The Divine Nine Dragon Cauldron 577

Now you are reading The Divine Nine Dragon Cauldron Chapter 577 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ชายชุดขาวคนหนึ่งที่ถือตราหยกหลากสีในมือกำลังพุ่งมาทางพวกเขา และข้างหลังยังมีสัตว์อสูรสีม่วงตัวเล็กๆที่ไล่ตามเขามา มันปล่อยอัสนีสวรรค์สีม่วงที่ดูน่ากลัวถึงขีดสุด!

 

ชายชุดขาวสภาพเละเทะไปทั้งศีรษะและใบหน้าจากสายฟ้า ผิวของเขาฉีกขาดหลายแห่ง เขาดูน่าสงสารและทรมานอย่างมาก

 

ตราหยกที่เขาถืออยู่นั้นคือตราหยกห้าธาตุของซือหยู ส่วนชายชุดขาวคนนี้คือศิษย์สำนักยูเฟิง

และน้องชายของเจิ่งซื่อชิง

 

วัะนที่เกิดเรื่องในป่ารูปปั้น ทั้งสองพยายามจะจู่โจมเซี่ยจิงหยู น้องชายของเขาถูกซือหยูจับตัวเองไว้ขณะที่เจิ่งซื่อชิงหนีไปได้

 

“ทำไมวิบัติอัสนีถึงปรากฏที่นี่?”

 

อสูรชักสีหน้าอีกครั้ง

 

“หรือว่าวิญญาณสายฟ้าในตำนานจะถูกขังอยู่ในยอดเขาทั้งห้า”

 

ลู่จือยี่เคยบอกว์หยูครั้งหนึ่งว่ายอดเขาทั้งห้ามีอันตรายอยู่สองแบบ อย่างแรกคือลูกหลานคนเฝ้าสมบัติที่จะสังหารทุกคนที่มาในยอดเขาทั้งห้าด้วยทุกวิถีทาง

 

อย่างที่สองนั้นอันตรายเสียยิ่งกว่า! มันคือจิตวิญญาณสายฟ้าที่แม้แต่จ้าวเทวะก็ตกอยู่ในอันตรายเมื่อได้เจอ แม้จะไม่มีใครรู้ว่าจิตวิญญาณสายฟ้าอยู่ที่ใด พวกเขาก็รู้ดีว่าหากมันตื่นขึ้น พวกเขาจะต้องพบเจอกับอันตรายครั้งใหญ่!

 

ย้อนกลับไปยังที่เก็บสมบัติ ซือหยูเคยสัมผัสได้ถึงพลังที่อยู่ใต้ดินหนึ่งครั้ง เขารู้ว่ามันจะต้องเป็นจิตวิญญาณสายฟ้า

 

เพราะอย่างไรมันก็คือสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในยอดเขาทั้งห้า บางทีมันอาจจะเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุดในกระโจมเทพสวรรค์ด้วยซ้ำ! เพราะอย่างนั้น เขาจึงแอบให้ศิษย์สำนักยูเฟิงเฝ้าดูที่นั่น เขาจะได้ปลุกจิตวิญญาณสายฟ้าให้ตื่นขึ้นเมื่อซือหยูพบกับอันตราย

 

ตราสายฟ้าห้าธาตุนั้นมีพลังในการดูดซับวิบัติอัสนีที่มีอยู่ทุกแบบในโลก การพยายามดูดซับจิตวิญญาณสายฟ้าจะทำให้มันตื่นขึ้นอย่างแน่นอน ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนที่เขาวางไว้!

 

จิตวิญญาณสายฟ้ากำลังโกรธเกรี้ยว มันจึงเริ่มไล่ล่าชายชุดขาวที่ถือตราสายฟ้าห้าธาตุอย่างบ้าคลั่ง

 

ฟึ่บ!

 

เวลาผ่านไปนาน ชายชุดขาวบินมาถึงพวกซือหยูกับอสูรที่จ้องมองตราสายฟ้าห้าธาตุในมือของเขา มันหายใจเข้าลึก

 

“นั่นมันต้นแบบสมบัติภูติมิใช่รึ?”

 

เขาลังเลและเลิกที่จะไม่ชิงมันมาเพราะจิตวิญญาณสายฟ้ากำลังไล่ล่าตราสายฟ้าห้าธาตุ

 

ชายชุดขาวมาถึงซือหยูอย่างราบรื่นและส่งตราสายฟ้าห้าธาตุคืน เขายืนข้างหลังซือหยูด้วยความกลัว

 

เขาทั้งกลัวและโกรธในตอนนี้ ตอนที่ซือหยูอธิบายสิ่งที่เขาจะทำ ซือหยูเพียงแค่บอกให้เขาซ่อนตัวในที่เก็บสมบัติ

 

ดังนั้นเขาจึงคิดว่ามันน่าจะเป็นบางสิ่งที่คล้ายกับการซุ่มโจมตี เขาไม่คิดเลยว่าหน้าที่ของเขาถือการไปล่อจิตวิญญาณสายฟ้าให้ตื่นขึ้น! เพราะสิ่งนี้สังหารได้แม้กระทั่งจ้าวเทวะ!

 

เขาแทบจะไม่รอดจากคลื่นกระแทกจากการโจมตีของจิตวิญญาณสายฟ้า เขารอดมาได้เพราะวิบัติสายฟ้าอ่อนๆในตราสายฟ้าห้าธาตุ ถ้าหากไม่มีตรา เขาก็คงตายไปแล้ว!

 

“ทำได้ดีมาก”

 

ซือหยูยิ้มและรับตราสายฟ้าห้าธาตุคืน เขาโบกมือสลายพลังที่ติดอยู่ในดวงวิญญาณของชายชุดขาว

 

“เจ้าไปได้แล้ว…”

 

หลังจากที่ชายชุดขาวจากไป จิตวิญญาณสายฟ้าก็เริ่มจ้องมองตราสายฟ้าห้าธาตุในมือซือหยู มันดูจะสนใจสมบัติชิ้นนี้อย่างมาก

 

อสูรละสายตาไปมองจิตวิญญาณสายฟ้าที่ไม่ได้สนใจมัน เขาพยายามจะหนี แต่ในตอนนั้นเองก็มีหมอกสีชมพูล้อมรอบตัวอสูร

 

กิเลนน้อยคาบตราหยกหลากสีไว้ในปาก นั่นคือตราสายฟ้าห้าธาตุ! เขาหันไปมองซือหยูอีกครั้งและพบว่าตราสายฟ้าห้าธาตุในมือซือหยูได้หายไปแล้ว!

 

กิเลนน้อยที่คาบตราสายฟ้าห้าธาตุนั้นวิ่งอย่างมีความสุขไปรอบๆตัวอสูร อสูรตกตะลึง

 

หัวใจของเขาเต้นแรงเมื่อเหลือบมองจิตวิญญาณสายฟ้า จิตวิญญาณสายฟ้ากำลังไล่ตามตราสายฟ้าห้าธาตุและจะจู่โจมเขา

 

“ไอ้เดรัจฉาน!”

 

อสูรหวาดกลัวและตกใจมาก สายฟ้าคือสิ่งที่ใช้ต่อต้านอสูรได้เป็นอย่างดี และสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาคือวิบัติอัสนี! เขาร้องคำรามอย่างโกรธแค้นและปัดมือไปที่กิเลนน้อย

 

กิเลนน้อยเพียงขู่ออกมาเบาๆ จากนั้นหมอกสีชมพูก็เริ่มขยับไปพร้อมกับตราสายฟ้าห้าธาตุ มันแปลงกายเป็นภาพลวง

 

ไม่ว่าอสูรจะแข็งแกร่งแค่ไหน เขาก็มิอาจแตะต้องกิเลนน้อยได้เลย อสูรหงุดหงิดเป็นอย่างมาก มันตัดสินใจที่จะหนี

 

แต่จิตวิญญาณสายฟ้าก็ตอบสนองต่อตราสายฟ้าเช่นกัน มันร้องคำราม สายฟ้าฟาดลงมาจากนภาดั่งพิรุณ สายฟ้าที่มีพลังวิบัติซัดเข้าใส่อสูร

 

อสูรดังตัวจางตี๋เก้อมาที่ด้านหน้าเพื่อป้องกันสายฟ้า แต่ในตอนนั้นมันก็รู้สึกว่าในมือไม่ได้ถืออะไรอยู่เลย!

 

กิเลนน้อยอ้าปากดูดเอาจางตี๋เก้อไปจากมืออสูร! สายฟ้าพุ่งตรงมายังร่างอสูรโดยตรง!

“อ๊ากกกกก!”

 

อสูรกรีดร้องอย่างน่าเวทนา เสียงกรีดร้องดังก้องนภา แม้ว่ามันจะใช้พลังทั้งหมดป้องกันสายฟ้า มันก็ล้มเหลว

 

มันเพิ่งจะฟื้นพลังเพราะดูดซับหุ่นเชิดสีเงินเข้าไปจนเกือบถึงระดับจ้าวเทวะ แต่มันในตอนนี้กลับมามีพลังขอบเขตภูติระดับต้นๆเพราะสายฟ้า

 

กิเลนน้อยเอากีบเท้าคู่หน้าลูบท้องและหัวเราะอยู่บนกลางอากาศ มันทำท่าด้วยขาคู่หน้าอย่างพอใจกับโชคร้ายของอสูร! เมื่อจิตวิญญาณสายฟ้าเห็นว่าการโจมตีของตัวเองทำอะไรตราสายฟ้าไม่ได้ มันก็เริ่มโกรธและปล่อยวิบัติอัสนีออกมาอีก

 

เสียงคำรามดังสะท้อนไปมา สายฟ้าพุ่งตรงมาอีกครั้ง แต่มันก็ทำอะไรกิเลนน้อยที่อยู่ในสถานะภาพลวงไม่ได้เลย

 

อสูรเหลือส่วนของวิญญาณเพียงเล็กน้อยหลังจากที่รับวิบัติอัสนีไปสองครั้ง แม้แต่จิตใจของมันเองก็เริ่มที่จะมลายหาย บอกได้เลยว่ามันเกือบตายจากสายฟ้าเมื่อครู่!

 

“โฮก!”

 

จิตวิญญาณสายฟ้าซัดกรงเล็บเข้าใส่กิเลนน้อยอย่าง

 

แต่กิเลนน้อยเพียงแค่ชูคอขึ้นสูงและยื่นขาคู่หน้า มันยกนิ้วที่ใหญ่ที่สุดและกดลงมาข้างล่าง ท่าทางเหยียดหยามเช่นนี้ทำให้ซือหยูตกใจ เขาไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

 

จิตวิญญาณสายฟ้าเลิกลั่กเพราะมัน มันเกาหัวด้วยความสับสน แม้มันจะไม่รู้ว่าท่าทางเช่นนั้นหมายความว่าอย่างไร มันก็สัมผัสได้ว่านั่นไม่ใช่ความหมายที่ดีนัก มันแยกเขี้ยวแสดงความโกรธตอบกลับไป

 

จิตวิญญาณสายฟ้าไม่ได้โง่ มันรู้แล้วว่ากิเลนน้อยจงใจทำให้มันโกณธและหลอกให้มันจู่โจมอสูร มันหันกลับไปบินจากไป

 

กิเลนน้อยหัวเราะคิกคัก มันที่ถือตราสายฟ้าห้าธาตุวิ่งกลับไปที่ข้างซือหยูและชูคออย่างภูมิใจ

 

“ข้าจะให้รางวัลเจ้าทีหลัง…”

 

ซือหยูหันไปมองอสูร เขาไม่กล้าจะประมาท

 

เพลิงวิญญาณพุ่งออกจากดวงตาซือหยูไปยังร่างอสูร อสูรที่กำลังอยู่ในสภาพเลวร้ายไม่มีทางป้องกันตัวได้เลย มันถูกเพลิงวิญญาณเผาจนเป็นเถ้าถ่านสีดำลอยล่องอยู่ในอากาศ

 

ซือหยูยกมือขึ้นเรียกเส้นผมสีดำของอสูรมาไว้ในมือ เขาตกใจมากเมื่อสังเกตดู เส้นผมสีดำนี้ยาวเพียงเล็กน้อย และมันกลับตรงเป๊ะและแข็งแรงราวกับเข็ม

 

“นี่น่ะรึอสูร?”

 

ซือหยูถามด้วยความตกตะลึง

 

ในตอนนั้นเอง เสียงอันอ่อนแอดังมาจากส่วนลึกในใต้ดิน

 

“ไม่ใช่ นั่นก็แค่เส้นผมของมันเท่านั้น”

 

พื้นดินแยกออก ภูติที่อ่อนแอเป็นอย่างมากที่มีขนาดเท่ามนุษย์ธรรมดาคลานออกมา เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากราชาปีศาจที่ทุกคนคิดว่าถูกอสูรฆ่าตายไปแล้ว!

 

ราชาปีศาจในตอนนี้อ่อนแอเป็นอย่างมากไม่เหมือนแต่ก่อน เขาอ่อนแอเสียยิ่งกว่ากึ่งเทพ ซือหยูในตอนนี้เอาชนะเขาได้อย่างง่ายดาย

 

“เจ้าจะบอกว่าอสูรที่เราเจอเป็นแค่เส้นผมของอสูรตัวจริงรึ?”

 

ซือหยูตกใจมาก

 

ราชาปีศาจพยักหน้าอย่างไม่สู้ดีนัก

 

“นี่เป็นแค่เส้นผม ไอ้แก่นั่นมีทั้งสมบัติอรหันต์และเส้นผมอสูร เขาอาจจะได้ของเหล่านี้มาจากสนามรบในอดีตของอสูรกับสาวก ตอนนี้มันเป็นของเจ้าแล้ว”

 

ราชาปีศาจตกใจ เขาต้องทึ่งกับไพ่ใบลับมากมายที่ซือหยูมี เด็กคนนี้เจ้าเล่ห์และละเอียดอ่อน เขายังเป็นคนที่ผ่านบททดสอบและความยากลำบากมามากมาย ราชาปีศาจคิดเป็นอื่นไม่ได้นอกจากนับถือเขา

 

“เส้นผมอสูรมีพลังอสูรที่บริสุทธิ์ มันเป็นวัตถุดิบยอดเยี่ยมที่จะใช้ตีสมบัติวิเศษอสูรขั้นสูง ถ้าเจ้าได้เจอกับปรมาจารย์ช่าง เขาอาจจะสร้างสมบัติวิญญาณระดับสูงให้เจ้าได้เลย และถ้าเจ้ามีวัตถุดิบอสูรอื่นอยู่อีก เขาอาจจะสร้างสมบัติภูติให้เจ้าก็เป็นได้!”

 

สมบัติภูติรึ? ซือหยูตื่นเต้นมาก เขาไม่ได้มีสมบัติวิญญาณมากนัก ไม่ต้องพูดถึงสมบัติภูติเลย! คุณค่าของเส้นผมอสูรนี้เหนือกว่าที่เขาคิด!

 

เขาเก็บเส้นผมอสูรไว้อย่างดี จากนั้นจึงยกมือขึ้นคว้าหุ่นเชิดสีเงินที่หลอมละลาย พลังจากทั้งร่างของหุ่นเชิดสีเงินถูกอสูรดูดกลืนไปแล้ว จิตวิญญาณของมันเองก็ถูกทำลาย ตอนนี้มันเป็นเพียงก้อนเหล็กสีเงินที่มีความแข็งอย่างสุดขั้วที่ไม่ต่างจากก้อนแร่อื่นๆ

 

เขาคิดถึงความทรงพลังที่หุ่นเชิดสีเงินเคยมี ในตอนนั้น แม้แต่ลู่จือยี่ที่เป็นจ้าวเทวะยังต้องพยายามที่จะเลี่ยงจากมัน

 

ตัวมันนั้นกลืนกินสิ่งมีชีวิตอย่างบ้าคลั่งไปนับไม่ถ้วนเพียงเพื่อถูกอสูรกลืนกินต่อ! ท้ายสุดโชคชะตาก็ได้ลงโทษมันจนมาอยู่ในสภาพเช่นนี้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด