The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา 179 มนต์คาถา

Now you are reading The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา Chapter 179 มนต์คาถา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 เมื่อดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า หลินมู่อวี่ต้องรีบกลับไปที่กองบัญชาการของสำนักอัศวินให้เร็วที่สุด มิฉะนั้นหากถูกจับได้เขาคงจะไม่สามารถพูดอะไรได้…หลินมู่อวี่มั่นใจอย่างมากว่าจะไม่มีใครตรวจสอบเรื่องที่เขาส่งสาวใช้ทั้งสามออกไปเพราะอย่างไรจีหยางก็ยังต้องการความแข็งแกร่งของตน มิเช่นนั้นคงถูกจัดการตั้งแต่ตนลงมือฆ่าฉือไห่แล้วแน่นอน

ม้าวิ่งตรงไปยังกองบัญชาการอย่างไม่หยุดพัก ทว่าเมื่อมาถึงเนินเขาหลินมู่อวี่ก็สังเกตเห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังส่งเสียงดังโวยวายมาแต่ไกล เขาเร่งรุดเข้าไปก่อนจะพบภาพอันน่ากลัว…

รอบบริเวณป่าไม้แห้งกรังมีคนถูกแขวนคออยู่กับกิ่งไม้พร้อมกับลูกศรสองดอกปักอยู่ที่อกจนเลือดไหลเป็นทาง เสื้อรอบหน้าอกฉีกขาด ทั้งยังมีแร้งสองตัวเกาะอยู่บนไหล่คอยจิกกินเนื้อสด ร่างกายของชายผู้นั้นสั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวดทุกครั้งที่ถูกนกแร้งรุมจิก

หลินมู่อวี่มองสำรวจรองเท้าอย่างละเอียดและพบว่ามีอักขระ ‘ความชอบธรรม’ เล็กๆ สลักอยู่ ซึ่งดูคุ้นตาอย่างมาก…นั่นคือหลัวอวี่!

“หลัวอวี่!”

หลินมู่อวี่เร่งควบม้าไปอย่างรวดเร็วก่อนจะจากหลังม้า ปล่อยฝ่ามือที่รวบรวมปราณยุทธ์ซัดแร้งออกไป หลินมู่อวี่ใช้วิญญาณยุทธ์น้ำเต้าสร้างเถาวัลย์ให้ยึดหลัวอวี่พลางชักกระบี่เหลียวหยวนออกมาจากฝักเพื่อตัดเชือก เถาวัลย์น้ำเต้าค่อยๆ นำหลัวอวี่ลงมาจากหน้าผา

“อะ…อั่ก…”

หลัวอวี่อ่อนแรงอย่างมาก เขาหรี่ตามองเห็นแสงแดดที่สาดส่องและใบหน้าโกรธเกรี้ยวของหลินมู่อวี่ราวกับมองเห็นความหวัง “ท่านหลินหยาน ท่าน…ท่านกลับมาแล้ว…”

“เกิดอะไรขึ้น?!”

หลินมู่อวี่มองไปรอบๆ อย่างเย็นชาพร้อมคำราม “เกิดอะไรขึ้นที่นี่?! ผู้ใดทำให้หลัวอวี่อยู่ในสภาพเช่นนี้?! บอกข้ามา!”

เหล่าทหารต่างพากันปิดปากเงียบ มีเพียงทหารเหรียญทองที่ถือดาบก้าวออกมาด้านหน้าก่อนเอ่ยเบาๆ “ท่านหลินหยาน ท่านราชทูตหลัวอวี่แอบขโมยเหรียญเพชรหนึ่งร้อยสี่สิบเหรียญจากภูเขาทางเหนือซึ่งเรื่องนี้ได้รับการยืนยันจากท่านราชฑูตใหญ่ เป็นเหตุให้ท่านหลัวอวี่ถูกยึดตำแหน่งและถูกขับไล่ออกจากสำนักขอรับ ท่านราชฑูตใหญ่ออกคำสั่งให้แขวนคอท่านหลัวอวี่บนหน้าผาให้แร้งจิกกิน ข้าขอแนะนำให้ท่านวางเขาลง เพราะมันคือการลงโทษทางวินัยและห้ามใครฝ่าฝืน…แม้จะเป็นท่านขอรับ”

เห็นได้ชัดว่าทหารเหรียญทองคนนี้อยู่ฝ่ายจีหยาง มิเช่นนั้นเขาคงไม่คิดเป็นศัตรูกับหลินมู่อวี่

หลินมู่อวี่มองหลัวอวี่ที่อ่อนแรงและเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส เขาเป็นเพียงผู้เดียวในสำนักอัศวินที่มีจิตสำนึก ทว่าน่าเสียดายที่ต้องมาจบชีวิตลงด้วยชะตากรรมเช่นนี้ หากตริตรองดูแล้ว…เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหลินมู่อวี่ หากตนไม่พูดเรื่องการยักยอกเหรียญเพชรสองร้อยสี่สิบแปดเหรียญให้หลัวอวี่ฟัง เขาคงไม่ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้

“ไม่…”

หลินมู่อวี่ส่ายหัวเบาๆ พร้อมถอดเสื้อคลุมออกมาห่มให้หลัวอวี่ พลันกล่าวกับทหารเหรียญทองผู้นั้น “ไม่ว่าอย่างไรข้าจะปกป้องหลัวอวี่! นี่คือสิ่งที่ข้าควรทำในฐานะสหาย!”

ทหารเหรียญทองพูดเสียงอย่างเย็นชา “อย่างนั้นรึ? ท่านหลินหยานกำลังจะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นราชทูตในอีกสามวันนี้ เหตุใดท่านถึงยอมเสียสละมันเพื่อคนทรยศอย่างหลัวอวี่เล่า?”

หลินมู่อวี่หัวเราะลั่นพร้อมกับปล่อยปราณยุทธ์ห่อหุ้มร่างกาย รังสีของยอดฝีมือขอบเขตนภาแผ่กระจายไปทั่ว ในแววตาเต็มไปด้วยความอาฆาตขณะกล่าวด้วยเสียงทุ้ม “หลัวอวี่มิได้ทรยศผู้ใด! เชื่อข้าสิ! เขามิได้ทรยศ!”

กลุ่มทหารเหรียญทองและทหารเหรียญโลหะต่างตกตะลึง ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าหลินมู่อวี่จะมีพลังถึงเพียงนี้ ดวงตาคู่นั้นมองข้ามทุกสิ่งราวกับมันไม่ได้อยู่ในสายตาตั้งแต่แรก ด้วยขอบเขตพลังของหลินมู่อวี่ทำให้คนเสแสร้งเหล่านี้รู้สึกไร้ค่าราวกับมดตัวน้อย หรืออาจยิ่งกว่านั้นเสียด้วยซ้ำ…

“หลินหยาน…”

หลัวอวี่กระเสือกกระสนเอื้อมมือไปจับเกราะที่ข้อมือของหลินมู่อวี่พลางเอ่ย “เจ้าต้องระวังตัวให้ดี…”

หลินมู่อวี่เข้าใจสิ่งที่หลัวอวี่ต้องการสื่ออย่างชัดเจน หลัวอวี่ถูกลงโทษเพราะขโมยเหรียญเพชร ทว่าตนก็มีส่วนเช่นเดียวกัน หากพูดถึงความผิดเขาเองก็ไม่ได้น้อยไปกว่าหลัวอวี่เลย…

หลินมู่อวี่พยุงหลัวอวี่ขึ้นหลังม้าและมุ่งหน้าไปยังกองบัญชาการ ม้าตัวนี้เป็นม้าที่แข็งแรง หลังจากวิ่งอย่างเหนื่อยหอบมาทั้งคืน ทั้งตอนนี้ยังต้องแบกถึงสองคนขึ้นเขาซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

“ท่านทหารเหรียญทองหลินหยานกลับมาแล้ว!” ในลานกว้างหน้ากองบัญชาการมีคนตะโกนรายงานอยู่

เมื่อมองจากระยะไกลบัลลังก์ของท่านราชฑูตใหญ่ถูกย้ายออกมาด้านนอกรายล้อมไปด้วยทหารชำนาญการระดับสูง จีหยางหรี่ตามองหลินมู่อวี่จากบนบัลลังก์โดยมีหลี่เฉียนซุนนั่งอยู่ด้านข้างมองทั้งคู่ด้วยรอยยิ้มอันเย็นชา

“ข้ากำลังรออยู่เชียว!”

หลินมู่อวี่พยุงหลัวอวี่ลงจากหลังม้าแล้วเดินเข้าไปอย่างช้าๆ ก่อนจะวางหลัวอวี่นั่งลงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาพร้อมประสานมือทำความเคารพ “ท่านราชทูตใหญ่ขอรับ…หลินหยานขอให้ท่านไว้ชีวิตหลัวอวี่ได้ไหมขอรับ?”

“เช่นนั้นรึ?”

จีหยางลืมตามองหลินมู่อวี่ด้วยรอยยิ้มเย็นชา ดวงตาคู่นั้นคล้ายกับว่ามันสามารถมองทะลุร่างเขาได้ทำให้หลินมู่อวี่ไม่สามารถหยุดหัวใจให้สั่นได้ ไม่…จีหยางแข็งแกร่งกว่าเขาดังนั้นจึงไม่สามารถปล่อยทักษะชีพจรวิญญาณและทำให้จิตใจสงบลงได้ในทันที หลินมู่อวี่กล่าวต่อขณะประสานมือ “ผู้ใต้บังคับบัญชาและหลัวอวี่เป็นสหายที่ดีต่อกัน เนื่องจากหลัวอวี่ทำผิดพลาดไปแล้ว ผู้ใต้บังคับบัญชาขอแบกรับมันไว้ ข้าขอให้ท่านราชฑูตใหญ่ถอนตำสั่งและไว้ชีวิตหลัวอวี่ด้วยเถิด?”

“ไว้ชีวิตหลัวอวี่อย่างนั้นหรือ?”

ทันใดนั้นจีหยางก็ตบฝ่ามือบนโต๊ะและโต๊ะตัวนั้นพลันกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวขณะยืนขึ้นพร้อมปราณยุทธ์แข็งแกร่งไหลเวียนอยู่รอบๆ ร่างกาย ปราณยุทธ์นี้แข็งแกร่งกว่าหลินมูอวี่มาก มันคือขอบเขตนภาขั้นที่สอง! จีหยางกล่าวอย่างเย็นชาโดยไม่ปิดบังความโกรธ “หลัวอวี่ขโมยหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นเหรียญทอง เขาทำสิ่งที่น่ารังเกียจเช่นนี้ในฐานะราชทูต หลินหยาน…จงตอบข้ามา ทำไมข้าถึงต้องไว้ชีวิตหลัวอวี่?”

ดวงตาของหลินมู่อวี่ฉายความแน่วแน่พร้อมมองไปยังจีหยาง อย่างไม่ยอมจำนนต่อปราณยุทธ์พลางกล่าว “โปรดบอกข้าเถิดท่านราชทูตใหญ่ ข้าต้องทำอย่างไรท่านถึงจะไว้ชีวิตหลัวอวี่? ข้าจะทำตามที่ท่านต้องการ!”

“เยี่ยมมาก!”

จีหยางหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ข้าจะไว้ชีวิตหลัวอวี่ ทว่าชีวิตของเจ้าจะต้องเป็นของข้าแทน เป็นอย่างไรเล่า?”

“ได้ขอรับ!” หลินมูอวี่กำหมัดแน่นและเริ่มสั่นเทาเล็กน้อย

“เยี่ยมมาก!”

จีหยางหัวเราะพลางกล่าว “คนผู้นี้จะประกาศว่าท่านหลินหยานจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งอย่างเป็นทางการและเป็นหนึ่งในสองราชทูต เราจะเปิดแท่นบูชาในยามบ่ายและกล่าวคำปฏิญาณโลหิต!”

“คำปฏิญาณโลหิตหรือ?” หลินมู่อวี่ตกตะลึง

หลัวอวี่ที่นั่งอยู่ด้านข้างส่ายหัวอย่างช้าๆ “เหลียนเหยียน อย่า…”

“ไม่เป็นไร”

หลินมู่อวี่พยักหน้าและกล่าวอย่างชัดเจนว่า “ทุกอย่างจะเป็นไปตามความปรารถนาของท่านทูต”

“ดี!”

หลินมู่อวี่พยุงหลัวอวี่ไปด้านข้างพลางดึงขวดยารักษาบาดแผลออกมา หลัวอวี่เผยสีหน้าเจ็บปวดพลางเอ่ย “หลินหยาน  เจ้าไม่ควรเห็นด้วยกับคำปฏิญาณโลหิตของพวกเขาเลยจริงๆ”

“เพราะเหตุใดเล่า?”

“เพราะว่า…” ลั่วอวี่เผยสีหน้าเจ็บปวดและพูดว่า “เมืองหลิงหนานเป็นดินแดนวีรบุรุษ จีหยางมาเมืองนี้และนับถือนิกายในเมืองหลิงหนานที่เรียกว่า ‘นิกายหมอผี’ ผู้คนที่นั่นฝึกฝนมนต์คาถาและหลี่เฉียนซุนก็เป็นหนึ่งในยอดฝีมือในการใช้มนต์คาถา เลือดของเขาเต็มไปด้วยพิษของแมลงชนิดหนึ่ง เมื่อดื่มมันเข้าไปเจ้าจะถูกวางยาและจะไม่มีอิสระใดๆ ข้าอยู่ในกองบัญชาการมาหลายปีและหลีกเลี่ยงคำปฏิญาณโลหิตมาตลอด เจ้า…เจ้าจะทำอย่างไรต่อไป?”

“มนต์คาถาหรือ…”

หลินมู่อวี่ครุ่นคิดชั่วครู่แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ปล่อยวางเถอะ ข้ามิเป็นอะไร”

เมื่อพูดเช่นนั้นหลินมู่อวี่ก็มองไปยังถุงสรรพสิ่งพลางถอนหายใจ มันเป็นเรื่องดีที่เขายังคงมีโอสถเทพประสานอยู่สองขวด ตราบใดที่ดื่มมันร่างกายของเขาจะมีภูมิต้านทานเพิ่มขึ้น มันจึงไม่สำคัญหากดื่มยาพิษของแมลงเข้าไป ดังนั้นในขณะที่ทุกคนไม่ได้ให้ความสนใจ เขาก็จะแอบดื่มโอสถเทพประสานไปหนึ่งขวด

หลินมู่อวี่ภาคภูมิใจเล็กน้อยหลังจากดื่มมัน ‘เจ้ามีมนต์คาถา ทว่าข้ามีทักษะระดับเทพโอสถ ใครจะต้องกลัวใครกันแน่?’

ในยามบ่าย…ถังขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยสุราวางอยู่บนแท่นสูงนอกกองบัญชาการ จีหยางยืนอยู่ด้านหน้าบรรดาราชทูต ทหารเหรียญทอง และทหารเหรียญโลหะ กำลังกล่าวคำปฏิญาณโลหิต จีหยางก้าวไปด้านหน้าพลางกัดนิ้วกลางแล้วหยดเลือดลงในถัง

หลี่เฉียนซุนมีสีหน้าสงสัย อยากยิ้มแต่ต้องกลั้นเอาไว้ เมื่อเขากัดนิ้วเลือดสีแดงเข้มก็หยดลงในสุรา ทว่าทหารเหรียญทองและทหารเหรียญโลหะไม่ได้สนใจ อาจเป็นเพราะพวกเขาได้รับตำแหน่งที่ต่ำเกินไปและไม่รู้ควมลับเกี่ยวกับทักษะมนต์คาถาของหลี่เฉียนซุน

“ท่านหลินหยาน ถึงคราวท่านแล้ว” หลี่เฉียนซุนผายมือออกเป็นสัญญาณ

หลินมู่อวี่ก้าวไปด้านหน้าทันทีพร้อมกัดนิ้วกลางของตน ทว่ากัดไม่เข้า…หลินมู่อวี่จึงตัดสินใจหยิบกระบี่เหลียวหยวนออกมาเพื่อเฉือนนิ้วมือแล้วปล่อยให้เลือดไหลลงไปในสุรา

จากนั้นทหารเหรียญทองและทหารเหรียญเงินทุกคนก็หยดเลือดลงไปในสุรา

หลินมู่อวี่เห็นสิ่งนี้จึงแอบถอนหายใจหวังว่าโอสถเทพประสานจะได้ผล มิเช่นนั้นคนเหล่านี้…‘ให้ตายเถอะ! ทหารพวกนี้เข้าหอนางโลม กินและดื่มทุกสิ่งทุกอย่าง พวกมันอาจเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบี ซิฟิลิส หนองใน โรคเอดส์และโรคอื่นๆ ก็ได้! ถ้าหากจะต้องดื่มเหล้านี้เข้าไปข้าคงติดโรคเฮงซวยนี้แน่ๆ!’

“ท่านราชทูตหลินหยาน โปรดดื่มหมดจอกขอรับ!” ทหารผู้ที่มีเคราเต็มหน้ายื่นจอกสุราผสมเลือดไปด้านหน้าหลินมู่อวี่และพูดด้วยท่าทางองอาจ

หลินมู่อวี่เงยหน้าขึ้นแล้วพบว่าหลี่เฉียนซุนและจีหยางกำลังมองมาทางเขา

“ลืมเสียเถิด คิดเสียว่ามันคือโชคชะตา…”

หลินมู่อวี่ยกจอกสุราขึ้นและดื่มมันลงไปขณะน้ำตาคลออยู่ที่เบ้าตา กลิ่นหอมและรสเผ็ดแล่นผ่านลำคอพลางทุบจอกสุราขณะกล่าว “สุราดี!”

จีหยางและหลี่เฉียนซุนดื่ม ‘สุราอาบยาพิษ’ พร้อมหัวเราะ ทว่าเขาคงดื่มยาแก้พิษลงไปก่อนหน้านั้นแล้ว มิฉะนั้นเขาจะไม่สามารถควบคุมหลี่เฉียนซุนได้

เมื่อผ่านไปหลายนาทีหลินมู่อวี่ก็รู้สึกแปลกๆ บริเวณหน้าท้อง เขารู้ทันทีว่านี่คือผลจากยาพิษ โอสถเทพประสานหมดฤทธิ์และไม่อาจต่อต้านยาพิษนี้อย่างนั้นรึ? หลินมู่อวี่อดไม่ได้ที่จะกังวล

“ไอ้สารเลว…แกถูกวางยา! จะทำอย่างไรต่อไปได้ล่ะ?!”

เสียงราชาปีศาจเจ็ดประทีปดังขึ้นในทะเลจิต เขาเป็นคนที่เข้าใจสภาพร่างกายของหลินมู่อวี่ที่สุดและรู้สึกถึงพิษได้ทันที

“เจ้าจะช่วยข้าหรือไม่เล่า…” หลินมู่อวี่พูดผ่านฌานสัมผัสด้วยรอยยิ้ม

ราชาปีศาจเจ็ดประทีปแค่นเสียง

ไม่นานเขาก็รู้สึกเย็นยะเยือกจากภายในร่างกาย ขณะที่ราชาปีศาจเจ็ดประทีปกำลังกลืนพิษเข้าไป หลินมู่อวี่อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างเงียบๆ ‘ให้ตายเถอะ! บางครั้งการมีราชาปีศาจอยู่ในร่างกายก็มีประโยชน์’

………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา 179 มนต์คาถา

Now you are reading The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา Chapter 179 มนต์คาถา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 เมื่อดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า หลินมู่อวี่ต้องรีบกลับไปที่กองบัญชาการของสำนักอัศวินให้เร็วที่สุด มิฉะนั้นหากถูกจับได้เขาคงจะไม่สามารถพูดอะไรได้…หลินมู่อวี่มั่นใจอย่างมากว่าจะไม่มีใครตรวจสอบเรื่องที่เขาส่งสาวใช้ทั้งสามออกไปเพราะอย่างไรจีหยางก็ยังต้องการความแข็งแกร่งของตน มิเช่นนั้นคงถูกจัดการตั้งแต่ตนลงมือฆ่าฉือไห่แล้วแน่นอน

ม้าวิ่งตรงไปยังกองบัญชาการอย่างไม่หยุดพัก ทว่าเมื่อมาถึงเนินเขาหลินมู่อวี่ก็สังเกตเห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังส่งเสียงดังโวยวายมาแต่ไกล เขาเร่งรุดเข้าไปก่อนจะพบภาพอันน่ากลัว…

รอบบริเวณป่าไม้แห้งกรังมีคนถูกแขวนคออยู่กับกิ่งไม้พร้อมกับลูกศรสองดอกปักอยู่ที่อกจนเลือดไหลเป็นทาง เสื้อรอบหน้าอกฉีกขาด ทั้งยังมีแร้งสองตัวเกาะอยู่บนไหล่คอยจิกกินเนื้อสด ร่างกายของชายผู้นั้นสั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวดทุกครั้งที่ถูกนกแร้งรุมจิก

หลินมู่อวี่มองสำรวจรองเท้าอย่างละเอียดและพบว่ามีอักขระ ‘ความชอบธรรม’ เล็กๆ สลักอยู่ ซึ่งดูคุ้นตาอย่างมาก…นั่นคือหลัวอวี่!

“หลัวอวี่!”

หลินมู่อวี่เร่งควบม้าไปอย่างรวดเร็วก่อนจะจากหลังม้า ปล่อยฝ่ามือที่รวบรวมปราณยุทธ์ซัดแร้งออกไป หลินมู่อวี่ใช้วิญญาณยุทธ์น้ำเต้าสร้างเถาวัลย์ให้ยึดหลัวอวี่พลางชักกระบี่เหลียวหยวนออกมาจากฝักเพื่อตัดเชือก เถาวัลย์น้ำเต้าค่อยๆ นำหลัวอวี่ลงมาจากหน้าผา

“อะ…อั่ก…”

หลัวอวี่อ่อนแรงอย่างมาก เขาหรี่ตามองเห็นแสงแดดที่สาดส่องและใบหน้าโกรธเกรี้ยวของหลินมู่อวี่ราวกับมองเห็นความหวัง “ท่านหลินหยาน ท่าน…ท่านกลับมาแล้ว…”

“เกิดอะไรขึ้น?!”

หลินมู่อวี่มองไปรอบๆ อย่างเย็นชาพร้อมคำราม “เกิดอะไรขึ้นที่นี่?! ผู้ใดทำให้หลัวอวี่อยู่ในสภาพเช่นนี้?! บอกข้ามา!”

เหล่าทหารต่างพากันปิดปากเงียบ มีเพียงทหารเหรียญทองที่ถือดาบก้าวออกมาด้านหน้าก่อนเอ่ยเบาๆ “ท่านหลินหยาน ท่านราชทูตหลัวอวี่แอบขโมยเหรียญเพชรหนึ่งร้อยสี่สิบเหรียญจากภูเขาทางเหนือซึ่งเรื่องนี้ได้รับการยืนยันจากท่านราชฑูตใหญ่ เป็นเหตุให้ท่านหลัวอวี่ถูกยึดตำแหน่งและถูกขับไล่ออกจากสำนักขอรับ ท่านราชฑูตใหญ่ออกคำสั่งให้แขวนคอท่านหลัวอวี่บนหน้าผาให้แร้งจิกกิน ข้าขอแนะนำให้ท่านวางเขาลง เพราะมันคือการลงโทษทางวินัยและห้ามใครฝ่าฝืน…แม้จะเป็นท่านขอรับ”

เห็นได้ชัดว่าทหารเหรียญทองคนนี้อยู่ฝ่ายจีหยาง มิเช่นนั้นเขาคงไม่คิดเป็นศัตรูกับหลินมู่อวี่

หลินมู่อวี่มองหลัวอวี่ที่อ่อนแรงและเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส เขาเป็นเพียงผู้เดียวในสำนักอัศวินที่มีจิตสำนึก ทว่าน่าเสียดายที่ต้องมาจบชีวิตลงด้วยชะตากรรมเช่นนี้ หากตริตรองดูแล้ว…เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหลินมู่อวี่ หากตนไม่พูดเรื่องการยักยอกเหรียญเพชรสองร้อยสี่สิบแปดเหรียญให้หลัวอวี่ฟัง เขาคงไม่ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้

“ไม่…”

หลินมู่อวี่ส่ายหัวเบาๆ พร้อมถอดเสื้อคลุมออกมาห่มให้หลัวอวี่ พลันกล่าวกับทหารเหรียญทองผู้นั้น “ไม่ว่าอย่างไรข้าจะปกป้องหลัวอวี่! นี่คือสิ่งที่ข้าควรทำในฐานะสหาย!”

ทหารเหรียญทองพูดเสียงอย่างเย็นชา “อย่างนั้นรึ? ท่านหลินหยานกำลังจะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นราชทูตในอีกสามวันนี้ เหตุใดท่านถึงยอมเสียสละมันเพื่อคนทรยศอย่างหลัวอวี่เล่า?”

หลินมู่อวี่หัวเราะลั่นพร้อมกับปล่อยปราณยุทธ์ห่อหุ้มร่างกาย รังสีของยอดฝีมือขอบเขตนภาแผ่กระจายไปทั่ว ในแววตาเต็มไปด้วยความอาฆาตขณะกล่าวด้วยเสียงทุ้ม “หลัวอวี่มิได้ทรยศผู้ใด! เชื่อข้าสิ! เขามิได้ทรยศ!”

กลุ่มทหารเหรียญทองและทหารเหรียญโลหะต่างตกตะลึง ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าหลินมู่อวี่จะมีพลังถึงเพียงนี้ ดวงตาคู่นั้นมองข้ามทุกสิ่งราวกับมันไม่ได้อยู่ในสายตาตั้งแต่แรก ด้วยขอบเขตพลังของหลินมู่อวี่ทำให้คนเสแสร้งเหล่านี้รู้สึกไร้ค่าราวกับมดตัวน้อย หรืออาจยิ่งกว่านั้นเสียด้วยซ้ำ…

“หลินหยาน…”

หลัวอวี่กระเสือกกระสนเอื้อมมือไปจับเกราะที่ข้อมือของหลินมู่อวี่พลางเอ่ย “เจ้าต้องระวังตัวให้ดี…”

หลินมู่อวี่เข้าใจสิ่งที่หลัวอวี่ต้องการสื่ออย่างชัดเจน หลัวอวี่ถูกลงโทษเพราะขโมยเหรียญเพชร ทว่าตนก็มีส่วนเช่นเดียวกัน หากพูดถึงความผิดเขาเองก็ไม่ได้น้อยไปกว่าหลัวอวี่เลย…

หลินมู่อวี่พยุงหลัวอวี่ขึ้นหลังม้าและมุ่งหน้าไปยังกองบัญชาการ ม้าตัวนี้เป็นม้าที่แข็งแรง หลังจากวิ่งอย่างเหนื่อยหอบมาทั้งคืน ทั้งตอนนี้ยังต้องแบกถึงสองคนขึ้นเขาซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

“ท่านทหารเหรียญทองหลินหยานกลับมาแล้ว!” ในลานกว้างหน้ากองบัญชาการมีคนตะโกนรายงานอยู่

เมื่อมองจากระยะไกลบัลลังก์ของท่านราชฑูตใหญ่ถูกย้ายออกมาด้านนอกรายล้อมไปด้วยทหารชำนาญการระดับสูง จีหยางหรี่ตามองหลินมู่อวี่จากบนบัลลังก์โดยมีหลี่เฉียนซุนนั่งอยู่ด้านข้างมองทั้งคู่ด้วยรอยยิ้มอันเย็นชา

“ข้ากำลังรออยู่เชียว!”

หลินมู่อวี่พยุงหลัวอวี่ลงจากหลังม้าแล้วเดินเข้าไปอย่างช้าๆ ก่อนจะวางหลัวอวี่นั่งลงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาพร้อมประสานมือทำความเคารพ “ท่านราชทูตใหญ่ขอรับ…หลินหยานขอให้ท่านไว้ชีวิตหลัวอวี่ได้ไหมขอรับ?”

“เช่นนั้นรึ?”

จีหยางลืมตามองหลินมู่อวี่ด้วยรอยยิ้มเย็นชา ดวงตาคู่นั้นคล้ายกับว่ามันสามารถมองทะลุร่างเขาได้ทำให้หลินมู่อวี่ไม่สามารถหยุดหัวใจให้สั่นได้ ไม่…จีหยางแข็งแกร่งกว่าเขาดังนั้นจึงไม่สามารถปล่อยทักษะชีพจรวิญญาณและทำให้จิตใจสงบลงได้ในทันที หลินมู่อวี่กล่าวต่อขณะประสานมือ “ผู้ใต้บังคับบัญชาและหลัวอวี่เป็นสหายที่ดีต่อกัน เนื่องจากหลัวอวี่ทำผิดพลาดไปแล้ว ผู้ใต้บังคับบัญชาขอแบกรับมันไว้ ข้าขอให้ท่านราชฑูตใหญ่ถอนตำสั่งและไว้ชีวิตหลัวอวี่ด้วยเถิด?”

“ไว้ชีวิตหลัวอวี่อย่างนั้นหรือ?”

ทันใดนั้นจีหยางก็ตบฝ่ามือบนโต๊ะและโต๊ะตัวนั้นพลันกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวขณะยืนขึ้นพร้อมปราณยุทธ์แข็งแกร่งไหลเวียนอยู่รอบๆ ร่างกาย ปราณยุทธ์นี้แข็งแกร่งกว่าหลินมูอวี่มาก มันคือขอบเขตนภาขั้นที่สอง! จีหยางกล่าวอย่างเย็นชาโดยไม่ปิดบังความโกรธ “หลัวอวี่ขโมยหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นเหรียญทอง เขาทำสิ่งที่น่ารังเกียจเช่นนี้ในฐานะราชทูต หลินหยาน…จงตอบข้ามา ทำไมข้าถึงต้องไว้ชีวิตหลัวอวี่?”

ดวงตาของหลินมู่อวี่ฉายความแน่วแน่พร้อมมองไปยังจีหยาง อย่างไม่ยอมจำนนต่อปราณยุทธ์พลางกล่าว “โปรดบอกข้าเถิดท่านราชทูตใหญ่ ข้าต้องทำอย่างไรท่านถึงจะไว้ชีวิตหลัวอวี่? ข้าจะทำตามที่ท่านต้องการ!”

“เยี่ยมมาก!”

จีหยางหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ข้าจะไว้ชีวิตหลัวอวี่ ทว่าชีวิตของเจ้าจะต้องเป็นของข้าแทน เป็นอย่างไรเล่า?”

“ได้ขอรับ!” หลินมูอวี่กำหมัดแน่นและเริ่มสั่นเทาเล็กน้อย

“เยี่ยมมาก!”

จีหยางหัวเราะพลางกล่าว “คนผู้นี้จะประกาศว่าท่านหลินหยานจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งอย่างเป็นทางการและเป็นหนึ่งในสองราชทูต เราจะเปิดแท่นบูชาในยามบ่ายและกล่าวคำปฏิญาณโลหิต!”

“คำปฏิญาณโลหิตหรือ?” หลินมู่อวี่ตกตะลึง

หลัวอวี่ที่นั่งอยู่ด้านข้างส่ายหัวอย่างช้าๆ “เหลียนเหยียน อย่า…”

“ไม่เป็นไร”

หลินมู่อวี่พยักหน้าและกล่าวอย่างชัดเจนว่า “ทุกอย่างจะเป็นไปตามความปรารถนาของท่านทูต”

“ดี!”

หลินมู่อวี่พยุงหลัวอวี่ไปด้านข้างพลางดึงขวดยารักษาบาดแผลออกมา หลัวอวี่เผยสีหน้าเจ็บปวดพลางเอ่ย “หลินหยาน  เจ้าไม่ควรเห็นด้วยกับคำปฏิญาณโลหิตของพวกเขาเลยจริงๆ”

“เพราะเหตุใดเล่า?”

“เพราะว่า…” ลั่วอวี่เผยสีหน้าเจ็บปวดและพูดว่า “เมืองหลิงหนานเป็นดินแดนวีรบุรุษ จีหยางมาเมืองนี้และนับถือนิกายในเมืองหลิงหนานที่เรียกว่า ‘นิกายหมอผี’ ผู้คนที่นั่นฝึกฝนมนต์คาถาและหลี่เฉียนซุนก็เป็นหนึ่งในยอดฝีมือในการใช้มนต์คาถา เลือดของเขาเต็มไปด้วยพิษของแมลงชนิดหนึ่ง เมื่อดื่มมันเข้าไปเจ้าจะถูกวางยาและจะไม่มีอิสระใดๆ ข้าอยู่ในกองบัญชาการมาหลายปีและหลีกเลี่ยงคำปฏิญาณโลหิตมาตลอด เจ้า…เจ้าจะทำอย่างไรต่อไป?”

“มนต์คาถาหรือ…”

หลินมู่อวี่ครุ่นคิดชั่วครู่แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ปล่อยวางเถอะ ข้ามิเป็นอะไร”

เมื่อพูดเช่นนั้นหลินมู่อวี่ก็มองไปยังถุงสรรพสิ่งพลางถอนหายใจ มันเป็นเรื่องดีที่เขายังคงมีโอสถเทพประสานอยู่สองขวด ตราบใดที่ดื่มมันร่างกายของเขาจะมีภูมิต้านทานเพิ่มขึ้น มันจึงไม่สำคัญหากดื่มยาพิษของแมลงเข้าไป ดังนั้นในขณะที่ทุกคนไม่ได้ให้ความสนใจ เขาก็จะแอบดื่มโอสถเทพประสานไปหนึ่งขวด

หลินมู่อวี่ภาคภูมิใจเล็กน้อยหลังจากดื่มมัน ‘เจ้ามีมนต์คาถา ทว่าข้ามีทักษะระดับเทพโอสถ ใครจะต้องกลัวใครกันแน่?’

ในยามบ่าย…ถังขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยสุราวางอยู่บนแท่นสูงนอกกองบัญชาการ จีหยางยืนอยู่ด้านหน้าบรรดาราชทูต ทหารเหรียญทอง และทหารเหรียญโลหะ กำลังกล่าวคำปฏิญาณโลหิต จีหยางก้าวไปด้านหน้าพลางกัดนิ้วกลางแล้วหยดเลือดลงในถัง

หลี่เฉียนซุนมีสีหน้าสงสัย อยากยิ้มแต่ต้องกลั้นเอาไว้ เมื่อเขากัดนิ้วเลือดสีแดงเข้มก็หยดลงในสุรา ทว่าทหารเหรียญทองและทหารเหรียญโลหะไม่ได้สนใจ อาจเป็นเพราะพวกเขาได้รับตำแหน่งที่ต่ำเกินไปและไม่รู้ควมลับเกี่ยวกับทักษะมนต์คาถาของหลี่เฉียนซุน

“ท่านหลินหยาน ถึงคราวท่านแล้ว” หลี่เฉียนซุนผายมือออกเป็นสัญญาณ

หลินมู่อวี่ก้าวไปด้านหน้าทันทีพร้อมกัดนิ้วกลางของตน ทว่ากัดไม่เข้า…หลินมู่อวี่จึงตัดสินใจหยิบกระบี่เหลียวหยวนออกมาเพื่อเฉือนนิ้วมือแล้วปล่อยให้เลือดไหลลงไปในสุรา

จากนั้นทหารเหรียญทองและทหารเหรียญเงินทุกคนก็หยดเลือดลงไปในสุรา

หลินมู่อวี่เห็นสิ่งนี้จึงแอบถอนหายใจหวังว่าโอสถเทพประสานจะได้ผล มิเช่นนั้นคนเหล่านี้…‘ให้ตายเถอะ! ทหารพวกนี้เข้าหอนางโลม กินและดื่มทุกสิ่งทุกอย่าง พวกมันอาจเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบี ซิฟิลิส หนองใน โรคเอดส์และโรคอื่นๆ ก็ได้! ถ้าหากจะต้องดื่มเหล้านี้เข้าไปข้าคงติดโรคเฮงซวยนี้แน่ๆ!’

“ท่านราชทูตหลินหยาน โปรดดื่มหมดจอกขอรับ!” ทหารผู้ที่มีเคราเต็มหน้ายื่นจอกสุราผสมเลือดไปด้านหน้าหลินมู่อวี่และพูดด้วยท่าทางองอาจ

หลินมู่อวี่เงยหน้าขึ้นแล้วพบว่าหลี่เฉียนซุนและจีหยางกำลังมองมาทางเขา

“ลืมเสียเถิด คิดเสียว่ามันคือโชคชะตา…”

หลินมู่อวี่ยกจอกสุราขึ้นและดื่มมันลงไปขณะน้ำตาคลออยู่ที่เบ้าตา กลิ่นหอมและรสเผ็ดแล่นผ่านลำคอพลางทุบจอกสุราขณะกล่าว “สุราดี!”

จีหยางและหลี่เฉียนซุนดื่ม ‘สุราอาบยาพิษ’ พร้อมหัวเราะ ทว่าเขาคงดื่มยาแก้พิษลงไปก่อนหน้านั้นแล้ว มิฉะนั้นเขาจะไม่สามารถควบคุมหลี่เฉียนซุนได้

เมื่อผ่านไปหลายนาทีหลินมู่อวี่ก็รู้สึกแปลกๆ บริเวณหน้าท้อง เขารู้ทันทีว่านี่คือผลจากยาพิษ โอสถเทพประสานหมดฤทธิ์และไม่อาจต่อต้านยาพิษนี้อย่างนั้นรึ? หลินมู่อวี่อดไม่ได้ที่จะกังวล

“ไอ้สารเลว…แกถูกวางยา! จะทำอย่างไรต่อไปได้ล่ะ?!”

เสียงราชาปีศาจเจ็ดประทีปดังขึ้นในทะเลจิต เขาเป็นคนที่เข้าใจสภาพร่างกายของหลินมู่อวี่ที่สุดและรู้สึกถึงพิษได้ทันที

“เจ้าจะช่วยข้าหรือไม่เล่า…” หลินมู่อวี่พูดผ่านฌานสัมผัสด้วยรอยยิ้ม

ราชาปีศาจเจ็ดประทีปแค่นเสียง

ไม่นานเขาก็รู้สึกเย็นยะเยือกจากภายในร่างกาย ขณะที่ราชาปีศาจเจ็ดประทีปกำลังกลืนพิษเข้าไป หลินมู่อวี่อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างเงียบๆ ‘ให้ตายเถอะ! บางครั้งการมีราชาปีศาจอยู่ในร่างกายก็มีประโยชน์’

………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+