Side Character Transmigrations: The Final Boss is No Joke 26 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก. ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย(6)

Now you are reading Side Character Transmigrations: The Final Boss is No Joke Chapter 26 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก. ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย(6) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Side Character Transmigrations: The Final B… บทที่ 26 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก.. ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (6)

 

บทที่ 26 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก. ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย(6)

 

ดูเหมือนว่านี่จะไม่ใช่การปล้นครั้งแรกของโจรกลุ่มนี้ เพราะพวกมันดูคล่องแคล่ว และมีการแบ่งหน้าที่กันชัดเจนว่าใครต้องทําอะไรบ้าง อีกทั้งยังไม่เคลื่อนไหวมากนักจนเป็นจุดสังเกต

 

ฉีเชิงยังด่าทอและสาปแช่งบรรพบุรุษทั้ง18 ชั่วโคตรของพวกนักลงทุนและคนเขียนระบบต่อในใจอย่างเงียบๆเธอไม่เพียงแต่ถูกบังคับให้ยอมรับภารกิจลับนี้เท่านั้นนะ แต่ตอนนี้แม้กระทั่งชีวิตของเธอเองก็ยังตกอยู่ในอันตรายด้วย!และที่สําคัญที่สุดไอ้เจ้าระบบบ้านี้ มันไม่แม้แต่จะให้ไอเทมโกงหรือกลโกงใดๆกับเธอมาเลยสักอย่าง!! “แล้วนี่ฉันจะมีชีวิตรอดจนจบภารกิจมั้ยเนี้ยย…มันโหดร้ายเกินไปแล้วนะ!! อย่าให้ฉันเจออีคนเขียนโปรแกรมนะ แม่จะจับหักคอให้ฮืมม!”

 

ตามเนื้อเรื่องเดิมตอนนี้น่าจะเป็นช่วงเวลาที่เจียงหวันกําลังถ่ายทําละครเรื่องที่เธอเพิ่งจะยกเลิกไปอยู่ ดังนั้นแน่นอนว่าเธอต้องไม่เคยพบเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนแน่ และจากสถานการณ์ที่กําลังเกิดขึ้น เธอก็พอจะเดาได้ไม่ยากว่า งานนี้ต้องมีแม่นางเอกในเรื่องเข้ามาเกี่ยวด้วยแน่ๆ

 

ฉีเชิงพยายามมองไปรอบๆร้านเพื่อหาเธอ แต่ก็ไม่ยักกะเจอหรือว่า…แม่นั้นจะอยู่ในห้องส่วนตัวนั่นรึเปล่านะ?

 

ในระหว่างเหตุการณ์นี้น่าจะเป็นตอนที่เซี่ยเหมินช่วยลู่ชิงหยุนไว้ ก่อนที่ลู่ชิงหยุนจะรับรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเซี่ยเหมินกับซีโม่พระเอกของเรื่อง

 

ด้านนอกร้านกาแฟเริ่มถูกห้อมล้อมไปด้วยตํารวจจํานวนหนึ่งส่วนพวกโจรก็เริ่มเข้าไปไล่ต้อนพวกคนที่อยู่ในห้องส่วนตัวเพื่อให้ออกมารวมตัวกันข้างนอก

 

เซี่ยเหมินเองก็กําลังถูกไล่ต้อนออกมาจากห้องส่วนตัวที่อยู่ด้านในสุดของร้าน เธออยู่ในชุดออกกําลังกายและท่าทางที่แสดงออกมาดูสงบนิ่งปราศจากความกลัวใดๆ เธอทําตามคําสั่งของพวกโจรอย่างว่าง่าย เธอค่อยๆนั่งยองๆลงก่อนจะเอามือประสานไว้ที่ท้ายทอยและหันหน้าเข้ากําแพงเหมือนกับคนอื่นๆ ฉีเชิงไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเธอได้เช่นกันในตอนนี้เธอทําได้แค่เพียงนั่งมองปฏิกิริยาของเธอต่อไปเงียบๆ

 

“หลบไป!” หนึ่งในพวกโจรตวาดเสียงดังลั่น ขณะที่ยืนอยู่ด้านหน้าของเธอ บริกรหนุ่มตกใจกลัวจนร้องไห้ ก่อนจะค่อยๆคลานหลบให้พวกโจรเข้าไปในห้อง มีเสียงสบถดังลั่นออกมาจากในห้อง ก่อนที่จะมีคนสองคนค่อยๆเดินออกมา

 

“ หมอบลงกับพื้นแล้วค่อยๆคลานไป ถ้ากล้าเล่นตุกติ๊กฉันฆ่าแกแน่! อุบ๊ะ! มีไอ้รูปหล่ออยู่ตรงนี้ด้วยอีกคน”

 

ฉีเชิงรู้สึกเหมือนกับว่ากําลังมีคนนั่งลงข้างๆเธอ เธอค่อยๆเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพยายามเหลือบมองผู้ชายข้างๆริมฝีปากเรียวของเขากระตุกยิ้มเล็กน้อยเมื่อมอง เห็นว่าเธอกําลังมองอยู่บนใบหน้าของเขาไม่ได้แสดงออกถึงความตื่นตระหนกหรือความหวาดกลัวใดๆ

 

แม้ว่าเขากําลังนั่งยองๆอยู่ แต่ท่าทางเหล่านั้นกลับไม่ได้ทําให้เขาดูแย่เลย เขายังคงดูสง่างาม ซึ่งช่างขัดแย้งกับเหตุการณ์ความวุ่นวายที่กําลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้มาก ราวกับเขาอยู่ในโลกอีกโลกหนึ่ง

 

ฉีเชิงคิดว่าเขาคงจะรู้ตัวว่าเธอกําลังจ้องมองเขาอยู่ เขาเองก็เลยหันมามองตอบ เผยให้ฉีเพิ่งได้เห็นใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน เธอมองค้างอยู่อย่างนั้นด้วยความตกตะลึง เธอไม่สามารถที่จะบรรยายออกมาเป็นคําพูดได้เมื่อยามที่เขาแย้มรอยยิ้มในดวงตาสีดํานิลคู่นั้นราวกับมีดอกไม้ เป็นพันๆดอกกําลังเบ่งบานอยู่ในนั้น

 

ฉีเพิ่งรู้สึกงุนงง เธอรู้สึกราวกับว่าเธอกําลังมองฉ่ถางอยู่แต่เธอก็ต้องรีบส่ายหัวไล่ความคิดนั้นออกไปเพราะเมื่อสังเกตดีๆก็พบข้อแตกต่าง ฉ่ถางนั้นจะปกปิดตัวตนหรือไอชั่วร้ายของตัวเองไว้ไม่ค่อยแสดงออกอย่างโจ่งแจ้ง แต่กับผู้ชายคนนี้ดูเหมือนเขาจะไม่ได้พยายามที่ปกปิดไอชั่วร้ายอะไร ไว้เลย

 

“เจ้าระบบเฮงซวยพาฉันออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้นะ! ฉันยังอยากมีชีวิตอยู่เพื่อด่าทอสาปแช่งนายต่อ! ทําไมเป้าหมายในเควสลับของนายถึงมีแต่พวกตัวร้ายนิสัยเสียตลอดเลยห้ะ?ฉันจะรอดมั้ยเนี้ย! นายต้องแอ็คระบบเอาสกิลโกงขั้นเทพมาให้ฉันเดี๋ยวนี้หรือไม่งั้นก็เอาแค่แพ็คเกจเริ่มต้นสําหรับมือใหม่ให้ฉันก็ยังดี! ”

 

# ผมจะทําอย่างไรดี เมื่อโฮสต์ของผมไม่ยอมลืมเรื่องแพ็คเกจเริ่มต้นสําหรับมือใหม่โฮสต์กําลังต้องการควา มช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน #

 

ลู่ชิงหยุนจ้องมองผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆเขาด้วยความสงสัยนี่เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่เขาเห็นคนแสดงตัวเป็นปรปักษ์หลังจากเห็นหน้าเขา “ เอ๊ะหรือว่าช่วงนี้เขาหล่อน้อยลงเหรอ?ทําไมเธอถึงจ้องเขาเขม็งแบบนั้น?”

 

ว่าแล้วชิงหยุนก็หันไปยิ้มให้กับผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆอีกทางแทน แม้บนใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นจะยังคงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่เมื่อเขายิ้มให้เธอในแววตาของเธอก็ฉายแววหลงใหลในตัวเขาขึ้นมาทันที ราวกับว่าเธอลืมไปแล้วว่าตอนนี้กําลังถูกโจรปล้นธนาคารจับเป็นตัวประกันอยู่ และตอนนี้ชีวิตเธอก็กําลังตกอยู่ในอันตรายแค่ไหน

 

“ดู !!

 

นี่สิถึงจะเป็นปฏิกิริยาปกติ เมื่อผู้หญิงมองหน้าฉัน”

 

ชิงหยื่นรู้สึกพอใจเป็นอย่างมากเมื่อได้เห็นปฏิกิริยาของผู้หญิงคนนั้น เขาเหลือบไปมองหน้า “สิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาด”ครู่หนึ่ง ก่อนแขนของเขาจะถูกกระชากและโดนดึงขึ้นโดยพวกโจรเซี่ยเหมินเองก็ถูกดึงขึ้นด้วยเช่นกัน

 

“มานี่และมายืนตรงนั้น !! ” พวกมันชี้ไปที่หน้าต่างบานหนึ่งที่ตอนนี้ไร้ซึ่งกระจกอยู่แล้ว ก่อนจะผลักทั้งคู่ไปยังจุดที่ตํารวจสามารถมองเข้ามาเห็นได้จากด้านนอก

 

ฉีเชิงรีบดึงมือของโจรคนนั้นไว้ ก่อนที่มันจะหันกลับมาเอาปืนและมาจ่อที่หัวของเธอ ก่อนจะตะคอกใส่ฉีเซิงดังลั่น“นี่เธอทําบ้าอะไรอยากตายรึไงห้ะ?!”

 

ฉีเซิงฉีกยิ้มจนตาโค้งเป็นเสี้ยว ก่อนจะชี้ไปที่ลู่ชิงหยุนพลางพูด “ฉันจะไปกับเขา”

 

พวกโจรมีท่าทางประหลาดใจ เพราะตั้งแต่เป็นโจรมาเขาไม่เคยเห็นว่าใครจะกล้าเสนอตัวเองมาเป็นตัวประกันขนาดนี้แถมยังเป็นผู้หญิงที่หน้าตาดีซะด้วย โจรเอาปืนจ่อไปที่ฉีเชิงอีกครั้ง ก่อนจะพูดขู่ว่า “อย่ามาพูดจาไร้สาระ อยู่เงียบๆไป ถ้ายังวุ่นวายไม่เลิกฉันจะฆ่าเธอซะ!”

 

“แม้แต่ผู้ชายตัวโตๆ เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้ยังร้องไห้ขี้มูกโปงหาพ่อแม่ แล้วนี่อะไร เป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ท่าทางอ้อนแอ้นจะให้เขาเชื่อหรอว่าเธออยากจะเสนอตัวมาเป็นตัวประกันจริงๆ เธอคิดจะทําอะไรกันแน่?

 

ฉีเพิ่งทําหน้าครึมลงเล็กน้อย ก่อนจะแสร้งพูดด้วยน้ําเสียงน่าสงสารว่า “แต่เขาเป็นแฟนฉัน..เราสัญญากันว่าจะอยู่แล้วก็ตายไปพร้อมกันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แล้วอย่างนี้ฉันจะปล่อยให้เขาไปเผชิญกับอันตรายคนเดียวได้ยังไงคุณให้ฉันไปหาเขาเถอะนะ ดูสิฉันก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งฉันจะไปทําอะไรพวกคุณได้”

 

ลู่ชิงหยุนแฟนหนุ่มที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งหมาดๆ “

 

เซี่ยเหมิน ผู้ซึ่งจ้องมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าตลอดเวลาตั้งแต่ที่เธอเริ่มพูด นั้นมันแฟนสาวของซีโม่ไม่ใช่หรอกหรือแล้วทําไมจู่ๆถึงได้กลายเป็นแฟนของผู้ชายคนนี้แทนได้ล่ะ?

 

ตัวประกันคนอื่นๆในร้านกาแฟต่างก็ส่งสายตาชื่นชมกับความรักอันบริสุทธิ์และงดงามของฉีเซิงและเมื่อพวกผู้หญิงบางคนในร้านหันกลับไปมองใบหน้าของอู่ชิงหยุนก็รู้สึกอิจฉาฉีเชิงมากเพราะพวกเธอเองก็ยินดีที่จะพลีชีพไปพร้อมกับชายหนุ่มสุดหล่อที่อยู่ตรงหน้านี้เหมือนกัน

 

ตํารวจที่อยู่ด้านนอกเริ่มได้ยินเสียงเอ๊ะอะจากข้างในร้านและพวกโจรเองก็คงรู้สึกตัวว่าเสียเวลากับเธอมากแล้วพวกมันจึงไม่ได้หยุดเพื่อคิดพิจารณาอะไรอีก“ลุกขึ้น! แล้วอย่าทําอะไรนอกเหนือจากคําสั่ง เอามือออกมาประสานกันไว้ที่ท้ายทอย”

 

ฉีเชิงลุกขึ้น ก่อนจะรีบเดินไปยืนข้างๆลู่ชิงหยุนเธอจับแขนเขาและก็ไม่ลืมที่จะยิ้มหวานๆให้เขาด้วยหนึ่งที่

 

พวกโจรต้องการให้ตํารวจเตรียมรถยนต์ให้พวกมันภายในครึ่งชั่วโมงมิฉะนั้นพวกมันจะเริ่มฆ่าตัวประกันในร้านทิ้งทันที

 

“นี่ๆคุณกลัวหรือเปล่า?” ฉีเชิงถามลู่ชิงหยุนด้วยเสียงเล็กๆไร้เดียงสา

 

ลู่ชิงหยุนยืนนิ่งๆด้วยท่าทางสบายๆเขาตอบด้วยเสียงที่เจือไปด้วยเสียงหัวเราะเล็กๆ “ในเมื่อมีคนเสนอตัวจะตายเป็นเพื่อนผมขนาดนี้แล้วทําไมผมจะต้องกลัวด้วยล่ะ?”

 

สายตาที่คลุมเครือของเขาเหลือบมองไปที่แขนข้างที่ฉีเชิงที่กําลังจับอยู่ ก่อนเขาจะฉีกยิ้มกว้างออกมา รอยยิ้มของเขาเจิดจ้าจนทําโลกหม่นไปเลยทีเดียว

ฉีเชิงรู้สึกราวกับว่า มีเสียงระฆังกําลังดังเตือนให้สัญญาณอะไรบ้างอย่างอยู่ในโสตประสาท เธอลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ปล่อยมือจากแขนของเขา

 

“มาลองทายกันเล่นๆ ดูไหม ว่าตํารวจจะใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะช่วยพวกเราได้” ฉีเชิงพูดพลางมองไปยังเหล่าตํารวจข้างนอก ที่กําลังยืนเจรจากับพวกโจรโดยคุยกันผ่านโทรโข่งในมืออยู่

 

“บางที่พวกเขาอาจจะช่วยตัวประกันไม่ได้เลยก็ได้”

 

“อย่าห่วงเลย คุณเห็นผู้หญิงที่อยู่ข้างๆคุณนั้นมัย?” นี่เชิงพูดในทํานองที่ปลอบใจ แต่ในน้ําเสียงกลับไม่ได้ดูเหมือนกําลังปลอบใจอยู่เลยสักนิด “พยายามตามติดเธอไป แล้วคุณจะไม่ตาย อย่างมากก็อาจจะแค่ได้รับบาดเจ็บนิดหน่อย”

 

อู่ชิงหยุนเหลือบตามองไปที่เซี่ยเหมินซึ่งยืนอยู่ข้างๆ หน้าของเธอกําลังมองตรงไปเบื้องหน้า คางเชิดขึ้น และหลังค่อนข้างเกร็ง ดูก็รู้ว่าเธอกําลังรู้สึกประหม่าและหวาดกลัวอย่างเห็นได้อย่างชัดซึ่งช่างแตกต่างจากเด็กสาวที่เพิ่งจะอุปโลกน์ตัวเองว่าเป็นแฟนสาวของเขาอย่างสิ้นเชิงเพราะเจ้าหล่อนยังดูชิวๆไม่มีแม้แต่ร่องรอยความหวาดกลัวใดๆให้เห็นเลยสักกะติดเดียว

 

“แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าผมจะไม่ตาย ถ้าผมตามเธอไป”

 

โง่จริง ! ก็เพราะว่ายัยนั้นเป็นตัวเอกของเรื่องไง ใครจะให้หล่อนตายง่ายๆล่ะ

 

แน่นอนว่าฉีเชิงไม่สามารถบอกเรื่องพวกนี้กับเขาได้เธอจึงได้แต่ยิ้มบางๆและพูดกับเขาว่า “คุณก็ลองไปทดสอบดูสิว่าคุณจะสามารถฆ่าเธอให้ตายได้รึเปล่า?”

 

ระบบกําลังร่ําไห้ “โฮสต์ภารกิจของคุณคือให้คุณไปจีบผู้ชายไม่ใช่ไปยุยงให้จอมวายร้ายไปฆ่านางเอก”

 

“โฮสต์บ้านผมชอบแหกคอกเสมอ 

 

เซี่ยเหมินไม่ได้ยืนอยู่ใกล้กับฉีเชิงและลู่ชิงหยุนมากนัก ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ยินว่าสองคนนั้นกําลังพูดถึงเรื่องอะไรกันอยู่แต่ด้วยสายตาที่พวกเขาสองคนจ้องมองมาทําให้เธอตัวแข็งที่อและรู้สึกเสียวสันหลังวาบยิ่งกว่าตอนที่โดนปืนจ่อหัวซะอีก

 

ตํารวจที่อยู่ข้างนอกรู้สึกมึนงงจนพูดไม่ออก “ทําไมเขาถึงมีความรู้สึกว่าตัวประกันสองคนนี้ดูไม่เกรงกลัวอะไรกันซะเลยยังจะมายืนคุยกันเรื่องไปฆ่าคนกันหน้าตาเฉย อีกจะบ้าตาย! นี่พวกคุณช่วยเล่นให้มันสมบทบาทหน่อยได้ ไหมตอนนี้มันเป็นฉากบู่เลือดสาดอยู่นะ ไม่ใช่ฉากรักโรแมนติกเฟ้ย!!ยังจะมายืนคุยกันกระหนุงกระหนิงอยู่ได้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Side Character Transmigrations: The Final Boss is No Joke 26 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก. ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย(6)

Now you are reading Side Character Transmigrations: The Final Boss is No Joke Chapter 26 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก. ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย(6) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Side Character Transmigrations: The Final B… บทที่ 26 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก.. ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (6)

 

บทที่ 26 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก. ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย(6)

 

ดูเหมือนว่านี่จะไม่ใช่การปล้นครั้งแรกของโจรกลุ่มนี้ เพราะพวกมันดูคล่องแคล่ว และมีการแบ่งหน้าที่กันชัดเจนว่าใครต้องทําอะไรบ้าง อีกทั้งยังไม่เคลื่อนไหวมากนักจนเป็นจุดสังเกต

 

ฉีเชิงยังด่าทอและสาปแช่งบรรพบุรุษทั้ง18 ชั่วโคตรของพวกนักลงทุนและคนเขียนระบบต่อในใจอย่างเงียบๆเธอไม่เพียงแต่ถูกบังคับให้ยอมรับภารกิจลับนี้เท่านั้นนะ แต่ตอนนี้แม้กระทั่งชีวิตของเธอเองก็ยังตกอยู่ในอันตรายด้วย!และที่สําคัญที่สุดไอ้เจ้าระบบบ้านี้ มันไม่แม้แต่จะให้ไอเทมโกงหรือกลโกงใดๆกับเธอมาเลยสักอย่าง!! “แล้วนี่ฉันจะมีชีวิตรอดจนจบภารกิจมั้ยเนี้ยย…มันโหดร้ายเกินไปแล้วนะ!! อย่าให้ฉันเจออีคนเขียนโปรแกรมนะ แม่จะจับหักคอให้ฮืมม!”

 

ตามเนื้อเรื่องเดิมตอนนี้น่าจะเป็นช่วงเวลาที่เจียงหวันกําลังถ่ายทําละครเรื่องที่เธอเพิ่งจะยกเลิกไปอยู่ ดังนั้นแน่นอนว่าเธอต้องไม่เคยพบเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนแน่ และจากสถานการณ์ที่กําลังเกิดขึ้น เธอก็พอจะเดาได้ไม่ยากว่า งานนี้ต้องมีแม่นางเอกในเรื่องเข้ามาเกี่ยวด้วยแน่ๆ

 

ฉีเชิงพยายามมองไปรอบๆร้านเพื่อหาเธอ แต่ก็ไม่ยักกะเจอหรือว่า…แม่นั้นจะอยู่ในห้องส่วนตัวนั่นรึเปล่านะ?

 

ในระหว่างเหตุการณ์นี้น่าจะเป็นตอนที่เซี่ยเหมินช่วยลู่ชิงหยุนไว้ ก่อนที่ลู่ชิงหยุนจะรับรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเซี่ยเหมินกับซีโม่พระเอกของเรื่อง

 

ด้านนอกร้านกาแฟเริ่มถูกห้อมล้อมไปด้วยตํารวจจํานวนหนึ่งส่วนพวกโจรก็เริ่มเข้าไปไล่ต้อนพวกคนที่อยู่ในห้องส่วนตัวเพื่อให้ออกมารวมตัวกันข้างนอก

 

เซี่ยเหมินเองก็กําลังถูกไล่ต้อนออกมาจากห้องส่วนตัวที่อยู่ด้านในสุดของร้าน เธออยู่ในชุดออกกําลังกายและท่าทางที่แสดงออกมาดูสงบนิ่งปราศจากความกลัวใดๆ เธอทําตามคําสั่งของพวกโจรอย่างว่าง่าย เธอค่อยๆนั่งยองๆลงก่อนจะเอามือประสานไว้ที่ท้ายทอยและหันหน้าเข้ากําแพงเหมือนกับคนอื่นๆ ฉีเชิงไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเธอได้เช่นกันในตอนนี้เธอทําได้แค่เพียงนั่งมองปฏิกิริยาของเธอต่อไปเงียบๆ

 

“หลบไป!” หนึ่งในพวกโจรตวาดเสียงดังลั่น ขณะที่ยืนอยู่ด้านหน้าของเธอ บริกรหนุ่มตกใจกลัวจนร้องไห้ ก่อนจะค่อยๆคลานหลบให้พวกโจรเข้าไปในห้อง มีเสียงสบถดังลั่นออกมาจากในห้อง ก่อนที่จะมีคนสองคนค่อยๆเดินออกมา

 

“ หมอบลงกับพื้นแล้วค่อยๆคลานไป ถ้ากล้าเล่นตุกติ๊กฉันฆ่าแกแน่! อุบ๊ะ! มีไอ้รูปหล่ออยู่ตรงนี้ด้วยอีกคน”

 

ฉีเชิงรู้สึกเหมือนกับว่ากําลังมีคนนั่งลงข้างๆเธอ เธอค่อยๆเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพยายามเหลือบมองผู้ชายข้างๆริมฝีปากเรียวของเขากระตุกยิ้มเล็กน้อยเมื่อมอง เห็นว่าเธอกําลังมองอยู่บนใบหน้าของเขาไม่ได้แสดงออกถึงความตื่นตระหนกหรือความหวาดกลัวใดๆ

 

แม้ว่าเขากําลังนั่งยองๆอยู่ แต่ท่าทางเหล่านั้นกลับไม่ได้ทําให้เขาดูแย่เลย เขายังคงดูสง่างาม ซึ่งช่างขัดแย้งกับเหตุการณ์ความวุ่นวายที่กําลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้มาก ราวกับเขาอยู่ในโลกอีกโลกหนึ่ง

 

ฉีเชิงคิดว่าเขาคงจะรู้ตัวว่าเธอกําลังจ้องมองเขาอยู่ เขาเองก็เลยหันมามองตอบ เผยให้ฉีเพิ่งได้เห็นใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน เธอมองค้างอยู่อย่างนั้นด้วยความตกตะลึง เธอไม่สามารถที่จะบรรยายออกมาเป็นคําพูดได้เมื่อยามที่เขาแย้มรอยยิ้มในดวงตาสีดํานิลคู่นั้นราวกับมีดอกไม้ เป็นพันๆดอกกําลังเบ่งบานอยู่ในนั้น

 

ฉีเพิ่งรู้สึกงุนงง เธอรู้สึกราวกับว่าเธอกําลังมองฉ่ถางอยู่แต่เธอก็ต้องรีบส่ายหัวไล่ความคิดนั้นออกไปเพราะเมื่อสังเกตดีๆก็พบข้อแตกต่าง ฉ่ถางนั้นจะปกปิดตัวตนหรือไอชั่วร้ายของตัวเองไว้ไม่ค่อยแสดงออกอย่างโจ่งแจ้ง แต่กับผู้ชายคนนี้ดูเหมือนเขาจะไม่ได้พยายามที่ปกปิดไอชั่วร้ายอะไร ไว้เลย

 

“เจ้าระบบเฮงซวยพาฉันออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้นะ! ฉันยังอยากมีชีวิตอยู่เพื่อด่าทอสาปแช่งนายต่อ! ทําไมเป้าหมายในเควสลับของนายถึงมีแต่พวกตัวร้ายนิสัยเสียตลอดเลยห้ะ?ฉันจะรอดมั้ยเนี้ย! นายต้องแอ็คระบบเอาสกิลโกงขั้นเทพมาให้ฉันเดี๋ยวนี้หรือไม่งั้นก็เอาแค่แพ็คเกจเริ่มต้นสําหรับมือใหม่ให้ฉันก็ยังดี! ”

 

# ผมจะทําอย่างไรดี เมื่อโฮสต์ของผมไม่ยอมลืมเรื่องแพ็คเกจเริ่มต้นสําหรับมือใหม่โฮสต์กําลังต้องการควา มช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน #

 

ลู่ชิงหยุนจ้องมองผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆเขาด้วยความสงสัยนี่เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่เขาเห็นคนแสดงตัวเป็นปรปักษ์หลังจากเห็นหน้าเขา “ เอ๊ะหรือว่าช่วงนี้เขาหล่อน้อยลงเหรอ?ทําไมเธอถึงจ้องเขาเขม็งแบบนั้น?”

 

ว่าแล้วชิงหยุนก็หันไปยิ้มให้กับผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆอีกทางแทน แม้บนใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นจะยังคงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่เมื่อเขายิ้มให้เธอในแววตาของเธอก็ฉายแววหลงใหลในตัวเขาขึ้นมาทันที ราวกับว่าเธอลืมไปแล้วว่าตอนนี้กําลังถูกโจรปล้นธนาคารจับเป็นตัวประกันอยู่ และตอนนี้ชีวิตเธอก็กําลังตกอยู่ในอันตรายแค่ไหน

 

“ดู !!

 

นี่สิถึงจะเป็นปฏิกิริยาปกติ เมื่อผู้หญิงมองหน้าฉัน”

 

ชิงหยื่นรู้สึกพอใจเป็นอย่างมากเมื่อได้เห็นปฏิกิริยาของผู้หญิงคนนั้น เขาเหลือบไปมองหน้า “สิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาด”ครู่หนึ่ง ก่อนแขนของเขาจะถูกกระชากและโดนดึงขึ้นโดยพวกโจรเซี่ยเหมินเองก็ถูกดึงขึ้นด้วยเช่นกัน

 

“มานี่และมายืนตรงนั้น !! ” พวกมันชี้ไปที่หน้าต่างบานหนึ่งที่ตอนนี้ไร้ซึ่งกระจกอยู่แล้ว ก่อนจะผลักทั้งคู่ไปยังจุดที่ตํารวจสามารถมองเข้ามาเห็นได้จากด้านนอก

 

ฉีเชิงรีบดึงมือของโจรคนนั้นไว้ ก่อนที่มันจะหันกลับมาเอาปืนและมาจ่อที่หัวของเธอ ก่อนจะตะคอกใส่ฉีเซิงดังลั่น“นี่เธอทําบ้าอะไรอยากตายรึไงห้ะ?!”

 

ฉีเซิงฉีกยิ้มจนตาโค้งเป็นเสี้ยว ก่อนจะชี้ไปที่ลู่ชิงหยุนพลางพูด “ฉันจะไปกับเขา”

 

พวกโจรมีท่าทางประหลาดใจ เพราะตั้งแต่เป็นโจรมาเขาไม่เคยเห็นว่าใครจะกล้าเสนอตัวเองมาเป็นตัวประกันขนาดนี้แถมยังเป็นผู้หญิงที่หน้าตาดีซะด้วย โจรเอาปืนจ่อไปที่ฉีเชิงอีกครั้ง ก่อนจะพูดขู่ว่า “อย่ามาพูดจาไร้สาระ อยู่เงียบๆไป ถ้ายังวุ่นวายไม่เลิกฉันจะฆ่าเธอซะ!”

 

“แม้แต่ผู้ชายตัวโตๆ เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้ยังร้องไห้ขี้มูกโปงหาพ่อแม่ แล้วนี่อะไร เป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ท่าทางอ้อนแอ้นจะให้เขาเชื่อหรอว่าเธออยากจะเสนอตัวมาเป็นตัวประกันจริงๆ เธอคิดจะทําอะไรกันแน่?

 

ฉีเพิ่งทําหน้าครึมลงเล็กน้อย ก่อนจะแสร้งพูดด้วยน้ําเสียงน่าสงสารว่า “แต่เขาเป็นแฟนฉัน..เราสัญญากันว่าจะอยู่แล้วก็ตายไปพร้อมกันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แล้วอย่างนี้ฉันจะปล่อยให้เขาไปเผชิญกับอันตรายคนเดียวได้ยังไงคุณให้ฉันไปหาเขาเถอะนะ ดูสิฉันก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งฉันจะไปทําอะไรพวกคุณได้”

 

ลู่ชิงหยุนแฟนหนุ่มที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งหมาดๆ “

 

เซี่ยเหมิน ผู้ซึ่งจ้องมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าตลอดเวลาตั้งแต่ที่เธอเริ่มพูด นั้นมันแฟนสาวของซีโม่ไม่ใช่หรอกหรือแล้วทําไมจู่ๆถึงได้กลายเป็นแฟนของผู้ชายคนนี้แทนได้ล่ะ?

 

ตัวประกันคนอื่นๆในร้านกาแฟต่างก็ส่งสายตาชื่นชมกับความรักอันบริสุทธิ์และงดงามของฉีเซิงและเมื่อพวกผู้หญิงบางคนในร้านหันกลับไปมองใบหน้าของอู่ชิงหยุนก็รู้สึกอิจฉาฉีเชิงมากเพราะพวกเธอเองก็ยินดีที่จะพลีชีพไปพร้อมกับชายหนุ่มสุดหล่อที่อยู่ตรงหน้านี้เหมือนกัน

 

ตํารวจที่อยู่ด้านนอกเริ่มได้ยินเสียงเอ๊ะอะจากข้างในร้านและพวกโจรเองก็คงรู้สึกตัวว่าเสียเวลากับเธอมากแล้วพวกมันจึงไม่ได้หยุดเพื่อคิดพิจารณาอะไรอีก“ลุกขึ้น! แล้วอย่าทําอะไรนอกเหนือจากคําสั่ง เอามือออกมาประสานกันไว้ที่ท้ายทอย”

 

ฉีเชิงลุกขึ้น ก่อนจะรีบเดินไปยืนข้างๆลู่ชิงหยุนเธอจับแขนเขาและก็ไม่ลืมที่จะยิ้มหวานๆให้เขาด้วยหนึ่งที่

 

พวกโจรต้องการให้ตํารวจเตรียมรถยนต์ให้พวกมันภายในครึ่งชั่วโมงมิฉะนั้นพวกมันจะเริ่มฆ่าตัวประกันในร้านทิ้งทันที

 

“นี่ๆคุณกลัวหรือเปล่า?” ฉีเชิงถามลู่ชิงหยุนด้วยเสียงเล็กๆไร้เดียงสา

 

ลู่ชิงหยุนยืนนิ่งๆด้วยท่าทางสบายๆเขาตอบด้วยเสียงที่เจือไปด้วยเสียงหัวเราะเล็กๆ “ในเมื่อมีคนเสนอตัวจะตายเป็นเพื่อนผมขนาดนี้แล้วทําไมผมจะต้องกลัวด้วยล่ะ?”

 

สายตาที่คลุมเครือของเขาเหลือบมองไปที่แขนข้างที่ฉีเชิงที่กําลังจับอยู่ ก่อนเขาจะฉีกยิ้มกว้างออกมา รอยยิ้มของเขาเจิดจ้าจนทําโลกหม่นไปเลยทีเดียว

ฉีเชิงรู้สึกราวกับว่า มีเสียงระฆังกําลังดังเตือนให้สัญญาณอะไรบ้างอย่างอยู่ในโสตประสาท เธอลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ปล่อยมือจากแขนของเขา

 

“มาลองทายกันเล่นๆ ดูไหม ว่าตํารวจจะใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะช่วยพวกเราได้” ฉีเชิงพูดพลางมองไปยังเหล่าตํารวจข้างนอก ที่กําลังยืนเจรจากับพวกโจรโดยคุยกันผ่านโทรโข่งในมืออยู่

 

“บางที่พวกเขาอาจจะช่วยตัวประกันไม่ได้เลยก็ได้”

 

“อย่าห่วงเลย คุณเห็นผู้หญิงที่อยู่ข้างๆคุณนั้นมัย?” นี่เชิงพูดในทํานองที่ปลอบใจ แต่ในน้ําเสียงกลับไม่ได้ดูเหมือนกําลังปลอบใจอยู่เลยสักนิด “พยายามตามติดเธอไป แล้วคุณจะไม่ตาย อย่างมากก็อาจจะแค่ได้รับบาดเจ็บนิดหน่อย”

 

อู่ชิงหยุนเหลือบตามองไปที่เซี่ยเหมินซึ่งยืนอยู่ข้างๆ หน้าของเธอกําลังมองตรงไปเบื้องหน้า คางเชิดขึ้น และหลังค่อนข้างเกร็ง ดูก็รู้ว่าเธอกําลังรู้สึกประหม่าและหวาดกลัวอย่างเห็นได้อย่างชัดซึ่งช่างแตกต่างจากเด็กสาวที่เพิ่งจะอุปโลกน์ตัวเองว่าเป็นแฟนสาวของเขาอย่างสิ้นเชิงเพราะเจ้าหล่อนยังดูชิวๆไม่มีแม้แต่ร่องรอยความหวาดกลัวใดๆให้เห็นเลยสักกะติดเดียว

 

“แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าผมจะไม่ตาย ถ้าผมตามเธอไป”

 

โง่จริง ! ก็เพราะว่ายัยนั้นเป็นตัวเอกของเรื่องไง ใครจะให้หล่อนตายง่ายๆล่ะ

 

แน่นอนว่าฉีเชิงไม่สามารถบอกเรื่องพวกนี้กับเขาได้เธอจึงได้แต่ยิ้มบางๆและพูดกับเขาว่า “คุณก็ลองไปทดสอบดูสิว่าคุณจะสามารถฆ่าเธอให้ตายได้รึเปล่า?”

 

ระบบกําลังร่ําไห้ “โฮสต์ภารกิจของคุณคือให้คุณไปจีบผู้ชายไม่ใช่ไปยุยงให้จอมวายร้ายไปฆ่านางเอก”

 

“โฮสต์บ้านผมชอบแหกคอกเสมอ 

 

เซี่ยเหมินไม่ได้ยืนอยู่ใกล้กับฉีเชิงและลู่ชิงหยุนมากนัก ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ยินว่าสองคนนั้นกําลังพูดถึงเรื่องอะไรกันอยู่แต่ด้วยสายตาที่พวกเขาสองคนจ้องมองมาทําให้เธอตัวแข็งที่อและรู้สึกเสียวสันหลังวาบยิ่งกว่าตอนที่โดนปืนจ่อหัวซะอีก

 

ตํารวจที่อยู่ข้างนอกรู้สึกมึนงงจนพูดไม่ออก “ทําไมเขาถึงมีความรู้สึกว่าตัวประกันสองคนนี้ดูไม่เกรงกลัวอะไรกันซะเลยยังจะมายืนคุยกันเรื่องไปฆ่าคนกันหน้าตาเฉย อีกจะบ้าตาย! นี่พวกคุณช่วยเล่นให้มันสมบทบาทหน่อยได้ ไหมตอนนี้มันเป็นฉากบู่เลือดสาดอยู่นะ ไม่ใช่ฉากรักโรแมนติกเฟ้ย!!ยังจะมายืนคุยกันกระหนุงกระหนิงอยู่ได้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+