Supreme Magus 16 เผชิญหน้า

Now you are reading Supreme Magus Chapter 16 เผชิญหน้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย Supreme Magus

ตอนที่ 16 เผชิญหน้า

หลายวันต่อมา ลิธได้ค้นพบว่าร่างกายเกิดความเปลี่ยนแปลงไปมากมายเขารู้สึกว่าตัวเบากว่าที่เคยความสามารถทางกายภาพทั้งหมดเพิ่มขึ้นประสาทสัมผัสกว้างไกลและเฉียบแหลมมากขึ้น นอกจากนี้ยังเกิดความเปลี่ยนแปลงทางด้านรูปลักษณ์ภายนอกของเขาอีกด้วยไฝหรือขี้แมลงวันบนร่างกายหดลงและจางหายไปอย่างเห็นได้ชัดกระบนใบหน้าที่อยู่รอบๆจมูกและดวงตาก็หายไป ด้วยเช่นกันผิวเรียบเนียนยิ่งกว่าการไปทําทรีตเมนท์ในโลกก่อนเสียอีก

ลิธจดความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทั้งหมดพยายามทําความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นแม้พบว่าจะเกิดผลกระทบด้านรูปลักษณ์ทําให้ไม่มีไฝหรือกระอีกแล้วแต่เขาก็ยังคงดูเหมือนเด็กบ้านนอกนิสัยดิบเถื่อนคนหนึ่งเขาไม่รู้ว่าได้ยินจากแม่มาตรงไหนบ้างไม่เหมือนกับพี่สาวที่มีครบทั้งความสง่าและความงามเอลิน่าเคลื่อนไหวได้ราวกับนักเต้นบัลเลต์ในขณะที่เขาดูหยาบกระด้างทั้งยังงุ่มง่ามราวกับมนุษย์ถ้ําคนหนึ่ง

เขามีดวงตาคมปลาบเหมือนกับพ่อหน้าผากสูงและจมูกใหญ่ไปนิด ดูไม่รับกับใบหน้าสักเท่าไหร่ถึงไม่น่าเกลียดแต่ก็ไม่น่ารักเลย คะแนนที่เขาให้กับตัวเองนั้นอย่างมากก็หกเต็มสิบเขาได้แต่หวังว่าจะเติบโตเป็นหนุ่มไวๆ เพื่อไม่ให้ตนเองดูผอมบางอ่อนแอเช่นนี้

การค้นหาความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับแกนมานายังต้องใช้เวลามากกว่านี้เขาเข้าใจว่ามานามีการเปลี่ยนแปลงในเชิงคุณภาพมันบริสุทธิ์และหนาแน่นกว่าเดิมทําให้เขาร่ายเวทย์ได้แรงขึ้นและประหยัดเวลาในการใช้ธาตุกับเวทย์วิญญาณส่งผลให้เขาร่ายเวทย์ได้เร็วขึ้นนั่นเอง

เมื่อใช้ Invigorationเขาสามารถมองเห็นสารสีดําเหนียวๆ กระจัดกระจายอยู่ทั่วร่างกายตามอวัยวะภายในต่างๆ หลอดเลือด รวมถึงเส้นประสาทอีกด้วยและเมื่อใดก็ตามที่ใช้เทคนิค Accumulationเขาก็รู้สึกได้ว่าอนุภาคของสารสีดําขนาดเล็กๆนั้น ถูกดูดเข้าไปหาแกนมานาในขณะที่อนุภาคสารสีดําขนาดใหญ่จะแตกตัวเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแล้วจึงเคลื่อนที่ไป

ลิธมั่นใจในความแข็งแกร่งครั้งใหม่นี้เขาเริ่มเข้าไปในป่าลึกขึ้น เพื่อล่าเหยื่อตัวใหญ่กว่าเดิมและไม่หวาดกลัวเหล่าสัตว์นักล่าอีกต่อไปแล้วเขาไม่หลบเลี่ยงพวกมันแต่กลับตามล่าหาตัวพวกมันแทนลิธอยากให้ครอบครัวมีชุดขนสัตว์กันทุกคนและเขาเองก็เบื่อกับการโดนบังคับให้ใส่เสื้อหลายๆชั้นในช่วงฤดูหนาวมันทําให้เขาเดินได้ไม่ถนัดก้าวเดินแต่ละก้าวที่ไม่ต่างกับนกเพนกวิน
เลย

ปัญหาก็คือขณะที่ลิธกําลังเคลื่อนที่อยู่ในป่าจะเกิดเสียงดังขึ้นมา และยังปลดปล่อยจิตสังหารออกมาทําให้เหยื่อมากมายต่างตกใจหนีเขาไปแต่ยังดีที่มีเวทย์ Life Visionกับเวทย์วิญญาณทําให้เขายังคงล่าต่อไปได้ตอนนี้เวทย์วิญญาณของเขาสามารถขยายออกไปได้มากกว่า30 เมตรแล้วเขาจึงฆ่าเหยื่อที่พยายามหนีขึ้นต้นไม้หรือพยายามบินหนีได้อย่างง่ายดายตอนที่เขาไม่สามารถจับอะไรมาได้เขาจะยิงนกทุกตัวที่พลาดบินเข้ามาอยู่ในระยะเวทย์แทน

วันหนึ่ง ลิธกําลังสํารวจพื้นที่ใหม่ในป่าทรอนหวังว่าจะได้พบกับอาหารที่มีหนังดีๆบ้างเป็นการขว้างหินก้อนเดียวได้นกสองตัวในขณะที่กําลังมองไปยังเนินดินเล็กๆ Life Vision ของเขาก็มองเห็น พลังชีวิตทั้งสามกําลังซ่อนตัวอยู่ใต้ดินลึกเพียงไม่กี่เมตรเท่านั้น พวกมันไม่แข็งแกร่งพอที่จะเป็นนักล่าแต่มีขนาดตัวใหญ่พอที่จะเป็นอาหารมื้อกลางวันที่สมบูรณ์แบบเลยทีเดียว

“ถ้าเป็นพวกสัตว์ฟันแทะหรือสัตว์ที่ฉลาดๆหน่อยมันน่าจะมีทางเข้าออกมากกว่าหนึ่งทางฉันไม่อยากเสียเวลาฉันจะบังคับให้มันออกมา!”

หลังจากที่เขาเดินไปยังจุดที่สูงที่สุดของเนินดินเขาก็คอยจับตามองเหยื่ออยู่ตลอดเวลาแล้วใช้เวทย์ดิน “Magna!”พื้นดินรอบๆตัวเริ่มสั่นสะเทือนทําให้โพรงต่างๆที่อยู่ข้างใต้พังทลายลงไปเหยื่อที่อยู่ในนั้นต่างตื่นตระหนกและวิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็วลิธวิ่งตามเขาพยายามเข้าไปใกล้ๆให้ได้มากที่สุดเพื่อไม่ให้พวกมันหลุดออกจากระยะของเวทย์วิญญาณไปได้ทันใดนั้นก็มีกระต่ายอ้วนพีจํานวนสาม ตัวออกมาจากรูที่ซ่อนอยู่ใกล้ๆพุ่มไม้สองในสามนั้นมีขนสีขาวราวกับหิมะ

“โชคดีเป็นบ้าเลย!” ลิธตะโกนพร้อมกับดีดนิ้วเพื่อบิดคอกระต่ายให้หมุนไป 180 องศา

“ฉันจะเก็บตัวที่มีขนสีน้ําตาลแกมขาวไว้ใช้เองแล้วจะเอาสองตัวที่เหลือไปหาเซเลียเพื่อแลกกับหนังสัตว์ที่คุณภาพต่ํากว่าแต่มีจํานวนมากขึ้นวันนี้ช่างเป็นวันที่โชคดีจริงๆ”

ลิธเคยชินกับการอยู่คนเดียวในป่าแล้วมักจะคิดเสียงดังเพื่อทําลายความรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้างเขาแขวนกระต่ายไว้กับเข็มขัดโดยใช้หูของมันจากนั้นก็เดินตรงกลับบ้านเซเลีย

เพียงออกเดินไปไม่กี่ก้าวเขาก็ได้ยินเสียงแปลกๆ ซึ่งไม่เคยได้ยินมาก่อนเขาจึงเริ่มมองหาที่มาของเสียงนั้นไม่นานก็เห็นม้าสองตัวกําลังควบมาทางเขาจากระยะไกล

“บัดซบ! สงสัยฉันจะคิดดังไปจะสู้หรือจะหนีกันนะ?”เพื่อตอบคําถามนั้นเขาใช้ Life Visionอีกครั้งและพบว่าม้าก็เป็นแค่ม้าธรรมดา และคนเหล่านั้นก็ยังห่างไกลจากความประทับใจอยู่มากคนที่อยู่ด้านหน้าสุดดูแล้วน่าจะแข็งแกร่งเกือบจะเท่าเซเลียในขณะที่คนด้านหลังนั้นกลับอ่อนแอกว่าราซพ่อของเขาเสียอีก
ลิธพยายามปกปิดรอยยิ้มที่ชั่วร้ายเอาไว้ “แหมๆนี่นับเป็นการเผชิญหน้าครั้งแรกของฉันกับคนแปลกหน้าในโลกใหม่นี้เลยนะ!ว่าแต่ พวกมันเป็นคนดีรีเปล่านะ? พนันได้เลยว่าพวกมันก็เหมือนกันกับคนอื่นๆที่มีอยู่ทุกที่นั่นแหละนั่นแปลว่าพวกมันเป็นพวกชั่วช้สารเลว!รอเจอพวกมันไม่ไหวแล้ว!”

ลิธยืนอยู่กับที่ รอให้พวกมันมาหา

เห็นได้ชัดว่าผู้ชายคนแรกเป็นคนรับใช้แต่งกายในชุดพรานมีเกราะอกกับเกราะไหล่ทําจากหนังคุณภาพต่ําอยู่ในวัยกลางคนมีหนวดเคราที่ไม่ได้ทรงผมส์นสีดําสนิทสายตาดูดุร้ายเกรี้ยวกราดรวมๆแล้วหน้าตาเหมือนโจรดีๆนี่เอง

อีกคนที่อยู่ข้างหลังสวมใส่ชุดที่ดีกว่าเขาใส่เกราะอกที่ดูแล้วน่าจะทําจากผ้าไหมปักดิ้นทองเป็นแค่เด็กอายุราวๆสิบหกปีใบหน้าหล่อเหลารูปร่างราวกับนักกีฬาว่ายน้ําชุดหนังรัดรูปเน้นให้เห็นกล้า มเนื้อเป็นมัดๆซึ่งเคลื่อนไหวไปมาพร้อมกับม้าลิธรู้สึกหมั่นไส้มาก

“ฉันหวังว่ามันจะมีดีเหมือนกับหน้าตานะไม่อย่างนั้นฉันคงต้องเชื่อในเสน่ห์ของเจ้าชายแล้วฉันก็จะตายไปเพราะความอิจฉาตาร้อน”

“เฮ้ เด็กน้อย!”คนรับใช้ตะโกนเสียงหยาบกระด้างขึ้นมา“เมื่อกี้นี้เสียงอะไรน่ะ?”

ลิธแสดงท่าทางไร้เดียงสาอย่างเต็มที่เล่นเป็นหมาป่าในคราบชุดแกะ

“สวัสดีครับท่าน เมื่อกี้ผมแค่กําลังล่าสัตว์อยู่ขอโทษด้วยนะครับถ้าเกิดทําให้ตกใจกลัว”น้ําเสียงของลิธฟังดูสํานึกผิดจริงๆเขาต้องการทําให้พวกมันรู้สึกสงสัยเพื่อจะใช้ประโยชน์นี้

“แกไปเอาเหยื่อพวกนั้นมาจากไหน?”เขาเอ่ยถามขึ้นโดยไม่สนใจคําขอโทษและชี้ไปยังกระต่ายของลิธ

“จากโพรงกระต่ายครับ พวกมันคือเหยื่อของผม”ลิธยิ้มตอบกลับพร้อมกับจับตาดูพวกมันทั้งสองคน

“เอามันมามันจะกลายเป็นถุงมือที่สมบูรณ์แบบสําหรับแม่ฉัน”เด็กหนุ่มผู้หล่อเหลาเอ่ยเสียงอันนุ่มทุ่มออกมา

“ถ้าแกสํานึกผิดจริงๆก็ควรจะเสนอการชดใช้ที่ดีพอสําหรับพวกเรา สามัญชนอย่างแกควรจะรู้เรื่องนี้นะ”เขาเอ่ยพร้อมกับแสยะยิ้ม

ลิธทําท่าราวกับโกรธจัด

“เอาจริงหรอ? จะปล้นเด็กกลางวันแสกๆเนี่ยนะ? ไม่ละอายใจบ้างเลยหรอเหรอครับ?

“ไอ้เด็กปากดี!”คนรับใช้สบฤด่ากลับทันที “แกรู้ไหมว่าพูดอยู่กับใคร? เขาคือบุตรชายของบารอนราธท่านลอร์ดของดินแดนแห่งนี้”

ลิธหัวเราะดังลั่น

“ให้ตายเถอะ! ป่าทรอนไม่มีเจ้าของหรอกนะเว้นก็แต่เคาท์ลาร์ค เลิกพูดจา เหลวไหลได้แล้วกลับกันคุณรู้ไหมว่ากําลังพูดอยู่กับใคร? ฉันคือสุดยอดนักเวทย์ไงล่ะ!(Supreme Mage)”

“คอร์ธดูสิดูสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อต้องมาเปลืองลมหายใจกับสามัญชน” เด็กหนุ่มหยิบธนูสั้นที่สะพายไว้ข้างหลังออกมาเพื่อขึ้นธนู “พวกมันโง่เง่าเสียเหลือเกินซึ่งก็เป็นสิ่งที่มีอยู่ตามธรรมชาติของมัน”

เขายิงธนูออกไปโดยเล็งไปที่หัวใจของลิธ

แต่ลิธก็อยู่ไกลมากพอ และได้เตรียมเวทย์ไว้หลายอย่างที่ปลายนิ้วเพียงโบกมือครั้งเดียวสายลมอันรุนแรงก็พัดลูกธนูนั้นจนหมุนคว้างและตกกระแทกพื้นห่างจากเป้าหมาย

แม้ว่าเด็กหนุ่มจะงุนงงแต่ก็ยังคงรักษาความเยือกเย็นเอาไว้ได้ เขาขึ้นธนูอีกครั้งพร้อมกับสั่งให้คอร์ธไปฆ่าเด็กน้อย

ลิธยกมือซ้ายขึ้น หยุดคอร์ธไว้ให้นิ่งอยู่กับที่ด้วยเวทย์วิญญาณ ส่วนมือขวาก็ควบคุมลูกธนูมันหลุดออกจากมือแล้วแทงเข้าที่ตาของเด็กหนุ่มเขาพลันร่วงตกจากหลังม้าและร้องตะโกนด้วยความ เจ็บปวด

“แค่คิดจะปล่อยให้พวกคุณมีชีวิตออกไปจากที่นี่ก็รําคาญเสียแล้ว” ลิธส่ายหน้าพร้อมกับถอนหายใจ

“เดี๋ยวก่อน!ถ้าแกฆ่าลอร์ดหนุ่มคนนี้แกกับคนที่แกรักจะต้องตาย! คิดให้ดีสิ!”

ลิธหัวเราะอีกครั้ง “จริงเหรอครับ?แล้วพวกเขาจะรู้ได้ยังไงว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่น่ะ?”ลิธขยับนิ้วโป้งซ้ายทันใดนั้นคอร์ธพลันรู้สึกได้ว่ามือขวาของเขาขยับเองมันเคลื่อนที่ไปปลดมีดล่าสัตว์ซึ่งเหน็บไว้ที่เข็มขัด

“เดี๋ยวก่อน! ได้โปรด!เมตตาฉันด้วย!อย่าทําเลยนะแกเป็นแค่เด็กเองนะ!”เขาเอ่ยขอร้อง

“แล้วยังไงล่ะ? ตอนที่คุณอยากฆ่าคุณก็ฆ่าแต่พอเป็นตอนที่คุณแพ้ผมกลับควรแสดงความเมตตาต่อคุณงั้นหรอครับ?” น้ําเสียงของลิธเด็ดขาดมากเขางอนิ้วนางลงบังคับให้มีดจ่อที่ลําคอของ คอร์ธ

“ในเมื่อคุณเป็นคนรับใช้ ผมจะให้คุณได้ตายอย่างรวดเร็ว”เพียงกระดิกนิ้วก้อยลิธก็บังคับให้คอร์ธเชือดคอตนเอง

จากนั้นเขาก็เดินไปหาเด็กหนุ่มที่ยังคงทรมานจากความเจ็บปวด จนไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับข้ารับใช้ผู้สัตย์ซื่อเลย

“ส่วนคุณเป็นคนประเภทที่ผมเกลียดที่สุด!”ลิธใช้มือข้างหนึ่ง บังคับให้เขาลอยขึ้นมากลางอากาศขณะที่มืออีกข้างก็ต่อยเขาอย่างไม่หยุดยั้ง

“คุณมีทุกสิ่งทุกอย่าง!ทั้งเงินความหล่ออนาคตที่สดใส แต่สิ่งที่คุณทํากลับเป็นการขูดรีดทรัพย์สมบัติเอาจากคนที่พยายามกระเสือกกระสนที่จะอยู่รอดงั้นหรอ?”

ลิธเกลียดมนุษย์มากกว่าทุกสิ่งอย่างในโลกเก่าสิ่งเดียวที่คอยยับยั้งความโกรธเขาเอาไว้คือความรับผิดชอบที่เขามีต่อครอบครัว แต่ในโลกนี้ซึ่งไม่มีกล้องไม่มีgpsไม่มีอะไรเลยมีเพียงพลังเท่านั้น และเขาก็มีพลังอยู่

“รู้ไหม ผมมีน้องสาวที่ป่วยหนักมาก”ลิธพูดหลังจากระบายลมหายใจอย่างหนักหน่วง

“ผมไม่เคยฝึกเวทย์มืดกับสิ่งมีชีวิตเลยเพราะการใช้มันกับสัตว์ถือเป็นอะไรที่โหดร้ายมากแต่คุณคือสัตว์อสูรที่อยู่ในคราบร่างมนุษย์ คุณจะเป็นหนูทดลองที่สมบูรณ์แบบสําหรับเวทย์ของผมเลยล่ะ”

จากนั้นก็มีเสียงดังสะท้อนไปทั้งป่าทรอนเป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนที่ความตายจะมาเยือน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Supreme Magus 16 เผชิญหน้า

Now you are reading Supreme Magus Chapter 16 เผชิญหน้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย Supreme Magus

ตอนที่ 16 เผชิญหน้า

หลายวันต่อมา ลิธได้ค้นพบว่าร่างกายเกิดความเปลี่ยนแปลงไปมากมายเขารู้สึกว่าตัวเบากว่าที่เคยความสามารถทางกายภาพทั้งหมดเพิ่มขึ้นประสาทสัมผัสกว้างไกลและเฉียบแหลมมากขึ้น นอกจากนี้ยังเกิดความเปลี่ยนแปลงทางด้านรูปลักษณ์ภายนอกของเขาอีกด้วยไฝหรือขี้แมลงวันบนร่างกายหดลงและจางหายไปอย่างเห็นได้ชัดกระบนใบหน้าที่อยู่รอบๆจมูกและดวงตาก็หายไป ด้วยเช่นกันผิวเรียบเนียนยิ่งกว่าการไปทําทรีตเมนท์ในโลกก่อนเสียอีก

ลิธจดความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทั้งหมดพยายามทําความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นแม้พบว่าจะเกิดผลกระทบด้านรูปลักษณ์ทําให้ไม่มีไฝหรือกระอีกแล้วแต่เขาก็ยังคงดูเหมือนเด็กบ้านนอกนิสัยดิบเถื่อนคนหนึ่งเขาไม่รู้ว่าได้ยินจากแม่มาตรงไหนบ้างไม่เหมือนกับพี่สาวที่มีครบทั้งความสง่าและความงามเอลิน่าเคลื่อนไหวได้ราวกับนักเต้นบัลเลต์ในขณะที่เขาดูหยาบกระด้างทั้งยังงุ่มง่ามราวกับมนุษย์ถ้ําคนหนึ่ง

เขามีดวงตาคมปลาบเหมือนกับพ่อหน้าผากสูงและจมูกใหญ่ไปนิด ดูไม่รับกับใบหน้าสักเท่าไหร่ถึงไม่น่าเกลียดแต่ก็ไม่น่ารักเลย คะแนนที่เขาให้กับตัวเองนั้นอย่างมากก็หกเต็มสิบเขาได้แต่หวังว่าจะเติบโตเป็นหนุ่มไวๆ เพื่อไม่ให้ตนเองดูผอมบางอ่อนแอเช่นนี้

การค้นหาความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับแกนมานายังต้องใช้เวลามากกว่านี้เขาเข้าใจว่ามานามีการเปลี่ยนแปลงในเชิงคุณภาพมันบริสุทธิ์และหนาแน่นกว่าเดิมทําให้เขาร่ายเวทย์ได้แรงขึ้นและประหยัดเวลาในการใช้ธาตุกับเวทย์วิญญาณส่งผลให้เขาร่ายเวทย์ได้เร็วขึ้นนั่นเอง

เมื่อใช้ Invigorationเขาสามารถมองเห็นสารสีดําเหนียวๆ กระจัดกระจายอยู่ทั่วร่างกายตามอวัยวะภายในต่างๆ หลอดเลือด รวมถึงเส้นประสาทอีกด้วยและเมื่อใดก็ตามที่ใช้เทคนิค Accumulationเขาก็รู้สึกได้ว่าอนุภาคของสารสีดําขนาดเล็กๆนั้น ถูกดูดเข้าไปหาแกนมานาในขณะที่อนุภาคสารสีดําขนาดใหญ่จะแตกตัวเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแล้วจึงเคลื่อนที่ไป

ลิธมั่นใจในความแข็งแกร่งครั้งใหม่นี้เขาเริ่มเข้าไปในป่าลึกขึ้น เพื่อล่าเหยื่อตัวใหญ่กว่าเดิมและไม่หวาดกลัวเหล่าสัตว์นักล่าอีกต่อไปแล้วเขาไม่หลบเลี่ยงพวกมันแต่กลับตามล่าหาตัวพวกมันแทนลิธอยากให้ครอบครัวมีชุดขนสัตว์กันทุกคนและเขาเองก็เบื่อกับการโดนบังคับให้ใส่เสื้อหลายๆชั้นในช่วงฤดูหนาวมันทําให้เขาเดินได้ไม่ถนัดก้าวเดินแต่ละก้าวที่ไม่ต่างกับนกเพนกวิน
เลย

ปัญหาก็คือขณะที่ลิธกําลังเคลื่อนที่อยู่ในป่าจะเกิดเสียงดังขึ้นมา และยังปลดปล่อยจิตสังหารออกมาทําให้เหยื่อมากมายต่างตกใจหนีเขาไปแต่ยังดีที่มีเวทย์ Life Visionกับเวทย์วิญญาณทําให้เขายังคงล่าต่อไปได้ตอนนี้เวทย์วิญญาณของเขาสามารถขยายออกไปได้มากกว่า30 เมตรแล้วเขาจึงฆ่าเหยื่อที่พยายามหนีขึ้นต้นไม้หรือพยายามบินหนีได้อย่างง่ายดายตอนที่เขาไม่สามารถจับอะไรมาได้เขาจะยิงนกทุกตัวที่พลาดบินเข้ามาอยู่ในระยะเวทย์แทน

วันหนึ่ง ลิธกําลังสํารวจพื้นที่ใหม่ในป่าทรอนหวังว่าจะได้พบกับอาหารที่มีหนังดีๆบ้างเป็นการขว้างหินก้อนเดียวได้นกสองตัวในขณะที่กําลังมองไปยังเนินดินเล็กๆ Life Vision ของเขาก็มองเห็น พลังชีวิตทั้งสามกําลังซ่อนตัวอยู่ใต้ดินลึกเพียงไม่กี่เมตรเท่านั้น พวกมันไม่แข็งแกร่งพอที่จะเป็นนักล่าแต่มีขนาดตัวใหญ่พอที่จะเป็นอาหารมื้อกลางวันที่สมบูรณ์แบบเลยทีเดียว

“ถ้าเป็นพวกสัตว์ฟันแทะหรือสัตว์ที่ฉลาดๆหน่อยมันน่าจะมีทางเข้าออกมากกว่าหนึ่งทางฉันไม่อยากเสียเวลาฉันจะบังคับให้มันออกมา!”

หลังจากที่เขาเดินไปยังจุดที่สูงที่สุดของเนินดินเขาก็คอยจับตามองเหยื่ออยู่ตลอดเวลาแล้วใช้เวทย์ดิน “Magna!”พื้นดินรอบๆตัวเริ่มสั่นสะเทือนทําให้โพรงต่างๆที่อยู่ข้างใต้พังทลายลงไปเหยื่อที่อยู่ในนั้นต่างตื่นตระหนกและวิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็วลิธวิ่งตามเขาพยายามเข้าไปใกล้ๆให้ได้มากที่สุดเพื่อไม่ให้พวกมันหลุดออกจากระยะของเวทย์วิญญาณไปได้ทันใดนั้นก็มีกระต่ายอ้วนพีจํานวนสาม ตัวออกมาจากรูที่ซ่อนอยู่ใกล้ๆพุ่มไม้สองในสามนั้นมีขนสีขาวราวกับหิมะ

“โชคดีเป็นบ้าเลย!” ลิธตะโกนพร้อมกับดีดนิ้วเพื่อบิดคอกระต่ายให้หมุนไป 180 องศา

“ฉันจะเก็บตัวที่มีขนสีน้ําตาลแกมขาวไว้ใช้เองแล้วจะเอาสองตัวที่เหลือไปหาเซเลียเพื่อแลกกับหนังสัตว์ที่คุณภาพต่ํากว่าแต่มีจํานวนมากขึ้นวันนี้ช่างเป็นวันที่โชคดีจริงๆ”

ลิธเคยชินกับการอยู่คนเดียวในป่าแล้วมักจะคิดเสียงดังเพื่อทําลายความรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้างเขาแขวนกระต่ายไว้กับเข็มขัดโดยใช้หูของมันจากนั้นก็เดินตรงกลับบ้านเซเลีย

เพียงออกเดินไปไม่กี่ก้าวเขาก็ได้ยินเสียงแปลกๆ ซึ่งไม่เคยได้ยินมาก่อนเขาจึงเริ่มมองหาที่มาของเสียงนั้นไม่นานก็เห็นม้าสองตัวกําลังควบมาทางเขาจากระยะไกล

“บัดซบ! สงสัยฉันจะคิดดังไปจะสู้หรือจะหนีกันนะ?”เพื่อตอบคําถามนั้นเขาใช้ Life Visionอีกครั้งและพบว่าม้าก็เป็นแค่ม้าธรรมดา และคนเหล่านั้นก็ยังห่างไกลจากความประทับใจอยู่มากคนที่อยู่ด้านหน้าสุดดูแล้วน่าจะแข็งแกร่งเกือบจะเท่าเซเลียในขณะที่คนด้านหลังนั้นกลับอ่อนแอกว่าราซพ่อของเขาเสียอีก
ลิธพยายามปกปิดรอยยิ้มที่ชั่วร้ายเอาไว้ “แหมๆนี่นับเป็นการเผชิญหน้าครั้งแรกของฉันกับคนแปลกหน้าในโลกใหม่นี้เลยนะ!ว่าแต่ พวกมันเป็นคนดีรีเปล่านะ? พนันได้เลยว่าพวกมันก็เหมือนกันกับคนอื่นๆที่มีอยู่ทุกที่นั่นแหละนั่นแปลว่าพวกมันเป็นพวกชั่วช้สารเลว!รอเจอพวกมันไม่ไหวแล้ว!”

ลิธยืนอยู่กับที่ รอให้พวกมันมาหา

เห็นได้ชัดว่าผู้ชายคนแรกเป็นคนรับใช้แต่งกายในชุดพรานมีเกราะอกกับเกราะไหล่ทําจากหนังคุณภาพต่ําอยู่ในวัยกลางคนมีหนวดเคราที่ไม่ได้ทรงผมส์นสีดําสนิทสายตาดูดุร้ายเกรี้ยวกราดรวมๆแล้วหน้าตาเหมือนโจรดีๆนี่เอง

อีกคนที่อยู่ข้างหลังสวมใส่ชุดที่ดีกว่าเขาใส่เกราะอกที่ดูแล้วน่าจะทําจากผ้าไหมปักดิ้นทองเป็นแค่เด็กอายุราวๆสิบหกปีใบหน้าหล่อเหลารูปร่างราวกับนักกีฬาว่ายน้ําชุดหนังรัดรูปเน้นให้เห็นกล้า มเนื้อเป็นมัดๆซึ่งเคลื่อนไหวไปมาพร้อมกับม้าลิธรู้สึกหมั่นไส้มาก

“ฉันหวังว่ามันจะมีดีเหมือนกับหน้าตานะไม่อย่างนั้นฉันคงต้องเชื่อในเสน่ห์ของเจ้าชายแล้วฉันก็จะตายไปเพราะความอิจฉาตาร้อน”

“เฮ้ เด็กน้อย!”คนรับใช้ตะโกนเสียงหยาบกระด้างขึ้นมา“เมื่อกี้นี้เสียงอะไรน่ะ?”

ลิธแสดงท่าทางไร้เดียงสาอย่างเต็มที่เล่นเป็นหมาป่าในคราบชุดแกะ

“สวัสดีครับท่าน เมื่อกี้ผมแค่กําลังล่าสัตว์อยู่ขอโทษด้วยนะครับถ้าเกิดทําให้ตกใจกลัว”น้ําเสียงของลิธฟังดูสํานึกผิดจริงๆเขาต้องการทําให้พวกมันรู้สึกสงสัยเพื่อจะใช้ประโยชน์นี้

“แกไปเอาเหยื่อพวกนั้นมาจากไหน?”เขาเอ่ยถามขึ้นโดยไม่สนใจคําขอโทษและชี้ไปยังกระต่ายของลิธ

“จากโพรงกระต่ายครับ พวกมันคือเหยื่อของผม”ลิธยิ้มตอบกลับพร้อมกับจับตาดูพวกมันทั้งสองคน

“เอามันมามันจะกลายเป็นถุงมือที่สมบูรณ์แบบสําหรับแม่ฉัน”เด็กหนุ่มผู้หล่อเหลาเอ่ยเสียงอันนุ่มทุ่มออกมา

“ถ้าแกสํานึกผิดจริงๆก็ควรจะเสนอการชดใช้ที่ดีพอสําหรับพวกเรา สามัญชนอย่างแกควรจะรู้เรื่องนี้นะ”เขาเอ่ยพร้อมกับแสยะยิ้ม

ลิธทําท่าราวกับโกรธจัด

“เอาจริงหรอ? จะปล้นเด็กกลางวันแสกๆเนี่ยนะ? ไม่ละอายใจบ้างเลยหรอเหรอครับ?

“ไอ้เด็กปากดี!”คนรับใช้สบฤด่ากลับทันที “แกรู้ไหมว่าพูดอยู่กับใคร? เขาคือบุตรชายของบารอนราธท่านลอร์ดของดินแดนแห่งนี้”

ลิธหัวเราะดังลั่น

“ให้ตายเถอะ! ป่าทรอนไม่มีเจ้าของหรอกนะเว้นก็แต่เคาท์ลาร์ค เลิกพูดจา เหลวไหลได้แล้วกลับกันคุณรู้ไหมว่ากําลังพูดอยู่กับใคร? ฉันคือสุดยอดนักเวทย์ไงล่ะ!(Supreme Mage)”

“คอร์ธดูสิดูสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อต้องมาเปลืองลมหายใจกับสามัญชน” เด็กหนุ่มหยิบธนูสั้นที่สะพายไว้ข้างหลังออกมาเพื่อขึ้นธนู “พวกมันโง่เง่าเสียเหลือเกินซึ่งก็เป็นสิ่งที่มีอยู่ตามธรรมชาติของมัน”

เขายิงธนูออกไปโดยเล็งไปที่หัวใจของลิธ

แต่ลิธก็อยู่ไกลมากพอ และได้เตรียมเวทย์ไว้หลายอย่างที่ปลายนิ้วเพียงโบกมือครั้งเดียวสายลมอันรุนแรงก็พัดลูกธนูนั้นจนหมุนคว้างและตกกระแทกพื้นห่างจากเป้าหมาย

แม้ว่าเด็กหนุ่มจะงุนงงแต่ก็ยังคงรักษาความเยือกเย็นเอาไว้ได้ เขาขึ้นธนูอีกครั้งพร้อมกับสั่งให้คอร์ธไปฆ่าเด็กน้อย

ลิธยกมือซ้ายขึ้น หยุดคอร์ธไว้ให้นิ่งอยู่กับที่ด้วยเวทย์วิญญาณ ส่วนมือขวาก็ควบคุมลูกธนูมันหลุดออกจากมือแล้วแทงเข้าที่ตาของเด็กหนุ่มเขาพลันร่วงตกจากหลังม้าและร้องตะโกนด้วยความ เจ็บปวด

“แค่คิดจะปล่อยให้พวกคุณมีชีวิตออกไปจากที่นี่ก็รําคาญเสียแล้ว” ลิธส่ายหน้าพร้อมกับถอนหายใจ

“เดี๋ยวก่อน!ถ้าแกฆ่าลอร์ดหนุ่มคนนี้แกกับคนที่แกรักจะต้องตาย! คิดให้ดีสิ!”

ลิธหัวเราะอีกครั้ง “จริงเหรอครับ?แล้วพวกเขาจะรู้ได้ยังไงว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่น่ะ?”ลิธขยับนิ้วโป้งซ้ายทันใดนั้นคอร์ธพลันรู้สึกได้ว่ามือขวาของเขาขยับเองมันเคลื่อนที่ไปปลดมีดล่าสัตว์ซึ่งเหน็บไว้ที่เข็มขัด

“เดี๋ยวก่อน! ได้โปรด!เมตตาฉันด้วย!อย่าทําเลยนะแกเป็นแค่เด็กเองนะ!”เขาเอ่ยขอร้อง

“แล้วยังไงล่ะ? ตอนที่คุณอยากฆ่าคุณก็ฆ่าแต่พอเป็นตอนที่คุณแพ้ผมกลับควรแสดงความเมตตาต่อคุณงั้นหรอครับ?” น้ําเสียงของลิธเด็ดขาดมากเขางอนิ้วนางลงบังคับให้มีดจ่อที่ลําคอของ คอร์ธ

“ในเมื่อคุณเป็นคนรับใช้ ผมจะให้คุณได้ตายอย่างรวดเร็ว”เพียงกระดิกนิ้วก้อยลิธก็บังคับให้คอร์ธเชือดคอตนเอง

จากนั้นเขาก็เดินไปหาเด็กหนุ่มที่ยังคงทรมานจากความเจ็บปวด จนไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับข้ารับใช้ผู้สัตย์ซื่อเลย

“ส่วนคุณเป็นคนประเภทที่ผมเกลียดที่สุด!”ลิธใช้มือข้างหนึ่ง บังคับให้เขาลอยขึ้นมากลางอากาศขณะที่มืออีกข้างก็ต่อยเขาอย่างไม่หยุดยั้ง

“คุณมีทุกสิ่งทุกอย่าง!ทั้งเงินความหล่ออนาคตที่สดใส แต่สิ่งที่คุณทํากลับเป็นการขูดรีดทรัพย์สมบัติเอาจากคนที่พยายามกระเสือกกระสนที่จะอยู่รอดงั้นหรอ?”

ลิธเกลียดมนุษย์มากกว่าทุกสิ่งอย่างในโลกเก่าสิ่งเดียวที่คอยยับยั้งความโกรธเขาเอาไว้คือความรับผิดชอบที่เขามีต่อครอบครัว แต่ในโลกนี้ซึ่งไม่มีกล้องไม่มีgpsไม่มีอะไรเลยมีเพียงพลังเท่านั้น และเขาก็มีพลังอยู่

“รู้ไหม ผมมีน้องสาวที่ป่วยหนักมาก”ลิธพูดหลังจากระบายลมหายใจอย่างหนักหน่วง

“ผมไม่เคยฝึกเวทย์มืดกับสิ่งมีชีวิตเลยเพราะการใช้มันกับสัตว์ถือเป็นอะไรที่โหดร้ายมากแต่คุณคือสัตว์อสูรที่อยู่ในคราบร่างมนุษย์ คุณจะเป็นหนูทดลองที่สมบูรณ์แบบสําหรับเวทย์ของผมเลยล่ะ”

จากนั้นก็มีเสียงดังสะท้อนไปทั้งป่าทรอนเป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนที่ความตายจะมาเยือน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+