The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา 241 ถูกล้อม

Now you are reading The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา Chapter 241 ถูกล้อม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เพราะการตายของกวนหลงเซิงทำให้ทหารเหรียญทองและทหารเหรียญเงินไม่มีใจจะสู้ต่อ ต่างพากันคุกเข่าร่ำร้องด้วยสีหน้าซีดเผือด “ท่านราชทูตใหญ่…ท่านตายอย่างน่าเศร้ายิ่งนัก!” “พวกเจ้าจะร้องไห้ทำไมกัน?!” เซี่ยโหวซางคลานออกมาพร้อมกับชูหอกขึ้น “วางอาวุธเสียแล้วข้าจะไว้ชีวิต หรือไม่ก็ตายตามหัวหน้าพวกเจ้าไป!” “เรายอมแพ้แล้ว…” สมาชิกสำนักอัศวินวางอาวุธลงด้วยไม่อยากถูกสังหาร “เราจะทำอย่างไรต่อไปขอรับท่าน?” ฉีหยิงคำนับพลางเอ่ยถาม “ข้าคิดว่าในเมื่อเรายึดภูเขาได้อีกทั้งพวกมันก็ยอมแพ้แล้ว เท่านี้ภารกิจก็เสร็จสิ้นแล้วใช่หรือไม่ขอรับ? เช่นนั้นเราน่าจะรีบลงเขาไปแต่โดยเร็ว?” หลินมู่อวี่พยักหน้า “แม่ทัพฉีหยิงนำทหารม้าทะลวงนภาลงเขาไปรอข้าก่อนได้เลย” “ขอรับ!” ฉีหยิงขึ้นควบม้าและจากไป เว่ยโฉวถาม “แล้วเราทำอย่างไรต่อขอรับ?” “เรียกรวมกำลังพลที่เหลือแล้วตามข้ามา” “ขอรับ!” เสียงขุดดังอย่างต่อเนื่องจากทางเหมืองภูเขาขวานไฟ เมื่อทหารรับจ้างมังกรผงาดกว่าพันคนพร้อมอาวุธครบมือปรากฏกายขึ้น ทหารชำนาญการที่อยู่บริเวณนั้นต่างตกตะลึงและยอมแพ้โดยทันใด คนเหล่านี้เข้าร่วมสำนักอัศวินเพียงเพื่อต้องการชีวิตที่ดีขึ้นเท่านั้น ด้วยเหตุนี้นอกจากคนที่ไร้จริยธรรมแล้วสามารถเปลี่ยนมาเข้าร่วมกับกลุ่มมังกรผงาดได้ หลินมู่อวี่ที่สวมชุดศึกเทวะกระชับกระบี่แล้วเดินนำเว่ยโฉว เซี่ยโหวซางและคนอื่นๆ เข้าไปในเหมือง ต้านู๋เมื่อเห็นหลินมู่อวี่ก็เบิกตาโพลงจำได้ทันที “เจ้า…เจ้าคือน้องหลินจื้อมิใช่หรือ?” เว่ยโฉวเอ็ด “เสียมารยาท ท่านผู้นี้คือผู้บัญชาการองครักษ์อินทรีหลินมู่อวี่ และล่าสุดเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นแม่ทัพองครักษ์ทิศใต้!” “อะไรกัน…” ต้านู๋รีบคุกเข่าด้วยความสั่นกลัว “ยินดีที่ได้พบขอรับ…ข้าน้อยไม่รู้ว่าท่านคือ…เป็นความผิดข้าเอง โด้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย!” หลินมู่อวี่คลี่ยิ้มก่อนจะเดินเข้าไปพยุงต้านู๋ขึ้น “พี่ต้านู๋ หลินจื้อก็คือชื่อข้าเหมือนกันดังนั้นอย่าได้กลัวไปเลย ทหารจักรวรรดิหาใช่ข้ารับใช้ชอบเข่นฆ่าเช่นพวกท่านกล่าวหาไม่ หากท่านยอมแพ้แล้วก็จงมาเข้าร่วมกับเรา หรือหากไม่ต้องการก็รับเหรียญทองแล้วกลับบ้านไปเสีย หากมีข้าจะไม่มีผู้ใดกล้าแตะท่านแม้ผมเส้นเดียว!” ต้านู๋นิ่งค้างราวน้ำแข็งด้วยความตกใจ เว่ยโฉวแอบหัวเราะ “คนโง่ก็คือคนโง่จริงๆ” เซี่ยโหวซางมองไปโดยรอบ “พระเจ้า นี่มันเหมืองทองชัดๆ ไอ้พวกสำนักอัศวินแอบมาขุดแร่ทองแล้วไม่จ่ายให้กรมหลวง…” “นกตายเพื่ออาหารฉันใดคนก็ตายเพื่อเงินฉันนั้นเป็นธรรมชาติ” หลินมู่อวี่กล่าว หลินมู่อวี่หรี่ตาลงก่อนจะกล่าวต่อ “แต่ข้าเกรงว่าความจริงคงไม่ง่ายดายเพียงนั้น แร่ทองนี้เป็นของหูเถี่ยหนิง หากดูจากนิสัยของเขาแล้ว…คงไม่ยอมรับผิดในเรื่องนี้อย่างแน่นอน” หลินมู่อวี่หันมากล่าวด้วยท่าทีจริงจัง “ฟังข้าให้ดี! แร่ทองพวกนี้ถูกกวนหลงเซิงแห่งสำนักอัศวินชางหนานลักลอบขุดขึ้นมา มิได้เกี่ยวข้องอันใดกันหูเถี่ยหนิงแห่งเมืองห้าหุบเขา ฉะนั้นหากใครก็ตามกล้าใส่ความเขา…ข้าจะตัดหัวมันเอง!” หลัวอวี่ เว่ยโฉวและคนอื่นๆ ประหลาดใจ “ท่าน…แบบนี้มัน…” เฟิงสี่ยิ้มและคำนับ “ปราดเปรื่องยิ่งขอรับ!” … ในที่สุดทุกคนก็ลงมาถึงชั้นล่างสุดของเหมืองโดยใช้เวลาไม่ถึงสองชั่วโมง กระทั่งพบแร่เพชรขาวอยู่เบื้องหน้า “หินพวกนี้คือ…เพชรหรือ?” เว่ยโฉวถามด้วยความใคร่รู้ หลินมู่อวี่พยักหน้า “หลัวอวี่และเฟิงสี่ รีบสั่งให้ทหารมังกรผงาดลงมาและเก็บเพชรสีขาวนี้ให้หมดแล้วนำไปยังเขาผามังกร” หลัวอวี่ยิ้มรับ “ขอรับ!” หลินมู่อวี่เดินไปก่อนจะหยุดแล้วใช้กระบี่วิญญาณมังกรของตนขุดพื้นเหมืองดู ก่อนจะพบว่ามีแร่เพชรสีขาวอยู่จำนวนมาก ทว่าหากขุดลึกไปจะเป็นแร่ทอง เว่ยโฉวที่เข้าใจการกระทำของหลินมู่อวี่ได้เอ่ยขึ้น “เพชรสีขาวจะถูกพบในชั้นที่มีพลังวิญญาณมากและที่เห็นนี้คือทั้งหมดแล้ว ซึ่งขุดได้มากเช่นนี้ก็นับว่าโชคดียิ่งขอรับ แค่นี้ก็มีมูลค่ามากกว่าครึ่งของเบี้ยเลี้ยงทั้งจักรวรรดิแล้ว” หลินมู่อวี่พยักหน้า “อืม เท่านี้ก็พอ เช่นนั้นก็รีบเก็บแล้วไปกันเถิด” เซี่ยโหวซางสับสน “ท่าน…แล้วแร่ทองเล่าขอรับ?” “การแอบขุดแร่ทองนั้นมีโทษถึงประหารชีวิต” หลินมู่อวี่หันไปพูดกับเซี่ยโหวซางด้วยรอยยิ้ม “เซี่ยโหวซาง…เจ้าอยากปหกกฎอาณาจักรรึ?” “ข้า…” เซี่ยโหวซางได้แต่ยืนยิ้ม “ท่านนี่ช่างฉลาดจริงเชียว…” หลินมู่อวี่ยังไม่ไปไหนและนั่งมองหลัวอวี่ เว่ยโฉวกับคนอื่นๆ ขุดหาเพชรสีขาวอยู่ในเหมือง กระทั่งเรียบร้อยเขาก็นำแร่เพชรใส่ในถุงสรรพสิ่งจนเต็มอย่างรวดเร็ว โดยสามารถจุไว้ในถุงสรรพสิ่งได้แปดร้อยชิ้น ส่วนที่เหลืออีกเจ็ดร้อยแบ่งใส่ในย่ามเดินทางของทหารรับจ้างมังกรผงาด จู่ๆ หัวหน้าหน่วยพยัคฆ์ของกลุ่มมังกรผงาดก็เข้ามาคำนับพร้อมเอ่ยขึ้น “ท่านผู้นำ…มีคนจากค่ายเขาเหินมาและบอกว่าหากเราไม่ออกจากถ้ำพวกมันจะโจมตี แม่ทัพฉีหยิงแห่งกองทัพทะลวงนภาแทบจะต้านไม่อยู่แล้ว รีบออกไปดูเถิดขอรับ!” “หืม?” หลินมู่อวี่ตาลุกโชน “ในที่สุดหลงเซียนหลินก็มาถึงแล้วรึ?” “หลงเซียนหลินคือแม่ทัพอันดับหนึ่งแห่งมณฑลชางหนาน เราไม่มีคนมากพอจะต่อต้านขอรับท่าน…” หลัวอวี่เปรยขึ้น “ข้ารู้” หลินมู่อวี่ขมวดคิ้ว “พวกเจ้ามากับข้า ส่วนคนที่เหลือขุดเหมืองต่อไป” “ขอรับ!” หลินมู่อวี่ออกจากเหมืองควบม้านำทัพมังกรผงาดสามพันคนลงเขาไป รุ่งสางมาเยือนพร้อมกับแสงอาทิตย์ที่เริ่มสาดส่องไปทั่วจนย้อมภูเขาขวานไฟเป็นสีแดง เมื่อลงมายังตีนเขาก็พบว่ามีรอยเลือดเกาะหญ้าเป็นหย่อมๆ กระทั่งมาถึงทางขึ้นเขาที่มีการต่อสู้นองเลือดอยู่ ทั่วพื้นที่กระจัดกระจายไปด้วยศพ เกราะรบของฉีหยิงชุ่มโชกไปด้วยเลือดขณะควบม้ามาพร้อมกับหอกยาวในมือ “ข้าได้เข้าปะทะกับหลงเซียนหลินและถูกตีกลับด้วยขบวนหอกจากกลางเขาขอรับ…” “นี่เจ้า!” หลินมู่อวี่พยายามระงับความโกรธและพูดขึ้นอย่างใจเย็น “จะแพ้หรือชนะไม่ใช่เรื่องสำคัญ มากับข้า” “ขอรับท่าน…” มีศพนอนก่ายกองบริเวณไหล่เขาราวห้าร้อยศพ สี่ร้อยในนั้นเป็นทหารจากทัพทะลวงนภา ที่เหลือเป็นของค่ายเขาเหิน ทั้งสองฝั่งยังคงปะทะกันอยู่ ณ ป้อมปราการพังที่ถูกซ่อมแซมจนกลับมาใช้ได้ใหม่ หลินมู่อวี่เห็นสถานการณ์ทั้งหมดก่อนจะเอ่ยขึ้น “เว่ยโฉว นำพลธนูไปที่ป้อมปราการและดักยิงพวกค่ายเขาเหินที่ผ่านมาโดยเล็งไปที่ตาและคอเป็นหลัก” “คอยดูได้เลยขอรับ!” หลินมู่อวี่กล่าว “หลัวอวี่ ส่งทหารมังกรผงาดที่ร่างกายกำยำตามไปที่ป้อมด้วย หากศัตรูโผล่มาให้ใช้ก้อนหินทุ่มใส่พวกมัน” “รับทราบขอรับ!” “เฟิงสี่ สั่งให้คนลงจากม้าและใช้โล่กันธนู” “ขอรับ!” หลังจากออกคำสั่ง หลินมู่อวี่ก็ไปยังประตูเล็กพร้อมกับกระบี่วิญญาณมังกร เมื่อหันมองโดยรอบจึงพบว่าทั้งภูเขาขวานไฟถูกล้อมไว้หมดแล้ว มีกองทัพอย่างต่ำสามพันนายอยู่ตีนเขา พร้อมกับทหารชั้นยอดของค่ายเขาเหินที่นำโดยหลงเซียนหลิน แม่ทัพอันดับหนึ่งแห่งชางหนาน แทบไม่มีโอกาสชนะในศึกนี้… หลินมู่อวี่ใช้ปราณยุทธ์ช่วยกระจายเสียงให้ได้ยินไปทั่ว “ท่านหลงเซียนหลิน ตั้งแต่ที่เมืองห้าหุบเขา ข้าไม่คิดเลยว่าเราจะได้เจอกันอีกครั้งในสถานการณ์เช่นนี้” ณ ขบวนทหารม้า ชายสวมเกราะดำคนหนึ่งถือหอกก้าวออกมา “ท่านหลินมู่อวี่ ข้า…หลงเซียนหลินก็ไม่คิดว่าเราจะได้เจอกันเช่นนี้ กระทั่งท่านได้ลักลอบนำทหารเข้ามณฑลชางหนานแล้วเข่นฆ่าทหารอวิ้นจงกว่าร้อยคน ตอนนี้ท่านเป็นผู้ต้องสงสัยว่าจะทรยศ ด้วยเหตุนี้ข้าจึงไม่มีทางเลือกนอกจากล้อมเขานี้ไว้” หลินมู่อวี่หัวเราะ “แม่ทัพหลงเซียนหลินคิ้วแทบไม่ขยับเลยนะขอรับเวลาพูดโกหก ช่างสมกับเป็นดาราแห่งยุคจริงเชียว เหตุใดข้าจึงขึ้นมายังภูเขาแห่งนี้ และเหตุใดท่านจึงอยู่ที่นี่ แม่ทัพหลงเซียนหลินไม่นึกสงสัยบ้างหรือขอรับ?” หลงเซียนหลินหัวเราะอย่างเย็นชา “ท่านหลินมู่อวี่เป็นถึงหนึ่งในสี่วีรบุรุษแห่งเมืองหลันเยี่ยนที่องค์จักรพรรดิแต่งตั้งและมีชื่อเสียงไปทั่วอาณาจักร อีกทั้งยังได้รับสมญาว่าแม่ทัพองครักษ์ทิศใต้ที่ถูกจดจำในฐานะแม่ทัพผู้มีอนาคตไกลที่สุดในอาณาจักร หลงเซียนหลินผู้นี้รู้สึกโชคดีมากที่ได้มีโอกาสลิ้มลองทักษะของท่านเสียที ว่าอย่างไรกล้าพอจะสู้กับข้าหรือไม่?” “เชิญเข้ามา” หลินมู่อวี่กล่าว “ชิ้ง!” หลงเซียนหลินชูดาบขึ้นพลางตะโกน “โจมตี!” กองทัพค่ายเขาเหินหนึ่งพันคนเข้าจู่โจมด้วยรูปแบบกวาดล้าง พวกเขายกโล่ขึ้นป้องกันตนเองและพรรคพวกเมื่อเข้าสู่ระยะยิง เดินหน้าด้วยโล่เหล็กอย่างไม่เกรงกลัว หลินมู่อวี่แอบยกย่องการจัดทัพของกองทหารนี้ หลงเซียนหลินช่างปราดเปรื่องสมฉายาแม่ทัพผู้มีชื่อเสียงแห่งยุคมืด ทุกคนในทัพเองก็ช่ำชองการรบไม่ต่างจากผู้นำของพวกเขาที่ฝีมือเก่งกาจยิ่งกว่าที่เล่าขานกันมา “ยิง!” เมื่อได้ยินคำสั่งจากเว่ยโฉวธนูพันดอกก็ถูกยิงจากกำแพงหิน พลธนูของทหารจักรวรรดิและกลุ่มมังกรผงาดต่างระดมยิง ฝนธนูพุ่งปักโล่เหล็ก บ้างก็โดนเบ้าตาและลำคอของทหารค่ายเขาเหิน เสียงร้องระงมดังไปทั่วเมื่อหลายคนถูกธนูแหลมปลิดชีพ กระทั่งขบวนโล่เริ่มมีช่องโหว่ หลงเซียนหลินร่นไปอยู่หลังขบวนทหารม้าก่อนจะชูดาบขึ้นพร้อมออกคำสั่ง “ขว้างหอก!” “เคร้ง…เคร้ง…” โล่ในมือถูกลดระดับลงในทันใด ทหารค่ายเขาเหินกว่าพันคนตั้งท่าขว้างหอกจากหลังม้าก่อนจะขว้างมันออกไป! “หมอบลง!” หลินมู่อวี่ตะโกนสั่งให้ทุกคนหมอบลงใต้กำแพง ทว่ายังมีคนที่หลบไม่ทันถูกหอกขว้างปัก เพียงพริบตาเดียวก็มีคนถูกฆ่าและบาดเจ็บอีกเป็นสิบ ……………………

เพราะการตายของกวนหลงเซิงทำให้ทหารเหรียญทองและทหารเหรียญเงินไม่มีใจจะสู้ต่อ ต่างพากันคุกเข่าร่ำร้องด้วยสีหน้าซีดเผือด “ท่านราชทูตใหญ่…ท่านตายอย่างน่าเศร้ายิ่งนัก!”

“พวกเจ้าจะร้องไห้ทำไมกัน?!”

เซี่ยโหวซางคลานออกมาพร้อมกับชูหอกขึ้น “วางอาวุธเสียแล้วข้าจะไว้ชีวิต หรือไม่ก็ตายตามหัวหน้าพวกเจ้าไป!”

“เรายอมแพ้แล้ว…”

สมาชิกสำนักอัศวินวางอาวุธลงด้วยไม่อยากถูกสังหาร

“เราจะทำอย่างไรต่อไปขอรับท่าน?” ฉีหยิงคำนับพลางเอ่ยถาม “ข้าคิดว่าในเมื่อเรายึดภูเขาได้อีกทั้งพวกมันก็ยอมแพ้แล้ว เท่านี้ภารกิจก็เสร็จสิ้นแล้วใช่หรือไม่ขอรับ? เช่นนั้นเราน่าจะรีบลงเขาไปแต่โดยเร็ว?”

หลินมู่อวี่พยักหน้า “แม่ทัพฉีหยิงนำทหารม้าทะลวงนภาลงเขาไปรอข้าก่อนได้เลย”

“ขอรับ!”

ฉีหยิงขึ้นควบม้าและจากไป

เว่ยโฉวถาม “แล้วเราทำอย่างไรต่อขอรับ?”

“เรียกรวมกำลังพลที่เหลือแล้วตามข้ามา”

“ขอรับ!”

เสียงขุดดังอย่างต่อเนื่องจากทางเหมืองภูเขาขวานไฟ เมื่อทหารรับจ้างมังกรผงาดกว่าพันคนพร้อมอาวุธครบมือปรากฏกายขึ้น ทหารชำนาญการที่อยู่บริเวณนั้นต่างตกตะลึงและยอมแพ้โดยทันใด คนเหล่านี้เข้าร่วมสำนักอัศวินเพียงเพื่อต้องการชีวิตที่ดีขึ้นเท่านั้น ด้วยเหตุนี้นอกจากคนที่ไร้จริยธรรมแล้วสามารถเปลี่ยนมาเข้าร่วมกับกลุ่มมังกรผงาดได้

หลินมู่อวี่ที่สวมชุดศึกเทวะกระชับกระบี่แล้วเดินนำเว่ยโฉว เซี่ยโหวซางและคนอื่นๆ เข้าไปในเหมือง ต้านู๋เมื่อเห็นหลินมู่อวี่ก็เบิกตาโพลงจำได้ทันที “เจ้า…เจ้าคือน้องหลินจื้อมิใช่หรือ?”

เว่ยโฉวเอ็ด “เสียมารยาท ท่านผู้นี้คือผู้บัญชาการองครักษ์อินทรีหลินมู่อวี่ และล่าสุดเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นแม่ทัพองครักษ์ทิศใต้!”

“อะไรกัน…”

ต้านู๋รีบคุกเข่าด้วยความสั่นกลัว “ยินดีที่ได้พบขอรับ…ข้าน้อยไม่รู้ว่าท่านคือ…เป็นความผิดข้าเอง โด้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย!”

หลินมู่อวี่คลี่ยิ้มก่อนจะเดินเข้าไปพยุงต้านู๋ขึ้น “พี่ต้านู๋ หลินจื้อก็คือชื่อข้าเหมือนกันดังนั้นอย่าได้กลัวไปเลย ทหารจักรวรรดิหาใช่ข้ารับใช้ชอบเข่นฆ่าเช่นพวกท่านกล่าวหาไม่ หากท่านยอมแพ้แล้วก็จงมาเข้าร่วมกับเรา หรือหากไม่ต้องการก็รับเหรียญทองแล้วกลับบ้านไปเสีย หากมีข้าจะไม่มีผู้ใดกล้าแตะท่านแม้ผมเส้นเดียว!”

ต้านู๋นิ่งค้างราวน้ำแข็งด้วยความตกใจ เว่ยโฉวแอบหัวเราะ “คนโง่ก็คือคนโง่จริงๆ”

เซี่ยโหวซางมองไปโดยรอบ “พระเจ้า นี่มันเหมืองทองชัดๆ ไอ้พวกสำนักอัศวินแอบมาขุดแร่ทองแล้วไม่จ่ายให้กรมหลวง…”

“นกตายเพื่ออาหารฉันใดคนก็ตายเพื่อเงินฉันนั้นเป็นธรรมชาติ” หลินมู่อวี่กล่าว

หลินมู่อวี่หรี่ตาลงก่อนจะกล่าวต่อ “แต่ข้าเกรงว่าความจริงคงไม่ง่ายดายเพียงนั้น แร่ทองนี้เป็นของหูเถี่ยหนิง หากดูจากนิสัยของเขาแล้ว…คงไม่ยอมรับผิดในเรื่องนี้อย่างแน่นอน”

หลินมู่อวี่หันมากล่าวด้วยท่าทีจริงจัง “ฟังข้าให้ดี! แร่ทองพวกนี้ถูกกวนหลงเซิงแห่งสำนักอัศวินชางหนานลักลอบขุดขึ้นมา มิได้เกี่ยวข้องอันใดกันหูเถี่ยหนิงแห่งเมืองห้าหุบเขา ฉะนั้นหากใครก็ตามกล้าใส่ความเขา…ข้าจะตัดหัวมันเอง!”

หลัวอวี่ เว่ยโฉวและคนอื่นๆ ประหลาดใจ “ท่าน…แบบนี้มัน…”

เฟิงสี่ยิ้มและคำนับ “ปราดเปรื่องยิ่งขอรับ!”

ในที่สุดทุกคนก็ลงมาถึงชั้นล่างสุดของเหมืองโดยใช้เวลาไม่ถึงสองชั่วโมง กระทั่งพบแร่เพชรขาวอยู่เบื้องหน้า

“หินพวกนี้คือ…เพชรหรือ?” เว่ยโฉวถามด้วยความใคร่รู้

หลินมู่อวี่พยักหน้า “หลัวอวี่และเฟิงสี่ รีบสั่งให้ทหารมังกรผงาดลงมาและเก็บเพชรสีขาวนี้ให้หมดแล้วนำไปยังเขาผามังกร”

หลัวอวี่ยิ้มรับ “ขอรับ!”

หลินมู่อวี่เดินไปก่อนจะหยุดแล้วใช้กระบี่วิญญาณมังกรของตนขุดพื้นเหมืองดู ก่อนจะพบว่ามีแร่เพชรสีขาวอยู่จำนวนมาก ทว่าหากขุดลึกไปจะเป็นแร่ทอง

เว่ยโฉวที่เข้าใจการกระทำของหลินมู่อวี่ได้เอ่ยขึ้น “เพชรสีขาวจะถูกพบในชั้นที่มีพลังวิญญาณมากและที่เห็นนี้คือทั้งหมดแล้ว ซึ่งขุดได้มากเช่นนี้ก็นับว่าโชคดียิ่งขอรับ แค่นี้ก็มีมูลค่ามากกว่าครึ่งของเบี้ยเลี้ยงทั้งจักรวรรดิแล้ว”

หลินมู่อวี่พยักหน้า “อืม เท่านี้ก็พอ เช่นนั้นก็รีบเก็บแล้วไปกันเถิด”

เซี่ยโหวซางสับสน “ท่าน…แล้วแร่ทองเล่าขอรับ?”

“การแอบขุดแร่ทองนั้นมีโทษถึงประหารชีวิต” หลินมู่อวี่หันไปพูดกับเซี่ยโหวซางด้วยรอยยิ้ม “เซี่ยโหวซาง…เจ้าอยากปหกกฎอาณาจักรรึ?”

“ข้า…” เซี่ยโหวซางได้แต่ยืนยิ้ม “ท่านนี่ช่างฉลาดจริงเชียว…”

หลินมู่อวี่ยังไม่ไปไหนและนั่งมองหลัวอวี่ เว่ยโฉวกับคนอื่นๆ ขุดหาเพชรสีขาวอยู่ในเหมือง กระทั่งเรียบร้อยเขาก็นำแร่เพชรใส่ในถุงสรรพสิ่งจนเต็มอย่างรวดเร็ว โดยสามารถจุไว้ในถุงสรรพสิ่งได้แปดร้อยชิ้น ส่วนที่เหลืออีกเจ็ดร้อยแบ่งใส่ในย่ามเดินทางของทหารรับจ้างมังกรผงาด

จู่ๆ หัวหน้าหน่วยพยัคฆ์ของกลุ่มมังกรผงาดก็เข้ามาคำนับพร้อมเอ่ยขึ้น “ท่านผู้นำ…มีคนจากค่ายเขาเหินมาและบอกว่าหากเราไม่ออกจากถ้ำพวกมันจะโจมตี แม่ทัพฉีหยิงแห่งกองทัพทะลวงนภาแทบจะต้านไม่อยู่แล้ว รีบออกไปดูเถิดขอรับ!”

“หืม?”

หลินมู่อวี่ตาลุกโชน “ในที่สุดหลงเซียนหลินก็มาถึงแล้วรึ?”

“หลงเซียนหลินคือแม่ทัพอันดับหนึ่งแห่งมณฑลชางหนาน เราไม่มีคนมากพอจะต่อต้านขอรับท่าน…” หลัวอวี่เปรยขึ้น

“ข้ารู้” หลินมู่อวี่ขมวดคิ้ว “พวกเจ้ามากับข้า ส่วนคนที่เหลือขุดเหมืองต่อไป”

“ขอรับ!”

หลินมู่อวี่ออกจากเหมืองควบม้านำทัพมังกรผงาดสามพันคนลงเขาไป รุ่งสางมาเยือนพร้อมกับแสงอาทิตย์ที่เริ่มสาดส่องไปทั่วจนย้อมภูเขาขวานไฟเป็นสีแดง เมื่อลงมายังตีนเขาก็พบว่ามีรอยเลือดเกาะหญ้าเป็นหย่อมๆ กระทั่งมาถึงทางขึ้นเขาที่มีการต่อสู้นองเลือดอยู่ ทั่วพื้นที่กระจัดกระจายไปด้วยศพ

เกราะรบของฉีหยิงชุ่มโชกไปด้วยเลือดขณะควบม้ามาพร้อมกับหอกยาวในมือ “ข้าได้เข้าปะทะกับหลงเซียนหลินและถูกตีกลับด้วยขบวนหอกจากกลางเขาขอรับ…”

“นี่เจ้า!”

หลินมู่อวี่พยายามระงับความโกรธและพูดขึ้นอย่างใจเย็น “จะแพ้หรือชนะไม่ใช่เรื่องสำคัญ มากับข้า”

“ขอรับท่าน…”

มีศพนอนก่ายกองบริเวณไหล่เขาราวห้าร้อยศพ สี่ร้อยในนั้นเป็นทหารจากทัพทะลวงนภา ที่เหลือเป็นของค่ายเขาเหิน ทั้งสองฝั่งยังคงปะทะกันอยู่ ณ ป้อมปราการพังที่ถูกซ่อมแซมจนกลับมาใช้ได้ใหม่

หลินมู่อวี่เห็นสถานการณ์ทั้งหมดก่อนจะเอ่ยขึ้น “เว่ยโฉว นำพลธนูไปที่ป้อมปราการและดักยิงพวกค่ายเขาเหินที่ผ่านมาโดยเล็งไปที่ตาและคอเป็นหลัก”

“คอยดูได้เลยขอรับ!”

หลินมู่อวี่กล่าว “หลัวอวี่ ส่งทหารมังกรผงาดที่ร่างกายกำยำตามไปที่ป้อมด้วย หากศัตรูโผล่มาให้ใช้ก้อนหินทุ่มใส่พวกมัน”

“รับทราบขอรับ!”

“เฟิงสี่ สั่งให้คนลงจากม้าและใช้โล่กันธนู”

“ขอรับ!”

หลังจากออกคำสั่ง หลินมู่อวี่ก็ไปยังประตูเล็กพร้อมกับกระบี่วิญญาณมังกร เมื่อหันมองโดยรอบจึงพบว่าทั้งภูเขาขวานไฟถูกล้อมไว้หมดแล้ว มีกองทัพอย่างต่ำสามพันนายอยู่ตีนเขา พร้อมกับทหารชั้นยอดของค่ายเขาเหินที่นำโดยหลงเซียนหลิน แม่ทัพอันดับหนึ่งแห่งชางหนาน แทบไม่มีโอกาสชนะในศึกนี้…

หลินมู่อวี่ใช้ปราณยุทธ์ช่วยกระจายเสียงให้ได้ยินไปทั่ว “ท่านหลงเซียนหลิน ตั้งแต่ที่เมืองห้าหุบเขา ข้าไม่คิดเลยว่าเราจะได้เจอกันอีกครั้งในสถานการณ์เช่นนี้”

ณ ขบวนทหารม้า ชายสวมเกราะดำคนหนึ่งถือหอกก้าวออกมา “ท่านหลินมู่อวี่ ข้า…หลงเซียนหลินก็ไม่คิดว่าเราจะได้เจอกันเช่นนี้ กระทั่งท่านได้ลักลอบนำทหารเข้ามณฑลชางหนานแล้วเข่นฆ่าทหารอวิ้นจงกว่าร้อยคน ตอนนี้ท่านเป็นผู้ต้องสงสัยว่าจะทรยศ ด้วยเหตุนี้ข้าจึงไม่มีทางเลือกนอกจากล้อมเขานี้ไว้”

หลินมู่อวี่หัวเราะ “แม่ทัพหลงเซียนหลินคิ้วแทบไม่ขยับเลยนะขอรับเวลาพูดโกหก ช่างสมกับเป็นดาราแห่งยุคจริงเชียว เหตุใดข้าจึงขึ้นมายังภูเขาแห่งนี้ และเหตุใดท่านจึงอยู่ที่นี่ แม่ทัพหลงเซียนหลินไม่นึกสงสัยบ้างหรือขอรับ?”

หลงเซียนหลินหัวเราะอย่างเย็นชา “ท่านหลินมู่อวี่เป็นถึงหนึ่งในสี่วีรบุรุษแห่งเมืองหลันเยี่ยนที่องค์จักรพรรดิแต่งตั้งและมีชื่อเสียงไปทั่วอาณาจักร อีกทั้งยังได้รับสมญาว่าแม่ทัพองครักษ์ทิศใต้ที่ถูกจดจำในฐานะแม่ทัพผู้มีอนาคตไกลที่สุดในอาณาจักร หลงเซียนหลินผู้นี้รู้สึกโชคดีมากที่ได้มีโอกาสลิ้มลองทักษะของท่านเสียที ว่าอย่างไรกล้าพอจะสู้กับข้าหรือไม่?”

“เชิญเข้ามา” หลินมู่อวี่กล่าว

“ชิ้ง!”

หลงเซียนหลินชูดาบขึ้นพลางตะโกน “โจมตี!”

กองทัพค่ายเขาเหินหนึ่งพันคนเข้าจู่โจมด้วยรูปแบบกวาดล้าง พวกเขายกโล่ขึ้นป้องกันตนเองและพรรคพวกเมื่อเข้าสู่ระยะยิง เดินหน้าด้วยโล่เหล็กอย่างไม่เกรงกลัว

หลินมู่อวี่แอบยกย่องการจัดทัพของกองทหารนี้ หลงเซียนหลินช่างปราดเปรื่องสมฉายาแม่ทัพผู้มีชื่อเสียงแห่งยุคมืด ทุกคนในทัพเองก็ช่ำชองการรบไม่ต่างจากผู้นำของพวกเขาที่ฝีมือเก่งกาจยิ่งกว่าที่เล่าขานกันมา

“ยิง!”

เมื่อได้ยินคำสั่งจากเว่ยโฉวธนูพันดอกก็ถูกยิงจากกำแพงหิน พลธนูของทหารจักรวรรดิและกลุ่มมังกรผงาดต่างระดมยิง ฝนธนูพุ่งปักโล่เหล็ก บ้างก็โดนเบ้าตาและลำคอของทหารค่ายเขาเหิน เสียงร้องระงมดังไปทั่วเมื่อหลายคนถูกธนูแหลมปลิดชีพ กระทั่งขบวนโล่เริ่มมีช่องโหว่

หลงเซียนหลินร่นไปอยู่หลังขบวนทหารม้าก่อนจะชูดาบขึ้นพร้อมออกคำสั่ง “ขว้างหอก!”

“เคร้ง…เคร้ง…”

โล่ในมือถูกลดระดับลงในทันใด ทหารค่ายเขาเหินกว่าพันคนตั้งท่าขว้างหอกจากหลังม้าก่อนจะขว้างมันออกไป!

“หมอบลง!”

หลินมู่อวี่ตะโกนสั่งให้ทุกคนหมอบลงใต้กำแพง ทว่ายังมีคนที่หลบไม่ทันถูกหอกขว้างปัก เพียงพริบตาเดียวก็มีคนถูกฆ่าและบาดเจ็บอีกเป็นสิบ

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา 241 ถูกล้อม

Now you are reading The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา Chapter 241 ถูกล้อม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เพราะการตายของกวนหลงเซิงทำให้ทหารเหรียญทองและทหารเหรียญเงินไม่มีใจจะสู้ต่อ ต่างพากันคุกเข่าร่ำร้องด้วยสีหน้าซีดเผือด “ท่านราชทูตใหญ่…ท่านตายอย่างน่าเศร้ายิ่งนัก!” “พวกเจ้าจะร้องไห้ทำไมกัน?!” เซี่ยโหวซางคลานออกมาพร้อมกับชูหอกขึ้น “วางอาวุธเสียแล้วข้าจะไว้ชีวิต หรือไม่ก็ตายตามหัวหน้าพวกเจ้าไป!” “เรายอมแพ้แล้ว…” สมาชิกสำนักอัศวินวางอาวุธลงด้วยไม่อยากถูกสังหาร “เราจะทำอย่างไรต่อไปขอรับท่าน?” ฉีหยิงคำนับพลางเอ่ยถาม “ข้าคิดว่าในเมื่อเรายึดภูเขาได้อีกทั้งพวกมันก็ยอมแพ้แล้ว เท่านี้ภารกิจก็เสร็จสิ้นแล้วใช่หรือไม่ขอรับ? เช่นนั้นเราน่าจะรีบลงเขาไปแต่โดยเร็ว?” หลินมู่อวี่พยักหน้า “แม่ทัพฉีหยิงนำทหารม้าทะลวงนภาลงเขาไปรอข้าก่อนได้เลย” “ขอรับ!” ฉีหยิงขึ้นควบม้าและจากไป เว่ยโฉวถาม “แล้วเราทำอย่างไรต่อขอรับ?” “เรียกรวมกำลังพลที่เหลือแล้วตามข้ามา” “ขอรับ!” เสียงขุดดังอย่างต่อเนื่องจากทางเหมืองภูเขาขวานไฟ เมื่อทหารรับจ้างมังกรผงาดกว่าพันคนพร้อมอาวุธครบมือปรากฏกายขึ้น ทหารชำนาญการที่อยู่บริเวณนั้นต่างตกตะลึงและยอมแพ้โดยทันใด คนเหล่านี้เข้าร่วมสำนักอัศวินเพียงเพื่อต้องการชีวิตที่ดีขึ้นเท่านั้น ด้วยเหตุนี้นอกจากคนที่ไร้จริยธรรมแล้วสามารถเปลี่ยนมาเข้าร่วมกับกลุ่มมังกรผงาดได้ หลินมู่อวี่ที่สวมชุดศึกเทวะกระชับกระบี่แล้วเดินนำเว่ยโฉว เซี่ยโหวซางและคนอื่นๆ เข้าไปในเหมือง ต้านู๋เมื่อเห็นหลินมู่อวี่ก็เบิกตาโพลงจำได้ทันที “เจ้า…เจ้าคือน้องหลินจื้อมิใช่หรือ?” เว่ยโฉวเอ็ด “เสียมารยาท ท่านผู้นี้คือผู้บัญชาการองครักษ์อินทรีหลินมู่อวี่ และล่าสุดเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นแม่ทัพองครักษ์ทิศใต้!” “อะไรกัน…” ต้านู๋รีบคุกเข่าด้วยความสั่นกลัว “ยินดีที่ได้พบขอรับ…ข้าน้อยไม่รู้ว่าท่านคือ…เป็นความผิดข้าเอง โด้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย!” หลินมู่อวี่คลี่ยิ้มก่อนจะเดินเข้าไปพยุงต้านู๋ขึ้น “พี่ต้านู๋ หลินจื้อก็คือชื่อข้าเหมือนกันดังนั้นอย่าได้กลัวไปเลย ทหารจักรวรรดิหาใช่ข้ารับใช้ชอบเข่นฆ่าเช่นพวกท่านกล่าวหาไม่ หากท่านยอมแพ้แล้วก็จงมาเข้าร่วมกับเรา หรือหากไม่ต้องการก็รับเหรียญทองแล้วกลับบ้านไปเสีย หากมีข้าจะไม่มีผู้ใดกล้าแตะท่านแม้ผมเส้นเดียว!” ต้านู๋นิ่งค้างราวน้ำแข็งด้วยความตกใจ เว่ยโฉวแอบหัวเราะ “คนโง่ก็คือคนโง่จริงๆ” เซี่ยโหวซางมองไปโดยรอบ “พระเจ้า นี่มันเหมืองทองชัดๆ ไอ้พวกสำนักอัศวินแอบมาขุดแร่ทองแล้วไม่จ่ายให้กรมหลวง…” “นกตายเพื่ออาหารฉันใดคนก็ตายเพื่อเงินฉันนั้นเป็นธรรมชาติ” หลินมู่อวี่กล่าว หลินมู่อวี่หรี่ตาลงก่อนจะกล่าวต่อ “แต่ข้าเกรงว่าความจริงคงไม่ง่ายดายเพียงนั้น แร่ทองนี้เป็นของหูเถี่ยหนิง หากดูจากนิสัยของเขาแล้ว…คงไม่ยอมรับผิดในเรื่องนี้อย่างแน่นอน” หลินมู่อวี่หันมากล่าวด้วยท่าทีจริงจัง “ฟังข้าให้ดี! แร่ทองพวกนี้ถูกกวนหลงเซิงแห่งสำนักอัศวินชางหนานลักลอบขุดขึ้นมา มิได้เกี่ยวข้องอันใดกันหูเถี่ยหนิงแห่งเมืองห้าหุบเขา ฉะนั้นหากใครก็ตามกล้าใส่ความเขา…ข้าจะตัดหัวมันเอง!” หลัวอวี่ เว่ยโฉวและคนอื่นๆ ประหลาดใจ “ท่าน…แบบนี้มัน…” เฟิงสี่ยิ้มและคำนับ “ปราดเปรื่องยิ่งขอรับ!” … ในที่สุดทุกคนก็ลงมาถึงชั้นล่างสุดของเหมืองโดยใช้เวลาไม่ถึงสองชั่วโมง กระทั่งพบแร่เพชรขาวอยู่เบื้องหน้า “หินพวกนี้คือ…เพชรหรือ?” เว่ยโฉวถามด้วยความใคร่รู้ หลินมู่อวี่พยักหน้า “หลัวอวี่และเฟิงสี่ รีบสั่งให้ทหารมังกรผงาดลงมาและเก็บเพชรสีขาวนี้ให้หมดแล้วนำไปยังเขาผามังกร” หลัวอวี่ยิ้มรับ “ขอรับ!” หลินมู่อวี่เดินไปก่อนจะหยุดแล้วใช้กระบี่วิญญาณมังกรของตนขุดพื้นเหมืองดู ก่อนจะพบว่ามีแร่เพชรสีขาวอยู่จำนวนมาก ทว่าหากขุดลึกไปจะเป็นแร่ทอง เว่ยโฉวที่เข้าใจการกระทำของหลินมู่อวี่ได้เอ่ยขึ้น “เพชรสีขาวจะถูกพบในชั้นที่มีพลังวิญญาณมากและที่เห็นนี้คือทั้งหมดแล้ว ซึ่งขุดได้มากเช่นนี้ก็นับว่าโชคดียิ่งขอรับ แค่นี้ก็มีมูลค่ามากกว่าครึ่งของเบี้ยเลี้ยงทั้งจักรวรรดิแล้ว” หลินมู่อวี่พยักหน้า “อืม เท่านี้ก็พอ เช่นนั้นก็รีบเก็บแล้วไปกันเถิด” เซี่ยโหวซางสับสน “ท่าน…แล้วแร่ทองเล่าขอรับ?” “การแอบขุดแร่ทองนั้นมีโทษถึงประหารชีวิต” หลินมู่อวี่หันไปพูดกับเซี่ยโหวซางด้วยรอยยิ้ม “เซี่ยโหวซาง…เจ้าอยากปหกกฎอาณาจักรรึ?” “ข้า…” เซี่ยโหวซางได้แต่ยืนยิ้ม “ท่านนี่ช่างฉลาดจริงเชียว…” หลินมู่อวี่ยังไม่ไปไหนและนั่งมองหลัวอวี่ เว่ยโฉวกับคนอื่นๆ ขุดหาเพชรสีขาวอยู่ในเหมือง กระทั่งเรียบร้อยเขาก็นำแร่เพชรใส่ในถุงสรรพสิ่งจนเต็มอย่างรวดเร็ว โดยสามารถจุไว้ในถุงสรรพสิ่งได้แปดร้อยชิ้น ส่วนที่เหลืออีกเจ็ดร้อยแบ่งใส่ในย่ามเดินทางของทหารรับจ้างมังกรผงาด จู่ๆ หัวหน้าหน่วยพยัคฆ์ของกลุ่มมังกรผงาดก็เข้ามาคำนับพร้อมเอ่ยขึ้น “ท่านผู้นำ…มีคนจากค่ายเขาเหินมาและบอกว่าหากเราไม่ออกจากถ้ำพวกมันจะโจมตี แม่ทัพฉีหยิงแห่งกองทัพทะลวงนภาแทบจะต้านไม่อยู่แล้ว รีบออกไปดูเถิดขอรับ!” “หืม?” หลินมู่อวี่ตาลุกโชน “ในที่สุดหลงเซียนหลินก็มาถึงแล้วรึ?” “หลงเซียนหลินคือแม่ทัพอันดับหนึ่งแห่งมณฑลชางหนาน เราไม่มีคนมากพอจะต่อต้านขอรับท่าน…” หลัวอวี่เปรยขึ้น “ข้ารู้” หลินมู่อวี่ขมวดคิ้ว “พวกเจ้ามากับข้า ส่วนคนที่เหลือขุดเหมืองต่อไป” “ขอรับ!” หลินมู่อวี่ออกจากเหมืองควบม้านำทัพมังกรผงาดสามพันคนลงเขาไป รุ่งสางมาเยือนพร้อมกับแสงอาทิตย์ที่เริ่มสาดส่องไปทั่วจนย้อมภูเขาขวานไฟเป็นสีแดง เมื่อลงมายังตีนเขาก็พบว่ามีรอยเลือดเกาะหญ้าเป็นหย่อมๆ กระทั่งมาถึงทางขึ้นเขาที่มีการต่อสู้นองเลือดอยู่ ทั่วพื้นที่กระจัดกระจายไปด้วยศพ เกราะรบของฉีหยิงชุ่มโชกไปด้วยเลือดขณะควบม้ามาพร้อมกับหอกยาวในมือ “ข้าได้เข้าปะทะกับหลงเซียนหลินและถูกตีกลับด้วยขบวนหอกจากกลางเขาขอรับ…” “นี่เจ้า!” หลินมู่อวี่พยายามระงับความโกรธและพูดขึ้นอย่างใจเย็น “จะแพ้หรือชนะไม่ใช่เรื่องสำคัญ มากับข้า” “ขอรับท่าน…” มีศพนอนก่ายกองบริเวณไหล่เขาราวห้าร้อยศพ สี่ร้อยในนั้นเป็นทหารจากทัพทะลวงนภา ที่เหลือเป็นของค่ายเขาเหิน ทั้งสองฝั่งยังคงปะทะกันอยู่ ณ ป้อมปราการพังที่ถูกซ่อมแซมจนกลับมาใช้ได้ใหม่ หลินมู่อวี่เห็นสถานการณ์ทั้งหมดก่อนจะเอ่ยขึ้น “เว่ยโฉว นำพลธนูไปที่ป้อมปราการและดักยิงพวกค่ายเขาเหินที่ผ่านมาโดยเล็งไปที่ตาและคอเป็นหลัก” “คอยดูได้เลยขอรับ!” หลินมู่อวี่กล่าว “หลัวอวี่ ส่งทหารมังกรผงาดที่ร่างกายกำยำตามไปที่ป้อมด้วย หากศัตรูโผล่มาให้ใช้ก้อนหินทุ่มใส่พวกมัน” “รับทราบขอรับ!” “เฟิงสี่ สั่งให้คนลงจากม้าและใช้โล่กันธนู” “ขอรับ!” หลังจากออกคำสั่ง หลินมู่อวี่ก็ไปยังประตูเล็กพร้อมกับกระบี่วิญญาณมังกร เมื่อหันมองโดยรอบจึงพบว่าทั้งภูเขาขวานไฟถูกล้อมไว้หมดแล้ว มีกองทัพอย่างต่ำสามพันนายอยู่ตีนเขา พร้อมกับทหารชั้นยอดของค่ายเขาเหินที่นำโดยหลงเซียนหลิน แม่ทัพอันดับหนึ่งแห่งชางหนาน แทบไม่มีโอกาสชนะในศึกนี้… หลินมู่อวี่ใช้ปราณยุทธ์ช่วยกระจายเสียงให้ได้ยินไปทั่ว “ท่านหลงเซียนหลิน ตั้งแต่ที่เมืองห้าหุบเขา ข้าไม่คิดเลยว่าเราจะได้เจอกันอีกครั้งในสถานการณ์เช่นนี้” ณ ขบวนทหารม้า ชายสวมเกราะดำคนหนึ่งถือหอกก้าวออกมา “ท่านหลินมู่อวี่ ข้า…หลงเซียนหลินก็ไม่คิดว่าเราจะได้เจอกันเช่นนี้ กระทั่งท่านได้ลักลอบนำทหารเข้ามณฑลชางหนานแล้วเข่นฆ่าทหารอวิ้นจงกว่าร้อยคน ตอนนี้ท่านเป็นผู้ต้องสงสัยว่าจะทรยศ ด้วยเหตุนี้ข้าจึงไม่มีทางเลือกนอกจากล้อมเขานี้ไว้” หลินมู่อวี่หัวเราะ “แม่ทัพหลงเซียนหลินคิ้วแทบไม่ขยับเลยนะขอรับเวลาพูดโกหก ช่างสมกับเป็นดาราแห่งยุคจริงเชียว เหตุใดข้าจึงขึ้นมายังภูเขาแห่งนี้ และเหตุใดท่านจึงอยู่ที่นี่ แม่ทัพหลงเซียนหลินไม่นึกสงสัยบ้างหรือขอรับ?” หลงเซียนหลินหัวเราะอย่างเย็นชา “ท่านหลินมู่อวี่เป็นถึงหนึ่งในสี่วีรบุรุษแห่งเมืองหลันเยี่ยนที่องค์จักรพรรดิแต่งตั้งและมีชื่อเสียงไปทั่วอาณาจักร อีกทั้งยังได้รับสมญาว่าแม่ทัพองครักษ์ทิศใต้ที่ถูกจดจำในฐานะแม่ทัพผู้มีอนาคตไกลที่สุดในอาณาจักร หลงเซียนหลินผู้นี้รู้สึกโชคดีมากที่ได้มีโอกาสลิ้มลองทักษะของท่านเสียที ว่าอย่างไรกล้าพอจะสู้กับข้าหรือไม่?” “เชิญเข้ามา” หลินมู่อวี่กล่าว “ชิ้ง!” หลงเซียนหลินชูดาบขึ้นพลางตะโกน “โจมตี!” กองทัพค่ายเขาเหินหนึ่งพันคนเข้าจู่โจมด้วยรูปแบบกวาดล้าง พวกเขายกโล่ขึ้นป้องกันตนเองและพรรคพวกเมื่อเข้าสู่ระยะยิง เดินหน้าด้วยโล่เหล็กอย่างไม่เกรงกลัว หลินมู่อวี่แอบยกย่องการจัดทัพของกองทหารนี้ หลงเซียนหลินช่างปราดเปรื่องสมฉายาแม่ทัพผู้มีชื่อเสียงแห่งยุคมืด ทุกคนในทัพเองก็ช่ำชองการรบไม่ต่างจากผู้นำของพวกเขาที่ฝีมือเก่งกาจยิ่งกว่าที่เล่าขานกันมา “ยิง!” เมื่อได้ยินคำสั่งจากเว่ยโฉวธนูพันดอกก็ถูกยิงจากกำแพงหิน พลธนูของทหารจักรวรรดิและกลุ่มมังกรผงาดต่างระดมยิง ฝนธนูพุ่งปักโล่เหล็ก บ้างก็โดนเบ้าตาและลำคอของทหารค่ายเขาเหิน เสียงร้องระงมดังไปทั่วเมื่อหลายคนถูกธนูแหลมปลิดชีพ กระทั่งขบวนโล่เริ่มมีช่องโหว่ หลงเซียนหลินร่นไปอยู่หลังขบวนทหารม้าก่อนจะชูดาบขึ้นพร้อมออกคำสั่ง “ขว้างหอก!” “เคร้ง…เคร้ง…” โล่ในมือถูกลดระดับลงในทันใด ทหารค่ายเขาเหินกว่าพันคนตั้งท่าขว้างหอกจากหลังม้าก่อนจะขว้างมันออกไป! “หมอบลง!” หลินมู่อวี่ตะโกนสั่งให้ทุกคนหมอบลงใต้กำแพง ทว่ายังมีคนที่หลบไม่ทันถูกหอกขว้างปัก เพียงพริบตาเดียวก็มีคนถูกฆ่าและบาดเจ็บอีกเป็นสิบ ……………………

เพราะการตายของกวนหลงเซิงทำให้ทหารเหรียญทองและทหารเหรียญเงินไม่มีใจจะสู้ต่อ ต่างพากันคุกเข่าร่ำร้องด้วยสีหน้าซีดเผือด “ท่านราชทูตใหญ่…ท่านตายอย่างน่าเศร้ายิ่งนัก!”

“พวกเจ้าจะร้องไห้ทำไมกัน?!”

เซี่ยโหวซางคลานออกมาพร้อมกับชูหอกขึ้น “วางอาวุธเสียแล้วข้าจะไว้ชีวิต หรือไม่ก็ตายตามหัวหน้าพวกเจ้าไป!”

“เรายอมแพ้แล้ว…”

สมาชิกสำนักอัศวินวางอาวุธลงด้วยไม่อยากถูกสังหาร

“เราจะทำอย่างไรต่อไปขอรับท่าน?” ฉีหยิงคำนับพลางเอ่ยถาม “ข้าคิดว่าในเมื่อเรายึดภูเขาได้อีกทั้งพวกมันก็ยอมแพ้แล้ว เท่านี้ภารกิจก็เสร็จสิ้นแล้วใช่หรือไม่ขอรับ? เช่นนั้นเราน่าจะรีบลงเขาไปแต่โดยเร็ว?”

หลินมู่อวี่พยักหน้า “แม่ทัพฉีหยิงนำทหารม้าทะลวงนภาลงเขาไปรอข้าก่อนได้เลย”

“ขอรับ!”

ฉีหยิงขึ้นควบม้าและจากไป

เว่ยโฉวถาม “แล้วเราทำอย่างไรต่อขอรับ?”

“เรียกรวมกำลังพลที่เหลือแล้วตามข้ามา”

“ขอรับ!”

เสียงขุดดังอย่างต่อเนื่องจากทางเหมืองภูเขาขวานไฟ เมื่อทหารรับจ้างมังกรผงาดกว่าพันคนพร้อมอาวุธครบมือปรากฏกายขึ้น ทหารชำนาญการที่อยู่บริเวณนั้นต่างตกตะลึงและยอมแพ้โดยทันใด คนเหล่านี้เข้าร่วมสำนักอัศวินเพียงเพื่อต้องการชีวิตที่ดีขึ้นเท่านั้น ด้วยเหตุนี้นอกจากคนที่ไร้จริยธรรมแล้วสามารถเปลี่ยนมาเข้าร่วมกับกลุ่มมังกรผงาดได้

หลินมู่อวี่ที่สวมชุดศึกเทวะกระชับกระบี่แล้วเดินนำเว่ยโฉว เซี่ยโหวซางและคนอื่นๆ เข้าไปในเหมือง ต้านู๋เมื่อเห็นหลินมู่อวี่ก็เบิกตาโพลงจำได้ทันที “เจ้า…เจ้าคือน้องหลินจื้อมิใช่หรือ?”

เว่ยโฉวเอ็ด “เสียมารยาท ท่านผู้นี้คือผู้บัญชาการองครักษ์อินทรีหลินมู่อวี่ และล่าสุดเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นแม่ทัพองครักษ์ทิศใต้!”

“อะไรกัน…”

ต้านู๋รีบคุกเข่าด้วยความสั่นกลัว “ยินดีที่ได้พบขอรับ…ข้าน้อยไม่รู้ว่าท่านคือ…เป็นความผิดข้าเอง โด้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย!”

หลินมู่อวี่คลี่ยิ้มก่อนจะเดินเข้าไปพยุงต้านู๋ขึ้น “พี่ต้านู๋ หลินจื้อก็คือชื่อข้าเหมือนกันดังนั้นอย่าได้กลัวไปเลย ทหารจักรวรรดิหาใช่ข้ารับใช้ชอบเข่นฆ่าเช่นพวกท่านกล่าวหาไม่ หากท่านยอมแพ้แล้วก็จงมาเข้าร่วมกับเรา หรือหากไม่ต้องการก็รับเหรียญทองแล้วกลับบ้านไปเสีย หากมีข้าจะไม่มีผู้ใดกล้าแตะท่านแม้ผมเส้นเดียว!”

ต้านู๋นิ่งค้างราวน้ำแข็งด้วยความตกใจ เว่ยโฉวแอบหัวเราะ “คนโง่ก็คือคนโง่จริงๆ”

เซี่ยโหวซางมองไปโดยรอบ “พระเจ้า นี่มันเหมืองทองชัดๆ ไอ้พวกสำนักอัศวินแอบมาขุดแร่ทองแล้วไม่จ่ายให้กรมหลวง…”

“นกตายเพื่ออาหารฉันใดคนก็ตายเพื่อเงินฉันนั้นเป็นธรรมชาติ” หลินมู่อวี่กล่าว

หลินมู่อวี่หรี่ตาลงก่อนจะกล่าวต่อ “แต่ข้าเกรงว่าความจริงคงไม่ง่ายดายเพียงนั้น แร่ทองนี้เป็นของหูเถี่ยหนิง หากดูจากนิสัยของเขาแล้ว…คงไม่ยอมรับผิดในเรื่องนี้อย่างแน่นอน”

หลินมู่อวี่หันมากล่าวด้วยท่าทีจริงจัง “ฟังข้าให้ดี! แร่ทองพวกนี้ถูกกวนหลงเซิงแห่งสำนักอัศวินชางหนานลักลอบขุดขึ้นมา มิได้เกี่ยวข้องอันใดกันหูเถี่ยหนิงแห่งเมืองห้าหุบเขา ฉะนั้นหากใครก็ตามกล้าใส่ความเขา…ข้าจะตัดหัวมันเอง!”

หลัวอวี่ เว่ยโฉวและคนอื่นๆ ประหลาดใจ “ท่าน…แบบนี้มัน…”

เฟิงสี่ยิ้มและคำนับ “ปราดเปรื่องยิ่งขอรับ!”

ในที่สุดทุกคนก็ลงมาถึงชั้นล่างสุดของเหมืองโดยใช้เวลาไม่ถึงสองชั่วโมง กระทั่งพบแร่เพชรขาวอยู่เบื้องหน้า

“หินพวกนี้คือ…เพชรหรือ?” เว่ยโฉวถามด้วยความใคร่รู้

หลินมู่อวี่พยักหน้า “หลัวอวี่และเฟิงสี่ รีบสั่งให้ทหารมังกรผงาดลงมาและเก็บเพชรสีขาวนี้ให้หมดแล้วนำไปยังเขาผามังกร”

หลัวอวี่ยิ้มรับ “ขอรับ!”

หลินมู่อวี่เดินไปก่อนจะหยุดแล้วใช้กระบี่วิญญาณมังกรของตนขุดพื้นเหมืองดู ก่อนจะพบว่ามีแร่เพชรสีขาวอยู่จำนวนมาก ทว่าหากขุดลึกไปจะเป็นแร่ทอง

เว่ยโฉวที่เข้าใจการกระทำของหลินมู่อวี่ได้เอ่ยขึ้น “เพชรสีขาวจะถูกพบในชั้นที่มีพลังวิญญาณมากและที่เห็นนี้คือทั้งหมดแล้ว ซึ่งขุดได้มากเช่นนี้ก็นับว่าโชคดียิ่งขอรับ แค่นี้ก็มีมูลค่ามากกว่าครึ่งของเบี้ยเลี้ยงทั้งจักรวรรดิแล้ว”

หลินมู่อวี่พยักหน้า “อืม เท่านี้ก็พอ เช่นนั้นก็รีบเก็บแล้วไปกันเถิด”

เซี่ยโหวซางสับสน “ท่าน…แล้วแร่ทองเล่าขอรับ?”

“การแอบขุดแร่ทองนั้นมีโทษถึงประหารชีวิต” หลินมู่อวี่หันไปพูดกับเซี่ยโหวซางด้วยรอยยิ้ม “เซี่ยโหวซาง…เจ้าอยากปหกกฎอาณาจักรรึ?”

“ข้า…” เซี่ยโหวซางได้แต่ยืนยิ้ม “ท่านนี่ช่างฉลาดจริงเชียว…”

หลินมู่อวี่ยังไม่ไปไหนและนั่งมองหลัวอวี่ เว่ยโฉวกับคนอื่นๆ ขุดหาเพชรสีขาวอยู่ในเหมือง กระทั่งเรียบร้อยเขาก็นำแร่เพชรใส่ในถุงสรรพสิ่งจนเต็มอย่างรวดเร็ว โดยสามารถจุไว้ในถุงสรรพสิ่งได้แปดร้อยชิ้น ส่วนที่เหลืออีกเจ็ดร้อยแบ่งใส่ในย่ามเดินทางของทหารรับจ้างมังกรผงาด

จู่ๆ หัวหน้าหน่วยพยัคฆ์ของกลุ่มมังกรผงาดก็เข้ามาคำนับพร้อมเอ่ยขึ้น “ท่านผู้นำ…มีคนจากค่ายเขาเหินมาและบอกว่าหากเราไม่ออกจากถ้ำพวกมันจะโจมตี แม่ทัพฉีหยิงแห่งกองทัพทะลวงนภาแทบจะต้านไม่อยู่แล้ว รีบออกไปดูเถิดขอรับ!”

“หืม?”

หลินมู่อวี่ตาลุกโชน “ในที่สุดหลงเซียนหลินก็มาถึงแล้วรึ?”

“หลงเซียนหลินคือแม่ทัพอันดับหนึ่งแห่งมณฑลชางหนาน เราไม่มีคนมากพอจะต่อต้านขอรับท่าน…” หลัวอวี่เปรยขึ้น

“ข้ารู้” หลินมู่อวี่ขมวดคิ้ว “พวกเจ้ามากับข้า ส่วนคนที่เหลือขุดเหมืองต่อไป”

“ขอรับ!”

หลินมู่อวี่ออกจากเหมืองควบม้านำทัพมังกรผงาดสามพันคนลงเขาไป รุ่งสางมาเยือนพร้อมกับแสงอาทิตย์ที่เริ่มสาดส่องไปทั่วจนย้อมภูเขาขวานไฟเป็นสีแดง เมื่อลงมายังตีนเขาก็พบว่ามีรอยเลือดเกาะหญ้าเป็นหย่อมๆ กระทั่งมาถึงทางขึ้นเขาที่มีการต่อสู้นองเลือดอยู่ ทั่วพื้นที่กระจัดกระจายไปด้วยศพ

เกราะรบของฉีหยิงชุ่มโชกไปด้วยเลือดขณะควบม้ามาพร้อมกับหอกยาวในมือ “ข้าได้เข้าปะทะกับหลงเซียนหลินและถูกตีกลับด้วยขบวนหอกจากกลางเขาขอรับ…”

“นี่เจ้า!”

หลินมู่อวี่พยายามระงับความโกรธและพูดขึ้นอย่างใจเย็น “จะแพ้หรือชนะไม่ใช่เรื่องสำคัญ มากับข้า”

“ขอรับท่าน…”

มีศพนอนก่ายกองบริเวณไหล่เขาราวห้าร้อยศพ สี่ร้อยในนั้นเป็นทหารจากทัพทะลวงนภา ที่เหลือเป็นของค่ายเขาเหิน ทั้งสองฝั่งยังคงปะทะกันอยู่ ณ ป้อมปราการพังที่ถูกซ่อมแซมจนกลับมาใช้ได้ใหม่

หลินมู่อวี่เห็นสถานการณ์ทั้งหมดก่อนจะเอ่ยขึ้น “เว่ยโฉว นำพลธนูไปที่ป้อมปราการและดักยิงพวกค่ายเขาเหินที่ผ่านมาโดยเล็งไปที่ตาและคอเป็นหลัก”

“คอยดูได้เลยขอรับ!”

หลินมู่อวี่กล่าว “หลัวอวี่ ส่งทหารมังกรผงาดที่ร่างกายกำยำตามไปที่ป้อมด้วย หากศัตรูโผล่มาให้ใช้ก้อนหินทุ่มใส่พวกมัน”

“รับทราบขอรับ!”

“เฟิงสี่ สั่งให้คนลงจากม้าและใช้โล่กันธนู”

“ขอรับ!”

หลังจากออกคำสั่ง หลินมู่อวี่ก็ไปยังประตูเล็กพร้อมกับกระบี่วิญญาณมังกร เมื่อหันมองโดยรอบจึงพบว่าทั้งภูเขาขวานไฟถูกล้อมไว้หมดแล้ว มีกองทัพอย่างต่ำสามพันนายอยู่ตีนเขา พร้อมกับทหารชั้นยอดของค่ายเขาเหินที่นำโดยหลงเซียนหลิน แม่ทัพอันดับหนึ่งแห่งชางหนาน แทบไม่มีโอกาสชนะในศึกนี้…

หลินมู่อวี่ใช้ปราณยุทธ์ช่วยกระจายเสียงให้ได้ยินไปทั่ว “ท่านหลงเซียนหลิน ตั้งแต่ที่เมืองห้าหุบเขา ข้าไม่คิดเลยว่าเราจะได้เจอกันอีกครั้งในสถานการณ์เช่นนี้”

ณ ขบวนทหารม้า ชายสวมเกราะดำคนหนึ่งถือหอกก้าวออกมา “ท่านหลินมู่อวี่ ข้า…หลงเซียนหลินก็ไม่คิดว่าเราจะได้เจอกันเช่นนี้ กระทั่งท่านได้ลักลอบนำทหารเข้ามณฑลชางหนานแล้วเข่นฆ่าทหารอวิ้นจงกว่าร้อยคน ตอนนี้ท่านเป็นผู้ต้องสงสัยว่าจะทรยศ ด้วยเหตุนี้ข้าจึงไม่มีทางเลือกนอกจากล้อมเขานี้ไว้”

หลินมู่อวี่หัวเราะ “แม่ทัพหลงเซียนหลินคิ้วแทบไม่ขยับเลยนะขอรับเวลาพูดโกหก ช่างสมกับเป็นดาราแห่งยุคจริงเชียว เหตุใดข้าจึงขึ้นมายังภูเขาแห่งนี้ และเหตุใดท่านจึงอยู่ที่นี่ แม่ทัพหลงเซียนหลินไม่นึกสงสัยบ้างหรือขอรับ?”

หลงเซียนหลินหัวเราะอย่างเย็นชา “ท่านหลินมู่อวี่เป็นถึงหนึ่งในสี่วีรบุรุษแห่งเมืองหลันเยี่ยนที่องค์จักรพรรดิแต่งตั้งและมีชื่อเสียงไปทั่วอาณาจักร อีกทั้งยังได้รับสมญาว่าแม่ทัพองครักษ์ทิศใต้ที่ถูกจดจำในฐานะแม่ทัพผู้มีอนาคตไกลที่สุดในอาณาจักร หลงเซียนหลินผู้นี้รู้สึกโชคดีมากที่ได้มีโอกาสลิ้มลองทักษะของท่านเสียที ว่าอย่างไรกล้าพอจะสู้กับข้าหรือไม่?”

“เชิญเข้ามา” หลินมู่อวี่กล่าว

“ชิ้ง!”

หลงเซียนหลินชูดาบขึ้นพลางตะโกน “โจมตี!”

กองทัพค่ายเขาเหินหนึ่งพันคนเข้าจู่โจมด้วยรูปแบบกวาดล้าง พวกเขายกโล่ขึ้นป้องกันตนเองและพรรคพวกเมื่อเข้าสู่ระยะยิง เดินหน้าด้วยโล่เหล็กอย่างไม่เกรงกลัว

หลินมู่อวี่แอบยกย่องการจัดทัพของกองทหารนี้ หลงเซียนหลินช่างปราดเปรื่องสมฉายาแม่ทัพผู้มีชื่อเสียงแห่งยุคมืด ทุกคนในทัพเองก็ช่ำชองการรบไม่ต่างจากผู้นำของพวกเขาที่ฝีมือเก่งกาจยิ่งกว่าที่เล่าขานกันมา

“ยิง!”

เมื่อได้ยินคำสั่งจากเว่ยโฉวธนูพันดอกก็ถูกยิงจากกำแพงหิน พลธนูของทหารจักรวรรดิและกลุ่มมังกรผงาดต่างระดมยิง ฝนธนูพุ่งปักโล่เหล็ก บ้างก็โดนเบ้าตาและลำคอของทหารค่ายเขาเหิน เสียงร้องระงมดังไปทั่วเมื่อหลายคนถูกธนูแหลมปลิดชีพ กระทั่งขบวนโล่เริ่มมีช่องโหว่

หลงเซียนหลินร่นไปอยู่หลังขบวนทหารม้าก่อนจะชูดาบขึ้นพร้อมออกคำสั่ง “ขว้างหอก!”

“เคร้ง…เคร้ง…”

โล่ในมือถูกลดระดับลงในทันใด ทหารค่ายเขาเหินกว่าพันคนตั้งท่าขว้างหอกจากหลังม้าก่อนจะขว้างมันออกไป!

“หมอบลง!”

หลินมู่อวี่ตะโกนสั่งให้ทุกคนหมอบลงใต้กำแพง ทว่ายังมีคนที่หลบไม่ทันถูกหอกขว้างปัก เพียงพริบตาเดียวก็มีคนถูกฆ่าและบาดเจ็บอีกเป็นสิบ

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+