Side Character Transmigrations: The Final Boss is No Joke 39 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก.. ได้โปรด รับเลี้ยงดูฉันหน่อย (19)

Now you are reading Side Character Transmigrations: The Final Boss is No Joke Chapter 39 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก.. ได้โปรด รับเลี้ยงดูฉันหน่อย (19) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย Side Character Transmigrations: The F… บทที่ 39 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก.. ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (19)

บทที่ 39 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก.. ได้โปรด รับเลี้ยงดูฉันหน่อย (19)

การถ่ายทําสําหรับวันนี้เสร็จ เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นทุกคนจึงเริ่มทยอย ไปกินอาหารเย็นกันและขณะที่กําลังทานกันอยู่นั้นก็มีชายรูปร่างสูงโปร่งคน หนึ่งกําลังเดินผ่านประตูของโรงแรมเข้ามาผู้หญิงสองสามคนที่อยู่บริเวณนั้น ถึงกับตกตะลึงและทําตัวไม่ถูก
“อ้าวอาโม่” เซี่ยหยวนหันหลังกลับไปมองเมื่อได้ยินเสียงสาวๆหวีดว้ายกันก่อ นจะเห็นว่าเป็นซีโม่ เธอจึงรีบยืนขึ้นเพื่อไปต้อนรับเขา รอยยิ้มแห่งความดีใจ และประหลาดใจเล็กๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ “ทําไมคุณมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะคะ?”

“ผมมาคุยธุระแถวนี้ พอรู้ว่าคุณอยู่ที่นี่ ก็เลยแวะมาดูคุณหน่อย” ซีโม่พูดตอ บด้วยน้ําเสียงเรียบเฉยก่อนจะจ้องมอง ไปที่ฉีเซิง เด็กผู้หญิงที่ขี้ขลาดและขี้ อายในวันนั้น มาวันนี้กลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

และแม้ว่าตอนนี้เธอจะไม่ได้กําลังสวม ใส่ชุดหรูหราอยู่ ไม่ได้ประทินโฉม ด้วยเครื่องสําอางแบรนด์ดังและไม่มี แม้แต่เครื่องประดับราคาแพงสักชิ้น บนตัว แต่ออร่าของเธอที่แผ่ออกมากลับทําให้เธอดูสูงส่งและสง่างามทั้งที่เธอก็สวมแค่ชุดกีฬาธรรมดาๆตัวหนึ่ง เท่านั้น

ฉีเซิงไม่ค่อยอยากจะเห็นหน้าซีโม่สัก เท่าไหร่ ดังนั้นเธอเลยตั้งใจว่าจะลุกขึ้น แล้วก็เดินออกไปแต่เมื่อลองคิดดูดีๆ แล้วถ้าขึ้นออกไปตอนนี้ยังไงเธอก็ต้อง ได้เดินผ่านพวกเขาสองคนอยู่ดีเมื่อคิดได้ดังนั้นเธอก็เลยนั่งลงตามเดิม ขณะที่ ซีโม่เองก็ยืนคุยกับเซี่ยหยวนอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินจากไป

เซี่ยหยวนเดินกลับมาหาฉีเซ็งที่โต๊ะ ก่อนจะพูดด้วยน้ําเสียงกดต่ําว่า “เจียงห วันฉันจะทําให้เธอไม่มีที่ยืนในวงการนี้อีกต่อไป!”

“อ่อเหรอ บังเอิญจังเนอะ เป้าหมาย ของฉันเหมือนกับเธอเต๊ะเลยอะ” ฉีเซิง เอ่ยตอบด้วยน้ําเสียงสบายๆ“มาลองดู กันไหมล่ะว่าใครมันจะกระเด็นออกจาก วงการนี้ก่อนกัน!”

เซี่ยหยวนพูดขึ้นด้วยน้ําเสียงสบประ มาทดูถูก “น้ําหน้าอย่างเธอนะหรอจะมี ปัญญา? เธอคิดว่าแค่เธอกับเซี่ยเหมินเปิดบริษัทเล็กๆนั้นแล้วจะสามารถเทียบ เทียมฉันได้เหรอ? เธอมันก็แค่ดารากระจอกๆปลายแถว จะมาเทียบชั้นกับซุป สตาร์เบอร์หนึ่งของวงการอย่างฉันได้ยังไง ไหนลองบอกมาสิเธอจะเอาอะไรมา สู้ฉัน?”

ฉีเซิงยกมือขึ้นมาเท้าคางแล้วฉีกยิ้ม อย่างสดใส “โทษทีนะ แต่ตอนนี้ฉันมี แบ็คอัพแล้วล่ะ”

“ตอนนี้เธอมี หยูเจียน เอนเตอร์เทรน เม้นท์ เป็นกองหนุน และถ้าเป็นในเมือง หลวงละก็ ใครๆก็รู้กันทั้งนั้นแหล่ะว่าหยูเจียนเอนเตอร์เทรนเม้นท์ นั้นมีอิทธิพ ลมากกว่า ตงฟาง เอนเตอร์เทรนเม้นท์แค่ไหน

เธอเองก็พึ่งได้ยินมาว่าตงฟางเอนเต อร์เทนเม้นท์ เองก็กําลังวางแผนที่จะ ขยายอิทธิพลเข้าไปในเมืองหลวงอยู่ เหมือนกัน และนี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ซี โม่มาที่นี่ในวันนี้ก็ได้

“แบ็คอัพ?” เซี่ยหยวนส่งสายตาดูถูก เหยียดหยามก่อนจะพูดขึ้น “ขําจริง นี่ เจียงหวันเธอคงไม่คิดว่าผู้ชายพวกนั้นจะยอมผิดใจกับซุปตาร์เบอร์หนึ่งอย่าง ฉัน แล้วก็เลือกท้าทายอิทธิพลกับทั้งสองครอบครัวเพื่อเธอหรอกนะนี่เธอกําลังฝันเฟื่องอยู่หรือเปล่าจ๊ะ?”

“เธอมันก็แค่ดารากระจอกๆ เงินที่ได้ จากการขายเรือนร่างของเธอมันจะมี มากสักเท่าไหร่กันเชียวกล้ามากนะที่คิดจะมาสู้กับฉัน!”

“จะลองดูไหมล่ะ?”

“เธอยังกล้าถามฉันอีกหรอ?”

“ภารกิจของวันนี้ได้ถูกส่งไปยังโทร ศัพท์ของพวกคุณทุกคนเรียบร้อยแล้ว และตอนนี้เราจะมาแบ่งทีมกันโดยคนที่จับได้ลูกบอลสีเดียวกันจะต้องอยู่ทีม เดียวกัน” ผู้กํากับตะโกนชี้แจงก่อนจะบอกให้ทีมงานถือกล่องจับสลากออกมา

ฉีเซิงและฟางลีชิวยืนอยู่ข้างๆกัน ใน ขณะที่ฟางลี่ชิวหยิบได้สีน้ําเงิน และฉี เซิงหยิบได้สีเขียว

“อ่า ไม่นะ เราไม่ได้อยู่ทีมเดีย วกัน!!” ฟางลี่ชิวทําหน้าเศร้าสลด “ล กชิ้นน้อยทําไมเราถึงไม่ได้อยู่ทีมเดีย วกันอ่า!!”

“มีเนื้อมากมายให้กินอีกทั้งยังมีน้ําซุป ให้ดื่มทุกครั้งที่ฉันติดตามลูกชิ้นน้อย ซี วิตของฉันนั้นช่างสุขสบาย…”

แต่ตอนนี้เราไม่ได้อยู่ในทีมเดียวกัน แง ฉันเสียใจมาก…ฉันไม่อยากแยก จากเธอเลย งือ…”

“เพราะว่าคุณเสียงดังเกินไปไง”

“เอ๊ะ ไม่นะ ฉันไม่ได้ทําแบบนั้นสักหน่อยทําไมลูกชิ้นน้อยต้องพูดกับฉันแบบ นี้ด้วย แง…ฉันเสียใจนะเธอก็น่าจะรู้นิ ว่าหัวใจของฉันมันบอบบางแค่ไหน”

ผู้กํากับบอกให้คนที่จับได้ลูกบอลสีเดียวกันมายืนข้างกัน และไม่ว่าฟางลี่ชิ วจะไม่พอใจและอยากจะร้องไห้มากแค่ไหน แต่เธอก็ทําอะไรไม่ได้ ทําได้แค่ จําใจเดินไปยืนอยู่ข้างๆดาราชายคนหนึ่งที่จับได้ลูกบอลสีเดียวกันกับเธอ

ฉีเซิงมองลูกบอลสีเขียวในมือของเซี่ยหยวนก่อนริมฝีปากของเธอจะกระ ตกขึ้นเบาๆ เหอะเอาจริงดินี่จงใจใช่ปะถึงมาจับคู่ฉันกับยัยนี่เนี้ย!”

คอนเซ็ปต์ของเทปนี้คือ อาณาจักรเอลฟ์” และภารกิจในวันนี้คือการค้นหา “เอลฟ์น้ํา” และ “รับน้ําแห่งชีวิต

ศิลปินทั้งแปดคนถูกแบ่งออกเป็นสี่กลุ่มซึ่งแต่ละกลุ่มจะได้รับคําใบ้ และ พวกเขาจะต้องใช้คําใบ้พวกนี้เพื่อค้นหาเบาะแสต่อไป ทีมที่พบ “เอลฟ์น้ํา” ก่อน จะได้รับ เมล็ดจิตวิญญาณของเอลฟ์น้ํา” ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องใช้ในการทําภารกิจต่อ ไป

คําใบ้ที่ฉีเพิ่งได้รับคือหอสังเกตการณ์ของหมู่บ้านบนภูเขาพวกเธอทั้งสอง คนเดินขนาบข้างกันไปตามทางแต่ไม่มีใครยอมพูดอะไรออกมาเลยสักคนส่วน ตากล้องเองก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันน่าอึดอัดใจนี้มาตลอดตั้งแต่เริ่มทําภารกิ จกัน

เขารู้สึกเต็มใจมากกว่าที่จะเห็นฉีเซิงก่อเรื่องเพราะนั่นมันหมายถึงเรตติ้งที่ถล่มทลาย! และเนื่องจากสถานการณ์ตรงหน้ายังคงตึงเครียดดังนั้นตากล้องก็เลยละความสนใจไปจากพวกเธอครู่หนึ่ง เพื่อผ่อนคลายก่อนจะหันกลับมาอีกครั้งแล้วก็พบว่าเซี่ยหยวนกําลังกลิ้งๆลงทางลาดไปแล้ว

เซี่ยหยวนถูกนําตัวส่งโรงพยาบาลทันทีในขณะที่พวกนักข่าวเองก็ รายงานข่าวในทันทีที่เรื่องถึงหู

“เสี่ยวหวัน!! คุณพอจะบอกผมได้ไหมว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น?” ยังหยิน พยายามระงับความโกรธและเอ่ยถามฉีเซิงด้วยเสียงต่ํา

“ฉันไม่ได้ทําอะไรสักหน่อย” ฉีเซิงตอบด้วยน้ําเสียงไร้เดียงสา “เธอกลิ้งตก ลงไปของเธอเอง ฉันยังไม่ได้แตะแม้แต่ปลายขนของเธอเลยด้วยซ้ํา”

ย้อนกลับไปในตอนนั้นเธอกําลังเดิม ตามหลังเซี่ยหยวนลงทางลาดไปในขณะที่เธอเองก็ไม่คาดคิดว่าจู่ๆ เซี่ยหยวนจะเอื้อมมือมาดึงเธอและด้วยความว่าเป็นศัตรูกันฉีเซิงก็เลยรีบสลัดมือเจ้าหล่อนออกทันที

ใครจะไปคิดล่ะว่าเซี่ยหยวนไม่กลัว ความตาย เธอกล้าทิ้งตัวลงไปแบบนั้น ได้ยังไงกันว่าแต่ทําไมเธอถึงไม่ตายไปให้มันจบๆไปเลยนะไหนๆก็ลงทุน เล่นใหญ่ขนาดนี้แล้ว

“แต่ตอนนี้เซี่ยหยวนกําลังบอกกับทุก คนว่าคุณเป็นคนผลักเธอ!! สื่อออน ไลน์เองก็กําลังเล่นเรื่องคุณอย่างหนักทั้งขุดคุ้ยเรื่องเก่าแล้วก็รุมประณามคุณ ไม่หยุด คุณรู้บ้างไหม!!!” ถังหยินตะโกนด้วยความหงุดหงิดใจ

และในที่สุดฉีเซิงก็สามารถวางสายได้ สักที หลังจากที่นั่งฟังคําบ่นของถัง หยินมานานสองนาน

“น่ารําคาญจริง ในเมื่อเธอออยากจะ ตายมากนัก เดี๋ยวฉันจะจัดให้สาสมใจ เลยดีมะ

เช้าวันที่สองในการพักรักษาตัวที่โรงพ ยาบาลของเซี่ยหยวน มีภาพอื้อฉาวจํา นวนหนึ่งถูกปล่อยลงในอินเตอร์เน็ตเป็นภาพที่ไล่เรียงไปตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก วัยรุ่นจนกระทั่งโตเป็นสาวและถึงแม้ว่าจะไม่ใช่รูปอย่างว่าบนเตียง แต่ก็เป็นรูป ที่จูบกันอย่างดูดดื่มอีกทั้งรูปสุดท้ายยังดูเหมือนว่าหญิงสาวในรูปกําลังรวมก ลุ่มมั่วยากับเพื่อนของเธออยู่อย่างเมามันส์ในภาพแรกๆอาจจะเห็นไม่ค่อยชัดว่าคนในรูปเป็นใคร แต่เมื่อไล่ดูไปเรื่อยๆก็จะพอเดาออกได้ว่าคือใคร

ณ ห้องพักวีไอพีของโรงพยาบาล เซี่ยหยวนกําลังเลื่อนดูรูปพวกนั้นอย่า งบ้าคลั่ง พร้อมกับพึมพําไปด้วย “ทําไมมันถึงเป็นแบบนี้ มันเป็นแบบนี้ไปได้ ยังไงกัน….รูปพวกนี้มันควรถูกทําลาย ไปหมดแล้วนิแล้วมันมาโผล่ที่นี่ได้ยังไง…”
“ต้องมีคนวางแผนเล่นงานเราแน่ๆ” ผู้จัดการของเซี่ยหยวนขมวดคิ้วและมอง มาที่เธอก่อนจะพูดเตือนสติขึ้นว่า “แต่ไม่ต้องกลัวไปหรอก ตราบใดที่เราไม่ ยอมรับแล้วก็ยืนยันว่ารูปภาพพวกนั้นเป็นของปลอมก็ไม่มีใครทําอะไรเราได้อีกอย่างภาพพวกนี้มันก็ตั้งนานแล้ว กว่าพวกเขาจะตรวจสอบเจอตอนนั้นข่าวมันก็คงจะซาไปแล้วละ หรือดีไม่ดีพวกเขาอาจจะตรวจสอบไม่เจอเลยก็ได้

“ต้องเป็นมัน! นั่งสารเลวเจียงหวัน ต้องเป็นมันแน่ๆ!!” เซี่ยหยวนทุบโน้ตบุ คด้วยความโมโห “นังโสเภณีชั้นต่ํานั่นมันต้องการทําลายชีวิตฉัน!”

“นังนั่นมันบอกว่าจะเขี่ยเธอออกจากวงการมีแค่มันคนเดียวเท่านั้นที่กล้า เป็นศัตรูกับเธอ แต่รูปพวกนี้มันถูกทําลายไปหมดแล้วนานั้นภาพพวกนี้มันก็ก จะชัดขี้มันไปเอามาจากไหนกัน!”

เซี่ยหยวนโมโหจนตัวสั่น เธอหันไปเขย่าไหล่ของผู้จัดการอย่างแรงพร้อม กับพูดด้วยน้ําเสียงเกรี้ยวกราด “ฉันต้องการทําลายชื่อเสียงของนังเจียงหวันเดี่ ยวนี้!! ฉันไม่ต้องการให้มันมีที่ยืนในสังคมอีกต่อไป!!

“ใจเย็นๆสิ!” ผู้จัดการของเซี่ยหยวนพูดเตือนสติเธออีกครั้ง“แค่ภาพไม่กี่ ภาพเท่านั้นเองทําไมต้องกลัวขนาดนี้ด้วยก็ไม่รู้

และอีกอย่างภาพพวกนั้นก็เป็นแค่ภาพถ่ายอื้อฉาวเล็กๆน้อยๆเท่านั้น ไม่ ใช่พวกภาพถ่ายบนเตียงซะหน่อย เรื่องขี้ประจิ๋วแค่นี้แป๊ปๆก็สามารถเคลียร์ให้ ได้แล้ว

“ใจเย็นงั้นเหรอ? ยังจะให้ใจเย็นอยู่ได้อีกหรอ!” เซี่ยหยวนส่งเสียงกรีดร้อง ดังลั่น พร้อมทั้งทิ้งหัวตัวเองไปด้วย “ทําไมยัยเจียงหวันถึงได้มีภาพพวกนั้น?! เธอรู้เรื่องนี้ได้ยังไงกัน?!” เซีย หยวนยังคงถามคําถามพวกนี้กับตัวเองซ้ําไปซ้ํามา

“ไม่ เธอจะปล่อยให้ยัยนั่นเปิดเผยเรื่องพวกนี้ไม่ได้! ไม่งั้นชีวิตเธอได้จบ

เห่แน่!”

“เธอต้องใจเย็นๆสงบสติอารมณ์ มันต้องมีวิธีจัดการกับนังสารเลวนั่นสิ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Side Character Transmigrations: The Final Boss is No Joke 39 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก.. ได้โปรด รับเลี้ยงดูฉันหน่อย (19)

Now you are reading Side Character Transmigrations: The Final Boss is No Joke Chapter 39 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก.. ได้โปรด รับเลี้ยงดูฉันหน่อย (19) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย Side Character Transmigrations: The F… บทที่ 39 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก.. ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (19)

บทที่ 39 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก.. ได้โปรด รับเลี้ยงดูฉันหน่อย (19)

การถ่ายทําสําหรับวันนี้เสร็จ เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นทุกคนจึงเริ่มทยอย ไปกินอาหารเย็นกันและขณะที่กําลังทานกันอยู่นั้นก็มีชายรูปร่างสูงโปร่งคน หนึ่งกําลังเดินผ่านประตูของโรงแรมเข้ามาผู้หญิงสองสามคนที่อยู่บริเวณนั้น ถึงกับตกตะลึงและทําตัวไม่ถูก
“อ้าวอาโม่” เซี่ยหยวนหันหลังกลับไปมองเมื่อได้ยินเสียงสาวๆหวีดว้ายกันก่อ นจะเห็นว่าเป็นซีโม่ เธอจึงรีบยืนขึ้นเพื่อไปต้อนรับเขา รอยยิ้มแห่งความดีใจ และประหลาดใจเล็กๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ “ทําไมคุณมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะคะ?”

“ผมมาคุยธุระแถวนี้ พอรู้ว่าคุณอยู่ที่นี่ ก็เลยแวะมาดูคุณหน่อย” ซีโม่พูดตอ บด้วยน้ําเสียงเรียบเฉยก่อนจะจ้องมอง ไปที่ฉีเซิง เด็กผู้หญิงที่ขี้ขลาดและขี้ อายในวันนั้น มาวันนี้กลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

และแม้ว่าตอนนี้เธอจะไม่ได้กําลังสวม ใส่ชุดหรูหราอยู่ ไม่ได้ประทินโฉม ด้วยเครื่องสําอางแบรนด์ดังและไม่มี แม้แต่เครื่องประดับราคาแพงสักชิ้น บนตัว แต่ออร่าของเธอที่แผ่ออกมากลับทําให้เธอดูสูงส่งและสง่างามทั้งที่เธอก็สวมแค่ชุดกีฬาธรรมดาๆตัวหนึ่ง เท่านั้น

ฉีเซิงไม่ค่อยอยากจะเห็นหน้าซีโม่สัก เท่าไหร่ ดังนั้นเธอเลยตั้งใจว่าจะลุกขึ้น แล้วก็เดินออกไปแต่เมื่อลองคิดดูดีๆ แล้วถ้าขึ้นออกไปตอนนี้ยังไงเธอก็ต้อง ได้เดินผ่านพวกเขาสองคนอยู่ดีเมื่อคิดได้ดังนั้นเธอก็เลยนั่งลงตามเดิม ขณะที่ ซีโม่เองก็ยืนคุยกับเซี่ยหยวนอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินจากไป

เซี่ยหยวนเดินกลับมาหาฉีเซ็งที่โต๊ะ ก่อนจะพูดด้วยน้ําเสียงกดต่ําว่า “เจียงห วันฉันจะทําให้เธอไม่มีที่ยืนในวงการนี้อีกต่อไป!”

“อ่อเหรอ บังเอิญจังเนอะ เป้าหมาย ของฉันเหมือนกับเธอเต๊ะเลยอะ” ฉีเซิง เอ่ยตอบด้วยน้ําเสียงสบายๆ“มาลองดู กันไหมล่ะว่าใครมันจะกระเด็นออกจาก วงการนี้ก่อนกัน!”

เซี่ยหยวนพูดขึ้นด้วยน้ําเสียงสบประ มาทดูถูก “น้ําหน้าอย่างเธอนะหรอจะมี ปัญญา? เธอคิดว่าแค่เธอกับเซี่ยเหมินเปิดบริษัทเล็กๆนั้นแล้วจะสามารถเทียบ เทียมฉันได้เหรอ? เธอมันก็แค่ดารากระจอกๆปลายแถว จะมาเทียบชั้นกับซุป สตาร์เบอร์หนึ่งของวงการอย่างฉันได้ยังไง ไหนลองบอกมาสิเธอจะเอาอะไรมา สู้ฉัน?”

ฉีเซิงยกมือขึ้นมาเท้าคางแล้วฉีกยิ้ม อย่างสดใส “โทษทีนะ แต่ตอนนี้ฉันมี แบ็คอัพแล้วล่ะ”

“ตอนนี้เธอมี หยูเจียน เอนเตอร์เทรน เม้นท์ เป็นกองหนุน และถ้าเป็นในเมือง หลวงละก็ ใครๆก็รู้กันทั้งนั้นแหล่ะว่าหยูเจียนเอนเตอร์เทรนเม้นท์ นั้นมีอิทธิพ ลมากกว่า ตงฟาง เอนเตอร์เทรนเม้นท์แค่ไหน

เธอเองก็พึ่งได้ยินมาว่าตงฟางเอนเต อร์เทนเม้นท์ เองก็กําลังวางแผนที่จะ ขยายอิทธิพลเข้าไปในเมืองหลวงอยู่ เหมือนกัน และนี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ซี โม่มาที่นี่ในวันนี้ก็ได้

“แบ็คอัพ?” เซี่ยหยวนส่งสายตาดูถูก เหยียดหยามก่อนจะพูดขึ้น “ขําจริง นี่ เจียงหวันเธอคงไม่คิดว่าผู้ชายพวกนั้นจะยอมผิดใจกับซุปตาร์เบอร์หนึ่งอย่าง ฉัน แล้วก็เลือกท้าทายอิทธิพลกับทั้งสองครอบครัวเพื่อเธอหรอกนะนี่เธอกําลังฝันเฟื่องอยู่หรือเปล่าจ๊ะ?”

“เธอมันก็แค่ดารากระจอกๆ เงินที่ได้ จากการขายเรือนร่างของเธอมันจะมี มากสักเท่าไหร่กันเชียวกล้ามากนะที่คิดจะมาสู้กับฉัน!”

“จะลองดูไหมล่ะ?”

“เธอยังกล้าถามฉันอีกหรอ?”

“ภารกิจของวันนี้ได้ถูกส่งไปยังโทร ศัพท์ของพวกคุณทุกคนเรียบร้อยแล้ว และตอนนี้เราจะมาแบ่งทีมกันโดยคนที่จับได้ลูกบอลสีเดียวกันจะต้องอยู่ทีม เดียวกัน” ผู้กํากับตะโกนชี้แจงก่อนจะบอกให้ทีมงานถือกล่องจับสลากออกมา

ฉีเซิงและฟางลีชิวยืนอยู่ข้างๆกัน ใน ขณะที่ฟางลี่ชิวหยิบได้สีน้ําเงิน และฉี เซิงหยิบได้สีเขียว

“อ่า ไม่นะ เราไม่ได้อยู่ทีมเดีย วกัน!!” ฟางลี่ชิวทําหน้าเศร้าสลด “ล กชิ้นน้อยทําไมเราถึงไม่ได้อยู่ทีมเดีย วกันอ่า!!”

“มีเนื้อมากมายให้กินอีกทั้งยังมีน้ําซุป ให้ดื่มทุกครั้งที่ฉันติดตามลูกชิ้นน้อย ซี วิตของฉันนั้นช่างสุขสบาย…”

แต่ตอนนี้เราไม่ได้อยู่ในทีมเดียวกัน แง ฉันเสียใจมาก…ฉันไม่อยากแยก จากเธอเลย งือ…”

“เพราะว่าคุณเสียงดังเกินไปไง”

“เอ๊ะ ไม่นะ ฉันไม่ได้ทําแบบนั้นสักหน่อยทําไมลูกชิ้นน้อยต้องพูดกับฉันแบบ นี้ด้วย แง…ฉันเสียใจนะเธอก็น่าจะรู้นิ ว่าหัวใจของฉันมันบอบบางแค่ไหน”

ผู้กํากับบอกให้คนที่จับได้ลูกบอลสีเดียวกันมายืนข้างกัน และไม่ว่าฟางลี่ชิ วจะไม่พอใจและอยากจะร้องไห้มากแค่ไหน แต่เธอก็ทําอะไรไม่ได้ ทําได้แค่ จําใจเดินไปยืนอยู่ข้างๆดาราชายคนหนึ่งที่จับได้ลูกบอลสีเดียวกันกับเธอ

ฉีเซิงมองลูกบอลสีเขียวในมือของเซี่ยหยวนก่อนริมฝีปากของเธอจะกระ ตกขึ้นเบาๆ เหอะเอาจริงดินี่จงใจใช่ปะถึงมาจับคู่ฉันกับยัยนี่เนี้ย!”

คอนเซ็ปต์ของเทปนี้คือ อาณาจักรเอลฟ์” และภารกิจในวันนี้คือการค้นหา “เอลฟ์น้ํา” และ “รับน้ําแห่งชีวิต

ศิลปินทั้งแปดคนถูกแบ่งออกเป็นสี่กลุ่มซึ่งแต่ละกลุ่มจะได้รับคําใบ้ และ พวกเขาจะต้องใช้คําใบ้พวกนี้เพื่อค้นหาเบาะแสต่อไป ทีมที่พบ “เอลฟ์น้ํา” ก่อน จะได้รับ เมล็ดจิตวิญญาณของเอลฟ์น้ํา” ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องใช้ในการทําภารกิจต่อ ไป

คําใบ้ที่ฉีเพิ่งได้รับคือหอสังเกตการณ์ของหมู่บ้านบนภูเขาพวกเธอทั้งสอง คนเดินขนาบข้างกันไปตามทางแต่ไม่มีใครยอมพูดอะไรออกมาเลยสักคนส่วน ตากล้องเองก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันน่าอึดอัดใจนี้มาตลอดตั้งแต่เริ่มทําภารกิ จกัน

เขารู้สึกเต็มใจมากกว่าที่จะเห็นฉีเซิงก่อเรื่องเพราะนั่นมันหมายถึงเรตติ้งที่ถล่มทลาย! และเนื่องจากสถานการณ์ตรงหน้ายังคงตึงเครียดดังนั้นตากล้องก็เลยละความสนใจไปจากพวกเธอครู่หนึ่ง เพื่อผ่อนคลายก่อนจะหันกลับมาอีกครั้งแล้วก็พบว่าเซี่ยหยวนกําลังกลิ้งๆลงทางลาดไปแล้ว

เซี่ยหยวนถูกนําตัวส่งโรงพยาบาลทันทีในขณะที่พวกนักข่าวเองก็ รายงานข่าวในทันทีที่เรื่องถึงหู

“เสี่ยวหวัน!! คุณพอจะบอกผมได้ไหมว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น?” ยังหยิน พยายามระงับความโกรธและเอ่ยถามฉีเซิงด้วยเสียงต่ํา

“ฉันไม่ได้ทําอะไรสักหน่อย” ฉีเซิงตอบด้วยน้ําเสียงไร้เดียงสา “เธอกลิ้งตก ลงไปของเธอเอง ฉันยังไม่ได้แตะแม้แต่ปลายขนของเธอเลยด้วยซ้ํา”

ย้อนกลับไปในตอนนั้นเธอกําลังเดิม ตามหลังเซี่ยหยวนลงทางลาดไปในขณะที่เธอเองก็ไม่คาดคิดว่าจู่ๆ เซี่ยหยวนจะเอื้อมมือมาดึงเธอและด้วยความว่าเป็นศัตรูกันฉีเซิงก็เลยรีบสลัดมือเจ้าหล่อนออกทันที

ใครจะไปคิดล่ะว่าเซี่ยหยวนไม่กลัว ความตาย เธอกล้าทิ้งตัวลงไปแบบนั้น ได้ยังไงกันว่าแต่ทําไมเธอถึงไม่ตายไปให้มันจบๆไปเลยนะไหนๆก็ลงทุน เล่นใหญ่ขนาดนี้แล้ว

“แต่ตอนนี้เซี่ยหยวนกําลังบอกกับทุก คนว่าคุณเป็นคนผลักเธอ!! สื่อออน ไลน์เองก็กําลังเล่นเรื่องคุณอย่างหนักทั้งขุดคุ้ยเรื่องเก่าแล้วก็รุมประณามคุณ ไม่หยุด คุณรู้บ้างไหม!!!” ถังหยินตะโกนด้วยความหงุดหงิดใจ

และในที่สุดฉีเซิงก็สามารถวางสายได้ สักที หลังจากที่นั่งฟังคําบ่นของถัง หยินมานานสองนาน

“น่ารําคาญจริง ในเมื่อเธอออยากจะ ตายมากนัก เดี๋ยวฉันจะจัดให้สาสมใจ เลยดีมะ

เช้าวันที่สองในการพักรักษาตัวที่โรงพ ยาบาลของเซี่ยหยวน มีภาพอื้อฉาวจํา นวนหนึ่งถูกปล่อยลงในอินเตอร์เน็ตเป็นภาพที่ไล่เรียงไปตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก วัยรุ่นจนกระทั่งโตเป็นสาวและถึงแม้ว่าจะไม่ใช่รูปอย่างว่าบนเตียง แต่ก็เป็นรูป ที่จูบกันอย่างดูดดื่มอีกทั้งรูปสุดท้ายยังดูเหมือนว่าหญิงสาวในรูปกําลังรวมก ลุ่มมั่วยากับเพื่อนของเธออยู่อย่างเมามันส์ในภาพแรกๆอาจจะเห็นไม่ค่อยชัดว่าคนในรูปเป็นใคร แต่เมื่อไล่ดูไปเรื่อยๆก็จะพอเดาออกได้ว่าคือใคร

ณ ห้องพักวีไอพีของโรงพยาบาล เซี่ยหยวนกําลังเลื่อนดูรูปพวกนั้นอย่า งบ้าคลั่ง พร้อมกับพึมพําไปด้วย “ทําไมมันถึงเป็นแบบนี้ มันเป็นแบบนี้ไปได้ ยังไงกัน….รูปพวกนี้มันควรถูกทําลาย ไปหมดแล้วนิแล้วมันมาโผล่ที่นี่ได้ยังไง…”
“ต้องมีคนวางแผนเล่นงานเราแน่ๆ” ผู้จัดการของเซี่ยหยวนขมวดคิ้วและมอง มาที่เธอก่อนจะพูดเตือนสติขึ้นว่า “แต่ไม่ต้องกลัวไปหรอก ตราบใดที่เราไม่ ยอมรับแล้วก็ยืนยันว่ารูปภาพพวกนั้นเป็นของปลอมก็ไม่มีใครทําอะไรเราได้อีกอย่างภาพพวกนี้มันก็ตั้งนานแล้ว กว่าพวกเขาจะตรวจสอบเจอตอนนั้นข่าวมันก็คงจะซาไปแล้วละ หรือดีไม่ดีพวกเขาอาจจะตรวจสอบไม่เจอเลยก็ได้

“ต้องเป็นมัน! นั่งสารเลวเจียงหวัน ต้องเป็นมันแน่ๆ!!” เซี่ยหยวนทุบโน้ตบุ คด้วยความโมโห “นังโสเภณีชั้นต่ํานั่นมันต้องการทําลายชีวิตฉัน!”

“นังนั่นมันบอกว่าจะเขี่ยเธอออกจากวงการมีแค่มันคนเดียวเท่านั้นที่กล้า เป็นศัตรูกับเธอ แต่รูปพวกนี้มันถูกทําลายไปหมดแล้วนานั้นภาพพวกนี้มันก็ก จะชัดขี้มันไปเอามาจากไหนกัน!”

เซี่ยหยวนโมโหจนตัวสั่น เธอหันไปเขย่าไหล่ของผู้จัดการอย่างแรงพร้อม กับพูดด้วยน้ําเสียงเกรี้ยวกราด “ฉันต้องการทําลายชื่อเสียงของนังเจียงหวันเดี่ ยวนี้!! ฉันไม่ต้องการให้มันมีที่ยืนในสังคมอีกต่อไป!!

“ใจเย็นๆสิ!” ผู้จัดการของเซี่ยหยวนพูดเตือนสติเธออีกครั้ง“แค่ภาพไม่กี่ ภาพเท่านั้นเองทําไมต้องกลัวขนาดนี้ด้วยก็ไม่รู้

และอีกอย่างภาพพวกนั้นก็เป็นแค่ภาพถ่ายอื้อฉาวเล็กๆน้อยๆเท่านั้น ไม่ ใช่พวกภาพถ่ายบนเตียงซะหน่อย เรื่องขี้ประจิ๋วแค่นี้แป๊ปๆก็สามารถเคลียร์ให้ ได้แล้ว

“ใจเย็นงั้นเหรอ? ยังจะให้ใจเย็นอยู่ได้อีกหรอ!” เซี่ยหยวนส่งเสียงกรีดร้อง ดังลั่น พร้อมทั้งทิ้งหัวตัวเองไปด้วย “ทําไมยัยเจียงหวันถึงได้มีภาพพวกนั้น?! เธอรู้เรื่องนี้ได้ยังไงกัน?!” เซีย หยวนยังคงถามคําถามพวกนี้กับตัวเองซ้ําไปซ้ํามา

“ไม่ เธอจะปล่อยให้ยัยนั่นเปิดเผยเรื่องพวกนี้ไม่ได้! ไม่งั้นชีวิตเธอได้จบ

เห่แน่!”

“เธอต้องใจเย็นๆสงบสติอารมณ์ มันต้องมีวิธีจัดการกับนังสารเลวนั่นสิ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+