Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1894 ลงและขึ้น

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1894 ลงและขึ้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1894 ลงและขึ้น

 

ฟางหยวนพาเซียหลินไปยังหมู่บ้านชาวประมงและพบผู้น่าหมู่บ้าน

 

เมื่อพวกเขาพบกัน ฟางหยวนค้นวิญญาณผู้นําหมู่บ้านทันที ผู้นําหมู่บ้านตกอยู่ในภวังค์ชั่วขณะก่อนจะฟื้นคีนสติโดยไม่มีข้อสงสัย

 

ฟางหยวนเปรียบเทียบข้อมูลกับชีวิตก่อนหน้าและพบว่าไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง

 

เช่นเดียวกับชีวิตก่อนหน้า เขายังใช้ตัวตนผู้ใช้วิญญาณพเนจรเพื่อติดต่อมนุษย์เหล่านี้

 

ก่อนอื่นเขาทําทายผู้ใช้วิญญาณของหมู่บ้านและเอาชนะทุกคนได้อย่างง่ายดาย ต่อมาเขามอบวิญญาณ เปลือกหอยวารีและเคล็ดลับการหลอมรวมมันให้กับพวกเขา

 

ชาวบ้านรู้สึกซาบซึ้งมาก

 

จากนั้นฟางหยวนก็พาพวกเขาด่าลงไปใต้ทะเล เพื่อฝึกฝนวิธีใช้วิญญาณเปลือกหอยวารีและสอนวิธีบรรเทาอาการกัดกร่อนของน้ํามันดิบ

 

ระหว่างกระบวนการเหล่านี้ ฟางหยวนให้ความสําคัญกับการสั่งสอนเซี่ยหลินเป็นพิเศษ

 

ชีวิตก่อนหน้าเขามอบวิญญาณให้เซียหลินเท่านั้น แต่ชีวิตนี้เขาต้องการเลี้ยงดูนางอย่างเหมาะสม เขาใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาเพื่อส่งข้อมูลเข้าสู่จิตใจของนางโดยตรง ในเวลาเดียวกันเขาก็ช่วยแก้ไขข้อผิดพลาดมากมายของนาง

 

ฟางหยวนไม่ได้อยู่ที่หมู่บ้านชาวประมงนานนัก เมื่อเขาจากมา ชาวบ้านทั้งหมดคุกเข่าลง

 

เซียหลินต้องการติดตามฟางหยวนแต่เขาปฏิเสธ “เราจะได้พบกันอีกในอนาคต”

 

เซี่ยหลินไม่สามารถทําสิ่งใดและทําได้เพียงหลั่งน้ําตาขณะเฝ้ามองฟางหยวนหายตัวไปเท่านั้น

 

ฟางหยวนกลับมาที่หอคอยเกียรติยศ แต้มบุญของเขาเพิ่มขึ้นสิบแต้ม

 

ภารกิจเริ่มต้นของหอคอยเกียรติยศเป็นภารกิจระดับต่ํา แต้มบุญสูงสุดที่สามารถได้รับคือสิบแต้ม

 

ครั้งนี้ฟางหยวนรวบรวมน้ํามันดิบและสอนวิธีรวบรวมน้ํามันดิบให้กับชาวบ้านทําให้พวกเขาสามารถดํารงชีวิตอยู่ต่อไป เขาทําภารกิจนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

ตอนนี้เฉินกงเจิ้งและคนอื่นๆถูกส่งออกไปปฏิบัติภารกิจ มีเพียงคนเดียวที่อยู่ที่หอคอยเกียรติยศ

 

เขาคือเสี่ยวหมิงเฉิน

 

เมียวหมิงเฉินมองหอคอยเกียรติยศและรู้สึกถึงความเชื่อมโยงลึกลับบางอย่าง แต่เขาไม่รู้ว่ามันคือสิ่งใดและ จะใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างไร

 

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้นเมื่อเห็นสิ่งนี้

 

วิธีการของเทพอมตะสวรรค์พิภพลึกลับมาก เขาไม่ทิ้งร่องรอยใดๆเอาไว้ราวกับมันเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

 

ผู้อมตะไม่สามารถต่อสู้กันและไม่สามารถทําร้ายชนพื้นเมืองของที่นี่

 

อย่างไรก็ตามมีความข้อยกเว้นอยู่ในกฏนี้

 

ตัวอย่างเช่นฟางหยวนสามารถค้นวิญญาณผู้นําหมู่บ้านชาวประมง และให้ความรู้มากมายแก่เซี่ยหลินผ่านวิธีบนเส้นทางแห่งปัญญา

 

นี่ไม่ถือเป็นการโจมตีงั้นหรือ?

 

แน่นอนว่าเป็น

 

แต่ฟางหยวนไม่มีเจตนาร้าย เขาพยายามช่วยคนเหล่านั้น ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ถูกจํากัดโดยกฏดังกล่าว

 

อย่างไรก็ตามหากฟางหยวนมีเจตนาร้าย วิธีการเหล่านั้นจะไม่สามารถใช้งาน เขาต้องเผชิญหน้ากับผลกระทบย้อนกลับจากความล้มเหลว

 

อีกตัวอย่างหนึ่งคือการเก็บรวบรวมน้ํามันดิบ

 

น้ํามันดิบส่วนเกินถูกเก็บไว้ในมิติช่องว่างของฟางหยวน

 

โดยทั่วไปแล้วนอกจากทรัพยากรอมตะบนเกาะเริ่มต้น ผู้อมตะภายนอกไม่สามารถนําทรัพยากรอื่นๆเข้าไปในมิติช่องว่างของตน

 

แต่ฟางหยวนนําน้ํามันดิบเก็บไว้ในมิติช่องว่างเพื่อทําภารกิจให้สําเร็จ ด้วยการลดปริมาณร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ของสถานที่แห่งนั้น มันจะช่วยให้ทรัพยากรอื่นสามารถเติบโตขึ้น

นี่เป็นเรื่องที่ดีต่อสภาพแวดล้อมของเกาะ ดังนั้นมันจึงไม่ถูกจํากัดโดยกฎ

 

ฟางหยวนไม่เพียงทําภารกิจสําเร็จ แต่เขายังได้รับน้ํามันดิบส่วนหนึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาได้กําไรมากกว่าคนอื่นๆ

 

มีภารกิจมากมายอยู่บนหอคอยเกียรติยศแต่มันมีความแตกต่างระหว่างภารกิจ

 

ในชีวิตก่อนหน้า เสี่ยวหมิงเฉินและคนอื่นๆ ค้นพบความลับมากมาย แต่ตอนนี้พวกมันกลายเป็นข้อมูลที่มีเพียงฟางหยวนเท่านั้นที่ล่วงรู้

 

ฟางหยวนค่อยๆเดินเข้าไปหาหอคอยเกียรติยศ

 

เสียงฝีเท้าของเขาขัดจังหวะความคิดของเมียวหมิงเฉิน เขาหันหลังกลับและตกตะลึงเมื่อเห็นฟางหยวน “ชูอึ้ง!”

 

ฟางหยวนยิ้ม “พี่เมี่ยว ความเชื่อมต่อระหว่างท่านกับหอคอยเกียรติยศอ่อนแอเกินไป การเชื่อมต่อดังกล่าวมีไว้เพียงเพื่อค้นหาสถานที่แห่งนี้เท่านั้น มันไม่มีประโยชน์กับที่นี่ ข้าขอแนะนําให้ท่านทําภารกิจให้สําเร็จและสะสมแต้มบุญ”

 

ทัศนคติของฟางหยวนทําให้เสี่ยวหมิงเฉินประหลาดใจ

 

หลังจากทั้งหมดเขาเห็นฟางหยวนเพิกเฉยต่อเฉินตันและเฉินกงเจ๋งด้วยตาของตนเอง

 

เขาให้ความสนใจกับคํากล่าวของฟางหยวนและรู้สึกตกใจ เขารู้เกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างข้ากับหอคอยเกียรติยศ! นี่เป็นความลับที่ข้าไม่เคยเปิดเผย เขารู้ได้อย่างไร? เว้นเพียงเขาจะเป็นเหมือนข้าและสามารถสัมผัสตําแหน่งของวาฬมังกรฟ้าหรือบางทีเขาอาจไม่รู้ตําแหน่งแต่มีความเชื่อมโยงในรูปแบบอื่น?

 

เมียวหมิงเฉินมองฟางหยวนด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่เขาไม่ได้เปิดปากถาม

 

ฟางหยวนแสดงท่าที่ยโสต่อหน้าเฉินกงเจิ้ง มันไม่มีประโยชน์ที่เสี่ยวหมิงเฉินจะบังคับเขา

หากเขาต้องการบอกข้า เขาจะเป็นฝ่ายเปิดปากกล่าว หากข้าพยายามถาม ข้าจะไม่ได้รับสิ่งใดเลย” เมี่ยวหมิงเฉินลอบถอนหายใจอยู่ภายใน

 

ฟางหยวนเดินผ่านเขาและชี้นิ้วไปยังข้อความที่อยู่บนหอคอยเกียรติยศ “ท่านควรรับภารกิจนี้ มันค่อนข้างเหมาะสมกับท่าน ทําภารกิจและสะสมแต้มบุญ มันไม่ใช่การทําความดีแบบผิวเผิน การสอนให้คนจับปลาดีกว่าการจับปลาให้พวกเขา”

 

หัวใจของเสี่ยวหมิงเฉินสั่นสะท้านขึ้น เขากลืนน้ําลายก่อนจะกล่าวสองค่า “ขอบคุณ”

 

“ด้วยความยินดี” ฟางหยวนยิ้ม

 

การให้คําแนะนําบางอย่างแก่เยี่ยวหมิงเฉินไม่ใช่เรื่องทั่วไป

 

ด้านหนึ่ง มันเป็นการหว่านความแตกร้าว อีกด้านหนึ่ง เขาต้องการเตรียมการบางอย่างที่จะส่งผลกระทบต่อ ทะเลตะวันออก

 

ความลับเกี่ยวกับความสามารถของเสี่ยวหมิงเฉินถูกประกาศออกมาในชีวิตห้าร้อยปีของฟางหยวน

 

เสี่ยวหมิงเฉินค่อนข้างมีชื่อเสียงในกลุ่มผู้บ่มเพาะสันโดษของทะเลตะวันออก หากเขาถูกบังคับให้เข้าสู่ทางตันโดยเฉินกงเจิ้ง มีความเป็นไปได้ที่บรรพชนทะเลปราณหรืออู่ส่วยจะสามารถรับเขาเข้าร่วม

 

ฟางหยวนไม่รีบรับภารกิจแต่เดินไปอีกด้านหนึ่งของหอคอยเกียรติยศและแลกเปลี่ยนสมบัติ

 

ในชั่วพริบตา แต้มบุญที่เกินร้อยแต้มของเขาก็ลดลงเหลือเพียงหลักเดียว มันตกลงจากอันดับแรกลงสู่อัน ดับสุดท้าย

 

เมื่อเมียวหมิงเฉินเห็นเหตุการณ์นี้ เขาเต็มไปด้วยความสงสัย “ชูอิงใช้แต้มบุญนับร้อยแต้มแลกเปลี่ยนสิ่งใด?

 

ฟางหยวนรับภารกิจและหายตัวไปอีกครั้ง

 

เสี่ยวหมิงเฉินเดินไปยังอีกด้านหนึ่งของหอคอยเกียรติยศเพื่อตรวจสอบสิ่งที่ฟางหยวนแลกเปลี่ยน

 

แต่มันไม่ใช่เรื่องง่าย หลังจากทั้งหมดมีสมบัติอยู่มากเกินไป

 

“ชูอิงจงใจแสดงความปรารถนาดีต่อข้าก่อนหน้านี้เพื่อให้ข้าช่วยเขาซ่อนข้อมูลนี้หรือไม่? เมี่ยวหมิงเฉินคิด แต่เขาก็ส่ายศีรษะอย่างรวดเร็ว

 

แต้มบุญของฟางหยวนปรากฏอยู่บนหอคอยเกียรติยศ มันไม่สามารถเก็บซ่อน ในไม่ช้าผู้อมตะคนอื่นๆจะค้นพบมัน

 

ด้วยแสงสีขาวที่ส่องประกายขึ้น ฟางหยวนถูกส่งไปยังก้นทะเล

 

น้ําทะเลขุ่นมัว ทรายปั่นป่วน กิ่งก่าเพลิงยักษ์กําลังก่อความวุ่นวายขึ้น

 

กิ้งก่าเพลิงตัวนี้ไม่มีเกล็ดศีรษะของมันใหญ่แต่ร่างกายแบนราบ แขนขาของมันหนาและสัน มันมีหนวดเหมือนกรงเล็บพยัคฆ์ เหงือกของมันส่องประกาย ฟันและกรงเล็บของมันแหลมคมมาก

 

นี่คือสัตว์อสูรเดียวดาย ราชันกิ่งก่าเพลิงพยัคฆ์

 

ภารกิจของฟางหยวนคือการปราบปรามมัน

 

ฟางหยวนไม่รีบร้อนดําเนินการ เขาสํารวจสภาพแวดล้อมเป็นอันดับแรก

 

ไม่นานเขาก็ขมวดคิ้วเพราะเขาไม่สามารถหาสาเหตุในการอาละวาดของราชนกิ่งก่าเพลิงพยัคฆ์ ร่างกายและจิตใจของมันไม่มีสิ่งผิดปกติ แต่มันกลับคลุ้มคลั่งและทําลายสภาพแวดล้อมอย่างป่าเถื่อน

 

ไม่เพียงเท่านั้นมันยังทําร้ายตัวเอง

 

หลังจากทดลองโจมตี ฟางหยวนค้นพบอีกว่าพลังการต่อสู้ของราชันกิ่งก่าเพลิงพยัคฆ์ตัวนี้บรรลุถึงระดับสัตว์อสูรบรรพกาล

 

“นี่เป็นสถานการณ์เดียวกับที่กลุ่มของเสี่ยวหมิงเฉินพบในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนลอบถอนหายใจ

 

ในชีวิตก่อนหน้า เขาทําภารกิจที่เกี่ยวกับเซียหลินเป็นส่วนใหญ่ เขาไม่พบสิ่งนี้ หลังจากทดลองรับภารกิจนี้ เขาพบว่าเขาไม่สามารถมองเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ของมัน

 

แท้จริงแล้วราชันกิ่งก่าเพลิงพยัคฆ์มีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก

 

มันกินเกลือและทราย นั่นทําให้น้ําทะเลบริสุทธิ์

 

บริเวณที่ราชันกิ่งก่าเพลิงพยัคฆ์อาศัยอยู่ น้ําทะเลสามารถดื่มได้โดยตรง

 

หากเป็นไปได้ฟางหยวนจะไม่ฆ่าราชันกิ่งก่าเพลิงพยัคฆ์ตัวนี้ หากเขาทําสามารถให้มันสงบลง เขาจะได้รับแต้มบุญมากขึ้น

 

แต่สถานการณ์ปัจจุบันเห็นได้ชัดว่ามันเป็นไปไม่ได้

 

ฟางหยวนไม่มีทางเลือกนอกจากต้องฆ่ามัน

 

ศพของราชนกิ่งก่าเพลิงพยัคฆ์ถือเป็นกําไรของฟางหยวน เขาสามารถเก็บมันไว้ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่เหรินซิ่วผิงถูกส่งกลับไปยังหอคอยเกียรติยศ

 

คนกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันอยู่ที่นี่ก่อนแล้ว

 

เมื่อพวกเขาเห็นการมาถึงของเหรินซิ่วฝั่ง เฉินเซียวก็เปิดปากกล่าว “ยินดีด้วยน้องเหริน ตอนนี้อันดับของเจ้าอยู่บนจุดสูงสุดของหอคอยเกียรติยศแล้ว”

 

“อา…นี่เป็นไปได้อย่างไร?” เหรินซิ่วผิงไม่เชื่อในตอนแรกแต่หลังจากเห็นมันด้วยตาของตนเอง เขาทั้งประหลาดใจและยินดี

 

ชื่อของเขาอยู่ในอันดับหนึ่ง กระทั่งเฉินกงเจิ้งก็ยังเป็นเพียงที่สอง

 

ใบหน้าของเฉินกงเพิ่งค่อนข้างมืดมนเล็กน้อย

 

เหรินซิ่วผิงมองเฉินกงเจิ้งอย่างระมัดระวัง เขาสามารถเอาชนะผู้อมตะระดับแปดแต่มันก็ทําให้เขารู้สึกกังวลเล็กน้อย

 

เฉินกงเจิ้งมองเหรินซิ่วผิง

 

เหรินซิ่วผิงเร่งป้องหมัดและโค้งคํานับ “นายท่าน”

 

เฉินกงเจิ้งพยักหน้า “เหรินซิ่วผิง ในความคิดเห็นของเจ้า ชูอิงแลกเปลี่ยนสิ่งใดที่ท่าให้อันดับของเขาตกลงไปอยู่ในอันดับสุดท้าย?”

 

เหรินซิ่วผิงปืนงงก่อนที่เขาจะตระหนักว่าชื่อของฟางหยวนอยู่ในอันดับสุดท้าย เขาขมวดคิ้ว “ชูองยอมสละแต้มบุญของเขา แน่นอนว่าสิ่งที่เขาแลกเปลี่ยนต้องมีประโยชน์มากสําหรับเขา”

 

หากมันมีประโยชน์กับเขา มันก็ควรมีประโยชน์กับคนอื่นๆเช่นกัน

 

แต่มันคือสิ่งใด?

 

กลุ่มผู้อมตะพูดคุยกันมาระยะหนึ่งแล้ว

 

ด้วยแสงสีขาว ฟางหยวนปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าทุกคนอีกครั้ง

 

ในเวลาเดียวกันอันดับของเขาบนหอคอยเกียรติยศก็พุ่งขึ้นสู่อันดับหนึ่งอีกครั้ง

 

ชูอิง เก้าสิบแปดแต้ม!

 

กลุ่มผู้อมตะกลายเป็นพูดไม่ออก

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 1894 ลงและขึ้น

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 1894 ลงและขึ้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1894 ลงและขึ้น

 

ฟางหยวนพาเซียหลินไปยังหมู่บ้านชาวประมงและพบผู้น่าหมู่บ้าน

 

เมื่อพวกเขาพบกัน ฟางหยวนค้นวิญญาณผู้นําหมู่บ้านทันที ผู้นําหมู่บ้านตกอยู่ในภวังค์ชั่วขณะก่อนจะฟื้นคีนสติโดยไม่มีข้อสงสัย

 

ฟางหยวนเปรียบเทียบข้อมูลกับชีวิตก่อนหน้าและพบว่าไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง

 

เช่นเดียวกับชีวิตก่อนหน้า เขายังใช้ตัวตนผู้ใช้วิญญาณพเนจรเพื่อติดต่อมนุษย์เหล่านี้

 

ก่อนอื่นเขาทําทายผู้ใช้วิญญาณของหมู่บ้านและเอาชนะทุกคนได้อย่างง่ายดาย ต่อมาเขามอบวิญญาณ เปลือกหอยวารีและเคล็ดลับการหลอมรวมมันให้กับพวกเขา

 

ชาวบ้านรู้สึกซาบซึ้งมาก

 

จากนั้นฟางหยวนก็พาพวกเขาด่าลงไปใต้ทะเล เพื่อฝึกฝนวิธีใช้วิญญาณเปลือกหอยวารีและสอนวิธีบรรเทาอาการกัดกร่อนของน้ํามันดิบ

 

ระหว่างกระบวนการเหล่านี้ ฟางหยวนให้ความสําคัญกับการสั่งสอนเซี่ยหลินเป็นพิเศษ

 

ชีวิตก่อนหน้าเขามอบวิญญาณให้เซียหลินเท่านั้น แต่ชีวิตนี้เขาต้องการเลี้ยงดูนางอย่างเหมาะสม เขาใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาเพื่อส่งข้อมูลเข้าสู่จิตใจของนางโดยตรง ในเวลาเดียวกันเขาก็ช่วยแก้ไขข้อผิดพลาดมากมายของนาง

 

ฟางหยวนไม่ได้อยู่ที่หมู่บ้านชาวประมงนานนัก เมื่อเขาจากมา ชาวบ้านทั้งหมดคุกเข่าลง

 

เซียหลินต้องการติดตามฟางหยวนแต่เขาปฏิเสธ “เราจะได้พบกันอีกในอนาคต”

 

เซี่ยหลินไม่สามารถทําสิ่งใดและทําได้เพียงหลั่งน้ําตาขณะเฝ้ามองฟางหยวนหายตัวไปเท่านั้น

 

ฟางหยวนกลับมาที่หอคอยเกียรติยศ แต้มบุญของเขาเพิ่มขึ้นสิบแต้ม

 

ภารกิจเริ่มต้นของหอคอยเกียรติยศเป็นภารกิจระดับต่ํา แต้มบุญสูงสุดที่สามารถได้รับคือสิบแต้ม

 

ครั้งนี้ฟางหยวนรวบรวมน้ํามันดิบและสอนวิธีรวบรวมน้ํามันดิบให้กับชาวบ้านทําให้พวกเขาสามารถดํารงชีวิตอยู่ต่อไป เขาทําภารกิจนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

ตอนนี้เฉินกงเจิ้งและคนอื่นๆถูกส่งออกไปปฏิบัติภารกิจ มีเพียงคนเดียวที่อยู่ที่หอคอยเกียรติยศ

 

เขาคือเสี่ยวหมิงเฉิน

 

เมียวหมิงเฉินมองหอคอยเกียรติยศและรู้สึกถึงความเชื่อมโยงลึกลับบางอย่าง แต่เขาไม่รู้ว่ามันคือสิ่งใดและ จะใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างไร

 

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้นเมื่อเห็นสิ่งนี้

 

วิธีการของเทพอมตะสวรรค์พิภพลึกลับมาก เขาไม่ทิ้งร่องรอยใดๆเอาไว้ราวกับมันเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

 

ผู้อมตะไม่สามารถต่อสู้กันและไม่สามารถทําร้ายชนพื้นเมืองของที่นี่

 

อย่างไรก็ตามมีความข้อยกเว้นอยู่ในกฏนี้

 

ตัวอย่างเช่นฟางหยวนสามารถค้นวิญญาณผู้นําหมู่บ้านชาวประมง และให้ความรู้มากมายแก่เซี่ยหลินผ่านวิธีบนเส้นทางแห่งปัญญา

 

นี่ไม่ถือเป็นการโจมตีงั้นหรือ?

 

แน่นอนว่าเป็น

 

แต่ฟางหยวนไม่มีเจตนาร้าย เขาพยายามช่วยคนเหล่านั้น ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ถูกจํากัดโดยกฏดังกล่าว

 

อย่างไรก็ตามหากฟางหยวนมีเจตนาร้าย วิธีการเหล่านั้นจะไม่สามารถใช้งาน เขาต้องเผชิญหน้ากับผลกระทบย้อนกลับจากความล้มเหลว

 

อีกตัวอย่างหนึ่งคือการเก็บรวบรวมน้ํามันดิบ

 

น้ํามันดิบส่วนเกินถูกเก็บไว้ในมิติช่องว่างของฟางหยวน

 

โดยทั่วไปแล้วนอกจากทรัพยากรอมตะบนเกาะเริ่มต้น ผู้อมตะภายนอกไม่สามารถนําทรัพยากรอื่นๆเข้าไปในมิติช่องว่างของตน

 

แต่ฟางหยวนนําน้ํามันดิบเก็บไว้ในมิติช่องว่างเพื่อทําภารกิจให้สําเร็จ ด้วยการลดปริมาณร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ของสถานที่แห่งนั้น มันจะช่วยให้ทรัพยากรอื่นสามารถเติบโตขึ้น

นี่เป็นเรื่องที่ดีต่อสภาพแวดล้อมของเกาะ ดังนั้นมันจึงไม่ถูกจํากัดโดยกฎ

 

ฟางหยวนไม่เพียงทําภารกิจสําเร็จ แต่เขายังได้รับน้ํามันดิบส่วนหนึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาได้กําไรมากกว่าคนอื่นๆ

 

มีภารกิจมากมายอยู่บนหอคอยเกียรติยศแต่มันมีความแตกต่างระหว่างภารกิจ

 

ในชีวิตก่อนหน้า เสี่ยวหมิงเฉินและคนอื่นๆ ค้นพบความลับมากมาย แต่ตอนนี้พวกมันกลายเป็นข้อมูลที่มีเพียงฟางหยวนเท่านั้นที่ล่วงรู้

 

ฟางหยวนค่อยๆเดินเข้าไปหาหอคอยเกียรติยศ

 

เสียงฝีเท้าของเขาขัดจังหวะความคิดของเมียวหมิงเฉิน เขาหันหลังกลับและตกตะลึงเมื่อเห็นฟางหยวน “ชูอึ้ง!”

 

ฟางหยวนยิ้ม “พี่เมี่ยว ความเชื่อมต่อระหว่างท่านกับหอคอยเกียรติยศอ่อนแอเกินไป การเชื่อมต่อดังกล่าวมีไว้เพียงเพื่อค้นหาสถานที่แห่งนี้เท่านั้น มันไม่มีประโยชน์กับที่นี่ ข้าขอแนะนําให้ท่านทําภารกิจให้สําเร็จและสะสมแต้มบุญ”

 

ทัศนคติของฟางหยวนทําให้เสี่ยวหมิงเฉินประหลาดใจ

 

หลังจากทั้งหมดเขาเห็นฟางหยวนเพิกเฉยต่อเฉินตันและเฉินกงเจ๋งด้วยตาของตนเอง

 

เขาให้ความสนใจกับคํากล่าวของฟางหยวนและรู้สึกตกใจ เขารู้เกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างข้ากับหอคอยเกียรติยศ! นี่เป็นความลับที่ข้าไม่เคยเปิดเผย เขารู้ได้อย่างไร? เว้นเพียงเขาจะเป็นเหมือนข้าและสามารถสัมผัสตําแหน่งของวาฬมังกรฟ้าหรือบางทีเขาอาจไม่รู้ตําแหน่งแต่มีความเชื่อมโยงในรูปแบบอื่น?

 

เมียวหมิงเฉินมองฟางหยวนด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่เขาไม่ได้เปิดปากถาม

 

ฟางหยวนแสดงท่าที่ยโสต่อหน้าเฉินกงเจิ้ง มันไม่มีประโยชน์ที่เสี่ยวหมิงเฉินจะบังคับเขา

หากเขาต้องการบอกข้า เขาจะเป็นฝ่ายเปิดปากกล่าว หากข้าพยายามถาม ข้าจะไม่ได้รับสิ่งใดเลย” เมี่ยวหมิงเฉินลอบถอนหายใจอยู่ภายใน

 

ฟางหยวนเดินผ่านเขาและชี้นิ้วไปยังข้อความที่อยู่บนหอคอยเกียรติยศ “ท่านควรรับภารกิจนี้ มันค่อนข้างเหมาะสมกับท่าน ทําภารกิจและสะสมแต้มบุญ มันไม่ใช่การทําความดีแบบผิวเผิน การสอนให้คนจับปลาดีกว่าการจับปลาให้พวกเขา”

 

หัวใจของเสี่ยวหมิงเฉินสั่นสะท้านขึ้น เขากลืนน้ําลายก่อนจะกล่าวสองค่า “ขอบคุณ”

 

“ด้วยความยินดี” ฟางหยวนยิ้ม

 

การให้คําแนะนําบางอย่างแก่เยี่ยวหมิงเฉินไม่ใช่เรื่องทั่วไป

 

ด้านหนึ่ง มันเป็นการหว่านความแตกร้าว อีกด้านหนึ่ง เขาต้องการเตรียมการบางอย่างที่จะส่งผลกระทบต่อ ทะเลตะวันออก

 

ความลับเกี่ยวกับความสามารถของเสี่ยวหมิงเฉินถูกประกาศออกมาในชีวิตห้าร้อยปีของฟางหยวน

 

เสี่ยวหมิงเฉินค่อนข้างมีชื่อเสียงในกลุ่มผู้บ่มเพาะสันโดษของทะเลตะวันออก หากเขาถูกบังคับให้เข้าสู่ทางตันโดยเฉินกงเจิ้ง มีความเป็นไปได้ที่บรรพชนทะเลปราณหรืออู่ส่วยจะสามารถรับเขาเข้าร่วม

 

ฟางหยวนไม่รีบรับภารกิจแต่เดินไปอีกด้านหนึ่งของหอคอยเกียรติยศและแลกเปลี่ยนสมบัติ

 

ในชั่วพริบตา แต้มบุญที่เกินร้อยแต้มของเขาก็ลดลงเหลือเพียงหลักเดียว มันตกลงจากอันดับแรกลงสู่อัน ดับสุดท้าย

 

เมื่อเมียวหมิงเฉินเห็นเหตุการณ์นี้ เขาเต็มไปด้วยความสงสัย “ชูอิงใช้แต้มบุญนับร้อยแต้มแลกเปลี่ยนสิ่งใด?

 

ฟางหยวนรับภารกิจและหายตัวไปอีกครั้ง

 

เสี่ยวหมิงเฉินเดินไปยังอีกด้านหนึ่งของหอคอยเกียรติยศเพื่อตรวจสอบสิ่งที่ฟางหยวนแลกเปลี่ยน

 

แต่มันไม่ใช่เรื่องง่าย หลังจากทั้งหมดมีสมบัติอยู่มากเกินไป

 

“ชูอิงจงใจแสดงความปรารถนาดีต่อข้าก่อนหน้านี้เพื่อให้ข้าช่วยเขาซ่อนข้อมูลนี้หรือไม่? เมี่ยวหมิงเฉินคิด แต่เขาก็ส่ายศีรษะอย่างรวดเร็ว

 

แต้มบุญของฟางหยวนปรากฏอยู่บนหอคอยเกียรติยศ มันไม่สามารถเก็บซ่อน ในไม่ช้าผู้อมตะคนอื่นๆจะค้นพบมัน

 

ด้วยแสงสีขาวที่ส่องประกายขึ้น ฟางหยวนถูกส่งไปยังก้นทะเล

 

น้ําทะเลขุ่นมัว ทรายปั่นป่วน กิ่งก่าเพลิงยักษ์กําลังก่อความวุ่นวายขึ้น

 

กิ้งก่าเพลิงตัวนี้ไม่มีเกล็ดศีรษะของมันใหญ่แต่ร่างกายแบนราบ แขนขาของมันหนาและสัน มันมีหนวดเหมือนกรงเล็บพยัคฆ์ เหงือกของมันส่องประกาย ฟันและกรงเล็บของมันแหลมคมมาก

 

นี่คือสัตว์อสูรเดียวดาย ราชันกิ่งก่าเพลิงพยัคฆ์

 

ภารกิจของฟางหยวนคือการปราบปรามมัน

 

ฟางหยวนไม่รีบร้อนดําเนินการ เขาสํารวจสภาพแวดล้อมเป็นอันดับแรก

 

ไม่นานเขาก็ขมวดคิ้วเพราะเขาไม่สามารถหาสาเหตุในการอาละวาดของราชนกิ่งก่าเพลิงพยัคฆ์ ร่างกายและจิตใจของมันไม่มีสิ่งผิดปกติ แต่มันกลับคลุ้มคลั่งและทําลายสภาพแวดล้อมอย่างป่าเถื่อน

 

ไม่เพียงเท่านั้นมันยังทําร้ายตัวเอง

 

หลังจากทดลองโจมตี ฟางหยวนค้นพบอีกว่าพลังการต่อสู้ของราชันกิ่งก่าเพลิงพยัคฆ์ตัวนี้บรรลุถึงระดับสัตว์อสูรบรรพกาล

 

“นี่เป็นสถานการณ์เดียวกับที่กลุ่มของเสี่ยวหมิงเฉินพบในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนลอบถอนหายใจ

 

ในชีวิตก่อนหน้า เขาทําภารกิจที่เกี่ยวกับเซียหลินเป็นส่วนใหญ่ เขาไม่พบสิ่งนี้ หลังจากทดลองรับภารกิจนี้ เขาพบว่าเขาไม่สามารถมองเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ของมัน

 

แท้จริงแล้วราชันกิ่งก่าเพลิงพยัคฆ์มีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก

 

มันกินเกลือและทราย นั่นทําให้น้ําทะเลบริสุทธิ์

 

บริเวณที่ราชันกิ่งก่าเพลิงพยัคฆ์อาศัยอยู่ น้ําทะเลสามารถดื่มได้โดยตรง

 

หากเป็นไปได้ฟางหยวนจะไม่ฆ่าราชันกิ่งก่าเพลิงพยัคฆ์ตัวนี้ หากเขาทําสามารถให้มันสงบลง เขาจะได้รับแต้มบุญมากขึ้น

 

แต่สถานการณ์ปัจจุบันเห็นได้ชัดว่ามันเป็นไปไม่ได้

 

ฟางหยวนไม่มีทางเลือกนอกจากต้องฆ่ามัน

 

ศพของราชนกิ่งก่าเพลิงพยัคฆ์ถือเป็นกําไรของฟางหยวน เขาสามารถเก็บมันไว้ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่เหรินซิ่วผิงถูกส่งกลับไปยังหอคอยเกียรติยศ

 

คนกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันอยู่ที่นี่ก่อนแล้ว

 

เมื่อพวกเขาเห็นการมาถึงของเหรินซิ่วฝั่ง เฉินเซียวก็เปิดปากกล่าว “ยินดีด้วยน้องเหริน ตอนนี้อันดับของเจ้าอยู่บนจุดสูงสุดของหอคอยเกียรติยศแล้ว”

 

“อา…นี่เป็นไปได้อย่างไร?” เหรินซิ่วผิงไม่เชื่อในตอนแรกแต่หลังจากเห็นมันด้วยตาของตนเอง เขาทั้งประหลาดใจและยินดี

 

ชื่อของเขาอยู่ในอันดับหนึ่ง กระทั่งเฉินกงเจิ้งก็ยังเป็นเพียงที่สอง

 

ใบหน้าของเฉินกงเพิ่งค่อนข้างมืดมนเล็กน้อย

 

เหรินซิ่วผิงมองเฉินกงเจิ้งอย่างระมัดระวัง เขาสามารถเอาชนะผู้อมตะระดับแปดแต่มันก็ทําให้เขารู้สึกกังวลเล็กน้อย

 

เฉินกงเจิ้งมองเหรินซิ่วผิง

 

เหรินซิ่วผิงเร่งป้องหมัดและโค้งคํานับ “นายท่าน”

 

เฉินกงเจิ้งพยักหน้า “เหรินซิ่วผิง ในความคิดเห็นของเจ้า ชูอิงแลกเปลี่ยนสิ่งใดที่ท่าให้อันดับของเขาตกลงไปอยู่ในอันดับสุดท้าย?”

 

เหรินซิ่วผิงปืนงงก่อนที่เขาจะตระหนักว่าชื่อของฟางหยวนอยู่ในอันดับสุดท้าย เขาขมวดคิ้ว “ชูองยอมสละแต้มบุญของเขา แน่นอนว่าสิ่งที่เขาแลกเปลี่ยนต้องมีประโยชน์มากสําหรับเขา”

 

หากมันมีประโยชน์กับเขา มันก็ควรมีประโยชน์กับคนอื่นๆเช่นกัน

 

แต่มันคือสิ่งใด?

 

กลุ่มผู้อมตะพูดคุยกันมาระยะหนึ่งแล้ว

 

ด้วยแสงสีขาว ฟางหยวนปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าทุกคนอีกครั้ง

 

ในเวลาเดียวกันอันดับของเขาบนหอคอยเกียรติยศก็พุ่งขึ้นสู่อันดับหนึ่งอีกครั้ง

 

ชูอิง เก้าสิบแปดแต้ม!

 

กลุ่มผู้อมตะกลายเป็นพูดไม่ออก

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+