The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา 201 ความหลักแหลม

Now you are reading The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา Chapter 201 ความหลักแหลม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เย็นไว้…” หลินมู่อวี่มองเว่ยโฉวขณะที่พึมพำกับตัวเองไปด้วย เขากล่าวแก่แม่เล้า “แม่นาง ข้าเพียงอยากจะถามว่า…แม่นางได้ขายทาสบ้างหรือไม่?

แม่เล้าตกใจ “คือ…เด็กสาวของข้ามีแต่คนเป็นงานทั้งนั้น หากท่านอยากซื้อเป็นทาส ราคาจะค่อนข้างแพงเจ้าค่ะ นายท่านอยากได้พวกนางไปทำอะไร? หรือนายท่านอยากได้แบบไหนเจ้าคะ?”

หลินมู่อวี่สูดหายใจลึก “เจ้าไม่ต้องอยากรู้หรอกว่าข้าจะอยากได้พวกนางไปทำสิ่งใด ข้าเพียงอยากได้คนที่ช่วยให้ข้ามีความสุข เจ้าเข้าใจหรือไม่?”

แม่เล้ายิ้มกล่าว “เช่นนั้นท่านชอบแบบรับแขกหรือไม่เจ้าคะ?”

“อืม…ลืมไปเสียเถิด” หลินมู่อวี่เกาหัวขณะที่เว่ยโฉวยืนหัวเราะอยู่ข้างๆ

แม่เล้าคิดได้ว่าอ้อยเข้าปากช้างแล้วจะปล่อยไปคงเสียดายแย่ “ข้ามีสาวงามทั้งหมดหนึ่งร้อยยี่สิบคน ท่านอยากให้ข้า…เรียกพวกนางออกมาดูตัวหรือไม่เจ้าคะ?”

“เอาแบบนั้นก็ได้”

“เช่นนั้นรอประเดี๋ยวเจ้าค่ะ!”

แม่เล้าใช้มือป้องปากตะโกนเรียก “เด็กๆ ข้างบนมารับแขกเร็ว…”

ทันใดนั้นกลุ่มหญิงบริการกลุ่มใหญ่ก็วิ่งมารวมตัวกลางห้องโถง เว่ยโฉวมองตามตาเป็นมัน หลินมู่อวี่ที่เกิดมาในตระกูลอันร่ำรวย พ่อเขาเคยพาไปเข้าสังคมพบปะอะไรเช่นนี้มาหลายครา เขาจึงไม่รู้สึกอะไรต่อสิ่งที่เห็น เขาไม่เคยกินหมูมาก่อนแต่ก็รู้ว่าหมูเป็นอย่างไร

แม่เล้าจับหน้าอกอันหย่อนยานของตนก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “นายท่าน หากต้องการซื้อพวกนางไปเป็นทาส ราคาจะอยู่ที่สามร้อยถึงห้าร้อยเหรียญทองเจ้าค่ะ ท่านอยากได้กี่คนเจ้าคะ?”

“ห้าสิบ” หลินมู่อวี่กล่าว “เจ้าพอมีส่วนลดหรือไม่?”

“ห้าสิบคน?!” แม่เล้าอ้าปากค้าง “จำนวนขนาดนี้…ท่านช่างเป็นคนใจกว้างเสียจริง ซื้อไปห้าสิบเท่ากับในสองเดือนนี้ท่านเรียกใช้วันละคืนได้ไม่ซ้ำหน้าเลยนะเจ้าคะ คงเล่นจนหมดแรงเล่นทีเดียว…”

หลินมู่อวี่มองหน้านาง “ไม่ต้องพูดให้มากความ…เพียงตอบคำถามข้าก็พอ ซื้อห้าสิบคน คิดเท่าไร?”

“สามร้อยห้าสิบเหรียญทองได้หรือไม่เจ้าคะ? ทว่าจำนวนนี้คือราคาที่ต้องจ่ายให้ข้าเท่านั้น ส่วนพวกนางจะไปกับท่านหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับพวกนาง ข้าไม่ได้บังคับ…”

“เข้าใจแล้ว…”

หลินมู่อวี่พยักหน้า ก่อนจะเงยหน้ามองกลุ่มหญิงสาวแล้วเอ่ยขึ้น “ข้าจะไม่อ้อมค้อม เหตุที่ข้าซื้อพวกเจ้าเพราะค่ายทหารกำลังต้องหญิงไปบริการ หากไปกับข้าพวกเจ้าจะต้องไปรับใช้พวกทหารอย่างที่บอก แต่รับรองว่าพวกเจ้าจะไม่เสียใจ เมื่อข้าตกลงซื้อไม่เพียงแต่จะจ่ายให้แม่เล้าสามร้อยห้าสิบเหรียญ ข้าจะจ่ายให้พวกเจ้าด้วยเช่นกัน หากพวกเจ้าเห็นชอบ…ก็จงก้าวออกมา”

แม่เล้าตกตะลึง “นายท่านช่างใจกว้างเหลือเกินเจ้าค่ะ …สาวๆ รีบเข้าสิ เงินจำนวนนี้ทั้งชีวิตพวกเจ้าก็หาไม่ได้นะ”

ทันใดนั้นสาวงามหลายคนก็ก้าวเท้าออกมาอย่างรวดเร็ว ทุกคนฝืนยิ้มหน้าเจื่อน หลินมู่อวี่รู้ได้ทันทีว่าพวกนางยอมทำทุกอย่างเพื่อเงิน ทว่าไม่ใช่ปัญหาตราบที่พวกนางยินยอมไปกับเขา

ไม่นานนักสาวบริการทั้งห้าสิบคนก็ถูกเลือก หลินมู่อวี่คำนวณราคาแล้วได้ทั้งหมดสิบเจ็ดเหรียญเพชรและห้าร้อยเหรียญทองจ่ายให้แม่เล้าไป ส่วนหญิงบริการทุกคนได้เหรียญทองคนละถุง บางคนไม่อยากพกไปค่ายทหารด้วยจึงนำไปฝากไว้ที่ธนาคาร

ใช้เวลากว่าสองชั่วโมงเต็มกว่าจะแล้วเสร็จ พระอาทิตย์เริ่มอัสดง…

หลินมู่อวี่นำหญิงบริการทั้งห้าสิบคนไปยังค่ายทหาร เหล่าทหารองครักษ์อวี้หลินเมื่อเห็นต่างก็ยั้งใจแทบไม่อยู่ เพราะหญิงกลุ่มนี้ดูน่าสนใจกว่าพวกทาสไร้อารมณ์ที่ซื้อมาเมื่อตอนบ่ายเสียอีก หลินมู่อวี่มองหาผู้บัญชาการกองร้อยที่ดูแลพวกทาสอยู่ก่อนจะนำหนึ่งร้อยเหรียญทองไปให้ตอบแทนที่รักษาสัญญา พร้อมกับแลกตัวหญิงบริการกับทาสทั้งห้าสิบที่มีอยู่

แสงจันทร์สาดส่องไปทั่วบริเวณ หลินมู่อวี่และเว่ยโฉวควบม้านำทาสทั้งห้าสิบคนไปอย่างช้าๆ เว่ยโฉวยิ้มและเอ่ยขึ้น “ตั้งแต่ออกจากเจดีย์ทงเทียนท่านก็จัดการปัญหาได้เก่งขึ้นนะขอรับ”

หลินมู่อวี่ถอนหายใจ “ประสบการณ์สอนให้ข้าเติบโต”

“แล้วท่านจะทำอย่างไรกับพวงนางต่อหรือขอรับ?”

“จ้างรถม้าพาพวกนางไปส่งที่ภูเขาผามังกร”

“เท่ากับว่าท่านจะส่งพวกนางไป…”

“พวกนางไม่มีบ้านแล้ว ต่อให้ข้าปล่อยพวกนางไปก็รังแต่จะโดนจับไปเป็นทาสอยู่เป็นนิจ แบบนั้นเท่ากับว่าทั้งหมดที่เราลงแรงไปสูญเปล่า…ข้าจึงคิดว่าจะสร้างหมู่บ้านให้พวกนางอยู่แถวตีนเขา สอนให้รู้จักปลูกผักทอผ้าเลี้ยงชีพ ทั้งยังมีโอกาสได้พบเจอกับผู้ชายดีๆ เป็นคู่ชีวิตต่อไป

“นายท่านของข้าช่างเป็นคนที่วิเศษเสียจริง!” เว่ยโฉวมองด้วยแววตาอันเต็มเปี่ยมไปด้วยความนับถือ

กลางดึก ทหารองครักษ์อินทรีได้เดินทางไปส่งโล่งูมังกรและหญิงสาวห้าสิบคนที่ภูเขาผามังกรโดยมีหลินมู่อวี่นำทัพด้วยตนเอง แม้ป่าล่ามังกรจะเป็นส่วนหนึ่งของเมืองหลันเยียนทว่าก็ยังไม่ปลอดภัย เนื่องจากทหารลาดตระเวนไม่มีคุณภาพจึงทำให้พวกโจรขโมยออกเผ่นพ่านไปทั่ว

หลินมู่อวี่เห็นแสงคบเพลิงอยู่ไกลๆ กว่าจะมาถึงจุดหมายก็ปาไปเกือบเที่ยงคืนแล้ว

ณ ประตูทางขึ้นเขา กลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาดสวมเกราะถือง้าวหลายคนกำลังยืนเฝ้ายามอยู่ เมื่อเห็นหลินมู่อวี่จึงรีบทำความเคารพ “ยินดีที่ได้พบขอรับท่านผู้นำ”

“เปิดประตูแล้วพาพวกข้าเข้าไป”

“ขอรับ!”

หลินมู่อวี่รู้สึกว่าคนพวกนี้แทบไม่เหลือลักษณะของนักเลงหัวไม้เช่นเมื่อก่อน ทว่าเหมือนทหารเต็มตัวแล้วมากกว่า หลัวอวี่ช่างหลักแหลม เขาเลือกคนเข้าร่วมกลุ่มไม่ผิดจริงๆ

ต่อเมื่อว่าถึงยอดเขา หลัวอวี่พร้อมทหารหลายนายออกมาต้อนรับหลินมู่อวี่ “กลับมาแล้วหรือขอรับท่าน?”

“อืม…ข้าเอาอาวุธมาให้พวกเจ้า”

หลินมู่อวี่โบกมือเป็นสัญญาณให้นำสัมภาระด้านหลังมา โล่งูมังกรเปล่งประกายยามต้องแสงจากคบเพลิง เพียงแรกเห็นหลัวอวี่ก็บอกได้เลยว่านี่เป็นโล่ชั้นยอด “นี่มันยอดเยี่ยมมากขอรับ ท่านมาในเวลาที่เรากำลังต้องการพอดี เมื่อวานเกิดเหตุปะทะกันกับโจรภูเขาทำให้คนฝั่งเราบาดเจ็บสาหัสหลายคน ด้วยโล่ที่ท่านนำมาให้วันนี้พวกเราคงไม่ต้องกังวลกันอีกต่อไป! ขอบพระคุณมากขอรับ!”

“ไปกันเถิด”

“ขอรับ”

หลัวอวี่ควบม้าตามหลินมู่อวี่ไป ก่อนจะมองเห็นเหล่าหญิงสาวด้านหลังและเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ท่านขอรับ ผู้หญิงพวกนี้คือ…ท่านจะให้พวกนางมารับใช้ที่นี่หรือขอรับ?”

“ไม่…มังกรผงาดไม่จำเป็นต้องมีใครคอยรับใช้” หลินมู่อวี่ส่ายหัว “ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป…สั่งให้คนลงไปตัดไม้ที่ตีนเขา ภายในหนึ่งเดือนจงสร้างหมู่บ้านให้แล้วเสร็จแล้วส่งคนไปคุ้มกันหมู่บ้าน เจ้ามีคำถามอีกหรือไม่?”

หลัวอวี่กล่าวอย่างประหลาดใจ “หากมีทุนพอก็ไม่มีปัญหาขอรับ”

“อืม…เช่นนั้นไม่มีปัญหา แล้วสถานการณ์กลุ่มทหารรับจ้างเป็นอย่างไรบ้าง?”

หลัวอวี่ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข “เมื่อสี่วันก่อนพวกเราได้เข้ากวาดล้างหมู่บ้านโจรภูเขาไปสี่หมู่บ้าน และทหารรับจ้างอีกกว่าสองร้อยคนขอรับ อีกทั้งข้ายังได้คัดคนส่วนหนึ่งให้มาเข้าร่วมกลุ่มเราด้วย ทำให้ตอนนี้เรามีกำลังคนทั้งหมดสองร้อยเจ็ดสิบสี่คนแล้วขอรับ”

หลินมู่อวี่ยิ้ม “แล้วยังมีเงินพออยู่หรือไม่?”

“เริ่มไม่พอแล้วขอรับ…”

“ไม่มีปัญหา”

หลินมู่อวี่ล้วงเงินจำนวนหนึ่งร้อยเหรียญเพชรออกมาจากถุงสรรพสิ่ง “ร้อยเหรียญทองนี้จงใช้อย่างประหยัด…”

หลัวอวี่พยักหน้า “ขอรับ!”

“หมั่นรับสมัครสมาชิกเข้า ยกเลิกข้อกำหนดก่อนหน้านี้เสีย เจ้าสามารถรับสมาชิกได้แม้จะยังไม่ถึงระดับขอบเขตมนุษย์ก็ตาม”

“เข้าใจแล้วขอรับ”

หลังจากค้างแรมที่ค่ายหนึ่งคืน หลินมู่อวี่สั่งให้เว่ยโฉวและทหารองครักษ์ทั้งห้าสิบนายเดินทางกลับรังอินทรีในเช้าวันถัดมา ส่วนตนจะอยู่วางแผนงานที่นี่ต่ออีกสองสามวัน หลินมู่อวี่เป็นคนดูแลกลุ่มมังกรผงาดแห่งนี้ หากจะไม่วางแผนพัฒนากลุ่มเลยคงไม่เป็นการดี อีกทั้งบรรดาหญิงสาวที่ช่วยมาก็กำลังรอให้หมู่บ้านแล้วเสร็จ

สมาชิกมังกรผงาดยี่สิบคนถูกส่งเข้าเมืองในตอนเช้าเพื่อไปหาจ้างช่างไม้และสถาปนิก เมื่อกางแผนที่ป่าล่ามังกรออกก็พบว่ามีเครื่องหมายสีแดงอยู่หลายจุด หลัวอวี่ขมวดคิ้วพูด “ตอนนี้มีอยู่สองกลุ่มใหญ่ที่เป็นภัยคุกคามกับเรา กลุ่มแรกคือทหารรับจ้างหมาป่าเพลิง และอีกกลุ่มเป็นโจรภูเขาบนเขากวางอินทนิล”

“ทหารรับจ้างหมาป่าเพลิงรึ?”

“ถูกต้องขอรับ”

หลัวอวี่กล่าวต่อ “ทหารรับจ้างหมาป่าเพลิงเป็นกลุ่มทหารพเนจร พวกมันคอยปล้นสะสมและไล่ฆ่าชาวบ้านหลายแห่งในเขตอวิ้นจง…กรมเมืองที่มีทหารรักษาการณ์เพียงสองร้อยนายนั้นทำอะไร กลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าเพลิงที่แข็งแกร่งและมีกว่าสามพันคนไม่ได้เลย”

“อืม…” หลินมุ่อวี่กระชับกระบี่วิญญาณมังกรไว้ในมือ “ทหารรับจ้างสามพันนายมีมากกว่าเราสิบเท่า หากต้องสู้กันจริงๆ โอกาสชนะของเราน้อยมาก”

หลัวอวี่พยักหน้า “ใช่ขอรับ ข้าจึงไม่เคยนำกองกำลังเข้าปะทะเลย อย่างไรก็ตามมีข่าวลือว่าหัวหน้าของพวกมันที่ชื่อเฟิงสี่กำลังจับตาดูภูเขาผามังกรของเราอยู่ ข้ายังได้ยินมาอีกว่าพวกมันกำลังปักหลักอยู่ใกล้ๆ และไม่เกินสองวันจะบุกโจมตีเราขอรับ!”

“ไม่เป็นไร…”

หลินมู่อวี่เผยแววตาเย็นชา “เช่นนั้นข้าจะปักหลักอยู่ภูเขาล่ามังกรสักสองสามวัน และลองเจรจากับเฟิงสี่ดู”

“ขอรับ!”

หลังจากนั้นหลินมู่อวี่จึงมอบกระบี่เหลียวหยวนของตนให้แก่หลัวอวี่ เขาแข็งแกร่งพอจะใช้อาวุธระดับนิลอันทรงพลังได้ แต่แน่นอนว่ากระบี่วิญญาณมังกรที่หลินมู่อวี่ใช้อยู่นั้นแข็งแกร่งกว่า หากต้องต่อสู้กับผู้ใช้อาวุธต่ำกว่าระดับนิลแล้ว นอกจากอาวุธนั้นจะแตกสลายแล้วคงไม่มีใครเอาชีวิตรอดไปได้ นี่คือความน่ากลัวขออาวุธระดับปราชญ์…

กลางดึกอันเงียบสงัด สายลมเย็นพัดผ่านพาให้หนาวสั่น หลินมู่อวี่นั่งอยู่ในห้องผู้นำ อ่านตำราหลอมกระดูกมังกรและฝึกฝนทักษะชีพจรวิญญาณเพื่อเพิ่มพลังกายและจิตวิญญาณ เขาอยากแข็งแกร่งขึ้นเพื่อสร้างฐานให้ตัวเองในโลกนี้ มิเช่นนั้นคงทำอะไรไม่ได้

“ก๊อก…ก๊อก…ก๊อก…”

หลัวอวี่เคาะประตู “เราเพิ่งได้รับรายงานมาขอรับ ทหารรับจ้างหมาป่าเพลิงส่งกองกำลังหนึ่งร้อยห้าสิบคนมา คาดว่าจะถึงที่นี่ตอนเช้าขอรับ!”

“ทราบแล้ว”

หลินมู่อวี่ออกคำสั่ง “เตรียมพร้อมซุ่มโจมตี”

……………………

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา 201 ความหลักแหลม

Now you are reading The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา Chapter 201 ความหลักแหลม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เย็นไว้…” หลินมู่อวี่มองเว่ยโฉวขณะที่พึมพำกับตัวเองไปด้วย เขากล่าวแก่แม่เล้า “แม่นาง ข้าเพียงอยากจะถามว่า…แม่นางได้ขายทาสบ้างหรือไม่?

แม่เล้าตกใจ “คือ…เด็กสาวของข้ามีแต่คนเป็นงานทั้งนั้น หากท่านอยากซื้อเป็นทาส ราคาจะค่อนข้างแพงเจ้าค่ะ นายท่านอยากได้พวกนางไปทำอะไร? หรือนายท่านอยากได้แบบไหนเจ้าคะ?”

หลินมู่อวี่สูดหายใจลึก “เจ้าไม่ต้องอยากรู้หรอกว่าข้าจะอยากได้พวกนางไปทำสิ่งใด ข้าเพียงอยากได้คนที่ช่วยให้ข้ามีความสุข เจ้าเข้าใจหรือไม่?”

แม่เล้ายิ้มกล่าว “เช่นนั้นท่านชอบแบบรับแขกหรือไม่เจ้าคะ?”

“อืม…ลืมไปเสียเถิด” หลินมู่อวี่เกาหัวขณะที่เว่ยโฉวยืนหัวเราะอยู่ข้างๆ

แม่เล้าคิดได้ว่าอ้อยเข้าปากช้างแล้วจะปล่อยไปคงเสียดายแย่ “ข้ามีสาวงามทั้งหมดหนึ่งร้อยยี่สิบคน ท่านอยากให้ข้า…เรียกพวกนางออกมาดูตัวหรือไม่เจ้าคะ?”

“เอาแบบนั้นก็ได้”

“เช่นนั้นรอประเดี๋ยวเจ้าค่ะ!”

แม่เล้าใช้มือป้องปากตะโกนเรียก “เด็กๆ ข้างบนมารับแขกเร็ว…”

ทันใดนั้นกลุ่มหญิงบริการกลุ่มใหญ่ก็วิ่งมารวมตัวกลางห้องโถง เว่ยโฉวมองตามตาเป็นมัน หลินมู่อวี่ที่เกิดมาในตระกูลอันร่ำรวย พ่อเขาเคยพาไปเข้าสังคมพบปะอะไรเช่นนี้มาหลายครา เขาจึงไม่รู้สึกอะไรต่อสิ่งที่เห็น เขาไม่เคยกินหมูมาก่อนแต่ก็รู้ว่าหมูเป็นอย่างไร

แม่เล้าจับหน้าอกอันหย่อนยานของตนก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “นายท่าน หากต้องการซื้อพวกนางไปเป็นทาส ราคาจะอยู่ที่สามร้อยถึงห้าร้อยเหรียญทองเจ้าค่ะ ท่านอยากได้กี่คนเจ้าคะ?”

“ห้าสิบ” หลินมู่อวี่กล่าว “เจ้าพอมีส่วนลดหรือไม่?”

“ห้าสิบคน?!” แม่เล้าอ้าปากค้าง “จำนวนขนาดนี้…ท่านช่างเป็นคนใจกว้างเสียจริง ซื้อไปห้าสิบเท่ากับในสองเดือนนี้ท่านเรียกใช้วันละคืนได้ไม่ซ้ำหน้าเลยนะเจ้าคะ คงเล่นจนหมดแรงเล่นทีเดียว…”

หลินมู่อวี่มองหน้านาง “ไม่ต้องพูดให้มากความ…เพียงตอบคำถามข้าก็พอ ซื้อห้าสิบคน คิดเท่าไร?”

“สามร้อยห้าสิบเหรียญทองได้หรือไม่เจ้าคะ? ทว่าจำนวนนี้คือราคาที่ต้องจ่ายให้ข้าเท่านั้น ส่วนพวกนางจะไปกับท่านหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับพวกนาง ข้าไม่ได้บังคับ…”

“เข้าใจแล้ว…”

หลินมู่อวี่พยักหน้า ก่อนจะเงยหน้ามองกลุ่มหญิงสาวแล้วเอ่ยขึ้น “ข้าจะไม่อ้อมค้อม เหตุที่ข้าซื้อพวกเจ้าเพราะค่ายทหารกำลังต้องหญิงไปบริการ หากไปกับข้าพวกเจ้าจะต้องไปรับใช้พวกทหารอย่างที่บอก แต่รับรองว่าพวกเจ้าจะไม่เสียใจ เมื่อข้าตกลงซื้อไม่เพียงแต่จะจ่ายให้แม่เล้าสามร้อยห้าสิบเหรียญ ข้าจะจ่ายให้พวกเจ้าด้วยเช่นกัน หากพวกเจ้าเห็นชอบ…ก็จงก้าวออกมา”

แม่เล้าตกตะลึง “นายท่านช่างใจกว้างเหลือเกินเจ้าค่ะ …สาวๆ รีบเข้าสิ เงินจำนวนนี้ทั้งชีวิตพวกเจ้าก็หาไม่ได้นะ”

ทันใดนั้นสาวงามหลายคนก็ก้าวเท้าออกมาอย่างรวดเร็ว ทุกคนฝืนยิ้มหน้าเจื่อน หลินมู่อวี่รู้ได้ทันทีว่าพวกนางยอมทำทุกอย่างเพื่อเงิน ทว่าไม่ใช่ปัญหาตราบที่พวกนางยินยอมไปกับเขา

ไม่นานนักสาวบริการทั้งห้าสิบคนก็ถูกเลือก หลินมู่อวี่คำนวณราคาแล้วได้ทั้งหมดสิบเจ็ดเหรียญเพชรและห้าร้อยเหรียญทองจ่ายให้แม่เล้าไป ส่วนหญิงบริการทุกคนได้เหรียญทองคนละถุง บางคนไม่อยากพกไปค่ายทหารด้วยจึงนำไปฝากไว้ที่ธนาคาร

ใช้เวลากว่าสองชั่วโมงเต็มกว่าจะแล้วเสร็จ พระอาทิตย์เริ่มอัสดง…

หลินมู่อวี่นำหญิงบริการทั้งห้าสิบคนไปยังค่ายทหาร เหล่าทหารองครักษ์อวี้หลินเมื่อเห็นต่างก็ยั้งใจแทบไม่อยู่ เพราะหญิงกลุ่มนี้ดูน่าสนใจกว่าพวกทาสไร้อารมณ์ที่ซื้อมาเมื่อตอนบ่ายเสียอีก หลินมู่อวี่มองหาผู้บัญชาการกองร้อยที่ดูแลพวกทาสอยู่ก่อนจะนำหนึ่งร้อยเหรียญทองไปให้ตอบแทนที่รักษาสัญญา พร้อมกับแลกตัวหญิงบริการกับทาสทั้งห้าสิบที่มีอยู่

แสงจันทร์สาดส่องไปทั่วบริเวณ หลินมู่อวี่และเว่ยโฉวควบม้านำทาสทั้งห้าสิบคนไปอย่างช้าๆ เว่ยโฉวยิ้มและเอ่ยขึ้น “ตั้งแต่ออกจากเจดีย์ทงเทียนท่านก็จัดการปัญหาได้เก่งขึ้นนะขอรับ”

หลินมู่อวี่ถอนหายใจ “ประสบการณ์สอนให้ข้าเติบโต”

“แล้วท่านจะทำอย่างไรกับพวงนางต่อหรือขอรับ?”

“จ้างรถม้าพาพวกนางไปส่งที่ภูเขาผามังกร”

“เท่ากับว่าท่านจะส่งพวกนางไป…”

“พวกนางไม่มีบ้านแล้ว ต่อให้ข้าปล่อยพวกนางไปก็รังแต่จะโดนจับไปเป็นทาสอยู่เป็นนิจ แบบนั้นเท่ากับว่าทั้งหมดที่เราลงแรงไปสูญเปล่า…ข้าจึงคิดว่าจะสร้างหมู่บ้านให้พวกนางอยู่แถวตีนเขา สอนให้รู้จักปลูกผักทอผ้าเลี้ยงชีพ ทั้งยังมีโอกาสได้พบเจอกับผู้ชายดีๆ เป็นคู่ชีวิตต่อไป

“นายท่านของข้าช่างเป็นคนที่วิเศษเสียจริง!” เว่ยโฉวมองด้วยแววตาอันเต็มเปี่ยมไปด้วยความนับถือ

กลางดึก ทหารองครักษ์อินทรีได้เดินทางไปส่งโล่งูมังกรและหญิงสาวห้าสิบคนที่ภูเขาผามังกรโดยมีหลินมู่อวี่นำทัพด้วยตนเอง แม้ป่าล่ามังกรจะเป็นส่วนหนึ่งของเมืองหลันเยียนทว่าก็ยังไม่ปลอดภัย เนื่องจากทหารลาดตระเวนไม่มีคุณภาพจึงทำให้พวกโจรขโมยออกเผ่นพ่านไปทั่ว

หลินมู่อวี่เห็นแสงคบเพลิงอยู่ไกลๆ กว่าจะมาถึงจุดหมายก็ปาไปเกือบเที่ยงคืนแล้ว

ณ ประตูทางขึ้นเขา กลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาดสวมเกราะถือง้าวหลายคนกำลังยืนเฝ้ายามอยู่ เมื่อเห็นหลินมู่อวี่จึงรีบทำความเคารพ “ยินดีที่ได้พบขอรับท่านผู้นำ”

“เปิดประตูแล้วพาพวกข้าเข้าไป”

“ขอรับ!”

หลินมู่อวี่รู้สึกว่าคนพวกนี้แทบไม่เหลือลักษณะของนักเลงหัวไม้เช่นเมื่อก่อน ทว่าเหมือนทหารเต็มตัวแล้วมากกว่า หลัวอวี่ช่างหลักแหลม เขาเลือกคนเข้าร่วมกลุ่มไม่ผิดจริงๆ

ต่อเมื่อว่าถึงยอดเขา หลัวอวี่พร้อมทหารหลายนายออกมาต้อนรับหลินมู่อวี่ “กลับมาแล้วหรือขอรับท่าน?”

“อืม…ข้าเอาอาวุธมาให้พวกเจ้า”

หลินมู่อวี่โบกมือเป็นสัญญาณให้นำสัมภาระด้านหลังมา โล่งูมังกรเปล่งประกายยามต้องแสงจากคบเพลิง เพียงแรกเห็นหลัวอวี่ก็บอกได้เลยว่านี่เป็นโล่ชั้นยอด “นี่มันยอดเยี่ยมมากขอรับ ท่านมาในเวลาที่เรากำลังต้องการพอดี เมื่อวานเกิดเหตุปะทะกันกับโจรภูเขาทำให้คนฝั่งเราบาดเจ็บสาหัสหลายคน ด้วยโล่ที่ท่านนำมาให้วันนี้พวกเราคงไม่ต้องกังวลกันอีกต่อไป! ขอบพระคุณมากขอรับ!”

“ไปกันเถิด”

“ขอรับ”

หลัวอวี่ควบม้าตามหลินมู่อวี่ไป ก่อนจะมองเห็นเหล่าหญิงสาวด้านหลังและเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ท่านขอรับ ผู้หญิงพวกนี้คือ…ท่านจะให้พวกนางมารับใช้ที่นี่หรือขอรับ?”

“ไม่…มังกรผงาดไม่จำเป็นต้องมีใครคอยรับใช้” หลินมู่อวี่ส่ายหัว “ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป…สั่งให้คนลงไปตัดไม้ที่ตีนเขา ภายในหนึ่งเดือนจงสร้างหมู่บ้านให้แล้วเสร็จแล้วส่งคนไปคุ้มกันหมู่บ้าน เจ้ามีคำถามอีกหรือไม่?”

หลัวอวี่กล่าวอย่างประหลาดใจ “หากมีทุนพอก็ไม่มีปัญหาขอรับ”

“อืม…เช่นนั้นไม่มีปัญหา แล้วสถานการณ์กลุ่มทหารรับจ้างเป็นอย่างไรบ้าง?”

หลัวอวี่ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข “เมื่อสี่วันก่อนพวกเราได้เข้ากวาดล้างหมู่บ้านโจรภูเขาไปสี่หมู่บ้าน และทหารรับจ้างอีกกว่าสองร้อยคนขอรับ อีกทั้งข้ายังได้คัดคนส่วนหนึ่งให้มาเข้าร่วมกลุ่มเราด้วย ทำให้ตอนนี้เรามีกำลังคนทั้งหมดสองร้อยเจ็ดสิบสี่คนแล้วขอรับ”

หลินมู่อวี่ยิ้ม “แล้วยังมีเงินพออยู่หรือไม่?”

“เริ่มไม่พอแล้วขอรับ…”

“ไม่มีปัญหา”

หลินมู่อวี่ล้วงเงินจำนวนหนึ่งร้อยเหรียญเพชรออกมาจากถุงสรรพสิ่ง “ร้อยเหรียญทองนี้จงใช้อย่างประหยัด…”

หลัวอวี่พยักหน้า “ขอรับ!”

“หมั่นรับสมัครสมาชิกเข้า ยกเลิกข้อกำหนดก่อนหน้านี้เสีย เจ้าสามารถรับสมาชิกได้แม้จะยังไม่ถึงระดับขอบเขตมนุษย์ก็ตาม”

“เข้าใจแล้วขอรับ”

หลังจากค้างแรมที่ค่ายหนึ่งคืน หลินมู่อวี่สั่งให้เว่ยโฉวและทหารองครักษ์ทั้งห้าสิบนายเดินทางกลับรังอินทรีในเช้าวันถัดมา ส่วนตนจะอยู่วางแผนงานที่นี่ต่ออีกสองสามวัน หลินมู่อวี่เป็นคนดูแลกลุ่มมังกรผงาดแห่งนี้ หากจะไม่วางแผนพัฒนากลุ่มเลยคงไม่เป็นการดี อีกทั้งบรรดาหญิงสาวที่ช่วยมาก็กำลังรอให้หมู่บ้านแล้วเสร็จ

สมาชิกมังกรผงาดยี่สิบคนถูกส่งเข้าเมืองในตอนเช้าเพื่อไปหาจ้างช่างไม้และสถาปนิก เมื่อกางแผนที่ป่าล่ามังกรออกก็พบว่ามีเครื่องหมายสีแดงอยู่หลายจุด หลัวอวี่ขมวดคิ้วพูด “ตอนนี้มีอยู่สองกลุ่มใหญ่ที่เป็นภัยคุกคามกับเรา กลุ่มแรกคือทหารรับจ้างหมาป่าเพลิง และอีกกลุ่มเป็นโจรภูเขาบนเขากวางอินทนิล”

“ทหารรับจ้างหมาป่าเพลิงรึ?”

“ถูกต้องขอรับ”

หลัวอวี่กล่าวต่อ “ทหารรับจ้างหมาป่าเพลิงเป็นกลุ่มทหารพเนจร พวกมันคอยปล้นสะสมและไล่ฆ่าชาวบ้านหลายแห่งในเขตอวิ้นจง…กรมเมืองที่มีทหารรักษาการณ์เพียงสองร้อยนายนั้นทำอะไร กลุ่มทหารรับจ้างหมาป่าเพลิงที่แข็งแกร่งและมีกว่าสามพันคนไม่ได้เลย”

“อืม…” หลินมุ่อวี่กระชับกระบี่วิญญาณมังกรไว้ในมือ “ทหารรับจ้างสามพันนายมีมากกว่าเราสิบเท่า หากต้องสู้กันจริงๆ โอกาสชนะของเราน้อยมาก”

หลัวอวี่พยักหน้า “ใช่ขอรับ ข้าจึงไม่เคยนำกองกำลังเข้าปะทะเลย อย่างไรก็ตามมีข่าวลือว่าหัวหน้าของพวกมันที่ชื่อเฟิงสี่กำลังจับตาดูภูเขาผามังกรของเราอยู่ ข้ายังได้ยินมาอีกว่าพวกมันกำลังปักหลักอยู่ใกล้ๆ และไม่เกินสองวันจะบุกโจมตีเราขอรับ!”

“ไม่เป็นไร…”

หลินมู่อวี่เผยแววตาเย็นชา “เช่นนั้นข้าจะปักหลักอยู่ภูเขาล่ามังกรสักสองสามวัน และลองเจรจากับเฟิงสี่ดู”

“ขอรับ!”

หลังจากนั้นหลินมู่อวี่จึงมอบกระบี่เหลียวหยวนของตนให้แก่หลัวอวี่ เขาแข็งแกร่งพอจะใช้อาวุธระดับนิลอันทรงพลังได้ แต่แน่นอนว่ากระบี่วิญญาณมังกรที่หลินมู่อวี่ใช้อยู่นั้นแข็งแกร่งกว่า หากต้องต่อสู้กับผู้ใช้อาวุธต่ำกว่าระดับนิลแล้ว นอกจากอาวุธนั้นจะแตกสลายแล้วคงไม่มีใครเอาชีวิตรอดไปได้ นี่คือความน่ากลัวขออาวุธระดับปราชญ์…

กลางดึกอันเงียบสงัด สายลมเย็นพัดผ่านพาให้หนาวสั่น หลินมู่อวี่นั่งอยู่ในห้องผู้นำ อ่านตำราหลอมกระดูกมังกรและฝึกฝนทักษะชีพจรวิญญาณเพื่อเพิ่มพลังกายและจิตวิญญาณ เขาอยากแข็งแกร่งขึ้นเพื่อสร้างฐานให้ตัวเองในโลกนี้ มิเช่นนั้นคงทำอะไรไม่ได้

“ก๊อก…ก๊อก…ก๊อก…”

หลัวอวี่เคาะประตู “เราเพิ่งได้รับรายงานมาขอรับ ทหารรับจ้างหมาป่าเพลิงส่งกองกำลังหนึ่งร้อยห้าสิบคนมา คาดว่าจะถึงที่นี่ตอนเช้าขอรับ!”

“ทราบแล้ว”

หลินมู่อวี่ออกคำสั่ง “เตรียมพร้อมซุ่มโจมตี”

……………………

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+