Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1875 เพิกเฉยต่อภาพรวม

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1875 เพิกเฉยต่อภาพรวม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1875 เพิกเฉยต่อภาพรวม

 

การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกะทันหันเกินไป นางบําเรอรัตติกาลเปลี่ยนร่างเป็นบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงและสังหารผู้อมตะระดับแปดของวังสวรรค์เว่ยเฟิงทันที

 

บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงผู้นี้โบกมือซ้ายและส่งผู้อมตะหญิงที่หมดสติเข้าไปในมิติช่องว่างของเขา

 

ขณะเดียวกันมือขวาของเขายังจับศีรษะของเว่ยเฟิงเอาไว้และบีบมันจนระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

“นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับพวกเจ้าทุกคน!” บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงกล่าวด้วยใบหน้าชั่วร้าย

 

เขาสามารถอดทนและรอคอยจังหวะที่เหมาะสมเพื่อวางกับดักนี้ นี่ท่าให้เว่ยเฟิงต้องจ่ายด้วยชีวิตของเขา

 

น่าเสียดายที่ฟางหยวนไม่ตะครุบเหยื่อ” บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงรู้สึกเสียดายเล็กน้อย

 

ฟางหยวนเจ้าเล่ห์และระวังตัวเกินไป เขาไม่เปิดโอกาสให้บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย

 

สามผู้อมตะของวังสวรรค์ทั้งโกรธและตกใจ

 

เว่ยเฟิงเสียชีวิตต่อหน้าพวกเขา ขณะที่พวกเขาอาจมีจุดจบที่ไม่ดีเช่นกัน

 

ฟางหยวนนําเรือรบหมื่นปีถอยห่างออกจากบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงอย่างเงียบๆ เขาขุนงง “เกิดสิ่งใดขึ้น?”

 

นางบําเรอรัตติกาลที่กลายร่างเป็นบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงเย้ยหยัน “ไม่ใช่ว่าเจ้าเป็นคนกําเนิดใหม่งั้นหรือ? เหตุใดเจ้าไม่รู้?”

 

“บรรพชนพันเปลี่ยนแปลง ท่านคิดมากเกินไป” ฟางหยวนหัวเราะ “หากข้าสามารถล่วงรู้ความลับทั้งหมดของโลกใบนี้ ข้าคงกลายเป็นผู้อมตะระดับเก่าไปแล้ว”

 

หลังจากนั้นเขายังยกย่อง “บรรพชนพันเปลี่ยนแปลง วิธีการของท่านไม่ธรรมดาจริงๆ มันคู่ควรกับเป็นมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่ง ท่านสามารถสังหารผู้อมตะระดับแปดของวังสวรรค์ได้ในครั้งเดียว ท่านมีความสามารถจริงๆ ผู้เยาว์ผู้นี้รู้สึกชื่นชมนัก”

แต่ในใจเขาคิด บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงคนก่อนหน้าน่าจะถูกสร้างขึ้นจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะวังหมื่น รูปปั้นบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงตัวจริงควรเป็นนางบําเรอรัตติกาล ด้านหนึ่งเขาต้องการปกป้องเหล่านางสนมเอกด้านเขาใช้มันเป็นเหยื่อล่อเพื่อกําจัดศัตรู

 

ในชีวิตห้าร้อยปีของฟางหยวน วังหมื่นรูปปั้นแสดงพลังอํานาจของมันออกมาในสงครามหาภูมิภาค ฟางหยวนรู้ความลับของมันอย่างชัดเจน

 

วังหมื่นรูปปั้นสามารถเปลี่ยนตัวมันเองให้เป็นบางคน มันยังสามารถเลียนแบบวิธีการทั้งหมดของเป้าหมาย

 

แม้ฟางหยวนจะรู้เรื่องนี้ แต่เขาแสร้งทําเป็นไม่รู้

 

“ร่างใดคือร่างจริงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง!” ซ่งเย่หวังตะโกน

 

“ข้าสามารถบอกเจ้า ข้าคือบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงตัวจริง เขาเป็นพี่ชายฝาแฝดของข้า บรรพชนหมื่นเปลี่ยนแปลง” บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงกล่าว

 

วังหมื่นรูปปั้นในร่างบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงพยักหน้าเบาๆ “วังสวรรค์ของพวกเจ้าคาดไม่ถึงใช่หรือไม่? พวกเจ้าซุ่มโจมตีน้องชายของข้าแต่ไม่คิดว่าจะพบกับสองผู้อมตะระดับแปด ข้าบ่มเพาะอย่างสันโดษมาตลอดชีวิต น่าเสียดายที่ความลับนี้ถูกเปิดเผยแล้ว แต่มันก็คุ้มค่าที่สามารถแลกมาด้วยชีวิตของผู้อมตะระดับแปด”

 

สามผู้อมตะระดับแปดของวังสวรรค์มองหน้ากัน ไม่ว่าบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงจะพูดความจริงหรือไม่ สถานการณ์ของพวกเขาก็เปลี่ยนแปลงไปแล้ว

 

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนกับบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงต่อสู้กับสิ่ผู้อมตะระดับแปดของวังสวรรค์

 

ตอนนี้เว่ยเฟิงเสียชีวิตไปแล้ว ขณะที่บรรพชนหมื่นเปลี่ยนแปลงปรากฏตัวขึ้น ฝ่ายหนึ่งสูญเสีย ฝ่ายหนึ่งได้รับ มันกลายเป็นการต่อสู้สามต่อสาม

 

หว่านชื่อหงหัวเราะ “หากข้าเป็นหนึ่งในพวกเจ้า ข้าจะให้อีกคนซ่อนตัวอยู่ด้านนอกและช่วยเหลือกัน แต่ตอนนี้พวกเจ้าทั้งสองติดอยู่ในกับดัก ทะเลทรายหมื่นรูปปั้นถูกทิ้งร้างไว้โดยไม่มีคนดูแลผู้อมตะของวังสวรรค์จะไปที่นั่น อา…ถูกต้อง ข้าสงสัยว่าเจ้านวังหมื่นรูปปั้นมาด้วยหรือไม่? มันคงน่าเสียดายหากเจ้าทิ้งมันไว้ที่ทะเลทรายหมื่นรูปปั้น”

 

ค่ากล่าวของหว่านหงซื่อเป็นการคุกคามและเป็นการตรวจสอบ

 

อย่างไรก็ตามฟางหยวนรู้เรื่องนี้ บรรพชนหมื่นเปลี่ยนแปลงถูกสร้างขึ้นจากวังหมื่นรูปปั้น แล้วมันจะไม่อยู่ที่นี่ได้อย่างไร

 

แม้วังสวรรค์จะส่งผู้อมตะไปยังทะเลทรายหมื่นรูปปั้น พวกเขาก็จะไม่ได้รับสิ่งใด

 

แต่การแสดงออกของบรรพชนพันเปลี่ยนกลับเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาตะโกน “วังสวรรค์ของเจ้ายังกล่าเรียกตนเองว่าผู้นําของมนุษยชาตและเป็นฝ่ายธรรมะอีกงั้นหรือ? การกระทําของพวกเจ้าชั่วร้ายยิ่งกว่าปีศาจ!”

 

กระทั่งฟางหยวนก็ยังต้องยกย่องทักษะการแสดงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง

 

บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงไม่สามารถปกปิดความจริงได้นานนัก แม้เทพธิดาจอเว่ยจะไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่นางจะสามารถสรุปความจริงได้ในไม่ช้า

 

วังสวรรค์ยังมีท่าไม้ตายอมตะพลิกคว่าสวรรค์พิภพ พวกเขายังเป็นฝ่ายได้เปรียบ

 

หว่านชื่อหงกล่าว “ข้าจะเป็นคนโจมตีหลักในการต่อสู้ครั้งนี้ พวกเจ้าทั้งสองคอยสนับสนุนข้า”

 

นางออกคําสั่งองค์ชายฟงเซียนและซิงเย่หว่าน

 

หว่านชื่อหงมีความอาวุโสมากที่สุด นอกจากนั้นนางยังแข็งแกร่งที่สุดเช่นกัน

 

ท่าไม้ตายอมตะกลีบดอกไม้สีเลือด

 

หว่านชื่อหงเริ่มโจมตี

 

เลือดไหลออกมาจากร่างของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงและกลายเป็นกลีบดอกไม้สีเลือดจํานวนนับไม่ถ้วน

 

บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงบินออกจากค่ายกลวิญญาณอมตะเพื่อตอบโต้

 

บรรพชนหมื่นเปลี่ยนแปลงไม่ได้ติดตามไปแต่อยู่ปกป้องค่ายกลวิญญาณอมตะ

 

หว่านชื่อฟงล่าถอยอย่างช้าๆขณะที่องค์ชายฟงเซียนและซิงเย่หวังบินออกไปปิดกั้นบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง

 

หว่านซื้อหงเย้ยหยันและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะเหี่ยวแห้งอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยง

 

กลีบดอกไม้ร่วงหล่นลงจากอากาศและทําลายการโจมตีของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง

 

“บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงรับความตาย!” หว่านชื่อหงชี้นิ้วออกไป

 

ท่าไม้ตายอมตะดอกไม้สีเหลืองทําให้ชีวิตจบสิ้น!

 

การแสดงออกของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงเปลี่ยนไป ร่างกายของเขาเริ่มชุดผอม อายุขัยของเขาลดลงอย่างรวดเร็ว

 

ท่าไม้ตายอมตะดอกไม้สีเหลืองทําให้ชีวิตจบสิ้นเป็นไพ่ตายของหว่านชื่อหง แม้มันจะเป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งไม้แต่มันส่งผลกระทบต่ออายุขัย

 

บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงถูกบังคับให้ล่าถอย

 

ซึ่งเย่หวังกับองค์ชายฟงเซียนไล่ล่า บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงต้องใช้วังหมื่นรูปปั้นรับมือศัตรูอย่างไม่มีทางเลือก

 

บรรพชนหมื่นเปลี่ยนแปลงเข้ามาช่วย

 

หว่านชื่อฟงใช้ท่าไม้ตายอมตะดอกไม้สีเลืองทําให้ชีวิตจบสิ้นอีกครั้ง

 

ร่างกายของบรรพชนหมื่นเปลี่ยนแปลงซูดผอมลง แต่มันถูกสร้างขึ้นจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะ มันไม่มีอายุขัย

 

แม้บรรพชนหมื่นเปลี่ยนแปลงจะสูญเสียพละกําลังและอยู่ในสภาพที่น่าสังเวชแต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่

 

อย่างไรก็ตามบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงกําลังพบปัญหา เขาไม่สามารถทําลายท่าไม้ตายนี้

 

ท่าไม้ตายของหว่านชื่อหงน่ากลัวเกินไป สิ่งนี้ทําให้นางสามารถเข้าร่วมกับวังสวรรค์แม้นางจะเคยเป็นปีศาจอมตะมาก่อนก็ตาม

 

ในชีวิตก่อนหน้าหว่านชื่อหงขาดวิญญาณอมตะ ดังนั้นนางจึงไม่สามารถปลดปล่อยความสามารถที่แท้จริงออกมา

 

อย่างไรก็ตามแม้หว่านชื่อหงจะสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะดอกไม้สีเหลืองทําให้ชีวิตจบสิ้นแต่ใบหน้าของนางยังกลายเป็นซีดขาว เห็นได้ชัดว่านางต้องจ่ายด้วยราคามหาศาลเช่นกัน

 

บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงตะโกนด้วยความกังวล “ฟางหยวน หากเจ้าไม่เคลื่อนไหวตอนนี้ มันจะสายเกินไป หากข้าล้มลง เจ้าจะไม่สามารถหลบหนีเช่นกัน!”

 

“บีม บีม บีม!”

 

ฟางหยวนเคลื่อนไหว แต่เขาไม่ได้สนับสนุนบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง ตรงข้าม เขาโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง!

 

โดยปราศจากผู้อมตะคอยควบคุม ค่ายกลวิญญาณอมตะจึงถูกทําลายลงในพริบตา

 

ดวงตาของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงแทบสามารถพ่นไฟออกมา “ฟางหยวน คนสารเลว!”

 

เขาตะโกนด้วยความโกรธ

 

ฟางหยวนไม่โจมตีผู้อมตะของวังสวรรค์แต่กลับโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง นี่มันมากเกินไป เขากําลังทําสิ่งใดอยู่ บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงเต็มไปด้วยความโกรธและสับสน

 

บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงมีพันธมิตรเช่นนี้ กระทั่งสามผู้อมตะของวังสวรรค์ยังรู้สึกสงสาร

 

ฟางหยวนปล้นสะดมวิญญาณอมตะจากค่ายกลวิญญาณอมตะของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง จากนั้นเขาก็คว้าวิญญาณอมตะกลายพันธุ์ระดับแปด นางหงหยุน และอาณาจักรแห่งความฝันไปทั้งหมด

 

“ฟางหยวน เจ้าหัวขโมย บัดซบ!” ดวงตาของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงกลายเป็นแดง เขาต้องการฆ่าฟางหยวนทันที

 

หลังจากฟางหยวนได้รับสิ่งที่เขาต้องการ เขาก็บังคับเรือรบหมื่นปีบินจากไป

 

บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงไล่ล่าโดยไม่ยอมแพ้

 

ฟางหยวนรังแกเขามากเกินไป

 

ความเร็วของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงไม่สามารถเปรียบเทียบกับเรือรบหมื่นปี แต่วังสวรรค์ใช้ท่าไม้ตายอมตะพลิกคว่าสวรรค์พิภพขัดขวางฟางหยวน

 

สามผู้อมตะของวังสวรรค์ชะลอการโจมตีของพวกเขาและปล่อยให้บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงต่อสู้กับฟางหยวน

 

“ฟางหยวนตาบอดเพราะผลประโยชน์ เขาเปลี่ยนบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงให้เป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่”

 

“แต่ข้ารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ นี่ไม่ใช่นิสัยของฟางหยวน หากข้าเป็นเขา ข้าจะไม่ทําสิ่งนี้”

 

“เดี๋ยว! เขาขโมยวิญญาณอมตะระดับแปดเพราะเขามีวิธีหลบหนีแล้วงั้นหรือ? นี่คือเหตุผลที่เขาไม่กลัว! เราต้องระวัง!”

 

สามผู้อมตะของวังสวรรค์ลอบพูดคุยและเริ่มตื่นตระหนก

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1875 เพิกเฉยต่อภาพรวม

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1875 เพิกเฉยต่อภาพรวม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1875 เพิกเฉยต่อภาพรวม

 

การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกะทันหันเกินไป นางบําเรอรัตติกาลเปลี่ยนร่างเป็นบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงและสังหารผู้อมตะระดับแปดของวังสวรรค์เว่ยเฟิงทันที

 

บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงผู้นี้โบกมือซ้ายและส่งผู้อมตะหญิงที่หมดสติเข้าไปในมิติช่องว่างของเขา

 

ขณะเดียวกันมือขวาของเขายังจับศีรษะของเว่ยเฟิงเอาไว้และบีบมันจนระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

“นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับพวกเจ้าทุกคน!” บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงกล่าวด้วยใบหน้าชั่วร้าย

 

เขาสามารถอดทนและรอคอยจังหวะที่เหมาะสมเพื่อวางกับดักนี้ นี่ท่าให้เว่ยเฟิงต้องจ่ายด้วยชีวิตของเขา

 

น่าเสียดายที่ฟางหยวนไม่ตะครุบเหยื่อ” บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงรู้สึกเสียดายเล็กน้อย

 

ฟางหยวนเจ้าเล่ห์และระวังตัวเกินไป เขาไม่เปิดโอกาสให้บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย

 

สามผู้อมตะของวังสวรรค์ทั้งโกรธและตกใจ

 

เว่ยเฟิงเสียชีวิตต่อหน้าพวกเขา ขณะที่พวกเขาอาจมีจุดจบที่ไม่ดีเช่นกัน

 

ฟางหยวนนําเรือรบหมื่นปีถอยห่างออกจากบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงอย่างเงียบๆ เขาขุนงง “เกิดสิ่งใดขึ้น?”

 

นางบําเรอรัตติกาลที่กลายร่างเป็นบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงเย้ยหยัน “ไม่ใช่ว่าเจ้าเป็นคนกําเนิดใหม่งั้นหรือ? เหตุใดเจ้าไม่รู้?”

 

“บรรพชนพันเปลี่ยนแปลง ท่านคิดมากเกินไป” ฟางหยวนหัวเราะ “หากข้าสามารถล่วงรู้ความลับทั้งหมดของโลกใบนี้ ข้าคงกลายเป็นผู้อมตะระดับเก่าไปแล้ว”

 

หลังจากนั้นเขายังยกย่อง “บรรพชนพันเปลี่ยนแปลง วิธีการของท่านไม่ธรรมดาจริงๆ มันคู่ควรกับเป็นมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่ง ท่านสามารถสังหารผู้อมตะระดับแปดของวังสวรรค์ได้ในครั้งเดียว ท่านมีความสามารถจริงๆ ผู้เยาว์ผู้นี้รู้สึกชื่นชมนัก”

แต่ในใจเขาคิด บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงคนก่อนหน้าน่าจะถูกสร้างขึ้นจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะวังหมื่น รูปปั้นบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงตัวจริงควรเป็นนางบําเรอรัตติกาล ด้านหนึ่งเขาต้องการปกป้องเหล่านางสนมเอกด้านเขาใช้มันเป็นเหยื่อล่อเพื่อกําจัดศัตรู

 

ในชีวิตห้าร้อยปีของฟางหยวน วังหมื่นรูปปั้นแสดงพลังอํานาจของมันออกมาในสงครามหาภูมิภาค ฟางหยวนรู้ความลับของมันอย่างชัดเจน

 

วังหมื่นรูปปั้นสามารถเปลี่ยนตัวมันเองให้เป็นบางคน มันยังสามารถเลียนแบบวิธีการทั้งหมดของเป้าหมาย

 

แม้ฟางหยวนจะรู้เรื่องนี้ แต่เขาแสร้งทําเป็นไม่รู้

 

“ร่างใดคือร่างจริงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง!” ซ่งเย่หวังตะโกน

 

“ข้าสามารถบอกเจ้า ข้าคือบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงตัวจริง เขาเป็นพี่ชายฝาแฝดของข้า บรรพชนหมื่นเปลี่ยนแปลง” บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงกล่าว

 

วังหมื่นรูปปั้นในร่างบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงพยักหน้าเบาๆ “วังสวรรค์ของพวกเจ้าคาดไม่ถึงใช่หรือไม่? พวกเจ้าซุ่มโจมตีน้องชายของข้าแต่ไม่คิดว่าจะพบกับสองผู้อมตะระดับแปด ข้าบ่มเพาะอย่างสันโดษมาตลอดชีวิต น่าเสียดายที่ความลับนี้ถูกเปิดเผยแล้ว แต่มันก็คุ้มค่าที่สามารถแลกมาด้วยชีวิตของผู้อมตะระดับแปด”

 

สามผู้อมตะระดับแปดของวังสวรรค์มองหน้ากัน ไม่ว่าบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงจะพูดความจริงหรือไม่ สถานการณ์ของพวกเขาก็เปลี่ยนแปลงไปแล้ว

 

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนกับบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงต่อสู้กับสิ่ผู้อมตะระดับแปดของวังสวรรค์

 

ตอนนี้เว่ยเฟิงเสียชีวิตไปแล้ว ขณะที่บรรพชนหมื่นเปลี่ยนแปลงปรากฏตัวขึ้น ฝ่ายหนึ่งสูญเสีย ฝ่ายหนึ่งได้รับ มันกลายเป็นการต่อสู้สามต่อสาม

 

หว่านชื่อหงหัวเราะ “หากข้าเป็นหนึ่งในพวกเจ้า ข้าจะให้อีกคนซ่อนตัวอยู่ด้านนอกและช่วยเหลือกัน แต่ตอนนี้พวกเจ้าทั้งสองติดอยู่ในกับดัก ทะเลทรายหมื่นรูปปั้นถูกทิ้งร้างไว้โดยไม่มีคนดูแลผู้อมตะของวังสวรรค์จะไปที่นั่น อา…ถูกต้อง ข้าสงสัยว่าเจ้านวังหมื่นรูปปั้นมาด้วยหรือไม่? มันคงน่าเสียดายหากเจ้าทิ้งมันไว้ที่ทะเลทรายหมื่นรูปปั้น”

 

ค่ากล่าวของหว่านหงซื่อเป็นการคุกคามและเป็นการตรวจสอบ

 

อย่างไรก็ตามฟางหยวนรู้เรื่องนี้ บรรพชนหมื่นเปลี่ยนแปลงถูกสร้างขึ้นจากวังหมื่นรูปปั้น แล้วมันจะไม่อยู่ที่นี่ได้อย่างไร

 

แม้วังสวรรค์จะส่งผู้อมตะไปยังทะเลทรายหมื่นรูปปั้น พวกเขาก็จะไม่ได้รับสิ่งใด

 

แต่การแสดงออกของบรรพชนพันเปลี่ยนกลับเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาตะโกน “วังสวรรค์ของเจ้ายังกล่าเรียกตนเองว่าผู้นําของมนุษยชาตและเป็นฝ่ายธรรมะอีกงั้นหรือ? การกระทําของพวกเจ้าชั่วร้ายยิ่งกว่าปีศาจ!”

 

กระทั่งฟางหยวนก็ยังต้องยกย่องทักษะการแสดงของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง

 

บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงไม่สามารถปกปิดความจริงได้นานนัก แม้เทพธิดาจอเว่ยจะไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่นางจะสามารถสรุปความจริงได้ในไม่ช้า

 

วังสวรรค์ยังมีท่าไม้ตายอมตะพลิกคว่าสวรรค์พิภพ พวกเขายังเป็นฝ่ายได้เปรียบ

 

หว่านชื่อหงกล่าว “ข้าจะเป็นคนโจมตีหลักในการต่อสู้ครั้งนี้ พวกเจ้าทั้งสองคอยสนับสนุนข้า”

 

นางออกคําสั่งองค์ชายฟงเซียนและซิงเย่หว่าน

 

หว่านชื่อหงมีความอาวุโสมากที่สุด นอกจากนั้นนางยังแข็งแกร่งที่สุดเช่นกัน

 

ท่าไม้ตายอมตะกลีบดอกไม้สีเลือด

 

หว่านชื่อหงเริ่มโจมตี

 

เลือดไหลออกมาจากร่างของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงและกลายเป็นกลีบดอกไม้สีเลือดจํานวนนับไม่ถ้วน

 

บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงบินออกจากค่ายกลวิญญาณอมตะเพื่อตอบโต้

 

บรรพชนหมื่นเปลี่ยนแปลงไม่ได้ติดตามไปแต่อยู่ปกป้องค่ายกลวิญญาณอมตะ

 

หว่านชื่อฟงล่าถอยอย่างช้าๆขณะที่องค์ชายฟงเซียนและซิงเย่หวังบินออกไปปิดกั้นบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง

 

หว่านซื้อหงเย้ยหยันและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะเหี่ยวแห้งอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยง

 

กลีบดอกไม้ร่วงหล่นลงจากอากาศและทําลายการโจมตีของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง

 

“บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงรับความตาย!” หว่านชื่อหงชี้นิ้วออกไป

 

ท่าไม้ตายอมตะดอกไม้สีเหลืองทําให้ชีวิตจบสิ้น!

 

การแสดงออกของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงเปลี่ยนไป ร่างกายของเขาเริ่มชุดผอม อายุขัยของเขาลดลงอย่างรวดเร็ว

 

ท่าไม้ตายอมตะดอกไม้สีเหลืองทําให้ชีวิตจบสิ้นเป็นไพ่ตายของหว่านชื่อหง แม้มันจะเป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งไม้แต่มันส่งผลกระทบต่ออายุขัย

 

บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงถูกบังคับให้ล่าถอย

 

ซึ่งเย่หวังกับองค์ชายฟงเซียนไล่ล่า บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงต้องใช้วังหมื่นรูปปั้นรับมือศัตรูอย่างไม่มีทางเลือก

 

บรรพชนหมื่นเปลี่ยนแปลงเข้ามาช่วย

 

หว่านชื่อฟงใช้ท่าไม้ตายอมตะดอกไม้สีเลืองทําให้ชีวิตจบสิ้นอีกครั้ง

 

ร่างกายของบรรพชนหมื่นเปลี่ยนแปลงซูดผอมลง แต่มันถูกสร้างขึ้นจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะ มันไม่มีอายุขัย

 

แม้บรรพชนหมื่นเปลี่ยนแปลงจะสูญเสียพละกําลังและอยู่ในสภาพที่น่าสังเวชแต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่

 

อย่างไรก็ตามบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงกําลังพบปัญหา เขาไม่สามารถทําลายท่าไม้ตายนี้

 

ท่าไม้ตายของหว่านชื่อหงน่ากลัวเกินไป สิ่งนี้ทําให้นางสามารถเข้าร่วมกับวังสวรรค์แม้นางจะเคยเป็นปีศาจอมตะมาก่อนก็ตาม

 

ในชีวิตก่อนหน้าหว่านชื่อหงขาดวิญญาณอมตะ ดังนั้นนางจึงไม่สามารถปลดปล่อยความสามารถที่แท้จริงออกมา

 

อย่างไรก็ตามแม้หว่านชื่อหงจะสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะดอกไม้สีเหลืองทําให้ชีวิตจบสิ้นแต่ใบหน้าของนางยังกลายเป็นซีดขาว เห็นได้ชัดว่านางต้องจ่ายด้วยราคามหาศาลเช่นกัน

 

บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงตะโกนด้วยความกังวล “ฟางหยวน หากเจ้าไม่เคลื่อนไหวตอนนี้ มันจะสายเกินไป หากข้าล้มลง เจ้าจะไม่สามารถหลบหนีเช่นกัน!”

 

“บีม บีม บีม!”

 

ฟางหยวนเคลื่อนไหว แต่เขาไม่ได้สนับสนุนบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง ตรงข้าม เขาโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง!

 

โดยปราศจากผู้อมตะคอยควบคุม ค่ายกลวิญญาณอมตะจึงถูกทําลายลงในพริบตา

 

ดวงตาของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงแทบสามารถพ่นไฟออกมา “ฟางหยวน คนสารเลว!”

 

เขาตะโกนด้วยความโกรธ

 

ฟางหยวนไม่โจมตีผู้อมตะของวังสวรรค์แต่กลับโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง นี่มันมากเกินไป เขากําลังทําสิ่งใดอยู่ บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงเต็มไปด้วยความโกรธและสับสน

 

บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงมีพันธมิตรเช่นนี้ กระทั่งสามผู้อมตะของวังสวรรค์ยังรู้สึกสงสาร

 

ฟางหยวนปล้นสะดมวิญญาณอมตะจากค่ายกลวิญญาณอมตะของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง จากนั้นเขาก็คว้าวิญญาณอมตะกลายพันธุ์ระดับแปด นางหงหยุน และอาณาจักรแห่งความฝันไปทั้งหมด

 

“ฟางหยวน เจ้าหัวขโมย บัดซบ!” ดวงตาของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงกลายเป็นแดง เขาต้องการฆ่าฟางหยวนทันที

 

หลังจากฟางหยวนได้รับสิ่งที่เขาต้องการ เขาก็บังคับเรือรบหมื่นปีบินจากไป

 

บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงไล่ล่าโดยไม่ยอมแพ้

 

ฟางหยวนรังแกเขามากเกินไป

 

ความเร็วของบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงไม่สามารถเปรียบเทียบกับเรือรบหมื่นปี แต่วังสวรรค์ใช้ท่าไม้ตายอมตะพลิกคว่าสวรรค์พิภพขัดขวางฟางหยวน

 

สามผู้อมตะของวังสวรรค์ชะลอการโจมตีของพวกเขาและปล่อยให้บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงต่อสู้กับฟางหยวน

 

“ฟางหยวนตาบอดเพราะผลประโยชน์ เขาเปลี่ยนบรรพชนพันเปลี่ยนแปลงให้เป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่”

 

“แต่ข้ารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ นี่ไม่ใช่นิสัยของฟางหยวน หากข้าเป็นเขา ข้าจะไม่ทําสิ่งนี้”

 

“เดี๋ยว! เขาขโมยวิญญาณอมตะระดับแปดเพราะเขามีวิธีหลบหนีแล้วงั้นหรือ? นี่คือเหตุผลที่เขาไม่กลัว! เราต้องระวัง!”

 

สามผู้อมตะของวังสวรรค์ลอบพูดคุยและเริ่มตื่นตระหนก

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+