The Divine Nine Dragon Cauldron 413

Now you are reading The Divine Nine Dragon Cauldron Chapter 413 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บูชายัญโลหิต? เซี่ยจิงหยูคิด นางพยักหน้า

 

“ข้ารู้ไม่มากนักหรอก บางครั้งเพื่อที่จะอัญเชิญสิ่งที่แข็งแกร่งกว่าลงมา ภูติผีจะทำการบูชายัญโลหิต แต่มันต้องเซ่นสังเวยด้วยเลือดเนื้อของสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งถึงจะทำได้ แต่ก็มีการบูชายัญโลหิตหลายแบบ เราไม่รู้ว่าพวกมันจะทำในแบบใด”

 

“หรืออีกอย่างก็คือ ซ่อนอยู่ที่นี่พวกเราจะปลอดภัยกว่าสินะ”

 

ซือหยูคิดและหยิบเอาหยดพลังธรณีออกมา

 

“กลืนนี่ไป”

 

“มันจะช่วยให้ร่างกายเจ้ารู้สึกดีขึ้น”

 

เขานั่งลง

 

เซี่ยจิงหยูตาเป็นประกายเมื่อเห็นหยดวารีวิญญาณนั้น

 

“นั่นมันน้ำนมธรณีกระจ่าง มันจะขับไล่วิญญาณอสูรและทำให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้น มันล้ำค่ามากนัก ยากที่จะหามันเจอในโลกภายนอก! ถ้าเจ้าพกมันติดตัว ราชาปีศาจหิมะทมิฬก็ต้องเป็นคนที่ร่ำรวยยิ่งนัก”

 

จ้าวยี่หยูนั้นมีความรู้กว้างขวางอย่างมากจนซือหยูตกใจ น่าขันที่กังต้าเหล่ยไม่รู้จักสิ่งที่เขาพบแม้จะผ่านไปหลายปี แต่จ้าวยี่หยูกับบอกได้ในทันที

 

แม้แต่ซือหยูก็ใช้มันโดยไม่รู้ว่ามันคืออะไร เขาหัวเราะอย่างเขินอายและส่งมันให้กับนาง ซือหยูใช้พลังความเย็นในร่างเพื่อกำจัดพลังงานความร้อนในน้ำนมธรณีกระจ่าง แต่จ้าวยี่หยูน่าจะรู้วิธีใช้ที่ถูกต้อง

 

“ราชาปีศาจหิมะทมิฬก็ใช้วิชาน้ำแข็งได้ดีสินะ”

 

ซือหยูควบคุมพลังความเย็นเอาไว้และถามอย่างเรียบเฉย

 

“ใครกันที่ใช้วิชาน้ำแข็ง?”

 

รอยยิ้มยินดีปรากฏบนใบหน้าซีดเซียวของนาง

 

“จะใครล่ะ แต่วิชาน้ำแข็งของเจ้าก็ไม่ได้เก่าแก่นัก เจ้าทำให้พลังความเย็นเข้าสู่ร่างของเจ้าได้”

 

นางพูดถูก สมุนไพรเทพนั้นถูกซือหยูกินไป ดังนั้นพลังความเย็นจึงอยู่ในเลือดเนื้อของเขา

 

หลังจากครุ่นคิด ปลายดัชนีของเซี่ยจิงหยูเขียนอะไรบางอย่างลงบนพื้น พริบตานางก็เขียนสูตรของอะไรบางอย่างออกมา

 

“เจ้าจะต้องได้พลังความเย็นมาจากแหล่งภายนอก บางทีเจ้าน่าจะกินอะไรเข้าไป ดังนั้นเก้าในสิบส่วนของความเย็นเจ้าจะอยู่ในเลือดเนื้อ”

 

“นี่คือเนื้อหาของน้ำแข็งนิรันดร์ วิชาบ่มเพาะที่ข้าคิดขึ้นมาโดยอ้างอิงจากวิชาน้ำแข็งระดับอำมฤต มันจะทำให้พลังความเย็นในร่างเจ้าถูกใช้งานและทำให้เจ้าควบคุมน้ำแข็งต่อสู้ได้ โลกนี้ไม่มีสิ่งใดได้มาเปล่าๆ คิดซะว่ามันคือของแลกเปลี่ยนกับน้ำนมธรณีกระจ่างก็แล้วกัน”

 

เซี่ยจิงหยูพูดอย่างเรียบเฉย นางนั้นทิ้งระยะห่าง เย็นชา และไม่คิดจะติดหนี้ผู้ใด

 

ซือหยูตกใจในปัญญาของนาง สตรีผู้นี้มิได้เพียงแค่สัมผัสได้ถึงพลังความเย็นที่อยู่ในตัวเขาแต่ยังคาดเดาได้ว่าเขาทำอะไรมาบ้าง สัญชาตญาณของนางนั้นน่าตกใจเล็กน้อย

 

ซือหยูส่ายหน้าและปล่อยเรื่องนี้ไป เขาสนใจกับเนื้อหาตำราที่นางเขียนบนพื้น เขาเรียนรู้มันและอ้าปากค้าง

 

“เจ้าสร้างวิชาบ่มเพาะระดับสูงในระดับอำมฤตได้ด้วยนี่….สิ่งนี้ควรจะใกล้เคียงนักกับระดับตำนาน!”

 

วิชาบ่มเพาะนี้มีที่มามาจากวิชาระดับอำมฤต แต่มันก็เหนือว่าวิชาระดับอำมฤตทั่วไปและใกล้เคียงกับวิชาระดับตำนาน! หญิงสาวคนนี้มีระดับปัญญาที่สูงส่งมาก! นางอาจจะอายุน้อยกว่าซือหยูด้วยซ้ำ!

 

ซือหยูตกใจ บางทีเขาอาจจะประเมินจ้าวแห่งความมืดของอาณาจักรทมิฬต่ำเกินไป ถ้าเขาได้เจอกับเฉินยิ่งอีกครั้ง เขาต้องระวังตัวยิ่งกว่านี้

 

ซือหยูนั่งลงและเริ่มบ่มเพาะวิชานี้อย่างง่ายดาย ด้วยความช่วยเหลือของโอรสสวรรค์จ้องนภา วิญญาณของคนธรรมดาที่ฐานพลังเท่ากันนั้นเทียบไม่ได้กับเขา นั่นทำให้เขาบ่มเพาะวิชาได้เร็วกว่าคนทั่วไปอย่างมาก

 

******

 

ครึ่งวันผ่านไป ก้อนพลังความเย็นเอ่อล้นออกจากร่างของซือหยู มันกลายเป็นพยัคฆ์ขาวและเปลี่ยนเป็นมังกรได้อย่างน่าอัศจรรย์

 

เขาตอนนี้เขาก็ปล่อยพลังความเย็นจนถึงกระดูกออกมาได้ พลังเช่นนี้เทียบได้กับพลังของราชามนุษย์!

 

เซี่ยจิงหยูตกตะลึง พลังวิญญาณของนางถูกฟื้นฟูแล้ว นางต้องเรียกพลังวิญญาณออกมาป้องกันพลังความเย็น นางมองซือหยูด้วยความตกใจ

 

“ระดับปัญญาอะไรกัน!”

 

“ถึงที่ข้าเขียนจะมีความเข้าใจของข้าช่วยไปด้วย มันก็เป็นไปไม่ได้ที่คนธรรมดาจะบ่มเพาะได้เร็วเช่นนี้!”

 

นางจะรู้ได้อย่างไรว่าพลังเร่งเวลาของซือหยูถูกผนึกเอาไว้? มิเช่นนั้นเขาคงจะบ่มเพาะมันเสร็จเร็วกว่านี้ไปยี่สิบเท่าแล้ว

 

ซือหยูลืมตา ใบหน้าเขาแสดงความยินดี

 

“ขอบคุณจ้าวยี่หยูที่สอนวิชานี้กับข้า”

 

พลังความเย็นห้าส่วนที่หลับใหลอยู่ในกายได้ถูกใช้ออกมา มันเติบโตเป็นต้นอ่อน…คล้ายกับสมุนไพรเทพที่เขากินเข้าไปในรูปลักษณ์ที่เล็กกว่าเดิม…มันถูกปลูกอยู่ข้างต้นกำเนิดพลังของเขา

 

เช่นเดียวกับแหล่งกำเนิดพลัง ต้นอ่อนนี้เก็บพลังความเย็นได้ มันควรจะเก็บได้อย่างไม่จำกัด นั่นจึงเป็นเหตุที่วิชาน้ำแข็งนิรันดร์นี้เทียบได้กับวิชาระดับตำนาน ถ้าซือหยูใช้พลังทั้งหมดในตอนนี้…เขาอาจจะเผชิญหน้ากับราชามนุษย์ได้!

 

เซี่ยจิงหยูหัวเราะ มีคนลอบเข้ามาใกล้พวกเขา ซือหยูใช้เนตรวิญญาณมองออกไป จากนั้นเขาก็ชักสีหน้า

 

“มีคนอยู่ที่นี่”

 

เขากระซิบ

 

เซี่ยจิงหยูตกใจ จากนั้นนางก็สัมผัสได้ถึงตัวตนของอีกฝ่ายเช่นกัน นางพูดด้วยความเคร่งเครียด

 

“ราชามนุษย์สองคน!”

 

ซือหยูมองคนที่เข้ามาอย่างละเอียด เซี่ยจิงหยูจ้องมองเขาอย่างตกตะลึงในตอนที่เขาไม่รู้ตัว

 

นางได้เรียนรู้วิชาบ่มเพาะมามากมายในทวีป นอกจากจ้าวไป่ลั่ว…ใครกันจะสัมผัสจักรวาลได้…จ้าวแห่งความมืดคนอื่นไม่มีใครเทียบกับเซี่ยจิงหยูได้เลย แต่ราชาปีศาจหิมะทมิฬกลับสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของราชามนุษย์ของคนได้เร็วกว่านาง

 

ราชาปีศาจหิมะทมิฬคือผู้ใดกันแน่? นางสงสัย ชายลึกลับผู้ใดกันที่อยู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นมาและฆ่าล้างสังหารคนไปตลอดหลายล้านลี้ในทวีปเหนือ?

 

นางคิดว่าคนตรงหน้านางคือซือหยูไปเสี้ยวหนึ่ง แต่ชายคนนี้ดูแตกต่างกันเกินไป ความคิดของนางหายไปทันทีที่คิดขึ้นมา

 

ราชามนุษย์ทั้งสองเข้ามาใกล้ขึ้น

 

“พวกข้ามาหาเจ้าด้วยตัวเองเช่นนี้”

 

หนึ่งในนั้นประกาศ

 

“ไร้ประโยชน์ที่จะหลบซ่อน”

 

ซือหยูกับเซี่ยจิงหยูมองหน้ากัน ที่ซ่อนของพวกเขาถูกรับรู้แล้ว พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากออกไป

 

ซือหยูพุ่งออกมาและเห็นราชามนุษย์ตัวสูงส่วนอีกคนตัวเตี้ย ทั้งสองสวมหนังสัตว์อสูร เส้นผมของพวกเขากระเซิงออกและดูป่าเถื่อน มีสัญลักษณ์สีดำมากมายบนแผ่นหลังของพวกเขา

 

ชายตัวสูงสังเกตซือหยูและระวังตัวขึ้น

 

“เจ้าก็อันตรายอยู่นี่…”

 

เขาหยุดมองชายตัวเตี้ย

 

“หลู่ม่อ เจ้าจะเลือกใคร?”

 

ชายตัวเตี้ยมองเซี่ยจิงหยูและหัวเราะ

 

“มันจะต่างกันเรอะ? เจ้าเด็กนี่อันตรายก็จริง แต่ตุ๊กตาตัวน้อยนี่ก็ยอดเยี่ยมไม่ต่างกัน”

 

“ถ้าเช่นนั้น….”

 

“เราก็ลงมือพร้อมกันเลย”

 

ซือหยูตัวแข็งทื่อ คนพวกนี้คือคนร้ายที่ถูกขังไว้ในก้นบึ้งหวงห้ามงั้นรึ?

 

ความต่างระหว่างคนพวกนี้กับคนธรรมดาภายนอกนั้นราวฟ้ากับเหว คนที่นี่เฉียบคมอย่างมาก พวกเขารู้ว่าซือหยูกับเซี่ยจิงหยูอันตรายโดยที่ยังไม่ได้ทดสอบพลังด้วยซ้ำ ถ้าทั้งสองอยากจะต่อสู้ก็ยากที่ซือหยูกับเซี่ยจิงหยูจะชนะ

 

“เจ้าหนู…กับตุ๊กตาน้อย”

 

“ไม่มีใครอยากจะเจ็บตัวที่นี่ ถ้าเจ้าไม่ขัดขืนและตามพวกข้ามา เราจะไม่ทำให้พวกเจ้าต้องลำบาก เจ้าเมืองอยากจะเชิญพวกเจ้าเข้าสู่เมืองก้นบึ้ง เราสาบานว่าจะไม่ทำร้ายพวกเจ้าในระหว่างทาง”

 

เซี่ยจิงหยูลังเลเล็กน้อย แต่ซือหยูไม่ทำให้เสียเวลา

 

“พอแล้ว…”

 

เขาตะคอก

 

“เจ้าคิดว่าพวกข้าเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้รึ? เจ้าสาบานจะไม่ทำร้ายพวกข้าระหว่างทาง แต่คำสัญญาเจ้าไม่ได้บอกเมื่อพวกข้าถึงเมืองก้นบึ้ง อย่ามาใช้ไม้นี้กับข้า”

 

เซี่ยจิงหยูตกใจ นางคืนสติกลับมาทันทีและมองซือหยู นางกระซิบอย่างละอายใจ

 

“เจ้าเลือกจะสู้รึ? ข้าอยู่ในอาณาจักรทมิฬมาหลายปีแต่ขาดประสบการณ์การต่อสู้ ไม่ใช่พวกเราทุกคนจะชุ่มโลหิตอย่างราชาปีศาจหิมะทมิฬหรอกนะ”

 

พวกราชามนุษย์ใบหน้าเย็นยะเยือก

 

“ข้าให้โอกาสพวกเจ้าแล้ว หึ เจ้าก็เตรียมตัวรับผลที่ตามมาซะเถอะ!”

 

ชายตัวสูงหายใจเข้าลึก เขารวบรวมพลังวิญญาณในมือและซัดมันอย่างไม่ลังเล พลังวิญญาณซ่อนอยู่ใต้เท้าของเขา เมื่อมันระเบิดก็สร้างแรงกระแทกรุนแรง ร่างของเขาพุ่งทะยานไปหาพวกซือหยูในทันที

 

ซือหยูเห็นแค่เพียงแสงเงา เขาตอบสนองอย่างรวดเร็ว ชั้นพลังความเย็นปกคลุมกาย ทุกอย่างที่พลังความเย็นสัมผัสได้กลบายเป็นน้ำแข็ง

 

ชายตัวสูงเคลื่อนไหวช้าลง…ร่างของเขาปรากฏให้เห็นอีกครั้ง ซือหยูใช้ฝ่ามือทั้งสองปล่อยพลังความเย็นใส่ชายตัวสูงราวกับสายวารี

 

น้ำแข็งหนาทำให้ชายร่างสูงแข็ง นั่นทำให้ความเร็วของเขาลดลงยิ่งกว่าเดิม ความเร็วของเขาลดลงไปแล้วสามส่วน!

 

ปีกสะบัดบนหลังของซือหยู ปีกโบกสะบัดพร้อมกับซือหยูที่บินเข้าไปอย่างดุดัน ซือหยูบินเหนือชายตัวสูงและซัดหมัดเข้าใส่ศีรษะของศัตรูอย่างรวดเร็ว

 

ชายตัวสูงกลายเป็นน้ำแข็ง เขาเคลื่อนไหวได้ช้าลง เขาจะป้องกันซือหยูทันเวลาได้อย่างไร?

 

ชายตัวสูงขยับไหล่ ศีรษะของเขาเบี่ยงไปอีกทาง เขาหลบการโจมตีที่สังหารเขาได้ แต่เขาก็ถูกซัดเข้าที่ไหล่อย่างแรง

 

แรงกระแทกทำให้กระดูกของเขาหัก เขาหันไปมองซือหยูที่เข้ามาจู่โจมด้วยหมัด เขาไม่มีทางเลือกนอกจากหลบหมัดนั้น

 

ชายตัวสูงลูบไหล่ของตัวเอง มันบวมแดงอย่างน่ากลัว

 

“วิชาน้ำแข็งของเจ้านั้นอยู่ในระดับสูง ประกอบกับพลังกายเลยทำให้เจ้าเทียบเคียงได้กับราชามนุษย์ เจ้ามันอันตรายอย่างที่ข้าว่าไว้ แต่ถ้าเจ้าคิดว่านี่มันเพียงพอแล้ว เจ้าก็ไม่รู้จักพลัลงของก้นบึ้งหวงห้ามแล้วล่ะ!”

 

ชายตัวสูงสีหน้าหม่นหมอง เขาซัดดัชนีใส่อกของตัวเอง พลังอสูรจำนวนมากระเบิดเข้าใส่สัญลักษณ์ประหลาดที่สลักอยู่บนหลัง พลังอสูรปกคลุมกายทั้งร่าง

 

“ระวังนะ!”

 

เซี่ยจิงหยูเตือน

 

“คนในก้นบึ้งมังกรได้รับผลจากลมหายใจมังกรมาหลายปี พวกเขาใช้พลังวิญญาณได้ไม่ดีเท่าพวกเรา แต่พวกเขาเรียนรู็วิธีที่จะใช้พลังของลมหายใจมังกรเพื่อทำให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้น!”

 

ซือหยูประหลาดใจ ไม่แปลกใจที่พลังวิญญาณของศัตรูนั้นไม่บริสุทธิ์และมีพลังจำกัด นั่นจะต้องเป็นผลจากการที่ต้องรับลมหายใจมังกรมานาน พลังวิญญาณได้มีมลทินและไม่ต่างกับโทษประหาร

 

เมื่อพลังอสูรเอ่อล้น มันก็เข้าสู่ร่างของชายตัวสูงอีกครั้ง แต่ในตอนนี้ร่างกายของเขากำลังเปลี่ยนแปลงอย่างน่าตกใจ!

 

เขาทมิฬงอกออกมาจากศีรษะของเขา กรงเล็บคมกริบงอกจากแขนขา กล้ามเนื้อของพวกเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า! เขาที่เปลี่ยนร่างนั้นขยายตัวจากสูงหกศอกไปถึงสิบศอก! คนตรงหน้าเขาไม่มีร่างเป็นแบบมนุษย์อีกแล้ว!

 

ชายมีเขาตะโกนและปล่อยหมัด

 

“ตายซะ!”

 

หมัดนั้นมีพลังอสูรอยู่ด้วย ทั้งร่างของเขาเจ็บปวดอย่างมากก่อนที่หมัดจะสัมผัสตัวด้วยซ้ำ

 

ซือหยูตกใจมากและถอยเพื่อเรียกพลังความเย็นในร่าง สมุนไพรเทพที่เติบโตใกล้กับจุดกำเนิดพลังเปล่งแสงจ้า พลังน้ำแข็งอันน่ากลัวปกคลุมโดยรอบ

 

โฮก—

 

โฮก—

 

มังกรและพยัคฆ์ปรากฏตัวขึ้นและพุ่งเข้าใส่ชายมีเขา

 

สองการโจมตีนี้ไม่อ่อนแอไปกว่าของราชามนุษย์และอาจจะเหนือกว่าราชามนุษย์ทั่วไปด้วยซ้ำ! ชายมีเขาปล่อยหมัดออกมาแต่ก็ถูกหยุดด้วยมังกรและพยัคฆ์!

 

เขาร้องคำรามเสียงดัง พลังอสูรทำลายทั้งมังกรและพยัคฆ์พร้อมกัน

 

เซี่ยจิงหยูตะโกนหลังจากที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น

 

“วิชานี้เขาใช้จะมีผลแค่ชั่วคราว! ไม่นานร่างกายพวกเขาก็จะกลับมาอ่อนแอ แต่ตอนที่พลังยังอยู่พวกเขาจะไปอยู่ในจุดสูงสุดของราชามนุษย์! อย่าต่อสู้กับเขาตรงๆ ถ่วงเวลาจนเขาจะกลับมาอ่อนแอ! นั่นจะเป็นโอกาสฆ่าเขา”

 

ราชามนุษย์ตัวเตี้ยจ้องเซี่ยจิงหยู

 

“นังนี่! เจ้าจะรู้มากไปแล้ว!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด