The Great Geneticist in Apocalypse 48 ชนะแล้วสิ

Now you are reading The Great Geneticist in Apocalypse Chapter 48 ชนะแล้วสิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

The Great Geneticist in Apocalypse

ตอนที่48 ชนะแล้วสิ

 

“โฮก?” กิ้งก่ารุกข์วารีร้องด้วยความตกใจเมื่อมันรู้สึกว่าขาหน้าข้างซ้ายของมันที่พึ่งปะทะกับเบลซจู่ๆก็ไม่เสียความรู้สึกไป

 

หลังจากที่เพลิงอัสนีดับลังมันก็สังเกตเห็นว่ารอยแตกตามเกล็ดของมันมีเลือดไหออกมาซึ่งก็เป็นปกติเพราะว่ามักก็ได้รับบาดเจ็บจากเพลิงอัสนี้เมื่อกี้จริงๆแต่ที่ไม่ปกติก็คือ เลือดเป็นสีดํา!

 

“ติดกับเข้าเต็มๆเลยนะ” เบลซพูดความจริงแล้วก่อนหน้าที่เขาจะใช้เพลิงอัสนีพุ่งเข้าใส่มันเขาเต็มพิษหัวใจเขียวจํานวนมากไว้ที่มือเมื่อเขาต่อยมันจนเกล็ดแตกมือแตกเลือดที่มีพิษของเขาไหลเขาไปผ่านรอยแตกที่เกล็ดพวกนั้น นั้นแหละแน่นอนว่าปริมาณมันเยอะกว่าตอนที่ใช้พิษกัดกร่อนของเถาพิษโลหิตเยอะ ถึงจะไม่พอที่จะฆ่าแต่ว่าขาหน้ามันก็ใช้ไม่ได้ข้างนึ่งแล้ว ถึงจะดูปกติดีแต่ว่าเลือดข้างในเสียไปแล้วและระบบอื่นๆที่อยู่บริเวณแขนอย่างเซล์ประสาท เนื้อเยื่อ เส้นเลือดและกระดูกก็จะเริ่มเสียและตายตาม

 

เบลซมองดูเกล็ดของกิ้งก่ารุกข์วารีบริเวณที่ถูกพิษหัวใจเขียวของเขาเกล็ดสีน้ําเงินแกมเขียวที่สวยงามค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีดํา เม็ดเลือดที่ไปเลี้ยงเกล็ดเริ่มตายแล้ว

 

“งั้นเรามาต่อกันเลยดีกว่า” เบลซพูดด้วยน้ําเสียงโหดเหี้ยมก่อนจะพุ่งเข้าไปอีกครั้ง

 

“โฮกกกก” กิ้งก่ารุกข์วารีมันเริ่มรู้แล้วว่าจะแตะตัวเบลซไปไม่ได้มันเลยใช้พลังธาตุพืชเร่งการเจริญเติบโตของต้นหญ้าแถวนั้นมันมารัดพันธนาการเท้าทั้งสองข้างของเบลซ

 

แต่มีหรือที่เขาจะยอม?

 

“ฟุบบบบ” เปลวเพลิงลุกไหม้หญ้ารอบๆรัศมี2เมตรจะตัวเบลซเปลี่ยนหญ้ารอบๆให้กลายเป็นทุ่งเพลิงสีแดงส้ม ต้นหญ้าที่อยู่รอบๆไม่ทันจะเริ่มโตก็ถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน

 

“โฮกกกกกก” กิ้งก่ารุกข์วารีคํารามด้วยความไม่พอใจมันเปิดปากและเชิดหน้าขึ้นพลังธาตุน้ํารวมตัวกันเป็นสามง่ามเล่มหนึ่ง

 

ทักษะระดับเขียวอ่อนตรีศูลวารี!

 

“ปิ้ว!” เสียงแหวกอากาศตรีศูลวารีพุ่งเห็นอากาศเข้าหา

เบลซ

 

เบลชตวัดมือสี่ห้าครั้งปรากฏใบมีดคมกริบที่ทําจากน้ําห้าเล่มพุ่งเข้าปะทะกับตรีศูลวารี

 

“ตูมมม” ตรีศูลปะทะกับคมมีดทั้ง5และสลายหายไปทั้งคู่

 

อควาคัตเตอร์แม้ว่ามันจะเป็นทักษะระดับขาวที่แน่นอนว่าไม่สามารถเทียบกับระดับเขียวอ่อนได้แต่ว่าเมื่อมีถึงห้าเล่มก็พอที่จะหักล้างกันได้แต่ว่า เบลซต้องใช้พลังที่แรงที่สุดหรือก็คือใช้spirituality4แต้มต่อคมมีด1เล่มเข้าสร้างมันมาถึง5เล่มเท่ากับกว่าการใช้มันปะทะเพียงเมื่อครู่เบลซใช้ไปถึง20แต้ม ในขณะที่กิ้งก่ารุกข์วารีคงใช้ไปแค่6-3แต้ม

 

ถึงแม้ว่าเบลซจะมีค่าspiritualityอยู่มากแล้วยังวิวัฒนาการเป็นสิ่งมีชีวิตสีเขียวอ่อนจนมีถึง36แต้มแต่ว่ามันก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่มีวันหมด

 

สายตาของเบลซพร่ามัวชั่วครูตามมาด้วยอาการปวดหัวเล็กน้อยก่อนจะหายไปเบลซเช็คดูค่าสถานะเขาเหลือSpiritualityแค่12แต้มเท่านั้น

 

“เริ่มจะมีนหัวแล้วสิ” เบลซคิดอยู่ในหัวของตัวเองเขาคงต้องรีบจบการต่อสู้แล้วอาการที่เป็นเมื่อครู่แวบเดียวแล้วหายไปเป็นอาการเตือนว่าเข้าใช้พลังจิตวิญญาณเกินครึ่งมาพักนึงแล้วและมันจะเป็นอีกครั้งหนักมากในตอนที่เหลือ5แต้มแต่ตอนนี้ก็ยังใช้ต่อสู้อย่างปกติได้อยู่ ถึงจะอีกไม่นานมากก็ ตาม

 

เบลซยังคงมุ่งไปข้างหน้าต่อไปด้วยมือที่เต็มไปด้วยเพลิงอัสนีพลางนึกข้อมูลในใจของเขา “หัวใจของกิ้งก่าอยู่ตรงไหน?”

 

“อ๋อ อยู่ตรงใต้กลางลําตัวบริเวณระหว่างขาคู่หน้าค่อนไปด้านล่างเล็กน้อย”

 

“เถาพิษโลหิต” ในขณะที่คิดเบลซคลายการป้องกันของเถาพิษโลหิตที่ปกป้องร่างกายของเขาออกก่อนที่จะเหลือไว้ข้างๆกายในสภาพพรอมโจมตีส่วนที่เหลืออีก5เถาล้วนมุดลงไปใต้ดินรอคอยให้ถึงระยะที่เหมาะสม

 

“ทะลวง!” เมื่อวิ่งมาถึงระยะเบลซบัดมือขึ้นเถาพิษโลหิตทั้ง5พุ่งขึ้นมาจากใต้ดินแทงขึ้นไปยังเป้าหมายเดียวกันนั้นก็คือหัวใจของกิ้งก่ารุกข์วารี!

 

“โฮกกกกก!” กิ้งก่ารุกข์วารีไม่ได้ฉลาดขนาดนั้นมันไม่รู้ว่าจุดที่เบลซเล็งไปคือหัวใจของมัน มันแค่คิดว่าเบลซจะแทงเข้าใต้ลําตัวของมันเหมือนปกติ ด้วยเปลือกใต้ท้องที่วิวัฒนาการมาถึงจะแข็งไม่เท่าเกล็ดแต่มันพอที่จะทําให้การโจมตีแบบนั้นของเบลซสามารถสร้างบาดแผลให้มันได้แค่เล็กน้อยเท่านั้นมันคํารามเปิดปากอ้าคิดที่จะกินเบลซเข้าไปทั้งตัว

“ตอนแรกฉันคิดว่าจะใช้ขาแต่ว่าแบบนี้ก็ต้องขอบใจแกละกันนะง่ายกว่าเดิมเยอะเลย” เบลซคิดด้วยความยินดีเขาไม่คิดว่าสวรรค์จะมอบโอกาสงามๆให้กับเข้าแบบนี้

 

“ไป!” เบลซตะโกนเถาพิษโลหิตทั้งสองที่อยู่ข้างตัวทั้งสองเถาพุ่งเข้าไปเกี่ยวระหว่างร่องฟันของก้าก่ารุกข์วารี เบลซจับเถาทั้งสองแล้วกระโดดเหวี่ยงตัวเองไปยังใต้ลําตัวของมันเหมือนกับลิงโหนเถาวัลย์และพอดีกันกับ เถาพิษโลหิตอีก5เถาที่แทงขึ้นมาพอดี

 

“แครก แคร์ก แคร่ก แครก แครก” เถาทั้งห้าได้พุ่งแทงเปลือกใต้ลําตัวตรงตําแหน่งเดียวกันกัยหัวใจ เปลือกนั้นแตกร้าวทันที่พร้อมกับเลือดที่ไหลออกมาเป็นหยดๆหลายจุด

 

เบลซกระโดดขึ้นไปมือทั้งสองข้างท่วมไปด้วยเพลิงอัสนีนิ้วทั้งสิบเกร็งในท่าเหมือนกับเสือกําลังจะตะครุบเหยื่อพุ่งเข้าไปตะปบตรงรอบร้าวทันที

 

“โฮกกกกกกก” กิ้งก่ารุกข์วารีร้องด้วยความเจ็บปวดมันดิ้นไปมาพยายามสลัดเบลซให้หลุดแต่ว่ามือของเบลซจมเข้าไปในเนื้อของมันทั้งมือและยังเกาะอย่างเหนียวแน่นเพลิงอัสนีพุ่งออกมาอย่างรุนแรง

 

ในขณะเดียวกันปลายนิ้วของเบลซที่กระแทกกับเปลือดใต้ท้องปลายนิ้วของเขาเต็มไปด้วยแผลเลือดที่ผสมพิษหัวใจเขียวไหลออกมาจากปลายนิ้วเข้าไปในร่างของมัน

 

เบลซพยายามที่จะขยับมือให้เข้าไปให้ลึกขึ้นเขาทั้งจิกทั้งตะกุยจนในที่สุดก็เขาไปถึงครึ่งแขนเพลิงอัสนีปะทุทําลายเนื้อเยื่อที่อยู่ข้างในเป็นระยะๆ จนในที่สุดเบลซก็สัมผัสได้ถึงแรงกระเพื่อมๆ ใช่มันคือแรงกระเพื่อมที่มาจากการเต้นของหัวใจ

 

“โฮกกกกก” กิ้งก่ารุกข์วารีคํารามมันรู้สึกจ็บปวดมากกับบาดแผลแสนสาหัสที่ลึกมากมันพยามยามสะบัดตัวแรงขึ้นไป

 

ที่จริงการสะบัดตัวดิ้นไปดิ้นมาก็ใช้ว่าจะไม่ได้ผลร่างเบลซูกเหวี่ยงกระแทกไปกระแทกมาจนได้แผลช้ําแผลแตกเลือดซิบอยู่หลายทีแต่ว่าด้วยการทะลวงเข้าไปถึงครึ่งแขนมันไม่สามารถสะลัดให้เบลซหลุดออกจากตัวของมันได้

 

พิษหัวใจเขียวลามไปเรื่อยๆเลือดของกิ้งก่ารุกข์วารีค่อยๆเป ลี่ยนเป็นสีดําจนในที่สุด หัวใจก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีดําและเริ่มเต้น

ช้าลง

 

“อ้าวววว!” กิ้งก่ารุกข์วารีคํารามด้วยความเจ็บปวดอย่างมหาศาลมันพยายามที่จะดิ้นให้แรงขึ้นแต่มันก็พบว่าอยู่ดีๆร่างกายของมันก็ไม่มีแรงหัวใจของมันเต้นช้าลง จนในที่สุดมันก็ไม่มีแรงแม้แต่จะยืน และ เมื่อหัวใจหยุดเต้นมันก็ตายไปในที่สุด

“กิ้งก่ารุกข์วารีน้ํา พืช (เขียวอ่อน)ถูกสังหารได้รับเหรียญชีวิต 23เหรียญ

 

“แฮก แฮก แฮก” เบลซทรุดตัวลงกับพื้นเข้าดึงแขนทั้งสองข้างออกเลือดสีดําทะลักออกมาเหมือนท่อน้ําแตก เขาทิ้งตัวลงนอนลงไปบนพื้นดินพลางยิ้มที่มุมปาก

 

“สําเร็จแล้ว!” ซักพักเจ้าดาบน้อยก็วิ่งมันและแบกเบลซขึ้นหลังของมันก่อนจะพาไปยังซากของกิ้งก่าตัวอื่นที่เลือดยังเป็นสีแดงปกติ เบลซก็เรียกเถาโลหิตออกมาดูดเลือดทันที

 

ที่จริงเบลซก็สามารถดูดเลือดสีดําได้เพราะมันเป็นพิษของเขาเองแต่ว่ามันไร้ซึ่งพลังชีวิตแล้วดูดไปก็ไม่มีประโยชน์ที่สําคัญในการต่อสู้ครั้งนี้เถาโลหิตแทบจะไม่สามารถเจาะทะลวงการป้องกันของกิ้งก่ารุกข์วารีได้ทําให้เบลซไม่สามารถชิงความได้เปรียบจากการดูดเลือดมาฟื้นฟูให้ตัวเองได้ไม่อย่างนั้นการต่อสู้ก็คงจะราบรื่นมากกว่านี้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

The Great Geneticist in Apocalypse 48 ชนะแล้วสิ

Now you are reading The Great Geneticist in Apocalypse Chapter 48 ชนะแล้วสิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

The Great Geneticist in Apocalypse

ตอนที่48 ชนะแล้วสิ

 

“โฮก?” กิ้งก่ารุกข์วารีร้องด้วยความตกใจเมื่อมันรู้สึกว่าขาหน้าข้างซ้ายของมันที่พึ่งปะทะกับเบลซจู่ๆก็ไม่เสียความรู้สึกไป

 

หลังจากที่เพลิงอัสนีดับลังมันก็สังเกตเห็นว่ารอยแตกตามเกล็ดของมันมีเลือดไหออกมาซึ่งก็เป็นปกติเพราะว่ามักก็ได้รับบาดเจ็บจากเพลิงอัสนี้เมื่อกี้จริงๆแต่ที่ไม่ปกติก็คือ เลือดเป็นสีดํา!

 

“ติดกับเข้าเต็มๆเลยนะ” เบลซพูดความจริงแล้วก่อนหน้าที่เขาจะใช้เพลิงอัสนีพุ่งเข้าใส่มันเขาเต็มพิษหัวใจเขียวจํานวนมากไว้ที่มือเมื่อเขาต่อยมันจนเกล็ดแตกมือแตกเลือดที่มีพิษของเขาไหลเขาไปผ่านรอยแตกที่เกล็ดพวกนั้น นั้นแหละแน่นอนว่าปริมาณมันเยอะกว่าตอนที่ใช้พิษกัดกร่อนของเถาพิษโลหิตเยอะ ถึงจะไม่พอที่จะฆ่าแต่ว่าขาหน้ามันก็ใช้ไม่ได้ข้างนึ่งแล้ว ถึงจะดูปกติดีแต่ว่าเลือดข้างในเสียไปแล้วและระบบอื่นๆที่อยู่บริเวณแขนอย่างเซล์ประสาท เนื้อเยื่อ เส้นเลือดและกระดูกก็จะเริ่มเสียและตายตาม

 

เบลซมองดูเกล็ดของกิ้งก่ารุกข์วารีบริเวณที่ถูกพิษหัวใจเขียวของเขาเกล็ดสีน้ําเงินแกมเขียวที่สวยงามค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีดํา เม็ดเลือดที่ไปเลี้ยงเกล็ดเริ่มตายแล้ว

 

“งั้นเรามาต่อกันเลยดีกว่า” เบลซพูดด้วยน้ําเสียงโหดเหี้ยมก่อนจะพุ่งเข้าไปอีกครั้ง

 

“โฮกกกก” กิ้งก่ารุกข์วารีมันเริ่มรู้แล้วว่าจะแตะตัวเบลซไปไม่ได้มันเลยใช้พลังธาตุพืชเร่งการเจริญเติบโตของต้นหญ้าแถวนั้นมันมารัดพันธนาการเท้าทั้งสองข้างของเบลซ

 

แต่มีหรือที่เขาจะยอม?

 

“ฟุบบบบ” เปลวเพลิงลุกไหม้หญ้ารอบๆรัศมี2เมตรจะตัวเบลซเปลี่ยนหญ้ารอบๆให้กลายเป็นทุ่งเพลิงสีแดงส้ม ต้นหญ้าที่อยู่รอบๆไม่ทันจะเริ่มโตก็ถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน

 

“โฮกกกกกก” กิ้งก่ารุกข์วารีคํารามด้วยความไม่พอใจมันเปิดปากและเชิดหน้าขึ้นพลังธาตุน้ํารวมตัวกันเป็นสามง่ามเล่มหนึ่ง

 

ทักษะระดับเขียวอ่อนตรีศูลวารี!

 

“ปิ้ว!” เสียงแหวกอากาศตรีศูลวารีพุ่งเห็นอากาศเข้าหา

เบลซ

 

เบลชตวัดมือสี่ห้าครั้งปรากฏใบมีดคมกริบที่ทําจากน้ําห้าเล่มพุ่งเข้าปะทะกับตรีศูลวารี

 

“ตูมมม” ตรีศูลปะทะกับคมมีดทั้ง5และสลายหายไปทั้งคู่

 

อควาคัตเตอร์แม้ว่ามันจะเป็นทักษะระดับขาวที่แน่นอนว่าไม่สามารถเทียบกับระดับเขียวอ่อนได้แต่ว่าเมื่อมีถึงห้าเล่มก็พอที่จะหักล้างกันได้แต่ว่า เบลซต้องใช้พลังที่แรงที่สุดหรือก็คือใช้spirituality4แต้มต่อคมมีด1เล่มเข้าสร้างมันมาถึง5เล่มเท่ากับกว่าการใช้มันปะทะเพียงเมื่อครู่เบลซใช้ไปถึง20แต้ม ในขณะที่กิ้งก่ารุกข์วารีคงใช้ไปแค่6-3แต้ม

 

ถึงแม้ว่าเบลซจะมีค่าspiritualityอยู่มากแล้วยังวิวัฒนาการเป็นสิ่งมีชีวิตสีเขียวอ่อนจนมีถึง36แต้มแต่ว่ามันก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่มีวันหมด

 

สายตาของเบลซพร่ามัวชั่วครูตามมาด้วยอาการปวดหัวเล็กน้อยก่อนจะหายไปเบลซเช็คดูค่าสถานะเขาเหลือSpiritualityแค่12แต้มเท่านั้น

 

“เริ่มจะมีนหัวแล้วสิ” เบลซคิดอยู่ในหัวของตัวเองเขาคงต้องรีบจบการต่อสู้แล้วอาการที่เป็นเมื่อครู่แวบเดียวแล้วหายไปเป็นอาการเตือนว่าเข้าใช้พลังจิตวิญญาณเกินครึ่งมาพักนึงแล้วและมันจะเป็นอีกครั้งหนักมากในตอนที่เหลือ5แต้มแต่ตอนนี้ก็ยังใช้ต่อสู้อย่างปกติได้อยู่ ถึงจะอีกไม่นานมากก็ ตาม

 

เบลซยังคงมุ่งไปข้างหน้าต่อไปด้วยมือที่เต็มไปด้วยเพลิงอัสนีพลางนึกข้อมูลในใจของเขา “หัวใจของกิ้งก่าอยู่ตรงไหน?”

 

“อ๋อ อยู่ตรงใต้กลางลําตัวบริเวณระหว่างขาคู่หน้าค่อนไปด้านล่างเล็กน้อย”

 

“เถาพิษโลหิต” ในขณะที่คิดเบลซคลายการป้องกันของเถาพิษโลหิตที่ปกป้องร่างกายของเขาออกก่อนที่จะเหลือไว้ข้างๆกายในสภาพพรอมโจมตีส่วนที่เหลืออีก5เถาล้วนมุดลงไปใต้ดินรอคอยให้ถึงระยะที่เหมาะสม

 

“ทะลวง!” เมื่อวิ่งมาถึงระยะเบลซบัดมือขึ้นเถาพิษโลหิตทั้ง5พุ่งขึ้นมาจากใต้ดินแทงขึ้นไปยังเป้าหมายเดียวกันนั้นก็คือหัวใจของกิ้งก่ารุกข์วารี!

 

“โฮกกกกก!” กิ้งก่ารุกข์วารีไม่ได้ฉลาดขนาดนั้นมันไม่รู้ว่าจุดที่เบลซเล็งไปคือหัวใจของมัน มันแค่คิดว่าเบลซจะแทงเข้าใต้ลําตัวของมันเหมือนปกติ ด้วยเปลือกใต้ท้องที่วิวัฒนาการมาถึงจะแข็งไม่เท่าเกล็ดแต่มันพอที่จะทําให้การโจมตีแบบนั้นของเบลซสามารถสร้างบาดแผลให้มันได้แค่เล็กน้อยเท่านั้นมันคํารามเปิดปากอ้าคิดที่จะกินเบลซเข้าไปทั้งตัว

“ตอนแรกฉันคิดว่าจะใช้ขาแต่ว่าแบบนี้ก็ต้องขอบใจแกละกันนะง่ายกว่าเดิมเยอะเลย” เบลซคิดด้วยความยินดีเขาไม่คิดว่าสวรรค์จะมอบโอกาสงามๆให้กับเข้าแบบนี้

 

“ไป!” เบลซตะโกนเถาพิษโลหิตทั้งสองที่อยู่ข้างตัวทั้งสองเถาพุ่งเข้าไปเกี่ยวระหว่างร่องฟันของก้าก่ารุกข์วารี เบลซจับเถาทั้งสองแล้วกระโดดเหวี่ยงตัวเองไปยังใต้ลําตัวของมันเหมือนกับลิงโหนเถาวัลย์และพอดีกันกับ เถาพิษโลหิตอีก5เถาที่แทงขึ้นมาพอดี

 

“แครก แคร์ก แคร่ก แครก แครก” เถาทั้งห้าได้พุ่งแทงเปลือกใต้ลําตัวตรงตําแหน่งเดียวกันกัยหัวใจ เปลือกนั้นแตกร้าวทันที่พร้อมกับเลือดที่ไหลออกมาเป็นหยดๆหลายจุด

 

เบลซกระโดดขึ้นไปมือทั้งสองข้างท่วมไปด้วยเพลิงอัสนีนิ้วทั้งสิบเกร็งในท่าเหมือนกับเสือกําลังจะตะครุบเหยื่อพุ่งเข้าไปตะปบตรงรอบร้าวทันที

 

“โฮกกกกกกก” กิ้งก่ารุกข์วารีร้องด้วยความเจ็บปวดมันดิ้นไปมาพยายามสลัดเบลซให้หลุดแต่ว่ามือของเบลซจมเข้าไปในเนื้อของมันทั้งมือและยังเกาะอย่างเหนียวแน่นเพลิงอัสนีพุ่งออกมาอย่างรุนแรง

 

ในขณะเดียวกันปลายนิ้วของเบลซที่กระแทกกับเปลือดใต้ท้องปลายนิ้วของเขาเต็มไปด้วยแผลเลือดที่ผสมพิษหัวใจเขียวไหลออกมาจากปลายนิ้วเข้าไปในร่างของมัน

 

เบลซพยายามที่จะขยับมือให้เข้าไปให้ลึกขึ้นเขาทั้งจิกทั้งตะกุยจนในที่สุดก็เขาไปถึงครึ่งแขนเพลิงอัสนีปะทุทําลายเนื้อเยื่อที่อยู่ข้างในเป็นระยะๆ จนในที่สุดเบลซก็สัมผัสได้ถึงแรงกระเพื่อมๆ ใช่มันคือแรงกระเพื่อมที่มาจากการเต้นของหัวใจ

 

“โฮกกกกก” กิ้งก่ารุกข์วารีคํารามมันรู้สึกจ็บปวดมากกับบาดแผลแสนสาหัสที่ลึกมากมันพยามยามสะบัดตัวแรงขึ้นไป

 

ที่จริงการสะบัดตัวดิ้นไปดิ้นมาก็ใช้ว่าจะไม่ได้ผลร่างเบลซูกเหวี่ยงกระแทกไปกระแทกมาจนได้แผลช้ําแผลแตกเลือดซิบอยู่หลายทีแต่ว่าด้วยการทะลวงเข้าไปถึงครึ่งแขนมันไม่สามารถสะลัดให้เบลซหลุดออกจากตัวของมันได้

 

พิษหัวใจเขียวลามไปเรื่อยๆเลือดของกิ้งก่ารุกข์วารีค่อยๆเป ลี่ยนเป็นสีดําจนในที่สุด หัวใจก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีดําและเริ่มเต้น

ช้าลง

 

“อ้าวววว!” กิ้งก่ารุกข์วารีคํารามด้วยความเจ็บปวดอย่างมหาศาลมันพยายามที่จะดิ้นให้แรงขึ้นแต่มันก็พบว่าอยู่ดีๆร่างกายของมันก็ไม่มีแรงหัวใจของมันเต้นช้าลง จนในที่สุดมันก็ไม่มีแรงแม้แต่จะยืน และ เมื่อหัวใจหยุดเต้นมันก็ตายไปในที่สุด

“กิ้งก่ารุกข์วารีน้ํา พืช (เขียวอ่อน)ถูกสังหารได้รับเหรียญชีวิต 23เหรียญ

 

“แฮก แฮก แฮก” เบลซทรุดตัวลงกับพื้นเข้าดึงแขนทั้งสองข้างออกเลือดสีดําทะลักออกมาเหมือนท่อน้ําแตก เขาทิ้งตัวลงนอนลงไปบนพื้นดินพลางยิ้มที่มุมปาก

 

“สําเร็จแล้ว!” ซักพักเจ้าดาบน้อยก็วิ่งมันและแบกเบลซขึ้นหลังของมันก่อนจะพาไปยังซากของกิ้งก่าตัวอื่นที่เลือดยังเป็นสีแดงปกติ เบลซก็เรียกเถาโลหิตออกมาดูดเลือดทันที

 

ที่จริงเบลซก็สามารถดูดเลือดสีดําได้เพราะมันเป็นพิษของเขาเองแต่ว่ามันไร้ซึ่งพลังชีวิตแล้วดูดไปก็ไม่มีประโยชน์ที่สําคัญในการต่อสู้ครั้งนี้เถาโลหิตแทบจะไม่สามารถเจาะทะลวงการป้องกันของกิ้งก่ารุกข์วารีได้ทําให้เบลซไม่สามารถชิงความได้เปรียบจากการดูดเลือดมาฟื้นฟูให้ตัวเองได้ไม่อย่างนั้นการต่อสู้ก็คงจะราบรื่นมากกว่านี้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+