The Great Geneticist in Apocalypse 21 เพื่อนๆซวยแล้วสิ

Now you are reading The Great Geneticist in Apocalypse Chapter 21 เพื่อนๆซวยแล้วสิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่21 เพื่อนๆซวยแล้วสิ

“ไม่ตลกเลยนะเฮ่ย!” เบลซสบทในใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเกรียวก่อนที่จะพุ่งไปด้วยความเร็วสูง

~ก่อนหน้านั้นเป็นชั่วโมง~

“ลั้นลาลั้นลา อ่าวจางมู่ไม่ไปซ้อมธนู?หรอ” เรย์ลินควงแขนแฟนสาวเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับถุงขนมขบเคี้ยวที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อ

“ก็จะไปซ้อมอยู่นี่ไงแต่ว่าไอบักเบลซเหมือนมีปัญหาก็เลยว่าจะไปสายหน่อยหนะ”

“หืม? พวกนายก็มาหรอ” ชินเดินเข้ามาภายในห้องพร้อมกับสีหน้าที่ดูแปลกๆ

“โฮะ!? หนุ่มสายเจ้าระเบียบของเรากล้าโดดเรียนด้วย” เรย์ลินพูดอย่างมีนัยยะ

“เรย์ลินถามจริงๆเถอะเอาแฟนสาวเข้ามาในหอพักชายได้ยังไงเนี่ย? คนคุมหอไม่ห้ามหรอว่ามันผิดกฎหนะ”

เรย์ลินมองไปที่ชินด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์อย่างมีนัยยะแล้วตอบว่า

“ด้วยอำนาจแห่งเงินตรา!”

“ให้มันได้อย่างนี้สิ” ชินตอบด้วยเสียงละเหี่ยใจแล้วถามต่อว่า “แล้วสรุปเบลซเราเกิดอะไรขึ้นเนี่ยอยู่ดีๆก็มาให้นัดกันตอนกลางวัน?”

“ไม่มีใครรู้หรอก” จางมู่ยกมือทั้งสองพร้อมทำหน้าเจื่อนๆแล้วก้มหน้าเก็บธนูต่อ

“เอาเถอะว่าแต่…..โอ๊ยยุงนี้มันจริงๆเลย” ชินกำลังจะถามเรื่องอื่นต่อแต่ว่าดันโดนยุงกัดซะได้เลยหยิบยากันยุงกระป๋องใหญ่ขึ้นมาฉีด

“กลิ่นฉุนโคตรเลยโว้ย ยากันยุงที่หอพักแจกเนี่ยกระป๋องใหญ่ยังกับขวดสองลิตรแจกทุกห้องนี้คิดจะให้ห้าปีสิบปีรึไง” จางมู่ที่เก็บธนูอยู่อดไม่ได้ที่จะสบทออกมา

“ว่าแต่หอพักตอนนี้เงียบมากเลยนะ”

“ก็แหงสิ คนอื่นเขาไปกินข้าวกลางวันหรือไม่ก็ไปทำกิจกกรมอยู่มีแต่พวกเรานี้แหละที่โดดมาอยู่ในหอ”

“พวกมนุษย์ปุถุชนตัวเล็กๆทั้งหลาย ข้าคือ อิกดราซิล! บัดนี้โลกได้เข้าสู่ยุคแห่งพลังธาตุและวิวัฒนาการแล้ว จงต่อสู้! การต่อสู้ที่ ยากลำบากจะกลายเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์สำหรับพวกเจ้า จงเอาตัวรอดและวิวัฒนาการตัวเอง มีเพียงความแข็งแกร่งที่จะสามารถนำพาชีวิตพวกเจ้าให้อยู่รอด หากไม่แข็งแกร่งพอพวกเจ้าก็จงเป็นเหยื่อ ให้กับโลกที่โหดร้ายใบนี้ซะเถอะ!”

ตอนนี้การนับถอยหลังเริ่มต้นขึ้น! 5 … “

“4 … “

“3 … “

“2…”

“1 … ยุคแห่งธาตุและวิวัฒนาการได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว แต่จะให้เวลาเตรียมตัวกันหน่อยตามบ้านที่อาศัยส่วนตัวจะมีบาเรียป้องกัน 15นาทีและทุกคนจะได้รับไม้พลอง อาวุธขาว ระดับ1 พวกเจ้าทั้งหลายจงต่อสู้เพื่อความอยู่รอด!

และรอบหอพักก็ถูกล้อมไปด้วยบาเรียพร้อมกับไม้พลองคนละด้าม

“เฮ้ยเหี้ยอะไรวะเนี่ย” ชินถามด้วยความตื่นตระหนก

แต่  จางมู่และเรย์ลินกลับเงียบขรึมและมองไปรอบๆ และทำให้ชินกลับมามีสติอีกครั้งและมองไปรอบๆด้วย

ไม่นานเสียงกรีดร้องก็เริ่มดังขึ้นทั้งสามจึงไปชะเง้อมองหน้าต่างและได้เห็นฉากที่หน้าสยดสยองพร้อมกับนักศึกษาที่แห่กันหนีตายเข้ามาในบาเรีย

“ล็อคประตูเร็วเข้า!” เรย์ลินพูดและวิ่งไปล็อคประตูก่อนที่ทั้งสามคนจะเอาเฟอร์นิเจอร์ทั้งโซฟา โต๊ะ ตู้เสื้อผ้า ฯลฯ มาขวางหน้าประตูหน้าต่างไว้แต่ว่าเว้นช่องแคบๆไว้เผื่อหนี

“แล้วเราจะเอายังไงกันดีหละ” แฟนของเรย์ลินถามด้วยความหวาดกลัว

“เดี๋ยวนะฉันเคยเป็นนักกีฬายิงปืนอยู่ช่วงนึงหนะถ้าจำไม่ผิดฉันว่าฉันเก็บปืนพกเลเซอร์อยู่ใต้เตียง” จางมู่พูดจากนั้นก็มุดไปที่ใต้เตียง ก่อนที่จะเอากล่องสี่เหลี่ยมออกมาภายในมีปืนพกเลเซอร์อยู่หนึ่งกระบอกพร้อมกับแมกกาซีนพลังงานอยู่3แมก

ในยุคที่ทันสมัยนี้อาวุธหลักก็คืออาวุธปืนเลเซอร์และแน่นอนว่าให้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลักในการยิง

จางมู่ถือปืนขึ้นมาแล้วใส่แมกเข้าแต่ผลปรากฏว่า

พลังงานไม่ขึ้น!

“อะไรกันแมกเสียหรอเนี่ย” จางมู่อดไม่ได้ที่จะสบก่อนที่จะมีข้อมูลแปลกๆเข้ามาในหัวของเขา

“กฎเกณฑ์ของโลกได้เปลี่ยนไปแล้วพลังงานไฟฟ้าสามารถสร้างได้จากสิ่งมีชีวิตธาตุสายฟ้าเท่านั้น ฉะนั้นปืนเลเซอร์จึงไม่มีพลังงาน”

“อะไรวะเนี่ยบักสัส” จางมู่อดไม่ได้ที่จะหัวเสียอีกครั้งจนต้องสบทออกมาก่อนที่จะกลับมาถือธนูและแบกซองใส่ลูกธนูเหมือนเดิม

“เกิดอะไรขึ้นปืนเสียหรอ” เรย์ลินถาม

“ไม่หรอกแต่กฎบ้าบออะไรก็ไม่รู้ทำให้แมกาซีนไม่มีพลังงานอะดิ”

“จากการคิดของฉัน ฉันเดาว่าไอเบลซมันต้องรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถึงได้บอกให้เรากลับมาที่ห้องอาศัยใบบุญจากบาเรียในตอนนี้ฉันว่าเดี๋ยวเบลซต้องมาที่นี่แน่ ไอเสียงบ้าๆนั้นบอกว่าบาเรียจะอยู่15นาที งั้นเราน่าจะเตรียมตัวบางอย่างได้” ชินพูด

“งั้นสรุปว่าเราต้องยื้อจนกว่าเบลซจะมาสินะ”

“แต่ว่ามันจะมายังไงของมันวะ” จางมู่พูดด้วยความสงสัย

“เอาเป็นว่าเตรียมของไปก่อนละกันกรณีที่เราไม่สามารถรั้งอยู่ที่นี่ได้เราจะหนีออกไปที่ชมรมยิงธนูก่อนอย่างน้อยๆที่นั้นก็มีการป้องกันที่หนากว่าที่อื่นในละแวกนี้เพราะต้องเก็บอาวุธ(ธนู)แล้วก็ยังมีธนูกับลูกให้ใช้ด้วย” ชินพูด

“ได้เอาตามนั้น”

ไม่นานบาเรียหมดก็โชคดีที่ไม่ค่อยมีนักศึกษาหนีมาชั้นนี้ ทั้งชายสามหญิงหนึ่งต่างก็พยายามป้องกันกันอย่างทุลักทุเลจนสามารถหลบเลี่ยงพวกหนูกลายพันธ์ไปได้

แต่ว่าไม่นานเสียงลมพัดหวิวๆกับเสียงแมลงก็ดังมา

“ยุงบ้าอะไรตัวใหญ่ชิหัย” จางมู่สบทก่อนที่จะยิงธนูใส่แต่วิถีธนูกลับโค้งไปข้างๆ

“มันไม่มีอะไรปกติตั้งแต่เสียงบ้าๆนั้นแล้ว” ชินตะโกน

“มันทำอะไรวะ” เรย์ลินขมวดคิวหลังจากเห็นว่ายุงยักษ์ตรงหน้าของยุงมีลูกบอลกำลังสูบอากาศเขาไปในวนไปวนมาเหมือนพายุทรงกลม

“ไอ***บอลอัดอากาศหลบเร็ว!” ชินตะโกนก่อนที่จะรีบกลับเข้าไปในห้องพักผ่านช่องแคบที่เหลือไว้จากการเอาเฟอร์นิเจอร์มาขว้างประตู

“ฟิวววววว” บอลอัดอากาศตรงไปยังโถงทางเดินก่อนที่จะระเบิด ลมพัดแรงดังพายุพัดของปลิววิ่นไปทั่วพร้อมกับเศษมีดออกกาศคมๆตัดข้าวของเป็นชิ้นๆ เฟอร์นิเจอร์ที่บล็อกทางเอาไว้ก็พังเป็นแถบๆ

ยุงก็ได้ร่อนเข้ามาในอาคารก่อนที่จะเดินไปในห้องที่ทั้งสี่คนไปซ้อนและเอาปากแหลมๆยาวๆของมันเล็งไปที่แฟนสาวของเรย์ลิน

“กรี๊ดดดดดดดด”

“ไปจากตรงนั้นซะ” เรย์ลินตะโกนลั่นพร้อมกับแตะกระป๋องยากกันยุงขนาดเท่าขวดสองลิตรไปทางยุงยักษ์

“สวบ!” ไม่รู้ว่าด้วยโชคหรืออะไรแต่ว่ากระป๋องไปปักเข้าไปที่ปากของยุงทันที

“ซูดดดดด” ยุงดูดยากันยุงขนานใหญ่เข้าไปจนสลบอยู่หน้าห้องโชคดีที่มันเป็นสัตว์ที่วิวัฒนาการแล้วมันเลยไม่ตายแค่สลบเฉยๆ

และตอนนั้นเองเบลซก็ได้มาถึง “เรย์ลิน จางมู่ ชินนี้พวกนายเป็นอะไรไหม! ใครอยู่บ้าง”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด