The Great Geneticist in Apocalypse 52 ตามหาต้นกุหลาบชําระล้างแล้วสิ

Now you are reading The Great Geneticist in Apocalypse Chapter 52 ตามหาต้นกุหลาบชําระล้างแล้วสิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

The Great Geneticist in Apocalypse ตอนที่52 ตามหาต้นกุหลาบชําระล้างแล้วสิ

 

ตอนที่ 52 ตามหาต้นกุหลาบชําระล้างแล้วสิ

 

หลังจากตกลงงานคร่าวๆในวันพรุ่งนี้เบลซขี่เจ้าดาบน้อยก็เข้าไปในปาอีกครั้ง

 

แน่นอนว่าตอนกลางคืนมันอันตรายกว่าตอนกลางวันดังนั้นเขาจะไม่ออกไปไกลมาก

 

“คาซ่าาา” เบลซยังคงอยู่ในเขตบาเรียเขายืนอยู่ริมแม่น้ําพลางมองลงไป

 

“น้ําใสมากมองเห็นถึงหินที่ก้นแม่ น้ําปลากุ้งแล้วก็สัตว์น้ําอื่นๆกับพืชน้ําก็อุดมสมบรูณ์ดี” หลังจากวันแห่งหายนะเริ่มขึ้นแหล่งน้ําที่สกปรกตามธรรมชาติถูกชําระให้สะอาดตราบใดที่ไม่ได้อยู่ติดกับเมืองมากเกินไปก็จะไม่ปนเปื้อนแต่ยังไงเบลซก็ต้องหาอะไรที่จะทําให้มั่นใจได้ว่าน้ําตรงที่ฐานของเขาจะไร้การปนเปื้อนเพื่อจะได้ใช้ได้อย่างสบายใจ

 

“ไปกันเจ้าดาบน้อย”

 

“กรู้วววว” เบลชขี่เจ้าน้อยออกไปจากเขตบาเรีย

 

“ระวังๆแล้วก็ช้าด้วย” เบลซกระซิบ

 

“แครก แครก แครก” เสียงเหยียบใบไม้และหญ้าเบาๆกลืนไปกับสายลมเบลซพยายามจะสร้างเสียงให้เบาที่สุดสิ่งที่ เขาจะหามันหาง่ายกว่าในตอนกลางคืนถึงมันจะค่อนข้างหาได้น้อยถึงยากแต่ก็จะลองดูเพราะว่าช่วงแรกๆมักจะมีของหายากมากกว่าปกติ

สิ่งที่เบลซพยายามหาก็คือ“กุหลาบชําระล้าง”

 

มันเป็นกุหลาบกลายพันธ์ที่มีความสามารถในการชําระดินอากาศและก็น้ํา มันเป็นต้นไม้ที่ดูดสิ่งสกปรกและสารเคมีที่เป็นมลพิษบางอย่างมาทําการสลายและชําระล้างใหม่ได้โดยเบลซจะเอาไปปลูกตรงข้างบนบ่อพักน้ําเสียเพื่อให้มันบําบัดน้ําเสียที่อยู่ข้างใต้ผ่านรากและออร่าชําระล้างของมันให้มันสะอาดก่อนแล้วค่อยเอาไปใช้อย่างอื่นอย่างเช่นการรดน้ําต้นไม้หรือเลี้ยงปลาและยังสามารถนําดอกของมัน ยังเป็นส่วนผสมมาทํายาชําระล้างได้ด้วยมันเป็นยาที่ใช้แทนสบู่เหลวและยาสระผมได้ และยังสามารถทําเป็นยาทําความสะอาดที่ใช้แทนน้ํายาล้างจานได้ด้วย และสุดท้ายยังบดและผสมกับส่วนผสมอื่นทําเป็นผงซักฟอกกลิ่นหอมได้อีกตั้งหาก

 

และแน่นอนว่ารูปร่างของมันเหมือนกับต้นกุหลาบที่มีดอกสีขาวธรรมดาเลยแต่ว่ามันมีคุณสมบัติที่พิเศษจากกุหลาบดอกสีขาวทั่วๆไปก็คือมันเรืองแสงได้

 

ดังนั้นเบลซเลยคิดถึงมันตั้งแต่คือแรกเขาไม่อยากให้การขนทรัพยากรต้องมาคํานึงถึงของใช้จุกจิกพวกนี้ไปซะทุกอย่างแล้วพวกสบู่แชมพูก็ยังใช้ทุกวันอยู่แล้วด้วย

 

เบลซบีซีฟอสเข้าไปในปาลึกเรื่อยๆระหว่างนั้นเขาก็หยิบคริ สตัลน้ําที่เหลืออีก3ชิ้นมาหนึ่งชิ้นแล้วทําการดูดซับ

 

“ท่านดูดซับคริสตัลน้ํา ได้ค่าวิวัฒนาการ+1”

 

“จริงด้วย” เบลซคิดคริสตัลธาตุพวกนี้เป็นขั้นสีขาวเนื่องจากได้มาจากสิ่งมีชีวิตสีขาวดังนั้นคริสตัลพวกนี้จะใช้ได้ดีแค่ตอนเป็นสิ่งมีชีวิตสีขาวเท่านั้น ถึงเบลซจะยังใช้ได้แต่ว่าประสิทธิภาพของมันก็ลดลงมากและคงไม่มีผลอีกเมื่อเขาวิวัฒนาการเป็นสีเขียว เขาควรที่จะหาคริสตัลขั้นสีเขียวอ่อนมาดูดซับ

 

“คกกกกกกก” เสียงแหลมสูงดังขึ้นเบลซมองไปข้างบนเขาเห็นค้างคาวสีดําตัวใหญ่กําลังพุ่งมาหาเขา

 

“ประเมิน

 

“ค้างคาวราตรีไร้ธาตุ>(ขาว)ระดับ9”

 

“ฉีก ฉีก ฉีก” ทันทีที่มันเข้ามาเบลซเรียกเถาพิษโลหิตออกมาเสียบทะลุมันด้วยความเร็วสูง ปลิดชีวิตทันทีในความเงียบงัน!

 

“เอาหละไปกันต่อ” เบลซกระซิบตอนนี้เขาอยู่ห่างจากเขตบาเรียประมาณร้อยเมตรแล้วเข้าจะไปต่ออีกแค่50เมตรถ้าเกิดว่ายังไม่เจออะไรก็จะลองดูรอบๆอีกหน่อยแต่ว่าจะไม่ไปลึกกว่านั้น

 

“แครกแครกแครก” ไม่นานเบลซก็สัมผัสได้ถึงรังสีมุ่งร้ายมาทางเขา

 

“โกรัววววว!” ทันใดนั้นซีฟอสคํารามลั่นก่อนจะพ่นไฟสีม่วงเข้มไปข้างหน้า

 

“อะไร?!” เบลซตกใจแล้วมองไปข้างหน้า

 

ต้นไม้ข้างหน้าไหม้เกรียมเบลซมองไปข้างหน้าท่ามกลางไฟสีม่วงเขาเห็นแสงสีส้มเหลืองดวงหนึ่งส่องสว่างอยู่มันเป็นหิงห้อยขนาดราวๆลูกเมล่อนและมันไม่ได้รับบาดเจ็บเลยจากเพลิงอเวจี

“ประเมิน

 

“หิงห้อยประกายเพลิง<ไฟ (เขียวอ่อน)ระดับ8 ทักษะภูต

เงาเพลิง

 

“ทักษะดีซะด้วย เกือบแล้วต้องขอบใจแกมากนะ”เบลซลูบหัวเจ้าดาบน้อยเบาก่อนที่จะมองข้างหน้า

 

ทักษะภูตเงาเพลิงเป็นทักษะซุ่มโจมตีที่ทําให้ตัวเองอยู่ในสภาวะนิ่งเงียบแทบจะไร้เสียงที่สําคัญถึงจะเป็นทักษะธาตุเพลิงแต่ว่ากลับบิดเบือนแสงรอบๆเมื่อไม่เคลื่อนที่คล้ายๆธาตุแสงและมืด!ทําให้นิ่งห้อยนั้นถึงจะเรืองแสงแต่พวกเขากลับมองไม่เห็นและถ้าซุ่มโจมตีครั้งแรกสําเร็จมันจะเพิ่มพลังโจมตีมหาศาลแน่นอนว่ามันเป็นทักษะขั้นเขียวอ่อน!

 

“ถ้าเมื่อกี้มันทําสําเร็จถึงเราจะจัดการมันได้แต่ก็เจ็บตัวใช้ได้อยู่ดี” เบลซคิดเนื่องจากว่าระดับมันยังน้อยกว่าเขาอยู่มากดังนั้นเขาไม่ค่อยกลัวมันเท่าไหร่ในเมื่อเจอตัวมันแล้ว

 

“อควาคัตเตอร์” เบลซสะบัดมืดคมสายวารีขนาดเล็กออกมาสี่ห้าคมไปรอบๆเพื่อดับไฟ และเล็งไปที่หิงห้อยประกายเพลิงคมหนึ่ง

 

“แคร้ง” อควาคัตเตอร์ปะทะกับเปลือกของมันมีเพียงแค่เสียงปะทะเท่านั้นเปลือกของมันไม่เสียหายแม้แต่น้อย

 

“ทักษะสีขาวเริ่มไม่ค่อยมีประโยชน์แล้วแฮะ”เบลซพึมพําแล้วยื่นมือออกไป

 

“เถาโลหิต” ถึงแม้ว่ามันจะวิวัฒนาการเป็นเถาพิษโลหิตแล้วแต่ตัวเบลซเองก็ยังชอบเรียกมันแบบเดิม

 

“แคร้ง แคร้ง แคร้ง แคร็ก แคร้ง แคร็ก แคร้ง” เถาพิษโลหิตทั้งเจ็ดรุมแทงไปที่หิงห้อยประกายเพลิงมีสองเถาที่แทงโดนตรงรอยต่อระหว่างเปลือกและแทงทะลุเปลือกเข้าไปได้ษกัดกร่อนเริ่มทํางานทันที

 

“หวีวีวีวีวีวี่” ทิ้งห้อยประกายเพลิงหวีดร้องก่อนที่ตัวจะลุกท่วมไปด้วยเพลิงสีส้มแดงประกายสีเขียวอ่อนออกมาแน่นอนว่าเพลิงมันลุกลามมาถึงเถาพิษโลหิตของเขาด้วย

 

“เพี้ยะๆๆ เพี้ยะๆๆๆ” เบลซรีบดึงเถาพิษโลหิตกลับมาแล้วฟาดลงพื้นดินเพื่อไฟดับด้วยความเร็วสูง โชคดีที่แค่แวบเดียวเถาเลยไม่ไหม้แต่เปลือกมีร้อยดํานิดหน่อยแต่มันเป็นแค่สารเคลือบข้างนอกเฉยๆ เดี๋ยวเบลชกลับไปเช็ดหรือล้างน้ําก็ออก

 

ไม่นานนิ่งห้อยประกายเพลิงก็บินเปไปเปมาแล้วก็ร่วงลงมานอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้น

 

“หิงห้อยประกายเพลิงไฟ (เขียวอ่อน) ถูกสังหารได้เหรียญชีวิต 15เหรียญ

 

เบลซเดินไปใช่เถาพิษโลหิตแกะหัวมันออกมาและหยิบคริสตัลธาตุไฟเขียวอ่อน)เก็บเข้าไปในถุง รูปร่างของคริสตัลก็เหมือนกับคริสตัลเพลิงทั่วไปแต่ว่ามีประกายสะท้อนแสงเป็นสีเขียวอ่อนและมีสัญลักษณ์มีดสีแดงหุ้มด้วยไฟมันเป็นทักษะซุ่มโจมตีภูตเงาเพลิง

 

“เอาหละนายกินมันได้นะแต่ว่าต้องทําให้สุกก่อน”เบลซบอกกับเจ้าดาบน้อยพิษกัดกร่อนไม่เหมือนกับพิษหัวใจเขียวของเขามันไม่ได้ทําให้เลือดหรืออวัยวะภายในเสียหายและเน่าเสียมันแค่กัดกร่อนและทําลายอวัยวะภายในเชิงกายภาพมากกว่าเหมือนทําให้อวัยวะบางส่วนหายไปจนทํางานไม่ได้เนื้อส่วนที่เหลือไม่ได้เสียหรืออะไรและพิษกัดกร่อนยังสลายไปถ้าโดนความร้อนมากๆนานๆ ดังนั้นตราบใดที่ทําให้สุกก็ไม่มีปัญหา

 

“ฟูววววววววว” ซีฟอสฟนเพลิงย่างนิ่งห้อยประกายเพลิงด้วยความดีใจมันเองก็ใกล้จะวิวัฒนาการครึ่งสีแล้ว และนี้ยังเป็นเนื้อของสัตว์อสูรสีเขียวอ่อนธาตุไฟอีกด้วย

 

“กรัวม กรัวม” เนื่องจากตัวของหิงห้อยแค่เท่าลูกเมล่อนซีฟอสกินหมดในสองคําก่อนที่จะทําท่าทางตื่นเต้นและส่งสัญญาณให้เบลชที่กําลังเก็บเปลือกของหิ่งห้อยประกายเพลิง

 

“จะเลื่อนระดับแล้วหรอ งั้นกลับกันเถอะ” เบลซพูดเพราะสัตว์อสูรวิวัฒนาการต่างจากคนเวลามันวิวัฒนาการมันจะหลับค่อนข้างลึกและถ้าถูกอะไรโจมตีระหว่างนั้นจะเหมือนกับถูกขัดจังหวะการวิวัฒนาการและอาจทําให้ล้มเหลวจนต้องมานั่งสะสมพลังงานใหม่ได้

 

“ครึกครึกๆๆ” รอบนี้เบลซไม่สนใจเรื่องเสียงอีกต่อไปเขาขี้เจ้าดาบน้อยกลับฐานด้วยความเร็ว

 

เมื่อเข้าเขตฐานเบลชก็รีบไปที่บ้านพักแล้วเขาก็ลงจากหลังของเจ้าดาบน้อย เบลซมองไปที่มันตาของมันปรือบอกได้เลยว่ามันรู้สิ่งง่วงมากแล้วก็ทิ้งตัวลงนอน

 

“ให้ตายสิ” เบลซพูดพลางยิ้มแล้วก็ลากเจ้าดาบน้อยไปนอนข้างบ้านพร้อมกับยกผ้านวมผืนใหญ่มาคลุมตัวมันก่อนที่จะเข้าบ้านไป

“โย” เบลซทักทายหลังจากเข้ามาในบ้าน

 

“นายกลับมาก็ดีแล้วช่วยเสกน้ําใส่อ่างให้หน่อยฉันขี้เกียจไปตัด” ชินขอร้องและทํามือแบบ “โอเค็ว”

 

“ได้ๆ แปปนึ่ง” เบลซตอบแล้วก็กางเต็นท์จัดที่นอนของตัวเองก่อนจะไปห้องอาบน้ําแล้วก็เติมน้ําลงไป

 

“ขอบใจมาก” ชินตอบ

 

“แล้วคนอื่นๆหละ?”

 

“จางมู่ไปซ้อมยิงธนูที่อาคารฝึกสอนหนะเหมือนnpcที่นั้นจะสอนทักษะให้ก็เลยยังติดใจอยู่ ส่วนเรย์ลินฉันก็ไม่รู้เห มือนกัน” ชินตอบ

 

“เครๆ ฉันไปอาบน้ําก่อนนะ” เบลซพูดแล้วก็เข้าไปอาบน้ําแน่นอนว่าเข้ารู้อยู่แล้วว่าเรย์ลินกําลังเดินเล่นหวานแหววกับเซลินอยู่ริมแม่น้ําเขาเห็นแวบๆจากที่ไกลๆตอนขี่เจ้าดาบน้อยกลับมาโดยบังเอิญ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

The Great Geneticist in Apocalypse 52 ตามหาต้นกุหลาบชําระล้างแล้วสิ

Now you are reading The Great Geneticist in Apocalypse Chapter 52 ตามหาต้นกุหลาบชําระล้างแล้วสิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

The Great Geneticist in Apocalypse ตอนที่52 ตามหาต้นกุหลาบชําระล้างแล้วสิ

 

ตอนที่ 52 ตามหาต้นกุหลาบชําระล้างแล้วสิ

 

หลังจากตกลงงานคร่าวๆในวันพรุ่งนี้เบลซขี่เจ้าดาบน้อยก็เข้าไปในปาอีกครั้ง

 

แน่นอนว่าตอนกลางคืนมันอันตรายกว่าตอนกลางวันดังนั้นเขาจะไม่ออกไปไกลมาก

 

“คาซ่าาา” เบลซยังคงอยู่ในเขตบาเรียเขายืนอยู่ริมแม่น้ําพลางมองลงไป

 

“น้ําใสมากมองเห็นถึงหินที่ก้นแม่ น้ําปลากุ้งแล้วก็สัตว์น้ําอื่นๆกับพืชน้ําก็อุดมสมบรูณ์ดี” หลังจากวันแห่งหายนะเริ่มขึ้นแหล่งน้ําที่สกปรกตามธรรมชาติถูกชําระให้สะอาดตราบใดที่ไม่ได้อยู่ติดกับเมืองมากเกินไปก็จะไม่ปนเปื้อนแต่ยังไงเบลซก็ต้องหาอะไรที่จะทําให้มั่นใจได้ว่าน้ําตรงที่ฐานของเขาจะไร้การปนเปื้อนเพื่อจะได้ใช้ได้อย่างสบายใจ

 

“ไปกันเจ้าดาบน้อย”

 

“กรู้วววว” เบลชขี่เจ้าน้อยออกไปจากเขตบาเรีย

 

“ระวังๆแล้วก็ช้าด้วย” เบลซกระซิบ

 

“แครก แครก แครก” เสียงเหยียบใบไม้และหญ้าเบาๆกลืนไปกับสายลมเบลซพยายามจะสร้างเสียงให้เบาที่สุดสิ่งที่ เขาจะหามันหาง่ายกว่าในตอนกลางคืนถึงมันจะค่อนข้างหาได้น้อยถึงยากแต่ก็จะลองดูเพราะว่าช่วงแรกๆมักจะมีของหายากมากกว่าปกติ

สิ่งที่เบลซพยายามหาก็คือ“กุหลาบชําระล้าง”

 

มันเป็นกุหลาบกลายพันธ์ที่มีความสามารถในการชําระดินอากาศและก็น้ํา มันเป็นต้นไม้ที่ดูดสิ่งสกปรกและสารเคมีที่เป็นมลพิษบางอย่างมาทําการสลายและชําระล้างใหม่ได้โดยเบลซจะเอาไปปลูกตรงข้างบนบ่อพักน้ําเสียเพื่อให้มันบําบัดน้ําเสียที่อยู่ข้างใต้ผ่านรากและออร่าชําระล้างของมันให้มันสะอาดก่อนแล้วค่อยเอาไปใช้อย่างอื่นอย่างเช่นการรดน้ําต้นไม้หรือเลี้ยงปลาและยังสามารถนําดอกของมัน ยังเป็นส่วนผสมมาทํายาชําระล้างได้ด้วยมันเป็นยาที่ใช้แทนสบู่เหลวและยาสระผมได้ และยังสามารถทําเป็นยาทําความสะอาดที่ใช้แทนน้ํายาล้างจานได้ด้วย และสุดท้ายยังบดและผสมกับส่วนผสมอื่นทําเป็นผงซักฟอกกลิ่นหอมได้อีกตั้งหาก

 

และแน่นอนว่ารูปร่างของมันเหมือนกับต้นกุหลาบที่มีดอกสีขาวธรรมดาเลยแต่ว่ามันมีคุณสมบัติที่พิเศษจากกุหลาบดอกสีขาวทั่วๆไปก็คือมันเรืองแสงได้

 

ดังนั้นเบลซเลยคิดถึงมันตั้งแต่คือแรกเขาไม่อยากให้การขนทรัพยากรต้องมาคํานึงถึงของใช้จุกจิกพวกนี้ไปซะทุกอย่างแล้วพวกสบู่แชมพูก็ยังใช้ทุกวันอยู่แล้วด้วย

 

เบลซบีซีฟอสเข้าไปในปาลึกเรื่อยๆระหว่างนั้นเขาก็หยิบคริ สตัลน้ําที่เหลืออีก3ชิ้นมาหนึ่งชิ้นแล้วทําการดูดซับ

 

“ท่านดูดซับคริสตัลน้ํา ได้ค่าวิวัฒนาการ+1”

 

“จริงด้วย” เบลซคิดคริสตัลธาตุพวกนี้เป็นขั้นสีขาวเนื่องจากได้มาจากสิ่งมีชีวิตสีขาวดังนั้นคริสตัลพวกนี้จะใช้ได้ดีแค่ตอนเป็นสิ่งมีชีวิตสีขาวเท่านั้น ถึงเบลซจะยังใช้ได้แต่ว่าประสิทธิภาพของมันก็ลดลงมากและคงไม่มีผลอีกเมื่อเขาวิวัฒนาการเป็นสีเขียว เขาควรที่จะหาคริสตัลขั้นสีเขียวอ่อนมาดูดซับ

 

“คกกกกกกก” เสียงแหลมสูงดังขึ้นเบลซมองไปข้างบนเขาเห็นค้างคาวสีดําตัวใหญ่กําลังพุ่งมาหาเขา

 

“ประเมิน

 

“ค้างคาวราตรีไร้ธาตุ>(ขาว)ระดับ9”

 

“ฉีก ฉีก ฉีก” ทันทีที่มันเข้ามาเบลซเรียกเถาพิษโลหิตออกมาเสียบทะลุมันด้วยความเร็วสูง ปลิดชีวิตทันทีในความเงียบงัน!

 

“เอาหละไปกันต่อ” เบลซกระซิบตอนนี้เขาอยู่ห่างจากเขตบาเรียประมาณร้อยเมตรแล้วเข้าจะไปต่ออีกแค่50เมตรถ้าเกิดว่ายังไม่เจออะไรก็จะลองดูรอบๆอีกหน่อยแต่ว่าจะไม่ไปลึกกว่านั้น

 

“แครกแครกแครก” ไม่นานเบลซก็สัมผัสได้ถึงรังสีมุ่งร้ายมาทางเขา

 

“โกรัววววว!” ทันใดนั้นซีฟอสคํารามลั่นก่อนจะพ่นไฟสีม่วงเข้มไปข้างหน้า

 

“อะไร?!” เบลซตกใจแล้วมองไปข้างหน้า

 

ต้นไม้ข้างหน้าไหม้เกรียมเบลซมองไปข้างหน้าท่ามกลางไฟสีม่วงเขาเห็นแสงสีส้มเหลืองดวงหนึ่งส่องสว่างอยู่มันเป็นหิงห้อยขนาดราวๆลูกเมล่อนและมันไม่ได้รับบาดเจ็บเลยจากเพลิงอเวจี

“ประเมิน

 

“หิงห้อยประกายเพลิง<ไฟ (เขียวอ่อน)ระดับ8 ทักษะภูต

เงาเพลิง

 

“ทักษะดีซะด้วย เกือบแล้วต้องขอบใจแกมากนะ”เบลซลูบหัวเจ้าดาบน้อยเบาก่อนที่จะมองข้างหน้า

 

ทักษะภูตเงาเพลิงเป็นทักษะซุ่มโจมตีที่ทําให้ตัวเองอยู่ในสภาวะนิ่งเงียบแทบจะไร้เสียงที่สําคัญถึงจะเป็นทักษะธาตุเพลิงแต่ว่ากลับบิดเบือนแสงรอบๆเมื่อไม่เคลื่อนที่คล้ายๆธาตุแสงและมืด!ทําให้นิ่งห้อยนั้นถึงจะเรืองแสงแต่พวกเขากลับมองไม่เห็นและถ้าซุ่มโจมตีครั้งแรกสําเร็จมันจะเพิ่มพลังโจมตีมหาศาลแน่นอนว่ามันเป็นทักษะขั้นเขียวอ่อน!

 

“ถ้าเมื่อกี้มันทําสําเร็จถึงเราจะจัดการมันได้แต่ก็เจ็บตัวใช้ได้อยู่ดี” เบลซคิดเนื่องจากว่าระดับมันยังน้อยกว่าเขาอยู่มากดังนั้นเขาไม่ค่อยกลัวมันเท่าไหร่ในเมื่อเจอตัวมันแล้ว

 

“อควาคัตเตอร์” เบลซสะบัดมืดคมสายวารีขนาดเล็กออกมาสี่ห้าคมไปรอบๆเพื่อดับไฟ และเล็งไปที่หิงห้อยประกายเพลิงคมหนึ่ง

 

“แคร้ง” อควาคัตเตอร์ปะทะกับเปลือกของมันมีเพียงแค่เสียงปะทะเท่านั้นเปลือกของมันไม่เสียหายแม้แต่น้อย

 

“ทักษะสีขาวเริ่มไม่ค่อยมีประโยชน์แล้วแฮะ”เบลซพึมพําแล้วยื่นมือออกไป

 

“เถาโลหิต” ถึงแม้ว่ามันจะวิวัฒนาการเป็นเถาพิษโลหิตแล้วแต่ตัวเบลซเองก็ยังชอบเรียกมันแบบเดิม

 

“แคร้ง แคร้ง แคร้ง แคร็ก แคร้ง แคร็ก แคร้ง” เถาพิษโลหิตทั้งเจ็ดรุมแทงไปที่หิงห้อยประกายเพลิงมีสองเถาที่แทงโดนตรงรอยต่อระหว่างเปลือกและแทงทะลุเปลือกเข้าไปได้ษกัดกร่อนเริ่มทํางานทันที

 

“หวีวีวีวีวีวี่” ทิ้งห้อยประกายเพลิงหวีดร้องก่อนที่ตัวจะลุกท่วมไปด้วยเพลิงสีส้มแดงประกายสีเขียวอ่อนออกมาแน่นอนว่าเพลิงมันลุกลามมาถึงเถาพิษโลหิตของเขาด้วย

 

“เพี้ยะๆๆ เพี้ยะๆๆๆ” เบลซรีบดึงเถาพิษโลหิตกลับมาแล้วฟาดลงพื้นดินเพื่อไฟดับด้วยความเร็วสูง โชคดีที่แค่แวบเดียวเถาเลยไม่ไหม้แต่เปลือกมีร้อยดํานิดหน่อยแต่มันเป็นแค่สารเคลือบข้างนอกเฉยๆ เดี๋ยวเบลชกลับไปเช็ดหรือล้างน้ําก็ออก

 

ไม่นานนิ่งห้อยประกายเพลิงก็บินเปไปเปมาแล้วก็ร่วงลงมานอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้น

 

“หิงห้อยประกายเพลิงไฟ (เขียวอ่อน) ถูกสังหารได้เหรียญชีวิต 15เหรียญ

 

เบลซเดินไปใช่เถาพิษโลหิตแกะหัวมันออกมาและหยิบคริสตัลธาตุไฟเขียวอ่อน)เก็บเข้าไปในถุง รูปร่างของคริสตัลก็เหมือนกับคริสตัลเพลิงทั่วไปแต่ว่ามีประกายสะท้อนแสงเป็นสีเขียวอ่อนและมีสัญลักษณ์มีดสีแดงหุ้มด้วยไฟมันเป็นทักษะซุ่มโจมตีภูตเงาเพลิง

 

“เอาหละนายกินมันได้นะแต่ว่าต้องทําให้สุกก่อน”เบลซบอกกับเจ้าดาบน้อยพิษกัดกร่อนไม่เหมือนกับพิษหัวใจเขียวของเขามันไม่ได้ทําให้เลือดหรืออวัยวะภายในเสียหายและเน่าเสียมันแค่กัดกร่อนและทําลายอวัยวะภายในเชิงกายภาพมากกว่าเหมือนทําให้อวัยวะบางส่วนหายไปจนทํางานไม่ได้เนื้อส่วนที่เหลือไม่ได้เสียหรืออะไรและพิษกัดกร่อนยังสลายไปถ้าโดนความร้อนมากๆนานๆ ดังนั้นตราบใดที่ทําให้สุกก็ไม่มีปัญหา

 

“ฟูววววววววว” ซีฟอสฟนเพลิงย่างนิ่งห้อยประกายเพลิงด้วยความดีใจมันเองก็ใกล้จะวิวัฒนาการครึ่งสีแล้ว และนี้ยังเป็นเนื้อของสัตว์อสูรสีเขียวอ่อนธาตุไฟอีกด้วย

 

“กรัวม กรัวม” เนื่องจากตัวของหิงห้อยแค่เท่าลูกเมล่อนซีฟอสกินหมดในสองคําก่อนที่จะทําท่าทางตื่นเต้นและส่งสัญญาณให้เบลชที่กําลังเก็บเปลือกของหิ่งห้อยประกายเพลิง

 

“จะเลื่อนระดับแล้วหรอ งั้นกลับกันเถอะ” เบลซพูดเพราะสัตว์อสูรวิวัฒนาการต่างจากคนเวลามันวิวัฒนาการมันจะหลับค่อนข้างลึกและถ้าถูกอะไรโจมตีระหว่างนั้นจะเหมือนกับถูกขัดจังหวะการวิวัฒนาการและอาจทําให้ล้มเหลวจนต้องมานั่งสะสมพลังงานใหม่ได้

 

“ครึกครึกๆๆ” รอบนี้เบลซไม่สนใจเรื่องเสียงอีกต่อไปเขาขี้เจ้าดาบน้อยกลับฐานด้วยความเร็ว

 

เมื่อเข้าเขตฐานเบลชก็รีบไปที่บ้านพักแล้วเขาก็ลงจากหลังของเจ้าดาบน้อย เบลซมองไปที่มันตาของมันปรือบอกได้เลยว่ามันรู้สิ่งง่วงมากแล้วก็ทิ้งตัวลงนอน

 

“ให้ตายสิ” เบลซพูดพลางยิ้มแล้วก็ลากเจ้าดาบน้อยไปนอนข้างบ้านพร้อมกับยกผ้านวมผืนใหญ่มาคลุมตัวมันก่อนที่จะเข้าบ้านไป

“โย” เบลซทักทายหลังจากเข้ามาในบ้าน

 

“นายกลับมาก็ดีแล้วช่วยเสกน้ําใส่อ่างให้หน่อยฉันขี้เกียจไปตัด” ชินขอร้องและทํามือแบบ “โอเค็ว”

 

“ได้ๆ แปปนึ่ง” เบลซตอบแล้วก็กางเต็นท์จัดที่นอนของตัวเองก่อนจะไปห้องอาบน้ําแล้วก็เติมน้ําลงไป

 

“ขอบใจมาก” ชินตอบ

 

“แล้วคนอื่นๆหละ?”

 

“จางมู่ไปซ้อมยิงธนูที่อาคารฝึกสอนหนะเหมือนnpcที่นั้นจะสอนทักษะให้ก็เลยยังติดใจอยู่ ส่วนเรย์ลินฉันก็ไม่รู้เห มือนกัน” ชินตอบ

 

“เครๆ ฉันไปอาบน้ําก่อนนะ” เบลซพูดแล้วก็เข้าไปอาบน้ําแน่นอนว่าเข้ารู้อยู่แล้วว่าเรย์ลินกําลังเดินเล่นหวานแหววกับเซลินอยู่ริมแม่น้ําเขาเห็นแวบๆจากที่ไกลๆตอนขี่เจ้าดาบน้อยกลับมาโดยบังเอิญ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+