Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 948

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 948 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

วิญญาณทัศนคติ

แปลโดย iPAT 

 

ภาคกลาง วังสวรรค์

 

แสงสีเงินส่องประกายจากหอคอยที่ตั้งตระหง่านขึ้นสู่ท้องฟ้า

 

มันคือคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่มีชื่อเสียงที่ถูกสร้างขึ้นโดยเทพอมตะกลุ่มดาว หอคอยดวงตาสวรรค์!

 

มีค่ายกลวิญญาณบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมอยู่รอบๆหอคอยหลังนี้พร้อมกับสี่ผู้อมตะระดับแปด

 

ผู้อมตะทั้งสี่ผ่อนลมหายใจและค่อยๆ สงบจิตใจลง

 

ผู้อมตะเหลียนจิ่วเฉิงไม่สามารถประคองร่างกายให้ยืนอยู่ได้และล้มลงบนพื้นด้วยความอ่อนแรง

 

คนอื่นๆ ก็ไม่ได้ดีไปกว่าเขา

 

ศีรษะของผู้อมตะเพ่ยกังซุ้ยเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อขณะที่ผู้อมตะไป่เฉินเทียนหน้าซีดเผือด

 

ใบหน้าของเจ้าวังกลายเป็นแก่ชรายิ่งกว่าเดิม

 

คนทั้งสี่ล้วนเป็นตัวละครที่ยิ่งใหญ่ของภาคกลางหรือกระทั่งห้าภูมิภาค

 

แต่ในเวลานี้พวกเขากลับอยู่ในสภาพที่น่าอนาถหลังจากทำงานหนักมาตลอดสามร้อยวันโดยไม่ได้พักผ่อน

 

ท้ายที่สุดแล้วการฟื้นฟูวิญญาณโชคชะตาระดับเก้าก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

 

ขั้นตอนสำคัญในการฟื้นฟูวิญญาณโชคชะตาคือการดึงดูดเจตจำนงสวรรค์

 

หากเปรียบเทียบกับเจตจำนงสวรรค์ มนุษย์ก็ไม่ต่างจากมดปลวกที่ไร้นัยสำคัญ ดังนั้นผู้อมตะทั้งสี่จึงต้องอดทนต่อความยากลำบากและรักษาสติของตนให้แจ่มชัดอยู่ตลอดเวลา หลังจากหลายร้อยวัน พวกเขาจึงประสบความสำเร็จในที่สุด

 

“ดี! ครั้งนี้เราประสบความสำเร็ขอย่างมากในการฟื้นฟูวิญญาณโชคชะตา” เจ้าวังมองไปยังวิญญาณโชคชะตาที่ลอยอยู่ตรงกลาง

 

วิญญาณโชคชะตาอยู่ในรูปลักษณ์ของแมงมุมสีขาวดำ ตอนนี้บาดแผลบนร่างของมันลดลงไปถึงสามสิบส่วน

 

“ในที่สุดก็สำเร็จ” ไป่เฉินเทียนถอนหายใจ

 

“ตอนนี้เราสามารถใช้พลังอำนาจของมันได้ห้าสิบส่วน มันจะเริ่มส่งอิทธิพลบางอย่างทันที” เหลียนจิ่วเฉิงตื่นเต้นมาก

 

“ส่งอิทธิพล?” เพ่ยกังซุ้ยสงสัย

 

เจ้าวังกล่าวด้วยรอยยิ้ม “อิทธิพลของวิญญาณโชคชะตาก็คือชะตากรรมของสิ่งมีชีวิต เจ้าต้องรู้ว่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกใบนี้มีเส้นทางที่ถูกกำหนดเอาไว้แล้วตั้งแต่กำเนิด พวกเขาหรือพวกมันไม่ได้รับอนุญาตให้ก้าวออกจากเส้นทางสายนี้ แต่หลังจากเทพปีศาจบัวแดงทำให้วิญญาณโชคชะตาได้รับบาดเจ็บสาหัส โลกใบนี้จึงเกิดความโกลาหล ตอนนี้เมื่อวิญญาณโชคชะตาฟื้นฟูขึ้น ทุกคนจะเริ่มกลับสู่เส้นทางเดิมของตนเอง!”

 

…..

 

ภาคเหนือ นางมารผลาญสวรรค์กล่าวเงื่อนไขของนาง

 

หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ฟางหยวนตอบรับ

 

สำหรับเงื่อนไขข้อสุดท้าย เขาไม่ได้ปฏิเสธนางมารผลาญสวรรค์โดยตรง แต่บอกว่าจะพยายามติดต่อราชันภูเขาม่วง อย่างไรก็ตามอาจารย์ของเขาจะปรากฏตัวหรือไม่ นั่นเป็นการตัดสินใจของเขาเอง

 

นางมารผลาญสวรรค์เข้าใจเรื่องนี้

 

หลังจากทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลง บรรยากาศจึงเริ่มผ่อนคลายลง

 

สัญญาพันธมิตรที่สร้างขึ้นใหม่เป็นเรื่องยากที่จะทำลาย ฟางหยวนใช้ประสบการณ์ทั้งหมดเพื่อปิดช่องโหว่และเพิ่มความยากลำบากในการละเมิดข้อตกลง

 

ฟางหยวนคาดเดาว่าแม้เทพธิดาหลี่ซานจะเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งข้อมูล นางก็ยังต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองหรือสามปีหากต้องการทำลายมัน

 

แต่ในความเป็นจริงความสำเร็จของเทพธิดาหลี่ซานไม่ถึงระดับปรมาจารย์เอก

 

หลังจากทำสัญญาใหม่ ฟางหยวนรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นและส่งมอบวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเองคืนให้กับไห่ลั่วหลัน

 

แม้เขาจะสูญเสียวิญญาณอมตะแต่ฟางหยวนยังพอใจกับผลลัพธ์

 

แท้จริงแล้วนางมารผลาญสวรรค์ไม่ได้เอาเปรียบในการเจรจาครั้งนี้

 

แน่นอนว่าหากฟางหยวนปฏิเสธที่จะส่งมอบวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเอง นั่นจะกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

 

หลังจากทั้งหมดมันถือเป็นการแลกเปลี่ยนที่ยุติธรรม ฟางหยวนกระทั่งสามารถทำกำไร

 

นางมารผลาญสวรรค์ไม่ได้ฉกฉวยแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงดาว ภูเขาตงฮัน หรือวิญญาณท่องแดนอมตะ นางไม่ได้กล่าวถึงแม้แต่วิญญาณอมตะช่วงเวลาแห่งโชคของเทพธิดาหลี่ซานที่อยู่กับฟางหยวน

 

สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่านางมีความจริงใจที่จะสร้างความร่วมมือกับฟางหยวน

 

หลังจากทั้งหมดฟางหยวนได้รับการสนับสนุนจากราชันภูเขาม่วง นี่คือสิ่งที่นางมารผลาญสวรรค์คิด

 

ไห่ลั่วหลันสามารถปรับแต่งวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเองได้อย่างง่ายดายภายใต้ความช่วยเหลือจากฟางหยวน

 

ในที่สุดไห่ลั่วหลันก็ถอนหายใจขณะทดลองใช้วิญญาณอมตะของนาง

 

ภูตมนุษย์สามร่างปรากฏขึ้นทันที

 

แต่มันไม่ได้อยู่ในรูปลักษณ์ของชายอ้วนที่ดูหยาบกระด่างเหมือนก่อนหน้า ตรงข้ามพวกมันอยู่ในร่างหญิงงามเหมือนไห่ลั่วหลัน

 

เทพธิดาหลี่ซานมีความสุขมาก “ในที่สุดเจ้าก็สามารถแก้ปมในใจและค้นพบตัวตนที่แท้จริงของตัวเจ้าเอง”

 

ไห่ลั่วหลันพยักหน้าด้วยความยินดี

 

หลังจากสังหารไห่เจิ้ง นางรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายมาก มันเหมือนกับนางได้รับชีวิตใหม่

 

ภูตมนุษย์บนเส้นทางความแข็งแกร่งที่ปรากฏขึ้นคือข้อพิสูจน์

 

ไห่ลั่วหลันหัวเราะและหันหน้าไปทางนางมารผลาญสวรรค์ “ท่านป้าใหญ่ ไม่ใช่ว่าท่านต้องการมรดกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของไห่ฟานเช่นนั้นหรือ? ข้าจะช่วยท่านเอง”

 

ร่างของนางมารผลาญสวรรค์สั่นสะท้านขึ้นด้วยความตื่นเต้นเมื่อนางได้ยินหลานสาวเรียกว่าป้าใหญ่

 

นางมารผลาญสวรรค์รู้ว่าไห่ลั่วหลันเกลียดนางเพราะนางเป็นต้นเหตุที่ทำให้ซูเซียนเอ๋อต้องตาย

 

ไห่ลั่วหลันกล่าวต่อ “หลังจากนี้ข้าจะกลับไปยังเผ่าไห่และสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับมรดกของไห่ฟาน!”

 

“ไม่!” นางมารผลาญสวรรค์กับเทพธิดาหลี่ซานอุทานพร้อมกัน

 

คำกล่าวของไห่ลั่วหลันทำให้พวกนางตกใจมาก

 

นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ซูเซียนเอ๋อเสียชีวิต แต่ตอนนี้ไห่ลั่วหลันกลับต้องการเดินตามรอยของมารดา แล้วป้าทั้งสองของนางจะปล่อยให้โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นอีกครั้งได้อย่างไร

 

“อย่ากังวล ข้าวางแผนมานานแล้ว”

 

ไห่ลั่วหลันกล่าวอย่างใจเย็น “ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสี่ของเผ่าไห่ไม่สามารถออกจากที่มั่นของพวกเขาได้โดยง่าย ไห่เจิ้งเสียชีวิต นี่จะทำให้ชื่อเสียงของพวกเขาลดลง กองกำลังอื่นจะร่วมมือกันเพื่อโค่นล้มเผ่าไห่ ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบัน พวกเขาไม่สามารถรักษาทรัพยากรของเผ่า นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยาก ข้าจะกลับเข้าสู่เผ่าไห่และยึดอำนาจสูงสุด ถึงเวลาแล้วที่กองกำลังนี้จะมีผู้นำคนใหม่!”

 

ไห่ลั่วหลันมีความทะเยอทะยานสูงมาก กระทั่งฟางหยวนยังรู้สึกตกใจกับเป้าหมายของนาง

 

ปีศาจอมตะเซี่ยหูต้องแทรกซึมเข้าไปในเผ่าไห่ระหว่างช่วงเวลาโกลาหล แต่ไห่ลั่วหลันกลับต้องการยึดครองเผ่าไห่โดยตรง

 

“นั่นอันตรายเกินไป” เทพธิดาหลี่ซานส่ายศีรษะ

 

“ข้าจะไม่อนุญาต” นางมารผลาญสวรรค์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่เปิดโอกาสให้ฝ่ายตรงข้ามปฏิเสธ

 

ไห่ลั่วหลันมองป้าของนางและเผยรอยยิ้ม “ข้ารู้ว่าพวกท่านเป็นห่วงข้า แต่ข้าเกรงว่าพวกท่านจะคิดผิด นี่คือการตัดสินใจของข้า มันไม่ใช่การขออนุญาต หากพวกท่านไม่สนใจ พวกท่านไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมกับข้า แต่ไม่ว่าอย่างไรพวกท่านก็ไม่สามารถห้ามข้า”

 

เทพธิดาหลี่ซานกับนางมารผลาญสวรรค์กลายเป็นพูดไม่ออก

 

ไห่ลั่วหลันรู้ว่ามันยากที่จะบรรลุเป้าหมายด้วยตัวนางเอง แต่หากนางได้รับความช่วยเหลือจากป้าทั้งสองรวมถึงฟางหยวน มีโอกาสสูงมากที่นางจะประสบความสำเร็จ

 

“เอาล่ะ ข้าจะมอบความมั่นใจให้กับพวกท่าน” ไห่ลั่วหลันกล่าวก่อนจะถอดหน้ากากบนใบหน้าของนางออกมา

 

หน้ากากในมือของนางปลดปล่อยกลิ่นอายวิญญาณอมตะออกมาทันที

 

“วิญญาณทัศนคติ?” เทพธิดาหลี่ซานจ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้าง

 

ฟางหยวนมองหน้ากากอย่างจริงจัง

 

วิญญาณทัศนคติอยู่ในตำนานมนุษย์คนแรก

 

มันยังเป็นหนึ่งในวิญญาณที่ฟางหยวนกำลังตามหา

 

นั่นเป็นเพราะวิญญาณทัศนคติเป็นแกนกลางของท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย

 

ฟางหยวนมีท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คลุมเครืออยู่แล้ว หากเขาเพิ่มวิญญาณทัศนคติเข้าไป การปลอมตัวของเขาจะยกระดับขึ้นอีกขั้น

 

นางมารผลาญสวรรค์กล่าวด้วยความงุนงง “วิญญาณทัศนคติเคยอยู่ในมือของไห่ฟาน เขามอบมันให้บุตรสาว ไห่เฟิงอวี๋ แต่นางเป็นเด็กนิสัยเสียที่สวมวิญญาณทัศนคติท่องเที่ยวไปทั่ว เมื่อไปถึงทุ่งน้ำแข็ง นางตกเป็นเหยื่อของผู้อมตะลึกลับ สุดท้ายวิญญาณทัศนคติจึงสูญหายไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา”

 

ริมฝีปากของไห่ลั่วหลันม้วนตัวขึ้นเป็นรอยยิ้ม “ถูกต้อง ข้าได้รับวิญญาณทัศนคติมาจากทุ่งน้ำแข็ง”

 

เทพธิดาหลี่ซานเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น “เสี่ยวหลัน เจ้าไปทุ่งน้ำแข็งตั้งแต่เมื่อใด…หรือว่า…”

 

“ถูกต้อง ข้าตั้งใจไปยังทุ่งน้ำแข็งเพื่อก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเพราะข้าได้รับเบาะแสเกี่ยวกับวิญญาณทัศนคติ วิธีเดียวที่ข้าจะสามารถกำหราบวิญญาณทัศนคติก็คือหยิบยืมพลังอำนาจจากภัยพิบัติของข้า ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าจะไม่กล่าวถึงรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเหล่านั้น” ไห่ลั่วหลันอธิบาย

 

เทพธิดาหลี่ซานรู้สึกประหลาดใจ

 

นางประเมินไห่ลั่วหลันต่ำเกินไป นี่ทำให้นางเกิดความรู้สึกซับซ้อน ทั้งสุขและหดหู่

 

ไม่มีผู้ใดรู้ว่าไห่ลั่วหลันครอบครองวิญญาณทัศนคติและนางก็ไม่เคยบอกผู้ใด กระทั่งเทพธิดาหลี่ซานก็ยังถูกขังอยู่ในที่มืด

 

‘เด็กคนนี้โตแล้วจริงๆ’ นางมารผลาญสวรรค์ลอบถอนหายใจ

 

ไห่ลั่วหลันสวมหน้ากากกลับไปอย่างเงียบๆ “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปข้าจะใช้ชื่อว่าเทพธิดาจันทร์ทมิฬ!”

 

นางมารผลาญสวรรค์หัวเราะและปรบมือ “ยอดเยี่ยม! ด้วยวิญญาณทัศนคติ การยึดครองเผ่าไห่จะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน!”

 

ฟางหยวนตกใจมาก

 

‘ไห่ลั่วหลันคือเทพธิดาจันทร์ทมิฬ!?’

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด