Side Character Transmigrations: The Final Boss is No Joke 30 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (10)

Now you are reading Side Character Transmigrations: The Final Boss is No Joke Chapter 30 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (10) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Side Character Transmigrations: The Final B… บทที่ 30 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก.. ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (10)

บทที่ 30 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (10)

 

“เซี่ยเหมิน เธอยังมีหน้ากล้ากลับมาเหยียบที่นี่อีกเหรอ?เธอนี่มันไม่มียางอายบ้างเลยหรือยังไงกัน? ถ้าเป็นฉัน ฉันคงจะใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศไปจนตาย แล้วก็ไม่กลับมาอีกเพราะอย่างน้อยๆก็ไม่ขายหน้าตัวเอง แล้วก็ไม่ทําให้ตระกูลเซียต้องแปดเปิ้อนด้วย”

 

ขณะที่ฉีเซิงกําลังจะเดินเข้างาน จู่ๆเธอก็ได้ยินเสียงคนพูดชื่อของเซี่ยเหมินขึ้นมา เธอหยุดเดินก่อนจะหันกลับไปมอง

หญิงสาวหน้าตาสะสวยแต่งกายด้วยชุดราตรีสุดหรูกําลังยืนขวางทางไม่ให้เซี่ยเหมินเข้าไปในงาน พวกเขายืนอยู่ห่างจากฉีเซิง เพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้นฉีเซิงมองอยู่สักพัก ก่อนจะได้ยินเซี่ยเหมินตอบกลับพวกเขาเหล่านั้นด้วยน้ําเสียงที่แสนเย็นชาว่า “ฉันไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับตระกูลเซีย”

 

เซี่ยหยวนสวนเซี่ยเหมินกลับทันควันด้วยน้ําเสียงเย้ยหยัน “ โอ้ว…เดี๋ยวนี้ปีกกล้าขาแข็งดีนิแต่เธอเอาอะไรมามั่นใจขนาดนั้นว่า จะมีคนสนับสนุนเธอ? อ่อ…ฉันคิดออกแล้ว ของอย่างเดียวที่เธอพอจะพึ่งพาได้ในตอนนี้ก็คงมีแค่เรือนร่างของเธอสินะ”

เซี่ยหยวนล้มลงก่อนจะเซไปโดนฉีเซิงที่อยู่ใกล้ๆ จนฉีเซิงเองก็เซไปกระแทกเข้ากับกระถางดอกไม้ที่ตั้งอยู่ข้างๆ และก็เนื่องด้วยกระถางนั้นเป็นทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งฉีเซิงเองก็ดันไปชนเข้าที่ตรงเหลี่ยมนั้นจังๆ จนเอวแทบเคล็ด

ชื่อ…ฉันก็เป็นผู้ชมของฉันอยู่ดีๆทําไมฉันถึงชอบเอาฉันเข้าไปพัวพันด้วยตลอดเลย! และสําหรับนาย…ลู่ชิงหยุน….นายจะมีน้ําใจ ช่วยดึงฉันไว้ก่อนฉันจะชนไม่ได้รึไงยะ! ไอ้วายร้ายไร้หัวใจ ไม่มีจิตเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ รู้ไหมเนี้ยว่ามันเจ็บ

ลู่ชิงหยุนยืนอยู่ไม่ได้ไกลจากเธอเลย เห็นได้อย่างว่าถ้าเขาตั้งใจจะช่วยเธอจริงๆ มันไม่ได้เกินความสามารถของเขาเลย แต่ไอ้จอมมารไร้หัวใจตัวนี้มันดันไม่ยอมช่วย พอเห็นเธอชนเข้ากับกระถางดอกไม้ ยังมีหน้ามายืนพับแขนเสื้อชิวๆอีกแค่นั้นยังไม่พอมีแถม รอยยิ้มหวานๆให้เธอด้วยอีกหนึ่งที่ เอากับเขาสิเอา บ้าบอที่สุด!

“คุณโอเคไหม?” มีมือคู่หนึ่งยื่นมาประคองเธอไว้ ฉีเซิงขมวดคิ้วก่อนจะค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของมือ ถึงเห็นว่าเป็น ซีโม่นั่นเอง

 

“ อ๊ะ คุณโม่คุณให้คนมาตบฉันทําไม? ฉันทําอะไรผิด?” เซี่ยหยวนจับที่ใบหน้าของเธอพลางมองไปที่ซิโม่อย่างสงสัย ว่าเขาเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า เพราะคนที่ตบเธอนั้นเป็นผู้ช่วยของซิโม่

ซิโม่ค่อยๆประคองฉีเซิงอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเอามือเรียวยาวของเขามาโอบที่เอวของเซิงอย่าสนิทสนม “คุณกําลังยืนขวางทางแฟนของผม” เขาตอบกลับเซี่ยหยวนอย่างเย็นชา

 

ฉีเซิง “…”

“เหตุผลของนายนี่มัน…. แม่ม…โครตกวนทีนเลย”

“บ้านปูนายสิ เห็นๆกันอยู่ว่านายอยากจะเอาคืนให้แม่นางเอก อยากจะช่วยก็ช่วยกันเองสิ แต่นายจะลากฉันเข้ามาเกี่ยวเพื่อ! ก็ไม่แปลกใจว่าในเนื้อเรื่องเดิมทําไมคนถึงรุมเกลียดเจียงหวันนัก ก็อีพ่อพระเอกเล่นเอาเจียงหวันมาเป็นโลให้แม่นางเอกทุกงานเลย

เซี่ยหยวนเริ่มหน้าตึงด้วยความไม่พอใจ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ เธอจ้องฉีเซิงอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อก่อน เธอจะเอ่ยถามซิโม่ พร้อมทั้งชี้นิ้วมาที่ฉีเซิง “อาโม่ เธอ – เธอเป็นใคร?”

 

“แฟน? ซิโม่ไปมีแฟนตั้งแต่ตอนไหนกัน? ถ้าต้องใช่แน่ๆ แม่นี่ต้องมายั่วยวนซิโม่แล้วหลอกให้เขาคบกับหล่อน!?

 

ฉีเซิงเริ่มรู้สึกไม่โอเคกับสัมผัสของซีโม่ ดังนั้นเธอจึงเอื้อมไปจับ แขนลู่ชิงหยุน และใช้โอกาสนั้นค่อยๆหลบออกจากการโอบของซีโม่อย่างเนียนๆ เธอยืนกอดแขนของลู่ชิงหยุนก่อนจะพูดด้วยน้ําเสียงเชิงสั่งสอนว่า “ประธานซีคะ คนเราจะกินอะไรก็ได้ที่อยากกิน แต่จะมาพูดอะไรที่อยากจะพูดมั่วชั่วไม่ได้นะคะ ก็เห็นๆกันอยู่ว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน คุณมาพูดแบบนี้ฉันเสียหายสิคะ”

 

“ดูเหมือนว่าวันนี้เธอคงจะต้องแสดงจุดยืนที่ชัดเจนแล้วล่ะ ว่าเธอน่ะอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับซิโม่ถึงจะเซ็นสัญญาเป็นดาราในสังกัดของตงฟางเอ็นเตอร์เทรนเม้นท์แล้วยังไงล่ะ ใครแคร์ ถ้าอยากให้ เจ๊ใหญ่คนนี้เป็นโลให้ ก็ต้องถามเจ็ก่อนว่าเจ็มีอารมณ์อยากจะเล่นด้วยไหม?”

ลู่ชิงหยุนก้มมองผู้หญิงที่กําลังยืนเกาะแขนเขาอยู่ด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ เขาเดินถอยหลังไปหนึ่งก้าว ใช่..เขาจงใจจะขัดขวางแผนการของเธอแต่ก็ดูเหมือนว่าเธอจะรู้ทันและก็ไม่ปล่อยให้เขาทําสําเร็จ แม้จะดูเหมือนว่าเธอกําลังยืนกอดแขนเขาอย่างแนบแน่น แต่จริงๆมันไม่ได้แน่นขนาดนั้น เมื่อเขาขยับตัวเธอก็จะขยับตามเขาไปด้วย

การเคลื่อนไหวของพวกเขาดูเป็นธรรมชาติ ไม่ได้ดูผิดสังเกตอะไร ในสายตาของคนอื่นๆคงคิดว่าลู่ชิงหยุนกําลังเปลี่ยนท่าเพื่อซัพพอร์ตเซิง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่เล้ยยย…พวกเขากําลังต่อสู้กันแบบลับๆอยู่ต่างหาก จนสุดท้ายลู่ชิงหยุนก็ยอมแพ้ เขา ดันฉีเซิงออกเล็กน้อยก่อนจะคว้าเอวบางของเธอเอามากอดอย่างแนบแน่น แน่นราวกับว่าต้องการจะรัดเอวเธอให้ขาดออกจากกันก็ว่าได้

“ไอ้สารเลวหน้าตายลู่ชิงหยุน! ฉีเซิงโมโหจนกัดฟันกรอด ฉู่ถางฉันให้นายลงมาจากอันดับหนึ่งในบัญชีดําของฉันได้ แล้วก็ให้เจ้าผีบ้าสู่ชิงหยุนมันขึ้นไปแทน!”

 

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีดังนั้นซิโม่จึงไม่มีเวลามากพอที่จะประมวลผลคําพูดทั้งหมดของฉีเซิง ก่อนเขาจะสังเกตเห็นลู่ชิงหยุนและใบหน้าของเขาก็เริ่มบึงตึงขึ้นทันที อีกทั้งเขายังใช้สายตาที่แสดงความไม่พอใจอย่างมากมองไปที่ฉีเซิง “ หวันเออร์ อย่าทําให้เรื่องมันยุ่งยากเลย มาเถอะ”

“ ไม่ทราบว่าประธานซีหมายถึงอะไรคะ? ถึงแม้ว่าฉันจะเป็นศิลปินในสังกัดของคุณ แต่ฉันก็จําไม่ได้นะคะ ว่าขายร่างกายและจิตวิญญาณให้บริษัทคุณไปตั้งแต่เมื่อไหร่” ฉีเซิงจ้องมองไปที่ซีโออย่างเย็นชา “พ่อแก้วแม่แก้ว การจะเป็นนางร้ายนี่มันต้องจิตแข็ง เบอร์ไหนเนี้ย

 

ซิโม่กดเสียงต่ําลงแสดงความไม่พอใจถึงขีดสุด “ เจียงหวัน คุณคงไม่ลืมสิ่งที่คุณสัญญาไว้กับผมใช่ไหม?”

ฉีเซิงแกล้งทําเป็นใสซื่อ “ ฉันไปสัญญาอะไรกับคุณไว้หรอประธานซี?”

คนที่ทําสัญญาคือเจียงหวัน ไม่ใช่เธอ อีกอย่างเธอก็มั่นใจว่าซีโม่ไม่กล้าพูดเรื่องสัญญานั้นออกมาต่อหน้าคนอื่นแน่ๆ

“หวันเออร์ ผมแค่มาสายไปนิดหน่อยเอง ที่บริษัทมีงานด่วนจริงๆ แต่ผมก็มาแล้วนี่ไง คุณอย่างอลไปเลยนะ” ซิโม่พูดกับฉีเซิง ด้วยน้ําเสียงที่อ่อนลง “มาเถอะ อย่าให้อารมณ์เพียงชั่ววูบมาทํา

ลายอนาค

“ไอ้ผู้ชายเฮงซวย นี่ถึงกลับกล้าขู่ฉันเลยเรอะ

 

ซิโม่เป็นผู้ชายเลือดเย็นไร้หัวใจ นอกจากเซี่ยเหมินแล้วเขาจะใช้งานใครก็ได้อย่างไม่รู้สึกผิด

ไม่สิ เขาเองก็เคยใช้ประโยชน์จากเซี่ยเหมินแล้วเหมือนกันเพียง แต่ว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ได้มีผลกระทบมากมายเท่าไหร่

ฉีเซิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างพลางพูดขี้นอีกครั้ง “ประธานซีคะ ฉันกับคุณเป็นเพียงแค่นายจ้างกับลูกจ้างกันเท่านั้นแทนที่คุณจะมาอธิบายเหตุผลที่มาสายให้ฉันฟัง คุณควรจะไปอธิบายให้คู่หมั้นของคุณฟังมากกว่าไม่ใช่เหรอ”

คู่หมั้นของซีโม่คือผู้หญิงที่เพิ่งจะถูกตบไปเมื่อกี้ ซึ่งก็คือเซี่ยหยวนนั่นเอง เธอเป็นลูกสาวของพ่อเซี่ยเหมินกับภรรยาคนก่อนและ เธอก็ยังเป็นหนึ่งในเป้าหมายการแก้แค้นของเจียงหวันอีกด้วย

ด้วยการช่วยเหลือและสนับสนุนจากตระกูลเซีย ทําให้เซี่ยหยวนก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงได้อย่างง่ายดาย และปัจจุบันเธอก็เป็นหนึ่งในดาราดังอันดับต้นๆของประเทศเลยทีเดียว

จากคําพูดของฉีเซิง ทําให้ซีโม่หัวเราะในใจอย่างเยือกเย็น เขาปฏิบัติต่อเธออย่างดี แต่เธอกลับเอาความโกรธเกรี้ยวทั้งหมดขว้างไปที่คู่หมั้นของเขาแทน

 

เมื่อคิดได้ดังนั้นใบหน้าของซีโม่ก็อ่อนลงเล็กน้อยก่อนเขาจะ กล่าวกับฉีเซิงว่า “การหมั้นหมายของเซี่ยหยวนกับผม เป็นการตัดสินใจของพวกผู้ใหญ่ทั้งนั้น ใจของผมมีเพียงคุณเดียวนะรู้มั้ย คุณกลับมายืนข้างๆผมก่อนเถอะ”

“ประธานซี ฉันว่าฉันพูดชัดแล้วนะคะ คุณเป็นถึงซีอีโอของบริษัท คุณคงไม่หาเรื่องยุ่งยากมาให้กับพนักงานหรอกใช่มั้ย?”

ซิโม่อยากจะหัวเราะออกมา แต่เขาก็พยายามข่มอารมณ์เอาไว้ “อืม…เธอยังรู้ด้วยเหรอว่าฉันเป็นซีอีโอ? นี่ขนาดว่ารู้เธอนะ ยังกล้าท้าทายฉันขนาดนี้ ฉันเคยคิดนะว่าเธอเป็นผู้หญิงที่รู้จักประมาณตน แต่ตอนนี้ที่ฉันเห็นเธอมันก็เป็นแค่ผู้หญิงโลภเหมือนกับคนอื่นๆนั่นแหละ

“เจียงหวัน ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ” ใบหน้าของซีโม่มืดครื้มลง เขาหยุดที่แสร้งจะปั้นหน้าเป็นคนดีแล้ว แต่เขาไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เธอถึงจะหยุดเสแสร้งสักที

“ขอบคุณประธานซีสําหรับคําชมนะคะ”

 

ซิโม่กําหมัดแน่น ในแววตาของเขามีประกายความมืดแผ่ออกมาเบาๆ เจียงหวัน ในเมื่อฉันปั้นเธอขึ้นมาได้ ฉันก็เหยียบเธอให้จมดินได้เหมือนกัน แล้วฉันก็จะรอดูวันที่เธอต้องซมซานกลับมาคุก เข่าขอร้องอ้อนวอนฉัน”

เมื่อพวกเขาเริ่มที่จะเป็นจุดสนใจจากผู้คนที่มาร่วมงานเลี้ยง ซีโม่ก็ตัดสินใจหยุดการสนทนาเอาไว้ ก่อนเขาจะรีบเดินเข้าไปในงานเลี้ยงทันที เขารู้ว่านี้ไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะสําหรับการพูดคุย

 

“อาโม่รอฉันด้วย ” เซี่ยหยวนยกชายกระโปรงที่ยาวลากพื้นของเธอกึ่งวิ่งกึ่งเดินตามซีโม่ไป แต่ก่อนจะเดินไปเธอก็ยังไม่ลืมที่จะส่งสายตาพิฆาตมาให้กับฉีเซิง ฉีเซิงรู้สึกงุนงงจนพูดไม่ออก “เฮ้ผู้ชายคนนั้นเขาเพิ่งจะสั่งให้คนตบเธอไปนะ แล้วเธอยังจะไปวิ่งไล่ตามเขาไปอีกเหรอ? นี่เธอเป็นมาโซคิสรีไงยะ?!”

 

เซี่ยเหมินยังคงยืนฟังเงียบๆอยู่ตรงนั้นตลอด จากความรู้สึกขมขื่นที่เห็นซิโม่กับผู้หญิงคนอื่น กลายเป็นความสงสัยงุนงง “เกิดอะไรขึ้น? นี่ซิโม่โดนทิ้งหรอ?”

อย่างไรก็ตามเมื่อเธอหันไปมองหน้าลู่ชิงหยุน เธอก็รู้ได้ทันทีเลย ว่า มันไม่แปลกเลยที่ซิโม่จะโดนเขี่ยทิ้ง

ฉีเซิงยกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งก่อนจะมองไปที่เซี่ยเหมินทําไมแม่นางเอก ถึงดูไม่เป็นอะไรเลยล่ะ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Side Character Transmigrations: The Final Boss is No Joke 30 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (10)

Now you are reading Side Character Transmigrations: The Final Boss is No Joke Chapter 30 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (10) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Side Character Transmigrations: The Final B… บทที่ 30 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก.. ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (10)

บทที่ 30 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (10)

 

“เซี่ยเหมิน เธอยังมีหน้ากล้ากลับมาเหยียบที่นี่อีกเหรอ?เธอนี่มันไม่มียางอายบ้างเลยหรือยังไงกัน? ถ้าเป็นฉัน ฉันคงจะใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศไปจนตาย แล้วก็ไม่กลับมาอีกเพราะอย่างน้อยๆก็ไม่ขายหน้าตัวเอง แล้วก็ไม่ทําให้ตระกูลเซียต้องแปดเปิ้อนด้วย”

 

ขณะที่ฉีเซิงกําลังจะเดินเข้างาน จู่ๆเธอก็ได้ยินเสียงคนพูดชื่อของเซี่ยเหมินขึ้นมา เธอหยุดเดินก่อนจะหันกลับไปมอง

หญิงสาวหน้าตาสะสวยแต่งกายด้วยชุดราตรีสุดหรูกําลังยืนขวางทางไม่ให้เซี่ยเหมินเข้าไปในงาน พวกเขายืนอยู่ห่างจากฉีเซิง เพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้นฉีเซิงมองอยู่สักพัก ก่อนจะได้ยินเซี่ยเหมินตอบกลับพวกเขาเหล่านั้นด้วยน้ําเสียงที่แสนเย็นชาว่า “ฉันไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับตระกูลเซีย”

 

เซี่ยหยวนสวนเซี่ยเหมินกลับทันควันด้วยน้ําเสียงเย้ยหยัน “ โอ้ว…เดี๋ยวนี้ปีกกล้าขาแข็งดีนิแต่เธอเอาอะไรมามั่นใจขนาดนั้นว่า จะมีคนสนับสนุนเธอ? อ่อ…ฉันคิดออกแล้ว ของอย่างเดียวที่เธอพอจะพึ่งพาได้ในตอนนี้ก็คงมีแค่เรือนร่างของเธอสินะ”

เซี่ยหยวนล้มลงก่อนจะเซไปโดนฉีเซิงที่อยู่ใกล้ๆ จนฉีเซิงเองก็เซไปกระแทกเข้ากับกระถางดอกไม้ที่ตั้งอยู่ข้างๆ และก็เนื่องด้วยกระถางนั้นเป็นทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งฉีเซิงเองก็ดันไปชนเข้าที่ตรงเหลี่ยมนั้นจังๆ จนเอวแทบเคล็ด

ชื่อ…ฉันก็เป็นผู้ชมของฉันอยู่ดีๆทําไมฉันถึงชอบเอาฉันเข้าไปพัวพันด้วยตลอดเลย! และสําหรับนาย…ลู่ชิงหยุน….นายจะมีน้ําใจ ช่วยดึงฉันไว้ก่อนฉันจะชนไม่ได้รึไงยะ! ไอ้วายร้ายไร้หัวใจ ไม่มีจิตเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ รู้ไหมเนี้ยว่ามันเจ็บ

ลู่ชิงหยุนยืนอยู่ไม่ได้ไกลจากเธอเลย เห็นได้อย่างว่าถ้าเขาตั้งใจจะช่วยเธอจริงๆ มันไม่ได้เกินความสามารถของเขาเลย แต่ไอ้จอมมารไร้หัวใจตัวนี้มันดันไม่ยอมช่วย พอเห็นเธอชนเข้ากับกระถางดอกไม้ ยังมีหน้ามายืนพับแขนเสื้อชิวๆอีกแค่นั้นยังไม่พอมีแถม รอยยิ้มหวานๆให้เธอด้วยอีกหนึ่งที่ เอากับเขาสิเอา บ้าบอที่สุด!

“คุณโอเคไหม?” มีมือคู่หนึ่งยื่นมาประคองเธอไว้ ฉีเซิงขมวดคิ้วก่อนจะค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของมือ ถึงเห็นว่าเป็น ซีโม่นั่นเอง

 

“ อ๊ะ คุณโม่คุณให้คนมาตบฉันทําไม? ฉันทําอะไรผิด?” เซี่ยหยวนจับที่ใบหน้าของเธอพลางมองไปที่ซิโม่อย่างสงสัย ว่าเขาเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า เพราะคนที่ตบเธอนั้นเป็นผู้ช่วยของซิโม่

ซิโม่ค่อยๆประคองฉีเซิงอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเอามือเรียวยาวของเขามาโอบที่เอวของเซิงอย่าสนิทสนม “คุณกําลังยืนขวางทางแฟนของผม” เขาตอบกลับเซี่ยหยวนอย่างเย็นชา

 

ฉีเซิง “…”

“เหตุผลของนายนี่มัน…. แม่ม…โครตกวนทีนเลย”

“บ้านปูนายสิ เห็นๆกันอยู่ว่านายอยากจะเอาคืนให้แม่นางเอก อยากจะช่วยก็ช่วยกันเองสิ แต่นายจะลากฉันเข้ามาเกี่ยวเพื่อ! ก็ไม่แปลกใจว่าในเนื้อเรื่องเดิมทําไมคนถึงรุมเกลียดเจียงหวันนัก ก็อีพ่อพระเอกเล่นเอาเจียงหวันมาเป็นโลให้แม่นางเอกทุกงานเลย

เซี่ยหยวนเริ่มหน้าตึงด้วยความไม่พอใจ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ เธอจ้องฉีเซิงอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อก่อน เธอจะเอ่ยถามซิโม่ พร้อมทั้งชี้นิ้วมาที่ฉีเซิง “อาโม่ เธอ – เธอเป็นใคร?”

 

“แฟน? ซิโม่ไปมีแฟนตั้งแต่ตอนไหนกัน? ถ้าต้องใช่แน่ๆ แม่นี่ต้องมายั่วยวนซิโม่แล้วหลอกให้เขาคบกับหล่อน!?

 

ฉีเซิงเริ่มรู้สึกไม่โอเคกับสัมผัสของซีโม่ ดังนั้นเธอจึงเอื้อมไปจับ แขนลู่ชิงหยุน และใช้โอกาสนั้นค่อยๆหลบออกจากการโอบของซีโม่อย่างเนียนๆ เธอยืนกอดแขนของลู่ชิงหยุนก่อนจะพูดด้วยน้ําเสียงเชิงสั่งสอนว่า “ประธานซีคะ คนเราจะกินอะไรก็ได้ที่อยากกิน แต่จะมาพูดอะไรที่อยากจะพูดมั่วชั่วไม่ได้นะคะ ก็เห็นๆกันอยู่ว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน คุณมาพูดแบบนี้ฉันเสียหายสิคะ”

 

“ดูเหมือนว่าวันนี้เธอคงจะต้องแสดงจุดยืนที่ชัดเจนแล้วล่ะ ว่าเธอน่ะอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับซิโม่ถึงจะเซ็นสัญญาเป็นดาราในสังกัดของตงฟางเอ็นเตอร์เทรนเม้นท์แล้วยังไงล่ะ ใครแคร์ ถ้าอยากให้ เจ๊ใหญ่คนนี้เป็นโลให้ ก็ต้องถามเจ็ก่อนว่าเจ็มีอารมณ์อยากจะเล่นด้วยไหม?”

ลู่ชิงหยุนก้มมองผู้หญิงที่กําลังยืนเกาะแขนเขาอยู่ด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ เขาเดินถอยหลังไปหนึ่งก้าว ใช่..เขาจงใจจะขัดขวางแผนการของเธอแต่ก็ดูเหมือนว่าเธอจะรู้ทันและก็ไม่ปล่อยให้เขาทําสําเร็จ แม้จะดูเหมือนว่าเธอกําลังยืนกอดแขนเขาอย่างแนบแน่น แต่จริงๆมันไม่ได้แน่นขนาดนั้น เมื่อเขาขยับตัวเธอก็จะขยับตามเขาไปด้วย

การเคลื่อนไหวของพวกเขาดูเป็นธรรมชาติ ไม่ได้ดูผิดสังเกตอะไร ในสายตาของคนอื่นๆคงคิดว่าลู่ชิงหยุนกําลังเปลี่ยนท่าเพื่อซัพพอร์ตเซิง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่เล้ยยย…พวกเขากําลังต่อสู้กันแบบลับๆอยู่ต่างหาก จนสุดท้ายลู่ชิงหยุนก็ยอมแพ้ เขา ดันฉีเซิงออกเล็กน้อยก่อนจะคว้าเอวบางของเธอเอามากอดอย่างแนบแน่น แน่นราวกับว่าต้องการจะรัดเอวเธอให้ขาดออกจากกันก็ว่าได้

“ไอ้สารเลวหน้าตายลู่ชิงหยุน! ฉีเซิงโมโหจนกัดฟันกรอด ฉู่ถางฉันให้นายลงมาจากอันดับหนึ่งในบัญชีดําของฉันได้ แล้วก็ให้เจ้าผีบ้าสู่ชิงหยุนมันขึ้นไปแทน!”

 

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีดังนั้นซิโม่จึงไม่มีเวลามากพอที่จะประมวลผลคําพูดทั้งหมดของฉีเซิง ก่อนเขาจะสังเกตเห็นลู่ชิงหยุนและใบหน้าของเขาก็เริ่มบึงตึงขึ้นทันที อีกทั้งเขายังใช้สายตาที่แสดงความไม่พอใจอย่างมากมองไปที่ฉีเซิง “ หวันเออร์ อย่าทําให้เรื่องมันยุ่งยากเลย มาเถอะ”

“ ไม่ทราบว่าประธานซีหมายถึงอะไรคะ? ถึงแม้ว่าฉันจะเป็นศิลปินในสังกัดของคุณ แต่ฉันก็จําไม่ได้นะคะ ว่าขายร่างกายและจิตวิญญาณให้บริษัทคุณไปตั้งแต่เมื่อไหร่” ฉีเซิงจ้องมองไปที่ซีโออย่างเย็นชา “พ่อแก้วแม่แก้ว การจะเป็นนางร้ายนี่มันต้องจิตแข็ง เบอร์ไหนเนี้ย

 

ซิโม่กดเสียงต่ําลงแสดงความไม่พอใจถึงขีดสุด “ เจียงหวัน คุณคงไม่ลืมสิ่งที่คุณสัญญาไว้กับผมใช่ไหม?”

ฉีเซิงแกล้งทําเป็นใสซื่อ “ ฉันไปสัญญาอะไรกับคุณไว้หรอประธานซี?”

คนที่ทําสัญญาคือเจียงหวัน ไม่ใช่เธอ อีกอย่างเธอก็มั่นใจว่าซีโม่ไม่กล้าพูดเรื่องสัญญานั้นออกมาต่อหน้าคนอื่นแน่ๆ

“หวันเออร์ ผมแค่มาสายไปนิดหน่อยเอง ที่บริษัทมีงานด่วนจริงๆ แต่ผมก็มาแล้วนี่ไง คุณอย่างอลไปเลยนะ” ซิโม่พูดกับฉีเซิง ด้วยน้ําเสียงที่อ่อนลง “มาเถอะ อย่าให้อารมณ์เพียงชั่ววูบมาทํา

ลายอนาค

“ไอ้ผู้ชายเฮงซวย นี่ถึงกลับกล้าขู่ฉันเลยเรอะ

 

ซิโม่เป็นผู้ชายเลือดเย็นไร้หัวใจ นอกจากเซี่ยเหมินแล้วเขาจะใช้งานใครก็ได้อย่างไม่รู้สึกผิด

ไม่สิ เขาเองก็เคยใช้ประโยชน์จากเซี่ยเหมินแล้วเหมือนกันเพียง แต่ว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ได้มีผลกระทบมากมายเท่าไหร่

ฉีเซิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างพลางพูดขี้นอีกครั้ง “ประธานซีคะ ฉันกับคุณเป็นเพียงแค่นายจ้างกับลูกจ้างกันเท่านั้นแทนที่คุณจะมาอธิบายเหตุผลที่มาสายให้ฉันฟัง คุณควรจะไปอธิบายให้คู่หมั้นของคุณฟังมากกว่าไม่ใช่เหรอ”

คู่หมั้นของซีโม่คือผู้หญิงที่เพิ่งจะถูกตบไปเมื่อกี้ ซึ่งก็คือเซี่ยหยวนนั่นเอง เธอเป็นลูกสาวของพ่อเซี่ยเหมินกับภรรยาคนก่อนและ เธอก็ยังเป็นหนึ่งในเป้าหมายการแก้แค้นของเจียงหวันอีกด้วย

ด้วยการช่วยเหลือและสนับสนุนจากตระกูลเซีย ทําให้เซี่ยหยวนก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงได้อย่างง่ายดาย และปัจจุบันเธอก็เป็นหนึ่งในดาราดังอันดับต้นๆของประเทศเลยทีเดียว

จากคําพูดของฉีเซิง ทําให้ซีโม่หัวเราะในใจอย่างเยือกเย็น เขาปฏิบัติต่อเธออย่างดี แต่เธอกลับเอาความโกรธเกรี้ยวทั้งหมดขว้างไปที่คู่หมั้นของเขาแทน

 

เมื่อคิดได้ดังนั้นใบหน้าของซีโม่ก็อ่อนลงเล็กน้อยก่อนเขาจะ กล่าวกับฉีเซิงว่า “การหมั้นหมายของเซี่ยหยวนกับผม เป็นการตัดสินใจของพวกผู้ใหญ่ทั้งนั้น ใจของผมมีเพียงคุณเดียวนะรู้มั้ย คุณกลับมายืนข้างๆผมก่อนเถอะ”

“ประธานซี ฉันว่าฉันพูดชัดแล้วนะคะ คุณเป็นถึงซีอีโอของบริษัท คุณคงไม่หาเรื่องยุ่งยากมาให้กับพนักงานหรอกใช่มั้ย?”

ซิโม่อยากจะหัวเราะออกมา แต่เขาก็พยายามข่มอารมณ์เอาไว้ “อืม…เธอยังรู้ด้วยเหรอว่าฉันเป็นซีอีโอ? นี่ขนาดว่ารู้เธอนะ ยังกล้าท้าทายฉันขนาดนี้ ฉันเคยคิดนะว่าเธอเป็นผู้หญิงที่รู้จักประมาณตน แต่ตอนนี้ที่ฉันเห็นเธอมันก็เป็นแค่ผู้หญิงโลภเหมือนกับคนอื่นๆนั่นแหละ

“เจียงหวัน ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ” ใบหน้าของซีโม่มืดครื้มลง เขาหยุดที่แสร้งจะปั้นหน้าเป็นคนดีแล้ว แต่เขาไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เธอถึงจะหยุดเสแสร้งสักที

“ขอบคุณประธานซีสําหรับคําชมนะคะ”

 

ซิโม่กําหมัดแน่น ในแววตาของเขามีประกายความมืดแผ่ออกมาเบาๆ เจียงหวัน ในเมื่อฉันปั้นเธอขึ้นมาได้ ฉันก็เหยียบเธอให้จมดินได้เหมือนกัน แล้วฉันก็จะรอดูวันที่เธอต้องซมซานกลับมาคุก เข่าขอร้องอ้อนวอนฉัน”

เมื่อพวกเขาเริ่มที่จะเป็นจุดสนใจจากผู้คนที่มาร่วมงานเลี้ยง ซีโม่ก็ตัดสินใจหยุดการสนทนาเอาไว้ ก่อนเขาจะรีบเดินเข้าไปในงานเลี้ยงทันที เขารู้ว่านี้ไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะสําหรับการพูดคุย

 

“อาโม่รอฉันด้วย ” เซี่ยหยวนยกชายกระโปรงที่ยาวลากพื้นของเธอกึ่งวิ่งกึ่งเดินตามซีโม่ไป แต่ก่อนจะเดินไปเธอก็ยังไม่ลืมที่จะส่งสายตาพิฆาตมาให้กับฉีเซิง ฉีเซิงรู้สึกงุนงงจนพูดไม่ออก “เฮ้ผู้ชายคนนั้นเขาเพิ่งจะสั่งให้คนตบเธอไปนะ แล้วเธอยังจะไปวิ่งไล่ตามเขาไปอีกเหรอ? นี่เธอเป็นมาโซคิสรีไงยะ?!”

 

เซี่ยเหมินยังคงยืนฟังเงียบๆอยู่ตรงนั้นตลอด จากความรู้สึกขมขื่นที่เห็นซิโม่กับผู้หญิงคนอื่น กลายเป็นความสงสัยงุนงง “เกิดอะไรขึ้น? นี่ซิโม่โดนทิ้งหรอ?”

อย่างไรก็ตามเมื่อเธอหันไปมองหน้าลู่ชิงหยุน เธอก็รู้ได้ทันทีเลย ว่า มันไม่แปลกเลยที่ซิโม่จะโดนเขี่ยทิ้ง

ฉีเซิงยกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งก่อนจะมองไปที่เซี่ยเหมินทําไมแม่นางเอก ถึงดูไม่เป็นอะไรเลยล่ะ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+