Supreme Magus 11 รู้ในสิ่งที่ไม่รู้

Now you are reading Supreme Magus Chapter 11 รู้ในสิ่งที่ไม่รู้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย Supreme Magus ตอนที่ 11 รู้ในสิ่งที่ไม่รู้ เมื่อเรียนรู้วิธีการอ่านและเขียนอย่าง เป็นทางการแล้วลิทก็ฝึกมันทุกวันทุกคนในครอบครัวเขาคิดว่าเขาเป็นสุดยอดอัจฉริยะแต่เขารู้ตัวดีถ้าไม่มีความทรงจําและสติปัญญาจากชีวิตก่อนการจดจําตัวอักษร 21 ตัวและตัวเลข 10 ตัวมันต้องใช้เวลานานสําหรับเด็ก คนหนึ่ง การตีเปล็กต้องทําในขณะที่ยังร้อนลิทขอร้องให้ราซแกะสลักไม้ให้ยาว 50 เซ็นติเมตรและกว้าง 3 เซนติเมตร ด้านหน้าของไม้แกะสลักตัวอักษรทั้งหมดไว้ ด้านหลังเขียนเป็นตัวเลขด้วยไม้อันนี้เขาจะสามารถฝึกซ้อมได้ตลอด เวลาโดยไม่ต้องรบกวนราซ ราซไม่เคยรู้ความคิดของเด็กน้อยคนนี้ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับการ ขอไม้แปลกๆเขาเสนอว่าสามารถทําให้มันบางและสั้นลงเพื่อพกพาได้ง่ายขึ้นแต่เด็กน้อยปฏิเสธและขอให้เขาทําตาม ขนาดเดิม ลิทสัมผัสได้ถึงสายตาไม่เป็นมิตรจากออป้าทุกครั้งที่มีคนเรียกเขาว่าอัจฉริยะ เขาต้องดูแลไม้นี้ให้ดีและแน่ใจว่ามันจะไม่หายไปจาก “อุบัติเหตุ” ทุกคนคิดว่าเขาจะใช้มันเพื่อฝึกเขียนตัวเลขและตัวอักษร แต่ไม่เพียงแค่นั้นเขาสามารถฝคกจิตเวทด้วยไม้นี้ได้ มันเป็นข้ออ้างที่สมบูรณ์แบบ เมื่อสภาพอากาศสงบลงเอเลน่าก็ตัดสินใจว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมใน การตรวจอาการของทิสต้าอากาศหนาว เย็นจากพายุหิมะในช่วงเวลาหลายวันไม่ว่าราซจะพยายามรักษาอุณหภูมิในบ้านมากแค่ไหน ทิสต้ามีอาการไอรุนแรงขึ้น และทุกคนเป็นห่วงเธอเอเลน่าจะพาทิสต้ากับลิทเดินทางเข้าไปในหมู่บ้านด้วยเกรียนม้า สภาพอากาศเลวร้ายเกิดขึ้นเวลานานทําให้ทุกคนต้องช่วยเหลือกันจัดการกับฟาร์มส่วนที่มีปัญหาให้เสร็จก่อน เธอพาลิทไปด้วยเพราะเขาจะไม่มีใครคอยดูแลหลังจากทุกคนสวมเสื้อผ้าหน้าการเดินทางก็เริ่มขึ้น ลิทมีความสุขมากนี้เป็นครั้งแรกของเขาในการออกไปด้านนอกฟาร์ม การเดินทางของพวกเขาเกิดปัญหาขึ้นเล็กน้อยมีแมลงหลายตัวคอยสร้างความรําคาญพวกมันเรียนว่าแมลงกรอธ เป็นแมลงที่มีเหล็กในพิษอยู่ส่วนท้ายของท้องเหมือนผึ้งแต่เป็นสีฟ้าและมีข นาดใหญ่กว่า “พวกมันมาจากไหน?” เอเลน่าบ่น “ปกติมันต้องจําศีลในฤดูหนาว” มีแมลงกรอธตัวหนึ่งดื้อด้านและไม่ยอมไปแม้ว่าเอเลน่าจะไล่มันไปแล้วก็ตามมันแอบบินเงียบเข้ามาหาทิสต้า 3694
ลิทสะบัดมือของเขาแม้ร่างการของเด็กน้องจะเชื่องช้าแต่ไม่ใช่กับจิตเวท ตอนนี้จิตเวทของเขามีรัศมีถึง 10 เมตรแมลงตัวนั้นถูกอากาศบับอัดจนแบน ลิทของดูเหยื่อของเขาร่วงลงไปด้วยความภาคภูมิใจชั้นจะปกป้องเธอเอง ทิสต้ายังคงสับสนอยู่กับการตายกลางอากาศของมันเอเลน่ากังวลว่าจะมี แมลงตัวอื่นตามมาอีกพวกเขาจึงรีบเดินทางต่อทันที
ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงหมู่บ้านลูเทีย ภาพที่ลิทเห็นทําให้เขานึกถึงภาพวาดหมู่บ้านในชนบทสมัยยุคเก่าแก่เขาเคย ไม่มีวี่แววของเทคโนโลยีใดๆบางทีแค่กังหันลมหรือโรงสีอาจจะถือว่าเป็นเทคโนโลยีมหัศจรรย์แล้วก็ได้ เอเลน่าอธิบายว่าที่หมู่บ้านนี้มีแค่ช่างฝีมือนักวิชาการและพ่อค้าเท่านั้น นอก จากนี้ยังมีแค่จํานวนน้อยชาวบ้านที่เหลือทั้งหมดต่างก็ทําการเกษตรและเลี้ยงสัตว์ บ้านในหมู่บ้านลูเที่ยทํามาจากไม้สูงสองชั้นหรือสามชั้นไม่มีบ้านไหนทําด้วยหินหรืออิฐ ไม่มีถนนสําหรับการเดินทางใดๆ ช่องว่างระหว่างบ้านเป็นพื้นดินและโคลน เขามองเห็นป้านสูงที่แขวนอยู่บางบ้านนั้นเป็นโรงตีเหล็กร้านเหล้าและ ร้านเสื้อผ้า ร้านเบเกอรี่ไม่จําเป็นต้องมีป้ายหรีอสัญลักษณ์ใดๆแค่กลิ่นจากปล่องไฟก็เพียงพอที่จะทําให้ทุกคนที่เดินผ่านรับรู้
กลิ่นหอมของขนมปังท่าให้เด็กน้อยรู้ล่ วงหน้าได้ว่าคืนนี้เขาจะฝันถึงอะไร บ้านของนาน่าใหญ่และดูดีกว่าบ้านของพวกเขาเอเลน่าเล่าให้ฟังว่าบ้านหลังนี้มีนาน่าอาศัยอยู่แค่คนเดียว หมายความว่าถ้านาน่าไม่ได้มาจากครอบครัวที่ร่ํารวยธุรกิจการรักษาของเธอจ้องได้รับความนิยมเป็นอย่างดีความสําคัญของธาตุแสงในใจเขาพุ่งสูงขึ้นมาทันที พวกเขาเปิดประตูเข้าไป ด้านในเป็นห้องขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยกลิ่นยาและสมุนไพรกลิ่นอันคุ้นเคยเหมือนห้องรอคนไข้ตามโรงพยาบาล ด้านหลังมีอีก 2 ประตู ประตูด้านซ้ายเป็นพื้นที่ส่วนตัวของนาน่า ประตูด้าน ขวามีม่านกว้างบดบังไว้ใช้สําหรับรักษาผู้ป่วย พื้นที่ในห้องเต็มไปด้วยเกาอี้ยาวและมีหลายคนกําลังนั่งอยู่ อากาศในห้องอบอุ่นต่างจากด้านนอกดูเหมือนที่นี้จะมีวิธีจัดการกับความหนาวเย็นเป็นอย่างดีเอเลน่าถอดเสื้อผ้ากันหนาวออกจากตัวพวกเขาก่อนจะสั่งให้พวกเขาอยู่เงียบๆและห้ามไปรบกวนคน อื่น ในห้องมีแม่หลายคนที่พาลูกๆของเธอมาหานาน่าในไม่ช้าเอเลน่าก็เดินไปร่วมวงสนทนากับพวกเธอทันที ลิทเดินสํารวจห้องอย่างเงียบๆผู้คนในห้องก็ยุ่งอยู่กับการดูแลลูกหรืออาการป่วยของตัวเองไม่มีใครสนใจเด็กน้อยคนหนึ่ง เขาไม่พบอะไรน่าสนใจ แต่เมื่อเขาเดินเข้าใกล้กับห้องที่มีม่านเขาแทบ สะดุด มีตู้เล็กใบหนึ่งอยู่ด้านในเต็มไปด้วยหนังสือที่เกี่ยวกับเวทมนตร์! “ดูไปที่นี้ก็คล้ายกับหมอที่เปิดคลินิกรักษาในชนบทหนังสือส่วนมาก เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์เฉพาะทางแต่มีเล่มหนึ่งที่สะดุดตาของเขา “พื้นฐานขอเวทมนตร์ หลังจากตรวจสอบรอบๆว่าไม่มีใครสนใจ เขาก็คว้า มันและเริ่มอ่าน “การขอโทษน่าจะดีกว่าการขออนุญาตสํารับหนังสือเวทมนตร์กับเด็กสามขวบเขาเดินไปที่มุมหนึ่งของห้องแล้วนั่งอ่านโดยหวังว่าจะไม่มีใครสังเกตเห็น ชัดเจนว่าเป็นหนังสือสําหรับผู้เริ่มต้นเขาอ่านข้ามคําแนะนําที่ไม่จําเป็น เวทมนตร์ธาตุน้ําไม่ได้แค่สร้างน้ําและความอบอุ่นเท่านั้นผู้ใช้ยังสามารถลด อุณหภูมิของทุกสิ่งรอบๆตัวได้สามารถสร้างเป็นเวทมนตร์น้ําแข็งใช้มันทั้งโจมตีและป้องกัน เวทมนตร์ธาตุลมก็ร้ายกาจในระดับสูงคือการควบคุมสภาพอากาศ สามารถสร้างเป็นเวทมนตร์สายฟ้าได้ ธาตุไฟและธาตุดินนั้นเรียบง่ายแต่ก็ทรงพลังไม่แพ้กัน น่าแระหลาดใจเมื่อธาตุแสงและธาตุมืดเป็นบทเดียวกันแทนที่จะแยกกัน ตามที่หนังสืออธิบาย สําหรับผู้ใช้เวทรักษาทั้งสองธาตุเป็นเหมือนขนมปังและเนยประสิทธิภาพจะดีที่สุดเมื่อทํางานร่วมกัน มีคําแนะนําด้วยว่าในการเริ่มฝึกเวทมนตร์ต้องระมัดระวังให้มาก อย่ากัดคําใหญ่เกินกว่าจะเคี้ยวได้ เวทมนตร์ธาตุมืดไม่มีดีหรือชั่วร้ายเป็นแค่องค์ประกอบธาตุชนิดนึงเป็นเครื่องมือล้ําค่าของผู้ใช้เวทรักษาเวทมนตร์ที่เกี่ยวกับการทําลายปรสิตหรือเชื่อโรคในร่างกายเป็นเวทมนตร์ธาตุมืดเกือบทั้งหมด เวทมนตร์ธาตุแสงเพียงช่วยในการตรวจหาสิ่งแปลกปลอมแต่กําจัดพวกมันไม่ได้ ดังนั้นธาตุแสงและธาตุมือจะทํางานได้ดีที่สุดเมื่อใช้งานร่วมกัน เวทมนตร์ธาตุแสงใช้ฟื้นฟูพลังชีวิตและตรวจสอบสิ่ง ผิดปกติ รักษาอาการของโรคและกู้คืนความแข็งแกร่ง การรักษากระดูกที่หักจะยากขึ้นไปอีก หลังจากอ่าน เขารู้สึกว่าตัวเองโง่มากเขาสามารถเข้าใจคุณสม บัติต่างๆได้ด้วยตัวเองถ้าพยายามจินตนาการและไม่ปิดกั้นความคิด “นี่ฉันงี่เง่าอยู่แบบนี้มา 3 ปีเลยหรอเนี่ย?ความมือคือสิ่งชั่วร้ายและแสงสว่างเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์? ฉันทําเหมือนว่าโลกนี้คือวิดีโอที่เคยเล่นมีระดับและกฎของเกมแต่ฉันลืมไปว่ามันคือโลกจริงๆทุกอย่างคล้ายกับหลังวิทยาศาสตร์ ถ้าเวทมนตร์ธาตุไฟคือการใช้มานาเพื่อสร้างความร้อนเวทมนตร์น้ําต้องเป็นการใช้มานาเพื่อสร้างความเย็นควบแน่นจากอากาศเปลี่ยนเป็นของเหลวทุกอย่างมีเหตุและผล เมื่อเขากําลังจะพลิกหน้าต่อไปเพื่ออ่านวิธีรักษาอาการกระดูกหัก มือของใครบางคนก็เอื้อมมาจักไหล่เขาไว้แน่น “นั่นไม่ใช่ของเล่นนะหนุ่มน้อยถ้าเจ้าทํามันเสียหาย ครอบครัวเจ้าต้องจ่ายเงินชดใช้

นิยาย Supreme Magus

ตอนที่ 11 รู้ในสิ่งที่ไม่รู้

เมื่อเรียนรู้วิธีการอ่านและเขียนอย่าง เป็นทางการแล้วลิทก็ฝึกมันทุกวันทุกคนในครอบครัวเขาคิดว่าเขาเป็นสุดยอดอัจฉริยะแต่เขารู้ตัวดีถ้าไม่มีความทรงจําและสติปัญญาจากชีวิตก่อนการจดจําตัวอักษร 21 ตัวและตัวเลข 10 ตัวมันต้องใช้เวลานานสําหรับเด็ก คนหนึ่ง

การตีเปล็กต้องทําในขณะที่ยังร้อนลิทขอร้องให้ราซแกะสลักไม้ให้ยาว 50 เซ็นติเมตรและกว้าง 3 เซนติเมตร

ด้านหน้าของไม้แกะสลักตัวอักษรทั้งหมดไว้ ด้านหลังเขียนเป็นตัวเลขด้วยไม้อันนี้เขาจะสามารถฝึกซ้อมได้ตลอด เวลาโดยไม่ต้องรบกวนราซ

ราซไม่เคยรู้ความคิดของเด็กน้อยคนนี้ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับการ ขอไม้แปลกๆเขาเสนอว่าสามารถทําให้มันบางและสั้นลงเพื่อพกพาได้ง่ายขึ้นแต่เด็กน้อยปฏิเสธและขอให้เขาทําตาม ขนาดเดิม

ลิทสัมผัสได้ถึงสายตาไม่เป็นมิตรจากออป้าทุกครั้งที่มีคนเรียกเขาว่าอัจฉริยะ เขาต้องดูแลไม้นี้ให้ดีและแน่ใจว่ามันจะไม่หายไปจาก “อุบัติเหตุ”

ทุกคนคิดว่าเขาจะใช้มันเพื่อฝึกเขียนตัวเลขและตัวอักษร แต่ไม่เพียงแค่นั้นเขาสามารถฝคกจิตเวทด้วยไม้นี้ได้ มันเป็นข้ออ้างที่สมบูรณ์แบบ

เมื่อสภาพอากาศสงบลงเอเลน่าก็ตัดสินใจว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมใน การตรวจอาการของทิสต้าอากาศหนาว เย็นจากพายุหิมะในช่วงเวลาหลายวันไม่ว่าราซจะพยายามรักษาอุณหภูมิในบ้านมากแค่ไหน

ทิสต้ามีอาการไอรุนแรงขึ้น และทุกคนเป็นห่วงเธอเอเลน่าจะพาทิสต้ากับลิทเดินทางเข้าไปในหมู่บ้านด้วยเกรียนม้า

สภาพอากาศเลวร้ายเกิดขึ้นเวลานานทําให้ทุกคนต้องช่วยเหลือกันจัดการกับฟาร์มส่วนที่มีปัญหาให้เสร็จก่อน

เธอพาลิทไปด้วยเพราะเขาจะไม่มีใครคอยดูแลหลังจากทุกคนสวมเสื้อผ้าหน้าการเดินทางก็เริ่มขึ้น

ลิทมีความสุขมากนี้เป็นครั้งแรกของเขาในการออกไปด้านนอกฟาร์ม

การเดินทางของพวกเขาเกิดปัญหาขึ้นเล็กน้อยมีแมลงหลายตัวคอยสร้างความรําคาญพวกมันเรียนว่าแมลงกรอธ เป็นแมลงที่มีเหล็กในพิษอยู่ส่วนท้ายของท้องเหมือนผึ้งแต่เป็นสีฟ้าและมีข นาดใหญ่กว่า

“พวกมันมาจากไหน?” เอเลน่าบ่น “ปกติมันต้องจําศีลในฤดูหนาว”

มีแมลงกรอธตัวหนึ่งดื้อด้านและไม่ยอมไปแม้ว่าเอเลน่าจะไล่มันไปแล้วก็ตามมันแอบบินเงียบเข้ามาหาทิสต้า 3694
ลิทสะบัดมือของเขาแม้ร่างการของเด็กน้องจะเชื่องช้าแต่ไม่ใช่กับจิตเวท

ตอนนี้จิตเวทของเขามีรัศมีถึง 10 เมตรแมลงตัวนั้นถูกอากาศบับอัดจนแบน

ลิทของดูเหยื่อของเขาร่วงลงไปด้วยความภาคภูมิใจชั้นจะปกป้องเธอเอง

ทิสต้ายังคงสับสนอยู่กับการตายกลางอากาศของมันเอเลน่ากังวลว่าจะมี แมลงตัวอื่นตามมาอีกพวกเขาจึงรีบเดินทางต่อทันที
ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงหมู่บ้านลูเทีย

ภาพที่ลิทเห็นทําให้เขานึกถึงภาพวาดหมู่บ้านในชนบทสมัยยุคเก่าแก่เขาเคย

ไม่มีวี่แววของเทคโนโลยีใดๆบางทีแค่กังหันลมหรือโรงสีอาจจะถือว่าเป็นเทคโนโลยีมหัศจรรย์แล้วก็ได้

เอเลน่าอธิบายว่าที่หมู่บ้านนี้มีแค่ช่างฝีมือนักวิชาการและพ่อค้าเท่านั้น นอก จากนี้ยังมีแค่จํานวนน้อยชาวบ้านที่เหลือทั้งหมดต่างก็ทําการเกษตรและเลี้ยงสัตว์

บ้านในหมู่บ้านลูเที่ยทํามาจากไม้สูงสองชั้นหรือสามชั้นไม่มีบ้านไหนทําด้วยหินหรืออิฐ

ไม่มีถนนสําหรับการเดินทางใดๆ ช่องว่างระหว่างบ้านเป็นพื้นดินและโคลน

เขามองเห็นป้านสูงที่แขวนอยู่บางบ้านนั้นเป็นโรงตีเหล็กร้านเหล้าและ ร้านเสื้อผ้า

ร้านเบเกอรี่ไม่จําเป็นต้องมีป้ายหรีอสัญลักษณ์ใดๆแค่กลิ่นจากปล่องไฟก็เพียงพอที่จะทําให้ทุกคนที่เดินผ่านรับรู้
กลิ่นหอมของขนมปังท่าให้เด็กน้อยรู้ล่ วงหน้าได้ว่าคืนนี้เขาจะฝันถึงอะไร

บ้านของนาน่าใหญ่และดูดีกว่าบ้านของพวกเขาเอเลน่าเล่าให้ฟังว่าบ้านหลังนี้มีนาน่าอาศัยอยู่แค่คนเดียว

หมายความว่าถ้านาน่าไม่ได้มาจากครอบครัวที่ร่ํารวยธุรกิจการรักษาของเธอจ้องได้รับความนิยมเป็นอย่างดีความสําคัญของธาตุแสงในใจเขาพุ่งสูงขึ้นมาทันที

พวกเขาเปิดประตูเข้าไป ด้านในเป็นห้องขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยกลิ่นยาและสมุนไพรกลิ่นอันคุ้นเคยเหมือนห้องรอคนไข้ตามโรงพยาบาล

ด้านหลังมีอีก 2 ประตู ประตูด้านซ้ายเป็นพื้นที่ส่วนตัวของนาน่า ประตูด้าน ขวามีม่านกว้างบดบังไว้ใช้สําหรับรักษาผู้ป่วย

พื้นที่ในห้องเต็มไปด้วยเกาอี้ยาวและมีหลายคนกําลังนั่งอยู่

อากาศในห้องอบอุ่นต่างจากด้านนอกดูเหมือนที่นี้จะมีวิธีจัดการกับความหนาวเย็นเป็นอย่างดีเอเลน่าถอดเสื้อผ้ากันหนาวออกจากตัวพวกเขาก่อนจะสั่งให้พวกเขาอยู่เงียบๆและห้ามไปรบกวนคน อื่น

ในห้องมีแม่หลายคนที่พาลูกๆของเธอมาหานาน่าในไม่ช้าเอเลน่าก็เดินไปร่วมวงสนทนากับพวกเธอทันที

ลิทเดินสํารวจห้องอย่างเงียบๆผู้คนในห้องก็ยุ่งอยู่กับการดูแลลูกหรืออาการป่วยของตัวเองไม่มีใครสนใจเด็กน้อยคนหนึ่ง

เขาไม่พบอะไรน่าสนใจ แต่เมื่อเขาเดินเข้าใกล้กับห้องที่มีม่านเขาแทบ สะดุด มีตู้เล็กใบหนึ่งอยู่ด้านในเต็มไปด้วยหนังสือที่เกี่ยวกับเวทมนตร์!

“ดูไปที่นี้ก็คล้ายกับหมอที่เปิดคลินิกรักษาในชนบทหนังสือส่วนมาก เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์เฉพาะทางแต่มีเล่มหนึ่งที่สะดุดตาของเขา

“พื้นฐานขอเวทมนตร์ หลังจากตรวจสอบรอบๆว่าไม่มีใครสนใจ เขาก็คว้า มันและเริ่มอ่าน

“การขอโทษน่าจะดีกว่าการขออนุญาตสํารับหนังสือเวทมนตร์กับเด็กสามขวบเขาเดินไปที่มุมหนึ่งของห้องแล้วนั่งอ่านโดยหวังว่าจะไม่มีใครสังเกตเห็น

ชัดเจนว่าเป็นหนังสือสําหรับผู้เริ่มต้นเขาอ่านข้ามคําแนะนําที่ไม่จําเป็น

เวทมนตร์ธาตุน้ําไม่ได้แค่สร้างน้ําและความอบอุ่นเท่านั้นผู้ใช้ยังสามารถลด อุณหภูมิของทุกสิ่งรอบๆตัวได้สามารถสร้างเป็นเวทมนตร์น้ําแข็งใช้มันทั้งโจมตีและป้องกัน

เวทมนตร์ธาตุลมก็ร้ายกาจในระดับสูงคือการควบคุมสภาพอากาศ สามารถสร้างเป็นเวทมนตร์สายฟ้าได้

ธาตุไฟและธาตุดินนั้นเรียบง่ายแต่ก็ทรงพลังไม่แพ้กัน

น่าแระหลาดใจเมื่อธาตุแสงและธาตุมืดเป็นบทเดียวกันแทนที่จะแยกกัน

ตามที่หนังสืออธิบาย สําหรับผู้ใช้เวทรักษาทั้งสองธาตุเป็นเหมือนขนมปังและเนยประสิทธิภาพจะดีที่สุดเมื่อทํางานร่วมกัน

มีคําแนะนําด้วยว่าในการเริ่มฝึกเวทมนตร์ต้องระมัดระวังให้มาก อย่ากัดคําใหญ่เกินกว่าจะเคี้ยวได้

เวทมนตร์ธาตุมืดไม่มีดีหรือชั่วร้ายเป็นแค่องค์ประกอบธาตุชนิดนึงเป็นเครื่องมือล้ําค่าของผู้ใช้เวทรักษาเวทมนตร์ที่เกี่ยวกับการทําลายปรสิตหรือเชื่อโรคในร่างกายเป็นเวทมนตร์ธาตุมืดเกือบทั้งหมด

เวทมนตร์ธาตุแสงเพียงช่วยในการตรวจหาสิ่งแปลกปลอมแต่กําจัดพวกมันไม่ได้

ดังนั้นธาตุแสงและธาตุมือจะทํางานได้ดีที่สุดเมื่อใช้งานร่วมกัน เวทมนตร์ธาตุแสงใช้ฟื้นฟูพลังชีวิตและตรวจสอบสิ่ง ผิดปกติ รักษาอาการของโรคและกู้คืนความแข็งแกร่ง

การรักษากระดูกที่หักจะยากขึ้นไปอีก

หลังจากอ่าน เขารู้สึกว่าตัวเองโง่มากเขาสามารถเข้าใจคุณสม บัติต่างๆได้ด้วยตัวเองถ้าพยายามจินตนาการและไม่ปิดกั้นความคิด

“นี่ฉันงี่เง่าอยู่แบบนี้มา 3 ปีเลยหรอเนี่ย?ความมือคือสิ่งชั่วร้ายและแสงสว่างเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์? ฉันทําเหมือนว่าโลกนี้คือวิดีโอที่เคยเล่นมีระดับและกฎของเกมแต่ฉันลืมไปว่ามันคือโลกจริงๆทุกอย่างคล้ายกับหลังวิทยาศาสตร์

ถ้าเวทมนตร์ธาตุไฟคือการใช้มานาเพื่อสร้างความร้อนเวทมนตร์น้ําต้องเป็นการใช้มานาเพื่อสร้างความเย็นควบแน่นจากอากาศเปลี่ยนเป็นของเหลวทุกอย่างมีเหตุและผล

เมื่อเขากําลังจะพลิกหน้าต่อไปเพื่ออ่านวิธีรักษาอาการกระดูกหัก มือของใครบางคนก็เอื้อมมาจักไหล่เขาไว้แน่น

“นั่นไม่ใช่ของเล่นนะหนุ่มน้อยถ้าเจ้าทํามันเสียหาย ครอบครัวเจ้าต้องจ่ายเงินชดใช้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Supreme Magus 11 รู้ในสิ่งที่ไม่รู้

Now you are reading Supreme Magus Chapter 11 รู้ในสิ่งที่ไม่รู้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย Supreme Magus ตอนที่ 11 รู้ในสิ่งที่ไม่รู้ เมื่อเรียนรู้วิธีการอ่านและเขียนอย่าง เป็นทางการแล้วลิทก็ฝึกมันทุกวันทุกคนในครอบครัวเขาคิดว่าเขาเป็นสุดยอดอัจฉริยะแต่เขารู้ตัวดีถ้าไม่มีความทรงจําและสติปัญญาจากชีวิตก่อนการจดจําตัวอักษร 21 ตัวและตัวเลข 10 ตัวมันต้องใช้เวลานานสําหรับเด็ก คนหนึ่ง การตีเปล็กต้องทําในขณะที่ยังร้อนลิทขอร้องให้ราซแกะสลักไม้ให้ยาว 50 เซ็นติเมตรและกว้าง 3 เซนติเมตร ด้านหน้าของไม้แกะสลักตัวอักษรทั้งหมดไว้ ด้านหลังเขียนเป็นตัวเลขด้วยไม้อันนี้เขาจะสามารถฝึกซ้อมได้ตลอด เวลาโดยไม่ต้องรบกวนราซ ราซไม่เคยรู้ความคิดของเด็กน้อยคนนี้ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับการ ขอไม้แปลกๆเขาเสนอว่าสามารถทําให้มันบางและสั้นลงเพื่อพกพาได้ง่ายขึ้นแต่เด็กน้อยปฏิเสธและขอให้เขาทําตาม ขนาดเดิม ลิทสัมผัสได้ถึงสายตาไม่เป็นมิตรจากออป้าทุกครั้งที่มีคนเรียกเขาว่าอัจฉริยะ เขาต้องดูแลไม้นี้ให้ดีและแน่ใจว่ามันจะไม่หายไปจาก “อุบัติเหตุ” ทุกคนคิดว่าเขาจะใช้มันเพื่อฝึกเขียนตัวเลขและตัวอักษร แต่ไม่เพียงแค่นั้นเขาสามารถฝคกจิตเวทด้วยไม้นี้ได้ มันเป็นข้ออ้างที่สมบูรณ์แบบ เมื่อสภาพอากาศสงบลงเอเลน่าก็ตัดสินใจว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมใน การตรวจอาการของทิสต้าอากาศหนาว เย็นจากพายุหิมะในช่วงเวลาหลายวันไม่ว่าราซจะพยายามรักษาอุณหภูมิในบ้านมากแค่ไหน ทิสต้ามีอาการไอรุนแรงขึ้น และทุกคนเป็นห่วงเธอเอเลน่าจะพาทิสต้ากับลิทเดินทางเข้าไปในหมู่บ้านด้วยเกรียนม้า สภาพอากาศเลวร้ายเกิดขึ้นเวลานานทําให้ทุกคนต้องช่วยเหลือกันจัดการกับฟาร์มส่วนที่มีปัญหาให้เสร็จก่อน เธอพาลิทไปด้วยเพราะเขาจะไม่มีใครคอยดูแลหลังจากทุกคนสวมเสื้อผ้าหน้าการเดินทางก็เริ่มขึ้น ลิทมีความสุขมากนี้เป็นครั้งแรกของเขาในการออกไปด้านนอกฟาร์ม การเดินทางของพวกเขาเกิดปัญหาขึ้นเล็กน้อยมีแมลงหลายตัวคอยสร้างความรําคาญพวกมันเรียนว่าแมลงกรอธ เป็นแมลงที่มีเหล็กในพิษอยู่ส่วนท้ายของท้องเหมือนผึ้งแต่เป็นสีฟ้าและมีข นาดใหญ่กว่า “พวกมันมาจากไหน?” เอเลน่าบ่น “ปกติมันต้องจําศีลในฤดูหนาว” มีแมลงกรอธตัวหนึ่งดื้อด้านและไม่ยอมไปแม้ว่าเอเลน่าจะไล่มันไปแล้วก็ตามมันแอบบินเงียบเข้ามาหาทิสต้า 3694
ลิทสะบัดมือของเขาแม้ร่างการของเด็กน้องจะเชื่องช้าแต่ไม่ใช่กับจิตเวท ตอนนี้จิตเวทของเขามีรัศมีถึง 10 เมตรแมลงตัวนั้นถูกอากาศบับอัดจนแบน ลิทของดูเหยื่อของเขาร่วงลงไปด้วยความภาคภูมิใจชั้นจะปกป้องเธอเอง ทิสต้ายังคงสับสนอยู่กับการตายกลางอากาศของมันเอเลน่ากังวลว่าจะมี แมลงตัวอื่นตามมาอีกพวกเขาจึงรีบเดินทางต่อทันที
ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงหมู่บ้านลูเทีย ภาพที่ลิทเห็นทําให้เขานึกถึงภาพวาดหมู่บ้านในชนบทสมัยยุคเก่าแก่เขาเคย ไม่มีวี่แววของเทคโนโลยีใดๆบางทีแค่กังหันลมหรือโรงสีอาจจะถือว่าเป็นเทคโนโลยีมหัศจรรย์แล้วก็ได้ เอเลน่าอธิบายว่าที่หมู่บ้านนี้มีแค่ช่างฝีมือนักวิชาการและพ่อค้าเท่านั้น นอก จากนี้ยังมีแค่จํานวนน้อยชาวบ้านที่เหลือทั้งหมดต่างก็ทําการเกษตรและเลี้ยงสัตว์ บ้านในหมู่บ้านลูเที่ยทํามาจากไม้สูงสองชั้นหรือสามชั้นไม่มีบ้านไหนทําด้วยหินหรืออิฐ ไม่มีถนนสําหรับการเดินทางใดๆ ช่องว่างระหว่างบ้านเป็นพื้นดินและโคลน เขามองเห็นป้านสูงที่แขวนอยู่บางบ้านนั้นเป็นโรงตีเหล็กร้านเหล้าและ ร้านเสื้อผ้า ร้านเบเกอรี่ไม่จําเป็นต้องมีป้ายหรีอสัญลักษณ์ใดๆแค่กลิ่นจากปล่องไฟก็เพียงพอที่จะทําให้ทุกคนที่เดินผ่านรับรู้
กลิ่นหอมของขนมปังท่าให้เด็กน้อยรู้ล่ วงหน้าได้ว่าคืนนี้เขาจะฝันถึงอะไร บ้านของนาน่าใหญ่และดูดีกว่าบ้านของพวกเขาเอเลน่าเล่าให้ฟังว่าบ้านหลังนี้มีนาน่าอาศัยอยู่แค่คนเดียว หมายความว่าถ้านาน่าไม่ได้มาจากครอบครัวที่ร่ํารวยธุรกิจการรักษาของเธอจ้องได้รับความนิยมเป็นอย่างดีความสําคัญของธาตุแสงในใจเขาพุ่งสูงขึ้นมาทันที พวกเขาเปิดประตูเข้าไป ด้านในเป็นห้องขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยกลิ่นยาและสมุนไพรกลิ่นอันคุ้นเคยเหมือนห้องรอคนไข้ตามโรงพยาบาล ด้านหลังมีอีก 2 ประตู ประตูด้านซ้ายเป็นพื้นที่ส่วนตัวของนาน่า ประตูด้าน ขวามีม่านกว้างบดบังไว้ใช้สําหรับรักษาผู้ป่วย พื้นที่ในห้องเต็มไปด้วยเกาอี้ยาวและมีหลายคนกําลังนั่งอยู่ อากาศในห้องอบอุ่นต่างจากด้านนอกดูเหมือนที่นี้จะมีวิธีจัดการกับความหนาวเย็นเป็นอย่างดีเอเลน่าถอดเสื้อผ้ากันหนาวออกจากตัวพวกเขาก่อนจะสั่งให้พวกเขาอยู่เงียบๆและห้ามไปรบกวนคน อื่น ในห้องมีแม่หลายคนที่พาลูกๆของเธอมาหานาน่าในไม่ช้าเอเลน่าก็เดินไปร่วมวงสนทนากับพวกเธอทันที ลิทเดินสํารวจห้องอย่างเงียบๆผู้คนในห้องก็ยุ่งอยู่กับการดูแลลูกหรืออาการป่วยของตัวเองไม่มีใครสนใจเด็กน้อยคนหนึ่ง เขาไม่พบอะไรน่าสนใจ แต่เมื่อเขาเดินเข้าใกล้กับห้องที่มีม่านเขาแทบ สะดุด มีตู้เล็กใบหนึ่งอยู่ด้านในเต็มไปด้วยหนังสือที่เกี่ยวกับเวทมนตร์! “ดูไปที่นี้ก็คล้ายกับหมอที่เปิดคลินิกรักษาในชนบทหนังสือส่วนมาก เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์เฉพาะทางแต่มีเล่มหนึ่งที่สะดุดตาของเขา “พื้นฐานขอเวทมนตร์ หลังจากตรวจสอบรอบๆว่าไม่มีใครสนใจ เขาก็คว้า มันและเริ่มอ่าน “การขอโทษน่าจะดีกว่าการขออนุญาตสํารับหนังสือเวทมนตร์กับเด็กสามขวบเขาเดินไปที่มุมหนึ่งของห้องแล้วนั่งอ่านโดยหวังว่าจะไม่มีใครสังเกตเห็น ชัดเจนว่าเป็นหนังสือสําหรับผู้เริ่มต้นเขาอ่านข้ามคําแนะนําที่ไม่จําเป็น เวทมนตร์ธาตุน้ําไม่ได้แค่สร้างน้ําและความอบอุ่นเท่านั้นผู้ใช้ยังสามารถลด อุณหภูมิของทุกสิ่งรอบๆตัวได้สามารถสร้างเป็นเวทมนตร์น้ําแข็งใช้มันทั้งโจมตีและป้องกัน เวทมนตร์ธาตุลมก็ร้ายกาจในระดับสูงคือการควบคุมสภาพอากาศ สามารถสร้างเป็นเวทมนตร์สายฟ้าได้ ธาตุไฟและธาตุดินนั้นเรียบง่ายแต่ก็ทรงพลังไม่แพ้กัน น่าแระหลาดใจเมื่อธาตุแสงและธาตุมืดเป็นบทเดียวกันแทนที่จะแยกกัน ตามที่หนังสืออธิบาย สําหรับผู้ใช้เวทรักษาทั้งสองธาตุเป็นเหมือนขนมปังและเนยประสิทธิภาพจะดีที่สุดเมื่อทํางานร่วมกัน มีคําแนะนําด้วยว่าในการเริ่มฝึกเวทมนตร์ต้องระมัดระวังให้มาก อย่ากัดคําใหญ่เกินกว่าจะเคี้ยวได้ เวทมนตร์ธาตุมืดไม่มีดีหรือชั่วร้ายเป็นแค่องค์ประกอบธาตุชนิดนึงเป็นเครื่องมือล้ําค่าของผู้ใช้เวทรักษาเวทมนตร์ที่เกี่ยวกับการทําลายปรสิตหรือเชื่อโรคในร่างกายเป็นเวทมนตร์ธาตุมืดเกือบทั้งหมด เวทมนตร์ธาตุแสงเพียงช่วยในการตรวจหาสิ่งแปลกปลอมแต่กําจัดพวกมันไม่ได้ ดังนั้นธาตุแสงและธาตุมือจะทํางานได้ดีที่สุดเมื่อใช้งานร่วมกัน เวทมนตร์ธาตุแสงใช้ฟื้นฟูพลังชีวิตและตรวจสอบสิ่ง ผิดปกติ รักษาอาการของโรคและกู้คืนความแข็งแกร่ง การรักษากระดูกที่หักจะยากขึ้นไปอีก หลังจากอ่าน เขารู้สึกว่าตัวเองโง่มากเขาสามารถเข้าใจคุณสม บัติต่างๆได้ด้วยตัวเองถ้าพยายามจินตนาการและไม่ปิดกั้นความคิด “นี่ฉันงี่เง่าอยู่แบบนี้มา 3 ปีเลยหรอเนี่ย?ความมือคือสิ่งชั่วร้ายและแสงสว่างเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์? ฉันทําเหมือนว่าโลกนี้คือวิดีโอที่เคยเล่นมีระดับและกฎของเกมแต่ฉันลืมไปว่ามันคือโลกจริงๆทุกอย่างคล้ายกับหลังวิทยาศาสตร์ ถ้าเวทมนตร์ธาตุไฟคือการใช้มานาเพื่อสร้างความร้อนเวทมนตร์น้ําต้องเป็นการใช้มานาเพื่อสร้างความเย็นควบแน่นจากอากาศเปลี่ยนเป็นของเหลวทุกอย่างมีเหตุและผล เมื่อเขากําลังจะพลิกหน้าต่อไปเพื่ออ่านวิธีรักษาอาการกระดูกหัก มือของใครบางคนก็เอื้อมมาจักไหล่เขาไว้แน่น “นั่นไม่ใช่ของเล่นนะหนุ่มน้อยถ้าเจ้าทํามันเสียหาย ครอบครัวเจ้าต้องจ่ายเงินชดใช้

นิยาย Supreme Magus

ตอนที่ 11 รู้ในสิ่งที่ไม่รู้

เมื่อเรียนรู้วิธีการอ่านและเขียนอย่าง เป็นทางการแล้วลิทก็ฝึกมันทุกวันทุกคนในครอบครัวเขาคิดว่าเขาเป็นสุดยอดอัจฉริยะแต่เขารู้ตัวดีถ้าไม่มีความทรงจําและสติปัญญาจากชีวิตก่อนการจดจําตัวอักษร 21 ตัวและตัวเลข 10 ตัวมันต้องใช้เวลานานสําหรับเด็ก คนหนึ่ง

การตีเปล็กต้องทําในขณะที่ยังร้อนลิทขอร้องให้ราซแกะสลักไม้ให้ยาว 50 เซ็นติเมตรและกว้าง 3 เซนติเมตร

ด้านหน้าของไม้แกะสลักตัวอักษรทั้งหมดไว้ ด้านหลังเขียนเป็นตัวเลขด้วยไม้อันนี้เขาจะสามารถฝึกซ้อมได้ตลอด เวลาโดยไม่ต้องรบกวนราซ

ราซไม่เคยรู้ความคิดของเด็กน้อยคนนี้ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับการ ขอไม้แปลกๆเขาเสนอว่าสามารถทําให้มันบางและสั้นลงเพื่อพกพาได้ง่ายขึ้นแต่เด็กน้อยปฏิเสธและขอให้เขาทําตาม ขนาดเดิม

ลิทสัมผัสได้ถึงสายตาไม่เป็นมิตรจากออป้าทุกครั้งที่มีคนเรียกเขาว่าอัจฉริยะ เขาต้องดูแลไม้นี้ให้ดีและแน่ใจว่ามันจะไม่หายไปจาก “อุบัติเหตุ”

ทุกคนคิดว่าเขาจะใช้มันเพื่อฝึกเขียนตัวเลขและตัวอักษร แต่ไม่เพียงแค่นั้นเขาสามารถฝคกจิตเวทด้วยไม้นี้ได้ มันเป็นข้ออ้างที่สมบูรณ์แบบ

เมื่อสภาพอากาศสงบลงเอเลน่าก็ตัดสินใจว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมใน การตรวจอาการของทิสต้าอากาศหนาว เย็นจากพายุหิมะในช่วงเวลาหลายวันไม่ว่าราซจะพยายามรักษาอุณหภูมิในบ้านมากแค่ไหน

ทิสต้ามีอาการไอรุนแรงขึ้น และทุกคนเป็นห่วงเธอเอเลน่าจะพาทิสต้ากับลิทเดินทางเข้าไปในหมู่บ้านด้วยเกรียนม้า

สภาพอากาศเลวร้ายเกิดขึ้นเวลานานทําให้ทุกคนต้องช่วยเหลือกันจัดการกับฟาร์มส่วนที่มีปัญหาให้เสร็จก่อน

เธอพาลิทไปด้วยเพราะเขาจะไม่มีใครคอยดูแลหลังจากทุกคนสวมเสื้อผ้าหน้าการเดินทางก็เริ่มขึ้น

ลิทมีความสุขมากนี้เป็นครั้งแรกของเขาในการออกไปด้านนอกฟาร์ม

การเดินทางของพวกเขาเกิดปัญหาขึ้นเล็กน้อยมีแมลงหลายตัวคอยสร้างความรําคาญพวกมันเรียนว่าแมลงกรอธ เป็นแมลงที่มีเหล็กในพิษอยู่ส่วนท้ายของท้องเหมือนผึ้งแต่เป็นสีฟ้าและมีข นาดใหญ่กว่า

“พวกมันมาจากไหน?” เอเลน่าบ่น “ปกติมันต้องจําศีลในฤดูหนาว”

มีแมลงกรอธตัวหนึ่งดื้อด้านและไม่ยอมไปแม้ว่าเอเลน่าจะไล่มันไปแล้วก็ตามมันแอบบินเงียบเข้ามาหาทิสต้า 3694
ลิทสะบัดมือของเขาแม้ร่างการของเด็กน้องจะเชื่องช้าแต่ไม่ใช่กับจิตเวท

ตอนนี้จิตเวทของเขามีรัศมีถึง 10 เมตรแมลงตัวนั้นถูกอากาศบับอัดจนแบน

ลิทของดูเหยื่อของเขาร่วงลงไปด้วยความภาคภูมิใจชั้นจะปกป้องเธอเอง

ทิสต้ายังคงสับสนอยู่กับการตายกลางอากาศของมันเอเลน่ากังวลว่าจะมี แมลงตัวอื่นตามมาอีกพวกเขาจึงรีบเดินทางต่อทันที
ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงหมู่บ้านลูเทีย

ภาพที่ลิทเห็นทําให้เขานึกถึงภาพวาดหมู่บ้านในชนบทสมัยยุคเก่าแก่เขาเคย

ไม่มีวี่แววของเทคโนโลยีใดๆบางทีแค่กังหันลมหรือโรงสีอาจจะถือว่าเป็นเทคโนโลยีมหัศจรรย์แล้วก็ได้

เอเลน่าอธิบายว่าที่หมู่บ้านนี้มีแค่ช่างฝีมือนักวิชาการและพ่อค้าเท่านั้น นอก จากนี้ยังมีแค่จํานวนน้อยชาวบ้านที่เหลือทั้งหมดต่างก็ทําการเกษตรและเลี้ยงสัตว์

บ้านในหมู่บ้านลูเที่ยทํามาจากไม้สูงสองชั้นหรือสามชั้นไม่มีบ้านไหนทําด้วยหินหรืออิฐ

ไม่มีถนนสําหรับการเดินทางใดๆ ช่องว่างระหว่างบ้านเป็นพื้นดินและโคลน

เขามองเห็นป้านสูงที่แขวนอยู่บางบ้านนั้นเป็นโรงตีเหล็กร้านเหล้าและ ร้านเสื้อผ้า

ร้านเบเกอรี่ไม่จําเป็นต้องมีป้ายหรีอสัญลักษณ์ใดๆแค่กลิ่นจากปล่องไฟก็เพียงพอที่จะทําให้ทุกคนที่เดินผ่านรับรู้
กลิ่นหอมของขนมปังท่าให้เด็กน้อยรู้ล่ วงหน้าได้ว่าคืนนี้เขาจะฝันถึงอะไร

บ้านของนาน่าใหญ่และดูดีกว่าบ้านของพวกเขาเอเลน่าเล่าให้ฟังว่าบ้านหลังนี้มีนาน่าอาศัยอยู่แค่คนเดียว

หมายความว่าถ้านาน่าไม่ได้มาจากครอบครัวที่ร่ํารวยธุรกิจการรักษาของเธอจ้องได้รับความนิยมเป็นอย่างดีความสําคัญของธาตุแสงในใจเขาพุ่งสูงขึ้นมาทันที

พวกเขาเปิดประตูเข้าไป ด้านในเป็นห้องขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยกลิ่นยาและสมุนไพรกลิ่นอันคุ้นเคยเหมือนห้องรอคนไข้ตามโรงพยาบาล

ด้านหลังมีอีก 2 ประตู ประตูด้านซ้ายเป็นพื้นที่ส่วนตัวของนาน่า ประตูด้าน ขวามีม่านกว้างบดบังไว้ใช้สําหรับรักษาผู้ป่วย

พื้นที่ในห้องเต็มไปด้วยเกาอี้ยาวและมีหลายคนกําลังนั่งอยู่

อากาศในห้องอบอุ่นต่างจากด้านนอกดูเหมือนที่นี้จะมีวิธีจัดการกับความหนาวเย็นเป็นอย่างดีเอเลน่าถอดเสื้อผ้ากันหนาวออกจากตัวพวกเขาก่อนจะสั่งให้พวกเขาอยู่เงียบๆและห้ามไปรบกวนคน อื่น

ในห้องมีแม่หลายคนที่พาลูกๆของเธอมาหานาน่าในไม่ช้าเอเลน่าก็เดินไปร่วมวงสนทนากับพวกเธอทันที

ลิทเดินสํารวจห้องอย่างเงียบๆผู้คนในห้องก็ยุ่งอยู่กับการดูแลลูกหรืออาการป่วยของตัวเองไม่มีใครสนใจเด็กน้อยคนหนึ่ง

เขาไม่พบอะไรน่าสนใจ แต่เมื่อเขาเดินเข้าใกล้กับห้องที่มีม่านเขาแทบ สะดุด มีตู้เล็กใบหนึ่งอยู่ด้านในเต็มไปด้วยหนังสือที่เกี่ยวกับเวทมนตร์!

“ดูไปที่นี้ก็คล้ายกับหมอที่เปิดคลินิกรักษาในชนบทหนังสือส่วนมาก เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์เฉพาะทางแต่มีเล่มหนึ่งที่สะดุดตาของเขา

“พื้นฐานขอเวทมนตร์ หลังจากตรวจสอบรอบๆว่าไม่มีใครสนใจ เขาก็คว้า มันและเริ่มอ่าน

“การขอโทษน่าจะดีกว่าการขออนุญาตสํารับหนังสือเวทมนตร์กับเด็กสามขวบเขาเดินไปที่มุมหนึ่งของห้องแล้วนั่งอ่านโดยหวังว่าจะไม่มีใครสังเกตเห็น

ชัดเจนว่าเป็นหนังสือสําหรับผู้เริ่มต้นเขาอ่านข้ามคําแนะนําที่ไม่จําเป็น

เวทมนตร์ธาตุน้ําไม่ได้แค่สร้างน้ําและความอบอุ่นเท่านั้นผู้ใช้ยังสามารถลด อุณหภูมิของทุกสิ่งรอบๆตัวได้สามารถสร้างเป็นเวทมนตร์น้ําแข็งใช้มันทั้งโจมตีและป้องกัน

เวทมนตร์ธาตุลมก็ร้ายกาจในระดับสูงคือการควบคุมสภาพอากาศ สามารถสร้างเป็นเวทมนตร์สายฟ้าได้

ธาตุไฟและธาตุดินนั้นเรียบง่ายแต่ก็ทรงพลังไม่แพ้กัน

น่าแระหลาดใจเมื่อธาตุแสงและธาตุมืดเป็นบทเดียวกันแทนที่จะแยกกัน

ตามที่หนังสืออธิบาย สําหรับผู้ใช้เวทรักษาทั้งสองธาตุเป็นเหมือนขนมปังและเนยประสิทธิภาพจะดีที่สุดเมื่อทํางานร่วมกัน

มีคําแนะนําด้วยว่าในการเริ่มฝึกเวทมนตร์ต้องระมัดระวังให้มาก อย่ากัดคําใหญ่เกินกว่าจะเคี้ยวได้

เวทมนตร์ธาตุมืดไม่มีดีหรือชั่วร้ายเป็นแค่องค์ประกอบธาตุชนิดนึงเป็นเครื่องมือล้ําค่าของผู้ใช้เวทรักษาเวทมนตร์ที่เกี่ยวกับการทําลายปรสิตหรือเชื่อโรคในร่างกายเป็นเวทมนตร์ธาตุมืดเกือบทั้งหมด

เวทมนตร์ธาตุแสงเพียงช่วยในการตรวจหาสิ่งแปลกปลอมแต่กําจัดพวกมันไม่ได้

ดังนั้นธาตุแสงและธาตุมือจะทํางานได้ดีที่สุดเมื่อใช้งานร่วมกัน เวทมนตร์ธาตุแสงใช้ฟื้นฟูพลังชีวิตและตรวจสอบสิ่ง ผิดปกติ รักษาอาการของโรคและกู้คืนความแข็งแกร่ง

การรักษากระดูกที่หักจะยากขึ้นไปอีก

หลังจากอ่าน เขารู้สึกว่าตัวเองโง่มากเขาสามารถเข้าใจคุณสม บัติต่างๆได้ด้วยตัวเองถ้าพยายามจินตนาการและไม่ปิดกั้นความคิด

“นี่ฉันงี่เง่าอยู่แบบนี้มา 3 ปีเลยหรอเนี่ย?ความมือคือสิ่งชั่วร้ายและแสงสว่างเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์? ฉันทําเหมือนว่าโลกนี้คือวิดีโอที่เคยเล่นมีระดับและกฎของเกมแต่ฉันลืมไปว่ามันคือโลกจริงๆทุกอย่างคล้ายกับหลังวิทยาศาสตร์

ถ้าเวทมนตร์ธาตุไฟคือการใช้มานาเพื่อสร้างความร้อนเวทมนตร์น้ําต้องเป็นการใช้มานาเพื่อสร้างความเย็นควบแน่นจากอากาศเปลี่ยนเป็นของเหลวทุกอย่างมีเหตุและผล

เมื่อเขากําลังจะพลิกหน้าต่อไปเพื่ออ่านวิธีรักษาอาการกระดูกหัก มือของใครบางคนก็เอื้อมมาจักไหล่เขาไว้แน่น

“นั่นไม่ใช่ของเล่นนะหนุ่มน้อยถ้าเจ้าทํามันเสียหาย ครอบครัวเจ้าต้องจ่ายเงินชดใช้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+