The Divine Nine Dragon Cauldron 616

Now you are reading The Divine Nine Dragon Cauldron Chapter 616 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“นี่เจ้า!”

 

ผู้เฒ่าจางหน้าแดงด้วยความอับอาย เขาโกรธมาก เพราะตั้งแต่ต้นจนจบ ซือหยูไม่ได้ให้ความนับถือกับเขาเลย เขาทำได้แค่กล้ำกลืนความโกรธแค้นและศักดิ์ศรีลงไป

 

“ย่อมได้ ข้าจะจำเรื่องนี้ไว้!”

 

ผู้เฒ่าจางเดินออกไปท่ามกลางเสียงหัวเราะของเหล่าผู้เฒ่า

 

แต่กังต้าเหล่ยก็ไม่อยากจะปล่อยให้เรื่องจบไปเสียดื้อๆ

 

“หึหึ ผู้เฒ่าจาง นี่น่ะรึเจ้าที่แก่ตัวมาแล้ว? ทนอัปยศสักหน่อยไม่ได้เลยรึไง?”

 

ผู้เฒ่าจางหน้าแดงก่ำ เขาชิงชังเด็กทั้งสองมากเสียสิ่งกว่ามากในตอนนี้

 

ผู้คนส่งเสียงเอะอะ สหารสองแถวเดินเข้ามาต้อนรับผู้ยิ่งใหญ่ บรรยากาศดูสงบขึ้น

 

คนคนเดียวที่จะได้รับเกียรติเช่นนี้มิใช่ใครนอกจากหลงจื้อชิง ชายวัยกลางคนผู้สูงส่งเดินเข้ามาในโถงหลัก

 

เขาเดินและปล่อยพลังอันไม่ธรรมดาออกมา เขาราวกับลอยอยู่กลางอากาศ

 

เหล่าผู้เฒ่าทั้งสองด้านยืนขึ้นแสดงความเคารพ พลังของหลงจื้อชิงตอนนี้ดูไม่เสถียนถ้าเทียบกับตอนที่เขาสมบูรณ์ดี ดูเหมือนเขาจะยังบาดเจ็บอยู่

 

เขาดูหน้าซีดและไม่มีชีวิตชีวา สามปีที่ผ่านมา ดูเหมือนเขาจะแก่กว่าเดิมไปมากกว่าสิบปี

 

“ทุกท่าน มาสะสางเรื่องของเรากันเถอะ”

 

น้ำเสียงของหลงจื้อชิงดูเคร่งเครียดมาก เหล่าผู้เฒ่าทั้งสองฝั่งรออย่างอดทน

 

“ต้าเหล่ย หยุนเซี่ยง เล่าเรื่องตอนที่เจ้าเจอศัตรูให้พวกข้าฟังหน่อย”

 

หลงจื้อชิงเหลือบมองซือหยูหนึ่งครั้งขณะที่พูดกับอีกสองคน

 

กังต้าเหล่ยใจเย็นลง เขาพูดอธิบายเรื่องกึ่งภูติสองคนอย่างจริงจังและลงลึกถึงรายละเอียด เมื่อเล่าจบ หลงจื้อชิงใจหาย

 

“เจ้าคิดอ่านอย่างไร?”

 

เขาถาม บอกได้เลยว่าเขาจริงจังมาก

 

“ท่านเจ้าพันธมิตร ผู้บุกรุกจากโลกอื่นขยายอาณาเขตแล้ว เดือนก่อนมันยังไม่มาไกลเท่านี้”

 

ผู้เฒ่าเฉินพูดอย่างเศร้าใจ

 

“ใช่แล้ว พวกนั้นเริ่มจะรุกล้ำกองกำลังเล็กๆและขยายอาณาเขตของตัวเอง”

 

ผู้เฒ่าอีกคนพูดขึ้นมาด้วยความกังวล

 

ผู้เฒ่าอีกคนพูดเสริม

 

“สองปีที่ผ่านมา พวกมันเพียงแค่ยึดกำลังใหญ่ๆ พวกมันไม่เคยรุกล้ำไปหากำลังเล็กหรือเขตที่ถูกทิ้งร้างเลย นั่นก็เพราะกำลังใหญ่ๆหลายกำลังเป็นของคณะวิหคเพลิง แต่ดูเหมือนว่าพวกมันจะขยายอำนาจสำเร็จแล้ว มันในตอนนี้เลยเริ่มที่จะยึดครองทุกมุมเมืองของเฉินหลง”

 

สองปีที่ผ่านมา เรือรบพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ได้เดินทางไปยังหลายที่ที่ถูกทิ้งร้าง แต่ตอนนี้ผู้บุกรุกจากต่างโลกกำลังยึดครองที่เหล่านั้น เขตปลอดภัยกำลังลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ

 

“เราซ่อนตัวได้อยู่ แต่ไม่ใช่ตลอดไป…”

 

ผู้เฒ่เฉินกล่าว

 

“แต่ผู้เฒ่าจิวยังบาดเจ็บหนัก ถ้าเรายังหวังพึ่งผู้เฒ่ารุ่นแรก เราก็คงไม่มีทางโต้กลับได้”

 

สถานการณ์ในตอนนี้ตึงเครียด ทุกคนเงียบกริบ ตั้งแต่นี้ไป ทุกวันจะยากลำบากขึ้นเรื่อยๆ

 

“สรุปแล้ว เราจะอยู่ที่นี่นานเกินไปไม่ได้ แล่นเรือออกจากที่นี่จะดีกว่า”

 

หลงจื้อชิงหยิบเอาวัตถุทรงกลมสีแดงออกมา มันคือแก้วที่เปล่งแสงจ้า

 

“แก่นกฎสวรรค์! สมบัติก่อพลังที่ใช้ควบคุมเรือรบ ท่านเจ้าพันธมิตรใช้มันควบคุมเรืออยู่เสมอ!”

 

กังต้าเหล่ยพูดอย่างตื่นเต้นกับซือหยู

 

ซือหยูมองดูแก้วนั้น มันมีพลังวิญญาณอัดแน่นอยู่ แก่นกฎสวรรค์ปล่อยพลังไร้ลักษณ์ที่จะทำให้เรือรบขับเคลื่อนได้

 

ซ่า

 

แสงสั่นสะเทือน เรือรบเริ่มเคลื่อนไหว ความเร็วเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก หลายคนเริ่มโล่งใจขึ้นมาบ้าง

 

“ต่อไปเราจะคุยเรื่องอื่นกัน”

 

หลงจื้อชิงมองไปที่ซือหยู

 

“เจ้าเป็นคนช่วยชีวิตสองคนนี้ จริงหรือไม่ที่เจ้าสังหารกึ่งภูติที่มีแก้วพลังชีวิตสองดวงอยู่ฝ่ายเดียว?”

 

ซือหยูพูดอย่างเฉยเมย

 

“ใช่แล้ว แต่ข้าแค่โชคดีเท่านั้น”

 

หลงจื้อชิงส่ายหน้าเบาๆ

 

“ไม่มีทาง ไม่ว่าข้าจะมองอย่างไร สิ่งนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะสำเร็จได้ด้วยโชคดีเท่านั้น”

 

หลงจื้อชิงที่มีแก้วสามดวงเห็นฐานพลังของซือหยูได้อยู่แล้ว เมื่อได้ยินดังนั้น ผู้เฒ่าหลายคนจึงตกใจ

 

“อะไรนะ? เด็กนี่ก็เป็นกึ่งภูติที่มีแก้วสองดวงรึ?”

 

ผู้เฒ่าเฉินแปลกใจเช่นกัน เพราะเขามิอาจมองเห็นฐานพลังของซือหยูได้

 

เขาคิดว่าซือหยูมีวิธีบางอย่างที่ปิดบังพลังของตัวเองเอาไว้ เขาเชื่ออยู่ในใจว่าซือหยูจะต้องมีวิชาบางอย่างหรือสมบัติที่สังหารกึ่งภูติได้สองคนพร้อมกัน แต่พอได้ยินว่าซือหยูสังหารกึ่งภูติด้วยตัวเองก็ทำให้ผู้เฒ่าเฉินตกใจเป็นอย่างมาก

 

“มียอดฝีมือสุดยอดระดับเดียวกับกังต้าเหล่ยอีกคนอยู่ด้วยหรือนี่!”

 

หนึ่งในเหล่าผู้เฒ่าถอนหายใจด้วยความแปลกใจ ผู้เฒ่าหลายคนเริ่มที่จะออกความเห็นกับเรื่องนี้…

 

“เด็กมีพรสวรรค์รุ่นใหม่มีเยอะจริงๆ พวกเราแก่เฒ่ากันแล้วสินะ…”

 

พวกเขาอายุมากกว่าร้อยปีแต่ก็เพิ่งจะมีพลังระดับกึ่งภูติที่มีแก้วสองดวง แต่ฝ่ายยอดฝีมืออายุน้อยกลับมีพลังระดับเดียวกับพวกเขาได้เร็วกว่าพวกเขามาก

 

“มันเป็นเพราะโชคดีที่ข้าได้เจอบนกระโจมเทพสวรรค์ พลังระดับนี้ของข้าได้มาจากโชคที่ดี! มันก็เท่านั้นแหละท่านผู้อาวุโส”

 

ซือหยูตอบ

 

เขาไม่ได้ถ่อมตัวไปเฉยๆ เพราะทวีปเฉินหลงนั้นนับว่าแย่กว่าถ้าเทียบกับกระโจมเทพสวรรค์ ดังนั้นที่เขาพูดจึงไม่ใช่เรื่องแปลก

 

หลงจื้อชิงโศกเศร้าในแววตา เขาถามทันที

 

“ซือหยู เจ้าเต็มใจจะอยู่ในพันธมิตรผู้คุมสวรรค์หรือไม่?”

 

กังต้าเหล่ยดีใจมาก เขาแอบมองซือหยู เพราะทวีปเฉินหลงกำลังถูกคุมคามครั้งใหญ่ ตอนนี้ผู้บุกรุกจากต่างแดนปรากฏตัวแม้แต่ในเขตปลอดภัย

 

“ถ้าหากเจ้าได้เข้าสู่พันธมิตรผู้คุมสวรรค์ เจ้าจะไม่ถูกกักตัวไว้ ถ้าเจ้ารู้สึกว่าเจ้าอยู่รอดได้ด้วยตัวเอง เจ้าจะจากไปเมื่อใดก็ย่อมได้”

 

หลงจื้อชิงพูดเสริม

 

ซือหยูคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตกลงในท้ายสุด

 

“เช่นนั้น ข้าก็ขอรับข้อเสนอจากท่าน”

 

ทั้งฉีตงไล่และหลินหยุนฮียิ้มอย่างโล่งใจ ฉีหยุนเซี่ยงดีใจมาก

 

“หึหึ ต่อไปข้าจะได้ฝึกฝนกับเจ้า! มีที่ลานฝึกมากมายในเรือรบลำนี้”

 

กังต้าเหล่ยตบหลังซือหยูด้วยความหวังดี เขาดีใจกับซือยหูมาก

 

เหล่าผู้เฒ่าอย่างผู้เฒ่าเฉินก็พอใจกับการถูกเชิญของซือหยูเช่นกัน

 

“ยินดีด้วยท่านเจ้าพันธมิตร ท่านได้รับเด็กมีพรสวรรค์เพิ่มมาอีกคนแล้ว”

 

หลงจื้อชิงโล่งใจ

 

“ถ้าอย่างนั้น ซือหยู จงตามทหารไปรับการตรวจสอบอย่างเป็นทางการซะ”

 

ในตอนนั้ มีกึ่งภูติสองเดินเดินเข้ามา หนึ่งคนเป็นซากศพ! นั่นคือราชาโลกดับสูญ!

 

หลินหยุนฮีชักสีหน้า รอยยิ้มของกังต้าเหล่ยหายไป

 

“ท่านเจ้าพันธมิตร ถ้าหากเป็นคนธรรมดา ทำไมเราจะต้องใช้ท่านราชาโลกดับสูญด้วยเล่า?”

 

หลินหยุนฮีรู้สึกว่ามีบางสิ่งแปลกไป

 

ฉีตงไล่ขมวดคิ้วเช่นกัน

 

“ท่านเจ้าพันธมิตร ที่พูดว่าการตรวจสอบน่ะ ท่านจะบอกว่าเราควรจะตรวจสอบคนที่กำลังจะยอมรับใช่หรือไม่? นี่เป็นการตรวจสอบเพื่อหาสายสัมพันธ์กับผู้บุกรุกจากโลกภายนอกมิใช่รึ? กับซือหยู การตรวจสอบธรรมดาก็เพียงพอแล้ว ท่านเจ้าพันธมิตรคิดจะทำอะไรที่ใช้กึ่งภูติกับท่านราชาโลกดับสูญ?”

 

หลงจื้อชิงโบกมือ

 

“อย่าเข้าใจผิด พลังต่อสู้ของซือหยูแข็งแกร่งเกินไป เพื่อความปลอดภัย ดีกว่าที่จะระวังเอาไว้”

 

ซือหยูหรี่ตา เขาสงสัยเหตุที่ข้ามายังพันธมิตรผู้คุมสวรรค์รึ?

 

“ท่านเจ้าพันธมิตร โปรด…”

 

หลินหยุนฮีพยายามจะเจรจา

 

ปั้ง!

 

เสียงดังลั่นเมื่อหลงจื้อชิงโกรธจนตบโต๊ะ สีหน้าเขาหม่นหมองลง

 

“ข้าหรือเจ้าที่เป็นเจ้าพันธมิตร? ไม่ใช่หน้าที่เจ้ามาบอกว่าข้าจะต้องทำอะไร!”

 

เขาหันไปหาซือหยู

 

“ซือหยู! ถ้าหากเจ้าจะเข้าพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ เจ้าก็ต้องยอมรับกับข้อยกเว้นของพันธมิตร ตอนนี้ข้าจะตรวจสอบตัวตนเจ้า เจ้าต้องให้ความร่วมมือ! ใครก็ได้มาจับซือหยูไว้ที”

 

ประโยคแรกดูเหมือนว่าเขาพยายามจะเอาใจซือหยู แต่ประโยคครึ่งหลังนั้นแสดงถึงความคิดของเขาที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เขาอยากจะจับตัวซือหยูกลางสายตาผู้คน!

 

“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมจะต้องจับตัวเขาด้วยเล่า?”

 

ฉีตงไล่รู้ตัวว่ามีบางอย่างแปลกไป

 

หลงจื้อชิงไม่ได้แค่ต้อนรับซือหยูเข้าสู่พันธมิตร แต่เขาจะใช้โอกาสนี้จับตัวซือหยู!

 

ในตอนนั้น ชายหนุ่มที่แต่งตัวดีเดินเข้ามาในโถง เขามากับผู้เฒ่าจางและกึ่งภูติที่มีแก้วสองดวงอีกสองคน

 

“ฟู่หงซื่อเรอะ?”

 

กังต้าเหล่ยเริ่มโกรธแค้น

 

“ทำอะไรของเจ้า ไอ้บัดซบ? ก็ได้ ข้าจะจัดการเจ้าก่อนแล้วค่อยถามเรื่องโง่ๆที่เจ้าทำลงไปที่หลัง!”

 

ซูม

 

กังต้าเหล่ยเล็งไปที่ระหว่างตัวทหาร จากนั้นจึงเบี่ยงไหล่พุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว

 

ผู้เฒ่าจางกับผู้เฒ่าคนอื่นทำได้แค่ตะโกนและพยายามจะปกป้องฟู่หงซื่อ แต่กังต้าเหล่ยแสยะยิ้มออกมา พลังเหนือมนุษย์ระเบิดออกมาจากร่าง เขาเร็วกว่าเดิมเป็นสามเท่า!

 

เงาร่างกังต้าเหล่ยไปถึงตัวฟู่หงซื่ออย่างรวดเร็ว แต่ก่อนที่เขาจะทำสำเร็จเขาก็ได้ยินเสียงตะโกนอย่างเย็นชา เสียงนั้นราวกับสายฟ้าฟาด

 

“อั่ก!”

 

เขาสั่นไปทั้งตัวราวกับถูกสายฟ้าฟาด เวลาเดียวกันนั้นยังมีรอยฝ่ามือปรากฏที่อกของเขา

 

กังต้าเหล่ยกระเด็นไปข้างหลังและร้องออกมาอย่างเจ็บปวด เขาจิกเท้าลงกับพื้นเป็นแนวยาวเพื่อไม่ไหวกระเด็นไปไกลกว่านี้

 

เขามองคนที่จู่โจมเขาอย่างโกรธแค้น นั่นคือหลงจื้อชิง!

 

“เจ้าไม่เคารพเจ้าพันธมิตรของเจ้าเลยรึ?”

 

หลงจื้อชิงปกป้องฟู่หงซื่อและพูดอย่างเย็นชา

 

กังต้าเหล่ยพยายามจะข่มความโกรธแค้น

 

“มันเกือบจะทำให้จ้าวยี่หยูต้องแปดเปื้อนนะ!”

 

“หุบปาก! คำพูดเจ้ามันเชื่อถือไม่ได้!”

 

หลงจื้อชิงตะโกนอย่างเย็นชา

 

“เจ้าจะรออะไรเล่า? จับตัวซือหยู กังต้าเหล่ย กับฉีหยุนเซี่ยงเอาไว้! ข้าสงสัยว่าสามคนนี้กำลังวางอุบายกับคนจากต่างโลก!”

 

เขาพูดแบบนี้เพราะว่าซือหยูสังหารสองคนที่ระดับพลังเท่ากันได้อย่างแปลกๆ ขณะที่กังต้าเหล่ยกับฉีหยุนเซี่ยงก็ต้องสงสัยว่าถูกติดสินบน กังต้าเหล่ยที่ได้ยินโกรธแค้นอย่างมาก เขาคิดว่ามันน่าขันนัก

 

“ไอ้แก่โง่! เจ้าแยกถูกผิดไม่เป็นรึไง!”

 

เขาโกรธยิ่งกว่าเดิมเมื่อเห็นฟู่หงซื่อหัวเราะอย่างเย็นชาอยู่หลังหลงจื้อชิง

 

“ต้าเหล่ย หยุดพูดเถอะ เขาก็แค่ล้างแค้นเท่านั้น”

 

ซือหยูยื่นมือปรามกังต้าเหล่ยที่โกรธแค้น

 

ตอนที่หลงอู๋จือหายตัวไป หลงจื้อชิงมิอาจอภัยให้ราชาปีศาจหิมะทมิฬได้ และตอนนี้เขาก็กำลังใช้โอกาสนี้เพื่อกำจัดเขา

 

“ล้างแค้นรึ? ข้าก็แค่คิดถึงความปลอดภัยของเรือรบเท่านั้น!”

 

หลงจื้อชิงพูดเบาๆ

 

“ลงมือได้แล้ว!”

 

“เดี๋ยวก่อนสิท่านเจ้าพันธมิตร!”

 

ฉีตงไล่สีหน้าเปลี่ยนไปมาก

 

แม้แต่ลูกสาวของเขาก็กลายเป็นคนต้องสงสัย ชะตาของนางคงไม่พ้นการถูกจองจำ! และถ้าเขาไม่ได้อยู่ที่นั่นกับนาง ไอ้ฟู่หงซื่อก็คงจะใช้โอกาสนี้ทำให้นางแปดเปื้อนด้วยมือโสโครกนั้น!

 

“ถ้าลูกข้าต้องสงสัย แล้วข้าจะไม่ต้องสงสัยด้วยรึ?”

 

ฉีตงไล่พูดอย่างโกรธเกรี้ยว

 

เขาสละตัวมามากเพื่อพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ เขายังเป็นหนึ่งในผู้เฒ่าของที่นีร่ ดังนั้นความภักดีของเขาจึงไร้ข้อกังขา!

 

แต่ก็ไม่น่าเชื่อที่หลงจื้อชิงจะตอบกลับมาอย่างเย็นชา

 

“เจ้าพูดถูก! คนที่เกี่ยวข้องล้วนต้องสงสัย! ไปเดี๋ยวนี้! ซือหยู กังต้าเหล่ย ฉีหยุนเซี่ยง ฉีตงไล่ หลินหยุนฮีก็ด้วย จับมันให้หมด! ใครที่กล้าขัดขืนจะถูกสังหารโดยไร้ข้อยกเว่น!”

 

แม้แต่หลินหยุนฮีผู้น่าสงสารยังถูกลากมาเกี่ยวข้องด้วย! จู่ๆก็มีกึ่งภูติจำนวนมากเข้ามาเต็มโถุงหลัก มีคนอย่างน้อยสิบคน พวกเขาล้อมรอบซือหยูกับคนที่ถูกขานชื่อเอาไว้จากทุกด้าน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด