The Divine Nine Dragon Cauldron 384

Now you are reading The Divine Nine Dragon Cauldron Chapter 384 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“มีม่านพลังที่คณะวิหคเพลิงแห่งนี้ ถ้าคนนอกบุกเข้ามา ศิษย์ที่ควบคุมม่านพลังก็จะรับรู้!”

 

ซือหยูสีหน้าเปลี่ยนไป

 

“ท่านจ้าวคณะ ข้าพูดเรื่องจริงแน่นอน! เจ้าเมืองอันยี่อยู่ที่นี่! ข้าแนะนำให้ท่านเรียกศิษย์ที่ดูแลม่านพลังมาเดี๋ยวนี้เลย! คนคนนั้นจะต้องรู้อะไรแน่!”

 

จ้าววิหคเพลิงประหลาดใจมาก หรือพูดอีกอย่างก็คือนางถูกศิษย์ของตัวเองทรยศโดยปล่อยให้คนนอกเข้ามา! และแขกที่ไม่ได้รับเชิญผู้นั้นยังเป็นเจ้าเมืองอันยี่ผู้ทรงพลัง

 

หยินหยูนั้นไม่มีเหตุที่จะต้องโกหกนาง เป็นการดีที่จะเชื่อคำพูดของเขา!

 

“มู่เทียนฟาง! จับตัวลี่เว่ยกวงที่ดูแลม่านพลังเดี๋ยวนี้!”

 

นางสั่งมู่เทียนฟางและรีบออกไปจากห้องง สถานการณ์ในตอนนี้นั้นเร่งด่วน

 

ซือหยูรู้สึกตื่นตระหนกเช่นกัน และเขายังมีเรื่องบาดหมางอยู่กับเจ้าเมืองอันยี่ จ้าววิหคเพลิงรีบสั่งรวมตัวสตรีวิหคเพลิงทั้งสิบและศิษย์หลักต่างๆ ในพริบตาในโถงคณะวิหคเพลิงก็เต็มไปด้วยผู้คน

 

บรรยากาศตึงเครียดและน่าเป็นห่วง ไม่มีใครรู้ว่าทำไมอาจารย์ของคนจึงรวบรวมพวกนางมาที่นี่ ในตอนนั้นหน่วยลาดตระเวนก็เข้ามาอย่างดุดัน มู่เทียนฟางอยู่ด้านหน้า นางพาตัวศิษย์มาหนึ่งคน นางทั้งหวาดกลัวและกระวนกระวาย ทั้งร่างของนางสั่นเมื่อเห็นจ้าววิหคเพลิง

 

ซือหยูสับสน คนผู้นี้ทั้งเคารพนับถือและหวาดกลัวจ้าววิหคเพลิงอย่างมาก นางจะกล้าปล่อยให้คนอื่นเข้ามาในดินแดนของตัวเองได้ยังไง?

 

“เจ้าให้เจ้าเมืองอันยี่เข้ามาที่นี่ใช่หรือไม่?”

 

จ้าววิหคเพลิงถามด้วยความเย็นชา

 

ปั้ง–

 

ลี่เว่ยกวงคุกเข่าลงกับพื้น นางหน้าซีด เหงื่อเย็นๆแตกพลั่ก

 

“ไว้ชีวิตข้าด้วยเถอะท่านจ้าวคณะ!”

 

เป็นเรื่องจริง!

 

จ้าววิหคเพลิงใจหาย! นางรู้สึกอึดอัดใจ

 

“ข้าดูแลเจ้าเป็นอย่างดีมาตลอด!”

 

“เจ้าทำไปทำไมกัน?”

 

ลี่เว่ยกวงกัดฟันราวกับกำลังขัดขืนกับอะไรบางอย่าง นางหยุดนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาอย่างเด็ดเดี่ยว

 

“ท่านจ้าวคณะ ข้าถูกบังคับ! ข้าถูกวางยาโดยคนคนหนึ่ง ถ้าหากข้าไม่ทำตามคำสั่ง พิษก็จะถูกทำงาน และข้าก็จะตาย….”

 

มีคนบงการนาง!

 

จ้าววิหคเพลิงทุบโต๊ะและยืนขึ้นอย่างโกรธเกรี้ยว

 

“ใครกัน?”

 

นางขึ้นเสียง

 

ลี่เว่ยกวงอ้าปากจะพูดแต่ในตอนนั้นร่างของนางก็ขยายราวกับลูกโป่งและระเบิดเสียงดัง! เนื้อหนังและโลหิตกระจายไปทั่ว พิษในกายของนางทำงาน!

 

ใครทำเรื่องนี้กัน?

 

“หึหึ…”

 

ในตอนนั้นเอง เสียงหัวเราะดังมาจากเหนือดินแดนวิหคเพลิง

 

“คนที่ข้าเกลียดที่สุดก็คือคนทรยศ…”

 

“ข้าช่วยเจ้าชี้แนะศิษย์ชั่วเองก็เพราะข้ากังวลจนเกินไป โปรดให้อภัยข้าเถอะ!”

 

ฟึ่บ–

 

ร่างของจ้าววิหคเพลิงราวกับภาพลวง นางหายไปจากโถง ซือหยูก็ลากร่างที่บาดเจ็บออกไปเช่นกัน ชายวัยกลางคนลอยอยู่กลางอากาศด้วยรอยยิ้ม

 

เขาคือเจ้าเมืองอันยี่! ซือหยูจะลืมผู้นำตระกูลตู่ที่ต้องการให้เขาตายได้อย่างไร?

 

เส้นผมของจ้าววิหคเพลิงร่ายรำอย่างบ้าคลั่ง แววตาอันอ่อนโยนของนางในตอนนี้ดุร้าย

 

“เจ้าเมืองอันยี่รึ?”

 

“เจ้ามาโดยไม่ได้รับเชิญและแอบเข้ามาในที่ของข้า เจ้าไม่คิดจะอธิบายก่อนจะออกไปงั้นรึ!”

 

เจ้าเมืองอันยี่ซ่อนมือไว้ในชุด สีหน้าของเขาเย็นชา เขายิ้มเยาะ

 

“ข้ามาก็เพราะได้ยินถึงศิษย์อันยอดเยี่ยมที่เจ้ามี ท่านจ้าวคณะเองก็งดงามไม่มีใครเทียบ ข้ามาที่นี่ก็เพื่อเชิญให้พวกเจ้าทุกคนช่วยสืบสานนามของตระกูลตู่ต่อไป”

 

ตระกูลตู่เกือบจะสูญหายไปเพราะคลื่นสัตว์อสูร ไม่มีคนตระกูลตู่ในเมืองอันยี่เหลือมากนัก การสืบวงศ์ตระกูลต่อไปนั้นเป็นสิ่งกดดัน แต่เขาก็คิดจะดูหมิ่นทุกคนที่นี่

 

ซือหยูมองดูรอบๆ เนตรวิญญาณของเขามองผ่านทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกขุนเขา บ้านเรือน และก้อนซิลา ทุกสิ่งในระยะสามพันลี้ไม่รอดพ้นไปจากสายตาเขา ซือหยูเห็นมันทั้งหมด

 

ตอนนั้นเอง ซือหยูเบิกตากว้าง ที่ระยะพันห้าร้อยลี้ ในป่ารกนั้นได้ซ่อนกองทัพใหญ่เอาไว้ มีคนที่นั่นสองหมื่นคน! และยังมีสองผู้คุมสวรรค์! ซือหยูจำได้หนึ่งคน!

 

ฮั่นเจียงหลิน! เขามาด้วย!

 

จากนั้นซือหยูก็จำขุมกำลังในพันธมิตรร้อยดินแดนได้อีก! ตระกูลหลิน ตระกูลเฟิง ตระกูลเซิง และแม้แต่ตระกูลอู๋หยางกับอู๋หยางยูซินก็อยู่ในกองทัพ!

 

ซือหยูไม่เคยเห็นผู้คุมสวรรค์อีกคน คนผู้นั้นเต็มไปด้วยผมหงอกขาวราวกับหิมะ แววตาของเขาเยือกเย็นอย่างมาก อากาศเย็นยะเยือกล้อมรอบกายของเขา

 

มีคนผมขาวที่ใช้น้ำแข็งเพียงคนเดียวในบรรดาผู้คุมสวรรค์ในทวีปแห่งนี้! นั่นก็คือจ้าวแห่งหอสดับหิมะ! ข้างหลังเขาคือกองทัพของคนหมื่นคน ทุกคนเป็นศิษย์จากหอสดับหิมะ! พวกเขาซุ่มอยู่ในป่าเตรียมกองทัพเพื่อที่จะโจมตีคณะวิหคเพลิงโดยตรง

 

ในตอนนั้นเอง แววตาของจ้าวหอสดับหิมะดุร้ายขึ้น เขามองมาทางซือหยู

 

ฮั่นเจียงหลินสัมผัสได้ว่าจ้าวแห่งหอสดับหิมะเปลี่ยนไป เขาจึงถาม

 

“มีอะไรรึท่านจ้าวหอสดับหิมะ?”

 

จ้าวหอสดับหิมะหรี่ตา เสียงของเขาเย็นชา

 

“ดูเหมือนจะมีคนแอบมองพวกเรา! พวกเราอาจจะถูกเจอตัวแล้ว!”

 

ฮั่นเจียงหลินขมวดคิ้ว

 

“ถ้าเช่นนั้นเราก็ต้องลงมือให้เร็วขึ้น! เราจะไปที่นั่นก่อน ท่านไปเจอพวกเราที่คณะวิหคเพลิง”

 

ฮั่นเจียงหลินสั่งกองทัพข้างหลังเขา

 

“ฆ่าทุกคนที่กล้าหยุดเรา!”

 

จากนั้นเขาก็บินไปกับจ้าวแห่งหอสดับหิมะ

 

ที่คณะวิหคเพลิง

 

ซือหยูชักสีหน้า

 

“ท่านจ้าวคณะ ไม่ต้องไปเสียเวลากับเขา เขากำลังยื้อเวลา! ฮั่นเจียงหลินกับจ้าวหอสดับหิมะกำลังจะมาที่นี่ พวกเขานำกองทัพสองหมื่นคนมาด้วย พวกนั้นมาเพื่อที่จะทำลายคณะวิหคเพลิง!”

 

อะไรนะ? ฮั่นเจียงหลินกับจ้าวหอสดับหิมะงั้นรึ?

 

จ้าววิหคเพลิงท่าทีเปลี่ยนไปทันที นางรีบสั่งอย่างรวดเร็ว

 

“ฟังคำสั่งข้า ศิษย์แห่งคณะวิหคเพลิง! เตรียมทำสงคราม!”

 

มันเกิดขึ้นเร็วมาก! สงครามครั้งใหญ่มาโดยไม่บอกกล่าว เหล่าศิษย์ต่างตกใจแต่ก็ใจเย็นลงในเวลาต่อมา พวกเขารวมตัวกันเพื่อปกป้องคณะวิหคเพลิง จ้าววิหคเพลิงปล่อยรังสีอันไร้ปรานี

 

“ข้าจะฆ่าเจ้าก่อน! เจ้าเมืองอันยี่!”

 

เจ้าเมืองอันยี่สีหน้าบิดเบี้ยว เขามองไปยังเจ้าของเสียงและพบว่าคนพูดคือหยินหยู! คนคนเดียวกับที่ฆ่าลูกชายเขาและคนตระกูลตู่ไปต่อหน้าต่อตา!

 

“นี่เจ้า! ไอ้เด็กบัดซบ!”

 

เจ้าเมืองอันยี่โกรธแค้น แววตาเต็มไปด้วยเพลิงแห่งความชิงชัง

 

ครั้งแรกในเมืองอันยี่ ซือหยูฆ่าคนตระกูลตู่ไปมากมาย และซือหยูก็ยังมาทำแผนของเขาพังอีก!

 

“ข้าจะฆ่าเจ้า”

 

เจ้าเมืองอันยี่ตะโกนและพุ่งเข้าใส่ซือหยูด้วยตาแดงก่ำ

 

ตู้ม–

 

แต่ก็เพลิงร้อนระอุพุ่งเข้ามาทำให้เขาต้องถอยกลับ

 

จ้าววิหคเพลิงใช้สมบัติเทพที่รูปลักษณ์เป็นแหวนเพื่อปกป้องซือหยูที่อยู่ข้างหลังนาง สมบัติเทพนั้นเป็นสมบัติแห่งคณะวิหคเพลิง มันคือกงล้อวิหคเพลิงตะวัน! และด้วยสายโลหิตวิหคเพลิงอัคคีของจ้าววิหคเพลิง พลังของมันจึงเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

 

“สตรีวิหคเพลิงทั้งหมดจงฟัง!”

 

“สังหารคนคนนั้นกับข้า! ใช้ทุกอย่างที่พวกเจ้ามี!”

 

จ้าววิหคเพลิงใช้กงล้อวิหคเพลิงตะวันเข้าไปโจมตี

 

การต่อสู้ระหว่างผู้คุมสวรรค์มักจะเกิดขึ้นไม่นาน ศิษย์ระดับธรรมตารู้สึกได้แต่พลังมหาศาลแต่มิอาจเห็นทุกอย่างได้ว่าเกิดอะไรขึ้น

 

ครืน—

 

ปั้ง—

 

ภาพติดตาของนักสู้สองคนเต็มนภาเมื่อแลกกระบวนท่าใส่กัน สิบกระบวนท่าต่อมา….

 

อั่ก—

 

ร่างหนึ่งกระเด็นไปข้างหลังและกระอักเลือด เขาคือเจ้าเมืองอันยี่ อกของเขาถูกฉีกกระชากและเต็มไปด้วยโลหิต

 

“จะ–เจ้า เจ้ากำลังจะเป็นอำมฤตระดับห้าขั้นกลาง! เจ้ากำลังอยู่ในระดับราชาของมนุษย์!”

 

ระดับราชาแห่งมนุษย์หรืออำมฤตระดับห้าขั้นกลางนั้นเหนือกว่าอำมฤตระดับห้าขั้นต้นทุกคน ความต่างนั้นราวฟ้ากับเหว เพราะถึงกับถูกเรียกว่าราชาแห่งมนุษย์ ส่วนอีกระดับคือผู้คุมสวรรค์

 

“เจ้ารู้ช้าไปแล้ว!”

 

จ้าววิหคเพลิงตะโกน

 

จิตสังหารของนางพุ่งจนถึงขีดสุด นางงโจมตีโดยไม่มีใครมองตามทัน สตรีวิหคเพลิงทั้งสิบรายล้อมเจ้าเมืองอันยี่เตรียมจะลงมือ

 

เจ้าเมืองอันยี่ประหลาดใจ ข้อมูลที่เขาได้รับมานั้นผิดพลาด พลังของจ้าววิหคเพลิงแข็งแกร่งยิ่งกว่าที่เขาคิดไว้อย่างมาก!

 

“โอสถโลหิตจันทรา! ระเบิดซะ!”

 

เจ้าเมืองอันยี่คำรามลั่น เขาขว้างของวัตถุทรงกลมสีแดงออกมา

 

จ้าววิหคเพลิงชักสีหน้า

 

“นั่นมันสมบัติเทพระเบิด!”

 

“อันตราย! ถอยออกมา!”

 

แต่มันก็สายไปแล้ว! วัตถุสีแดงระเบิด แรงระเบิดไม่ได้ด้อยไปกว่าการโจมตีของผู้คุมสวรรค์เลย

 

จ้าววิหคเพลิงไม่เป็นอะไร แต่สตรีวิหคเพลิงทั้งสิบถูกคลื่นแรงระเบิดจนกระเด็นและกระอักเลือด พวกนางล้วนบาดเจ็บอย่างรุนแรง มีแค่เฟิงเซี่ยนกับยู่หลิงที่บาดเจ็บเล็กน้อย นางทั้งสองคนมีโลหิตไหลออกมาจากมุมปาก

 

เจ้าเมืองอันยี่ใช้โอกาสนี้หันหนีออกไป

 

จ้าววิหคเพลิงตามทันแต่ก็มีรังสีอันน่ากลัวของสองคนพุ่งเข้ามา! หนึ่งคนหน้าตาหล่อเหลา ส่วนอีกคนเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง

 

สามขุมกำลังใหญ่แห่งทวีปและสองผู้คุมสวรรค์อยู่ในที่เดียวกัน!

 

จ้าววิหคเพลิงหยุด สีหน้านางหม่นหมอง

 

“เจ้าคิดจะทำให้ทวีปนี้โกลาหลงงั้นเรอะ?”

 

“ก่อสงครามโดยไม่ประกาศไม่ต่างกับการลอบโจมตี! พวกเจ้าไม่มีความละอายใจเลยงั้นรึ?”

 

สามขุมกำลังมักจะอยู่ในสถานะที่ถ่วงดุลกัน แต่ใครจะไปคิดว่าหอสดับหิมะที่แข็งแกร่งที่สุดจะร่วมมือกับพันธมิตรร้อยดินแดนเล่า?

 

ฮั่นเจียงหลินถอนหายใจแรง

 

“เป็นเจ้าที่ดื้อด้านปฏิเสธการก่อตั้งของพันธมิตรอุดรทวีปและขัดขวางการหลอมรวมเป็นปึกแผ่นของทวีป เจ้านั่นแหละเป็นคนที่ผิดบาป! การกำจัดคณะวิหคเพลิงคือความตั้งใจของทุกขุมกำลัง!”

 

พันธมิตรอุดรทวีปนั้นคือการรวมสามขุมกำลังเข้าด้วยกันและสร้างผู้ปกครองคนใหม่ที่มีอำนาจเหนือทวีปตอนเหนือทั้งหมด

 

จ้าววิหคเพลิงขึ้นเสียง

 

“ไร้สาระ! พวกเจ้าก็แค่อยากจะทำลายตำหนักรองของอาณาจักรทมิฬ ทำไมคณะวิหคเพลิงจะต้องไปทำเรื่องไร้สาระที่ไม่มีวันสำเร็จของพวกเจ้าด้วย?”

 

ซือหยูตกใจ พันธมิตรอุดรทวีปคิดจะกำจัดตำหนักรองของอาณาจักรทมิฬงั้นรึ?

 

เขาคิดย้อนกลับไปในตอนที่ฮั่นเจียงหลินรวบรวมตระกูลจากเมืองพันธมิตรเข้ามารวมตัวพูดคุยกัน แม้แต่อู๋หยางหลงผู้เย็นชาก็มีสีหน้าลำบากใจหลังจากการพูดคุยครั้งนั้น ท่าทางของเขาประหลาดอย่างมาก หรือว่าฮั่นเจียงหลินจะยุ่งอยู่กับการรวมตระกูลต่างๆจากในร้อยดินแดนเพื่อเตรียมการในวันนี้กัน?

 

“พูดไปก็ไร้ประโยชน์!”

 

จ้าวหอสดับหิมะดุร้ายอย่างมาก ดวงตาเยือกเย็นของเขามองทุกสิ่งเบื้องล่าง

 

“คณะวิหคเพลิงจะต้องถูกทำลายในวันนี้!”

 

“บุก!”

 

ฮั่นเจียงหลินตะโกน

 

เขากับจ้าวแห่งหอสดับหิมะและเจ้าเมืองอันยี่ที่บาดเจ็บลงมือพร้อมกัน!

 

ผู้คุมสวรรค์ทั้งสามคนต่อหนึ่ง ผลที่ออกมาก็คงจะไร้คำถาม! การต่อสู้นี้เกิดขึ้นไม่ถึงสามวินาที

 

อั่ก–

 

สตรีคนหนึ่งร่วงหล่นมาจากเมฆา นางกระอักเลือดมาตลอดทาง มีกระบี่น้ำแข็งทะลุอยู่ที่ท้องของนาง

 

“ท่านจ้าวคณะ!”

 

เหล่าศิษย์ตะโกนอย่างโกรธแค้น

 

เฟิงเซี่ยนกับยู่หลิงบินขึ้นฟ้าและช่วยรับจ้าววิหคเพลิง พวกนางรู้ในทันทีว่าอาจารย์กำลังบาดเจ็บอย่างร้ายแรง กระบี่น้ำแข็งแทบจะเอาชีวิตของนางไป!

 

จ้าววิหคเพลิงโกรธแค้นและเจ็บปวดอย่างมาก คณะวิหคเพลิงจะถูกลบหายไปในวันนี้จริงๆงั้นรึ?

 

เหนือเมฆา ฮั่นเจียงหลินและคนที่เหลือปลดปล่อยจิตสังหารออกมาและใช้โอกาสนี้โจมตี

 

“ฆ่านางซะ!”

 

เขาตะโกน

 

จ้าววิหคเพลิงกัดฟันแน่น กงล้อวิหคเพลิงตะวันในมือกลายเป็นตะวันแผดเผาพุ่งไปยังท้องนภา!

 

“เก้าตะวันสวรรค์ลุกไหม้!”

 

ตู้ม–

 

กงล้อวิหคเพลิงตะวันตะเบิดเสียงดัง มันกลายเป็นบอลเพลิงที่คล้ายกับดวงตะวันเก้าดวง

 

ฟึ่บ ฟึ่บ–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด