The Divine Nine Dragon Cauldron 370

Now you are reading The Divine Nine Dragon Cauldron Chapter 370 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ซือหยูไม่เอาธนูออกมา เขากลับสะบัดดัชนีอย่างเรียบง่าย

 

สายอัสนีล้อมกายอย่างรวดเร็ว หลี่ชานหมิงไม่มีแม้แต่เวลาจะตอบสนอง เขายังอยู่ในท่าที่ถือธนูตามเดิม เขาถูกอัสนีซัดใส่ตัวและลอยออกจากลานประลอง อกของเขาไหม้เกรียม

 

หลี่ชานหมิงตกใจอย่างมาก กลิ่นโลหิตคละคลุ้งในลำคอ ความเจ็บปวดนั้นมหาศาล เขาแพ้ในกระบวนท่าเดียว! ไม่สิ…พูดให้ถูกคือเขาไม่มีพลังให้โต้กลับด้วยซ้ำ!

 

ตามข่าวที่ได้ยิน หยินหยูใช้ธนูและเสมอกับอำมฤตระดับสี่ แต่ซือหยูจะเป็นเหมือนอำมฤตระดับสี่ในตอนนี้ที่เอาชนะเขาในกระบวนท่าเดียวได้ยังไง?

 

ซือหยูเดินลงจากลานประลอง เมื่อเดินผ่านหลี่ชานหมิง เขาส่ายหน้าอย่างเย็นชา

 

“ดูเหมือนเจ้าจะไม่มีพลังพอที่จะให้ข้าต้องใช้ธนูนะ”

 

หลี่ชานหมิงไม่พอใจอย่างมาก แต่เขาต้องเก็บความอัปยศนี้ไว้กับตัว

 

ในตอนนั้นเอง เหล่าผู้คนระเบิดเสียงดังก้องเมื่อเห็นซือหยูเอาชนะอีกฝ่ายได้ในกระบวนท่าเดียว นั่นเป็นสิ่งที่อำมฤตระดับสี่เท่านั้นจะทำได้!

 

“ดูเหมือนว่าเขาจะแข็งแกร่งกว่าคำร่ำลือนะ!”

 

มีหลายคนเริ่มคิดเช่นนี้ขึ้นมาแล้ว

 

จ้าวแห่งวิหคเพลิงยิ้มอย่างพอใจ สายตาอันสงบนิ่งของนางเป็นประกาย

 

“วิชาอำมฤตระดับหนึ่งขั้นสูง ห่างไกลจากระดับสองเพียงคืบเดียวเท่านั้น! เขาอายุแค่สิบเจ็ดปี ช่างมีสติปัญญาในระดับที่น่ากลัว…พรสวรรค์น่ากลัวนัก!”

 

หัวหน้ามู่ที่ยืนข้างนางอย่างนับถือยิ้มอย่างโล่งใจ

 

จ้าวแห่งวิหคเพลิงที่มักจะไม่ชื่นชมใครกับใช้คำว่า’น่ากลัว’ถึงสองครั้งในคราเดียว!

 

ซือหยูใช้แค่กระบวนท่าเดียวในการต่อสู้ที่เหลือ เขาใช้แค่ดัชนีสายฟ้าดาราที่บ่มเพาะจนถึงระดับหนึ่งขั้นสูง

 

“รอบคัดเลือกจบแล้ว มีห้าคนที่เอาชนะได้ทั้งสิบการประลอง!”

 

จ้าวแห่งวิหคเพลิงประกาศด้วยตัวเอง

 

“พวกเจ้าห้าคนมีสิทธิ์ที่จะเลือกหญิงสาวที่ต้องการ ตามพลังที่เจ้ามี ลำดับที่หนึ่งคือเฉินคง ลำดับสองหยินหยู ลำดับสามเว่ยฉีหลิน ลำดับสี่ซงหลวน ลำดับห้าหลิวลี่”

 

สิทธิ์ในการเลือกนั้นถูกจัดโดยจ้าวแห่งวิหคเพลิง

 

“ถ้าหากไม่มีใครโต้แย้ง พวกเจ้าก็เริ่มเลือกได้เลย”

 

“เดี๋ยวก่อน!”

 

เสียงแทรกขึ้นมาทันที เป็นหลิวลี่ที่สีหน้าไม่พอใจ

 

“ข้าไม่ปฏิเสธที่เฉินคงเป็นลำดับหนึ่ง แต่ทำไมคนนิรนามอย่างหยินหยูถึงมีตำแหน่งเหนือข้า? แล้วยังซงหลวนนั่นอีก เขามีสิทธิ์อะไรมาเหนือข้า?”

 

พวกเขาทั้งห้าล้วนเอาชนะสิบครั้งอย่างต่อเนื่อง แต่คนที่มีชื่อเสียงอย่างเขากลับถูกจัดลำดับให้อยู่หลังซือหยูกับซงหลวน หลิวลี่มิอาจยอมรับการจัดลำดับประหลาดๆเช่นนี้ได้ โดยเฉพาะลำดับของซือหยู ไม่เพียงซือหยูจะเหนือกว่าเขา แต่ซือหยูยังถูกจัดให้อยู่ในลำดับสอง! การจัดลำดับเช่นนี้มันน่าขันนัก!

 

เขาไม่ใช่แค่คนเดียวที่รู้สึกเช่นนี้ หลิวลี่มิอาจเข้าใจ มู่เทียนฟางก็มิอาจเข้าใจ ซงหลวนก็ไม่เข้าใจ เว่ยฉีหลินก็ไม่เข้าใจ แม้แต่เฉินคงก็ขมวดคิ้ว ไม่มีใครเข้าใจว่าเหตุใดจ้าวแห่งวิหคเพลิงถึงจัดลำดับพวกเขาเช่นนี้! เกิดอะไรขึ้นกัน?

 

พลังของซือหยูเมื่อครู่ก็แค่เกือบจะถึงพลังของอำมฤตระดับสี่ ไม่ต้องพูดถึงเว่ยฉีหลินที่เหนือกว่าหลิวลี่อย่างมิอาจเทียบ แต่แปลกมากที่ซือหยูถูกจัดให้เป็นลำดับสอง

 

“ก็เพราะว่าเขาแข็งแกร่งกว่าเจ้า เท่านั้นเอง”

 

จ้าวแห่งวิหคเพลิงพูดอย่างไม่แปลกใจ

 

หลิวลี่จ้องซือหยู เขามิอาจรับเรื่องนี้ได้ ซือหยูที่เขาดูถูกในตอนนี้กำลังยืนอยู่เหนือศีรษะของเขาในงานสำคัญเช่นนี้ ความอัปยศครั้งนี้มิอาจลบล้างไปได้ ในใจของเขามีเพียงคนเดียวที่แข็งแกร่งกว่านั่นคือเฉินคง! ไม่มีใครอื่นอยู่ในสายตาเขา

 

หลิวลี่ถอนหายใจแรง

 

“ข้า…รับ! สิ่งนี้! ไม่ได้!”

 

หลิวลี่เผชิญหน้ากับจ้าววิหคเพลิงตรงๆ

 

“เขาแข็งแกร่งกว่าข้าตรงไหนกัน? การประลองเท่านั้นที่จะตัดสินได้ว่าใครแข็งแกร่งกว่า ไม่ใช่การให้ความเห็นจากคนนอก!”

 

ซือหยูยิ้มเยาะ

 

“เจ้าไม่เคยประลองกับข้าสักครั้งแต่ก็เอาแต่พูดว่าเจ้าแข็งแกร่งกว่าข้า ความแข็งแกร่งมันตัดสินกันด้วยลมปากหรืออย่างไร? ถ้าเช่นนั้นแล้วทำไมเจ้าถึงใช้แต่ลมปากเล่า?”

 

หลิวลี่ไม่พูดต่อ เขาถอนหายใจแรง

 

“นั่นก็เพราะว่าเจ้าไม่เข้าใจระดับของข้า! ไม่คู่ควรที่ข้าจะต้องไปสู้กับเจ้า!”

 

ซือหยูยิ้มอย่างเยือกเย็น

 

“เก็บอัตตาไร้สาระของเจ้าไปเถอะ ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ เจ้าก็แค่ประเมินตัวเองสูงเกินไป เอาแต่คิดว่าข้าอ่อนแอกว่าเจ้า”

 

หลิวลี่คำรามลั่นไม่สนใจคำพูดของซือหยู เขาเพียงแต่มองจ้าวแห่งวิหคเพลิง เขาต้องการให้จ้าวแห่งวิหคเพลิงจัดการเรื่องนี้

 

เจ้าวิหคเพลิงใจเย็น มิอาจบ่งบอกอารมณ์ของนางได้

 

“เจ้าอ่อนแอกว่าเขา ไร้ประโยชน์ที่จะคิดเช่นนั้น เริ่มเลือกสตรีที่เจ้าชอบได้แล….”

 

“เดี๋ยวก่อน!”

 

ครั้งนี้เป็นซือหยูที่พูดออกมา

 

“หยินหยู เจ้ามีอะไรรึ?”

 

จ้าววิหคเพลิงถามและหันมามองเขา

 

ซือหยูพูดอย่างใจเย็น

 

“ท่านจ้าวคณะ ทำไมไม่ทำตามที่เขาปรารถนาเล่า? คนที่มิอาจรับความจริงได้ก็มีแต่ต้องยอมรับด้วยหมัดเท่านั้น”

 

เขาอยากจะสู้กับหลิวลี่มานานแต่ไม่มีโอกาส หลิวลี่เอาแต่พูดคำโตแต่ก็ไม่เคยจะประลองกับซือหยู ในวันนี้เป็นโอกาสดีที่เขาถูกบังคับให้ต้องเกิดความขัดแย้งกับซือหยู

 

“ตลกสิ้นดี!

 

“ให้ข้ายอมรับความจริงรึ? เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกัน?”

 

หลิวลี่พูดอย่างไม่พอใจอย่างยากที่จะได้ยินจากเขา

 

จ้าวแห่งวิหคเพลิงคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ

 

“ไม่จำเป็นที่พวกเจ้าต้องประลองกัน!”

 

จ้าววิหคเพลิงปรบมือ

 

ฟึ่บ–

 

หญิงสาวปรากฏตัวที่หน้าจ้าววิหคเพลิงทันที นางคือสตรีวิหคเพลิงลำดับสอง ยู่หลิง!

 

“ยู่หลิงจะประลองกับพวกเจ้าทีละคนและทดสอบพลังของพวกเจ้า”

 

“ใครแข็งแกร่งกว่ากันแน่จะชัดเจนในการประลองนี้ นี่ก็เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเจ้าบาดเจ็บก่อนจะประลองรอบต่อไป”

 

ยังคงมีการประลองรอบต่อไปอยู่อีก ถ้าทั้งสองบาดเจ็บในการต่อสู้ก็จะส่งผลต่อการประลองถัดไปแน่นอน

 

ยู่หลิงจ้องซือหยูอย่างเยือกเย็น

 

หลิวลีร่คิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ

 

“อย่างนั้นก็ย่อมได้”

 

แต่ซือหยูส่ายหน้า

 

“ข้าไม่ยอมรับ!”

 

จ้าวแห่งวิหคเพลิงขมวดคิ้ว

 

“ทำไมกัน? เจ้ากลัวว่ายู่หลิงแข็งแกร่งเกินไปและไม่เหมาะกับการประลองรึ?”

 

“มิได้…”

 

ซือหยูส่ายหัว

 

“เช่นนั้น เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”

 

จ้าวแห่งวิหคเพลิงสงสัย

 

ซือหยูยิ้มเหมือนอย่างเคย

 

“ข้าแค่จะบอกว่าประลองต่อกันคนละรอบมันเสียเวลา!”

 

จ้าวแห่งวิหคเพลิงตกใจ

 

“หรือว่าเจ้าอยากจะประลองกับยู่หลิงพร้อมกับหลิวลี่?”

 

จ้าวแห่งวิหคเพลิงคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้า

 

“นั่นก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ พวกเจ้าสองคนสู้พร้อมกันเพื่อจะได้แน่ใจว่าใครแข็งแกร่งกว่า แต่…”

 

จ้าวแห่งวิหคเพลิงมองยู่หลิง

 

“นางสู้เจ้าสองคนพร้อมกันไม่ได้อย่างแน่นอน เจ้าต้องออมมือนะ”

 

หลิวลี่คำราม

 

“จะวิธีไหนก็ย่อมได้ หากข้าจะได้เทียบพลังกับมัน!”

 

ยู่หลิงขมวดคิ้วอย่างโกรธเกรี้ยว สองต่อหนึ่งงั้นรึ? นางไม่มีโอกาสจะชนะเลย และกลับมีโอกาสสูงมากที่นางจะบาดเจ็บ

 

“ร่วมมือกันรังแกคนนั่นมันความสามารถพิเศษของเจ้างั้นเรอะ!”

 

ยู่หลิงมองด้วยความขยะแขยง นางยังโกรธในเรื่องที่เกิดขึ้นนอกกระโจมหลงลืมเมื่อสามวันก่อน

 

“แต่ข้าไม่จำเป็นต้องกลัวคนขี้ขลาดอย่างเจ้า! เข้ามาเลย!”

 

จ้าววิหคเพลิงพูดขึ้น

 

“หยินหยู เจ้าจะปฏิเสธหรือไม่?”

 

“แน่นอน!”

 

ซือหยูพูดอย่างไม่ลังเล

 

จ้าวแห่งวิหคเพลิงพูดอย่างไม่พอใจ

 

“แล้วมีอะไรอีก?”

 

ซือหยูเงยหน้า สายตาเขาเยือกเย็น

 

“ท่านจ้าวคณะเข้าใจข้าผิดแล้ว ข้าไม่ได้ขอประลองกับยู่หลิงพร้อมกันกับหลิวลี่ ที่ข้าขอก็คือข้าคนเดียว ประลองกับทั้งสองคน….เพื่อลดเวลา!”

 

สองต่อหนึ่ง! อำมฤตระดับสามกำลังร้องขอที่จะต่อสู้กับอำมฤตระดับสี่สองคนพร้อมกัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด