The Divine Nine Dragon Cauldron 564

Now you are reading The Divine Nine Dragon Cauldron Chapter 564 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากที่ซือหยูหนีจากตำหนักกระดูกมาแล้ว เขาเริ่มทำท่าด้วยมือทั้งสอง พลังชีวิตในร่างเอ่อล้นออกมากลายเป็นคนสองคนที่ดูเหมือนกับเขาโดยแยกไม่ออก

 

เขาบ่มเพาะวิชาร่างเทียมได้สำเร็จด้วยความช่วยเหลือจากเซี่ยจิงหยู! เขาในตอนนี้สามารถสร้างร่างเทียมมาได้สองร่างพร้อมกัน! และร่างเทียมเหล่านี้ล้วนเหมือนซือหยูทุกประการ!

 

ร่างเทียมทั้งสองเหลือบมองกันเมื่อถูกสร้างขึ้นและจากไป ซือหยูตัวจริงเรียกเอาแผ่นป้ายสีดำออกมาในมือ มันคือเวทความฝันวิญญาณน้ำแข็งที่เขาได้มาในตอนที่เข้ามาในชั้นแปด

 

ตามที่ลู่จือยี่บอก เวทนี้เป็นเวทความฝันระดับสูงสุดในดินแดนพรสวรรค์ทั้งสิบแปด ว่ากันว่ามันหยุดแม้แต่คนที่เป็นจ้าวเทวะได้ครู่หนึ่ง!

 

ซือหยูอัดพลังวิญญาณเข้าไป ในตอนนั้น แสงทมิฬทะยานขึ้นมา นั่นคือราชาปีศาจ!

 

แต่ราชาปีศาจก็ไม่ได้สนใจซือหยูเลย เขารีบบินขึ้นฟ้าพยายามที่จะหนี

 

ซือหยูมองเขาที่หายลับไปอยู่ครู่หนึ่ง เขากลับมาทำสิ่งที่ทำอยู่ตามเดิม เขาอัดพลังวิญญาณใส่ลงในแผ่นเวท มันเริ่มเปล่งแสงออกมาและกลายทำให้รอบๆกลายเป็นทุ่งหิมะไร้ขอบเขต

 

เขาใช้เวทความฝันสำเร็จแล้ว! หลังจากนั้นจึงบินหนีทันที

 

จากนั้นหุ่นเชิดสีเงินผู้โกรธเกรี้ยวก็ไล่ตามมา แต่เมื่อมันมาถึงในจุดที่ซือหยูอยู่ก็พบว่าตัวเองอยู่ในโลกน้ำแข็ง!

 

“เวทความฝันเรอะ?”

 

หุ่นเชิดสีเงินสีหน้าหม่นหมอง ความโกรธแค้นแจ่มชัดในน้ำเสียง

 

“ไอเด็กบัดซบนั่นเอาอีกแล้ว!”

 

เขาพยายามจะขยี้ตามองดูรอบๆ

 

“นี่มันไม่ใช่เวทธรรมดาๆ! แต่ข้าเป็นหุ่นเชิด มันหยุดข้าได้ไม่นานหรอก!”

 

หุ่นเชิดสีเงินนั่งสมาธิลง ดูเหมือนว่ามันพยายามจะค้นหาอะไรบางอย่าง

 

ตอนนั้นเอง ซือหยูตัวจริงบินหนีมาแล้วแสนลี้ เขาอยู่ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง ดูจากเศษซากแล้วบอกได้เลยว่าที่นี่เคยเป็นสถานที่ที่เจริญรุ่งเรืองมาก่อน มีบ้านมากมายและเมืองใหญ่ สิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ที่ยังหลงเหลืออยู่แสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งในอดีต

 

“ที่นี่ดูคล้ายกับโลกในหุบเขาของมุกวิญญาณเก้าหยก…”

 

ซือหยูพูดพึมพำ หุบเขาเล็กๆในมุกวิญญาณเก้าหยกนั้นก็สร้างโลกที่ทำให้คนอยู่อาศัยได้ขึ้นมา มันดูคล้ายกับที่นี่

 

เมื่อซือหยูกำลังจะลงไปดูเพื่อหาที่ซ่อน เขาก็สังเกตเห็นความแปลกของที่นี่ เขาสงสัยในอะไรบางอย่างและบินขึ้นสู่จุดสูงสุด

 

เมื่อก้มลงมองเขาก็ตกตะลึง ซากเหล่านี้เกิดจากรอยฝ่ามือใหญ่ยักษ์ที่ทิ้งเอาไว้!

 

ฝ่ามือยักษ์นี้หล่นมาจากฟากฟ้าทำให้อารยธรรมทั้งหมดกลายเป็นซาก มันทิ้งรอยฝ่ามือขนาดใหญ่เอาไว้ท่ามกลางเมืองที่ถูกทำลาย!

 

ซือหยูตกใจกับภาพนี้ เขานึกถึงซากอารยธรรมต่างๆมากมายที่ถูกทำลายโดยฝ่ามือลึกลับในทั่วทวีปเฉินหลง

 

นี่ทำให้เขานึกถึงเสี้ยววิญญาณเทียนจี่จื้อที่เคยพูดว่ากระโจมเทพสวรรค์เป็นเพียงสมบัติภูติที่ถูกทำลายในสงครามครั้งใหญ่

 

ซากเมืองนี้ก็ถูกศัตรูของเทียนจี่จื้อทำลายงั้นรึ?

 

แล้วความสัมพันธ์ของศัตรูเทียนจี่จื้อกับเจ้าของฝ่ามือยักษ์ที่ทำลายอารยธรรมเหล่านี้กับทวีปเฉินหลงจะเกี่ยวข้องกันหรือไม่?

 

การค้นพบนี้ทำให้ซือหยูตกอยู่ในภวังค์ความคิด

 

ทวีปเฉินลง ทวีปจิวโจว และกระโจมเทพสวรรค์มีความสัมพันธ์แบบใดกันแน่?

 

ซือหยูเลือกซากแห่งหนึ่งที่อยู่ใต้ดินเล็กน้อย เขาเข้าไปและเริ่มซ่อนพลังของตัวเอง เขาหยุดใช้พลังวิญญาณและพลังชีวิต เขาไม่ปล่อยร่องรอยของตัวเองให้แผ่ออกมาเลย ด้วยวิธีนี้จะทำให้ไม่มีใครหาตัวเขาเจอ

 

เขาหายใจยาวและก้มลงมองมือขวาของตัวเอง โลหิตที่หลั่งไหลแห้งไปแล้ว แต่ความเจ็บแปลบก็ยังเข้มข้นดังเดิม ซือหยูต้องกัดฟันอดทนเอาไว้

 

หลังจากที่เขามองแขนตัวเองก็พบว่ากระดูกแขนขวานั้นหัก อาการค่อนข้างรุนแรง ยังโชคดีที่สายพลังโลหิตกับส่วนสำคัญไม่ได้ถูกทำลายไป!

 

เขาถอนหายใจปล่อยแขนที่ห้อยให้ฟื้นฟูตัวเอง จากนั้นจึงใช้มือซ้ายหยิบเอาม้วนคัมภีร์สีดำออกมาจากแหวนมิติและฝังไว้บนพื้น

 

หลังจากที่ทำทุกอย่างเสร็จสิ้น เขาเริ่มคำนวนว่าการเดินทางในครั้งนี้ได้และเสียสิ่งใดมาบ้าง เขาเสี่ยงมามากเช่นนี้และเข้ามายังที่เก็บสมบัติวัตถุดิบเพื่อหามุกเงินเลี่ยงอัสนีที่ใช้ในการสร้างเนตรเงินล้างอสูร น่าเสียดายที่วัตถุดิบอัสนีในตำนานกลับไม่ใช่มุกเงินเลี่ยงอัสนีที่ซือหยูตามหา…

 

และเมื่อเขาได้คิดโดยละเอียดก็พบว่าเขาแทบจะไม่ได้อะไรเลยกับการเสี่ยงครั้งนี้! ในท้ายสุด สมบัติล้ำค่าอย่างสายใยแก่นแท้มังกรที่ยากลำบากกว่าจะได้มาก็ถูกกิเลนน้อยขโมยไปอย่างไม่คาดคิด!

 

และสุดท้ายยังมีกล่องเหล็กทมิฬอีกสามกล่องที่ถูกกิเลนกลืนกินเข้าไป! แม้กระนั้น ให้พูดตามตรงเขาก็ไม่ได้โกรธมันนัก

 

เพราะสายใยมังกรก็ถูกเผยให้หลายคนเห็น ถ้าหากมีใครกระจายข่าวนี้ไปก็จะเกิดภัยครั้งใหญ่กับเขา! ดังนั้นการที่กิเลนน้อยชิงเอาไปต่อหน้าทุกคนก็นับว่าเป็นการแก้ปัญหาให้กับเขา นั่นจะลดความเสี่ยงอันตรายในอนาคตกับเขา!

 

ต่อมาในที่เก็บสมบัติวัตถุดิบ เขาไม่ได้อะไรมาเลย เขากลับพบแต่อันตรายมากมาย แม้แต่หุ่นเชิดสีเงินก็ปรากฏตัวที่นั่น!

 

โชคดีที่เขาได้สมบัติมามากแล้วในตอนที่เข้ามาในกระโจมเทพสวรรค์ช่วงแรก สมบัติเหล่านั้นทำให้เขารอดพ้นอันตรายและอยู่รอดมาได้จนถึงตอนนี้! ถ้าหากเขามีโอกาสได้กลับไปย้อนอดีตอีกครั้งก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะมีชีวิตรอดได้เฉกเช่นตอนนี้หรือไม่!

 

และเพราะเรื่องราวทั้งหมด เขาจบลงโดยการต้องแยกจากกับเซี่ยจิงหยูอีกครั้ง ตอนนี้เขาไม่รู้เลยว่านางอยู่ที่ใดหรือปลอดภัยหรือไม่

 

ดังนั้นแล้ว สิ่งที่ดูจะได้อะไรไปมากที่สุดก็อาจจะเป็นกิเลนน้อย! มันขโมยสายใยมังกร กล่องทมิฬ มุกบาดาล และยังชิงเอาขลุ่ยไผ่แปดทิศไปอีก!

 

ของทั้งหมดล้วนสำคัญและล้ำค่า พวกมันเป็นสมบัติหายากที่ล่อตาล่อใจทุกผู้คน! แต่ทั้งหมดก็ถูกกิเลนน้อยชิงเอาไป!

 

ซือหยูหัวเราะเยาะตัวเองขณะที่คิดถึงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น ท้ายสุดเขาก็ไม่ได้อะไรเลยจริงๆ!

 

ผ่านไปนานกว่าเขาจะทำใจได้ เขาเริ่มปล่อยให้จุดกำเนิดพลังที่ว่างเปล่าฟื้นพลังอย่างช้าๆ…

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด