The Divine Nine Dragon Cauldron 501

Now you are reading The Divine Nine Dragon Cauldron Chapter 501 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อเขาสะบัดแขน คลื่นอากาศพุ่งไปยังเว่ยกัง มันกระจายพิษจนทั่ว

 

ในเวลาเดียวกัน ชั้นพลังวิญญาณปกป้องร่างกายก็ปรากฏออกมา เขาเรียกค้างคาวไม้ออกมาในมือ มันปล่อยแรงดันวิญญาณออกมามหาศาล มันคือสมบัติเทพระดับสูง!

 

เขาเหวี่ยงมือออกไป ค้างคาวไม้ในมือส่งเสียงอันไพเราะออกมา

 

ซือหยูนั้นงุนงงและ เขารู้สึกว่าในหัวนั้นโล่ง และถ้าเขายังได้รับผลจากมัน แล้วชายหนุ่มผิวเนียนที่ได้รับผลจากมันตรงๆจะเป็นอย่างไรเล่า?

 

ดวงตาของชายหนุ่มผิวเนียนเปลี่ยนไป เขายืนนิ่งอยู่กับที่ เว่ยกังใช้โอกาสนี้พุ่งเข้าไปโจมตีอย่างป่าเถื่อนพร้อมกับเยาะเย้ย

 

“กึ่งภูติอย่างเจ้ามันก็ทำได้เท่านี้!”

 

เว่ยกังหัวเราะเหยียดหยาม เขาควบคุมสมบัติเทพระดับสูงในมือได้อย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อเขาปล่อยพลังออกมา เขาก็เอาชนะกึ่งภูติได้อย่างง่ายดาย

 

แต่ชายหนุ่มผิวเนียนที่อยู่ใต้ผลของค้างคาวไม้นั้นค่อยๆจางหายไปกลายเป็นหมอกสีมรกต

 

หมอกนั้นปกคลุมเว่ยกังในพริบตา ไม่เพียงแต่ม่านพลังป้องกันจะกันหมอกไม่ได้ ม่านพลังยังหลอมรวมกับหมอกเป็นหนึ่งเดียวกัน! หลังจากนั้นหมอกพลังวิญญาณก็เข้าร่างกายเขาไปตรงๆ!

 

เว่ยกังหน้าซีดเผือด จากนั้นหน้าเขาก็บวมช้ำ เขากรีดร้องอย่างเจ็บปวดออกมาไม่หยุด

 

มือที่ถือค้างคาวไม้คลายออก สมบัติเทพหลุดจากมือไปและถูกรับไว้โดยมือเรียบเนียนที่ดูซีด

 

ชายหนุ่มผิวเนียนเดินออกมาจากกลุ่มควัน ก่อนหน้านี้เขาก็ใช้วิชาเร้นกายเช่นนี้ลอบฆ่าผู้คน

 

“ไม่ว่ากึ่งภูติจะไร้ค่าเพียงใด กึ่งภูติก็ยังแข็งแกร่งกว่าเศษขยะอย่างเจ้า ถึงเจ้าจะมีสมบัติเทพระดับสูงล้ำค่า ประสบการณ์การต่อสู้ของเจ้าก็หยุดอยู่ที่ระดับของการประลอง เจ้าทำอย่างนี้ในสำนักตัวเองรึ?”

 

ชายหนุ่มผิวเนียนหัวเราะเยาะ เขาเหรียบหน้าเว่ยกังหนึ่งครั้ง เขาฝากรอยเท้าสีดำไว้บนหน้าเว่ยกัง

 

เว่ยกังหน้าแดงก่ำ ดวงตาโกรธเกรี้ยวเบิกกว้าง เขาถูกดูหมิ่นอย่างรุนแรง แต่หมอกพิษในร่างก็ยังคงส่งผล เขาต่อต้านไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

 

ในตอนนั้น สายฟ้าพุ่งลงมาที่หน้าชายหนุ่มผิวเนียน หมัดตามมากับสายฟ้าด้วย

 

เขาไม่แปลกใจ เขาดูราวกับรู้อยู่แล้วว่าหมัดนี้จะมาถึถง

 

“ก็แค่กลไม้เดิม!”

 

เขาที่เตรียมการไว้ล่วงหน้าอ้าปากคายของเหลวสีแดงออกมา มันคือพิษที่ร้ายแรงอย่างมากจนทำให้มิติเกิดรอยแตก

 

พิษนั้นแข็งแกร่งจนกัดกร่อนได้แม้กระทั่งอากาศ ไม่ต้องพูดถึงซือหยูเลย

 

“สนุกกับมันซะเถอะ หยาดหยกโลหิตคลั่งคือพิษที่ใช้สังหารได้แน่นอน ข้าเตรียมมันไว้โดยเฉพาะเพื่อเจ้า!”

 

ชายหนุ่มหัวเราะ ถ้าเขาอยากจะหนีได้สำเร็จ สิ่งกีดขวางที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมิใช่สตรีลึกลับ แต่เป็นเด็กน้อยตรงหน้าที่มีพลังควบคุมลูกแก้ว!

 

ดังนั้นเขาจึงวางกับดักเอาไว้ เขาจงใจเผยความอ่อนแอของตัวเองเมื่อเอาชนะเว่ยกังเพื่อล่อให้ซือหยูเข้ามาจู่โจม จากนั้นเขาก็คายหยาดหยกโลหิตคลั่งที่เตรียมเอาไว้แล้วเพื่อสังหารซือหยูก่อนที่เขาจะได้ทำอะไร

 

ชายหนวดเฟิ้มที่มองดูอยู่หัวเราะเสียงดัง

 

“ทำได้ดี!”

 

แต่สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป

 

หมัดทั้งสองจากสายฟ้านั้นก็เตรียมการไว้แล้ว หมัดทั้งสองพุ่งมาคว้าอะไรบ้างอย่าง ก้อนพลังสายฟ้าห้าสีซ่อนอยู่ในฝ่ามือทั้งสอง!

 

หยาดหยกโลหิตคลั่งถูกปกคลุมด้วยสายฟ้า มันปล่อยหมอกสีแดงออกมาอย่างต่อเนื่อง

 

ชายหนวดเฟิ้มตกตะลึง

 

ซือหยูใช้วิบัติอัสนี!

 

สายฟ้านั้นเป็นสิ่งต่อต้านภูติผีและพิษ สายฟ้าเพียงเล็กน้อยก็คือเจตจำนงค์แห่งฟ้าดิน! แล้วพิษจะเป็นอิสระจากสายฟ้าได้ยังไงกัน?

 

ชายที่ใช้วิชาพิษรีบถอยอย่างไม่ลังเล

 

แต่ก่อนที่เขาจะได้ถอยก็มีก้อนพลังห้าก้อนพุ่งออกมาจากสายฟ้าตรงหน้า ก้อนพลังทั้งห้าล้อมรอบเขาเอาไว้

 

ชายหนุ่มชัะกสีหน้า เขาโยนยันต์ออกมา ยันต์ระเบิดออกมาทันที พลังของมันนั้นเทียบเท่ากับยอดฝีมือที่มีแก้วพลังชีวิตสามดวง!

 

แสงสีน้ำเงินแปรเปลี่ยนเป็นลูกธนูคมกริบ มันพุ่งตรงไปยังนภา กดดูเหมือนเขาอยากจะใช้ลูกธนูนี้หยุดลำดับห้าธาตุเพื่อที่จะซื้อเวลาใมห้หนี

 

แต่ลำดับห้าธาตุนั้นไม่สนใจลูกธนูอันคบกริบ ลูกแก้วทั้งห้าพุ่งลงมาทำลายลูกธนูและกักขังชายหนุ่มเอาไว้อย่างแน่นหนา

 

ไม่นานลำแสงห้าสายก็บีบรัดชายหนุ่มชนเขาขยับตัวไม่ได้อีก

 

ในตอนนั้น ร่างของซือหยูออกมาจากลำแสงทั้งห้า จากนั้นเขาก็ก้าวหนึ่งครั้ง เขากดฝ่ามือกับหัวของชายหนุ่ม

 

หยาดหยกโลหิตคลั่งที่ล้อมรอบด้วยสายฟ้าถูกอัดเข้าปากของชายหนุ่มผิวเนียน

 

อ๊าก—-

 

เสียงกรีดร้องอย่างโศกเศร้าและเจ็บปวดดังไม่หยุด โลหิตซึมออกมาผ่านรูขุมขนของเขา จากนั้นร่างของเขาก็ละลายกลายเป็นคราบโลหิตบนพื้น

 

กึ่งภูติโดนพิษจนกลายเป็นเนื้อบด

 

“ถึงเจ้าจะเป็นกึ่งภูติ เจ้าก็ทำได้เท่านั้นสินะ”

 

ซือหยูโบกมือ ลำดับห้าธาตุบินกลับมาหาเขา เขาเดินผ่านเว่ยกังและดึงเข้าขึ้นมาอย่างไร้อารมณ์

 

เว่ยกังกลอกตาไปมาด้วยความตื่นตระหนก ร่างของเขาสั่นอย่างรุนแรงเมื่อถูกซือหยูดึง

 

ซือหยูแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ! ตั้งแต่การโจมตีจนการใช้พิษใส่ศัตรูจนตาย เขาใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่ลมหายใจ การสังหารศัตรูของเขานั้นง่ายดายเหลือเกิน!

 

วิธีการโจมตีอันรุนแรงเฉียบขาดดั่งวายุพิรุณกระหน่ำนั้นได้ซัดใส่จิตใจเว่ยกังอย่างจัง ในใจเว่ยกัง ซือหยูนั้นเป็นเพียงราชามนุษย์ เขาไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดลู่จือยี่ถึงขอให้ซือหยูมาเป็นผู้ช่วย

 

แต่เมื่อมองดูในตอนนี้ เขาเข้าใจความตั้งใจของนางแล้ว!

 

เขาเป็นราชามนุษย์แล้วอย่างไรกัน? เขาคือสัตว์ประหลาดที่ทรงพลังมากอย่างไม่ต้องสงสัย!

 

หลังจากที่จัดการกับสถานการณ์ฝั่งตัวเองเสร็๗สิ้น ซือหยูมองชายหนวดเฟิ้มอย่างเยือกเย็น ชายหนวดเฟิ้มรู้สึกถึงความหนาวสั่นที่แผ่นหลังเมื่อถูกซือหยูจ้องมอง ใบหน้าเขาดูหวาดกลัว

 

ลู่จือยี่ที่กำลังต่อสู้กับเขาพูดอย่างเย็นชา

 

“เจ้ากล้ามองไปที่อื่นตอนที่สู้กับข้าเรอะ? เจ้ามองหาความตายอยู่รึไงกัน!”

 

นางผลักฝ่ามือส่งพลังวิญญาณเข้าใส่ชายหนวดเฟิ้มจนระเบิด ชุดเกราะที่เขาสวมแตกออกไป แผลที่มีโลหิตน่ากลัวเห็นชัดเจนยิ่งกว่าเดิม

 

“เดี๋ยว! อย่าฆ่าข้าเลยนะ!”

 

ชายหนวดเฟิ้มรีบพูดขอชีวิต เขาจ้องมองบ่อลาวาด้วยความเป็นกังวล

 

“ฟังข้าก่อน ตอนนี้อย่าเพิ่งห่วงอะไร! หนีเดี๋ยวนี้! ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่มีวิชาช่างฝีมือลับสวรรค์ มันคือการบูชายัญโลหิ…”

 

แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ เขาก็หายตัวไปเสียดื้อๆ!

 

พวกเขาได้ยินแต่เสียงลาวาเคลื่อนไหว พวกเขามองไปและเห็นขาหนึ่งข้างของชสยหนวดเฟิ้มที่จมลงไปในบ่อลาวา!

 

ซือหยูเบิกตากว้าง เขาเห็นเพียงแค่แสงสีแดงฉาน และชายหนวดเฟิ้มก็หายตัวไปต่อหน้าต่อตา! ความเร็วนั่นมันอะไรกัน?

 

ลู่จือยี่อาจจะเป็นคนที่มองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนที่สุด สีหน้านางไม่พอใจอย่างมาก นางคว้าตัวเว่ยกังกับซือหยูและใช้ใบไม้ทองคำในมือเพื่อหนีพันลี้ในก้าวเดียว

 

นางหน้าซีดอย่างไม่น่าเชื่อ

 

“มันคือราชาสัตว์อสูรในขอบเขตภูติ! มันซ่อนอยู่ในลาวา! เราต้องรีบหนี!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด