Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 987

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 987 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 987 ม่านหมอกดารา

แปลโดย iPAT 

 

ทะเลตะวันออก

 

ซ่งเจียตันนั่งอยู่บนหน้าผาด้วยดวงตาที่ปิดสนิท

 

ร่างกายส่วนล่างของเขาเป็นหินสีเทาที่เชื่อมต่อกับพื้น

 

ทันใดนั้นเขาพลันเปิดเปลือกตาขึ้นเมื่อตระหนักถึงป้ายคำสั่งของผู้อมตะระดับแปดซ่งฉีหยวน

 

ด้วยความตั้งใจของซ่งเจียตัน เส้นทางถูกเปิดออก

 

หลังจากชั่วครู่ สองร่างจึงเดินเข้ามา

 

หนึ่งเป็นผู้อมตะชายและอีกหนึ่งเป็นผู้อมตะหญิง

 

ผู้อมตะหญิงวัยเยาว์อยู่ในชุดคลุมสีขาว ดวงตากระจ่างชัด ใบหน้าเต็มไปด้วยชีวิตชีวา นางเดินมาพร้อมกับผู้อมตะชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง

 

“ท่านลุงเจียตัน!” ซ่งอี้ซื่อกรีดร้องมาจากระยะไกล

 

ซ่งเจียตันพยายามเผยรอยยิ้มแต่ใบหน้าของเขาแทบไม่สามารถขยับเขยื้อน

 

เขาบ่มเพาะอยู่บนเส้นทางแห่งปัญญา ร่างกายของเขาหลอมรวมเข้ากับพื้นพิภพและสามารถอนุมานทุกสิ่งในทะเลตะวันออก

 

แต่ข้อดีมักมาพร้อมกับข้อเสีย ซ่งเจียตันสูญเสียอิสรภาพและไม่สามารถออกจากสถานที่แห่งนี้ เมื่ออายุขัยของเขาหมดสิ้น ร่างกายทั้งหมดของเขาจะกลายเป็นหินไปอย่างสมบูรณ์

 

ในที่สุดซ่งเจียตันก็ทำได้เพียงส่งเสียงออกมาจากลำคอด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก “เสี่ยวซื่อ เซี่ยฉี นานแล้วไม่ได้พบกัน”

 

แขกสองคนที่มาพบซ่งเจียตันก็คือซ่งอี้ซื่อกับซ่งเซี่ยฉี

 

“ท่านลุงเจียตัน นี่คือป้ายคำสั่งของท่านปู่ โปรดตรวจสอบ” ซ่งอี้ซื่อส่งป้ายคำสั่งให้ซ่งเจียตัน

 

ซ่งเจียตันตรวจสอบอย่างละเอียดและพยักหน้าเบาๆ “ครั้งนี้พวกเจ้าต้องการให้ข้าอนุมานสิ่งใด?”

 

ซ่งเซี่ยฉีตอบ “มันเกี่ยวกับการรับสืบทอดมรดกของเฒ่าสายฟ้าเทียนหนานที่ผาสวรรค์”

 

ซ่งเจียตันคิดก่อนกล่าว “ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งห้วงมิติที่ผาสวรรค์ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ข้าไม่สามารถไปที่นั่นด้วยตนเอง ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถอนุมานเส้นทางที่ถูกต้อง แต่ตระกูลช่ายกับตระกูลหรัวเล่ยไม่มีผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ทรงพลัง ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าจะประสบความสำเร็จหลังจากใช้วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของข้า”

 

ซ่งอี้ซื่อเผยรอยยิ้มบาง “ท่านลุงเจียตัน มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นที่ผาสวรรค์”

 

“โอ้?”

 

ซ่งอี้ซื่อเร่งเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

ซ่งเจียตันเข้าใจเจตนาของซ่งอี้ซื่อกับซ่งเซี่ยฉีทันที “ดังนั้นพวกเจ้าจึงต้องการว่าจ้างผู้อมตะความคิดดาราผู้นี้เพื่อให้ตระกูลซ่งได้รับมรดก”

 

“ถูกต้อง ผู้อมตะความคิดดาราไม่ได้เป็นสมาชิกของกองกำลังพันธมิตรผีดิบ เขาเป็นเพียงสหายของไท่เป่ยหยุนเฉิงที่มาจากภาคเหนือ ตั้งแต่เขาสามารถทำงานให้กองกำลังพันธมิตรผีดิบ มันย่อมเป็นไปได้ที่พวกเราจะว่าจ้างเขา เขามีความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาที่น่าอัศจรรย์ หากเราล่าช้า อีกสองตระกูลอาจชิงลงมือก่อนขณะที่สถานการณ์ของพวกเราจะเลวร้ายลง” ซ่งอี้ซื่อกล่าว

 

“พวกเจ้ามาที่นี่เพื่อขอให้ข้าอนุมานเกี่ยวกับผู้อมตะความคิดดาราผู้นี้ใช่หรือไม่?” ซ่งเจียตันถามต่อ

 

ซ่งอี้ซื่อพยักหน้า “ท่านลุง เราไม่สามารถซ่อนสิ่งใดจากท่านได้จริงๆ ถูกต้อง หากเราต้องการว่าจ้างผู้อมตะความคิดดารา เราจำเป็นต้องรู้เบื้องหลังของเขา สิ่งสำคัญก็คือเขาเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา หากเขาคิดร้ายต่อตระกูลซ่ง พวกเราจะสูญเสียใบหน้า ดังนั้นครั้งนี้ท่านลุงต้องกำหราบคนผู้นี้!”

 

ซ่งเจียตันรู้สึกลังเล “แต่ผู้อมตะความคิดดาราเฉินเต๋าสามารถทำลายผนึกที่ข้าใช้กับฉลามปีศาจ นอกจากนั้นเขายังทำผลงานได้ดีที่ผาสวรรค์ ทั้งหมดแสดงให้เห็นว่าเขาไม่เพียงมีความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาแต่เขายังมีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา ตามประเพณีของพวกเราผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา มันเป็นการเสียมารยาท หากข้าอนุมานเกี่ยวกับเขา เขาจะรู้ตัวทันที บางทีมันอาจจะเป็นการดึงดูดความเกลียดชังจากอีกฝ่ายและสร้างศัตรูที่แข็งแกร่งโดยไม่ได้ตั้งใจ”

 

ในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนปลอมตัวเป็นซ่งซิงซื่อ เนื่องจากเขาแอบมองซ่งอี้ซื่อขณะอาบน้ำ ซ่งเจียตันจึงอนุมานเกี่ยวกับเขา

 

ในชีวิตนี้ ฟางหยวนปลอมตัวเป็นผู้อมตะความคิดดาราเฉินเต๋า เขาไม่ได้ทำสิ่งผิดพลาดใดๆ สิ่งสำคัญที่สุดเขามีความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาที่น่าทึ่ง นี่ทำให้ซ่งเจียตันไม่กล้าอนุมานเกี่ยวกับเขา

 

ซ่งอี้ซื่อกับซ่งเซี่ยฉีมองหน้ากันก่อนที่คนหลังจะเปิดปากกล่าว “ทุกสิ่งมีสองด้านเสมอ มันขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคน ก่อนมาที่นี่เราได้ปรึกษากับผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งและสองเรียบร้อยแล้ว เจียตัน เจ้าอย่าได้กังวลและเพียงทำมันเท่านั้น”

 

ซ่งเจียตันพยักหน้า แม้เขาจะเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา แต่เขาไม่ใช่ผู้ตัดสินใจเรื่องต่างของกองกำลัง

 

ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลอีกต่อไป

 

เขาเตรียมตัวชั่วครู่ก่อนจะเริ่มอนุมาน

 

ไม่นานหลังจากนั้นเขาจึงเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้งด้วยใบหน้าที่อ่อนล้า “ข้าไม่สามารถอนุมานสิ่งใดเลย”

 

“กระไรนะ! ท่านลุงเป็นหนึ่งในสามผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยอดเยี่ยมที่สุดของทะเลตะวันออก แล้วท่านจะล้มเหลวได้อย่างไร?”

 

“เฉินเต๋าผู้นี้ช่างน่าอัศจรรย์นัก เขาสามารถต่อต้านเจียตันจริงๆ!”

 

ซ่งอี้ซื่อและซ่งเซี่ยฉีตกใจมาก

 

ซ่งเจียตันส่ายศีรษะ “ความสามารถของมนุษย์มีขีดจำกัดขณะที่เจตจำนงสวรรค์ไม่อาจคาดเดา บางทีเฉินเต๋าผู้นี้อาจเชี่ยวชาญการป้องกันตัวและมีวิธีต่อต้านการอนุมานของข้าหรือบางทีเขาอาจไม่ได้อยู่ที่ทะเลตะวันออกในเวลานี้”

 

“ไม่ได้อยู่ที่ทะเลตะวันออก แล้วเขาอยู่ที่ใด? ยังอีกนานก่อนที่คลื่นยักษ์จะพัดมาอีกครั้ง”

 

“มิติช่องว่างของผู้อมตะคือโลกใบเล็กที่แยกออกจากโลกภายนอกอย่างสมบูรณ์ ข้าเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดเท่านั้น ไม่แปลกหากข้าจะไม่สามารถอนุมานสิ่งใดเลย”

 

“เป็นเช่นนั้น” ซ่งอี้ซื่อพึมพำด้วยความผิดหวัง

 

ซ่งเจียตันกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนแปลงไป “สิ่งที่ข้ากังวลมากกว่าก็คือผาสวรรค์เชื่อมต่อกับสวรรค์สีขาวและสวรรค์สีดำ มันเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญและมีหลายกองกำลังที่ต้องการ แม้นางมารผลาญสวรรค์จะจากไปแล้ว แต่เราก็ไม่สามารถเอาชนะนาง สิ่งนี้จะดึงดูดความโลภของผู้คน เราต้องระวังตัวให้มากขึ้น แม้คนนอกจะไม่สามารถเข้าแทรกแซงได้โดยตรง แต่พวกเขายังสามารถใช้อิทธิพลสร้างปัญหาให้กับพวกเรา เรื่องนี้อันตรายกว่าที่เราคิด”

 

“เจ้ากล่าวได้ถูกต้องแล้ว” ซ่งเซี่ยฉีพยักหน้าเห็นด้วย

 

ซ่งอี้ซื่อแสดงออกด้วยความกังวล

 

“แทนที่จะอนุมานเกี่ยวกับผู้อมตะความคิดดาราเฉินเต๋า เราควรอนุมานเรื่องนี้ ตราบเท่าที่พวกเจ้าทำตามคำแนะนำของข้า พวกเราจะได้รับชัยชนะ นอกจากนั้นเรายังสามารถหลอกใช้ปีศาจอมตะและผู้บ่มเพาะสันโดษเพื่อต่อต้านตระกูลช่ายและตระกูลหรัวเล่ยอีกด้วย” ซ่งเจียตันกล่าวด้วยความมั่นใจ

 

…..

 

ภาคกลาง แดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู

 

“ม่านหมอกดารา!”

 

ฟางหยวนกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะของเขา

 

กลุ่มเมฆหมอกที่เกิดจากแสงดาวลอยออกมาจากมิติช่องว่างของฟางหยวนและปกคลุมร่างกายของเขาเอาไว้ทั้งหมด

 

“ในที่สุดข้าก็สามารถอนุมานท่าไม้ตายอมตะม่านหมอกดาราฉบับดัดแปลงได้สำเร็จ!”

 

ม่านหมอกดาราสามารถป้องกันการอนุมานของผู้อื่น

 

หลังจากเจรจากับนางมารผลาญสวรรค์ ฟางหยวนกลับมายังแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูและใช้แสงแห่งปัญญาแก้ไขท่าไม้ตายอมตะม่านหมอกดารา

 

ท่าไม้ตายอมตะม่านหมอกดาราฉบับดั่งเดิมมีแกนกลางสองดวง หนึ่งในนั้นคือวิญญาณอมตะความคิดดารา

 

สำหรับท่าไม้ตายฉบับปรับปรุง มันยังใช้วิญญาณอมตะสองดวงเป็นแกนกลาง หนึ่งคือวิญญาณอมตะความคิดดารา และอีกหนึ่งคือวิญญาณอมตะคลี่คลายปริศนา

 

เมื่อฟางหยวนกลายเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญา เขาจึงสามารถใช้วิญญาณอมตะคลี่คลายปริศนาได้ดีขึ้น

 

‘การเดินทางไปยังผาสวรรค์ทำให้ชื่อเสียงของผู้อมตะความคิดดาราเฉินเต๋าแพร่กระจายไปในโลกผู้อมตะของทะเลตะวันออก ตอนนี้หลายคนกำลังพยายามอนุมานเกี่ยวกับตัวข้า ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยสามารถปกปิดรูปลักษณ์ของข้าแต่ไม่สามารถป้องกันการอนุมาน ด้วยท่าไม้ตายอมตะม่านหมอกดารา มันจะทำให้ข้าปลอดภัยมากขึ้น’ ฟางหยวนคิด

 

แน่นอนว่าพลังอำนาจของท่าไม้ตายอมตะม่านหมอกดารายังมีขีดจำกัด

 

ประการแรก มันสามารถป้องกันการอนุมานเท่านั้นแต่ไม่สามารถป้องกันการโจมตีทางกายภาพ

 

ประการที่สอง แกนหลักของมันเป็นเพียงวิญญาณอมตะระดับหก หากเผชิญหน้ากับการอนุมานจากผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งปัญญา มันจะต่อต้านได้เพียงชั่วครู่ก่อนจะพังทลายลง

 

แต่ท่าไม้ตายอมตะม่านหมอกดาราไม่จำเป็นต้องกระตุ้นใช้งานตลอดเวลา ตราบเท่าที่กลุ่มเมฆหมอกแสงดาวยังอยู่ มันก็สามารถปกป้องเขา

 

‘ม่านหมอกดาราเต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งดวงดาวและเส้นทางแห่งปัญญา แม้ซ่งเจียตันจะอนุมานข้าแต่ม่านหมอกดารายังสามารถปิดกั้นเขาได้ชั่วขณะและทำให้ข้ามีเวลาใช้วิญญาณท่องแดนอมตะเพื่อซ่อนตัวในแดนศักดิ์สิทธิ์’

 

แดนศักดิ์สิทธิ์คือโลกใบเล็กที่แยกจากโลกภายนอกอย่างสมบูรณ์ กระทั่งผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งปัญญาก็ไม่สามารถอนุมานสิ่งใดหากเป้าหมายอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์

 

แรกเริ่มฟางหยวนคิดค้นท่าไม้ตายเขตแดนสนามรบจิตวิญญาณดารา ต่อมาเขาสร้างท่าไม้ตายอมตะม่านหมอกดารา นี่ทำให้จุดอ่อนสองข้อของเขาถูกกำจัดออกไป

 

จากนั้นฟางหยวนจึงมุ่งเน้นไปที่การหลอมรวมวิญญาณอมตะระเบิดพลัง ขณะเดียวกันเขาก็รอชมการแสดงของนางมารผลาญสวรรค์

 

‘ในชีวิตก่อนหน้านางมารผลาญสวรรค์ประสบความสำเร็จในการผลักฉลามปีศาจกับซูไป่ม่านออกไป แต่เนื่องจากจังหวะเวลาที่ไม่ดีทำให้นางต้องเดินทางไปยังภาคเหนือ ครั้งนี้ด้วยอิทธิพลของข้า นางจึงสามารถดำเนินการได้เร็วขึ้น เรายังมีความหวังที่จะได้รับผลประโยชน์จากแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่ ข้าหวังว่ามันจะไม่น่าผิดหวังเช่นอาณาจักรแห่งความฝันของเทพอมตะกลุ่มดาว’

 

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนได้รับประโยชน์มหาศาลจากการผ่านฉากที่หนึ่งและสองในอาณาจักรแห่งความฝันของเทพอมตะกลุ่มดาว

 

อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านฉากที่สาม ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาและเส้นทางแห่งดวงดาวของเขากลับยังอยู่ในระดับปรมาจารย์เช่นเดิม

 

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือฟางหยวนไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในฉากที่สาม มันแปลกเกินไปโดยเฉพาะบทเพลงของเทพอมตะกลุ่มดาวที่เขาแทบไม่สามารถจดจำ

 

วันเวลาผ่านไป

 

ในที่สุดนางมารผลาญสวรรค์ก็ใช้โป้ตันเป็นเครื่องมือเพื่อขับไล่ฉลามปีศาจกับซูไป่ม่านออกจากเส้นทาง

 

ฟางหยวนไม่ได้เข้าร่วมในครั้งนี้

 

เขาเคลื่อนไหวเพียงเมื่อนางมารผลาญสวรรค์บุกแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่

 

เพื่อคลี่คลายเขตแดนกองทัพที่ไม่สามารถเคลื่อนย้าย ฟางหยวนต้องทุ่มเทพลังจิตและพลังงานอมตะจำนวนมาก แต่สุดท้ายพวกเขาก็สามารถยึดครองแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่ได้อย่างสมบูรณ์

 

“มีวิญญาณอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งเพียงดวงเดียว อย่าแม้แต่จะคิดเพราะข้าจะมอบมันเป็นของขวัญให้แก่เสี่ยวหลัน ตามข้อตกลง เจ้าจะได้รับวิญญาณอมตะระดับหกจำนวนสองดวง แต่วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งดวงดาวดวงนี้เป็นหนึ่งในสิบวิญญาณอมตะที่ลึกลับที่สุด มันมีค่ามาก หากเจ้าเลือกมัน เจ้าจะไม่ได้รับวิญญาณอมตะดวงที่สอง” นางมารผลาญสวรรค์กล่าวกับฟางหยวน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด