The Divine Nine Dragon Cauldron 552

Now you are reading The Divine Nine Dragon Cauldron Chapter 552 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ถ้าหากนางไม่ได้ยินด้วยตัวเองก็คงไม่เชื่อ! ใบหน้าของชางก่วนชิงเอ๋อเคร่งเครียดเมื่อเกิดความคิดที่ว่าแม้แต่จ้าวเทวะยังถูกสังหารได้!

 

พลังอะไรกันที่ใช้เป็นเครื่องมือสังหารในที่นี่?

 

นางรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง

 

“เจ้าคิดจะทำอะไร? ฆ่าพวกข้าแล้วเจ้าจะได้อะไร?”

 

ชางก่วนชิงเอ๋อไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำเสียงของนางอ่อนแอลงไปกว่าเดิม

 

ไป่หยีเจี้ยนยืนขึ้น เขาหัวเราะโดยไม่พูดอะไร

 

ไป่ฉีนั้นกลับเริ่มตื่นเต้น เขายิ่งกว่ายินดีเมื่อเห็นว่าแม้แต่ภูติอย่างชางก่วนชิงเอ๋อยังต้องหวาดกลัะะว

 

เขาหัวเราะอย่างชอบใจ

 

“พวกข้าเพิ่งบอกเจ้าไป ข้าจะใช้เลือดของพวกเจ้าปลดผนึกที่นี่ซะ แล้วพวกข้าก็จะออกจากกระโจมเทพสวรรค์!”

 

ในแขนเสื้อของซือหยูเปล่งแสง กระบี่ทองสามเล่มหายไปทันที

 

ส่วนชางก่วนชิงเอ๋อ แม้ว่านางดูจะเป็นกังวล นางก็หยิบเอาสร้อยหยกออกมาและพร้อมจะทำลายมันแล้ว! เซี่ยจิงหยูก็แอบเตรียมวิชาบ่มเพาะไว้ใช้ นางพร้อมจะจู่โจมในทุกเมื่อ

 

ไป่หยีเจี้ยนมองรอบๆและขมวดคิ้ว

 

“ลูกฉีของข้า จะทำอะไรก็ทำตอนนี้!”

 

ไป่ฉีสีหน้าเคร่งเครียดเมื่อถูกตำหนิจากไป่หยีเจี้ยน เขาหยิบเอาขลุ่ยทมิฬทออกมา มันดูเหมือนหยกดำที่สะท้อนแสงวาววับ

 

ที่ขลุ่ยมีรูอยู่เก้ารู มีหนึ่งรูที่มากกว่าขลุ่ยปกติ นั่นทำให้มันดูแปลกมาก

 

และที่น่าแปลกยิ่งกว่าคือมันมีลายวิหคเทาสลักเอาไว้อยู่บนขลุ่ยด้วย วิหคที่สลักเอาไว้นั้นราวกับมีชีวิต เหมือนมันกำลังจะโผบิน!

 

ดวงตาสีหยกของวิหคเหมือนดวงตาของวิหคจริงๆ มันแปลกประหลาดมาก!

 

“สมบัติวิญญาณระดับกลบาง!”

 

ชางก่วนชิงเอ๋อหวาดวิตก นางไม่ได้กังวลถึงตัวขลุ่ยมากนัก แต่ถ้าหากมันถูกใช้ที่นี่ล่ะก็…

 

แก้วพลังชีวิตทั้งสามดวงของไป่ฉีเริ่มปล่อยพลังออกมา พลังเหล่านั้นเข้าไปรวมตัวกันที่ขลุ่ย

 

เมื่อพลังชีวิตไหลเข้าไป ขลุ่ยก็เริ่มเปล่งแสงสว่างขึ้นเรื่อยๆ แสงสีดำเริ่มเคลื่อนตัวไปในทุกทิศทางราวกับคลื่นวารี พร้อมกันนั้นเอง เสียงดนตรีอันเย็นยะเยือกได้ถูกปล่อยออกมาจากขลุ่ย

 

แม้ซือหยูจะได้ยินเพียงเสียงระดับเดียว มันก็มากพอที่จะทำให้เขาตัวสั่น ความเย็นยะเยือกแล่นผ่านไปทั้งกาย

 

เขาตกใจมากที่แม้แต่วิญญาณของเขาที่แข็งแกร่งเท่าภูติก็เริ่มได้รับผลกระทบ ที่สำคัญกว่านั้น เขายังรู้สึกว่าชีวิตของเขาเริ่มไหลออกจากตัวผ่านเสียงขลุ่ย! ซือหยูรู้สึกอ่อนแอลงในทันที

 

เซี่ยจิงหยูตกใจมาก

 

“ข้าได้กลิ่นความตาย! เสียงดนตรีของมันน่ากลัวมาก!”

 

ซือหยูใจหายยิ่งกว่าเดิม

 

“ข้ากลัวว่าสิ่งที่น่ากลัวจริงๆจะยังไม่เผยออกมาน่ะสิ!”

 

แกร๊ก

 

ตอนนั้นเอง ตำหนักกระดูกที่เงียบสนิทส่งเสียงแตกร้าวออกมาตามเสียงขลุ่ย เสียงเหมือนกับมีบางอย่างที่มีขนาดใหญ่กำลังลูบผิวพื้นอยู่

 

แกร๊ก

 

แกร๊ก

 

เสียงดังต่อไปอีกหลายครั้ง เสียงแปลกๆทำให้ทุกคนสั่นไปจนถึงกระดูกสันหลัง!

 

แกร๊ก

 

เสียงแตกดังตามมาอีกระลอก ในที่สุดพวกเขาก็รู้ว่าเสียงมาจากที่ใด

 

พวกเขามองไปยังศีรษะสัตว์อสูรที่คาบมุกบาดาล! ไม่มีใครสังเกตเห็นเลยว่ามีเพลิงลุกที่ดวงตาของมัน!

 

สายลมเย็นพัดผ่านอย่างช้าๆจากเพลิง! ความเย็นนี้มากพอจะให้ตัวสั่น

 

สัตว์อสูรเริ่มปล่อยพลังที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ พลังเริ่มไหลออกมาจากภายในกระดูกของมัน เมื่อทุกคนสัมผัสได้ สัตว์อสูรก็ค่อยๆตื่นจากการหลับใหล!

 

“มันตื่นแล้ว!”

 

ชางก่วนชิงเอ๋อจ้องมองหัวสัตว์อสูร

 

“มุกบาดาลในปากของมันมีพลังหยินอยู่มหาศาล มันทำให้วิญญาณยังคงอยู่ได้! เสี้ยววิญญาณของสัตว์อสูรเนรมิตรยังอยู่ในมุกบาดาล! แล้วมันกำลังถูกเสียงขลุ่ยควบคุม!”

 

ซือหยูกับคนที่เหลือหัวใจหยุดเต้น! ไม่แปลกใจเลยที่ไป่ฉีมั่นใจนัก ชัดเจนแล้วว่าเหตุใจแม้แต่จักรพรรดิสายฟ้าจึงถูกฆ่าตายที่นี่!

 

แม้จะเป็นเพียงเสี้ยววิญญาณ มันก็ยังแสดงให้เห็นพลังอำนาจของอสูรเนรมิตร พลังของเสี้ยววิญญาณนี้เทียบเท่ากับพลังของจ้าวเทวะ

 

พลังที่ออกมาจากกระดูกสัตว์อสูรแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนเริ่มรู้สึกโศกเศร้า

 

“รีบสู้กับมันเร็ว! อย่าปล่อยให้มันรวมพลังไปมากกว่านี้!”

 

ชางก่วนชิงเอ๋อกัดฟันแน่น นางกลัวตายและจะออมมือไม่ได้!

 

ทุกคนเย็นยะเยือกในจิตใจ เมื่อไป่ฉีปลุกสัตว์อสูรจนตื่น สิ่งเดียวที่จะรอคอยพวกเขาก็คือความตาย!

 

ไป่หยีเจี้ยนหัวเราะ

 

“ฮื่ม มันสายไปแล้ว!”

 

ซู่ม!

 

เงาขาวกระจ่างพัดพา ไป่หยีเจี้ยนพุ่งไปที่ด้านหลังไป่ฉีพร้อมกับกระบี่ยาวในมือ มันกลายเป็นพลังกระบี่ที่ใช้ฟันทุกส่วนมุมของที่นี่ได้!

 

พลังกระบี่ขาวราวหิมะแล่นออกมาด้วยความเร็ว มิติถูกฉีกกระชากเป็นชิ้นๆ ราวกับแก้วร้าวที่แตกกระจาย ทุกคนที่เตรียมจะออกไปต่อสู้ต้องรีบถอยกลับ!

 

พลังกระบี่นั้นมาจากคนในขอบเขตภูติอย่างเห็นได้ชัดเพราะพลังมากพอที่จะทำให้มิติแตกได้! มันน่าตกใจจนชางก่วนชิงเอ๋อต้องชักสีหน้า

 

นางรีบสะบัดแขนขว้างยันต์ระเบิดออกไป มันปล่อยแสงสีอำพันและค่อยๆรวมตัวกันเป็นเต่าสีอำพัน!

 

เมื่อกระบี่ปะทะกับเต่่า ร่างของมันก็สั่นและดูจะรับแรงกระบี่ได้ง่ายๆ แต่รอยแตกก็เริ่มปรากฏบนร่าง ด้วยพลังที่หลงเหลือจากกระบี่ทำให้มันกลายเป็นฝุ่นผง!

 

“ข้าจะถ่วงเวลาเขาไว้ พวกเจ้าไปช่วยกันฆ่าไป่ฉี!”

 

ชางก่วนชิงเอ๋อแววตาแน่วแน่ นางสะบัดแขนอีกครั้ง หุ่นเชิดทองคำปรากฏขึ้นมา!

 

หุ่นเชิดนี้คล้ายกับหุ่นที่นางใช้ผ่านป่ารูปปั้น แต่ความต่างก็คือเมื่อหุ่นนี้ปรากฏ มิติรอบข้างก็เริ่มสั่นสะเทือนเบาๆ!

 

ไป่หยีเจี้ยนไม่หวั่นเกรงใดๆ

 

“หุ่นเชิดของจ้าวเทวะรึ! อสูรเนรมิตรที่หนุนหลังเจ้าตงเตรียมการมาอย่างดี!”

 

ทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก ยังดีที่พวกเขามีภูติที่ทรงพลังและยังเป็นศิษย์ของอสูรเนรมิตร!

 

“เจ้ารนหาที่ตายตั้งแต่แรก อย่ามาบอกว่าข้าไม่มีเมตตาก็แล้วกัน!”

 

ชางก่วนชิงเอ๋อประสานมือเข้าหากัน

 

จากนั้นหุ่นเชิดทองคำก็เริ่มขยายขนาด มันกลายเป็นยักษ์ทองคำในพริบตาเดียว!

 

มันดูคล้ายกับหญิงสาวที่สวมชุดสีดำคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้า ใบหน้าของนางเยือกเย็น ดวงดาราววิหคเพลิงเจิดจรัสดั่งนภาพร้อมหมู่ดาว

 

พลังที่มิอาจมีสิ่งเทียบได้แผ่ออกมาจากหุ่นเชิดทองคำ อากาศในตำหนักกระดูกอัดแน่นกันมากขึ้น แม้มันจะเป็นแค่หุ่นเชิด ทุกคนก็รู้สึกได้ถึงจ้าวเทวะที่เพิ่งจะลงมาจุติในที่แห่งนี้!

 

ไป่หยีเจี้ยนหรี่ตามอง เขาพยายามจะโจมตีก่อน!

 

พลังกระบี่แล่นไปยังสี่ทิศทางเพียงการฟันกระบี่ครั้งเดียว มิติที่แตกเป็นเสี่ยงๆดูราวคล้ายกับใยแมงมุม แต่ถึงอย่างนั้น หุ่นในแสงสีทองกลับไม่เป็นอะไรแม้แต่น้อย!

 

เทียบกันแล้ว พลังกระบี่ของไป่หยีเจี้ยนที่สะท้อนกลับไปทำให้ตัวเขาถอยหลังไปหลายก้าว เขาตกใจมาก!

 

“มันจบแล้ว!”

 

ชางก่วนชิงเอ๋อจ้องมอง หุ่นเชิดทองคำยกแขนขึ้นจนเกิดพลังจันทร์เสี้ยวสีเลือดในมือ

 

จันทราโลหิตค่อยๆก่อตัว ไป่หยีเจี้ยนกลัวจนหัวใจเต้นแรง!

 

เขารู้สึกได้ถึงวิญญาณของตัวเองที่ถูกเฉือนขาดออกจากกัน! สัญชาตญาณบอกเขาว่านี่เป็นวิชาลับที่ทำลายวิญญาณโดยตรง!

 

“ลูกฉี เร็วเข้า!”

 

ไป่หยีเจี้ยนตะโกนพร้อมกับโยนกระบี่ไปยังท้องนภา

 

กระบี่แบ่งตัวเป็นหกท่อน มันแบ่งตัวเองเป็นหกส่วนที่เหมือนกันได้อย่างน่าอัศจรรย์

 

ชางก่วนชิงเอ๋อถอนหายใจแรงเมื่อจันทราโลหิตหายไปจากกลางอากาศ

 

ปั้ง!

 

กระบี่ทั้งหกส่วนระเบิด! รอยจันทร์เสี้ยวเล็กๆปรากฏบนกระบี่แต่ละเล่มพร้อมกัน นั่นทำให้กระบี่ทั้งหกระเบิด!

 

ไม่นานจันทร์เสี้ยวทั้งหกก็ได้รวมตัวกันเป็นหนึ่งกลายเป็นจันทร์เสี้ยววงเดิม! สมบัติวิญญาณของไป่หยีเจี้ยนถูกทำลายไปแล้ว!

 

เมื่ออาวุธที่มีชีวิตถูกทำลายก็ส่งผลให้หัวใจของไป่หยีเจี้ยนได้รับผลกระทบไปด้วย โลหิตไหลออกมาจากมุมปากของเขา

 

เมื่อเขามองเห็นว่าจันทร์เสี้ยวหายไปอีกครั้ง ไป่หยีเจี้ยนก็ตื่นตระหนกในใจ เขาปรบมือเหนือกะโหลกของตัวเองและพูดอย่างเจ็บปวด

 

“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นคนเดียวที่มีสมบัติระดับเทวะสินะ?”

 

ปิ๊ง!

 

เสียงแหลมใสดังก้อง ท่อนไม้สีหยกบินออกมาจากเหนือศีรษะของเขา! อาวุธนี้เปล่งแสงวิญญาณและมีภาษาสันสกฤตที่ไม่รู้จักสลักเอาไว้ เมื่ออัดพลังชีวิตเข้าไปก็เกิดชั้นพลังมิติออกมา!

 

ชิ้ง!

 

มันหายลับไป จากนั้นก็มีเสียงกระแทกดังมาจากอกไป่หยีเจี้ยน

 

จันทราโลหิตมาถึงอกของเขา! แต่ในตอนนั้นอาวุธของเขาก็ปรากฏออกมาปะทะจันทราโลหิตนั้น!

 

ชางก่วนชิงเอ๋อตกใจ มันป้องกันได้แม้กระทั่งพลังระดับจ้าวเทวะเชียวรึ? นั่นมันสมบัติอะไรกัน?

 

“ฮื่ม ขลุ่ยไผ่แปดทิศกับไม้หกทิศล้วนเป็นสมบัติวิญญาณที่ลูกหลานคนเฝ้าสมบัติทิ้งเอาไว้ ถ้าหากพระผู้เป็นเจ้าไม่ลงมือเอง เจ้าจะทำอะไรข้าได้?”

 

ขลุ่ยและอาวุธของเขาคือสมบัติวิญญาณระดับกลาง มิอาจประมาทพลังของมันได้เลย

 

ชางก่วนชิงเอ๋อประสานมือเข้าหากัน จันทราโลหิตหายไปอีกครั้งและไปปรากฏที่ด้านหลังไป่หยีเจี้ยนตรงจุดหัวใจของเขาพอดิบพอดี

 

แต่ไม้หกทิศนั้นเหมือนจะมีพลังการทำนาย มันสัมผัสได้ว่าการโจมตีจะมาในทิศทางไหนและย้ายตัวเองไปป้องกันทันเวลา

 

ชางก่วนชิงเอ๋อใบหน้าหม่นหมองลงอีกครั้ง นางรีบประสานมือย้ายจันทราโลหิตไปอีกจุด แต่ไม้หกทิศก็ดูเหมือนจะทำนายอนาคตได้ มันปรากฏตรงจุดที่จันทราโลหิตโจมตีเสมอ!

 

“หึหึ นี่เป็นอาวุธที่เทียนจี่จื้อเคยใช้ตอนที่อยู่ในระดับจ้าวเทวะ พอเขาไปถึงระดับอสูรเนรมิตร เขาก็มอบมันเป็นของขวัญให้กับศิษย์ มันมีฎีกาสวรรค์ของเขาเอง เจ้าจะทะลวงผ่านการป้องกันได้ยังไง?”

 

ไม่แปลกใจเลยถ้ามันจะมีพลังการทำนาย! นั่นทำให้รับมือไป่หยีเจี้ยนได้ลำบากขึ้นมาก!

 

จากนั้นชางก่วนชิงเอ๋อก็ทำแบบเดิมต่อไปอีกสามสิบกระบวรท่าซึ่งไม่ได้ทำให้ไป่หยีเจี้ยนบาดเจ็บเลย แต่ละการโจมตีของจันทราโลหิตถูกสะท้อนกลับไปทั้งหมด

 

ตอนที่ชางก่วนชิงเอ๋อกำลังจะยอมแพ้และไปสังหารไป่ฉีแทน ไป่หยีเจี้ยนก็บินไปหาทาง นางทำอะไรไม่ได้นอกจากป้องกันตัวจากไป่หยีเจี้ยน!

 

จากนั้นพลังจากศีรษะสัตว์อสูรก็ไปยังระดับหลังของภูติ มันกำลังจะไปถึงระดับจ้าวเทวะ! หากไปถึงระดับจ้าวเทวะ ทุกคนที่นี่จะตาย!

 

“ข้าหวังพึ่งพวกเจ้าอยู่! รีบฆ่าไป่ฉีแล้วจบการต่อสู้นี้ซะ!”

 

ชางก่วนชิงเอ๋อตะโกนอ้อนวอน

 

ซือหยูวางแผนไว้แล้ว กระบี่ทองคำปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าและเข้าล้อมไป่ฉีตรงไปยังหัวใจ!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด