The Great Geneticist in Apocalypse 6 เจอกระต่ายที่สูญพันธ์ไปแล้วเข้าแล้วสิ

Now you are reading The Great Geneticist in Apocalypse Chapter 6 เจอกระต่ายที่สูญพันธ์ไปแล้วเข้าแล้วสิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่6 เจอกระต่ายที่สูญพันธ์ไปแล้วเข้าแล้วสิ

“มีดผ่าตัด”

ผมเรียกมีดผ่าตัดออกมาจากช่องเก็บของ

เอาหละจากตรงที่มันกินน้ำห่างจากตรงที่เรายืนอยู่ประมาณ 10 เมตร หรือพูดง่ายๆคือต้องจัดการให้ได้ภายในวินาทีเดียว

เท่าที่ดูความเป็นไปได้ระหว่างทางมีลำธารเล็กๆการไปเหยียบน้ำจะทำให้เกิดเสียงและมันจะรู้ตัวไวขึ้นวิ่งเข้าไปตรงๆไม่ได้แน่

เพราะฉะนั้นมีแค่ทางเดียวคือต้องโจมตีจากระยะไกล

ผมก้าวออกมาจากหลังต้นไม้ด้วยเสียงที่เบาที่สุด

10 เมตร….

9 เมตร….

8 เมตร…..

7 เมตร

ตอนนี้ปลายเท่าอยู่ตรงหน้าริมลำธารแล้ว

แต่กระต่ายสีน้ำเงินกินน้ำเสร็จและกำลังจะเงยหน้าขึ้นมาแล้ว

“งานเข้า!” ผมรีบพุ่งไปหามันที่สองก้าว

“ซ่า! ซ่า!” เสียงนำกระทบฝ่าเท้าดังขึ้นหยดน้ำกระจัดกรายไปทั่ว

มือของเบลซกำมีดผ่าตัดแน่น ถึงมีดผ่าตัดจะมีใบมีดยาวแค่2 เซ็นติเมตรนึดๆแต่ว่ากระต่ายตัวเล็กๆแค่นั้นก็พอจะทำให้มันบาดเจ็บถ้าโดนจุดสำคัญก็อาจจะตายได้

ตอนนี้ระยะห่างระหว่างเข้ากับกระต่ายเหลือประมาณ5 เมตร กว่าๆ

“ฟิ่วววว” เขาปามีดผ่าตัดออกไปและมันก็ตรงไปยังกระต่ายสีน้ำเงินนั้นทันที

“ฮู่!” กระต่ายสีน้ำเงินสัมผัสได้ถึงอันตรายและกระโดดหลบไปด้านข้าง

“ซึก” แน่นอนว่ามันหลบไปด้านข้างแต่ว่ามีดผ่าตัดก็เฉี่ยวลำตัวไปเล็กน้อยแต่ก็ยังสร้างแผลตื้นเป็นทางยาวก่อนที่มันจะหนีไป

เห้อน่าเสียดายยังไงก็วิ่งตามไม่ทันอยู่แล้วผมเดินไปอีกฝั่งของลำธารและเก็บมีดผ่าตัดกลับมา

“ใช่แล้วเยส!” เบลซตะโกนในใจดังๆรอบบริเวณที่ขว้างมีดผ่าตัดมามีเลือดติดมาที่ใบมีดรวมไปถึงด้ามบางส่วนด้วยแล้วก็ยังมีขนที่ถูกตัดออกมาจำนวนนึงด้วย

หลังจากรวบรวมขนและก็เอาเลือดที่เปื้อนมีดผ่าตัดหยดเก็บใส่หลอดทดลองแล้วก็สรุปได้ว่าไปมากระจุดนึงกับเลือดอีกประมาณ 10 หยด

“บิ๊บ ตรวจพบชิ้นส่วนของ บลูอิมพิเรียลแรบบิท มีโอกาสได้ชิ้นส่วน3-8 ต้องการสกัดยีนไหม ใช่/ไม่”

“ใช่จริงๆด้วย! ผมคิดในใจ”

“ไม่”

ยังไม่ควรสกัดตอนนี้เพราะถึงสกัดไปก็มีโอกาสได้ชิ้นส่วนซึ่งยังไม่สมบูรณ์

แล้วก็เสียดายเลือดที่เปื้อนมีดผ่าตัดที่ยังเหลืออีกนึดหน่อยแต่ว่ารวมเป็นหยดไม่ได้แล้ว แล้วก็ไม่อยากเอามีดไปปาดขอบหลอดทดลองด้วยเพราะกลัวว่ามันจะเป็นรอยหรือขอบอาจจะบิ่นเลยต้องจำใจเอาไปล้าง

ถ้าถามว่าทำไมถึงต้อดีใจมากๆเพราะว่า บลูอิมพิเรียลแรบบิท เป็นกระต่ายสายพันธุ์ดั่งเดิมของอเมริกาที่มีขนแน่นอนว่าสีน้ำเงินเข้มหรือบางทีจะออกอมม่วงนึดๆและสูญพันธ์ไปในปี 1934 ซึ่งแน่นอนว่าผมไม่ได้เห็นมันตอนมีชีวิตแต่ก็มีโอกาสได้เห็นรูปของมันที่ถูกสตัฟฟ์ไว้อะนะ

หลังจากเก็บเรียบร้อยผมก็เห็นว่ามันมีรอยเลือด จากที่มันบาดเจ็บแล้วก็มีรอยเท้าด้วย

“เราควรจะลองตามไปดูดีมั้ยนะ” เบลซคิด

เอาก็เอาว่ะตามไปก็ไม่เสียหายยังไงก็คงจะไม่ไกลมาเพราะมันก็ต้องมาดื่มน้ำจากลำธารเป็นช่วงๆเหมือนกันคงอยู่ห่างจากที่นี่ไม่มาก

ว่าแล้วเบลซก็ค่อยๆเดินสะกดรอยตามรอยเท่าของบลูอิมพิเรียลแรบบิทไป

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด