Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1859 จงพักผ่อนให้สบาย

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1859 จงพักผ่อนให้สบาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1859 จงพักผ่อนให้สบาย

 

เทพธิดาจ๋อเว่ยเป็นผู้อมตะที่ยิ่งใหญ่บนเส้นทางแห่งปัญญา นางยังมีกระดานหมากรุกกลุ่มดาว นางจะสามารถอนุมานร่องรอยและเข้าแทรกแซงแผนการของฟางหยวน

เช่นเดียวกับก่อนหน้า ฟางหยวนบ่มเพาะเส้นทางแห่งพลังปราณ แต่เขาไม่ได้รีดไถทรัพยากรอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณจากกองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้ แต่ราชันมังกรยังสามารถมองเห็นความเชื่อมโยงระหว่างบรรพชนทะเลปราณกับฟางหยวน

 

หากฟางหยวนรีดไถทรัพยากรอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณจากกองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้ ราชันมังกรอาจตระหนักถึงความจริงได้อย่างรวดเร็ว

 

แม้ฟางหยวนจะประสบความสําเร็จในการหลอกลวงราชันมังกร แต่เขาก็อยู่ห่างจากการถูกเปิดเผยเพียงไม่กี่ก้าว

 

หลายครั้งที่คนผู้หนึ่งต้องมองผลประโยชน์ในระยะยาว มากกว่าผลประโยชน์ราคาถูกในปัจจุบัน

 

หากไม่ใช่เพราะความระวังตัวของฟางหยวน เขาจะไม่ได้รับมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งพลังปราณของเทพอมตะแรกกําเนิด

 

นอกเหนือจากสถานการณ์ที่ไม่มีทางเลือก เขาจะวางแผนการต่างๆอย่างรอบคอบเสมอ

 

ระหว่างการต่อสู้ที่ทะเลตะวันออก ฟางหยวนได้เรียนรู้ว่าฟางเพิ่งเข้าแทรกแซงเขาถึงสองครั้งและยังตระหนักถึงการคงอยู่ของฉินติงหลิง

 

ตามการอนุมานของฟางหยวน ความสาเร็จบนเส้นทางแห่งโชคของฉินติงหลิงไม่ควรต่ํากว่าระดับปรมาจารย์เอก มีความเป็นไปได้ที่นางจะบรรลุระดับถึงปรมาจารย์สูงสุดเช่นกัน

 

ด้วยความสําเร็จบนเส้นทางแห่งโชค หากนางสามารถหลอมรวมวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งโชคสองหรือสามดวง นาจะสามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งโชคที่ครอบคลุมทุกแง่มุม

 

ก่อนหน้านี้วังสวรรค์ไม่มีรากฐานบนเส้นทางแห่งโชค ฟางหยวนได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

 

แต่ตอนนี้โอกาสของเขาลดน้อยลงแล้ว

 

มันเหมือนกับเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ หลังจากเทพปีศาจจิตวิญญาณถูกจับ มรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของเขาก็จะลดคุณค่าลงเรื่อยๆ

 

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ฟางหยวนจึงตัดสินใจหยุดหลอมรวมวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งโชคเป็นการชั่วคราว และเปลี่ยนเป็นหลอมรวมวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งไม้

 

หลังจากทั้งหมดทั้งเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์เป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด มันจะช่วยฟางหยวนได้มาก

 

วังสวรรค์เป็นอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ของฟางหยวนมาตลอด

 

การหยุดวังสวรรค์จากการฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรมไม่ใช่เรื่องของการต่อสู้เท่านั้นแต่มันยังเกี่ยวข้องกับทรัพยากร แผนการ ข้อมูล และแง่มุมอื่นๆอีกมากมาย

 

หลังจากประเมินไพ่ตายของศัตรู ฟางหยวนต้องวางแผนจัดการพวกมันอย่างเหมาะสม

 

ข้อมูลมีความสําคัญมาก สงครามที่ดุเดือดในประวัติศาสตร์มักถูกตัดสินด้วยการใช้สมองและแผนการเสมอ

 

การเดินไปข้างหน้าอย่างไร้แผนการจะนําไปสู่ความตาย คนโง่มักไม่สามารถเดินไปได้ไกล

 

เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงบางอย่างส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ ฟางหยวนจึงเลือกที่จะหยุดการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงแต่กําไรต่ําเอาไว้

 

ในช่วงเวลานี้ทั้งห้าภูมิภาคค่อนข้างสงบสุข ขณะที่มิติช่องว่างจักรพรรดิของฟางหยวนพัฒนาไปอีกขั้น

 

ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งพลังปราณมากกว่าหนึ่งล้านร่องรอยส่งผลกระทบต่อทุกส่วนของมิดช่องว่างจักรพรรดิ

 

สวรรค์น้อยทั้งเก้าเต็มไปด้วยเมฆสีต่างๆ

 

เดิมทีฟางหยวนตั้งใจนําเมฆดินเข้ามา แต่ในปัจจุบันมันสามารถผลิตเมฆดินขึ้นมาได้ด้วยตัวของมันเอง นี่ช่วยประหยัดทรัพยากรของฟางหยวนไปได้มาก

 

“ร่องรอยของพลังงานแห่งเดําเป็นรากฐานของมิติช่องว่างอย่างแท้จริง”

 

“ร่องรอยของพลังงานแห่งเดํามากกว่าหนึ่งล้านร่องรอยสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพทุกประเภท

 

“แน่นอนว่ามันมีความเสี่ยงเช่นกัน แรกเริ่มข้าต้องดูแลและปรับเปลี่ยนเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับระบบนิเวศ แต่ตอนนี้พวกมันสามารถหลอมรวมกันได้อย่างกลมกลืน”

 

การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทั้งในเก้าสวรรค์น้อยและหาภูมิภาคน้อย สิ่งที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดคือปราณสวรรค์และปราณพิภพ

 

เมื่อปราณสวรรค์สะสมมากขึ้น สุดท้ายมันจะพัฒนาไปเป็นกําแพงปราณสวรรค์

 

สาหรับปราณพิภพ มันมีโอกาสพัฒนาไปได้สองทาง

 

หนึ่ง หากฟางหยวนเพิกเฉยต่อมัน มันจะกลายเป็นพายุปราณพิภพที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสภาพแวดล้อม อย่างไรก็ตามทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปฐพี่จํานวนมากจะถือกําาเนิดขึ้น

 

สอง หากฟางหยวนขุดอุโมงค์ใต้ดินและทําให้ปราณพิภพเคลื่อนที่ไปรอบๆ พายุปราณพิภพจะไม่เกิดขึ้น ปราณพิภพจะเคลื่อนที่ไปยังห้าภูมิภาคและกลายเป็นเส้นโลหิตปฐพี่ที่สร้างทรัพยากรมากมายขึ้นทุกหนทุกแห่ง

 

ฟางหยวนแทบไม่จําเป็นต้องคิด เขาเลือกทางที่สอง

 

การขุดอุโมงค์ใต้ดินจะช่วยสนับสนุนมิดช่องว่างทั้งหมด มันจะมีโอกาสเติบโตอีกมากในอนาคต

 

ฟางหยวนมอบภารกิจนี้ให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา

 

สําหรับร่างหลักของฟางหยวน เขาทํางานอย่างหนักเพื่อดัดแปลงท่าไม้ตายอมตะต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรม

 

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนแทบไม่สามารถกระตุ้นใช้งานมันโดยใช้วิญญาณอมตะไผ่เขียวระดับเจ็ด เขาขาดวิญญาณอมตะหลักบนเส้นทางแห่งกฎวิญญาณเหตุ และวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งไม้ วิญญาณผล เขาต้องใช้วิญญาณระดับมนุษย์จํานวนมากเพื่อชดเชยสิ่งที่ขาด ย้อนกลับไปเขายังขาดความสําเร็จบนเส้นทางแห่งไม้ นั่นทําให้เขาต้องใช้ความพยายามและทรัพยากรจํานวนมหาศาล ขณะที่ท่าไม้ตายอมตะต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรมไม่สามารถใช้งานได้ในการต่อสู้จริง

 

ตอนนี้แม้เขาจะยังขาดวิญญาณเหตุและวิญญาณผล แต่เขามีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งไม้ที่เหมาะสม

 

ในเวลาเดียวกันความสําเร็จบนเส้นทางแห่งไม้ของเขาก็ยกระดับขึ้น ทําให้เวลาในการกระตุ้นใช้งานมันลดน้อยลงและสามารถนํามันไปใช้งานในการต่อสู้จริง

 

“ท่าไม้ตายนี้ไม่สามารถใช้กับผู้อมตะระดับแปด อย่างมากข้าก็สามารถใช้มันกลั่นแกล้งผู้อมตะระดับเจ็ดเท่านั้น แต่ขาสามารถใช้มันกําหราบวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์!”

 

“สําหรับท่าไม้ตายอมตะเคลื่อนกรรม ข้ายังไม่สามารถใช้มันได้ในเวลานี้”

 

ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรมมีประโยชน์มากในการปรับแต่งวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์

 

แต่วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์อยู่ในฐานทัพใหญ่ของตระกูลฟางขณะที่ฟางตี้เฉิงดูแลมันตลอดเวลา

 

อย่างไรก็ตามก่อนที่ฟางหยวนจะกระทําการสิ่งใด ฟางตี้เฉิงกลับขอให้เขากลับไป

 

ฟางตี้เฉิงกล่าวในจดหมายว่าเขาพบวิธีปรับแต่งวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์แล้ว ตราบเท่าที่พวกเขาใช้วิธีนี้ พวกเขาจะสามารถปรับแต่งวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างแน่นอน

สิ่งนี้ทําให้ฟางหยวนรู้สึกอยากรู้อยากเห็น

 

“แผนการของท่านคือ?” ฟางหยวนปลอมตัวเป็นซวนปู่จินกลับไปยังตระกูลฟาง

 

“นี่คือแผนการของข้า น้องซวนปู่จีน เจ้าคิดอย่างไร?” ฟางตี้เฉิงอธิบายแผนการของเขาฟางหยวนครุ่นคิด

 

วิธีของฟางเฉิงมีความเป็นไปได้ เขาจะใช้คฤหาสน์วิญญาณอมตะทําลายคฤหาสน์วิญญาณอมตะ

 

แผนการของฟางตี้เฉิงคือการสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะในวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ก่อนจะทําให้มันระเบิดตัวเอง การระเบิดตัวเองของคฤหาสน์วิญญาณอมตะจะทําลายการป้องกันของวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์

 

ตระกูลฟางไม่เหมือนฟางหยวนที่สามารถครอบครองความสําเร็จบนเส้นทางแห่งไม่ได้ในระยะเวลาสั้นๆ แต่พวกเขาสามารถใช้ความเชี่ยวชาญพิเศษของตนเองอย่างเต็มที่เพื่อจัดการกับวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์

 

“แต่วิธีนี้อาจทําให้วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ได้รับความเสียหาย” ฟางหยวนกล่าว

 

ฟางตี้เฉิงเผยรอยยิ้มขมขึ้น “เราไม่สามารถทําสิ่งใดกับเรื่องนี้ สถานการณ์ของตระกูลฟางเลวร้ายลงทุกวัน แต่ตราบเท่าที่เราสามารถปรับแต่งวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ เราจะสามารถรักษาเสถียรภาพ”

 

ฟางหยวนขมวดคิ้ว “ด้วยรากฐานของตระกูลฟาง เราสามารถสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะภายในวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ แต่เราจะทําอย่างไรหลังจากนั้น? ในกระบวนการนี้ต้องมีผู้อมตะควบคุมคฤหาสน์วิญญาณอมตะ เพื่อต่อต้านวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ตลอดเวลาจนถึงจุดที่ต้องจุดชนวนระเบิดตัวเอง”

 

“หากเป็นเช่นนั้นไม่ใช่ว่าผู้อมตะที่อยู่ภายในคฤหาสน์วิญญาณอมตะจะตกอยู่ในอันตรายเช่นกันงั้นหรือ?” ฟางหยวนมองฟางตี้เฉิง

 

ผู้อมตะที่ต้องเสียสละตนเองผู้นี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันต้องเป็นฟางตี้เฉิงหรือฟางหยวนแล้วมันจะเป็นผู้ใดได้

 

ฟางหยวนเข้าใจเหตุผลที่ตระกูลฟางเรียกตัวเขากลับมาทันที

 

แต่เขาจะไม่มีวันทําเรื่องอันตรายเช่นนี้!

 

ฟางตี้เฉิงรู้ความคิดของฟางหยวน เขายิ้ม “อย่ากังวล เราไม่ได้เรียกเจ้ากลับมาเพื่อควบคุมคฤหาสน์วิญญาณอมตะเพียงลําพัง เราจะทํามันด้วยกัน หลังจากงานนี้เสร็จสิ้น ตระกูลฟางจะตอบแทนเจ้าอย่างเหมาะสม”

 

“ข้าตกลงแต่ข้าต้องมีส่วนร่วมในกระบวนการสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งหมด”

 

ดวงตาของฟางตี้เฉิงส่องประกายแหลมคม เขาลังเลเล็กน้อยก่อนพยักหน้า “ตกลง เรามาเริ่มงานกันเถอะ”

 

การสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะไม่ใช่เรื่องง่ายโดยเฉพาะการสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะในวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ หลายครั้งที่คฤหาสน์วิญญาณอมตะที่สร้างขึ้นพังทลายลงอย่างลึกลับ

 

ตระกูลฟางพบการสูญเสียที่รุนแรงแต่โชคดีที่รากฐานในด้านนี้ของพวกเขาลึกมาก

 

นอกจากนั้นฟางหยวนยังแสดงความสามารถที่แท้จริงออกมาเป็นครั้งคราว นั่นทําให้การสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะประสบความสําเร็จในที่สุด

 

ฟางตี้เฉิงและฟางหยวนเข้าไปในคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ดูเหมือนกระโจมทรงกลมและใช้มันตรวจสอบความลึกลับของวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์

 

ด้วยคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ พวกเขามีความก้าวหน้าครั้งใหญ่

 

เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ฟางตี้เฉิงจึงเปิดปากกล่าวกับฟางหยวน “เรามาเริ่มขั้นตอนสุดท้ายกันเถอะ เจ้าพร้อมหรือยัง?”

 

“พร้อมแล้ว” ฟางหยวนตอบ

 

“ดี” ฟางเฉิงกล่าวและกระตุ้นใช้งานคฤหาสน์วิญญาณอมตะ

 

โซ่พุ่งเข้ามารัดพันร่างกายของฟางหยวนและพันธนาการเขาเอาไว้ทันที

 

ฟางหยวนตะโกน “ท่านกําลังทําสิ่งใด?”

 

ฟางเฉิงกล่าว “น้องซวนปู่จิน ตระกูลฟางจะไม่ลืมการเสียสละของเจ้า”

 

“มันเป็นเช่นนี้ เป้าหมายที่แท้จริงของพวกเจ้าคือข้า!” ฟางหยวนตอบด้วยความโกรธ

 

ฟางตี้เฉิงกล่าวต่อ “การระเบิดของคฤหาสน์วิญญาณอมตะยังไม่เพียงพอ แต่ด้วยการเสียสละผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาเช่นเจ้า มันจะปลดปล่อยพลังทําลายลงครั้งใหญ่บนเส้นทางแห่งปัญญาออกมา ข้าจะใช้มันกําหราบวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์”

 

“น้องซวนปู่จิน ข้ารู้ว่ามันไม่ยุติธรรมกับเจ้า”

 

“แต่เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว โปรดตายเพื่ออนาคตของตระกูลฟาง” ฟางที่เฉิงโค้งคํานับฟางหยวนฟางหยวนเริ่มสาปแช่ง

 

การแสดงออกของฟางตี้เฉิงกลายเป็นเย็นชา “เจ้าเป็นสมาชิกตระกูลฟาง มันเป็นเรื่องถูกต้องแล้วที่เจ้าจะตายเพื่อตระกูล จงพักผ่อนให้สบาย”

 

หลังกล่าวจบคํา เขาก็เริ่มขั้นตอนสุดท้าย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1859 จงพักผ่อนให้สบาย

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1859 จงพักผ่อนให้สบาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1859 จงพักผ่อนให้สบาย

 

เทพธิดาจ๋อเว่ยเป็นผู้อมตะที่ยิ่งใหญ่บนเส้นทางแห่งปัญญา นางยังมีกระดานหมากรุกกลุ่มดาว นางจะสามารถอนุมานร่องรอยและเข้าแทรกแซงแผนการของฟางหยวน

เช่นเดียวกับก่อนหน้า ฟางหยวนบ่มเพาะเส้นทางแห่งพลังปราณ แต่เขาไม่ได้รีดไถทรัพยากรอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณจากกองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้ แต่ราชันมังกรยังสามารถมองเห็นความเชื่อมโยงระหว่างบรรพชนทะเลปราณกับฟางหยวน

 

หากฟางหยวนรีดไถทรัพยากรอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณจากกองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้ ราชันมังกรอาจตระหนักถึงความจริงได้อย่างรวดเร็ว

 

แม้ฟางหยวนจะประสบความสําเร็จในการหลอกลวงราชันมังกร แต่เขาก็อยู่ห่างจากการถูกเปิดเผยเพียงไม่กี่ก้าว

 

หลายครั้งที่คนผู้หนึ่งต้องมองผลประโยชน์ในระยะยาว มากกว่าผลประโยชน์ราคาถูกในปัจจุบัน

 

หากไม่ใช่เพราะความระวังตัวของฟางหยวน เขาจะไม่ได้รับมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งพลังปราณของเทพอมตะแรกกําเนิด

 

นอกเหนือจากสถานการณ์ที่ไม่มีทางเลือก เขาจะวางแผนการต่างๆอย่างรอบคอบเสมอ

 

ระหว่างการต่อสู้ที่ทะเลตะวันออก ฟางหยวนได้เรียนรู้ว่าฟางเพิ่งเข้าแทรกแซงเขาถึงสองครั้งและยังตระหนักถึงการคงอยู่ของฉินติงหลิง

 

ตามการอนุมานของฟางหยวน ความสาเร็จบนเส้นทางแห่งโชคของฉินติงหลิงไม่ควรต่ํากว่าระดับปรมาจารย์เอก มีความเป็นไปได้ที่นางจะบรรลุระดับถึงปรมาจารย์สูงสุดเช่นกัน

 

ด้วยความสําเร็จบนเส้นทางแห่งโชค หากนางสามารถหลอมรวมวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งโชคสองหรือสามดวง นาจะสามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งโชคที่ครอบคลุมทุกแง่มุม

 

ก่อนหน้านี้วังสวรรค์ไม่มีรากฐานบนเส้นทางแห่งโชค ฟางหยวนได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

 

แต่ตอนนี้โอกาสของเขาลดน้อยลงแล้ว

 

มันเหมือนกับเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ หลังจากเทพปีศาจจิตวิญญาณถูกจับ มรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของเขาก็จะลดคุณค่าลงเรื่อยๆ

 

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ฟางหยวนจึงตัดสินใจหยุดหลอมรวมวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งโชคเป็นการชั่วคราว และเปลี่ยนเป็นหลอมรวมวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งไม้

 

หลังจากทั้งหมดทั้งเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์เป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด มันจะช่วยฟางหยวนได้มาก

 

วังสวรรค์เป็นอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ของฟางหยวนมาตลอด

 

การหยุดวังสวรรค์จากการฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรมไม่ใช่เรื่องของการต่อสู้เท่านั้นแต่มันยังเกี่ยวข้องกับทรัพยากร แผนการ ข้อมูล และแง่มุมอื่นๆอีกมากมาย

 

หลังจากประเมินไพ่ตายของศัตรู ฟางหยวนต้องวางแผนจัดการพวกมันอย่างเหมาะสม

 

ข้อมูลมีความสําคัญมาก สงครามที่ดุเดือดในประวัติศาสตร์มักถูกตัดสินด้วยการใช้สมองและแผนการเสมอ

 

การเดินไปข้างหน้าอย่างไร้แผนการจะนําไปสู่ความตาย คนโง่มักไม่สามารถเดินไปได้ไกล

 

เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงบางอย่างส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ ฟางหยวนจึงเลือกที่จะหยุดการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงแต่กําไรต่ําเอาไว้

 

ในช่วงเวลานี้ทั้งห้าภูมิภาคค่อนข้างสงบสุข ขณะที่มิติช่องว่างจักรพรรดิของฟางหยวนพัฒนาไปอีกขั้น

 

ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งพลังปราณมากกว่าหนึ่งล้านร่องรอยส่งผลกระทบต่อทุกส่วนของมิดช่องว่างจักรพรรดิ

 

สวรรค์น้อยทั้งเก้าเต็มไปด้วยเมฆสีต่างๆ

 

เดิมทีฟางหยวนตั้งใจนําเมฆดินเข้ามา แต่ในปัจจุบันมันสามารถผลิตเมฆดินขึ้นมาได้ด้วยตัวของมันเอง นี่ช่วยประหยัดทรัพยากรของฟางหยวนไปได้มาก

 

“ร่องรอยของพลังงานแห่งเดําเป็นรากฐานของมิติช่องว่างอย่างแท้จริง”

 

“ร่องรอยของพลังงานแห่งเดํามากกว่าหนึ่งล้านร่องรอยสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพทุกประเภท

 

“แน่นอนว่ามันมีความเสี่ยงเช่นกัน แรกเริ่มข้าต้องดูแลและปรับเปลี่ยนเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับระบบนิเวศ แต่ตอนนี้พวกมันสามารถหลอมรวมกันได้อย่างกลมกลืน”

 

การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทั้งในเก้าสวรรค์น้อยและหาภูมิภาคน้อย สิ่งที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดคือปราณสวรรค์และปราณพิภพ

 

เมื่อปราณสวรรค์สะสมมากขึ้น สุดท้ายมันจะพัฒนาไปเป็นกําแพงปราณสวรรค์

 

สาหรับปราณพิภพ มันมีโอกาสพัฒนาไปได้สองทาง

 

หนึ่ง หากฟางหยวนเพิกเฉยต่อมัน มันจะกลายเป็นพายุปราณพิภพที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสภาพแวดล้อม อย่างไรก็ตามทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปฐพี่จํานวนมากจะถือกําาเนิดขึ้น

 

สอง หากฟางหยวนขุดอุโมงค์ใต้ดินและทําให้ปราณพิภพเคลื่อนที่ไปรอบๆ พายุปราณพิภพจะไม่เกิดขึ้น ปราณพิภพจะเคลื่อนที่ไปยังห้าภูมิภาคและกลายเป็นเส้นโลหิตปฐพี่ที่สร้างทรัพยากรมากมายขึ้นทุกหนทุกแห่ง

 

ฟางหยวนแทบไม่จําเป็นต้องคิด เขาเลือกทางที่สอง

 

การขุดอุโมงค์ใต้ดินจะช่วยสนับสนุนมิดช่องว่างทั้งหมด มันจะมีโอกาสเติบโตอีกมากในอนาคต

 

ฟางหยวนมอบภารกิจนี้ให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา

 

สําหรับร่างหลักของฟางหยวน เขาทํางานอย่างหนักเพื่อดัดแปลงท่าไม้ตายอมตะต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรม

 

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนแทบไม่สามารถกระตุ้นใช้งานมันโดยใช้วิญญาณอมตะไผ่เขียวระดับเจ็ด เขาขาดวิญญาณอมตะหลักบนเส้นทางแห่งกฎวิญญาณเหตุ และวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งไม้ วิญญาณผล เขาต้องใช้วิญญาณระดับมนุษย์จํานวนมากเพื่อชดเชยสิ่งที่ขาด ย้อนกลับไปเขายังขาดความสําเร็จบนเส้นทางแห่งไม้ นั่นทําให้เขาต้องใช้ความพยายามและทรัพยากรจํานวนมหาศาล ขณะที่ท่าไม้ตายอมตะต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรมไม่สามารถใช้งานได้ในการต่อสู้จริง

 

ตอนนี้แม้เขาจะยังขาดวิญญาณเหตุและวิญญาณผล แต่เขามีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งไม้ที่เหมาะสม

 

ในเวลาเดียวกันความสําเร็จบนเส้นทางแห่งไม้ของเขาก็ยกระดับขึ้น ทําให้เวลาในการกระตุ้นใช้งานมันลดน้อยลงและสามารถนํามันไปใช้งานในการต่อสู้จริง

 

“ท่าไม้ตายนี้ไม่สามารถใช้กับผู้อมตะระดับแปด อย่างมากข้าก็สามารถใช้มันกลั่นแกล้งผู้อมตะระดับเจ็ดเท่านั้น แต่ขาสามารถใช้มันกําหราบวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์!”

 

“สําหรับท่าไม้ตายอมตะเคลื่อนกรรม ข้ายังไม่สามารถใช้มันได้ในเวลานี้”

 

ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรมมีประโยชน์มากในการปรับแต่งวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์

 

แต่วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์อยู่ในฐานทัพใหญ่ของตระกูลฟางขณะที่ฟางตี้เฉิงดูแลมันตลอดเวลา

 

อย่างไรก็ตามก่อนที่ฟางหยวนจะกระทําการสิ่งใด ฟางตี้เฉิงกลับขอให้เขากลับไป

 

ฟางตี้เฉิงกล่าวในจดหมายว่าเขาพบวิธีปรับแต่งวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์แล้ว ตราบเท่าที่พวกเขาใช้วิธีนี้ พวกเขาจะสามารถปรับแต่งวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างแน่นอน

สิ่งนี้ทําให้ฟางหยวนรู้สึกอยากรู้อยากเห็น

 

“แผนการของท่านคือ?” ฟางหยวนปลอมตัวเป็นซวนปู่จินกลับไปยังตระกูลฟาง

 

“นี่คือแผนการของข้า น้องซวนปู่จีน เจ้าคิดอย่างไร?” ฟางตี้เฉิงอธิบายแผนการของเขาฟางหยวนครุ่นคิด

 

วิธีของฟางเฉิงมีความเป็นไปได้ เขาจะใช้คฤหาสน์วิญญาณอมตะทําลายคฤหาสน์วิญญาณอมตะ

 

แผนการของฟางตี้เฉิงคือการสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะในวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ก่อนจะทําให้มันระเบิดตัวเอง การระเบิดตัวเองของคฤหาสน์วิญญาณอมตะจะทําลายการป้องกันของวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์

 

ตระกูลฟางไม่เหมือนฟางหยวนที่สามารถครอบครองความสําเร็จบนเส้นทางแห่งไม่ได้ในระยะเวลาสั้นๆ แต่พวกเขาสามารถใช้ความเชี่ยวชาญพิเศษของตนเองอย่างเต็มที่เพื่อจัดการกับวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์

 

“แต่วิธีนี้อาจทําให้วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ได้รับความเสียหาย” ฟางหยวนกล่าว

 

ฟางตี้เฉิงเผยรอยยิ้มขมขึ้น “เราไม่สามารถทําสิ่งใดกับเรื่องนี้ สถานการณ์ของตระกูลฟางเลวร้ายลงทุกวัน แต่ตราบเท่าที่เราสามารถปรับแต่งวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ เราจะสามารถรักษาเสถียรภาพ”

 

ฟางหยวนขมวดคิ้ว “ด้วยรากฐานของตระกูลฟาง เราสามารถสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะภายในวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ แต่เราจะทําอย่างไรหลังจากนั้น? ในกระบวนการนี้ต้องมีผู้อมตะควบคุมคฤหาสน์วิญญาณอมตะ เพื่อต่อต้านวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ตลอดเวลาจนถึงจุดที่ต้องจุดชนวนระเบิดตัวเอง”

 

“หากเป็นเช่นนั้นไม่ใช่ว่าผู้อมตะที่อยู่ภายในคฤหาสน์วิญญาณอมตะจะตกอยู่ในอันตรายเช่นกันงั้นหรือ?” ฟางหยวนมองฟางตี้เฉิง

 

ผู้อมตะที่ต้องเสียสละตนเองผู้นี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันต้องเป็นฟางตี้เฉิงหรือฟางหยวนแล้วมันจะเป็นผู้ใดได้

 

ฟางหยวนเข้าใจเหตุผลที่ตระกูลฟางเรียกตัวเขากลับมาทันที

 

แต่เขาจะไม่มีวันทําเรื่องอันตรายเช่นนี้!

 

ฟางตี้เฉิงรู้ความคิดของฟางหยวน เขายิ้ม “อย่ากังวล เราไม่ได้เรียกเจ้ากลับมาเพื่อควบคุมคฤหาสน์วิญญาณอมตะเพียงลําพัง เราจะทํามันด้วยกัน หลังจากงานนี้เสร็จสิ้น ตระกูลฟางจะตอบแทนเจ้าอย่างเหมาะสม”

 

“ข้าตกลงแต่ข้าต้องมีส่วนร่วมในกระบวนการสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งหมด”

 

ดวงตาของฟางตี้เฉิงส่องประกายแหลมคม เขาลังเลเล็กน้อยก่อนพยักหน้า “ตกลง เรามาเริ่มงานกันเถอะ”

 

การสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะไม่ใช่เรื่องง่ายโดยเฉพาะการสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะในวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ หลายครั้งที่คฤหาสน์วิญญาณอมตะที่สร้างขึ้นพังทลายลงอย่างลึกลับ

 

ตระกูลฟางพบการสูญเสียที่รุนแรงแต่โชคดีที่รากฐานในด้านนี้ของพวกเขาลึกมาก

 

นอกจากนั้นฟางหยวนยังแสดงความสามารถที่แท้จริงออกมาเป็นครั้งคราว นั่นทําให้การสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะประสบความสําเร็จในที่สุด

 

ฟางตี้เฉิงและฟางหยวนเข้าไปในคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ดูเหมือนกระโจมทรงกลมและใช้มันตรวจสอบความลึกลับของวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์

 

ด้วยคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ พวกเขามีความก้าวหน้าครั้งใหญ่

 

เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ฟางตี้เฉิงจึงเปิดปากกล่าวกับฟางหยวน “เรามาเริ่มขั้นตอนสุดท้ายกันเถอะ เจ้าพร้อมหรือยัง?”

 

“พร้อมแล้ว” ฟางหยวนตอบ

 

“ดี” ฟางเฉิงกล่าวและกระตุ้นใช้งานคฤหาสน์วิญญาณอมตะ

 

โซ่พุ่งเข้ามารัดพันร่างกายของฟางหยวนและพันธนาการเขาเอาไว้ทันที

 

ฟางหยวนตะโกน “ท่านกําลังทําสิ่งใด?”

 

ฟางเฉิงกล่าว “น้องซวนปู่จิน ตระกูลฟางจะไม่ลืมการเสียสละของเจ้า”

 

“มันเป็นเช่นนี้ เป้าหมายที่แท้จริงของพวกเจ้าคือข้า!” ฟางหยวนตอบด้วยความโกรธ

 

ฟางตี้เฉิงกล่าวต่อ “การระเบิดของคฤหาสน์วิญญาณอมตะยังไม่เพียงพอ แต่ด้วยการเสียสละผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาเช่นเจ้า มันจะปลดปล่อยพลังทําลายลงครั้งใหญ่บนเส้นทางแห่งปัญญาออกมา ข้าจะใช้มันกําหราบวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์”

 

“น้องซวนปู่จิน ข้ารู้ว่ามันไม่ยุติธรรมกับเจ้า”

 

“แต่เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว โปรดตายเพื่ออนาคตของตระกูลฟาง” ฟางที่เฉิงโค้งคํานับฟางหยวนฟางหยวนเริ่มสาปแช่ง

 

การแสดงออกของฟางตี้เฉิงกลายเป็นเย็นชา “เจ้าเป็นสมาชิกตระกูลฟาง มันเป็นเรื่องถูกต้องแล้วที่เจ้าจะตายเพื่อตระกูล จงพักผ่อนให้สบาย”

 

หลังกล่าวจบคํา เขาก็เริ่มขั้นตอนสุดท้าย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+