหลายครั้ง ข้าได้รับทรัพยากรมากมาย ในเวลาเดียวกัน ด้วยความช่วยเหลือจากผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรตลอดหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา ในที่สุดคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเจ็ดหลังนี้ก็ถูกสร้างขึ้น” อู๋ส่วยยิ้ม “ให้เวลาข้าอีกสองสามร้อยปี ข้าอาจทําให้มันกลายเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด!”

 

“มันมีชื่อหรือไม่?” พ่อของอู๋ส่วยถาม

 

“ในฐานะผู้สร้าง ข้าจะตั้งชื่อมันว่า…วังมังกร!” ดวงตาของอู๋ส่วยส่องประกายขึ้น

 

“วังมังกร?” การแสดงออกของพ่ออู่ส่วยเปลี่ยนแปลงไป “นี่อาจไม่เหมาะสม?”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า เหตุใดจึงไม่เหมาะสม? มันสามารถเปรียบเทียบกับวังสวรรค์!” อู๋ส่วยหัวเราะ

 

“บุตรของข้า เจ้าควรพิจารณามันใหม่ ในสายตาของมนุษย์ วังมังกรอาจเป็นสัญญาณของการก่อกบฏ”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า” อู๋ส่วยหัวเราะเสียงเย็น “พวกเขาสามารถคิดสิ่งที่พวกเขาต้องการ”

 

“อย่ากล่าวเช่นนั้น มนุษย์ยังเป็นผู้ปกครองโลกใบนี้”

 

“ท่านพ่อ” อู๋สวยยกมือขึ้น “อย่าพูดอีกเลย ข้าตัดสินใจแล้ว นี่คือคฤหาสน์วิญญาณอมระวังมังกร!”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+