The Divine Nine Dragon Cauldron 555

Now you are reading The Divine Nine Dragon Cauldron Chapter 555 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ไป่ฉีปล่อยจิตสังหารออกมามหาศาล เขาตะโกนเสียงดัง

 

“แล้วมันเรื่องอะไรกัน อย่างไรพวกเจ้าก็ต้องตายอยู่แล้ว รู้เรื่องนี้ไปแล้วจะต่างอะไร? ท่านพ่อไม่ได้ทำอะไรผิด พวกมันก็อยู่ในน้ำเต้านี้ทั้งหมด!”

 

เขาตะโกนต่อไปด้วยใบหน้าแดงก่ำ

 

“ถ้าพวกมันไม่สละตัว แล้วจะใช้โลหิตของใครให้สัตว์อสูรสองตัวนี้เล่า? แล้วจะปลดผนึกกระโจมเทพสวรรค์ได้ยังไง? พวกข้าแค่ต้องการแก่นโลหิตจากพวกเจ้า ยอดฝีมือที่แข็งแกร่ง!”

 

ไป่ฉีตะโกนจบและดื่มน้ำสีโลหิตเข้าไป ในนั้นมีสุราโลหิตอยู่ราวสิบหยด เขา ไม่กล้าจะดื่มมันไปมากกว่านี้!

 

เหตุผลก็เพราะสิ่งเหล่านี้คือฐานพลังของทั้งตระกูลที่กลายเป็นสุราโลหิต ดังนั้นจึงได้แต่จินตนาการว่ามันจะมีพลังมากมายเพียงใดในน้ำเต้าปีศาจ!

 

แม้จะแค่หยดเดียวก็มิใช่สิ่งที่คนต่ำกว่ากึ่งภูติจะรับไหวแล้ว ดังนั้นสิบหยดก็คือขีดจำกัดของไป่ฉี!

 

ซือหยูพลิกข้อมือ ร่มวิเศษบัวแดงโบกสะบัดอย่างสง่างาม

 

สิ่งรอบข้างเต็มไปด้วยเพลิงสีแดงฉาน เพลิงทั้งหมดราวกับได้รับคำบัญชา เพลิงทั้งหมดรวมตัวกันอย่างรุนแรงจนกลายเป็นวายุเพลิง! เพลิงโอบล้อมไป่ฉีที่อยู่ภายใน

 

เพลิงพิโรธบัวแดงลุกไหม้อย่างงดงาม ชั้นวารีที่ปกคลุมตัวไป่ฉีค่อยๆแตกสลายไป มันแตกจนไป่ฉีรู้สึกถึงความร้อน!

 

เพลิงไม่รู้สิ้นลุกไหม้คลอกตัวไปฉี พลังที่แข็งแกร่งแผ่กระจายออกจางเพลิง มันค่อยๆรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ!

 

ท้องนภาที่เต็มไปด้วยเพลิงเริ่มแยกเป็นสองเสี้ยวด้วยพลังมหาศาลและเผยให้เห็นไป่ฉีที่อยู่ภายใน เสื้อผ้าและเส้นผมของเขาถูกเผาไหม้จนหมด! แต่ร่างกายเขาก็เปล่งประกายเหมือนใหม่และไร้ซึ่งบาดแผล ร่างของเขาไม่ถูกเผาเลย!

 

ซือหยูแอบแปลกใจ แม้แต่ภูติธรรมดาๆก็ควรจะตายไปแล้วด้วยเพลิงที่มีระดับพลังเท่านี้! แต่ไป่ฉีก็ไม่ได้บาดเจ็บแม้แต่น้อย!

 

นั่นแสดงให้เห็นว่าฐานพลังของเขาเพิ่มขึ้นมากเพียงใดนับตั้งแต่เขาดื่มโลหิตสิบหยดเข้าไป ตอนนี้เขาควรจะมีพลังที่ขอบเขตภูติขั้นสูง!

 

“เจ้ามันอ่อนแอเกินไป!”

 

ไป่ฉีหัวเราะชอบใจ เขาเตะด้วยขาขวา

 

ทันใดนั้นเอง สายลมรุนแรงพัดผ่านทั่วพื้นที่ออกไปและดับเพลิงบัวแดงได้ในพริบตา! ซือหยูแตะปลายเท้าเบาๆและถอยกลับไปพร้อมกับเซี่ยจิงหยู

 

เพลิงบางส่วนลุกไหม้เสื้อผ้าของเขาแต่ก่อนที่เขาจะรู้ตัวก็มีเสียงจากด้านข้างดังขึ้นมาก่อน

 

“เจ้ามันช้าไปแล้ว!”

 

เขาเห็นเพียงแค่เงาลางๆเท่านั้นก่อนที่ไป่ฉีจะมาถึงตัวราวกับย้ายมิติมาหา! เขาใช้ฝ่ามือที่มีพลังชีวิตมหาศาลตบหน้าผากของซือหยู

 

ในตอนนั้นซือหยูใจหาย แสงสีทองแล่นผ่านเสื้อออกมา กระบี่ทองสามเล่มเข้ามาขวางฝ่ามือไป่ฉี!

 

ไป่ฉีหัวเราะ

 

“สู้กับข้าไปก็ไร้ประโยชน์!”

 

ไป่ฉีรวบรวมพลังชีวิตที่ฝ่ามืออีกครั้ง เขาคว้ากระบี่ทั้งสามเล่มไว้ในมือ!

 

เขาอัดพลังชีวิตกดทับกระบี่เพื่อทำลายพันธะระหว่างกระบี่กับซือหยู! ถ้าทำเช่นนี้ มันจะเป็นไปไม่ได้อีกที่กระบี่จะกลับมาในมือซือหยู! อาวุธของเขาจะถูกชิงเอาไป!

 

ซือหยูตกใจอยู่บ้าง แต่เขาก็ใช้โอกาสนี้ทิ้งระยะตัวเองจากไป่ฉี

 

ไป่ฉีถือกระบี่สามเล่มในมือและหัวเราะ

 

“นี่มันของดีนี่นา ข้าขอเก็บไว้ก็แล้วกัน! ข้าโกรธเกลียดข้า เพราะอย่างไรมันก็เป็นเพราะเจ้าที่อ่อนแอเกินไป!”

 

ซือหยูกำลังครุ่นคิด เทียบกับพลังในวิชาและฐานพลัง แม้ทั้งคู่จะใกล้เคียงระดับภูติขั้นแรกๆ จางตี๋เก้อเองก็ดูเหมือนจะอ่อนแอกว่าไป่ฉี เหตุผลก็เพราะว่าจางตี๋เก้อนั้นไม่เคยใช้พลังภูติในการต่อสู้อย่างจริงจังเลยสักครั้ง

 

นับว่ามีความห่างชั้นกันมากระหว่างกัน จางตี๋เก้อเป็นเพียงภูติระดับแรกๆ ส่วนไป่ฉีกลับมีพลังภูติในอีกระดับ นี่เป็นความห่างชั้นที่มองข้ามไม่ได้

 

เมื่อเห็นท่าทางได้ใจของไป่ฉี ซือหยูก็ดูเหมือนจะใจเย็นลงมาก

 

“เจ้ามันแข็งแกร่งมากนักรึ? ถ้าไม่มีโลหิตของคนตระกูลเจ้า เจ้ามันก็แค่หนึ่งในคนที่เคยแพ้ข้า ไม้รู้ว่าเจ้าไปมีหน้ามาต่อว่าคนอื่นที่อ่อนแอมาจากไหน!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด