The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา 238 ผู้อยู่เบื้องหลัง

Now you are reading The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา Chapter 238 ผู้อยู่เบื้องหลัง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

วันเวลาผันผ่านไปในพริบตา ทหารของสำนักอัศวินทำได้เพียงยิงธนูไม่กี่ดอก และตกลงพื้นก่อนจะถึงกลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาด การยั่วยุเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าจนเริ่มทำให้ทหารของสำนักอัศวินอ่อนแรง

เมื่อถึงเวลาพลบค่ำทหารสำนักอัศวินก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน ประตูเปิดออกพร้อมทหารชำนาญการกว่าร้อยนายพุ่งตัวออกมาพร้อมคำรามลั่น

“โจมตี!!”

หลัวอวี่ออกคำสั่ง ทันใดนั้นทหารรับจ้างมังกรผงาดและกองทัพทะลวงนภาที่ซ่อนตัวอยู่พลันยิ่งธนูออกมาราวกับห่าฝน ทหารนับร้อยส่งเสียงร้องครวญครางอย่างน่าเวทนา มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถหลบหนีได้

เว่ยโฉวชี้ไปที่ถังน้ำซึ่งผูกไว้บนหลังม้า “เป็นไปตามที่ท่านแม่ทัพพูด พวกมันเริ่มขาดแคลนน้ำแล้ว และออกมาเสี่ยงตายเพียงเพื่อจะเอาน้ำ!”

หลินมู่อวี่พยักหน้า “อืม พลธนูตื่นตัวไว้ ขุดหลุมกับดักด้านหลังและเตรียมโจมตีระลอกถัดไป!”

ฉีหยิงตกตะลึง “ท่านแม่ทัพแน่ใจได้อย่างไรว่าพวกมันจะลงมาอีกครั้ง?”

หลินมู่อวี่เผยรอยยิ้มมั่นใจ “ง่ายมาก ทหารนับร้อยเหล่านี้เป็นเพียงการทดสอบว่าเรามีจำนวนเท่าใดที่ล้อมรอบภูเขาขวานไฟแห่งนี้ การโจมตีครั้งถัดไปคงมีกองกำลังอย่างน้อยสองร้อยนาย ซึ่งพลธนูแนวหน้าคงไม่สามารถป้องกันได้อย่างแน่นอน เช่นนั้นจงขุดกับดักเพิ่มและตรวจสอบให้มั่นใจว่าเราจะสูญเสียน้อยที่สุด”

“เป็นเช่นนี้เอง” ฉีหยิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านแม่ทัพคิดอย่างรอบคอบโดยแท้จริง…”

ขณะเดียวกัน ก็มีนกสีขาวนวลบินโฉบบนหัวพวกเขาพร้อมส่งเสียงร้องแผ่วเบา ทันใดนั้นหลินมู่อวี่ก็เงยหน้าขึ้นพร้อมมีความคิดหนึ่งแล่นเข้ามา “เว่ยโฉว ยิงนกลงมา”

“ขอรับ!”

เว่ยโฉวง้างคันธนู ‘ฟิ้ว!’ ธนูกลืนปีศาจส่งลูกธนูขึ้นสู่ท้องฟ้าปลิดชีพนกทันที จากนั้นทหารกองทัพทะลวงนภาก็หยิบซากนกมาให้ “นี่ขอรับท่านแม่ทัพ”

หลินมู่อวี่รับซากนกมาและมองไปที่ส่วนเท้า เป็นดังคาด! มันมีจดหมายขนาดเล็กติดอยู่ หลินมู่อวี่เปิดจดหมายก็พบข้อความที่เขียนไว้ว่า ‘กำลังเสริมจะมาถึงในอีกสองวัน’

เว่ยโฉวขมวดคิ้ว “สำนักอัศวินมีกำลังเสริมหรือขอรับ? นั่นมาจากศูนย์บัญชาการของมันหรือไม่?”

“ข้าไม่มั่นใจ”

หลินมู่อวี่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล “เว่ยโฉว นกตัวนี้บินมาจากทิศที่ตั้งของเมืองห้าหุบเขา จงจัดพลธนูเฝ้าดูทิศนั้นซะ แล้วยิงนกส่งสารทั้งหมด”

เว่ยโฉวพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม “ขอรับ!”

เมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าก็มีเมฆหนาทึบบดบังแสงดาวและแสงจันทร์ แม้แต่ฉีหยางก็รู้สึกได้ถึงจิตสังหารอันหนาวเหน็บ “ค่ำคืนนี้คงไม่ผ่านไปโดยง่าย…”

หลินมู่อวี่ผิงไฟเพื่อความอบอุ่นพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ทุกคนระวังตัวให้ดี”

“ขอรับ!”

ก่อนรุ่งสางก็เกิดเสียงดังขึ้นบนยอดเขาพร้อมเสียงกีบเท้าม้าดังกึกก้อง สำนักอัศวินเริ่มโจมตีอีกครั้ง!

ประตูภูเขาเปิดออก ทันใดนั้น! ทหารชำนาญการจำนวนนับไม่ถ้วนถือโล่และดาบพุ่งออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวขณะที่คำรามลั่น “ฆ่ามัน! กำจัดหมารับใช้จักรวรรดิให้สิ้นซาก!”

มีทหารราบราวหนึ่งพันห้าร้อยนายและทหารม้าห้าร้อยนาย ดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการใช้โล่เพื่อกันลูกธนูก่อนจะส่งทหารม้าออกไป

หลินมู่อวี่ยืนอยู่บนต้นไม้ใหญ่ขณะที่มีน้ำค้างแข็งปกคลุมบนไหล่ เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ฝันไปเถิด…”

ฉีหยิงควบม้าเข้ามาพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านแม่ทัพ ถึงเวลาโจมตีหรือยังขอรับ?”

“อืม เจ้าสามารถลงมือทันทีที่มันฝ่าวงล้อมด่านที่สองมาได้”

“ขอรับ!”

คบเพลิงจำนวนมหาศาลสว่างไสวขณะที่เหล่าทหารชำนาญการพุ่งตัวออกมา เสียงร้องคำรามดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ

“โจมตี!!”

เว่ยโฉวตะโกนดังลั่นขณะที่ยิงลูกธนูรวดเร็วดั่งแสงทะลวงทหารสามนายทันที! ภายในกองทัพ มีเพียงเว่ยโฉวผู้เดียวที่มีความแข็งแกร่งและแม่นยำมาก

‘ฟิ้ว ฟิ้ว…’

ธนูในมือหลินมู่อวี่ส่งเสียงดังน่าเกรงขาม ลูกธนูปกคลุมไปด้วยปราณยุทธ์ จึงสามารถแทงทะลุโล่ของทหารชำนาญการทันทีจนเกิดแรงระเบิดอันทรงพลัง!

“ท่านแม่ทัพแข็งแกร่งอย่างแท้จริง!”

ทหารกองทัพทะลวงนภาได้รับการปลุกใจหลังจากที่เห็น ทั้นใดนั้น! ก็ยิงธนูออกไปราวกับห่าฝนสังหารทหารสำนักอัศวินทันที! กระนั้นลูกธนูส่วนใหญ่ก็ตกลงบนโล่และมิได้สร้างความเสียหายแก่ศัตรูมากนัก ทำให้ทหารสำนักอัศวินเข้าใกล้มากขึ้นจนถึงระยะยี่สิบเมตร

“ถอย!”

หลินมู่อวี่ออกคำสั่งขณะที่ปามีดเสียงปีศาจสี่เล่มออกไป มันพุ่งไปหลายทิศทางอย่างรวดเร็วก่อนทะลุผ่านร่างทหารหลายนาย! จากนั้นหลินมู่อวี่จึงค่อยๆ ดึงพลังกลับและมีดเสียงปีศาจก็กลับมาเป็นหนึ่งเดียวพร้อมบินกลับมาหาเขาหลังสังหารศัตรูไปหลายสิบคน

ภายใต้แสงคบเพลิง ทหารชำนาญการนายหนึ่งร่างกายปกคลุมไปด้วยปราณแท้คำรามกึกก้อง “สังหารหมารับใช้จักรวรรดิพวกนี้ให้หมด!!”

เสียงเท้าม้าดังกึกก้องขณะที่ทหารม้าของสำนักอัศวินพุ่งออกมาพร้อมหอกยาว ทันใดนั้น! ก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าเวทนาเมื่อติดกับดักในวงล้อมด่านที่สอง ทหารและม้าหลายร้อยตกลงไปในหลุมที่ขุดไว้ กองทัพทะลวงนภาและกลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาดพลันแทงปลายหอกใส่ศัตรูอย่างบ้าคลั่งพร้อมเลือดสาดกระจาย พวกเขาสังหารอีกฝ่ายอย่างไร้ปรานี!

‘ชิ้ง!’

หลินมู่อวี่ดึงทวนหลีฮวาออกมา ก่อนจะตวัดทวนพร้อมเกิดดอกสาลี่เยือกแข็งที่ปลายหอก จากนั้นก็คำรามก้อง “ฆ่ามัน!!”

ทันใดนั้นก็มีเสียงเท้าม้าดังก้องอ้อมหลุมกับดักขณะที่ทหารรับจ้างมังกรผงาดนับพันพุ่งใส่ศัตรูอย่างบ้าคลั่ง! พวกเขาส่งหอกยาวทะลวงก่อนศัตรูจะถึงตัว ซึ่งเป็นการโจมตีที่ทรงพลังกว่าลูกธนูมาก! เหล่าทหารม้าหนักประชิดตัวศัตรูและสังหารได้อย่างรวดเร็วจนทำให้อีกฝ่ายเสียขวัญและกลายเป็นเป้านิ่ง!

กลิ่นคาวเลือดตลบอบอวลในอากาศ ศึกครานี้กินเวลากว่าหนึ่งชั่วโมงก่อนจะจบสิ้น ท้ายที่สุดสำนักอัศวินก็สูญเสียราชทูตไปอีกคน ทหารกว่าสองร้อยนายที่เหลือหนีกลับขึ้นภูเขาขณะที่บนถนนปกคลุมไปด้วยซากศพซึ่งมองดูน่าสังเวช

เว่ยโฉวกล่าวอย่างตื่นเต้น “ในที่สุดก็ได้สั่งสอนกบฏเหล่านี้ว่าพวกเราแข็งแกร่งถึงเพียงไหน!!”

ฉีหยิงเช็ดเลือดออกจากหอกและกล่าวอย่างภาคภูมิใจ “พวกมันคงไม่กล้าลงจากภูเขาเพื่อหาน้ำอีกแล้ว!”

“เราสูญเสียไปเท่าใด?”

หลินมู่อวี่ถือทวนหลีฮวาพร้อมขึ้นหลังม้า

หลัวอวี่ประสานมือ “กลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาดสูญเสียทหารราวยี่สิบนาย ขณะที่กองทัพทะลวงนภาสูญเสียทหารราวร้อยนาย โชคดีที่ท่านหลินมู่อวี่ใช้กลยุทธ์ที่ชาญฉลาด มิเช่นนั้นเหล่าทหารคงล้มตายมากกว่านี้”

“อืม เข้าใจแล้ว…”

หลินมู่อวี่ขมวดคิ้ว แท้จริงแล้วเขาวางแผนเพื่อมิให้มีการบาดเจ็บล้มตายเลย ทว่าก็มีปัจจัยมากเกินไปที่จะทำสำเร็จ

“เอาล่ะ ทุกคนไปพักผ่อนได้ เราจะไม่เคลื่อนทัพไปไหนในคืนนี้”

“ขอรับท่านแม่ทัพ!”

เหล่าทหารต่างหลับสนิท ส่วนหลินมู่อวี่นอนโคจรหลอมกระดูกมังกรอยู่ในกระโจมขณะที่ปลดปล่อยทักษะชีพจรวิญญาณ ราวกับว่าจิตใจของหลินมู่อวี่กลับสู่ธรรมชาติแล้วหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับสวรรค์และแผ่นดิน ซึ่งทำให้เขานอนหลับสนิทอย่างไม่กังวลใจ

“แย่แล้วขอรับท่านแม่ทัพ!”

จู่ๆ เสียงของเว่ยโฉวก็ดังขึ้นจากด้านนอก

หลินมู่อวี่ลุกขึ้นยืนพร้อมคว้ากระบี่ทันที ก่อนจะออกจากกระโจมและถามว่า “มีสิ่งใดหรือ?”

เว่ยโฉวมีสีหน้าจริงจังขณะที่รายงาน “เช้านี้กองทัพจักรวรรดิจากเขตอวิ้นจงปรากฏตัวขึ้นที่ภูเขาขวานไฟและล้อมรอบเราอยู่ ข้าไม่ทราบว่าด้วยเหตุอันใด?”

“เจ้าส่งคนไปเจรจาหรือยัง?”

“ยังขอรับ”

“มากับข้า”

“ขอรับ!”

หลินมู่อวี่ควบม้าออกไปพร้อมกลุ่มองครักษ์อวี้หลิน ก่อนจะพบกลุ่มทหารในชุดเกราะของกองทัพหลวงกำลังล้อมรอบกลุ่มทหารของตน

“เกิดอะไรขึ้น?”

หลินมู่อวี่ขมวดคิ้วและเดินออกไป “ใครคือผู้นำทัพ?”

โล่ค่อยๆ เปิดออกพร้อมชายผู้หนึ่งสวมชุดเสนาบดีขี่ม้าออกมาด้านหน้า เขาประสานมือก่อนกล่าวว่า “ข้าคือผู้ดูแลเขตอวิ้นจงนามว่าไป๋หลั่ว ยินดีที่ได้พบท่านหลินมู่อวี่ขอรับ”

“ไป๋หลั่ว เจ้านำทหารมาล้อมรอบพวกเราเช่นนี้ หมายความว่าอย่างไร?” หลินมู่อวี่ถามด้วยความโกรธ

ไป๋หลั่วเผยรอยยิ้มจางๆ “รายงานท่านหลินมู่อวี่ ภูเขาขวานไฟแห่งนี้อยู่ในภายใต้อำนาจของเขตอวิ้นจง เนื่องจากมีกลุ่มทหารรับจ้างจากภูเขาหลงหยานเข้ามาป้วนเปี้ยน ในฐานะผู้ดูแล ข้าจึงต้องนำทหารมาตรวจสอบขอรับ”

หลินมู่อวี่หยิบเหรียญออกมาและพูดว่า “เหรียญแม่ทัพองครักษ์ทิศใต้อยู่ที่นี่ เมื่อเห็นแล้วก็ถอยทัพออกไปซะ”

“ไม่สามารถทำได้ขอรับ”

“ไม่ได้? หมายความว่าอย่างไร?”

ไป๋หลั่วยังคงยิ้มเช่นเดิมขณะที่โค้งคำนับ “เขตอวิ้นจงอยู่ภายใต้เขตอำนาจของเมืองห้าหุบเขา การต่อสู้ในพื้นที่จะเป็นการสร้างความเดือดร้อนแก่คนของข้า ดังนั้น…ก่อนที่ทหารแห่งเมืองห้าหุบเขาจะมา ไป๋หลั่วไม่สามารถถอนกำลังทัพได้ มิเช่นนั้นข้าน้อยคงได้รับโทษจากท่านผู้ว่าขอรับ”

หลินมู่อวี่ขบฟันแน่นด้วยความโกรธ

เว่ยโฉวกระซิบด้านข้าง “เจ้าจิ้งจอกเฒ่านี่มิเคยสนใจแม้จะมีกลุ่มทหารรับจ้างฆ่ากันตาย ทว่ากลับมาล้อมรอบเราเช่นนี้…ช่างไร้สาระ!!”

หลินมู่อวี่ขี่ม้าออกมาอย่างเชื่องช้าขณะที่มองหน้าเหี่ยวย่นของไป๋หลั่ว “ท่านผู้ดูแล การที่มาล้อมรอบพวกเราเช่นนี้ ข้าสงสัยว่าท่านกำลังสมรู้ร่วมคิดกับสำนักอัศวิน…หากเป็นเช่นนั้น เมื่อข้าทูลต่อฝ่าบาท เกรงว่าเจ้าจะไม่ได้ดำรงตำแหน่งผู้ดูแลอีกต่อไป”

ร่างกายไป๋หลั่วสั่นสะท้าน “ท่าน…ข้าน้อยผู้ต่ำต้อยเพียงทำตามขั้นตอนเท่านั้น โปรดอย่าทำให้ข้าลำบากเลยขอรับ…หากเป็นตามที่ท่านกล่าว ได้โปรดแสดงพระราชโองการขององค์จักรพรรดิด้วย ข้าน้อยไม่มีทางก่อกบฏและจะถอยทัพออกทันที”

หลินมู่อวี่ตะลึงและอดไม่ได้ที่จะสาปแช่งในใจ จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ต้องรู้ว่าพระราชโองการอยู่ที่ตู้ไห่ จึงกล้าก่อปัญหาให้เช่นนี้

“ล้อมรอบพวกเราได้เลยหากเจ้าต้องการ!”

ทันใดนั้นหลินมู่อวี่ก็ชักกระบี่พร้อมกวาดออกไปบนพื้น ปราณยุทธ์หลั่งไหลพร้อมฝุ่นตลบจนเกิดร่องขนาดใหญ่ชั่วพริบตา หลินมู่อวี่มองเหล่าทหารเขตอวิ้นจงตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา “ใครกล้าข้ามเส้นนี้มาข้าจะฆ่าอย่างไม่ปรานี!”

หลินมู่อวี่จ้องมองไป๋หลั่วและกล่าวด้วยรอยยิ้มเย็นชา “ข้ารู้ว่าเจ้าคิดสิ่งใด รอก่อนเถิด ข้าจะทำตามที่เจ้าปรารถนาเอง”

ไป๋หลั่วตะลึงและเผยสีหน้ากระวนกระวาย

…………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา 238 ผู้อยู่เบื้องหลัง

Now you are reading The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา Chapter 238 ผู้อยู่เบื้องหลัง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

วันเวลาผันผ่านไปในพริบตา ทหารของสำนักอัศวินทำได้เพียงยิงธนูไม่กี่ดอก และตกลงพื้นก่อนจะถึงกลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาด การยั่วยุเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าจนเริ่มทำให้ทหารของสำนักอัศวินอ่อนแรง

เมื่อถึงเวลาพลบค่ำทหารสำนักอัศวินก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน ประตูเปิดออกพร้อมทหารชำนาญการกว่าร้อยนายพุ่งตัวออกมาพร้อมคำรามลั่น

“โจมตี!!”

หลัวอวี่ออกคำสั่ง ทันใดนั้นทหารรับจ้างมังกรผงาดและกองทัพทะลวงนภาที่ซ่อนตัวอยู่พลันยิ่งธนูออกมาราวกับห่าฝน ทหารนับร้อยส่งเสียงร้องครวญครางอย่างน่าเวทนา มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถหลบหนีได้

เว่ยโฉวชี้ไปที่ถังน้ำซึ่งผูกไว้บนหลังม้า “เป็นไปตามที่ท่านแม่ทัพพูด พวกมันเริ่มขาดแคลนน้ำแล้ว และออกมาเสี่ยงตายเพียงเพื่อจะเอาน้ำ!”

หลินมู่อวี่พยักหน้า “อืม พลธนูตื่นตัวไว้ ขุดหลุมกับดักด้านหลังและเตรียมโจมตีระลอกถัดไป!”

ฉีหยิงตกตะลึง “ท่านแม่ทัพแน่ใจได้อย่างไรว่าพวกมันจะลงมาอีกครั้ง?”

หลินมู่อวี่เผยรอยยิ้มมั่นใจ “ง่ายมาก ทหารนับร้อยเหล่านี้เป็นเพียงการทดสอบว่าเรามีจำนวนเท่าใดที่ล้อมรอบภูเขาขวานไฟแห่งนี้ การโจมตีครั้งถัดไปคงมีกองกำลังอย่างน้อยสองร้อยนาย ซึ่งพลธนูแนวหน้าคงไม่สามารถป้องกันได้อย่างแน่นอน เช่นนั้นจงขุดกับดักเพิ่มและตรวจสอบให้มั่นใจว่าเราจะสูญเสียน้อยที่สุด”

“เป็นเช่นนี้เอง” ฉีหยิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านแม่ทัพคิดอย่างรอบคอบโดยแท้จริง…”

ขณะเดียวกัน ก็มีนกสีขาวนวลบินโฉบบนหัวพวกเขาพร้อมส่งเสียงร้องแผ่วเบา ทันใดนั้นหลินมู่อวี่ก็เงยหน้าขึ้นพร้อมมีความคิดหนึ่งแล่นเข้ามา “เว่ยโฉว ยิงนกลงมา”

“ขอรับ!”

เว่ยโฉวง้างคันธนู ‘ฟิ้ว!’ ธนูกลืนปีศาจส่งลูกธนูขึ้นสู่ท้องฟ้าปลิดชีพนกทันที จากนั้นทหารกองทัพทะลวงนภาก็หยิบซากนกมาให้ “นี่ขอรับท่านแม่ทัพ”

หลินมู่อวี่รับซากนกมาและมองไปที่ส่วนเท้า เป็นดังคาด! มันมีจดหมายขนาดเล็กติดอยู่ หลินมู่อวี่เปิดจดหมายก็พบข้อความที่เขียนไว้ว่า ‘กำลังเสริมจะมาถึงในอีกสองวัน’

เว่ยโฉวขมวดคิ้ว “สำนักอัศวินมีกำลังเสริมหรือขอรับ? นั่นมาจากศูนย์บัญชาการของมันหรือไม่?”

“ข้าไม่มั่นใจ”

หลินมู่อวี่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล “เว่ยโฉว นกตัวนี้บินมาจากทิศที่ตั้งของเมืองห้าหุบเขา จงจัดพลธนูเฝ้าดูทิศนั้นซะ แล้วยิงนกส่งสารทั้งหมด”

เว่ยโฉวพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม “ขอรับ!”

เมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าก็มีเมฆหนาทึบบดบังแสงดาวและแสงจันทร์ แม้แต่ฉีหยางก็รู้สึกได้ถึงจิตสังหารอันหนาวเหน็บ “ค่ำคืนนี้คงไม่ผ่านไปโดยง่าย…”

หลินมู่อวี่ผิงไฟเพื่อความอบอุ่นพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ทุกคนระวังตัวให้ดี”

“ขอรับ!”

ก่อนรุ่งสางก็เกิดเสียงดังขึ้นบนยอดเขาพร้อมเสียงกีบเท้าม้าดังกึกก้อง สำนักอัศวินเริ่มโจมตีอีกครั้ง!

ประตูภูเขาเปิดออก ทันใดนั้น! ทหารชำนาญการจำนวนนับไม่ถ้วนถือโล่และดาบพุ่งออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวขณะที่คำรามลั่น “ฆ่ามัน! กำจัดหมารับใช้จักรวรรดิให้สิ้นซาก!”

มีทหารราบราวหนึ่งพันห้าร้อยนายและทหารม้าห้าร้อยนาย ดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการใช้โล่เพื่อกันลูกธนูก่อนจะส่งทหารม้าออกไป

หลินมู่อวี่ยืนอยู่บนต้นไม้ใหญ่ขณะที่มีน้ำค้างแข็งปกคลุมบนไหล่ เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ฝันไปเถิด…”

ฉีหยิงควบม้าเข้ามาพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านแม่ทัพ ถึงเวลาโจมตีหรือยังขอรับ?”

“อืม เจ้าสามารถลงมือทันทีที่มันฝ่าวงล้อมด่านที่สองมาได้”

“ขอรับ!”

คบเพลิงจำนวนมหาศาลสว่างไสวขณะที่เหล่าทหารชำนาญการพุ่งตัวออกมา เสียงร้องคำรามดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ

“โจมตี!!”

เว่ยโฉวตะโกนดังลั่นขณะที่ยิงลูกธนูรวดเร็วดั่งแสงทะลวงทหารสามนายทันที! ภายในกองทัพ มีเพียงเว่ยโฉวผู้เดียวที่มีความแข็งแกร่งและแม่นยำมาก

‘ฟิ้ว ฟิ้ว…’

ธนูในมือหลินมู่อวี่ส่งเสียงดังน่าเกรงขาม ลูกธนูปกคลุมไปด้วยปราณยุทธ์ จึงสามารถแทงทะลุโล่ของทหารชำนาญการทันทีจนเกิดแรงระเบิดอันทรงพลัง!

“ท่านแม่ทัพแข็งแกร่งอย่างแท้จริง!”

ทหารกองทัพทะลวงนภาได้รับการปลุกใจหลังจากที่เห็น ทั้นใดนั้น! ก็ยิงธนูออกไปราวกับห่าฝนสังหารทหารสำนักอัศวินทันที! กระนั้นลูกธนูส่วนใหญ่ก็ตกลงบนโล่และมิได้สร้างความเสียหายแก่ศัตรูมากนัก ทำให้ทหารสำนักอัศวินเข้าใกล้มากขึ้นจนถึงระยะยี่สิบเมตร

“ถอย!”

หลินมู่อวี่ออกคำสั่งขณะที่ปามีดเสียงปีศาจสี่เล่มออกไป มันพุ่งไปหลายทิศทางอย่างรวดเร็วก่อนทะลุผ่านร่างทหารหลายนาย! จากนั้นหลินมู่อวี่จึงค่อยๆ ดึงพลังกลับและมีดเสียงปีศาจก็กลับมาเป็นหนึ่งเดียวพร้อมบินกลับมาหาเขาหลังสังหารศัตรูไปหลายสิบคน

ภายใต้แสงคบเพลิง ทหารชำนาญการนายหนึ่งร่างกายปกคลุมไปด้วยปราณแท้คำรามกึกก้อง “สังหารหมารับใช้จักรวรรดิพวกนี้ให้หมด!!”

เสียงเท้าม้าดังกึกก้องขณะที่ทหารม้าของสำนักอัศวินพุ่งออกมาพร้อมหอกยาว ทันใดนั้น! ก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าเวทนาเมื่อติดกับดักในวงล้อมด่านที่สอง ทหารและม้าหลายร้อยตกลงไปในหลุมที่ขุดไว้ กองทัพทะลวงนภาและกลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาดพลันแทงปลายหอกใส่ศัตรูอย่างบ้าคลั่งพร้อมเลือดสาดกระจาย พวกเขาสังหารอีกฝ่ายอย่างไร้ปรานี!

‘ชิ้ง!’

หลินมู่อวี่ดึงทวนหลีฮวาออกมา ก่อนจะตวัดทวนพร้อมเกิดดอกสาลี่เยือกแข็งที่ปลายหอก จากนั้นก็คำรามก้อง “ฆ่ามัน!!”

ทันใดนั้นก็มีเสียงเท้าม้าดังก้องอ้อมหลุมกับดักขณะที่ทหารรับจ้างมังกรผงาดนับพันพุ่งใส่ศัตรูอย่างบ้าคลั่ง! พวกเขาส่งหอกยาวทะลวงก่อนศัตรูจะถึงตัว ซึ่งเป็นการโจมตีที่ทรงพลังกว่าลูกธนูมาก! เหล่าทหารม้าหนักประชิดตัวศัตรูและสังหารได้อย่างรวดเร็วจนทำให้อีกฝ่ายเสียขวัญและกลายเป็นเป้านิ่ง!

กลิ่นคาวเลือดตลบอบอวลในอากาศ ศึกครานี้กินเวลากว่าหนึ่งชั่วโมงก่อนจะจบสิ้น ท้ายที่สุดสำนักอัศวินก็สูญเสียราชทูตไปอีกคน ทหารกว่าสองร้อยนายที่เหลือหนีกลับขึ้นภูเขาขณะที่บนถนนปกคลุมไปด้วยซากศพซึ่งมองดูน่าสังเวช

เว่ยโฉวกล่าวอย่างตื่นเต้น “ในที่สุดก็ได้สั่งสอนกบฏเหล่านี้ว่าพวกเราแข็งแกร่งถึงเพียงไหน!!”

ฉีหยิงเช็ดเลือดออกจากหอกและกล่าวอย่างภาคภูมิใจ “พวกมันคงไม่กล้าลงจากภูเขาเพื่อหาน้ำอีกแล้ว!”

“เราสูญเสียไปเท่าใด?”

หลินมู่อวี่ถือทวนหลีฮวาพร้อมขึ้นหลังม้า

หลัวอวี่ประสานมือ “กลุ่มทหารรับจ้างมังกรผงาดสูญเสียทหารราวยี่สิบนาย ขณะที่กองทัพทะลวงนภาสูญเสียทหารราวร้อยนาย โชคดีที่ท่านหลินมู่อวี่ใช้กลยุทธ์ที่ชาญฉลาด มิเช่นนั้นเหล่าทหารคงล้มตายมากกว่านี้”

“อืม เข้าใจแล้ว…”

หลินมู่อวี่ขมวดคิ้ว แท้จริงแล้วเขาวางแผนเพื่อมิให้มีการบาดเจ็บล้มตายเลย ทว่าก็มีปัจจัยมากเกินไปที่จะทำสำเร็จ

“เอาล่ะ ทุกคนไปพักผ่อนได้ เราจะไม่เคลื่อนทัพไปไหนในคืนนี้”

“ขอรับท่านแม่ทัพ!”

เหล่าทหารต่างหลับสนิท ส่วนหลินมู่อวี่นอนโคจรหลอมกระดูกมังกรอยู่ในกระโจมขณะที่ปลดปล่อยทักษะชีพจรวิญญาณ ราวกับว่าจิตใจของหลินมู่อวี่กลับสู่ธรรมชาติแล้วหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับสวรรค์และแผ่นดิน ซึ่งทำให้เขานอนหลับสนิทอย่างไม่กังวลใจ

“แย่แล้วขอรับท่านแม่ทัพ!”

จู่ๆ เสียงของเว่ยโฉวก็ดังขึ้นจากด้านนอก

หลินมู่อวี่ลุกขึ้นยืนพร้อมคว้ากระบี่ทันที ก่อนจะออกจากกระโจมและถามว่า “มีสิ่งใดหรือ?”

เว่ยโฉวมีสีหน้าจริงจังขณะที่รายงาน “เช้านี้กองทัพจักรวรรดิจากเขตอวิ้นจงปรากฏตัวขึ้นที่ภูเขาขวานไฟและล้อมรอบเราอยู่ ข้าไม่ทราบว่าด้วยเหตุอันใด?”

“เจ้าส่งคนไปเจรจาหรือยัง?”

“ยังขอรับ”

“มากับข้า”

“ขอรับ!”

หลินมู่อวี่ควบม้าออกไปพร้อมกลุ่มองครักษ์อวี้หลิน ก่อนจะพบกลุ่มทหารในชุดเกราะของกองทัพหลวงกำลังล้อมรอบกลุ่มทหารของตน

“เกิดอะไรขึ้น?”

หลินมู่อวี่ขมวดคิ้วและเดินออกไป “ใครคือผู้นำทัพ?”

โล่ค่อยๆ เปิดออกพร้อมชายผู้หนึ่งสวมชุดเสนาบดีขี่ม้าออกมาด้านหน้า เขาประสานมือก่อนกล่าวว่า “ข้าคือผู้ดูแลเขตอวิ้นจงนามว่าไป๋หลั่ว ยินดีที่ได้พบท่านหลินมู่อวี่ขอรับ”

“ไป๋หลั่ว เจ้านำทหารมาล้อมรอบพวกเราเช่นนี้ หมายความว่าอย่างไร?” หลินมู่อวี่ถามด้วยความโกรธ

ไป๋หลั่วเผยรอยยิ้มจางๆ “รายงานท่านหลินมู่อวี่ ภูเขาขวานไฟแห่งนี้อยู่ในภายใต้อำนาจของเขตอวิ้นจง เนื่องจากมีกลุ่มทหารรับจ้างจากภูเขาหลงหยานเข้ามาป้วนเปี้ยน ในฐานะผู้ดูแล ข้าจึงต้องนำทหารมาตรวจสอบขอรับ”

หลินมู่อวี่หยิบเหรียญออกมาและพูดว่า “เหรียญแม่ทัพองครักษ์ทิศใต้อยู่ที่นี่ เมื่อเห็นแล้วก็ถอยทัพออกไปซะ”

“ไม่สามารถทำได้ขอรับ”

“ไม่ได้? หมายความว่าอย่างไร?”

ไป๋หลั่วยังคงยิ้มเช่นเดิมขณะที่โค้งคำนับ “เขตอวิ้นจงอยู่ภายใต้เขตอำนาจของเมืองห้าหุบเขา การต่อสู้ในพื้นที่จะเป็นการสร้างความเดือดร้อนแก่คนของข้า ดังนั้น…ก่อนที่ทหารแห่งเมืองห้าหุบเขาจะมา ไป๋หลั่วไม่สามารถถอนกำลังทัพได้ มิเช่นนั้นข้าน้อยคงได้รับโทษจากท่านผู้ว่าขอรับ”

หลินมู่อวี่ขบฟันแน่นด้วยความโกรธ

เว่ยโฉวกระซิบด้านข้าง “เจ้าจิ้งจอกเฒ่านี่มิเคยสนใจแม้จะมีกลุ่มทหารรับจ้างฆ่ากันตาย ทว่ากลับมาล้อมรอบเราเช่นนี้…ช่างไร้สาระ!!”

หลินมู่อวี่ขี่ม้าออกมาอย่างเชื่องช้าขณะที่มองหน้าเหี่ยวย่นของไป๋หลั่ว “ท่านผู้ดูแล การที่มาล้อมรอบพวกเราเช่นนี้ ข้าสงสัยว่าท่านกำลังสมรู้ร่วมคิดกับสำนักอัศวิน…หากเป็นเช่นนั้น เมื่อข้าทูลต่อฝ่าบาท เกรงว่าเจ้าจะไม่ได้ดำรงตำแหน่งผู้ดูแลอีกต่อไป”

ร่างกายไป๋หลั่วสั่นสะท้าน “ท่าน…ข้าน้อยผู้ต่ำต้อยเพียงทำตามขั้นตอนเท่านั้น โปรดอย่าทำให้ข้าลำบากเลยขอรับ…หากเป็นตามที่ท่านกล่าว ได้โปรดแสดงพระราชโองการขององค์จักรพรรดิด้วย ข้าน้อยไม่มีทางก่อกบฏและจะถอยทัพออกทันที”

หลินมู่อวี่ตะลึงและอดไม่ได้ที่จะสาปแช่งในใจ จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ต้องรู้ว่าพระราชโองการอยู่ที่ตู้ไห่ จึงกล้าก่อปัญหาให้เช่นนี้

“ล้อมรอบพวกเราได้เลยหากเจ้าต้องการ!”

ทันใดนั้นหลินมู่อวี่ก็ชักกระบี่พร้อมกวาดออกไปบนพื้น ปราณยุทธ์หลั่งไหลพร้อมฝุ่นตลบจนเกิดร่องขนาดใหญ่ชั่วพริบตา หลินมู่อวี่มองเหล่าทหารเขตอวิ้นจงตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา “ใครกล้าข้ามเส้นนี้มาข้าจะฆ่าอย่างไม่ปรานี!”

หลินมู่อวี่จ้องมองไป๋หลั่วและกล่าวด้วยรอยยิ้มเย็นชา “ข้ารู้ว่าเจ้าคิดสิ่งใด รอก่อนเถิด ข้าจะทำตามที่เจ้าปรารถนาเอง”

ไป๋หลั่วตะลึงและเผยสีหน้ากระวนกระวาย

…………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+