The Divine Nine Dragon Cauldron 905 – การลงมือของเทพีไม้

Now you are reading The Divine Nine Dragon Cauldron Chapter 905 - การลงมือของเทพีไม้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

DND.
“ท่านหยินมู่ข้าก็ยินดีรับใช้ท่าน”
เจ้าของสวนตำราฉินพูดขึ้นมาอีก
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างกับนางเป็นจ้าวเทวะระดับสองทั้งคู่เป็นเรื่องง่ายที่จะฆ่าซือหยู
“แค่จับมันมาก็พออย่าได้ฆ่ามัน ข้าต้องการจับเป็น ถ้าเจ้าทำได้ ข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า ข้าจะให้หยดน้ำพุแห่งชีวิตสองหยดกับพวกเจ้าด้วย…”
หยินมู่ให้สัญญา
ทั้งสองดีใจมากแม้ว่าชายหน้าสีเงินเผ่าไม้ผู้นี้จะไม่น่าเชื่อถือ แต่พวกเขาก็ยังมีหวังที่จะรอดออกไป
ทั้งคู่หัวเราะอย่างสะใจและร่วมมือกันทั้งสองบินไปยังผนึกและผ่านเข้าไปได้โดยไร้สิ่งต่อต้าน
หยินมู่ยิ้มอย่างเยือกเย็นผนึกนั้นต่อต้านเขาได้ดี แต่มิใช่กับมนุษย์
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างยิ้มเยาะ
“ซือหยูเซี่ยนซือหยูเซี่ยน! เจ้าทำลายข้า ข้าเสียทุกอย่างไปก็เพื่อเจ้า ถ้าลู่จือยี่ไม่มาขวาง ข้าก็ได้ฆ่าเจ้าไปแล้ว มาดูเถอะว่าตอนนี้เจ้าจะอยู่ข้างหลังสตรีได้อีกไหม!”
เจ้าของสวนตำราฉินเองก็ถอนหายใจแรงการทำลายสวนตำราของนางนั้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
และดินแดนมีดสวรรค์ก็เสียร้านทั้งหมดไปในงานเซ่นสวนตำราของนางเองก็เป็นหนึ่งในนั้น มันถูกยึดกลับไปโดยฝ่ายดินแดนพรสวรรค์ ความสูญเสียนี้ไม่ใช่น้อย
ซือหยูยังคงใจเย็น
“พวกเจ้ามั่นใจเหลือเกินนะว่าจะจัดการข้าได้ที่นี่”
ที่นี่ไม่มีใครอื่นซือหยูสามารถใช้ไพ่ตายทั้งหมดได้โดยไม่ต้องออมมือ จ้าวเทวะสองคนทำอะไรซือหยูไม่ได้เลย
“ฮื่ม!เจ้ามันอวดดีจริงๆ”
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างพูด
“ท่านฉินไอ้เด็กนี่จะต้องมีไพ่ตายซ่อนเอาไว้สักสองอย่าง ไม่ต้องสนใจเรื่องความยุติธรรม เข้าไปจัดการมันพร้อมกันเถอะ”
นางพยักหน้าและเดินไปทางซือหยูเมื่อห่างกันสิบก้าว นางก็พุ่งเข้าไป ร่างที่มองแทบไม่เห็นของนางนั้นรวดเร็วจนซือหยูตอบสนองไม่ทันเมื่อนางมาถึงตัว พลังชีวิตพุ่งเข้าใส่หน้าผากของซือหยู
ซือหยูแตะพื้นด้วยปลายเท้าพร้อมทะยานฟ้าไปเขาดูเหมือนกำลังจะหนี
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างมองตามซือหยูกำลังอยู่บนฟ้า ซึ่งเป็นจุดที่ร่างกายยืดหยุ่นไม่พอที่จะเคลื่อนไหวได้สะดวก มันคือโอกาสดีที่สุดที่จะจู่โจม
“ไอ้เด็กบ้าเอาชีวิตมาให้ข้าซะเถอะ!”
มือทั้งสองของเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างกลายเป็นกรงเล็บวิหคไล่ล่าตามแผ่นหลังซือหยูไปเพลิงได้ลุกไหม้บนกรงเล็บ มันจะเผาซือหยูก่อนที่กรงเล็บถึงตัว นั่นทำให้เขาโต้กลับไม่ได้
เพราะอย่างไรหยินมู่ก็บอกให้เขาจับตัวซือหยูแต่ไม่ได้ห้ามทำร้ายร่างกาย
เมื่อเจอกับการโจมตีทั้งสองทางซือหยูใช้มือทั้งสองข้างซัดอากาศทะยานขึ้นไปอีก ปีกสีเลือดปรากฏบนแผ่นหลังและทิ้งร่างเงาของซือหยูเอาไว้ เขาหายไปต่อหน้าต่อตาเจ้าบ้านจันทร์กระจ่าง
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างจู่โจมความว่างเปล่าเขามองปีกสีเลือดบนแผ่นหลังซือหยู
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างเคยเห็นปีกนี้แล้วในตอนที่หูหวังกุยไล่ตามซือหยูปีกนี้มีความเร็วเทียบเท่ากับจ้าวเทวะระดับห้า
“เจ้าไม่ต้องห่วงมันไม่กล้าออกจากผนึก การเคลื่อนไหวมันมีขีดจำกัด เจ้าจะจู่โจมอย่างไรก็ได้…”
หยินมู่พูดอย่างใจเย็นการจับตัวซือหยูได้นั้นเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างกับเจ้าของสวนหนังสือฉินเหลือบมองกันก่อนจะเริ่มจู่โจมซือหยูอีกครั้งจากด้านข้าง
ครั้งนี้ซือหยูไม่หลบเขาเพียงแค่มองทั้งสองด้วยความเวทนา
“ย่อมได้ข้าจะใช้พวกเจ้าลองวิชาใหม่ของข้า”
ซือหยูขยับมือทั้งสองข้างมังกรพิโรธสามตัวร้องคำรามจากอก มังกรดำทั้งสามพุ่งออกจากอกซือหยูเข้าใส่ทั้งสองคน มันร้องคำรามโกรธเกรี้ยวไม่หยุดหย่อน
ทางฝั่งเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างรู้สึกถึงอันตรายจากมังกร
“ใช้ผนึกเทพเร็ว!”
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างตกใจซือหยูมีวิชาที่น่ากลัวขนาดนั้นได้ยังไง?
ผนึกเทพของเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างคือโอสถมันจะมอบพลังให้เขามหาศาล มันทำให้ฐานพลังของเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างสูงขึ้น มันทำให้พลังของเขาไปถึงจุดสูงสุดของจ้าวเทวะระดับสอง
มีผนึกเทพแบบนี้อยู่ด้วยรึ?ซือหยูแปลกใจที่ได้เห็นพลังใหม่ๆ
ส่วนผนึกเทพของเจ้าของสวนตำราเป็นผนึกธรรมดาๆเท่านั้นมันคือตำราที่มีตัวอักษรมากมายพุ่งออกมาไม่ขาดสาย ตัวอักษรเหล่านั้นจู่โจมมังกรอสูรและพยายามจะต้านทานไม่ให้เข้าใกล้
แต่ความเร็วของมังกรอสูรมิได้ลดลงมันกลับบินเข้ามาเร็วขึ้น เสียงคำรามของมันบดขยี้ตัวอักษรของนางและทะลวงร่างนางไป
นางหวาดกลัวและมิอาจเชื่อสายตานางตัวแข็งทื่อ ร่างกายนางถูกฉีกจากภายในเป็นชิ้นๆ
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างตกตะลึงอย่างมาก
“เพชรกระจ่าง!”
เขาตะโกนเสียงดัง
ชุดเกราะสีน้ำเงินปรากฏห่มกายหมัดทั้งสองของเขาถูกปกคลุมด้วยแสงสีน้ำเงิน
หลังจากมังกรอสูรผ่านเจ้าของสวนตำราฉินมันก็คำรามเสียงดังและพุ่งเข้าใส่เจ้าบ้านจันทร์กระจ่าง มันเข้าปะทะกำหมัดสีน้ำเงิน
ฉั่วะ!
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างเบิกตากว้างเขากระอักเลือดและถอยหลังกลับออกจากผนึกเทพีไม้
“เจ้าบ่มเพาะวิชาอสูรอะไรกัน?ทำไมมันถึงดุร้ายเช่นนี้?”
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นภูติระดับห้าสามารถใช้วิชาเดียวสังหารจ้าวเทวะระดับสองไปได้ ขณะที่ตัวเขาเองบาดเจ็บหนัก
ซือหยูตอบอย่างใจเย็น.ไอลีนโนเวล.
“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้แต่ก่อนเจ้าตาย เจ้าเข้ามาอีกครั้งก็ย่อมได้”
ซือหยูกำลังสงสัยว่าเทพีไม้เตรียมการเรียบร้อยแล้วหรือไม่และนางจะควบคุมจนใช้พลังเทพได้สำเร็จแค่ไหน
ควันดำปะทุจากผิวกายหยินมู่ความชั่วร้ายสะท้อนในดวงตา
“เจ้ามนุษย์ข้าชักจะหมดความอดทนแล้ว ถ้าเจ้ายังดื้อรั้นต่อไป มันจะไม่จบแค่จับตัวเจ้า มันยากที่ข้าจะจับตัว แต่เป็นเรื่องง่ายในการสังหาร ซ่อนตัวในผนึกก็หนีไม่พ้น!”
ซือหยูเรียกชุดเกราะทมิฬมากำบังกายมันคือเกราะราชาศิลานิรันดร์
ซือหยูใช้การเรียกเกราะแทนการปฏิเสธเขาย่อมไม่ยอมจำนนอยู่แล้ว
“ฮื่ม!เจ้ามันโง่เขลา! เจ้าคิดจริงๆรึว่าข้าทำอะไรเจ้าไม่ได้?”
หยินมู่เหลือบมองเจ้าบ้านจันทร์กระจ่าง
ดูเหมือนว่าเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างจะรู้สึกได้เขาหันหน้ามองผ่านไหล่อย่างจริงใจไปตอบหยินมู่
“ท่านหยินมู่ขอโอกาสข้าอีกครั้ง ข้าจับเป็นมันได้แน่”
“ช่างมันเถอะเจ้าทำอะไรมันไม่ได้ ข้าจะจัดการมันเอง”
หยินมู่เปล่งแสงสีเงินจากทั้งร่างต้นไม้สีเงินต้นเล็กที่ถูกปกคลุมโดยควันดำพุ่งออกมาจากหน้าผาก
ครึ่งหนึ่งของใบไม้เป็นสีดำสนิทมันปล่อยพลังปีศาจออกมา
“วิญญาณมันออกจากร่าง!”
ซือหยูรู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างเองก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเขาบินเข้าหาผนึกและพูดอย่างกระวนกระวาย
“ซือหยูเซี่ยนลืมเรื่องของเราไปก่อน ข้าขอไปหลบข้างในก่อนได้หรือไม่?”
คนฉลาดอย่างเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างรู้แล้วว่าหยินมู่มิอาจเข้าสู่ภายในผนึกได้มิเช่นนั้นหยินมู่ก็คงไม่ต้องขอให้เขามาช่วย
ซือหยูลังเลแต่ก็ไม่ได้ขัดขวาง
“ฮื่ม!”
เมื่อเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างห่างจากผนึกเพียงร้อยศอกต้นไม้สีเงินก็ถอนหายใจแรง
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างตัวแข็งทื่อเขาขยับตัวไม่ได้แม้แต่น้อย ราวกับว่าเขาถูกคนอื่นควบคุมตัว จากนั้นพลังมิติหนาแน่นก็ปรากฏล้อมรอบ
การควบคุมพลังมิติเป็นพลังพิเศษที่อสูรเนรมิตรครอบครองเท่านั้น
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างหวาดกลัวมากแต่เขาขยับไม่ได้ มันเป็นเช่นนั้นต่อไปจนดวงวิญญาณของหยินมู่ในรูปของต้นไม้สีเงินต้นเล็กผ่านเข้าหน้าผากของเจ้าบ้านจันทร์กระจ่าง
ซือหยูมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นจากระยะไกลเขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าวิญญาณของเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างถูกบดขยี้แตกละเอียดไปแล้ว จากนั้นร่างของเขาก็ถูกต้นไม้สีเงินยึดครอง
ไม่นานวิญญาณของเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างก็ดับไปและถูกแทนที่เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างตายแล้ว
ปั้ง!
‘เจ้าบ้านจันทร์กระจ่าง’ลืมตา พลังอันน่าตกใจปะทุออกมาจากเนตรสีเงิน คลื่นพลังเช่นนี้ทำให้ทั้งใต้ดินระส่ำระสาย
‘เจ้าบ้านจันทร์กระจ่าง’ในขณะนี้มีพลังของอสูรเนรมิตรอยู่ แม้ว่าจะไม่แข็งแกร่งเท่าร่างหลักของหยินมู่ เขาก็แข็งแกร่งกว่าซือหยูมาก
“สิงร่างหรือ!”
ซือหยูเคยอ่านในตำราโบราณมาแล้วในเรื่องของกายขโมยร่างกายเช่นี้ว่ากันว่าหากแข็งแกร่งถึงขั้นอสูรเนรมิตร วิญญาณจะแข็งแกร่งพอจนออกจากร่างกายตัวเองและยึดครองร่างอื่นได้ มันคือการสิงร่าง
แต่การใช้วิธีนี้ต้องแลกเปลี่ยนอย่างมหาศาลตามบันทึก ต่อให้อสูรเนรมิตรชั้นสูงใช้มัน ฐานพลังจะตกลงไปหนึ่งขอบเขต ดูเหมือนว่าหยินมู่จะยอมทำทุกอย่างเพื่อจับตัวซือหยู
แต่ถ้าหยินมู่ทำสำเร็จเขาจะสังหารเทพีไม้ได้ และจะขโมยแก่นเทพของนางมาจนกลายเป็นเทพไม้ต้นใหม่ การเสียสละเล็กน้อยจะเทียบกับความสำเร็จนี้ได้อย่างไรเล่า?
เนตรสีเงินของหยินมู่มองทะลวงหาซือหยูผนึกสั่นเล็กน้อย พลังเล็กน้อยของหยินมู่ผ่านเข้ามาได้
ซือหยูรู้สึกเหมือนถูกซัดด้วยสายฟ้าเขาร้องครางเบาๆด้วยความเจ็บปวด โลหิตซึมออกมาจากมุมปาก เพียงแค่หยินมู่มองเขาอย่างเดียวก็น่ากลัวเช่นนี้ ถ้าหากเผชิญหน้ากันตรงๆ การมองของหยินมู่อย่างเดียวก็สังหารซือหยูได้แล้ว
“ข้าทำขนาดนี้ก็เพราะเจ้าเจ้าจงภูมิใจซะเถอะ แม้แต่เหยามู่ก็ไม่เคยได้เจออะไรแบบนี้…”
‘เจ้าบ้านจันทร์กระจ่าง’พูดอย่างเยือกเย็น เนตรสีเงินเปลบ่งประกายสว่างจ้า เขาก้าวมาข้างหน้าพร้อมมือไพล่หลัง
เขายืนอยู่หน้าผนึกและยื่นมือออกมาด้านหน้าพร้อมกัน
เมื่อสัมผัสกับผนึกร่างของเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างสั่นสะเทือน ความเจ็บปวดแสดงผ่านเนตรสีเงิน แม้ว่าวิญญาณหยินมู่จะซ่อนในร่างมนุษย์ ผนึกก็ยังตรวจสอบได้และแผดเผาดวงวิญญาณเขา
ถ้าหากเขาออกไปไม่ทันเวลาวิญญาณของเขาจะดับมอดอย่างแน่นอน แต่ด้วยฐานพลังในขณะนี้ เขาย่อมจับตัวซือหยูได้ในสามลมหายใจ
เขาหยุดมือหากเขาผ่านผนึกต่อไป ผนึกก็จะขวางร่างมนุษย์ของเขาไม่ได้อีก
“ออกมาซะ!”
‘เจ้าบ้านจันทร์กระจ่าง’มองด้วยแววตาชั่วร้าย เขายื่นมือไปข้างในผนึกเข้าหาซือหยู
พลังมิติอันรุนแรงล้อมรอบซือหยูป้องกันไม่ได้เขาขยับตัวได้เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างเพียงต้องใช้ความคิดเดียวเพื่อนำตัวซือหยูออกมา จากนั้น สิ่งที่รอคอยซือหยูอยู่ก็คือการถูกทรมานที่มิอาจจินตนาการได้
ปั้ง!
ลำต้นของต้นไม้สีทองปรากฏที่หน้าตัวอักษรรูปหัวใจมือขาวเนียนยื่นออกมาคว้าไหล่ของซือหยูเอาไว้ พลังมิติที่ล้อมรอบซือหยูสลายไปพลัน พลังอันน่ากลัวค่อยๆซึมปกคลุมช้าๆ
สีหน้าหยินมู่เปลี่ยนไปทันทีเขาเบิกตากว้างเมื่อเห็นมือขาวเนียนนี้ เขาพูดด้วยความกลัว
“เทพีไม้!”
เป็นไปไม่ได้!นางหลับอยู่ไม่ใช่รึ? นางมาที่นี่ได้ยังไง?
ความหวาดกลัวเอ่อล้นในใจหยินมู่นี่คือความหวาดกลัวตามสัญชาตญาณ เขาได้แต่คิดหนี
แต่เขาก็พบว่าตัวเองมิอาจขยับได้แม้แต่น้อยร่างกายของเขาถูกบางอย่างกักตัวเอาไว้ เขายืนอยู่ในท่าเดิมและขยับไม่ได้
วิญญาณภายในร่างที่เป็นต้นไม้สีเงินหนีออกจากหน้าผากเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างด้วยความตื่นตระหนกแต่เมื่อออกจากร่าง วิญญาณก็ถูกกักขังดังเดิม มันขยับไม่ได้เช่นกัน
วิญญาณของเขาอยู่ในระดับของอสูรเนรมิตรชั้นสูงแต่เทพีไม้กลับหยุดมันได้เพียงแค่มองเท่านั้น
“เทพีไม้!โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย…”
ต้นไม้สีเงินต้นเล็กอ้อนวอนขออภัยด้วยความกลัวเพลิงสีทองเริ่มเผาวิญญาณ มันทำให้วิญญาณเจ็บปวดอย่างร้ายแรง
ฟึ่บ!
ลำต้นไม้สีทองขยับปรากฏให้เห็นเจ้าของมือซึ่งเป็นหญิงสาวนั่งบัลลังก์ที่หลับใหลอย่างสงบสุข ท่วงท่าของนางไม่ได้ต่างจากเดิม สิ่งเดียวก็คือนางยื่นมือมาวางบนไหล่ของซือหยู
“หยินมู่ข้าไม่ได้พบเจ้ามาหลายพันปี เจ้าอ่อนแอจนมีพลังแค่อสูรเนรมิตรเชียวรึ? ไม่แปลกเลยที่พลักปีศาจเข้าไปในร่างของเจ้าได้ คงเป็นเพราะเจ้ากำลังจะตายสินะ”
เสียงถอนหายใจสะท้อนออกมาจากภายในลำต้นของเทพีไม้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

The Divine Nine Dragon Cauldron 905 – การลงมือของเทพีไม้

Now you are reading The Divine Nine Dragon Cauldron Chapter 905 - การลงมือของเทพีไม้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

DND.
“ท่านหยินมู่ข้าก็ยินดีรับใช้ท่าน”
เจ้าของสวนตำราฉินพูดขึ้นมาอีก
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างกับนางเป็นจ้าวเทวะระดับสองทั้งคู่เป็นเรื่องง่ายที่จะฆ่าซือหยู
“แค่จับมันมาก็พออย่าได้ฆ่ามัน ข้าต้องการจับเป็น ถ้าเจ้าทำได้ ข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า ข้าจะให้หยดน้ำพุแห่งชีวิตสองหยดกับพวกเจ้าด้วย…”
หยินมู่ให้สัญญา
ทั้งสองดีใจมากแม้ว่าชายหน้าสีเงินเผ่าไม้ผู้นี้จะไม่น่าเชื่อถือ แต่พวกเขาก็ยังมีหวังที่จะรอดออกไป
ทั้งคู่หัวเราะอย่างสะใจและร่วมมือกันทั้งสองบินไปยังผนึกและผ่านเข้าไปได้โดยไร้สิ่งต่อต้าน
หยินมู่ยิ้มอย่างเยือกเย็นผนึกนั้นต่อต้านเขาได้ดี แต่มิใช่กับมนุษย์
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างยิ้มเยาะ
“ซือหยูเซี่ยนซือหยูเซี่ยน! เจ้าทำลายข้า ข้าเสียทุกอย่างไปก็เพื่อเจ้า ถ้าลู่จือยี่ไม่มาขวาง ข้าก็ได้ฆ่าเจ้าไปแล้ว มาดูเถอะว่าตอนนี้เจ้าจะอยู่ข้างหลังสตรีได้อีกไหม!”
เจ้าของสวนตำราฉินเองก็ถอนหายใจแรงการทำลายสวนตำราของนางนั้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
และดินแดนมีดสวรรค์ก็เสียร้านทั้งหมดไปในงานเซ่นสวนตำราของนางเองก็เป็นหนึ่งในนั้น มันถูกยึดกลับไปโดยฝ่ายดินแดนพรสวรรค์ ความสูญเสียนี้ไม่ใช่น้อย
ซือหยูยังคงใจเย็น
“พวกเจ้ามั่นใจเหลือเกินนะว่าจะจัดการข้าได้ที่นี่”
ที่นี่ไม่มีใครอื่นซือหยูสามารถใช้ไพ่ตายทั้งหมดได้โดยไม่ต้องออมมือ จ้าวเทวะสองคนทำอะไรซือหยูไม่ได้เลย
“ฮื่ม!เจ้ามันอวดดีจริงๆ”
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างพูด
“ท่านฉินไอ้เด็กนี่จะต้องมีไพ่ตายซ่อนเอาไว้สักสองอย่าง ไม่ต้องสนใจเรื่องความยุติธรรม เข้าไปจัดการมันพร้อมกันเถอะ”
นางพยักหน้าและเดินไปทางซือหยูเมื่อห่างกันสิบก้าว นางก็พุ่งเข้าไป ร่างที่มองแทบไม่เห็นของนางนั้นรวดเร็วจนซือหยูตอบสนองไม่ทันเมื่อนางมาถึงตัว พลังชีวิตพุ่งเข้าใส่หน้าผากของซือหยู
ซือหยูแตะพื้นด้วยปลายเท้าพร้อมทะยานฟ้าไปเขาดูเหมือนกำลังจะหนี
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างมองตามซือหยูกำลังอยู่บนฟ้า ซึ่งเป็นจุดที่ร่างกายยืดหยุ่นไม่พอที่จะเคลื่อนไหวได้สะดวก มันคือโอกาสดีที่สุดที่จะจู่โจม
“ไอ้เด็กบ้าเอาชีวิตมาให้ข้าซะเถอะ!”
มือทั้งสองของเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างกลายเป็นกรงเล็บวิหคไล่ล่าตามแผ่นหลังซือหยูไปเพลิงได้ลุกไหม้บนกรงเล็บ มันจะเผาซือหยูก่อนที่กรงเล็บถึงตัว นั่นทำให้เขาโต้กลับไม่ได้
เพราะอย่างไรหยินมู่ก็บอกให้เขาจับตัวซือหยูแต่ไม่ได้ห้ามทำร้ายร่างกาย
เมื่อเจอกับการโจมตีทั้งสองทางซือหยูใช้มือทั้งสองข้างซัดอากาศทะยานขึ้นไปอีก ปีกสีเลือดปรากฏบนแผ่นหลังและทิ้งร่างเงาของซือหยูเอาไว้ เขาหายไปต่อหน้าต่อตาเจ้าบ้านจันทร์กระจ่าง
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างจู่โจมความว่างเปล่าเขามองปีกสีเลือดบนแผ่นหลังซือหยู
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างเคยเห็นปีกนี้แล้วในตอนที่หูหวังกุยไล่ตามซือหยูปีกนี้มีความเร็วเทียบเท่ากับจ้าวเทวะระดับห้า
“เจ้าไม่ต้องห่วงมันไม่กล้าออกจากผนึก การเคลื่อนไหวมันมีขีดจำกัด เจ้าจะจู่โจมอย่างไรก็ได้…”
หยินมู่พูดอย่างใจเย็นการจับตัวซือหยูได้นั้นเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างกับเจ้าของสวนหนังสือฉินเหลือบมองกันก่อนจะเริ่มจู่โจมซือหยูอีกครั้งจากด้านข้าง
ครั้งนี้ซือหยูไม่หลบเขาเพียงแค่มองทั้งสองด้วยความเวทนา
“ย่อมได้ข้าจะใช้พวกเจ้าลองวิชาใหม่ของข้า”
ซือหยูขยับมือทั้งสองข้างมังกรพิโรธสามตัวร้องคำรามจากอก มังกรดำทั้งสามพุ่งออกจากอกซือหยูเข้าใส่ทั้งสองคน มันร้องคำรามโกรธเกรี้ยวไม่หยุดหย่อน
ทางฝั่งเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างรู้สึกถึงอันตรายจากมังกร
“ใช้ผนึกเทพเร็ว!”
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างตกใจซือหยูมีวิชาที่น่ากลัวขนาดนั้นได้ยังไง?
ผนึกเทพของเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างคือโอสถมันจะมอบพลังให้เขามหาศาล มันทำให้ฐานพลังของเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างสูงขึ้น มันทำให้พลังของเขาไปถึงจุดสูงสุดของจ้าวเทวะระดับสอง
มีผนึกเทพแบบนี้อยู่ด้วยรึ?ซือหยูแปลกใจที่ได้เห็นพลังใหม่ๆ
ส่วนผนึกเทพของเจ้าของสวนตำราเป็นผนึกธรรมดาๆเท่านั้นมันคือตำราที่มีตัวอักษรมากมายพุ่งออกมาไม่ขาดสาย ตัวอักษรเหล่านั้นจู่โจมมังกรอสูรและพยายามจะต้านทานไม่ให้เข้าใกล้
แต่ความเร็วของมังกรอสูรมิได้ลดลงมันกลับบินเข้ามาเร็วขึ้น เสียงคำรามของมันบดขยี้ตัวอักษรของนางและทะลวงร่างนางไป
นางหวาดกลัวและมิอาจเชื่อสายตานางตัวแข็งทื่อ ร่างกายนางถูกฉีกจากภายในเป็นชิ้นๆ
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างตกตะลึงอย่างมาก
“เพชรกระจ่าง!”
เขาตะโกนเสียงดัง
ชุดเกราะสีน้ำเงินปรากฏห่มกายหมัดทั้งสองของเขาถูกปกคลุมด้วยแสงสีน้ำเงิน
หลังจากมังกรอสูรผ่านเจ้าของสวนตำราฉินมันก็คำรามเสียงดังและพุ่งเข้าใส่เจ้าบ้านจันทร์กระจ่าง มันเข้าปะทะกำหมัดสีน้ำเงิน
ฉั่วะ!
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างเบิกตากว้างเขากระอักเลือดและถอยหลังกลับออกจากผนึกเทพีไม้
“เจ้าบ่มเพาะวิชาอสูรอะไรกัน?ทำไมมันถึงดุร้ายเช่นนี้?”
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นภูติระดับห้าสามารถใช้วิชาเดียวสังหารจ้าวเทวะระดับสองไปได้ ขณะที่ตัวเขาเองบาดเจ็บหนัก
ซือหยูตอบอย่างใจเย็น.ไอลีนโนเวล.
“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้แต่ก่อนเจ้าตาย เจ้าเข้ามาอีกครั้งก็ย่อมได้”
ซือหยูกำลังสงสัยว่าเทพีไม้เตรียมการเรียบร้อยแล้วหรือไม่และนางจะควบคุมจนใช้พลังเทพได้สำเร็จแค่ไหน
ควันดำปะทุจากผิวกายหยินมู่ความชั่วร้ายสะท้อนในดวงตา
“เจ้ามนุษย์ข้าชักจะหมดความอดทนแล้ว ถ้าเจ้ายังดื้อรั้นต่อไป มันจะไม่จบแค่จับตัวเจ้า มันยากที่ข้าจะจับตัว แต่เป็นเรื่องง่ายในการสังหาร ซ่อนตัวในผนึกก็หนีไม่พ้น!”
ซือหยูเรียกชุดเกราะทมิฬมากำบังกายมันคือเกราะราชาศิลานิรันดร์
ซือหยูใช้การเรียกเกราะแทนการปฏิเสธเขาย่อมไม่ยอมจำนนอยู่แล้ว
“ฮื่ม!เจ้ามันโง่เขลา! เจ้าคิดจริงๆรึว่าข้าทำอะไรเจ้าไม่ได้?”
หยินมู่เหลือบมองเจ้าบ้านจันทร์กระจ่าง
ดูเหมือนว่าเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างจะรู้สึกได้เขาหันหน้ามองผ่านไหล่อย่างจริงใจไปตอบหยินมู่
“ท่านหยินมู่ขอโอกาสข้าอีกครั้ง ข้าจับเป็นมันได้แน่”
“ช่างมันเถอะเจ้าทำอะไรมันไม่ได้ ข้าจะจัดการมันเอง”
หยินมู่เปล่งแสงสีเงินจากทั้งร่างต้นไม้สีเงินต้นเล็กที่ถูกปกคลุมโดยควันดำพุ่งออกมาจากหน้าผาก
ครึ่งหนึ่งของใบไม้เป็นสีดำสนิทมันปล่อยพลังปีศาจออกมา
“วิญญาณมันออกจากร่าง!”
ซือหยูรู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างเองก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเขาบินเข้าหาผนึกและพูดอย่างกระวนกระวาย
“ซือหยูเซี่ยนลืมเรื่องของเราไปก่อน ข้าขอไปหลบข้างในก่อนได้หรือไม่?”
คนฉลาดอย่างเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างรู้แล้วว่าหยินมู่มิอาจเข้าสู่ภายในผนึกได้มิเช่นนั้นหยินมู่ก็คงไม่ต้องขอให้เขามาช่วย
ซือหยูลังเลแต่ก็ไม่ได้ขัดขวาง
“ฮื่ม!”
เมื่อเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างห่างจากผนึกเพียงร้อยศอกต้นไม้สีเงินก็ถอนหายใจแรง
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างตัวแข็งทื่อเขาขยับตัวไม่ได้แม้แต่น้อย ราวกับว่าเขาถูกคนอื่นควบคุมตัว จากนั้นพลังมิติหนาแน่นก็ปรากฏล้อมรอบ
การควบคุมพลังมิติเป็นพลังพิเศษที่อสูรเนรมิตรครอบครองเท่านั้น
เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างหวาดกลัวมากแต่เขาขยับไม่ได้ มันเป็นเช่นนั้นต่อไปจนดวงวิญญาณของหยินมู่ในรูปของต้นไม้สีเงินต้นเล็กผ่านเข้าหน้าผากของเจ้าบ้านจันทร์กระจ่าง
ซือหยูมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นจากระยะไกลเขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าวิญญาณของเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างถูกบดขยี้แตกละเอียดไปแล้ว จากนั้นร่างของเขาก็ถูกต้นไม้สีเงินยึดครอง
ไม่นานวิญญาณของเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างก็ดับไปและถูกแทนที่เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างตายแล้ว
ปั้ง!
‘เจ้าบ้านจันทร์กระจ่าง’ลืมตา พลังอันน่าตกใจปะทุออกมาจากเนตรสีเงิน คลื่นพลังเช่นนี้ทำให้ทั้งใต้ดินระส่ำระสาย
‘เจ้าบ้านจันทร์กระจ่าง’ในขณะนี้มีพลังของอสูรเนรมิตรอยู่ แม้ว่าจะไม่แข็งแกร่งเท่าร่างหลักของหยินมู่ เขาก็แข็งแกร่งกว่าซือหยูมาก
“สิงร่างหรือ!”
ซือหยูเคยอ่านในตำราโบราณมาแล้วในเรื่องของกายขโมยร่างกายเช่นี้ว่ากันว่าหากแข็งแกร่งถึงขั้นอสูรเนรมิตร วิญญาณจะแข็งแกร่งพอจนออกจากร่างกายตัวเองและยึดครองร่างอื่นได้ มันคือการสิงร่าง
แต่การใช้วิธีนี้ต้องแลกเปลี่ยนอย่างมหาศาลตามบันทึก ต่อให้อสูรเนรมิตรชั้นสูงใช้มัน ฐานพลังจะตกลงไปหนึ่งขอบเขต ดูเหมือนว่าหยินมู่จะยอมทำทุกอย่างเพื่อจับตัวซือหยู
แต่ถ้าหยินมู่ทำสำเร็จเขาจะสังหารเทพีไม้ได้ และจะขโมยแก่นเทพของนางมาจนกลายเป็นเทพไม้ต้นใหม่ การเสียสละเล็กน้อยจะเทียบกับความสำเร็จนี้ได้อย่างไรเล่า?
เนตรสีเงินของหยินมู่มองทะลวงหาซือหยูผนึกสั่นเล็กน้อย พลังเล็กน้อยของหยินมู่ผ่านเข้ามาได้
ซือหยูรู้สึกเหมือนถูกซัดด้วยสายฟ้าเขาร้องครางเบาๆด้วยความเจ็บปวด โลหิตซึมออกมาจากมุมปาก เพียงแค่หยินมู่มองเขาอย่างเดียวก็น่ากลัวเช่นนี้ ถ้าหากเผชิญหน้ากันตรงๆ การมองของหยินมู่อย่างเดียวก็สังหารซือหยูได้แล้ว
“ข้าทำขนาดนี้ก็เพราะเจ้าเจ้าจงภูมิใจซะเถอะ แม้แต่เหยามู่ก็ไม่เคยได้เจออะไรแบบนี้…”
‘เจ้าบ้านจันทร์กระจ่าง’พูดอย่างเยือกเย็น เนตรสีเงินเปลบ่งประกายสว่างจ้า เขาก้าวมาข้างหน้าพร้อมมือไพล่หลัง
เขายืนอยู่หน้าผนึกและยื่นมือออกมาด้านหน้าพร้อมกัน
เมื่อสัมผัสกับผนึกร่างของเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างสั่นสะเทือน ความเจ็บปวดแสดงผ่านเนตรสีเงิน แม้ว่าวิญญาณหยินมู่จะซ่อนในร่างมนุษย์ ผนึกก็ยังตรวจสอบได้และแผดเผาดวงวิญญาณเขา
ถ้าหากเขาออกไปไม่ทันเวลาวิญญาณของเขาจะดับมอดอย่างแน่นอน แต่ด้วยฐานพลังในขณะนี้ เขาย่อมจับตัวซือหยูได้ในสามลมหายใจ
เขาหยุดมือหากเขาผ่านผนึกต่อไป ผนึกก็จะขวางร่างมนุษย์ของเขาไม่ได้อีก
“ออกมาซะ!”
‘เจ้าบ้านจันทร์กระจ่าง’มองด้วยแววตาชั่วร้าย เขายื่นมือไปข้างในผนึกเข้าหาซือหยู
พลังมิติอันรุนแรงล้อมรอบซือหยูป้องกันไม่ได้เขาขยับตัวได้เจ้าบ้านจันทร์กระจ่างเพียงต้องใช้ความคิดเดียวเพื่อนำตัวซือหยูออกมา จากนั้น สิ่งที่รอคอยซือหยูอยู่ก็คือการถูกทรมานที่มิอาจจินตนาการได้
ปั้ง!
ลำต้นของต้นไม้สีทองปรากฏที่หน้าตัวอักษรรูปหัวใจมือขาวเนียนยื่นออกมาคว้าไหล่ของซือหยูเอาไว้ พลังมิติที่ล้อมรอบซือหยูสลายไปพลัน พลังอันน่ากลัวค่อยๆซึมปกคลุมช้าๆ
สีหน้าหยินมู่เปลี่ยนไปทันทีเขาเบิกตากว้างเมื่อเห็นมือขาวเนียนนี้ เขาพูดด้วยความกลัว
“เทพีไม้!”
เป็นไปไม่ได้!นางหลับอยู่ไม่ใช่รึ? นางมาที่นี่ได้ยังไง?
ความหวาดกลัวเอ่อล้นในใจหยินมู่นี่คือความหวาดกลัวตามสัญชาตญาณ เขาได้แต่คิดหนี
แต่เขาก็พบว่าตัวเองมิอาจขยับได้แม้แต่น้อยร่างกายของเขาถูกบางอย่างกักตัวเอาไว้ เขายืนอยู่ในท่าเดิมและขยับไม่ได้
วิญญาณภายในร่างที่เป็นต้นไม้สีเงินหนีออกจากหน้าผากเจ้าบ้านจันทร์กระจ่างด้วยความตื่นตระหนกแต่เมื่อออกจากร่าง วิญญาณก็ถูกกักขังดังเดิม มันขยับไม่ได้เช่นกัน
วิญญาณของเขาอยู่ในระดับของอสูรเนรมิตรชั้นสูงแต่เทพีไม้กลับหยุดมันได้เพียงแค่มองเท่านั้น
“เทพีไม้!โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย…”
ต้นไม้สีเงินต้นเล็กอ้อนวอนขออภัยด้วยความกลัวเพลิงสีทองเริ่มเผาวิญญาณ มันทำให้วิญญาณเจ็บปวดอย่างร้ายแรง
ฟึ่บ!
ลำต้นไม้สีทองขยับปรากฏให้เห็นเจ้าของมือซึ่งเป็นหญิงสาวนั่งบัลลังก์ที่หลับใหลอย่างสงบสุข ท่วงท่าของนางไม่ได้ต่างจากเดิม สิ่งเดียวก็คือนางยื่นมือมาวางบนไหล่ของซือหยู
“หยินมู่ข้าไม่ได้พบเจ้ามาหลายพันปี เจ้าอ่อนแอจนมีพลังแค่อสูรเนรมิตรเชียวรึ? ไม่แปลกเลยที่พลักปีศาจเข้าไปในร่างของเจ้าได้ คงเป็นเพราะเจ้ากำลังจะตายสินะ”
เสียงถอนหายใจสะท้อนออกมาจากภายในลำต้นของเทพีไม้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+