The Great Geneticist in Apocalypse 57 เจอรังแมงปองคริสตัลแล้วสิ

Now you are reading The Great Geneticist in Apocalypse Chapter 57 เจอรังแมงปองคริสตัลแล้วสิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่57 เจอรังแมงปองคริสตัลแล้วสิ

หลังจากกอดกันพักนึงเบลซกับเอลลี่ค่อยๆผละออกจากกันทั้งสองความจริงแก้มแดงระเรื่อแต่ว่าด้วยแสงสลัวๆของง้าวประกายเพลิงเลยทําให้ดูไม่ออก แต่ที่แน่ๆคือสีหน้าและอารมณ์ของทั้งคู่ดีขึ้นอย่างมากความตึงเครียดที่สะสมมาจากทั้งการกดดัน การเอาชีวิตรอดและการฆ่าถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกที่อบอุ่น ถึงจะไม่รู้ตัว แต่ว่าเมื่อไม่มีความเครียดและความกดดันคอยกดทับ ประสิทธิภาพและศักยภาพของทั้งคู่กลับมาเต็มประสิทธิภาพและเผลอๆจะดีขึ้นมากด้วย

 

“งั้นเรามาเริ่มลองทักษะใหม่ก่อนนะ” เบลซพูดด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความลึกซึ้งก่อนจะใช้ทดลองทักษะภูตเงาเพลิง

 

หลังจากทดลองหลายๆแบบทําให้สามารถจํากัดความสามารถของทักษะนี้ได้

 

อย่างแรก ทักษะนี้จะบิดเบือนแสงรอบๆได้ก็ต่อเมื่ออยู่ไม่เคลื่อนที่หรืออยู่กับที่เท่านั้น หมายความว่า สามารถขยับตัว(เคลื่อนไหว)ได้ แต่ว่าถ้าเท้าขยับเช่น ย่อง เดิน วิ่ง หรือกระโดดไปที่อื่น(เคลื่อนที่) จะยกเลิกการหายตัวทันที

สองคือความแรงในการโจมตี ระหว่างที่หายตัวถ้าเกิดใช้ธาตุไฟ โจมตีจะตีแรงขึ้นมากแต่ว่าจะยกเลิกการหายตัวและหลังจากโจมตีแล้วจะมีช่วงชะงักของทักษะไม่สามารถใช้ภูติเงาเพลิงได้ราวๆห้าวินาที

 

สามมันแค่หายตัวเฉยๆไม่สามารถเก็บเสียงเช่นเวลาพูดไอจามหรือหายใจแรงๆได้

 

“เราไปกันต่อเถอะ” เบลซพูดคว้าจับมือเอลลี่ข้างที่ไม่ถือดาบ

 

เอลลี่เดินตามด้วยหน้าแดงระเรื่อเธอรู้สึกอายนิดๆ แต่ก็เต็มไปด้วยความดีใจและก็ไม่ลดความระวังตัวต่อสภาพรอบๆลง

“ตรงนั้นมีทางโค้ง” เบลซกระซิบหลังจากเข้ามาลึกประมาณ 25 เมตรเห็นจะได้ เบลซเจอทางโค้งของถ้ํา

“ให้ฉันไปดูเองละกัน” เบลซพูดก่อนจะย่องเข้าไปชิดกับผนังถ้ํา และใช้ทักษะภูตเงาเพลิงทันที่แน่นอนว่าเขาก็หายตัวและชะเง้อมองไปที่อีกมุมทางโค้ง

เบลซเห็นแมงปองคริสตัล8ตัวมีสองตัวที่เด่นออกมาตัวนึง มันเป็นสีฟ้าอ่อนเหมือนตัวอื่นๆที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ แต่ว่ามันตัวใหญ่กว่าราวๆ2-3เท่ามันมีเหล็กในสีแดงใสเย็นยะเยือก ที่ใครเห็นก็ต้องกลัวไม่รู้ว่าเบลซรู้สึกไปเองรึปล่าว แต่ว่าเขารู้สึกได้ถึงไอเย็นที่ปะทะกับใบหน้าของเขา

 

อีกตัวนึงก็มีลักษณะเหมือนกันตัวแรกแต่ว่าตัวเล็กกว่าเบลซยนมือออกไปก่อนจะคิดในใจว่า “ประเมิน”

 

“แมงปองคริสตัลเหมันต์ น้ําแข็ง (ขาว)ระดับ14”

“นางพญาแมงปองคริสตัลเหมันต์<ดิน น้ําแข็ง>(เขียวอ่อน)ระดับ11ทักษะ<?><?>

“เจอของโหดเข้าแล้วสิ รอบๆฐานนี้จะมีระดับสีเขียวอ่อนเยอะไปไหมเนี่ย แต่ว่าช่วยไม่ได้มันอุตส่าห์มาหลบอยู่ในถ้ําปกติ คงออกมาแค่ตอนกลางคืน แต่เป็นเราเองที่ดันเข้ามา” เบลซอดไม่ได้ที่จะคิดว่าตัวเองทั้งโชคดีและงานเข้าในเวลาเดียวกัน

 

เบลซขยันตัวเองกลับมาที่เดิมก่อนจะยกเลิกทักษะภูติเพลิงแล้วกระซิบบอกเอลลี่

 

“ออกไปกันก่อนกลับฐานแล้วเรามาวางแผนกัน”เบลซกระซิบ

เอลลี่พยักหน้าก่อนที่ทั้งสองคนจะค่อยๆออกจากถ้ํา

 

หลังจากออกมาแล้วทั้งคู่ก็สํารวจรอบๆก็เจอกับบลูเบอรี่พุ่มเตี้ยสามสี่ต้น แน่นอนว่าเบลซใช้เถาโลหิตเซาะดินให้ร่วนๆก่อนจะดีงมันขึ้นมาทั้งรากและเก็บเข้าไปในช่องเก็บของ

หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ไม่เจออะไรอีก เมื่อดวงอาทิตย์ใกล้ตรงหัว(เที่ยง) แล้วเบลซก็กลับมาตรงจุดที่นัดกับเรย์ลินและเซลินไหม

 

หลังจากรอได้พักนึงเรย์ลินกับเซลินก็มาถึง

 

“ทางนั้นเป็นยังไงบ้าง?” เรย์ลินถาม

 

“นั้นทางนั้นเป็นยังไงบ้าง” เซลินถามเอลลี่เหมือนกัน แต่ดูเหมือนเธอจะถามคนละความหมายกับเรย์ลิน

เอลลี่เอียงอายเล็กน้อยแต่ไม่พูดอะไรสวนเบลซก็ตอบไปเรียบๆถึงจริงจัง “รายละเอียดมันเยอะไปคุยในฐานดีกว่า”

“อืม” เรย์ลินพยักหน้าก่อนจะขี่สเกียโดยมีเซลินนั่งซ้อนอยู่ข้างหลังกลับฐาน

 

“โย่วกลับมาแล้วหรอ เป็นยังไงบ้าง” ชินโบกมือพลางตะโกน

“กินข้าวกลางวันกันเถอะ!” เมิ่งหยิ่งหยิงพูดพลางยกหม้อขนาดใหญ่ไปยังห้องอาหารชั่วคราว

 

สิ่งแรกที่เบลซเห็นหลังจากกลับมาคือพื้นที่ราวๆรัศมี50เมตรโดยมีแกนกลางฐานเป็นจุดศูนย์กลางมีกําแพงหนามศิลารอบประมาณ1ใน3แล้วส่วนอิฟฟราและอิโนะก็หาหัวมันฝรั่งได้นิดหน่อยในอาณาเขตบาเรียซึ่งได้เอาไปให้เมิ่งหยิ่งหยิงปลูกไปแล้ว

 

ส่วนเอมิเลียที่มีเนียนโหย่วโหย่วและอี้หนานคอยช่วย ก็ได้นับของที่เก็บมาจากร้านสะดวกซื้อและของอื่นๆใส่กระดาษแล้วยื่นให้เบลซคร่าวๆ หลังจากอ่านแล้วเบลซก็คืนเอมิเลียไป

 

“เอาหละก่อนอื่นเรามากินกันก่อน” ทุกคนไปรวมกันที่ห้องอาหารชั่วคราว ข้าวกลางวันมื้อนี้เป็นบะหมี่กึ่งสําเร็จรูปง่ายๆที่มีสาหร่ายซึ่งมาจากสาหร่ายอบแห้ง และไส้กรอก

หลังจากกินกันเสร็จแล้วก็เริ่มเล่าสิ่งที่ได้เจอในการสํารวจฝั่งของเรย์ลินไม่เจออะไรพิเศษ เจอแค่สัตว์อสูรธรรมดาไม่กี่ตัวและธาตุน้ําหนึ่งชิ้นซึ่งเบลซก็ให้เรย์ดินดูดซับไปเลย

ส่วนทางฝั่งเบลซเองก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับถ้ําที่ได้เข้าไปเจอรังของแมงปองคริสตัล

 

“แสดงว่าพวกเราต้องไปช่วยกันจัดการมันใช้มั้ย?” จางมู่ถามด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ดูเหมือนเขาจะได้รับทักษะจากโฮมุนครูส นักธนูได้สําเร็จและอยากลองเต็มแก่แล้ว

“ใช่ เพราะว่ามันอยู่ใกล้ฐานของพวกเรามากไป และถ้าทิ้งเอาไว้มันจะกลายเป็นหายนะของเราในภายหลัง” เบลซตอบพวกสัตว์อสูรมันวิวัฒนาการไวอยู่แล้ว และถ้ารวมเป็นกลุ่มใหญ่ๆอยู่ใกล้ฐานนี่มันเป็นหายนะในอนาคตแน่ๆ แค่คิดว่าตอนเวลาพักบาเรียแล้วมีฝูงสัตว์อสูรอยู่ใกล้ๆก็สยองแล้ว

 

“งั้นเราจะไปจัดการมันเมื่อไหร่” ชินถาม

“พวกนายวันนี้ทํางานมากทั้งวันละ พึ่งจะมากินข้าวกันไปพักอีกหน่อยอีกซัก3ชั่วโมงค่อยมาเจอกันที่นี่”

“โอเค” เพื่อนๆตอบก่อนจะแยกย้ายกันไปนอนพักเอาแรงส่วนคนที่ไม่ได้ไปสู้ก็ยังทํางานอยู่อย่างเช่นรินและเมิ่งหยิ่งหยิ่งที่เอาต้นบลูเบอรี่พุ่มเตี้ยที่เบลซได้มาไปปลูกและใส่พลังธาตุพืชเข้าไปถ้าหากไม่ได้พลังธาตุพืชกระตุ้นตอนที่ปลูก ต้นไม้จะไม่สามารถสร้างพลังชีวิตได้ค่อยๆแห้งและตายไป หลังจากให้พลังธาตุพืชกระตุ้นแล้วต้นไม้ก็จะอยู่ได้ด้วยตัวเองเหมือนต้นไม้ปกติในยุคนี้

เบลซก็เดินไปที่บ้านพักชายเขาเข้าไปในห้องน้ําล้างตัวให้สบายและนอนอย่างผ่อนคลายเพื่อพักผ่อนให้ได้มากที่สุด

3 ชั่วโมงผ่านไป

 

“ตื่นได้แล้วเพื่อน” ชินปลุก

 

“นี้ผ่านไปสามชั่วโมงแล้วหรอไวจริงๆ” เบลซบิดขี้เกียจก่อนจะออกไปที่ห้องทานอาหารชั่วคราว

 

ในห้องทุกคนมากันครบแล้วได้แก่ เบลซ เรย์ลิน ชิน จางมู่เอลลี่เอมิเลียเซลินและเมิ่งหยิ่งหยิ่ง

“เอาหละมาแผนกันดีกว่า” เบลซพูดแล้วเริ่มอธิบายแผนที่ละ

หลังจากที่ทุกคนเข้าใจแล้วก็ออกเดินทางไปยังถ้ําที่เป็นรังของแมงปองคริสตัล

 

หลังจากเดินมาพักนึงก็ถึงปากถ้ําเบลซและเพื่อนๆเริ่มทําตามแผนที่วางไว้

“เอาหละยังไงทุกคนก็รออยู่ตรงนี้ก่อนนะ จางมู่ เอมิเลียตามฉันมา”เบลซพูดก่อนที่จะเข้าไปในถ้ําพร้อมกับจางมู่และเอมิเลีย

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

The Great Geneticist in Apocalypse 57 เจอรังแมงปองคริสตัลแล้วสิ

Now you are reading The Great Geneticist in Apocalypse Chapter 57 เจอรังแมงปองคริสตัลแล้วสิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่57 เจอรังแมงปองคริสตัลแล้วสิ

หลังจากกอดกันพักนึงเบลซกับเอลลี่ค่อยๆผละออกจากกันทั้งสองความจริงแก้มแดงระเรื่อแต่ว่าด้วยแสงสลัวๆของง้าวประกายเพลิงเลยทําให้ดูไม่ออก แต่ที่แน่ๆคือสีหน้าและอารมณ์ของทั้งคู่ดีขึ้นอย่างมากความตึงเครียดที่สะสมมาจากทั้งการกดดัน การเอาชีวิตรอดและการฆ่าถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกที่อบอุ่น ถึงจะไม่รู้ตัว แต่ว่าเมื่อไม่มีความเครียดและความกดดันคอยกดทับ ประสิทธิภาพและศักยภาพของทั้งคู่กลับมาเต็มประสิทธิภาพและเผลอๆจะดีขึ้นมากด้วย

 

“งั้นเรามาเริ่มลองทักษะใหม่ก่อนนะ” เบลซพูดด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความลึกซึ้งก่อนจะใช้ทดลองทักษะภูตเงาเพลิง

 

หลังจากทดลองหลายๆแบบทําให้สามารถจํากัดความสามารถของทักษะนี้ได้

 

อย่างแรก ทักษะนี้จะบิดเบือนแสงรอบๆได้ก็ต่อเมื่ออยู่ไม่เคลื่อนที่หรืออยู่กับที่เท่านั้น หมายความว่า สามารถขยับตัว(เคลื่อนไหว)ได้ แต่ว่าถ้าเท้าขยับเช่น ย่อง เดิน วิ่ง หรือกระโดดไปที่อื่น(เคลื่อนที่) จะยกเลิกการหายตัวทันที

สองคือความแรงในการโจมตี ระหว่างที่หายตัวถ้าเกิดใช้ธาตุไฟ โจมตีจะตีแรงขึ้นมากแต่ว่าจะยกเลิกการหายตัวและหลังจากโจมตีแล้วจะมีช่วงชะงักของทักษะไม่สามารถใช้ภูติเงาเพลิงได้ราวๆห้าวินาที

 

สามมันแค่หายตัวเฉยๆไม่สามารถเก็บเสียงเช่นเวลาพูดไอจามหรือหายใจแรงๆได้

 

“เราไปกันต่อเถอะ” เบลซพูดคว้าจับมือเอลลี่ข้างที่ไม่ถือดาบ

 

เอลลี่เดินตามด้วยหน้าแดงระเรื่อเธอรู้สึกอายนิดๆ แต่ก็เต็มไปด้วยความดีใจและก็ไม่ลดความระวังตัวต่อสภาพรอบๆลง

“ตรงนั้นมีทางโค้ง” เบลซกระซิบหลังจากเข้ามาลึกประมาณ 25 เมตรเห็นจะได้ เบลซเจอทางโค้งของถ้ํา

“ให้ฉันไปดูเองละกัน” เบลซพูดก่อนจะย่องเข้าไปชิดกับผนังถ้ํา และใช้ทักษะภูตเงาเพลิงทันที่แน่นอนว่าเขาก็หายตัวและชะเง้อมองไปที่อีกมุมทางโค้ง

เบลซเห็นแมงปองคริสตัล8ตัวมีสองตัวที่เด่นออกมาตัวนึง มันเป็นสีฟ้าอ่อนเหมือนตัวอื่นๆที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ แต่ว่ามันตัวใหญ่กว่าราวๆ2-3เท่ามันมีเหล็กในสีแดงใสเย็นยะเยือก ที่ใครเห็นก็ต้องกลัวไม่รู้ว่าเบลซรู้สึกไปเองรึปล่าว แต่ว่าเขารู้สึกได้ถึงไอเย็นที่ปะทะกับใบหน้าของเขา

 

อีกตัวนึงก็มีลักษณะเหมือนกันตัวแรกแต่ว่าตัวเล็กกว่าเบลซยนมือออกไปก่อนจะคิดในใจว่า “ประเมิน”

 

“แมงปองคริสตัลเหมันต์ น้ําแข็ง (ขาว)ระดับ14”

“นางพญาแมงปองคริสตัลเหมันต์<ดิน น้ําแข็ง>(เขียวอ่อน)ระดับ11ทักษะ<?><?>

“เจอของโหดเข้าแล้วสิ รอบๆฐานนี้จะมีระดับสีเขียวอ่อนเยอะไปไหมเนี่ย แต่ว่าช่วยไม่ได้มันอุตส่าห์มาหลบอยู่ในถ้ําปกติ คงออกมาแค่ตอนกลางคืน แต่เป็นเราเองที่ดันเข้ามา” เบลซอดไม่ได้ที่จะคิดว่าตัวเองทั้งโชคดีและงานเข้าในเวลาเดียวกัน

 

เบลซขยันตัวเองกลับมาที่เดิมก่อนจะยกเลิกทักษะภูติเพลิงแล้วกระซิบบอกเอลลี่

 

“ออกไปกันก่อนกลับฐานแล้วเรามาวางแผนกัน”เบลซกระซิบ

เอลลี่พยักหน้าก่อนที่ทั้งสองคนจะค่อยๆออกจากถ้ํา

 

หลังจากออกมาแล้วทั้งคู่ก็สํารวจรอบๆก็เจอกับบลูเบอรี่พุ่มเตี้ยสามสี่ต้น แน่นอนว่าเบลซใช้เถาโลหิตเซาะดินให้ร่วนๆก่อนจะดีงมันขึ้นมาทั้งรากและเก็บเข้าไปในช่องเก็บของ

หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ไม่เจออะไรอีก เมื่อดวงอาทิตย์ใกล้ตรงหัว(เที่ยง) แล้วเบลซก็กลับมาตรงจุดที่นัดกับเรย์ลินและเซลินไหม

 

หลังจากรอได้พักนึงเรย์ลินกับเซลินก็มาถึง

 

“ทางนั้นเป็นยังไงบ้าง?” เรย์ลินถาม

 

“นั้นทางนั้นเป็นยังไงบ้าง” เซลินถามเอลลี่เหมือนกัน แต่ดูเหมือนเธอจะถามคนละความหมายกับเรย์ลิน

เอลลี่เอียงอายเล็กน้อยแต่ไม่พูดอะไรสวนเบลซก็ตอบไปเรียบๆถึงจริงจัง “รายละเอียดมันเยอะไปคุยในฐานดีกว่า”

“อืม” เรย์ลินพยักหน้าก่อนจะขี่สเกียโดยมีเซลินนั่งซ้อนอยู่ข้างหลังกลับฐาน

 

“โย่วกลับมาแล้วหรอ เป็นยังไงบ้าง” ชินโบกมือพลางตะโกน

“กินข้าวกลางวันกันเถอะ!” เมิ่งหยิ่งหยิงพูดพลางยกหม้อขนาดใหญ่ไปยังห้องอาหารชั่วคราว

 

สิ่งแรกที่เบลซเห็นหลังจากกลับมาคือพื้นที่ราวๆรัศมี50เมตรโดยมีแกนกลางฐานเป็นจุดศูนย์กลางมีกําแพงหนามศิลารอบประมาณ1ใน3แล้วส่วนอิฟฟราและอิโนะก็หาหัวมันฝรั่งได้นิดหน่อยในอาณาเขตบาเรียซึ่งได้เอาไปให้เมิ่งหยิ่งหยิงปลูกไปแล้ว

 

ส่วนเอมิเลียที่มีเนียนโหย่วโหย่วและอี้หนานคอยช่วย ก็ได้นับของที่เก็บมาจากร้านสะดวกซื้อและของอื่นๆใส่กระดาษแล้วยื่นให้เบลซคร่าวๆ หลังจากอ่านแล้วเบลซก็คืนเอมิเลียไป

 

“เอาหละก่อนอื่นเรามากินกันก่อน” ทุกคนไปรวมกันที่ห้องอาหารชั่วคราว ข้าวกลางวันมื้อนี้เป็นบะหมี่กึ่งสําเร็จรูปง่ายๆที่มีสาหร่ายซึ่งมาจากสาหร่ายอบแห้ง และไส้กรอก

หลังจากกินกันเสร็จแล้วก็เริ่มเล่าสิ่งที่ได้เจอในการสํารวจฝั่งของเรย์ลินไม่เจออะไรพิเศษ เจอแค่สัตว์อสูรธรรมดาไม่กี่ตัวและธาตุน้ําหนึ่งชิ้นซึ่งเบลซก็ให้เรย์ดินดูดซับไปเลย

ส่วนทางฝั่งเบลซเองก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับถ้ําที่ได้เข้าไปเจอรังของแมงปองคริสตัล

 

“แสดงว่าพวกเราต้องไปช่วยกันจัดการมันใช้มั้ย?” จางมู่ถามด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ดูเหมือนเขาจะได้รับทักษะจากโฮมุนครูส นักธนูได้สําเร็จและอยากลองเต็มแก่แล้ว

“ใช่ เพราะว่ามันอยู่ใกล้ฐานของพวกเรามากไป และถ้าทิ้งเอาไว้มันจะกลายเป็นหายนะของเราในภายหลัง” เบลซตอบพวกสัตว์อสูรมันวิวัฒนาการไวอยู่แล้ว และถ้ารวมเป็นกลุ่มใหญ่ๆอยู่ใกล้ฐานนี่มันเป็นหายนะในอนาคตแน่ๆ แค่คิดว่าตอนเวลาพักบาเรียแล้วมีฝูงสัตว์อสูรอยู่ใกล้ๆก็สยองแล้ว

 

“งั้นเราจะไปจัดการมันเมื่อไหร่” ชินถาม

“พวกนายวันนี้ทํางานมากทั้งวันละ พึ่งจะมากินข้าวกันไปพักอีกหน่อยอีกซัก3ชั่วโมงค่อยมาเจอกันที่นี่”

“โอเค” เพื่อนๆตอบก่อนจะแยกย้ายกันไปนอนพักเอาแรงส่วนคนที่ไม่ได้ไปสู้ก็ยังทํางานอยู่อย่างเช่นรินและเมิ่งหยิ่งหยิ่งที่เอาต้นบลูเบอรี่พุ่มเตี้ยที่เบลซได้มาไปปลูกและใส่พลังธาตุพืชเข้าไปถ้าหากไม่ได้พลังธาตุพืชกระตุ้นตอนที่ปลูก ต้นไม้จะไม่สามารถสร้างพลังชีวิตได้ค่อยๆแห้งและตายไป หลังจากให้พลังธาตุพืชกระตุ้นแล้วต้นไม้ก็จะอยู่ได้ด้วยตัวเองเหมือนต้นไม้ปกติในยุคนี้

เบลซก็เดินไปที่บ้านพักชายเขาเข้าไปในห้องน้ําล้างตัวให้สบายและนอนอย่างผ่อนคลายเพื่อพักผ่อนให้ได้มากที่สุด

3 ชั่วโมงผ่านไป

 

“ตื่นได้แล้วเพื่อน” ชินปลุก

 

“นี้ผ่านไปสามชั่วโมงแล้วหรอไวจริงๆ” เบลซบิดขี้เกียจก่อนจะออกไปที่ห้องทานอาหารชั่วคราว

 

ในห้องทุกคนมากันครบแล้วได้แก่ เบลซ เรย์ลิน ชิน จางมู่เอลลี่เอมิเลียเซลินและเมิ่งหยิ่งหยิ่ง

“เอาหละมาแผนกันดีกว่า” เบลซพูดแล้วเริ่มอธิบายแผนที่ละ

หลังจากที่ทุกคนเข้าใจแล้วก็ออกเดินทางไปยังถ้ําที่เป็นรังของแมงปองคริสตัล

 

หลังจากเดินมาพักนึงก็ถึงปากถ้ําเบลซและเพื่อนๆเริ่มทําตามแผนที่วางไว้

“เอาหละยังไงทุกคนก็รออยู่ตรงนี้ก่อนนะ จางมู่ เอมิเลียตามฉันมา”เบลซพูดก่อนที่จะเข้าไปในถ้ําพร้อมกับจางมู่และเอมิเลีย

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+