The Divine Nine Dragon Cauldron 324

Now you are reading The Divine Nine Dragon Cauldron Chapter 324 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จิตสังหารที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้

แม้ว่านางจะไม่ได้พูดอะไร ฮั่วฉีหลานก็แอบตกใจในพลังที่ซือหยูแสดงออกมาในระหว่างการเดินทาง

 

เขาที่เป็นแค่อำมฤตระดับหนึ่งขั้นสูงเอาชนะอำมฤตระดับสองขั้นสูงได้อย่างง่ายดาย ถ้านางไม่เห็นกับตาก็ยากยิ่งนักที่จะเชื่อ

 

ฮั่วฉีหลานประทับใจในความเชี่ยวชาญในวิชาบ่มเพาะของซือหยูมาก

 

แต่ด้วยนิสัยของนางเอง นางจึงแกล้งทำเป็นไม่สนใจ

 

และตอนนี้นางยังได้ยินอีกว่าซือหยูยังเก็บซ่อนพลังเอาไว้ นางจะไม่ตกใจได้ยังไง?

 

ตู่หมิงฮั่วพูดด้วยสีหน้าหม่นหมอง

 

“หัวหน้าเตี้ยฉี ระวังด้วย!”

 

เตี้ยฉีจ้องฮั่วฉีหลาน

 

“ข้าต้องเตือนเจ้าหรือไม่? เจ้าจะต้องถูกลงโทษโดยตระกูลตู่เพราะสร้างความวุ่นวายในงานประมูล!”

 

ตู่หมิงฮั่วนั้นอับอาย เขามองตรงไปยังซือหยูด้วยความชิงชัง ถ้าไม่ใช่เพราะซือหยู เรื่องทั้งหมดก็คงจะจบไปอย่างราบลื่นแล้ว!

 

เตี้ยฉีจ้องจางซือยี่ เขาพูดเสียงดัง

 

“ถ้าข้าจำไม่ผิด เจ้าคือหนึ่งในบุตรทั้งสี่แห่งหอสดับหิมะใช่ จางซือยี่ ใช่หรือไม่?”

 

“ถ้าเจ้าอยากจะได้ธนูมังกรฟ้าดิน เจ้าก็ต้องร่วมมือกับข้าก่อน! ใครที่ได้ธนูในท้ายสุดจะตัดสินกันด้วยพลัง”

 

จางซือยี่ไม่ลังเล เขาพยักหน้าทันที

 

“ก็ได้!”

 

ฮั่วฉีหลานที่เพิ่มพลังขึ้นมามหาศาลทำให้เขาตกใจ

 

เขาทำได้แค่หนีไปด้วยความกลัวเมื่อต้องเจอกับอำมฤตระดับสามสองคนหากจะต้องสู้ด้วยตัวคนเดียว

 

“ข้า หนึ่งในบุตรทั้งสี่แห่งหอสดับหิมะ ข้าจะช่วยเจ้าจัดการกับคนที่ป่าเถื่อนเช่นนี้!”

 

จางซือยี่หัวเราะ

 

เตี้ยฉีจับจ้องไปยังฮั่วฉีหลาน เขาไม่ละสายตาแม้แต่ครั้งเดียว

 

“ท่านซือยี่ เอาเลย!”

 

แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะได้รวมพลังโจมตีฮั่วฉีหลาน ร่างหลักของนางก็กลายเป็นบอลแสงกระจ่างและหายไปจากกลางอากาศ!

 

นางปรากฏตัวอีกครั้งที่ด้านหลังทหารทั้งสิบเก้าคน!

 

ปั้ง ปั้ง ปั้ง—

 

จู่ๆทหารขอบเขตอำมฤตสามคนก็กระเด็นไปไกลหลายร้อยเมตร!

 

พวกเขาทั้งสามไม่ทันได้กรีดร้องแต่ก็ตายไปอย่างน่าเวทนา!

 

“หึหึ อ่อนแอเกินไปนัก”

 

ฮั่วฉีหลานแววตาเย็นชา

 

“ในร้อยปีนี้ตระกูลตู่หยาบคายจนเกินไป ให้ข้าได้ฟื้นคืนความจำของพวกเจ้าซะเถอะ!”

 

นางพูดและขยับมืออีกครั้ง นางสังหารทหารอีกสามคนในทันที!

 

เตี้ยฉีชักสีหน้า เขาคิดจะป้องกันเหล่าทหารแต่ก็ได้ยินจางซือยี่พูดอย่างตื่นตระหนก

 

“หัวหน้าเตี้ยฉี พวกเจ้าต้องช่วยกันจัดการร่างเทียมเสียก่อน!”

 

หัวหน้าเตี้ยฉีกัดฟันแน่น เขาเปลี่ยนไปโจมตีร่างแสงร่วมกับจางซือยี่

 

ร่างแสงนั้นปกป้องฉีหยุนเซี่ยงกับตู่หลงอยู่

 

เมื่อทั้งสองเข้ามา บุรุษผมสีเงินก็บินเข้ามาขวาง

 

“ศัตรูของพวกเจ้าคือข้า!”

 

ซือหยูยืนมือไพล่หลัง เขาเผชิญหน้ากับอำมฤตระดับสามสองคนด้วยตัวคนเดียว!

 

จางซือยี่ไม่เป็นกังวล เขากลับดีใจ

 

“เจ้าส่งตัวเองมาตายงั้นรึ?”

 

ซือหยูส่ายหัว

 

“หึหึ พวกเจ้าเป็นคนดีนัก ร่วมมือกันสองคนเพื่อโจมตีคนคนเดียว ข้าที่เป็นแค่รองเจ้าตำหนักจำต้องทำเรื่องเลวร้ายเพื่อช่วยเหลือพวกนั้น”

 

หรือพูดอีกอย่างก็คือ ทั้งสองร่วมมือกันเพื่อทำลายร่างเทียมอย่างไร้ยางอาย

 

“ฮื่ม! นางสมคบคิดกับเจ้า เห็นๆอยู่ว่าไม่ใช่คนดี ทุกคนมีหน้าที่ต้องกำจัดคนอย่างพวกเจ้า!”

 

จางซือยี่แก้ตัว

 

เตี้ยฉีขมวดคิ้ว

 

“เจ้าเอาแต่พูดเรื่องไร้สาระ! เข้าไปเถอะ! ฆ่ามันให้หมด!”

 

ซือหยูแอบยักคิ้ว ตระกูลตู่กล้าขู่สังหารคนจากอาณาจักรทมิฬได้อย่างไม่ลังเล เห็นได้ชัดว่าตระกูลตู่มีความมั่นใจที่จะต่อกรกับอาณาจักรทมิฬ

 

จางซือยี่คำราม เขาโจมตีเข้ามาพร้อมกับเตี้ยฉี!

 

ซือหยูไม่ขยับตัว แววตาของเขาเปล่งประกายอย่างเยือกเย็น

 

และไม่นานทั้งสองก็เข้ามาใกล้จนอยู่ตรงหน้าซือหยูพร้อมกัน!

 

เฮือก—-

 

ซือหยูเริ่มขยับตัว เขาหายใจเข้าลึก!

 

ในตอนนั้น พลังวิญญาณรอบๆพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง พลังทำลายล้างอันน่ากลัวรวบรวมอยู่ในปากของซือหยู

 

สุดท้าย พลังนั้นได้เปลี่ยนเป็นคลื่นทำลายล้าง พุ่งไปยังทั้งสอง

 

อะไรกัน?

 

สีหน้าของเตี้ยฉีกับจางซือยี่เปลี่ยนไป!

 

พวกเขาสองคนเอาแต่สนใจกายาแสงโดยไม่มองซือหยูอย่างจริงจังเลยสักครั้ง

 

พวกเขาจะป้องกันการโจมตีอันแข็งแกร่งจากที่พวกเขาไม่คาดคิดจากซือหยูได้ยังไง?

 

“อรหันต์แปดอักษร หลิน!”

 

คลื่นเสียงทำลายล้างกระจายไปทั่วทิศทาง!

 

ฝุ่นควันพัดปลิว พลังวิญญาณรอบๆสั่นไหวอย่างบ้าคลั่ง

 

คลื่นเสียงทำลายล้างพุ่งออกไปด้วยพลังทั้งหมดบนโลก

 

เอื้อก—-

 

อั่ก—-

 

ทั้งสองกระเด็นราวกับใบไม้ร่วง

 

ตลอดทาง โลหิตกระจายไปทุกหนแห่ง เนื้อหนังของพวกเขาไหม้เกรียมและแดงฉาน ทั้งคู่บาดเจ็บสาหัส!

 

ซือหยูเงยหน้ากระอักเลือดออกมา เขากระเด็นลอยไปเช่นกัน

 

ทั้งสองคนนั้นได้ย้ายเป้าการโจมตีจากกายาแสงมาเป็นซือหยูอย่างร้อนรน

 

แม้ว่าพวกเขาจะรีบ แต่มันก็มีพลังราวครึ่งส่วนของพลังสูงสุด

 

และด้วยสองคนที่โจมตีพร้อมกัน พลังนั้นไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าการโจมตีจากอำมฤตระดับสามเลย!

 

พรึ่บ–

 

บอลแสงพุ่งเข้ามาล้อมซือหยู มันคือกายาแสงที่เข้ามาช่วย

 

ซือหยูรีบพูดโดยที่ไม่สนใจบาดแผลของตัวเอง

 

“รีบไปทำลายฐานพลังของพวกมันไม่ก็ฆ่ามันเร็ว!”

 

พรึ่บ–

 

กายาแสงกลายเป็นบอลแสงพุ่งไปหลังเตี้ยฉีและจางซือยี่ในพริบตา นางทำลายฐานพลังของทั้งคู่ก่อนจะลากทั้งคู่มาตรงหน้าซือหยู

 

ร่างหลักของฮั่วฉีหลานสังหารทหารทุกคนหมดแล้ว

 

กายาแสงกำลังลากร่างของสองคนที่บาดเจ็บหนัก

 

การต่อสู้ครั้งนี้ไม่มีฝั่งซือหยูตาย แต่ซือหยูนั้นเจ็บหนัก!

 

สถานการณ์วิกฤติคลี่คลายอย่างง่ายดาย!

 

แต่ในตอนนั้นเอง…

 

“ข้ารอเวลานี้มานานแล้ว!”

 

เสียงแหบพร่าของสตรีดังขึ้นโดยไม่รู้แหล่งกำเนิด

 

ยากที่จะบอกว่าเสียงดังมาจากที่ใด!

 

พวกเขามองรอบๆและไม่พบร่างมนุษย์อยู่เลย!

 

ซือหยูหัวใจเต้นแรง เขามองไปรอบๆ ภัยคุกคามถึงชีวิตมาหาเขาโดยไร้คำเตือน!

 

แย่แล้ว!

 

“เร่งเวลา!”

 

ซือหยูร้องคำราม เวลาของเขาเร็วกว่าเดิมสามเท่า

 

เขามองไปและพบกับสิ่งที่ทำให้เขาต้องเบิกตากว้าง!

 

ข้างหลังกายาแสงคือเงาร่างทมิฬที่บิดเบี้ยว!

 

ราวกับภูติผีที่คืบคลานมาจากข้างหลังกายาแสง!

 

และที่น่ากลัวกว่าก็คือพลังของกายาแสงที่อยู่ในขอบเขตอำมฤตระดับสาม…แต่ก็ไม่สัมผัสได้ถึงตัวตนของมัน!

 

นางบินมาทางซือหยูโดยลากร่างทั้งสองที่บาดเจ็บสาหัสโดยไม่ทันระวังตัว

 

“ระวัง!!”

 

ซือหยูตะโกนเสียงดัง!

 

กายาแสงตกใจและสับสน แต่เงาบิดเบือนข้างหลังก็ลงมืออยู่ก่อนแล้ว

 

ฝ่ามือดำสนิททะลวงผ่านอกของกายาแสง

 

กายาแสงก้มลงมองมือที่ทะลุออกมาอย่างไม่เชื่อสายตา กายาแสงล้มลงกลายเป็นจุดแสงที่สลายไป!

 

สิ่งที่เข้ามาคือมนุษย์ที่ร่างสีดำ แต่มองได้ยากอย่างมาก!

 

“ถึงตาเจ้าแล้ว เจ้าตำหนักหยินหยู! ไม่มีใครช่วยเจ้าได้…”

 

ร่างทมิฬทมี่เสียงแหบแห้งพูดออกมาราวกับเป็นเสียงของภูติผี

 

ฟึ่บ–

 

ร่างทมิฬหายไป

 

ซือหยูมองงตามนางไม่ทัน!

 

แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงคลื่นลมอุ่นที่อยู่ข้างหลังใบหู!

 

ร่างนั้นกำลังมาที่ด้านหลังของเขา!

 

ฮั่วฉีหลานอยู่ไกลจากเขามาก นางเข้ามาช่วยไม่ทัน!

 

ไม่สิ…นางโชคดีแล้วที่ไม่ได้อยู่ใกล้ซือหยู!

 

กายาแสงไม่แม้แต่จะสัมผัสได้ถึงตัวตนของร่างทมิฬก่อนจะถูกสังหารอย่างง่ายดาย

 

ถ้าหากฮั่วฉีหลานเข้ามา นางก็คงไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้โต้ตอบก่อนจะถูกสังหาร!

 

ส่วนซือหยู เขาบาดเจ็บสาหัสหลังจากเจอการโจมตีของขอบเขตอำมฤตระดับสามสองคน เขาแทบจะขยับร่างกายไม่ไหว

 

“ตายซะ!”

 

เสียงแหบแห้งอันเยือกเย็นดังมาจากข้างหลัง

 

ความหนาวเย็นกัดกินดวงวิญญาณ!

 

เขาไม่เคยรู้สึกถึงความตายได้ใกล้ชิดเช่นนี้!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด