The Great Geneticist in Apocalypse 55 ได้ง้าวใหม่แล้วสิ

Now you are reading The Great Geneticist in Apocalypse Chapter 55 ได้ง้าวใหม่แล้วสิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

The Great Geneticist in Apocalypse

 

ตอนที่55 ได้ง้าวใหม่แล้วสิ

 

เช้าวันใหม่แสงอาทิตย์แรกแย้มสู้ขอบฟ้าของวันแทนที่ความมืดมิดยามรัตติกาล

 

วันนี้เบลซก็ยังคงตื่นแต่เช้าเข้าอาบน้ําก่อนจะออกมาข้างนอกบ้าน

ที่ลานบ้านเบลซมองไปที่ไข่ยักษ์สีส้มอมแดงเขาลูบมัน เบาๆก่อนจะไปที่ร้านตีเหล็ก

 

“มาแล้วเรอะ อะนี้ง้าวที่เธอฝากไว้” โฮมุนครูส ช่างตีเหล็กกล่าวแล้วยกกล่องไม้ขึ้นมาบนชั้นวาง แล้วก็เปิดกล่องข้างในถูกห่อด้วยผ้าขาวอีกที

 

ช่างตีเหล็กเปิดผ้าที่ห่อออกปรากฏง้าวกรีดนภาด้ามสีดํามันเงาแวววาว ตัวใบง้าวเป็นสีส้มปนน้ําตาลความง้าวเป็นสีแดงแผ่รังสีอุ่นๆออกมา

 

ช่างตีเหล็กยิ้มอย่างภูมิใจแล้วกล่าวว่า “นี้คือง้าวประกายเพลิง อาวุธเขียวอ่อนธาตุไฟ ระดับ12 ใช้มันให้ดีหละ”

 

“ขอบคุณครับ” เบลซยิ้มอย่างดีใจก่อนจะหยิบง้าวประกายเพลิงมาตรวจสอบ

 

ง้าวประกายเพลิง อาวุธเขียวอ่อน <ไฟ> ระดับ12

 

เอฟเฟค

 

ประกายเพลิง เพิ่มพลังโจมตีธาตุเพลิง10%

เจาะเกราะ ถ้าโจมตีใส่เปลือก เกล็ดหรือกระดอง จะมีอนุภาพเจาะทะลวง+10%

 

“ดีจริงๆ ฮืมฮืมฮืม” เบลซกอดง้าวด้วยความรักแล้วเก็บเข้าไปในช่องเก็บของ

“ตื่นเช้าจังนะ” เสียงดังมาจากด้านหลังเบลซหันกลับไป เห็นเอลลี่ในชุดกีฬาทักด้วยสภาพเหงื่อซก

 

“ไปซ้อมมาหรอ?”

 

“แล้วคิดว่าฉันไปทําอะไรมาหละ ตัวเปียกซะขนาดนี้?”

 

“ลื่นตกคลอง” เบลซตอบด้วยท่าทางพูดที่เล่นทีจริง

 

“ไอบ้าาา! ฉันไม่คุยด้วยแล้ว” เอลลี่ทําหน้างอนๆก็จะกลับไปที่บ้านพักผู้หญิง

 

“ฮา! ฮา! ฮ่า! ขี้งอนจังเลยนะเธอนี้” เบลซอดไม่ได้ที่จะขํา แต่ว่าด้วยท่าทางของเธอมันดูน่าแกล้งจริงๆ

 

“อะไรนะฮะ ฮึ้ยยย ฉันจะไม่คุยด้วยแล้ว” เอลลี่หน้าแดงหันกลับมาตอบด้วยโกรธปนกับอะไรที่บอกไม่ถูกก่อน จะเปิดประตูเข้าไปในบ้านพัก

“ต้องไปปลูกเพื่อนๆแล้วสิ” เบลซคิดก่อนจะกลับไปปลุกชิ้นที่นอนยังอยู่บนฟูก

บ้านพักผู้หญิง

 

“อะไรของเขานี้ทําไมชอบยียวนกวนประสาทฉันตลอดเลย!” เอลลี่กําลังอารมณ์เสียพลางบ่นให้เพื่อนๆของเธอฟังด้วยท่าทางน่ารัก

 

“ยอมรับความจริงไปก็ได้มั้งง ว่าชอบเขาใช่ม่ะ” เซลินถามด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก

 

“มะมะมะไม่ใช่ซะหน่อย” เอลลี่หน้าแดงกว่าเดิมพูดถึง

 

“สรุปว่าเธอชอบเขาหรือไม่ชอบเขากันหละไม่เคยได้ยินหรอว่ายิ่งเกลียดยิ่งรักนะ” เอมิเลียพูดด้วยความกรุ้มกริ่ม

 

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทําไมต้องรู้สึกอะไรแบบนี้” เอลลี่พูดด้วยท่าทางจอยๆก่อนจะสลัดความรู้สึกแปลกตอนนี้ออกไปเหลือเพียงแค่ความรู้สึกลึกลับที่สลักอยู่ ในส่วนลึกๆของจิตใจแล้วไปอาบน้ํา

 

“แต่ถ้าเธอไม่ชอบเขาหละก็ฉันจะแย่งเขามาเอง” เมิ่งหยิงหยิงคิดในใจก่อนที่จะไปทําอาหาร

“มีคู่แข่งเพิ่มมาอีกคนแล้ว” เนี่ยนโหยวโหยวคิดในใจ

หลังจากนั้นผ่านไปสองชั่วโมงเนื่องจากไม่อยากรับประทานอาหารที่พื้นเลยตกลงหันใหม่ว่าให้บ้านพักที่ยังไม่มีใครอยู่เป็นห้องกินข้าวและห้องประชุมชั่วคราว

“โทษที่ที่ให้รอนะ” เมิ่งหยิงหยิงเดินเข้ามาพร้อมกับข้าวต้มปลาหม้อใหญหม้อนึ่ง

 

“มีปลาด้วยหรอ?” บางคนถามด้วยความสงสัย

 

“พอดีว่าฉันไม่อยากซ้อมเป้านิ่งหน้าก็เลยฝึกยิงปลาในแม่น้ําแทนก็เลยได้มาอย่างนี้”จางมู่พูดเขาตื่นตั้งแต่เช้าไปซ้อมมธนู แต่ว่าไม่อยากเสียเหรียญชีวิตแล้วก็อยากกินอะไรที่มีประโยชน์ด้วยพอดี เห็นปลาในแม่น้ําพอดี ก็เลยคิดว่ามันเข้าท่า ได้ฝึกไปด้วยได้อาหารด้วยแล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ

 

“งั้นขอบใจมาก” เพื่อนๆกล่าว

 

“แล้ววันนี้เราจะทําอะไรกันดีหละ”

 

“ตามแผนนั้นแหละ ชินสร้างแนวป้องกัน(กําแพงหนาม) อิฟฟรากับอิโนะช่วยกันตัดไม้ขุดหินจะว่าไปพวกนายมีอุปกรณ์ไหม?” เบลซเอะใจขึ้นมาได้เลยถาม

 

“เออโทษทีนะแต่ว่าเราไม่มีหนะ แฮะแฮะ” อิฟฟระตอบ

“งั้นพวกนายหาพวกผักผลไม้ในเขตนี้ก็แล้วกันส่วนเมิ่งหยิงหยิง เธอปลูกข้าวพลังงานสูงนะปลูกไว้ตรงลานบ้านพักผู้หญิงก่อนก็ได้

 

“อืม งั้นไปหละนะ จะว่าไปเรียกฉันว่าหยิงหยิงก็ได้นะ” เมิ่งหยิงหยิงทําท่าทางนารักบิดไปบิดมาก่อนจะรีบกินข้าวต้มปลาแล้วก็รับต้นข้าวพลังงานสูงมาก่อน จะไปหยิบพลัวเล็กแล้วก็เริ่มปลูก แต่ก็เอะใจขึ้นแล้วถามเบลซว่า “แล้วมันไม่ใช่ดินเหนียวหรอ?

 

“ใช้ดินเหนียวก็ดี แต่ว่ามันเป็นพืชกลายพันธ์ ขอแค่ดินอุดมสมบูรณ์ก็พออีกอย่างตรงนั้นเป็นลานบ้านปลูกแค่ชั่วคราวไปก่อนก็พอ เดี๋ยวพอหาดินเหนียวได้แล้วค่อยย้ายไปปลูกที่อื่น”

 

“อื้อ” เมิ่งหยิงหยิงพยักหน้าก่อนจะจากไป

 

“งั้นฉันไปแล้วนะ” รินพูดก่อนจะตามเมิ่งหยิงหยิงไป

 

“ส่วนเอมิเลียเธอช่วยนับของที่เก็บมาเมื่อวานทีนะ ให้โหยวโหยวกับอี้หนานช่วย”

“อ๋อ ไว้ใจได้เลยค่ะ” เอมิเลียพูดขณะที่เนี่ยนโหยวโหยวตีอกตัวเอง

 

“ส่วนจางมู่ นายช่วยดูฐานก็แล้วกันนะถึงจะปลอดภัย แต่ว่านายก็สามารถหาคริสตัลจากสัตว์อสูรที่เข้ามาใกล้ๆได้ และก็ฝากหาปลาด้วยหละ”

 

“อะ แฮะวันนี้ฉันจะต้อเรียนทักษะจากไอนักธนูนั้นให้ได้” จางมู่กําหนดเป้าหมายไว้แล้วว่าวันนี้เขาจะต้องผ่านการทดสอบของโฮมุนครูสนักธนูและได้เรียนทักษะกับเขา 

“เอาหละงั้นพวกเราไปสํารวจกันเถอะ” หลังจากกินข้าวต้มเสร็จเบลซก็ออกไปสํารวจที่จริงเขาอยากจะกลับไปสํารวจที่เมืองแต่ว่าเจ้าดาบน้อยกําลังวัฒนาการอยู่ตอนนี้ ก็เหลือแค่สเกียของเรย์ลินตัวเดียวที่ขี่ได้แล้ว เขาก็ไม่อยากเอารถบัสไปเพราะว่ามันเสียงดังแล้วก็ดึงดูดความสนใจมากไป เนื่องจากตอนนี้ทุกคนก็น่าจะรู้แล้วว่าพลังไฟฟ้าไม่สามารถสร้างด้วยวิธีปกติอีกต่อไป เสียงที่ดังจะทําให้คนหันมามอง ต่างกับขี่สัตว์อสูรถึงแม้อาจจะดูสะดุดตามากกว่าแต่ว่ามันก็สามารถเข้าไปแบบเงียบๆโดยที่ไม่ค่อยมีคนรู้ได้

 

“งั้นวันนี้เราสํารวจรอบๆกันเถอะวันนี้สํารวจรอบๆแล้วก็หาคริสตัลมาพัฒนาคนอื่น”เบลซพูด

 

“แล้วเราจะแยกกันหรือยังไง” เรย์ลินถาม

 

“เอาแบบเดิมก็ได้ เรย์ลินไปกับสเกีย เอาเซลินไปด้วยก็ได้ มีนายกับเจ้าตูบคงไม่มีปัญหาอีกอย่างนี้เป็นตอนเช้าไม่น่าจะเจอสัตว์อสูรสีเขียวอ่อนหรอก”

 

เรย์ลิ่นขมวดคิ้วก่อนจะถาม “แสดงว่านายเจอมันเมื่อคืน?”

 

“ใช่ แต่ว่าฉันฆ่าไปแล้วพื้นที่เดียวกันไม่ควรจะมี มากนักในเวลาแต่ระวังตัวหน่อยก็ดี กลับมาเจอกันราวๆเที่ยงนะ”

 

“งั้นไปหละนะ เซลิน ขี่หลังสเกียไว้ดีๆหละ”

 

“จ้าที่รัก” เซลินขี่หมาป่าสีดําก่อนจะจ้องตาไปที่เอลลี่อย่างมีนัยยะ “โชคดีนะ”

 

“ฉันไปนะโชคดีหละเพื่อน” เรย์ลินตอบแล้วคู่รักกับเจ้าตูบก็ไปสํารวจทางหนึ่ง

 

“งั้นเราก็ไปกันเถอะ” เบลซพูดแล้วก็ไปสํารวจอีกทางกับเอลลี

 

“อื้อ!” เอลลี่รู้สึกร่าเริงอย่างบอกไม่ถูกและเดินตามเบลซไปด้วยรอยยิ้ม

 

“แกรกๆ แกรกๆ” ทั้งสองเดินเลาะเข้าไป ยังไม่เจออะไรนอกจะต้นไม้และต้นหญ้าต่างๆ

 

“นั้นมันอะไรหนะ” เอลลี่ถามด้วยความสงสัยก่อนจะชี้ไปที่ผลไม้ลูกหนึ่ง

 

“นั้นก็แค่ส้มธรรมดาหนะแต่ว่าเอากลับไปปลูกที่ฐานดีกว่า”

 

“ใช่ม่ะ” เอลลี่ตอบอย่างร่าเริงก่อนจะพุ่งไปเก็บผลส้ม

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

The Great Geneticist in Apocalypse 55 ได้ง้าวใหม่แล้วสิ

Now you are reading The Great Geneticist in Apocalypse Chapter 55 ได้ง้าวใหม่แล้วสิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

The Great Geneticist in Apocalypse

 

ตอนที่55 ได้ง้าวใหม่แล้วสิ

 

เช้าวันใหม่แสงอาทิตย์แรกแย้มสู้ขอบฟ้าของวันแทนที่ความมืดมิดยามรัตติกาล

 

วันนี้เบลซก็ยังคงตื่นแต่เช้าเข้าอาบน้ําก่อนจะออกมาข้างนอกบ้าน

ที่ลานบ้านเบลซมองไปที่ไข่ยักษ์สีส้มอมแดงเขาลูบมัน เบาๆก่อนจะไปที่ร้านตีเหล็ก

 

“มาแล้วเรอะ อะนี้ง้าวที่เธอฝากไว้” โฮมุนครูส ช่างตีเหล็กกล่าวแล้วยกกล่องไม้ขึ้นมาบนชั้นวาง แล้วก็เปิดกล่องข้างในถูกห่อด้วยผ้าขาวอีกที

 

ช่างตีเหล็กเปิดผ้าที่ห่อออกปรากฏง้าวกรีดนภาด้ามสีดํามันเงาแวววาว ตัวใบง้าวเป็นสีส้มปนน้ําตาลความง้าวเป็นสีแดงแผ่รังสีอุ่นๆออกมา

 

ช่างตีเหล็กยิ้มอย่างภูมิใจแล้วกล่าวว่า “นี้คือง้าวประกายเพลิง อาวุธเขียวอ่อนธาตุไฟ ระดับ12 ใช้มันให้ดีหละ”

 

“ขอบคุณครับ” เบลซยิ้มอย่างดีใจก่อนจะหยิบง้าวประกายเพลิงมาตรวจสอบ

 

ง้าวประกายเพลิง อาวุธเขียวอ่อน <ไฟ> ระดับ12

 

เอฟเฟค

 

ประกายเพลิง เพิ่มพลังโจมตีธาตุเพลิง10%

เจาะเกราะ ถ้าโจมตีใส่เปลือก เกล็ดหรือกระดอง จะมีอนุภาพเจาะทะลวง+10%

 

“ดีจริงๆ ฮืมฮืมฮืม” เบลซกอดง้าวด้วยความรักแล้วเก็บเข้าไปในช่องเก็บของ

“ตื่นเช้าจังนะ” เสียงดังมาจากด้านหลังเบลซหันกลับไป เห็นเอลลี่ในชุดกีฬาทักด้วยสภาพเหงื่อซก

 

“ไปซ้อมมาหรอ?”

 

“แล้วคิดว่าฉันไปทําอะไรมาหละ ตัวเปียกซะขนาดนี้?”

 

“ลื่นตกคลอง” เบลซตอบด้วยท่าทางพูดที่เล่นทีจริง

 

“ไอบ้าาา! ฉันไม่คุยด้วยแล้ว” เอลลี่ทําหน้างอนๆก็จะกลับไปที่บ้านพักผู้หญิง

 

“ฮา! ฮา! ฮ่า! ขี้งอนจังเลยนะเธอนี้” เบลซอดไม่ได้ที่จะขํา แต่ว่าด้วยท่าทางของเธอมันดูน่าแกล้งจริงๆ

 

“อะไรนะฮะ ฮึ้ยยย ฉันจะไม่คุยด้วยแล้ว” เอลลี่หน้าแดงหันกลับมาตอบด้วยโกรธปนกับอะไรที่บอกไม่ถูกก่อน จะเปิดประตูเข้าไปในบ้านพัก

“ต้องไปปลูกเพื่อนๆแล้วสิ” เบลซคิดก่อนจะกลับไปปลุกชิ้นที่นอนยังอยู่บนฟูก

บ้านพักผู้หญิง

 

“อะไรของเขานี้ทําไมชอบยียวนกวนประสาทฉันตลอดเลย!” เอลลี่กําลังอารมณ์เสียพลางบ่นให้เพื่อนๆของเธอฟังด้วยท่าทางน่ารัก

 

“ยอมรับความจริงไปก็ได้มั้งง ว่าชอบเขาใช่ม่ะ” เซลินถามด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก

 

“มะมะมะไม่ใช่ซะหน่อย” เอลลี่หน้าแดงกว่าเดิมพูดถึง

 

“สรุปว่าเธอชอบเขาหรือไม่ชอบเขากันหละไม่เคยได้ยินหรอว่ายิ่งเกลียดยิ่งรักนะ” เอมิเลียพูดด้วยความกรุ้มกริ่ม

 

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทําไมต้องรู้สึกอะไรแบบนี้” เอลลี่พูดด้วยท่าทางจอยๆก่อนจะสลัดความรู้สึกแปลกตอนนี้ออกไปเหลือเพียงแค่ความรู้สึกลึกลับที่สลักอยู่ ในส่วนลึกๆของจิตใจแล้วไปอาบน้ํา

 

“แต่ถ้าเธอไม่ชอบเขาหละก็ฉันจะแย่งเขามาเอง” เมิ่งหยิงหยิงคิดในใจก่อนที่จะไปทําอาหาร

“มีคู่แข่งเพิ่มมาอีกคนแล้ว” เนี่ยนโหยวโหยวคิดในใจ

หลังจากนั้นผ่านไปสองชั่วโมงเนื่องจากไม่อยากรับประทานอาหารที่พื้นเลยตกลงหันใหม่ว่าให้บ้านพักที่ยังไม่มีใครอยู่เป็นห้องกินข้าวและห้องประชุมชั่วคราว

“โทษที่ที่ให้รอนะ” เมิ่งหยิงหยิงเดินเข้ามาพร้อมกับข้าวต้มปลาหม้อใหญหม้อนึ่ง

 

“มีปลาด้วยหรอ?” บางคนถามด้วยความสงสัย

 

“พอดีว่าฉันไม่อยากซ้อมเป้านิ่งหน้าก็เลยฝึกยิงปลาในแม่น้ําแทนก็เลยได้มาอย่างนี้”จางมู่พูดเขาตื่นตั้งแต่เช้าไปซ้อมมธนู แต่ว่าไม่อยากเสียเหรียญชีวิตแล้วก็อยากกินอะไรที่มีประโยชน์ด้วยพอดี เห็นปลาในแม่น้ําพอดี ก็เลยคิดว่ามันเข้าท่า ได้ฝึกไปด้วยได้อาหารด้วยแล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ

 

“งั้นขอบใจมาก” เพื่อนๆกล่าว

 

“แล้ววันนี้เราจะทําอะไรกันดีหละ”

 

“ตามแผนนั้นแหละ ชินสร้างแนวป้องกัน(กําแพงหนาม) อิฟฟรากับอิโนะช่วยกันตัดไม้ขุดหินจะว่าไปพวกนายมีอุปกรณ์ไหม?” เบลซเอะใจขึ้นมาได้เลยถาม

 

“เออโทษทีนะแต่ว่าเราไม่มีหนะ แฮะแฮะ” อิฟฟระตอบ

“งั้นพวกนายหาพวกผักผลไม้ในเขตนี้ก็แล้วกันส่วนเมิ่งหยิงหยิง เธอปลูกข้าวพลังงานสูงนะปลูกไว้ตรงลานบ้านพักผู้หญิงก่อนก็ได้

 

“อืม งั้นไปหละนะ จะว่าไปเรียกฉันว่าหยิงหยิงก็ได้นะ” เมิ่งหยิงหยิงทําท่าทางนารักบิดไปบิดมาก่อนจะรีบกินข้าวต้มปลาแล้วก็รับต้นข้าวพลังงานสูงมาก่อน จะไปหยิบพลัวเล็กแล้วก็เริ่มปลูก แต่ก็เอะใจขึ้นแล้วถามเบลซว่า “แล้วมันไม่ใช่ดินเหนียวหรอ?

 

“ใช้ดินเหนียวก็ดี แต่ว่ามันเป็นพืชกลายพันธ์ ขอแค่ดินอุดมสมบูรณ์ก็พออีกอย่างตรงนั้นเป็นลานบ้านปลูกแค่ชั่วคราวไปก่อนก็พอ เดี๋ยวพอหาดินเหนียวได้แล้วค่อยย้ายไปปลูกที่อื่น”

 

“อื้อ” เมิ่งหยิงหยิงพยักหน้าก่อนจะจากไป

 

“งั้นฉันไปแล้วนะ” รินพูดก่อนจะตามเมิ่งหยิงหยิงไป

 

“ส่วนเอมิเลียเธอช่วยนับของที่เก็บมาเมื่อวานทีนะ ให้โหยวโหยวกับอี้หนานช่วย”

“อ๋อ ไว้ใจได้เลยค่ะ” เอมิเลียพูดขณะที่เนี่ยนโหยวโหยวตีอกตัวเอง

 

“ส่วนจางมู่ นายช่วยดูฐานก็แล้วกันนะถึงจะปลอดภัย แต่ว่านายก็สามารถหาคริสตัลจากสัตว์อสูรที่เข้ามาใกล้ๆได้ และก็ฝากหาปลาด้วยหละ”

 

“อะ แฮะวันนี้ฉันจะต้อเรียนทักษะจากไอนักธนูนั้นให้ได้” จางมู่กําหนดเป้าหมายไว้แล้วว่าวันนี้เขาจะต้องผ่านการทดสอบของโฮมุนครูสนักธนูและได้เรียนทักษะกับเขา 

“เอาหละงั้นพวกเราไปสํารวจกันเถอะ” หลังจากกินข้าวต้มเสร็จเบลซก็ออกไปสํารวจที่จริงเขาอยากจะกลับไปสํารวจที่เมืองแต่ว่าเจ้าดาบน้อยกําลังวัฒนาการอยู่ตอนนี้ ก็เหลือแค่สเกียของเรย์ลินตัวเดียวที่ขี่ได้แล้ว เขาก็ไม่อยากเอารถบัสไปเพราะว่ามันเสียงดังแล้วก็ดึงดูดความสนใจมากไป เนื่องจากตอนนี้ทุกคนก็น่าจะรู้แล้วว่าพลังไฟฟ้าไม่สามารถสร้างด้วยวิธีปกติอีกต่อไป เสียงที่ดังจะทําให้คนหันมามอง ต่างกับขี่สัตว์อสูรถึงแม้อาจจะดูสะดุดตามากกว่าแต่ว่ามันก็สามารถเข้าไปแบบเงียบๆโดยที่ไม่ค่อยมีคนรู้ได้

 

“งั้นวันนี้เราสํารวจรอบๆกันเถอะวันนี้สํารวจรอบๆแล้วก็หาคริสตัลมาพัฒนาคนอื่น”เบลซพูด

 

“แล้วเราจะแยกกันหรือยังไง” เรย์ลินถาม

 

“เอาแบบเดิมก็ได้ เรย์ลินไปกับสเกีย เอาเซลินไปด้วยก็ได้ มีนายกับเจ้าตูบคงไม่มีปัญหาอีกอย่างนี้เป็นตอนเช้าไม่น่าจะเจอสัตว์อสูรสีเขียวอ่อนหรอก”

 

เรย์ลิ่นขมวดคิ้วก่อนจะถาม “แสดงว่านายเจอมันเมื่อคืน?”

 

“ใช่ แต่ว่าฉันฆ่าไปแล้วพื้นที่เดียวกันไม่ควรจะมี มากนักในเวลาแต่ระวังตัวหน่อยก็ดี กลับมาเจอกันราวๆเที่ยงนะ”

 

“งั้นไปหละนะ เซลิน ขี่หลังสเกียไว้ดีๆหละ”

 

“จ้าที่รัก” เซลินขี่หมาป่าสีดําก่อนจะจ้องตาไปที่เอลลี่อย่างมีนัยยะ “โชคดีนะ”

 

“ฉันไปนะโชคดีหละเพื่อน” เรย์ลินตอบแล้วคู่รักกับเจ้าตูบก็ไปสํารวจทางหนึ่ง

 

“งั้นเราก็ไปกันเถอะ” เบลซพูดแล้วก็ไปสํารวจอีกทางกับเอลลี

 

“อื้อ!” เอลลี่รู้สึกร่าเริงอย่างบอกไม่ถูกและเดินตามเบลซไปด้วยรอยยิ้ม

 

“แกรกๆ แกรกๆ” ทั้งสองเดินเลาะเข้าไป ยังไม่เจออะไรนอกจะต้นไม้และต้นหญ้าต่างๆ

 

“นั้นมันอะไรหนะ” เอลลี่ถามด้วยความสงสัยก่อนจะชี้ไปที่ผลไม้ลูกหนึ่ง

 

“นั้นก็แค่ส้มธรรมดาหนะแต่ว่าเอากลับไปปลูกที่ฐานดีกว่า”

 

“ใช่ม่ะ” เอลลี่ตอบอย่างร่าเริงก่อนจะพุ่งไปเก็บผลส้ม

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+