The Divine Nine Dragon Cauldron 898

Now you are reading The Divine Nine Dragon Cauldron Chapter 898 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

DND.
ซือหยูจ้องสตรีทั้งสองดูจากสถานการณ์ เขาไม่มีทางเลือกนอกจากอธิบายอย่างตรงไปตรงมา
“หลังจบงานเซ่นดินแดนมีดสวรรค์พ่ายแพ้ครั้งใหญ่จนอยากจะกำจัดข้าทิ้ง ข้าถูกตามล่ามาจนถึงป่าปีศาจร้าง ข้ารีบจนบังเอิญกระแทกกับกงซุนหวูซื่อจนนางบาดเจ็บ นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น”
กงซุนหวูซื่อกระทืบเท้าดวงตากลมโตทั้งสองข้างแทบจะถลน ใบหน้านางก็แดงเช่นกันเพราะความโกรธและความอับอาย
นางกัดฟันจนบดส่งเป็นเสียงพร้อมกำหมัดตะโกนกลับ
“ทำให้ข้าบาดเจ็บอย่างนั้นเรอะ?เจ้าพยายามจะฆ่าข้า! เจ้ากับข้าเป็นศัตรูกันนับจากนี้!”
ซือหยูไม่สนใจนางและมองแม่นางหลิง
“บอกข้าได้หรือไม่เจ้าสองคนเข้ามาที่ป่าปีศาจร้างได้ยังไง? พวกเจ้าไม่ได้ถูกบังคับเข้ามาสินะ?”
หลังจากได้ฟังคำอธิบายแม่นางหลิงก็เริ่มเชื่อเขาและลดความระแวงลง เพราะก่อนที่ทั้งคู่จะออกจากงาน ซือหยูทำคะแนนไปมากกว่าสองพันคะแนน มันมีเหตุผลที่คนจากดินแดนมีดสวรรค์จะใช้กำลัง!
“พวกข้ามีเหตุผลที่มาที่นี่ข้ากำลังสงสัยว่าเจ้ามาที่ป่าส่วนในด้วยตัวเจ้าเองได้ยังไง?”
แม่นางหลิงบอกสิ่งที่สงสัย
เพราะนางทั้งสองมีเข็มทิศจากเหยามู่เต๋าเหรินที่นำทางมาถึงจุดนี้แม้กระนั้นพวกนางก็พบต้นไม้ปีศาจมาตลอดทาง …แล้วซือหยูมีชีวิตรอดมาถึงที่นี่ได้ยังไง?
“ป่าส่วนในหรือ?”
ซือหยูตาลุกวาวเมื่อได้รู้ว่าพวกนางรู้เรื่องป่าปีศาจร้างดีเพราะพวกนางบอกได้ว่าจุดนี้คือส่วนไหนของป่า
ซือหยูครุ่นคิดเล็กน้อยและหยิบขวดทรายสีทองออกมา
“ทรายสีทองนี้เป็นของเหยามู่เต๋าเหรินข้าตามการนำของมันจนมาถึงที่นี่ ข้าจะแบ่งมันให้กับเจ้า แต่เจ้าต้องบอกข้อมูลให้ข้าด้วยเหมือนกัน”
ทรายสีทองรึ?ทั้งแม่นางหลิงกับกงซุนหวูซื่อไม่รู้จักที่มาของมัน แต่พวกนางก็เชื่อว่าสิ่งที่ซือหยูพูดส่วนมากเป็นความจริง มิเช่นนั้นก็คงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมีโอกาสมาถึงที่นี่!
“ฝันไปเถอะ!ทำไมข้าต้องแบ่งข้อมูลกับเจ้าด้วย?”
กงซุนหวูซื่อจ้องซือหยูอย่างโกรธเกรี้ยวนางทำแก้มป่องด้วยความโกรธ
แม่นางหลิงพูดขัดด้วยตาเป็นประกาย
“เจ้าอยากจะรู้เรื่องอะไร?”
“ทุกเรื่อง…”
ซือหยูตอบ
หลังจากจ้องทรายสีทองในขวดซือหยูและครุ่นคิดแม่นางหลิงก็พยักหน้าช้าๆ
“ก็ได้”
“พวกข้าอ่านตำราโบราณจนได้รู้ว่าป่าปีศาจร้างมาจากนภาจรัสและมีความสามารถในการลดระดับทุกสิ่ง”
แม่นางหลิงกล่าว
“เหตุที่ผู้ชนะงานเซ่นจะได้รับพลังบริสุทธิ์ก็เพราะว่าพลังเหล่านั้นคือผลผลิตจากการลดระดับของสิ่งมีชีวิตที่เป็นเครื่องเซ่นให้ป่าปีศาจร้างพลังส่วนใหญ่จะถูกใช้ในการเติบโตของพวกมัน ส่วนพลังที่เหลือจะถูกส่งมาเป็นรางวัลแก่ผู้ส่งของเซ่น”
นางพูดต่อ
“พวกข้าเสี่ยงเข้ามาที่นี่ก็เพื่อที่จะหาต้นตอของพลังลดระดับมีแค่สองอย่างที่พวกข้ารู้ อย่างแรกคือป่านี้แบ่งเป็นป่าส่วนในและส่วนนอก ป่าส่วนนอกคือจุดที่มีพวกต้นไม้ปีศาจ ข้าเชื่อว่าเจ้าเคยเจอมาแล้ว…มันคือกิ่งและเถาวัลย์ที่จะกลืนกินทุกสิ่งเข้าไป เหล่านั้นคือชาวเผ่าไม้ที่ตายไปแล้ว ร่างกายของพวกเขาถูกยึดครองด้วยสิ่งชั่วร้ายหลังจากตายไป ส่วนมากอาศัยอยู่ในป่าส่วนนอก!”
นางพักหายใจและพูดต่อ
“ป่าส่วนในคืออาณาเขตของชาวเผ่าไม้มักจะมีชาวเผ่าไม้ทองแดงคอยลาดตระเวน พวกมันแข็งแกร่งมาก ที่อ่อนแอที่สุดก็เป็นจ้าวเทวะระดับเจ็ดเข้าไปแล้ว แข็งแกร่งสุดคือจ้าวเทวะระดับเก้า! ถ้าพวกเราเจอมัน โอกาสรอดชีวิตก็เท่ากับศูนย์!”
นางพูดอีก
“หลังจากเข้าไปที่ป่าส่วนในเราจะได้เจอน้ำพุแห่งชีวิต มันคือต้นตอของพลังลดระดับเหล่านั้น ครั้งหนึ่งเหยามู่เต๋าเหรินเคยได้ครอบครองน้ำพุแห่งชีวิต และนั่นคือสิ่งที่ทำให้เขาก้าวข้ามทุกคนไปถึงระดับของราชาจิวโจวได้ ทุกคนตกใจกับสิ่งที่เขาได้เป็น!”
ซือหยูเข้าใจทุกอย่างแล้วหลังจากได้ฟังคำอธิบายไม่ต้องถามก็รู้ว่าพวกนางมาเพื่อหาน้ำพุแห่งชีวิต
ระดับของราชาจิวโจวนั้นยังห่างไกลเกินไปจากซือหยูตอนนี้เขาจึงไม่ได้คิดปรารถนาในน้ำพุแห่งชีวิต แต่ถ้าหากสตรีสองคนนี้กล้าเข้ามาที่นี่ เขาก็มั่นใจว่าพวกนางรู้ทางออก นี่คือเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับซือหยู!
“ข้าเข้าใจแล้วก่อนจะออกจากป่านี่ ข้าหวังว่าพวกเราจะเชื่อใจกันได้ เพราะถ้าเจ้าตาย ข้าก็ไม่ได้ประโยชน์อันใด…”
ซือหยูพูด
แม่นางหลิงพยักหน้า
“ก็เหมือนกับพวกข้าถ้าเจ้าตาย พวกข้าก็ไม่ได้อะไรเหมือนกัน แล้วข้าก็ยังมีปฏิญาณสัตย์ดวงใจทียังทำไม่สำเร็จ ถ้าเจ้าไม่ทำอะไรที่เป็นภัยกับพวกเรา ข้าก็จะไม่ทำร้ายเจ้า”
นางพูดอีก
“พวกข้าใช้เข็มทิศของเหยามู่เต๋าเหรินก่อนจะมาถึงที่นี่แต่มันเป็นของเก่าแก่ มันมิได้แม่นยำเท่าใดนัก มันทำให้พวกข้าอยู่ในอันตรายบ่อยครั้ง ถ้าเจ้ามีวิธีที่แม่นยำกว่าก็แสดงออกมาเสีย”
แม่นางหลิงเก็บเข็มทิศกลับซือหยูเหลือบมอง เขารู้สึกดีใจ เพราะถ้าหากเขาเดินไปตามเข็มทิศ เขาก็จะออกไปจากที่นี่ได้!
ทุกความกังวลหมดไปแล้วซือหยูเริ่มคำนวนระยะทาง เขาสงสัยว่าทรายทองคำจะพาเขาไปที่ไหน
หลังจากตกลงกันเรียบร้อยทั้งสามรีบใช้ทรายทองคำของซือหยู ซือหยูปล่อยทรายทองคำออกมาหนึ่งส่วน และทุกคนก็ไล่ตามทรายไปด้วยพลังทั้งหมดที่มี
เมื่อพวกเขาตามทรายทองคำไม่ทันจนมันหายไปในกลีบหมอกซือหยูก็จะเรียกทองออกมาอีกส่วน ดังนั้นแม้ว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นมา พวกเขาก็จะไม่หลงทางเพราะซือหยูมีทรายสีทองอยู่มากนั่นเอง
แม่นางหลิงตาเป็นประกาย
.Aileen-novel.
“ทรายสีทองนี่ดีกว่าเข็มทิศเสียอีกหมอกหนาไม่ใช่ปัญหาอีกแล้ว! เจ้าโชคดีมากที่ได้มันมา!”
ซือหยูยักไหล่เขากำลังจะตอบนางแต่ก็ใบหน้าแข็งทื่อ แม่นางหลิงกับกงซุนหวูซื่อก็ใบหน้าเคร่งเครียดเช่นเดียวกัน
“อากาศเปลี่ยนไปแล้ว!ที่นี่อากาศดีกว่า!”
ซือหยูกล่าว
แม่นางหลิงพยักหน้า
“ถูกของเจ้า”
เมื่อเห็นว่าสิ่งรอบข้างเปลี่ยนไปความรู้สึกไม่ปลอดภัยก็ก่อกำเนิดขึ้น
“นั่นก็เพราะว่าพวกเจ้าบุกรุกเข้ามาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์ข้า!”
เสียงลึกล้ำในภาษาที่มิอาจเข้าใจดังมาจากสามศอกข้างหน้า!
แม่นางหลิงกับกงซุนหวูซื่อมิอาจฟังได้แต่ซือหยูนั้นเข้าใจความหมาย เพราะมันคือภาษาไม้!
“ไม่นะ!มันคือเผ่าไม้ทองแดง!”
ซือหยูคิดหนักเขานึกได้ว่าแม่นางหลิงบอกเขาว่าชาวเผ่าไม้ทองแดงจะลาดตระเวนที่ป่าส่วนใน
ปั้ง!
ซึ่บ!
เสียงใบไม้กระทบนับไม่ถ้วนดังขึ้นลมเย็นบางเบาพัดหมอกทั้งหมดกระจายหาย
ต้นไม้สูงสีทองแดงเก่าตระหง่านกลางเส้นทางห่างกันสามศอกซือหยูกับสตรีอีกสองคนยืนตัวสั่นอยู่ใต้ต้นไม้ราวกับคนอ่อนแอที่รู้สึกเล็กจ้อยราวมดปลวก
ต้นไม้ทองแดงทั้งต้นเปล่งแสงสะท้อนราวโลหะถ้าหากไม่ใช่เพราะใบไม้สีเขียว ลวดลายใบไม้ และกลิ่นไม้อันหนาแน่นก็ยากที่จะเชื่อว่านี่คือต้นไม้! ที่แปลกยิ่งกว่านั้น ส่วนในของต้นไม้ทองแดงนี้ยังส่งเสียงภาษาไม้ออกมา…
“ผู้บุกรุกดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต้องตาย!”
ต้นไม้ทองแดงขู่คำรามอย่างน่าขนลุกแรงกดดันวิญญาณรุนแรงทำให้โลหิตซือหยูหยุดไหลเวียน เขามิอาจใช้พลังในร่างได้
ซือหยูตอบเป็นภาษาไม้
“ผู้อาวุโสพวกข้าไม่ตั้งใจจะรบกวนดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้! เราถูกบังคับให้เข้ามา! โปรดอภัยให้พวกข้าด้วย”
“เอ๋?เจ้ารู้ภาษาเผ่าข้าเรอะ?”
ต้นไม้ทองแดงตกใจเล็กน้อย
“แต่ไม่ว่าจะอย่างไรเจ้าต้องตาย!”
ซึ่บ!
ใบไม้มากมายสั่นและร่วงหล่นลงกลายเป็นใบมีดมันถูกซัดลงมาใส่พวกเขา แม่นางหลิงชักสีหน้า นางคว้าตัวกงซุนหวูซื่อด้วยมือหนึ่งข้างและคว้าตัวซือหยูด้วยมืออีกข้าง ร่างอันงดงามของนางแล่นปราดเปรียวต่อเนื่องก้าวพริบตาพาพวกเขามาร้อยศอก
เมื่อจะถอยให้ไกลยิ่งกว่าวายุลมอันน่ากลัวก็ได้ปรากฏที่ด้านหลัง ต้นไม้ใหญ่ผุดขึ้นมาจากดินใต้หมอกอำพัน! มันมีสีทองแดงแบบเดียวกัน มันขวางทางหนีของทั้งสามคนเอาไว้!
จากนั้นสายลมรุนแรงก็พุ่งมาจากหลายทิศทาง ต้นไม้ราวแปดต้นผุดขึ้นมาจากดิน! พวกซือหยูถูกปิดล้อม!
“ฮ่าๆพวกเจ้ารบกวนป่าส่วนนอกไปแล้ว พวกข้าจะไม่รู้หรือว่าเจ้าอยู่ที่นี่? พวกข้ารอเจ้ามานานแล้ว!”
ต้นไม้ทองแดงต้นแรกพูดอย่างเย็นชา
แม่นางหลิงถามเบาๆ
“พวกมันพูดอะไร?”
ซือหยูพูดภาษาไม้แบบเดิมในภาษามนุษย์นั่นทำให้แม่นางหลิงหน้าถอดสี
ในบรรดาต้นไม้เก้าต้นนี้แม้แต่ต้นที่อ่อนแอที่สุดก็เป็นจ้าวเทวะระดับเจ็ด ขณะที่ต้นที่พูดนั้นเป็นจ้าวเทวะระดับแปด! นางรู้ว่ายากมากที่จะสู้กับต้นเดียว ไม่ต้องพูดถึงทั้งเก้าต้นเลย! พวกนางไม่มีทางหนีแล้ว!
ปั้ง!
ในตอนนั้นเองไม้ทองแดงต้นหนึ่งปรากฏ มนุษย์คนหนึ่งถูกผูกติดไว้ด้วยเถาวัลย์
นั่นคือหูหวังกุยที่ถูกลากเข้ามาในป่านี้ด้วย!สุดท้ายเขาก็หนีไม่รอด
ไม่มีแม้แต่เสี้ยวพลังของเขาออกมาจากร่างกายมันเหือดแห้งไม่เหลือสิ่งใด เขากำลังอยู่ในลมหายใจสุดท้าย ยากที่จะเชื่อว่าเขาคือจ้าวเทวะระดับห้าหูหวังกุย!
“นายท่านเราเจอคนสุดท้ายแล้ว”
ชาวเผ่าไม้คนนั้นโยนร่างเหี่ยวแห้งของหูหวังกุยลงบนพื้น
ชาวไม้คนแรกตอบอย่างเยือกเย็น
“เขาถูกต้นไม้ปีศาจดูดพลังไปหรือ?ก็ได้ ฝังเมล็ดในร่างมัน บำรุงให้แก่ชาวเผ่าไม้รุ่นต่อไป”
ต้นไม้ต้นนั้นสื่อว่าร่างของหูหวังกุยจะถูกใช้เป็นปุ๋ยดินเพื่อเลี้ยงเมล็ดเผ่าไม้ต่อไปและที่แย่ยิ่งกว่าคือพวกมันทำขณะที่หูหวังกุยยังมีชีวิตอยู่! เนื้อหนังและโลหิตถูกดูดกลืนไปเสียมาก เขาทรมานราวกับตกนรก ร่างกายของเขาค่อยๆหายไปช้าๆ
วิธีอันโหดเหี้ยมทำให้ซือหยูหนาวสั่นแต่มันก็มีเหตุผลสำหรับชาวเผ่าไม้ เพราะสิ่งที่พวกมันทำก็เป็นสิ่งเดียวกันกับที่มนุษย์ทำกับสรรพสัตว์เพื่อขจัดความหิว สำหรับเผ่าไม้ นี่เป็นเรื่องของความอยู่รอด
“แล้วพวกมันล่ะ?”
ต้นไม้ทองแดงถาม
ไม้ทองแดงจ้าวเทวะระดับแปดตอบอย่างไม่แยแส
“ถ้าพวกมันยังไม่ตายพวกมันก็ใช้ปลูกรุ่นต่อไปของพวกเราได้ ฝังเมล็ดในร่างมัน”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

The Divine Nine Dragon Cauldron 898

Now you are reading The Divine Nine Dragon Cauldron Chapter 898 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

DND.
ซือหยูจ้องสตรีทั้งสองดูจากสถานการณ์ เขาไม่มีทางเลือกนอกจากอธิบายอย่างตรงไปตรงมา
“หลังจบงานเซ่นดินแดนมีดสวรรค์พ่ายแพ้ครั้งใหญ่จนอยากจะกำจัดข้าทิ้ง ข้าถูกตามล่ามาจนถึงป่าปีศาจร้าง ข้ารีบจนบังเอิญกระแทกกับกงซุนหวูซื่อจนนางบาดเจ็บ นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น”
กงซุนหวูซื่อกระทืบเท้าดวงตากลมโตทั้งสองข้างแทบจะถลน ใบหน้านางก็แดงเช่นกันเพราะความโกรธและความอับอาย
นางกัดฟันจนบดส่งเป็นเสียงพร้อมกำหมัดตะโกนกลับ
“ทำให้ข้าบาดเจ็บอย่างนั้นเรอะ?เจ้าพยายามจะฆ่าข้า! เจ้ากับข้าเป็นศัตรูกันนับจากนี้!”
ซือหยูไม่สนใจนางและมองแม่นางหลิง
“บอกข้าได้หรือไม่เจ้าสองคนเข้ามาที่ป่าปีศาจร้างได้ยังไง? พวกเจ้าไม่ได้ถูกบังคับเข้ามาสินะ?”
หลังจากได้ฟังคำอธิบายแม่นางหลิงก็เริ่มเชื่อเขาและลดความระแวงลง เพราะก่อนที่ทั้งคู่จะออกจากงาน ซือหยูทำคะแนนไปมากกว่าสองพันคะแนน มันมีเหตุผลที่คนจากดินแดนมีดสวรรค์จะใช้กำลัง!
“พวกข้ามีเหตุผลที่มาที่นี่ข้ากำลังสงสัยว่าเจ้ามาที่ป่าส่วนในด้วยตัวเจ้าเองได้ยังไง?”
แม่นางหลิงบอกสิ่งที่สงสัย
เพราะนางทั้งสองมีเข็มทิศจากเหยามู่เต๋าเหรินที่นำทางมาถึงจุดนี้แม้กระนั้นพวกนางก็พบต้นไม้ปีศาจมาตลอดทาง …แล้วซือหยูมีชีวิตรอดมาถึงที่นี่ได้ยังไง?
“ป่าส่วนในหรือ?”
ซือหยูตาลุกวาวเมื่อได้รู้ว่าพวกนางรู้เรื่องป่าปีศาจร้างดีเพราะพวกนางบอกได้ว่าจุดนี้คือส่วนไหนของป่า
ซือหยูครุ่นคิดเล็กน้อยและหยิบขวดทรายสีทองออกมา
“ทรายสีทองนี้เป็นของเหยามู่เต๋าเหรินข้าตามการนำของมันจนมาถึงที่นี่ ข้าจะแบ่งมันให้กับเจ้า แต่เจ้าต้องบอกข้อมูลให้ข้าด้วยเหมือนกัน”
ทรายสีทองรึ?ทั้งแม่นางหลิงกับกงซุนหวูซื่อไม่รู้จักที่มาของมัน แต่พวกนางก็เชื่อว่าสิ่งที่ซือหยูพูดส่วนมากเป็นความจริง มิเช่นนั้นก็คงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมีโอกาสมาถึงที่นี่!
“ฝันไปเถอะ!ทำไมข้าต้องแบ่งข้อมูลกับเจ้าด้วย?”
กงซุนหวูซื่อจ้องซือหยูอย่างโกรธเกรี้ยวนางทำแก้มป่องด้วยความโกรธ
แม่นางหลิงพูดขัดด้วยตาเป็นประกาย
“เจ้าอยากจะรู้เรื่องอะไร?”
“ทุกเรื่อง…”
ซือหยูตอบ
หลังจากจ้องทรายสีทองในขวดซือหยูและครุ่นคิดแม่นางหลิงก็พยักหน้าช้าๆ
“ก็ได้”
“พวกข้าอ่านตำราโบราณจนได้รู้ว่าป่าปีศาจร้างมาจากนภาจรัสและมีความสามารถในการลดระดับทุกสิ่ง”
แม่นางหลิงกล่าว
“เหตุที่ผู้ชนะงานเซ่นจะได้รับพลังบริสุทธิ์ก็เพราะว่าพลังเหล่านั้นคือผลผลิตจากการลดระดับของสิ่งมีชีวิตที่เป็นเครื่องเซ่นให้ป่าปีศาจร้างพลังส่วนใหญ่จะถูกใช้ในการเติบโตของพวกมัน ส่วนพลังที่เหลือจะถูกส่งมาเป็นรางวัลแก่ผู้ส่งของเซ่น”
นางพูดต่อ
“พวกข้าเสี่ยงเข้ามาที่นี่ก็เพื่อที่จะหาต้นตอของพลังลดระดับมีแค่สองอย่างที่พวกข้ารู้ อย่างแรกคือป่านี้แบ่งเป็นป่าส่วนในและส่วนนอก ป่าส่วนนอกคือจุดที่มีพวกต้นไม้ปีศาจ ข้าเชื่อว่าเจ้าเคยเจอมาแล้ว…มันคือกิ่งและเถาวัลย์ที่จะกลืนกินทุกสิ่งเข้าไป เหล่านั้นคือชาวเผ่าไม้ที่ตายไปแล้ว ร่างกายของพวกเขาถูกยึดครองด้วยสิ่งชั่วร้ายหลังจากตายไป ส่วนมากอาศัยอยู่ในป่าส่วนนอก!”
นางพักหายใจและพูดต่อ
“ป่าส่วนในคืออาณาเขตของชาวเผ่าไม้มักจะมีชาวเผ่าไม้ทองแดงคอยลาดตระเวน พวกมันแข็งแกร่งมาก ที่อ่อนแอที่สุดก็เป็นจ้าวเทวะระดับเจ็ดเข้าไปแล้ว แข็งแกร่งสุดคือจ้าวเทวะระดับเก้า! ถ้าพวกเราเจอมัน โอกาสรอดชีวิตก็เท่ากับศูนย์!”
นางพูดอีก
“หลังจากเข้าไปที่ป่าส่วนในเราจะได้เจอน้ำพุแห่งชีวิต มันคือต้นตอของพลังลดระดับเหล่านั้น ครั้งหนึ่งเหยามู่เต๋าเหรินเคยได้ครอบครองน้ำพุแห่งชีวิต และนั่นคือสิ่งที่ทำให้เขาก้าวข้ามทุกคนไปถึงระดับของราชาจิวโจวได้ ทุกคนตกใจกับสิ่งที่เขาได้เป็น!”
ซือหยูเข้าใจทุกอย่างแล้วหลังจากได้ฟังคำอธิบายไม่ต้องถามก็รู้ว่าพวกนางมาเพื่อหาน้ำพุแห่งชีวิต
ระดับของราชาจิวโจวนั้นยังห่างไกลเกินไปจากซือหยูตอนนี้เขาจึงไม่ได้คิดปรารถนาในน้ำพุแห่งชีวิต แต่ถ้าหากสตรีสองคนนี้กล้าเข้ามาที่นี่ เขาก็มั่นใจว่าพวกนางรู้ทางออก นี่คือเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับซือหยู!
“ข้าเข้าใจแล้วก่อนจะออกจากป่านี่ ข้าหวังว่าพวกเราจะเชื่อใจกันได้ เพราะถ้าเจ้าตาย ข้าก็ไม่ได้ประโยชน์อันใด…”
ซือหยูพูด
แม่นางหลิงพยักหน้า
“ก็เหมือนกับพวกข้าถ้าเจ้าตาย พวกข้าก็ไม่ได้อะไรเหมือนกัน แล้วข้าก็ยังมีปฏิญาณสัตย์ดวงใจทียังทำไม่สำเร็จ ถ้าเจ้าไม่ทำอะไรที่เป็นภัยกับพวกเรา ข้าก็จะไม่ทำร้ายเจ้า”
นางพูดอีก
“พวกข้าใช้เข็มทิศของเหยามู่เต๋าเหรินก่อนจะมาถึงที่นี่แต่มันเป็นของเก่าแก่ มันมิได้แม่นยำเท่าใดนัก มันทำให้พวกข้าอยู่ในอันตรายบ่อยครั้ง ถ้าเจ้ามีวิธีที่แม่นยำกว่าก็แสดงออกมาเสีย”
แม่นางหลิงเก็บเข็มทิศกลับซือหยูเหลือบมอง เขารู้สึกดีใจ เพราะถ้าหากเขาเดินไปตามเข็มทิศ เขาก็จะออกไปจากที่นี่ได้!
ทุกความกังวลหมดไปแล้วซือหยูเริ่มคำนวนระยะทาง เขาสงสัยว่าทรายทองคำจะพาเขาไปที่ไหน
หลังจากตกลงกันเรียบร้อยทั้งสามรีบใช้ทรายทองคำของซือหยู ซือหยูปล่อยทรายทองคำออกมาหนึ่งส่วน และทุกคนก็ไล่ตามทรายไปด้วยพลังทั้งหมดที่มี
เมื่อพวกเขาตามทรายทองคำไม่ทันจนมันหายไปในกลีบหมอกซือหยูก็จะเรียกทองออกมาอีกส่วน ดังนั้นแม้ว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นมา พวกเขาก็จะไม่หลงทางเพราะซือหยูมีทรายสีทองอยู่มากนั่นเอง
แม่นางหลิงตาเป็นประกาย
.Aileen-novel.
“ทรายสีทองนี่ดีกว่าเข็มทิศเสียอีกหมอกหนาไม่ใช่ปัญหาอีกแล้ว! เจ้าโชคดีมากที่ได้มันมา!”
ซือหยูยักไหล่เขากำลังจะตอบนางแต่ก็ใบหน้าแข็งทื่อ แม่นางหลิงกับกงซุนหวูซื่อก็ใบหน้าเคร่งเครียดเช่นเดียวกัน
“อากาศเปลี่ยนไปแล้ว!ที่นี่อากาศดีกว่า!”
ซือหยูกล่าว
แม่นางหลิงพยักหน้า
“ถูกของเจ้า”
เมื่อเห็นว่าสิ่งรอบข้างเปลี่ยนไปความรู้สึกไม่ปลอดภัยก็ก่อกำเนิดขึ้น
“นั่นก็เพราะว่าพวกเจ้าบุกรุกเข้ามาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์ข้า!”
เสียงลึกล้ำในภาษาที่มิอาจเข้าใจดังมาจากสามศอกข้างหน้า!
แม่นางหลิงกับกงซุนหวูซื่อมิอาจฟังได้แต่ซือหยูนั้นเข้าใจความหมาย เพราะมันคือภาษาไม้!
“ไม่นะ!มันคือเผ่าไม้ทองแดง!”
ซือหยูคิดหนักเขานึกได้ว่าแม่นางหลิงบอกเขาว่าชาวเผ่าไม้ทองแดงจะลาดตระเวนที่ป่าส่วนใน
ปั้ง!
ซึ่บ!
เสียงใบไม้กระทบนับไม่ถ้วนดังขึ้นลมเย็นบางเบาพัดหมอกทั้งหมดกระจายหาย
ต้นไม้สูงสีทองแดงเก่าตระหง่านกลางเส้นทางห่างกันสามศอกซือหยูกับสตรีอีกสองคนยืนตัวสั่นอยู่ใต้ต้นไม้ราวกับคนอ่อนแอที่รู้สึกเล็กจ้อยราวมดปลวก
ต้นไม้ทองแดงทั้งต้นเปล่งแสงสะท้อนราวโลหะถ้าหากไม่ใช่เพราะใบไม้สีเขียว ลวดลายใบไม้ และกลิ่นไม้อันหนาแน่นก็ยากที่จะเชื่อว่านี่คือต้นไม้! ที่แปลกยิ่งกว่านั้น ส่วนในของต้นไม้ทองแดงนี้ยังส่งเสียงภาษาไม้ออกมา…
“ผู้บุกรุกดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต้องตาย!”
ต้นไม้ทองแดงขู่คำรามอย่างน่าขนลุกแรงกดดันวิญญาณรุนแรงทำให้โลหิตซือหยูหยุดไหลเวียน เขามิอาจใช้พลังในร่างได้
ซือหยูตอบเป็นภาษาไม้
“ผู้อาวุโสพวกข้าไม่ตั้งใจจะรบกวนดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้! เราถูกบังคับให้เข้ามา! โปรดอภัยให้พวกข้าด้วย”
“เอ๋?เจ้ารู้ภาษาเผ่าข้าเรอะ?”
ต้นไม้ทองแดงตกใจเล็กน้อย
“แต่ไม่ว่าจะอย่างไรเจ้าต้องตาย!”
ซึ่บ!
ใบไม้มากมายสั่นและร่วงหล่นลงกลายเป็นใบมีดมันถูกซัดลงมาใส่พวกเขา แม่นางหลิงชักสีหน้า นางคว้าตัวกงซุนหวูซื่อด้วยมือหนึ่งข้างและคว้าตัวซือหยูด้วยมืออีกข้าง ร่างอันงดงามของนางแล่นปราดเปรียวต่อเนื่องก้าวพริบตาพาพวกเขามาร้อยศอก
เมื่อจะถอยให้ไกลยิ่งกว่าวายุลมอันน่ากลัวก็ได้ปรากฏที่ด้านหลัง ต้นไม้ใหญ่ผุดขึ้นมาจากดินใต้หมอกอำพัน! มันมีสีทองแดงแบบเดียวกัน มันขวางทางหนีของทั้งสามคนเอาไว้!
จากนั้นสายลมรุนแรงก็พุ่งมาจากหลายทิศทาง ต้นไม้ราวแปดต้นผุดขึ้นมาจากดิน! พวกซือหยูถูกปิดล้อม!
“ฮ่าๆพวกเจ้ารบกวนป่าส่วนนอกไปแล้ว พวกข้าจะไม่รู้หรือว่าเจ้าอยู่ที่นี่? พวกข้ารอเจ้ามานานแล้ว!”
ต้นไม้ทองแดงต้นแรกพูดอย่างเย็นชา
แม่นางหลิงถามเบาๆ
“พวกมันพูดอะไร?”
ซือหยูพูดภาษาไม้แบบเดิมในภาษามนุษย์นั่นทำให้แม่นางหลิงหน้าถอดสี
ในบรรดาต้นไม้เก้าต้นนี้แม้แต่ต้นที่อ่อนแอที่สุดก็เป็นจ้าวเทวะระดับเจ็ด ขณะที่ต้นที่พูดนั้นเป็นจ้าวเทวะระดับแปด! นางรู้ว่ายากมากที่จะสู้กับต้นเดียว ไม่ต้องพูดถึงทั้งเก้าต้นเลย! พวกนางไม่มีทางหนีแล้ว!
ปั้ง!
ในตอนนั้นเองไม้ทองแดงต้นหนึ่งปรากฏ มนุษย์คนหนึ่งถูกผูกติดไว้ด้วยเถาวัลย์
นั่นคือหูหวังกุยที่ถูกลากเข้ามาในป่านี้ด้วย!สุดท้ายเขาก็หนีไม่รอด
ไม่มีแม้แต่เสี้ยวพลังของเขาออกมาจากร่างกายมันเหือดแห้งไม่เหลือสิ่งใด เขากำลังอยู่ในลมหายใจสุดท้าย ยากที่จะเชื่อว่าเขาคือจ้าวเทวะระดับห้าหูหวังกุย!
“นายท่านเราเจอคนสุดท้ายแล้ว”
ชาวเผ่าไม้คนนั้นโยนร่างเหี่ยวแห้งของหูหวังกุยลงบนพื้น
ชาวไม้คนแรกตอบอย่างเยือกเย็น
“เขาถูกต้นไม้ปีศาจดูดพลังไปหรือ?ก็ได้ ฝังเมล็ดในร่างมัน บำรุงให้แก่ชาวเผ่าไม้รุ่นต่อไป”
ต้นไม้ต้นนั้นสื่อว่าร่างของหูหวังกุยจะถูกใช้เป็นปุ๋ยดินเพื่อเลี้ยงเมล็ดเผ่าไม้ต่อไปและที่แย่ยิ่งกว่าคือพวกมันทำขณะที่หูหวังกุยยังมีชีวิตอยู่! เนื้อหนังและโลหิตถูกดูดกลืนไปเสียมาก เขาทรมานราวกับตกนรก ร่างกายของเขาค่อยๆหายไปช้าๆ
วิธีอันโหดเหี้ยมทำให้ซือหยูหนาวสั่นแต่มันก็มีเหตุผลสำหรับชาวเผ่าไม้ เพราะสิ่งที่พวกมันทำก็เป็นสิ่งเดียวกันกับที่มนุษย์ทำกับสรรพสัตว์เพื่อขจัดความหิว สำหรับเผ่าไม้ นี่เป็นเรื่องของความอยู่รอด
“แล้วพวกมันล่ะ?”
ต้นไม้ทองแดงถาม
ไม้ทองแดงจ้าวเทวะระดับแปดตอบอย่างไม่แยแส
“ถ้าพวกมันยังไม่ตายพวกมันก็ใช้ปลูกรุ่นต่อไปของพวกเราได้ ฝังเมล็ดในร่างมัน”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+