Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน 995

Now you are reading Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน Chapter 995 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 995 วิญญาณดาบแห่งปัญญา

แปลโดย iPAT 

 

วิญญาณอมตะดวงหนึ่งลอยออกมา

 

‘มันคือ…วิญญาณคิ้วดาบ?’ ฟางหยวนคิด

 

นี่คือข้อมูลที่เขาได้รับจากฟงจินฮวง

 

โป้ชิงมีวิญญาณอมตะระดับเจ็ดดวงหนึ่งชื่อวิญญาณคิ้วดาบ มันไม่ใช่วิญญาณสายต่อสู้แต่เป็นวิญญาณที่ช่วยในการบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งดาบ

 

เมื่อผู้อมตะใช้มัน คิ้วของพวกเขาจะถูกเคลือบคลุมไปด้วยพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งดาบ

 

พลังงานแห่งเต๋าเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มพูนพลังอำนาจของวิญญาณ

 

‘วิญญาณอมตะดวงนี้ล้ำค่ามาก มันเหมาะสมกับข้าที่ไม่มีพื้นฐานบนเส้นทางแห่งดาบแม้แต่น้อย’ ฟางหยวนใช้กลิ่นอายของโม่เหยาจับวิญญาณอมตะดวงนี้เอาไว้อย่างระมัดระวัง

 

ถัดไปเป็นวิญญาณอมตะดวงที่สาม

 

วิญญาณอมตะดวงนี้ยิ่งพิเศษมากกว่า

 

เมื่อมันปรากฏขึ้น มันเต้นรำไปรอบๆฟางหยวน

 

มันเหมือนของเหลวที่อ่อนนุ่ม แต่ฟางหยวนรู้สึกราวกับผิวหนังของเขาถูกกรีดเฉือนตลอดเวลา

 

หลังจากไตร่ตรอง ฟางหยวนคิดว่ามันคือวิญญาณอมตะคลื่นดาบระดับเจ็ด

 

ตามบันทึกประวัติศาสตร์ของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ โป้ชิงพยายามผลักดันให้วิญญาณคลื่นดาบก้าวเข้าสู่ระดับแปด แต่เขาล้มเหลว

 

ความล้มเหลวในการหลอมรวมวิญญาณอมตะทำให้โป้ชิงได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะที่วิญญาณคลื่นดาบระดับเจ็ดถูกทำลาย

 

แต่โป้ชิงยังใช้ความพยายามหลอมรวมมันขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

 

วิญญาณอมตะดวงที่สี่คือวิญญาณดาบบิน

 

มันเป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ดที่โป้ชิงใช้ในการต่อสู้

 

ด้วยการใช้วิญญาณอมตะดวงนี้เป็นแกนกลางผสานกับวิญญาณอมตะดวงอื่นและวิญญาณระดับมนุษย์ โป้ชิงสามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะที่มีชื่อเสียงมาถึงปัจจุบัน

 

ตัวอย่างเช่นท่าไม้ตายอมตะดาบบินไร้ลักษณ์ ท่าไม้ตายอมตะดาบบินเมฆา ท่าไม้ตายอมตะดาบบินไล่ล่า และท่าไม้ตายอมตะดาบบินหมื่นลี้

 

วิญญาณอมตะดวงที่ห้าเป็นวิญญาณที่ช่วยในการเคลื่อนไหว มันถูกเรียกว่าวิญญาณดาบทะลวงมิติ

 

มันจะเปลี่ยนผู้อมตะให้กลายเป็นดาบอันแหลมคมพุ่งทะลวงไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง

 

ความเร็วของมันเกือบเท่าวิญญาณอมตะสายเคลื่อนไหวบนเส้นทางแห่งพลังปราณในระดับเดียวกัน ในช่วงชีวิตของโป้ชิง เขามีความสำเร็จอันโดดเด่นจำนวนนับไม่ถ้วนที่ถูกบันทึกไว้

 

ครั้งหนึ่งเมื่อเขายังเป็นผู้อมตระดับเจ็ด เขาเคยต่อสู้กับผู้อมตะในระดับเดียวกันผู้หนึ่ง ฝ่ายหลังไม่สามารถเอาชนะ ดังนั้นเขาจึงใช้วิญญาณเคลื่อนพลังปราณเพื่อหลบหนี

 

แต่โป้ชิงใช้วิญญาณดาบทะลวงมิติไล่ล่า

 

แม้เขาจะไม่สามารถตามจับฝ่ายตรงข้าม แต่ระยะห่างก็ไม่เพิ่มขึ้น

 

หลังจากโป้ชิงใช้ท่าไม้ตายอมตะสายเคลื่อนไหวที่มีวิญญาณดาบทะลวงมิติเป็นแกนกลาง เขาจึงสามารถไล่ตัดศีรษะของฝ่ายตรงข้ามและได้รับชัยชนะในที่สุด

 

ฟางหยวนยังไม่พอใจกับวิญญาณอมตะทั้งห้าดวงที่ได้รับและยังดำเนินการต่อไป

 

อย่างไรก็ตามเจตจำนงของโม่เหยามีอยู่จำกัด ตอนนี้เขาใช้ไปแล้วหกสิบห้าส่วน

 

‘ข้าสงสัยว่าวิญญาณอมตะดวงต่อไปจะเป็นสิ่งใด?’ ฟางหยวนทั้งตื่นเต้นและกังวล

 

เขากำลังเต้นรำอยู่บนปลายดาบ

 

หากผีดิบอมตะโป้ชิงตื่นขึ้น เขาจะตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย

 

แต่ด้วยดวงวิญญาณของโม่เหยาที่อยู่ภายในและความเจ้าเล้ห์ของฟางหยวน มันไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะบิดเบือนความจริงและหลอกฝ่ายตรงข้าม

 

อย่างไรก็ตามในกรณีที่ผีดิบอมตะโป้ชิงตื่นขึ้นมาด้วยความโกรธหรือตกใจ ฟางหยวนอาจถูกสังหารก่อนที่เขาจะได้กล่าวสิ่งใด

 

แน่นอนว่าฟางหยวนจะไม่ปลุกผีดิบอมตะโป้ชิงให้ตื่นขึ้นและวางชีวิตของตนไว้ในมือของผู้อื่น

 

ฟางหยวนรอคอยเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงแต่ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองจากวิญญาณอมตะดวงต่อไป

 

‘บางทีเขาอาจไม่เหลือวิญญาณอมตะอีกแล้ว ไม่ นี่เป็นไปไม่ได้ หากเขามีวิญญาณอมตะเพียงเท่านี้ เขาจะสามารถส่งดาบแสงออกไปทั่วทั้งภาคกลางได้อย่างไร?’

 

สองชั่วโมงผ่านไป เจตจำนงของโม่เหยาแทบหมดสิ้น

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่หัวใจของฟางหยวนกระตุกขึ้น

 

เขาวางค่ายกลวิญญาณสายตรวจสอบไว้รอบๆน้ำตกสวรรค์และตอนนี้มันตรวจพบบางสิ่ง

 

‘ผู้อมตะบางคนกำลังมา!’ การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด

 

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนใช้เวลาค่อนข้างมากในการรวบรวมทรัพยากรอมตะที่กระจัดกระจายอยู่บนผิวน้ำ มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้อมตะคนอื่นๆจะถูกดึงดูดมาในช่วงเวลานี้

 

หากผู้อมตะบางคนค้นพบสิ่งผิดปกติและเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ฟางหยวน มันจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยาก

 

ฟางหยวนไม่กังวลเกี่ยวกับผู้อมตะคนอื่นๆ แต่เขากังวลเกี่ยวกับโป้ชิง ผู้อมตะคนอื่นๆไม่มีเจตจำนงของโม่เหยา หากพวกเขาเข้ามา มันอาจเป็นการกระตุ้นให้ผีดิบอมตะโป้ชิงโจมตีหรือตื่นขึ้น

 

จะเป็นเช่นไรหากเขาตื่นขึ้นมาและพบว่าฟางหยวนกำลังขโมยวิญญาณอมตะของเขา?

 

ฮ่าฮ่า

 

ผลลัพธ์ชัดเจนมาก

 

มีความเป็นไปได้สูงมากที่ฟางหยวนจะถูกตัดศีรษะทันทีก่อนที่จะได้กล่าวสิ่งใด

 

‘เจตจำนงของโม่เหยาใกล้หมดแล้ว ข้าต้องรีบออกไป แต่ข้าต้องซ่อนตัวอย่างมิดชิดและไม่สามารถใช้เจตจำนงทั้งหมดของโม่เหยาที่นี่’

 

ฟางหยวนอยู่ใกล้กับโป้ชิงมากเกินไป

 

หากเขาใช้วิญญาณท่องแดนอมตะโดยตรง กลิ่นอายของมันจะกระตุ้นดวงวิญญาณของโม่เหยาที่อยู่ในร่างของโป้ชิง

 

อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาที่ฟางหยวนกำลังจะจากไป วิญญาณอมตะดวงที่หกกลับบินออกมาและปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา

 

มันเป็นวิญญาณอมตะที่มีรูปลักษณ์เหมือนฟองสบู่ แต่กลิ่นอายของมันกลับทำให้ดวงตาของฟางหยวนเบิกกว้าง

 

วิญญาณอมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งดาบ!

 

ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ต้องใช้เวลานานในการล่อลวงวิญญาณอมตะดวงนี้

 

‘แต่นี่คือวิญญาณชนิดใด?’ ฟางหยวนยังไม่สามารถบอกได้ทันทีว่าวิญญาณอมตะดวงนี้คือสิ่งใด

 

แต่เขาไม่มีเวลาคิดเรื่องนี้

 

เขาใช้วิธีเดียวกับก่อนหน้าเพื่อเก็บมันไว้ในมิติช่องว่างของตน

 

จากนั้น…

 

หลบหนี!

 

หลบหนีอย่างรวดเร็วที่สุด!

 

ครั้งนี้เขาได้รับกำไรเกินคาดหมายไปไกลมาก

 

หากเปรียบเทียบ ผลประโยชน์ที่ได้รับจากสุสานใต้บาดาลของภาคเหนือไม่ถือเป็นสิ่งใดเลย

 

หลังจากนี้เมื่อผู้อมตะมารวมตัวกันที่น้ำตกสวรรค์ ผีดิบอมตะโป้ชิงจะตื่นขึ้นในที่สุด

 

ดังนั้นฟางหยวนจึงไม่สามารถอยู่ต่อ

 

กระบวนการหลบหนีออกจากน้ำตกสวรรค์ของฟางหยวนเป็นไปได้อย่างราบรื่น

 

ผู้อมตะระดับเจ็ดที่มาถึงตกตะลึงและถูกล่อลวงโดยทรัพยากรอมตะจำนวนมากที่อยู่ในน้ำ

 

เขาต้องการรวบรวมทรัพยากรอมตะแต่เขายังลังเลและไม่กล้าต่อสู้กับสัตว์อสูรที่ถูกดึงดูดเข้ามา

 

ท้ายที่สุดมันก็ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดอีกต่อไป มันเสี่ยงมากหากบางคนต้องการฉกชิงเหยื่อของเหล่าสัตว์ร้าย

 

หลังจากมาถึงสถานที่ปลอดภัย ฟางหยวนจึงสามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

ขณะที่เขากำลังจะใช้วิญญาณท่องแดนอมตะ ร่างกายของเขากลับสั่นสะท้านขึ้นอย่างกะทันหัน

 

‘ข้าจำได้แล้ว! วิญญาณอมตะระดับแปดดวงนี้ควรเป็นวิญญาณดาบแห่งปัญญา!’ ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายด้วยความสุข

 

‘วิญญาณอมตะดวงนี้ถูกสร้างขึ้นโดยโป้ชิง แม้เขาจะมีพลังการต่อสู้ที่โดดเด่น แต่เขายังได้รับความทุกข์ทรมานอย่างมากจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา ดังนั้นเขาจึงสร้างวิญญาณดาบแห่งปัญญาขึ้นมาเพื่อจัดการกับคนกลุ่มนี้โดยเฉพาะ วิญญาณอมตะดวงนี้ไม่เพียงเป็นวิญญาณบนเส้นทางแห่งดาบแต่มันยังมีความล้ำเลิศบนเส้นทางแห่งปัญญา’

 

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ฟางหยวนตัดสินใจทันทีว่าจะปรับแต่งวิญญาณอมตะดวงนี้เป็นอันดับแรก

 

ความสำเร็จระดับปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญาทำให้ฟางหยวนเกิดความเข้าใจบางอย่าง ตราบเท่าที่เขาสามารถใช้วิญญาณดาบแห่งปัญญา วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาของเขาจะยกระดับขึ้นอย่างก้าวกระโดด

 

หลังจากกลับถึงแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูอย่างปลอดภัย ฟางหยวนตระหนักถึงอีกประเด็นหนึ่ง ‘มรดกบนเส้นทางแห่งปัญญาของตงฟางชางฟาน ความสำเร็จระดับปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญา วิญญาณอมตะความคิดดาราระดับหก วิญญาณอมตะดาบแห่งปัญญาระดับแปด และวิญญาณสติปัญญาระดับเก้า…โดยไม่ได้ตั้งใจ เส้นทางแห่งปัญญาของข้าดูเหมือนจะสว่างไสวที่สุด ในสถานะปัจจุบันของข้า เส้นทางความแข็งแกร่งและเส้นทางแห่งกาลเวลาดูเหมือนจะช่วยข้าได้มากกว่า แต่ในระยะยาว เส้นทางแห่งปัญญากลับสามารถคาดหวังได้มากกว่า’

 

เขาจัดการวิญญาณอมตะทั้งหมดที่ได้รับมาอย่างเหมาะสม

 

เจตจำนงของโม่เหยาถูกสร้างขึ้นอีกครั้งเพื่อใช้เป็นเครื่องมือปิดผนึกวิญญาณอมตะเหล่านี้

 

ตราบเท่าที่เจตจำนงไม่เข้าสู่การจำศีล พวกมันจะคิดและค่อยๆสูญสลายไป ย้อนกลับไปที่แดนศักดิ์สิทธิ์เมืองหลวงของภาคเหนือ เจตจำนงของโม่เหยาพึ่งพาวิญญาณอมตะความสดใสของแม่น้ำและขุนเขาเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเอง

 

ตอนนี้แม้ฟางหยวนจะไม่มีวิญญาณอมตะความสดใสของแม่น้ำและขุนเขาแต่เขามีวิธีอื่นบนเส้นทางแห่งปัญญาที่สามารถสร้างเจตจำนงของโม่เหยาได้อย่างง่ายดาย

 

แต่เขาต้องใช้วิญญาณระดับมนุษย์จำนวนมาก ดังนั้นจึงต้องมีเวลาเตรียมการ

 

สถานการณ์ที่น้ำตกสวรรค์พัฒนาไปเร็วกว่าที่มันเคยเป็น ที่นั่นฟางหยวนไม่มีเวลาเสริมสร้างเจตจำนงของโม่เหยา

 

อย่างไรก็ตามทั้งหมดที่เขาได้รับในการเดินทางครั้งนี้ก็เหนือเกินกว่าความคาดหมายของเขาไปแล้ว

 

โอกาสที่จะขโมยวิญญาณอมตะของผู้อื่นหายากมาก

 

เนื่องจากในสถานการณ์ปกติ ผู้อมตะสามารถทำลายวิญญาณอมตะได้ด้วยเพียงหนึ่งความคิด

 

ฟางหยวนใช้ประโยชน์จากโป้ชิงที่กำลังหลับไหลเพื่อขโมยวิญญาณอมตะของเขา หากโป้ชิงตื่นขึ้น คงมีเพียงเทพปีศาจปล้นสวรรค์เท่านั้นที่สามารถทำได้

 

‘คำทำนายของเทพอมตะกลุ่มดาวจากอาณาจักรแห่งความฝันช่างน่าเกรงขามนัก ตอนนี้เหลืออีกไม่กี่ประโยค แล้วพวกมันหมายถึงสิ่งใด?’

 

ฟางหยวนคิดถึงสาเหตุที่ทำให้เขาได้รับผลประโยชน์มหาศาลและรู้สึกสงสัยพร้อมคาดหวัง

 

“บทเพลงที่ล้มเหลวและวีรบุรุษที่สิ้นหวัง ความยากลำบากในการต่อต้านโชคชะตา”

 

“ดาบที่จมอยู่ใต้พื้นทรายทะยานขึ้นจากห้วงอดีตสร้างเสียงครวญครางไปทั่วน้ำตกสวรรค์”

 

“อนิจจา…”

 

“ค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวนำวิญญาณสู่ความฝัน แล้วผู้ใดจะสามารถพักผ่อนอย่างสงบ?”

 

“ร่างกายและจิตใจอาจเปลี่ยนผัน แต่เจตจำนงสวรรค์ยังยิ่งใหญ่และไร้ขอบเขต”

 

ฟางหยวนเข้าใจสองบรรทัดแรกแล้ว แต่หลังจากนั้นมันหมายถึงสิ่งใด?

 

ทุกอย่างคลุมเครือเกินไปสำหรับเวลานี้ ฟางหยวนยังไม่สามารถคาดเดา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด