The Great Geneticist in Apocalypse 44 เริ่มสอดแนมฐานแล้วสิ

Now you are reading The Great Geneticist in Apocalypse Chapter 44 เริ่มสอดแนมฐานแล้วสิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

ตอนที่44 เริ่มสอดแนมฐานแล้วสิ

 

ทีมจู่โจม เบลซ ซีฟอส เรย์ลิน สเกีย เหมียนเหมียน

 

ทีมรถบัส เอลลี่ เอมิเลีย จางมู่ ชิน และ คนที่ไม่ได้ปลุกพลัง

 

“ก่อนอื่นเรย์ลินนายขี่สเกียไปสอดแนมก่อน” เบลซพูด

 

“อืม” เรย์ลินพยักหน้าก่อนจะขี้สเกียเข้าสู่โหมดหายตัวแล้วมุ่งไปบริเวณเสาแสงดังภูตผี

 

-มุมมองของเรย์ลิน

 

“งานสอดแนมต้องเป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้วหนินะสเกีย”

 

“บ๊อก บ๊อก” ใช่แล้วเจ้านายสเกียตอบ

 

“ช้าลงหน่อยระวังเรื่องกลิ่นด้วยหละ ถ้าสัตว์อสูรที่เฝ้าที่นี้เป็นพวกจมูกดี มีเรื่องแน่นอน ถึงเราจะหายตัวได้ แต่ว่ากลบกลิ่นกับเสียงไม่ได้หรอกนะ”

 

สเกียพยักหน้าตอบแล้วผ่อนความเร็วลงแล้วค่อยเดินอย่างช้าๆเหมือนกับหมาป่าเวลาล่าเหยื่อ

 

“เห็นอะไรไหม?”

 

“หงึบหงึบ” สเกียส่ายหัว

 

“งั้นค่อยๆเข้าไปอีกนึดนึง”

 

“กรอบแกรบ ซูวว กรอบแกรบ ซูววว” เสียงเหยียบหญ้าเบาๆกลืนไปกับลมที่พัดโชยมา

 

หลังจากที่เดินช้าๆ เดินๆย่องๆเข้าไปซัก2-3ร้อยเมตรในที่สุดก็เจอสัตว์อสูร

 

“ หยุดก่อน” เรย์ลินตบหลังสเกียเบาๆเป็นสัญญาณว่าหยุดเดิน จากนั้นเรย์ดินแบบมือออกแล้วกดลง ซึ่งหลังจากสเกียเห็นสัญญาณมือก็หมอบลง

 

“นั้นคือ?” เรย์ดินมองไปยังที่ๆเขาเจอสัตว์อสูรรูปร่างของมันคล้ายๆกับกิ้งก่าแต่ว่าเกล็ดและหน้าของมันคล้ายๆมังกร ไม่มีเขาเกล็ดเป็นสีเขียวถึงน้ำเงินสวยและตัวมันใหญ่มากมันใหญ่พอๆกับเสือตัวนึง และมีตัวที่เด่นที่สุดเขาคิดว่ามันน่าจะเป็นหัวหน้าเขตเกล็ดของมันเป็นลายสีเขียวสลับเหลืองตาของมันเป็นสีเหลืองแวววาวตัวมันใหญ่เท่ากับรถหุ้มเกราะคันนึงตั้งแต่ตัวถึงปลางหางมันยาวประมาณ6เมตร เรย์ลินไม่รู้ว่าพวกมันคือตัวอะไรและเสียดายด้วยที่ตัวเองยังไม่ถึงเลเวล10ไม่อย่างนั้นเขาก็จะมีทักษะประเมินและสามารถประเมินมันได้

 

มีกิ้งก่าผสมมังกรราว20ตัวและจ่าฝูงหนึ่งตัวพวกมันยืนเฝ้าบริเวณเสาแสงอยู่แต่เมื่อเรย์ดินเข้ามาในระยะนี้เขาก็เห็น

 

มันเป็นกลุ่มแห่งศิลาคริสตัลขนาดยักษ์4-5แท่ง มันรวบรวมพลังงานบางอย่างเป็นแสงสีขาวพุ่งขึ้นเป็นเสาแสงสู่ท้องฟ้า แน่นอนว่าพวกสัตว์อสูรกิ้งก่าผสมมังกรทั้งฝูงต่างอยู่ไม่ห่างจากกลุ่มแห่งศิลาครสตัลนี้

 

“งั้นก็แสดงว่านี้คือแกนกลางฐานสินะ” เรย์ลินคิดในใจก่อนที่จะถอนหายใจออกมา

 

“ช่วยไม่ได้กลับไปบอกเบลซก่อนละกัน กลับก่อนดีกว่า” เรย์ลินตบหลังสเกียและบอกให้กลับ

 

อีกฝั่งนึ่งสัตว์ที่คล้ายๆกับกิ้งก่าผสมมังกรมันนอกราบหันซ้ายหันขวาก็ปกติดีแน่นอนว่าพวกมันมีระยะการมองเห็นที่สั้น แต่ว่ารายละเอียดดีแต่มันมองระยะไกลๆไม่ค่อยชัดหรือต่อให้ชัดมันก็มองไม่เห็นเรย์ดินและสเกียอยู่ดี

 

แต่ทันใดนั้นหางตาของมันกระตุกนิดนึงถึงแม้ว่ามันจะมองไม่เห็นแต่ว่ามันมีความสามารถในการตรวจจับอุณหภูมิ ตําแหน่งที่เรย์ลินอยู่และดูจะอุ่นเป็นพิเศษซึ่งแน่นอน่าเรย์ลินได้จากไปพักนึงแล้ว

 

“โฮกกกกก” กิ้งก่าผสมมังกรตัวดังกล่าวคํารามลั่นทําให้ตัวอื่นๆไปรวมตรงที่เรย์ดินและสเกียเคยอยู่กันหมดแต่เมื่อไม่เห็นสิ่งมีชีวิตใดก็กลับไปอยู่รอบๆฐานที่เดิม

 

“วิ่งเร็วเข้าสเกียวิ่ง” เมื่อได้ยินเสียงพวกสัตว์อสูรคํารามไล่หลังมันใจของเรย์ลินตกลงแต่ก็ยังใจเย็นอยู่และบอกให้สเกียเร่งความเร็วแต่เมื่อเห็นว่าพวกมันไม่ได้ไล่ตามมาก็กลับสู่ความเร็วปกติ ค่อยๆกลับไปหาเบลซและพรรคพวก

 

ไม่นานเรย์ดินและสเกียกกลับมาหาเบลซและคนอื่นๆ

 

“เป็นยังไงบ้าง” เบลซถาม

 

“มันเป็นแบบนี้” เรยลินหยิบกิ่งไม้ขึ้นมาแล้วบนพื้นดินเป็นภูมิศาสตร์ สภาพคร่าวๆและตําแหน่งของสิ่งต่างๆในแถวๆนั้นโดยเฉพาะตําแหน่งที่มีแกนกลางฐานอยู่

 

“อืมมมม ฉันอยากไปดูด้วยตัวเองแฮะกิ้งก่าผสมมังกรของนายเนี่ย” เบลซพูดแต่ใจในของเขารู้สึกแปลกๆจริงอยู่ว่าสัตว์อสูรมีโอกาสที่จะสามารถวิวัฒนาการเป็นมังกรได้ตราบใดที่วิวัฒนาการมากพอแต่ว่านี้เป็นช่วงแรกๆจะมีสัตว์อสูรแบบนั้นได้อย่างไร?

 

“ฉันอยากไปดูด้วยตัวเองแล้วแฮะแต่ว่าถ้าเดา กิ้งก่าที่รูปร่างคล้ายมังกร?” เบลซคิดเพราะเรย์ลินยังไม่มีสกิลประเมินเขาไม่สามารถรู้ได้ว่ามันเป็นสัตว์อสูรสายเลือดมังกรจริงๆหรือว่ามันเป็นสัตว์อสูรสายเลือดธรรมดาอื่นๆแต่ว่ารูปร่างคล้ายมังกรเฉยๆ ซึ่งเขาคิดว่ามันเป็นอย่างหลังมากกว่า

 

“นายคิดว่าฉันควรจะไปตรวจสอบด้วยตัวเองไหม?” เบลซ

ถาม

 

“ฉันคิดว่าน่าจะได้นะเหมือนพวกมันจะตรวจจับร้อนได้แต่ว่าสายตาไม่ค่อยดี ถ้านายมีกล้องส่องทางไกลนายสามารถมองมันจะไกลๆได้”

 

“เยี่ยม งั้นฉันจะไปดูมันก่อนที่จะบุกยึด คนอื่นๆก็กินของว่างดื่มน้ำเตรียมตัวให้พร้อมหละ” เบลซพูดจากนั้นเขาก็ขี่เจ้าดาบน้อยออกไปสอดแนมโดยมีเรย์ลินนำทาง 

 

เรย์ดินขี่สเกียนำทางเบลชมาอีกที่มันเป็นเนินที่อยู่ไกลจากฝูงของพวกกิ้งก่าผสมมังกรมากกว่าจุดที่เขามาสอดแนมตอนแรก

 

เบลซหยิบกล้องส่องทางไกลออกมาแล้วส่องไปที่ฝูงสัตว์อสูร

 

“ที่แท้ก็กิ้งก่าเอลลิเกเตอร์แม็กซิกันนั้นเอง” ด้วยความที่เบลซเป็นนักบรรพชีวิตวิทยาแน่นอนว่าเขาต้องเชี่ยวชาญวิชาชีวะในระดับสูง

 

“กิ้งก่าเอลลิเกเตอร์แม็กซิกัน เป็นกิ้งก่าที่ใกล้สูญพันธ์แล้วในโลกนี้ มันเป็นกิ้งก่าที่สวยมากและรูปร่างคล้ายกับมังกร แม้แต่คนในพื้นที่ ที่มีมันยังเรียกว่า กิ้งก่ามังกรเลย

 

แน่นอนว่าสาเหตุที่ใกล้สูญพันธ์ก็เพราะมันสวยนั้นแหละเลยโดนล่าเยอะ

 

“เอาจริงๆ ถึงแม้ว่ามันจะกลายพันธ์เป็นสัตว์อสูรแล้วแต่ว่ามันก็ไม่เป็นมังกรหรอกมันก็คือสัตว์อสูรประเภทกิ้งก่าอยู่ดี ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นแต่ด้วยความที่มันใกล้สูญพันธ์ดังนั้นมันเป็นสัตว์อสูรที่หายากแน่นอน ที่สําคัญดูแล้วมันค่อนข้างที่จะต่อสู้เก่งเหมาะที่จะเป็นสัตว์อสูรขี่มากๆ มันสามารถใช้ขี่ทําการต่อสู้ได้ดีแน่ๆ และด้วยจิตวิญญาณของเบลซเขาไม่อยากให้มันสูญพันธ์ดังนั้นเขาอยากเลี้ยงมันและขยายพันธ์ให้เป็นสัตว์พาหนะทั่วไปของฐานเขายังจะดีกว่า 

 

เบลซมองไปที่กิ้งก่าเอลลิเกเตอร์แม็กซิกันตัวหนึ่งแล้วใช้ “ประเมิน”

 

“เป้าหมายอยู่ห่างเกินไปไม่สามารถประเมินได้”

 

“ช่วยไม่ได้แฮะ เรย์ลินกลับกันเถอะไปวางแผนใหม่ดีกว่า” เบลซพูดจากนั้นพวกเขาก็กลับมาที่รถบัส

 

“กลับมาแล้วหรอ” เอลลี่พูดหลังจากเห็นเบลซกลับมา 

 

“อื่อ ดูเหมือนว่าเราจะต้องใช้แรงกายเยอะเลยทีเดียวในการยึดฐานครั้งนี้พักให้StaminaกับSpiritualityให้เต็มก่อนแล้วค่อยเริ่มแผนการเอาหละไปพักเถอะ” เบลซพูดแล้วก็กลับขึ้นไปพักบนรถบัส

 

“งั้นเราก็ไปพักกันดีกว่าเดี๋ยวฉันจะทําเกราะศิลาให้รถบัสก่อน” ชินพูดจากนั้น คนอื่นๆก็ขึ้นรถบัสไปพักทั้งเอนนอนบ้าง ดื่มน้ำอัดลมกินขนมบ้างฯลฯ

 

ในขณะที่คนอื่นๆขึ้นมากันหมดแล้วเบลซก็หยิบคริสตัลไฟและคริสตัลน้ำขึ้นมาและเริ่มดูดซับทีละก้อน

 

“ท่านดูดซับคริสตัลเพลิง ได้ค่าวิวัฒนาการ+9”

 

ทันใดนั้นเบลซรู้สึกว่าพลังมหาศาลก่อเกิดขึ้นมาภายในร่างกายของเขาร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลังชีวิตและพลังงาน ร่างกายของเขาถูกยกระดับและทลายขีดจํากัดของร่างกายปัจจุบันแบบไม่เคยเป็นมาก่อน

 

“ท่านดูดซับพลังงานอย่างมหาศาลแต้มวิวัฒนาการ51แต้มพลังงานเกิน50แต้มเริ่มกระบวนการวิวัฒนาการ”

 

ทันใดนั้นเบลซรู้สึกว่าโครงสร้างร่างกายของเขาเปลี่ยนไป 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

The Great Geneticist in Apocalypse 44 เริ่มสอดแนมฐานแล้วสิ

Now you are reading The Great Geneticist in Apocalypse Chapter 44 เริ่มสอดแนมฐานแล้วสิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

ตอนที่44 เริ่มสอดแนมฐานแล้วสิ

 

ทีมจู่โจม เบลซ ซีฟอส เรย์ลิน สเกีย เหมียนเหมียน

 

ทีมรถบัส เอลลี่ เอมิเลีย จางมู่ ชิน และ คนที่ไม่ได้ปลุกพลัง

 

“ก่อนอื่นเรย์ลินนายขี่สเกียไปสอดแนมก่อน” เบลซพูด

 

“อืม” เรย์ลินพยักหน้าก่อนจะขี้สเกียเข้าสู่โหมดหายตัวแล้วมุ่งไปบริเวณเสาแสงดังภูตผี

 

-มุมมองของเรย์ลิน

 

“งานสอดแนมต้องเป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้วหนินะสเกีย”

 

“บ๊อก บ๊อก” ใช่แล้วเจ้านายสเกียตอบ

 

“ช้าลงหน่อยระวังเรื่องกลิ่นด้วยหละ ถ้าสัตว์อสูรที่เฝ้าที่นี้เป็นพวกจมูกดี มีเรื่องแน่นอน ถึงเราจะหายตัวได้ แต่ว่ากลบกลิ่นกับเสียงไม่ได้หรอกนะ”

 

สเกียพยักหน้าตอบแล้วผ่อนความเร็วลงแล้วค่อยเดินอย่างช้าๆเหมือนกับหมาป่าเวลาล่าเหยื่อ

 

“เห็นอะไรไหม?”

 

“หงึบหงึบ” สเกียส่ายหัว

 

“งั้นค่อยๆเข้าไปอีกนึดนึง”

 

“กรอบแกรบ ซูวว กรอบแกรบ ซูววว” เสียงเหยียบหญ้าเบาๆกลืนไปกับลมที่พัดโชยมา

 

หลังจากที่เดินช้าๆ เดินๆย่องๆเข้าไปซัก2-3ร้อยเมตรในที่สุดก็เจอสัตว์อสูร

 

“ หยุดก่อน” เรย์ลินตบหลังสเกียเบาๆเป็นสัญญาณว่าหยุดเดิน จากนั้นเรย์ดินแบบมือออกแล้วกดลง ซึ่งหลังจากสเกียเห็นสัญญาณมือก็หมอบลง

 

“นั้นคือ?” เรย์ดินมองไปยังที่ๆเขาเจอสัตว์อสูรรูปร่างของมันคล้ายๆกับกิ้งก่าแต่ว่าเกล็ดและหน้าของมันคล้ายๆมังกร ไม่มีเขาเกล็ดเป็นสีเขียวถึงน้ำเงินสวยและตัวมันใหญ่มากมันใหญ่พอๆกับเสือตัวนึง และมีตัวที่เด่นที่สุดเขาคิดว่ามันน่าจะเป็นหัวหน้าเขตเกล็ดของมันเป็นลายสีเขียวสลับเหลืองตาของมันเป็นสีเหลืองแวววาวตัวมันใหญ่เท่ากับรถหุ้มเกราะคันนึงตั้งแต่ตัวถึงปลางหางมันยาวประมาณ6เมตร เรย์ลินไม่รู้ว่าพวกมันคือตัวอะไรและเสียดายด้วยที่ตัวเองยังไม่ถึงเลเวล10ไม่อย่างนั้นเขาก็จะมีทักษะประเมินและสามารถประเมินมันได้

 

มีกิ้งก่าผสมมังกรราว20ตัวและจ่าฝูงหนึ่งตัวพวกมันยืนเฝ้าบริเวณเสาแสงอยู่แต่เมื่อเรย์ดินเข้ามาในระยะนี้เขาก็เห็น

 

มันเป็นกลุ่มแห่งศิลาคริสตัลขนาดยักษ์4-5แท่ง มันรวบรวมพลังงานบางอย่างเป็นแสงสีขาวพุ่งขึ้นเป็นเสาแสงสู่ท้องฟ้า แน่นอนว่าพวกสัตว์อสูรกิ้งก่าผสมมังกรทั้งฝูงต่างอยู่ไม่ห่างจากกลุ่มแห่งศิลาครสตัลนี้

 

“งั้นก็แสดงว่านี้คือแกนกลางฐานสินะ” เรย์ลินคิดในใจก่อนที่จะถอนหายใจออกมา

 

“ช่วยไม่ได้กลับไปบอกเบลซก่อนละกัน กลับก่อนดีกว่า” เรย์ลินตบหลังสเกียและบอกให้กลับ

 

อีกฝั่งนึ่งสัตว์ที่คล้ายๆกับกิ้งก่าผสมมังกรมันนอกราบหันซ้ายหันขวาก็ปกติดีแน่นอนว่าพวกมันมีระยะการมองเห็นที่สั้น แต่ว่ารายละเอียดดีแต่มันมองระยะไกลๆไม่ค่อยชัดหรือต่อให้ชัดมันก็มองไม่เห็นเรย์ดินและสเกียอยู่ดี

 

แต่ทันใดนั้นหางตาของมันกระตุกนิดนึงถึงแม้ว่ามันจะมองไม่เห็นแต่ว่ามันมีความสามารถในการตรวจจับอุณหภูมิ ตําแหน่งที่เรย์ลินอยู่และดูจะอุ่นเป็นพิเศษซึ่งแน่นอน่าเรย์ลินได้จากไปพักนึงแล้ว

 

“โฮกกกกก” กิ้งก่าผสมมังกรตัวดังกล่าวคํารามลั่นทําให้ตัวอื่นๆไปรวมตรงที่เรย์ดินและสเกียเคยอยู่กันหมดแต่เมื่อไม่เห็นสิ่งมีชีวิตใดก็กลับไปอยู่รอบๆฐานที่เดิม

 

“วิ่งเร็วเข้าสเกียวิ่ง” เมื่อได้ยินเสียงพวกสัตว์อสูรคํารามไล่หลังมันใจของเรย์ลินตกลงแต่ก็ยังใจเย็นอยู่และบอกให้สเกียเร่งความเร็วแต่เมื่อเห็นว่าพวกมันไม่ได้ไล่ตามมาก็กลับสู่ความเร็วปกติ ค่อยๆกลับไปหาเบลซและพรรคพวก

 

ไม่นานเรย์ดินและสเกียกกลับมาหาเบลซและคนอื่นๆ

 

“เป็นยังไงบ้าง” เบลซถาม

 

“มันเป็นแบบนี้” เรยลินหยิบกิ่งไม้ขึ้นมาแล้วบนพื้นดินเป็นภูมิศาสตร์ สภาพคร่าวๆและตําแหน่งของสิ่งต่างๆในแถวๆนั้นโดยเฉพาะตําแหน่งที่มีแกนกลางฐานอยู่

 

“อืมมมม ฉันอยากไปดูด้วยตัวเองแฮะกิ้งก่าผสมมังกรของนายเนี่ย” เบลซพูดแต่ใจในของเขารู้สึกแปลกๆจริงอยู่ว่าสัตว์อสูรมีโอกาสที่จะสามารถวิวัฒนาการเป็นมังกรได้ตราบใดที่วิวัฒนาการมากพอแต่ว่านี้เป็นช่วงแรกๆจะมีสัตว์อสูรแบบนั้นได้อย่างไร?

 

“ฉันอยากไปดูด้วยตัวเองแล้วแฮะแต่ว่าถ้าเดา กิ้งก่าที่รูปร่างคล้ายมังกร?” เบลซคิดเพราะเรย์ลินยังไม่มีสกิลประเมินเขาไม่สามารถรู้ได้ว่ามันเป็นสัตว์อสูรสายเลือดมังกรจริงๆหรือว่ามันเป็นสัตว์อสูรสายเลือดธรรมดาอื่นๆแต่ว่ารูปร่างคล้ายมังกรเฉยๆ ซึ่งเขาคิดว่ามันเป็นอย่างหลังมากกว่า

 

“นายคิดว่าฉันควรจะไปตรวจสอบด้วยตัวเองไหม?” เบลซ

ถาม

 

“ฉันคิดว่าน่าจะได้นะเหมือนพวกมันจะตรวจจับร้อนได้แต่ว่าสายตาไม่ค่อยดี ถ้านายมีกล้องส่องทางไกลนายสามารถมองมันจะไกลๆได้”

 

“เยี่ยม งั้นฉันจะไปดูมันก่อนที่จะบุกยึด คนอื่นๆก็กินของว่างดื่มน้ำเตรียมตัวให้พร้อมหละ” เบลซพูดจากนั้นเขาก็ขี่เจ้าดาบน้อยออกไปสอดแนมโดยมีเรย์ลินนำทาง 

 

เรย์ดินขี่สเกียนำทางเบลชมาอีกที่มันเป็นเนินที่อยู่ไกลจากฝูงของพวกกิ้งก่าผสมมังกรมากกว่าจุดที่เขามาสอดแนมตอนแรก

 

เบลซหยิบกล้องส่องทางไกลออกมาแล้วส่องไปที่ฝูงสัตว์อสูร

 

“ที่แท้ก็กิ้งก่าเอลลิเกเตอร์แม็กซิกันนั้นเอง” ด้วยความที่เบลซเป็นนักบรรพชีวิตวิทยาแน่นอนว่าเขาต้องเชี่ยวชาญวิชาชีวะในระดับสูง

 

“กิ้งก่าเอลลิเกเตอร์แม็กซิกัน เป็นกิ้งก่าที่ใกล้สูญพันธ์แล้วในโลกนี้ มันเป็นกิ้งก่าที่สวยมากและรูปร่างคล้ายกับมังกร แม้แต่คนในพื้นที่ ที่มีมันยังเรียกว่า กิ้งก่ามังกรเลย

 

แน่นอนว่าสาเหตุที่ใกล้สูญพันธ์ก็เพราะมันสวยนั้นแหละเลยโดนล่าเยอะ

 

“เอาจริงๆ ถึงแม้ว่ามันจะกลายพันธ์เป็นสัตว์อสูรแล้วแต่ว่ามันก็ไม่เป็นมังกรหรอกมันก็คือสัตว์อสูรประเภทกิ้งก่าอยู่ดี ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นแต่ด้วยความที่มันใกล้สูญพันธ์ดังนั้นมันเป็นสัตว์อสูรที่หายากแน่นอน ที่สําคัญดูแล้วมันค่อนข้างที่จะต่อสู้เก่งเหมาะที่จะเป็นสัตว์อสูรขี่มากๆ มันสามารถใช้ขี่ทําการต่อสู้ได้ดีแน่ๆ และด้วยจิตวิญญาณของเบลซเขาไม่อยากให้มันสูญพันธ์ดังนั้นเขาอยากเลี้ยงมันและขยายพันธ์ให้เป็นสัตว์พาหนะทั่วไปของฐานเขายังจะดีกว่า 

 

เบลซมองไปที่กิ้งก่าเอลลิเกเตอร์แม็กซิกันตัวหนึ่งแล้วใช้ “ประเมิน”

 

“เป้าหมายอยู่ห่างเกินไปไม่สามารถประเมินได้”

 

“ช่วยไม่ได้แฮะ เรย์ลินกลับกันเถอะไปวางแผนใหม่ดีกว่า” เบลซพูดจากนั้นพวกเขาก็กลับมาที่รถบัส

 

“กลับมาแล้วหรอ” เอลลี่พูดหลังจากเห็นเบลซกลับมา 

 

“อื่อ ดูเหมือนว่าเราจะต้องใช้แรงกายเยอะเลยทีเดียวในการยึดฐานครั้งนี้พักให้StaminaกับSpiritualityให้เต็มก่อนแล้วค่อยเริ่มแผนการเอาหละไปพักเถอะ” เบลซพูดแล้วก็กลับขึ้นไปพักบนรถบัส

 

“งั้นเราก็ไปพักกันดีกว่าเดี๋ยวฉันจะทําเกราะศิลาให้รถบัสก่อน” ชินพูดจากนั้น คนอื่นๆก็ขึ้นรถบัสไปพักทั้งเอนนอนบ้าง ดื่มน้ำอัดลมกินขนมบ้างฯลฯ

 

ในขณะที่คนอื่นๆขึ้นมากันหมดแล้วเบลซก็หยิบคริสตัลไฟและคริสตัลน้ำขึ้นมาและเริ่มดูดซับทีละก้อน

 

“ท่านดูดซับคริสตัลเพลิง ได้ค่าวิวัฒนาการ+9”

 

ทันใดนั้นเบลซรู้สึกว่าพลังมหาศาลก่อเกิดขึ้นมาภายในร่างกายของเขาร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลังชีวิตและพลังงาน ร่างกายของเขาถูกยกระดับและทลายขีดจํากัดของร่างกายปัจจุบันแบบไม่เคยเป็นมาก่อน

 

“ท่านดูดซับพลังงานอย่างมหาศาลแต้มวิวัฒนาการ51แต้มพลังงานเกิน50แต้มเริ่มกระบวนการวิวัฒนาการ”

 

ทันใดนั้นเบลซรู้สึกว่าโครงสร้างร่างกายของเขาเปลี่ยนไป 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+