The Divine Nine Dragon Cauldron 583

Now you are reading The Divine Nine Dragon Cauldron Chapter 583 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จางซื่อเหลียนตกใจมาก นางมองดูซือหยูด้วยความสับสน แม้แต่นางก็ไม่รู้ว่าชายหนุ่มในชุดดำคนนี้มาจากไหน!

 

มีแค่เซี่ยจิงหยูที่ยังคงใจเย็น นางสัมผัสถึงพลังอันคุ้นเคยจากเขา นี่เป็นพลังของซือหยู

 

แต่แววตานางก็หม่นหมองลงเมื่อเห็นสาวสวยที่ยืนข้างๆเขา นางไม่เคยเห็นผู้หญิงคนนี้

 

แต่ความอ่อนเยาว์ของนางนั้นก็เป็นความหวังของนาง นางจึงสนใจมองแต่ซือหยู

 

“มีอะไรที่ขัดใจเจ้าอีกหรือไม่?”

 

ซือหยูมองทั้งสองขณะที่พูด

 

เฮ่ยเยี่ยหลางจุนยังอยู่ในความตกใจกับการเผชิญหน้าเมื่อครู่ เขารู้สึกราวกับว่าถูกช้างตัวใหญ่เหยียบร่าง ความต่างในพลังของเขากับชายคนนี้มีอยู่มากนัก!

 

หนานอู่ทั้งตกใจและสับสน วิชาระดับอำมฤตของชายผู้นี้น่าตกตะลึงมาก แต่ด้วยบางอย่าง สัญชาตญาณบอกเขาว่านี่เป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งในพลังของชายลึกลับคนนี้

 

ทั้งสองเริ่มหวาดกลัวซือหยู พวกเขาทิ้งระยะห่างในทันที ไม่มีใครสักคนที่กล้าจะขอแผ่นป้ายไผ่!

 

ซือหยูละสายตาจากทั้งสองคนและค่อยๆบินลง เขานั่งอยู่ที่มุมหนึ่งในลานนกกระจอกเทวะพร้อมกับกิเลนน้อย

 

ทุกคนที่นี่รู้สึกได้ในทันทีว่ามุมที่เขานั่งอยู่ได้กลายเป็นศูนย์กลางของลานนกกระจอกเทวะไปแล้ว จางซื่อเหลียนละสายตาจากเขาและรออยู่ครู่หนึ่ง

 

จากนั้นนางจึงพูดด้วยเสียงอันสดใส

 

“ถ้าหากเรื่องจบแล้ว ก็เริ่มพิธีแลกเปลี่ยนขั้นที่สองกันเถอะ!”

 

แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าในตอนนี้ ในพื้นที่เปิดที่นำพาไปยังจิวโจวที่ไม่ต่างจากเฉินหลงนั้นมีผู้เฒ่าหลายคนรออยู่แล้ว แต่ละคนมีพลังอย่างน้อยในขอบเขตภูติ ในนั้นยังมีจ้าวเทวะอยู่ด้วยอีกหลายคน!

 

ลู่จือยี่ที่เคยร่วมค่ำคืนอันลึกซึ้งกับซือหยูเองก็อยู่ในคนกลุ่มนี้ ลู่จือยี่นั่งสมาธิอยู่ในมุมหนึ่งของลานประลองลับสวรรค์ นางแววตาสั่นเครือแสดงให้เห็นถึงความกระสับกระส่ายของนาง

 

“สิ่งใดกวนใจเจ้ารึ?”

 

เสียงอันอ่อนโยนดังมาจากข้างหูนาง

 

ลู่จือยี่ที่แววตาสั่นเครือลืมตาขึ้น ความเจ็บปวด ความชิงชัง และอารมณ์อันอธิบายไม่ได้ฉาบแววตาไปช่วงหนึ่ง

 

นางเงยหน้ามองและพบใบหน้าหล่อเหลาอันสง่างามสะท้อนดวงตา ใบหน้าเยือกเย็นราวน้ำแข็งของนางแดงระเรื่อ

 

“ไม่มีอะไรหรอกพี่ไทซู”

 

ลู่จือยี่พูดเบาๆ ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความรักในชายคนนี้

 

ถ้าซือหยูอยู่ที่นี่เขาก็จะบอกได้เลยว่าชายคนนี้คือคนรักของลู่จือยี่ เขาคือเจ้าของนามที่ลู่จือยี่ตะโกนเมื่อซือหยูพรากครั้งแรกจากนางไป

 

ผู้ทรงพลังหลายคนที่อยู่รอบข้างหันไปมองคู่รัก พวกเขาต่างริษยาในคู่สร้างคู่สมนี้…

 

“ธิดาสวรรค์ลู่จือยี่ กับมังกรในหมู่บุรุษกู้ไทซู! สองคนล้วนเป็นยอดฝีมือที่จะเกิดขึ้นในทุกพันปีในดินแดนพรสวรรค์ของเรา! เพียงอายุยี่สิบปีก็มีพลังระดับจ้าวเทวะ กู้ไทซูยังไปอยู่ในระดับขั้นหลังของจ้าวเทวะ! เขาเริ่มที่จะเตรียมทะลวงพลังขอบเขตอสูรเนรมิตรแล้ว”

 

“จริงอย่างที่เจ้าว่า สองคนนี้เป็นคู่สร้างจากสวรรค์ ทั้งสองเหมาะสมกันยิ่งนัก”

 

“ข้าได้ยินจากตำหนักเมฆาม่วงมาว่าอาจารย์ของกู้ไทซู บุรุษแห่งเมฆาม่วงกำลังเตรียมงานวิวาห์ของทั้งสองด้วยตัวเอง! นี่จะเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของดินแดนพรสวรรค์แน่นอน”

 

หัวใจของลู่จือยี่อบอุ่นขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดของคนรอบข้าง แต่เมื่อคิดถึงความบริสุทธิ์ที่ถูกพรากเอาไป หัวใจนางก็สั่นเครือ แววตาของนางหม่นหมองลง

 

“ที่รัก เจ้าติดอยู่ในขั้นแรกของจ้าวเทวะมานานพอแล้ว เจ้าต้องทำใจให้เย็นลงเพื่อเตรียมจะเข้าสู่ขั้นกลาง อย่างปล่อยให้จิตใจของเจ้าวอกแวก นั่นจะทำให้เจ้าเพิ่มพลังได้ยากขึ้น!”

 

กู้ไทซูพูดอย่างอ่อนโยน ความไม่พอใจฉายอยู่ในดวงตาเมื่อมองท่าทางแปลกๆของลู่จือยี่ เขาไม่ชอบเรื่องที่นางกำลังเก็บซ่อนอะไรบางอย่างจากเขา

 

ในตอนนั้น ภูติหลายคนที่มองดูพิธีแลกเปลี่ยนเริ่มหันมาพูดคุยกัน…

 

“เลี่ยงสายฟ้า! มันไม่ใช่วิชาลับของจักรพรรดิสายฟ้าหรอกรึ?”

 

“ในที่สุดก็มีคนหาสมบัติจักรพรรดิสายฟ้าเจอแล้วหรือนี่?”

 

จักรพรรดิสายฟ้านั้นมีชื่อในทวีปจิวโจวเป็นอย่างมาก วิชาลับของเขาเป็นที่รู้จักกับหลายคน

 

‘จักรพรรดิสายฟ้ารึ?’ กู้ไทซูพูดชื่อจักรพรรดิสายฟ้าเบาๆ แม้อย่างนั้นเขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนัก

 

หลังจากนั้นเหล่าภูติทุกคนก็ตกตะลึง พวกเขาหันไปมองลู่จือยี่กับกู้ไทซูพร้อมกัน

 

เอ๋? กู้ไทซูขมวดคิ้ว เขาถามกลุ่มคนที่มองเข้ามา

 

“พวกท่านมองอะไรกัน?”

 

เหล่าภูติพูดไม่ออก พวกเขาแหวกทางให้เขาผ่าน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะกลัวว่าเขาจะโกรธ

 

กู้ไทซูไม่พอใจกับท่าทางของคนเหล่านี้ แต่สีหน้าของเขาก็ยังคงสุขุมขณะที่เดินไปข้างหน้า เขามองลานนกกระจอกเทวะผ่านม่านแสงขนาดใหญ่

 

กู้ไทซูมองผ่านเหล่าผู้คนและเห็นซือหยูที่เอาชนะเฮ่ยเยี่ยหลางจุนกับหนานอู่ได้อย่างง่ายดาย จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเมื่อได้เห็น ‘ลู่จือยี่’ ที่ยืนอยู่ข้างซือหยู

 

“เจ้ารู้จักไอ้คนคนนี้หรือไม่?”

 

กู้ไทซูมองลู่จือยี่ด้วยแววตาอบอุ่น

 

ลู่จือยี่ตกใจในคำถาม นางยืนขึ้นและเดินไปหาเขา นางมองไปยังลานนกกระจอกเทวะ ความชิงชังเอ่อล้นออกมาทันทีที่นางมองเห็นซือหยู แต่ความชิงชังนั้นก็ถูกความเจ็บปวดรวดร้าวกลืนกินในไม่นาน

 

นางให้อภัยเขาไม่ได้ แต่นางก็เกลียดชังเขาไม่ได้เสียทีเดียว แต่เมื่อนางมองต่อไปก็พบหญิงสาวที่งดงามยืนอยู่ข้างเขา หญิงสาวคนนั้นเหมือนกับนางราวกับแกะ นอกจากเรื่องที่นางดูอ่อนเยาว์กว่าก็แทบจะไม่มีสิ่งใดที่ต่างจากนางเลย!

 

“นี่มัน…”

 

ลู่จือยี่ตกใจและสงสัยว่าทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงดูเหมือนกับนางมากเช่นนี้ และทำไมนางถึงอยู่กับซือหยู?

 

เมื่อนางแอบมองกู้ไทซูก็พบสีหน้าแปลกๆของเขา เขาจับจ้องไปที่ซือหยูอย่างเยือกเย็น

 

“พี่ไทซู เขาก็แค่ศิษย์สำนักศีลหวนคืนที่ข้าเคยเจอหนึ่งครั้ง เราเดินทางกันในกระโจมเทพสวรรค์ช่วงหนึ่งเท่านั้น ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นระหว่างพวกเรา”

 

ลู่จือยี่พูดเสียงค่อย

 

นางขบริมฝีปาก จะอย่างไร ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น นางจะไม่มีวันเผยเรื่องที่นางถูกพรากความบริสุทธิ์ไปจากชายคนนี้! ถ้าหากมีคนรู้เรื่องนี้เข้า พี่ไทซูจะไม่รักนางอีกต่อไป!

 

“เอ๋ แล้วผู้หญิงคนนั้นเล่า?”

 

กู้ไทซูหรี่ตามองและถามนาง เขาสงสัยมาโดยตลอด…

 

จะเป็นไปได้อย่างไรที่ชายแปลกหน้าจะมีหญิงสาวที่หน้าตาละม้ายคล้ายกับคู่หมั้นของเขาติดตามมาด้วย?

 

ลู่จือยี่จ้องมองหญิงสาวคนนั้น นางแววตาลุกวาวขึ้นเมื่อมองผ่านนาง

 

“ดูเหมือนนางจะเป็นแค่สัตว์วิญญาณที่มีพลังแปลงกาย นางแค่เอารูปลักษณ์ของข้าไป”

 

ความรู้สึกประหลาดเอ่อล้นออกจากหัวใจลู่จือยี่เมื่อนางพูด…

 

ทำไมซือหยูจะต้องสร้างสัตว์ประหลาดให้ใช้รูปลักษณ์ของนาง แล้วปล่อยให้มันติดตามเขาไปในทุกที่กัน?

 

หรือเป็นเพราะเขาตกหลุมรักนางเมื่อได้ร่วมค่ำคืนด้วยกันในครั้งนั้น?

 

ความโศกเศร้าที่ฝังอยู่ในส่วนลึกของหัวใจนางดูลดลงไปเมื่อนางคิดถึงความเป็นไปได้นี้ แม้ว่าเขาจะพรากครั้งแรกจากนางไป เขาก็ดูไม่ใช่บุรุษที่ไร้หัวใจ โดยเฉพาะเรื่องที่เขาทำแม้กระทั่งให้สัตว์ประหลาดใช้รูปลักษณ์ของนางเมื่อนางจากไปแล้ว!

 

สตรีช่างเป็นสิ่งประหลาด! พวกนางเกลียดชังบุรุษผู้หนึ่งได้ไปตลอดชีวิต แต่พวกนางก็สามารถให้อภัยได้ในพริบตาเช่นกัน!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด