The Great Geneticist in Apocalypse 61 เจออสูรทรายครามแล้วสิ

Now you are reading The Great Geneticist in Apocalypse Chapter 61 เจออสูรทรายครามแล้วสิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

The Great Geneticist in Apocalypse

ตอนที่61 เจออสูรทรายครามแล้วสิ

เบลซจ้องไปยังทรายที่ฟ้าครามที่แทบจะมองไม่เห็นเนื่องจากความมืดมิดในยามราตรีตรงบริเวณที่นูนอยู่นิดหน่อย

“เถาโลหิต”

“พรึบ” เถาพิษโลหิตทั้งเจ็ดมุดลงไปในดินเบลซใช้ความรู้สึกในการควบคุมพวกมันสานเป็นตาข่ายแล้วค่อยๆรวบเข้าไปใกล้ๆ

“ซูวว!” พอได้จังหวะเบลซยกตาข่ายขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วรวบอะไรบางอย่างได้มันเป็นก้อนกลมๆประมาณลูกฟุตบอลมีขนสีน้ําเงินรอบตัวจนไม่เห็นส่วนอื่นของร่างกายนอกจากดวงตากลมอันบ้องแบ้วหนึ่งคู่ของมันของมัน

 

เพียงแวบแรกที่เบลซเห็นเค้าก็พอจะรู้แล้วว่าตัวอะไรเพราะมีข้อมูลจากชิพจนแทบอดเก็บอาการดีใจไม่ได้จนต้องคิดในใจ “เอลลี่นี้ตัวนําโชคของแท้”

 

“ประเมิน”

 

“อสูรทรายคราม<โลหะ ทราย>(เขียวอ่อน)ระดับ1”

“ขุมทรัพย์พ” เบลซอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นและดีใจสุดขีดสิ่งที่เขาคิดว่าจะไม่ได้แต่ก็ได้

อสูรทรายครามเป็นสัตว์อสูรที่หาได้ยากมากเนื่องจากมันเป็นสัตว์อสูรที่พิเศษและมักได้รับการปกป้องจากสัตว์อสูรธาตุทรายหินหรือโลหะตัวอื่นๆและมีจํานวนน้อยด้วย

จากข้อมูลในชิพจริงๆแล้วตัวอสูรทรายครามเองแทบไม่มีพลังต่อสู้และถูกล่าได้ง่ายๆจากสัตว์อสูรตัวอื่นๆแต่ว่ามันกับเป็นที่รักของสัตว์อสูรธาตุขั้นสูงทั้งสามธาตุเพราะว่ามันมีความสามารถเฉพาะตัวที่พิเศษมาก

 

คล้ายๆกับแมงปองคริสตัลที่พวกเบลซไปถล่มมาเมื่อเช้าแม้ว่ามันจะเป็นสัตว์อสูรไร้ธาตุแต่ว่ามันก็มีพิษเพราะว่าเดิมที่มัน ก็เป็นสัตว์มีพิษแถมพิษก็ยังรุนแรงตามความแข็งแกร่งของมันด้วย!

ส่วนเจ้าตัวนี้มันวิวัฒนาการมาจนมีความสามารถพิเศษนั้นคือมันชอบปนหินและพวกแร่ต่างๆและมันสามารถอยู่ได้ในทรายสีฟ้าครามนี้โดยที่ไม่ต้องกินอะไรเป็นพิเศษนอกจากพืชทั่วๆไป น้ําเล็ก น้อยและแร่ธาตุ

 

ประเด็นที่สําคัญก็คือแร่ที่ผ่านการปนของมันจะกลายเป็นวัตถุดิบทําอาวุธและชุดเกราะชั้นดี แร่ระดับเขียวอ่อน ทรายเหล็กคราม!ทรายเหล็กครามมีคุณสมบัติใหญ่ๆเลยก็คือหนึ่งมันเหนียวแน่นและแข็งแรงยิ่งกว่าเหล็กกล้า! สองมันไม่ขึ้นสนิม! นอกจากจะเป็นวัตถุดิบทําอาวุธแล้วยังเป็นเหมือนยาช่วยวิวัฒนาการสําหรับสัตว์อสูรธาตุทรายหินและโลหะด้วยดังนั้นพวกมันจึงมักปกป้องและดูแล อสูรทรายครามดังหัวแก้วหัวแหวน

 

สําหรับคนที่คิดจะฆ่ามันเพื่อเอาคริสตัลสองธาตุขอบอกเลยว่าโง่มากเพราะว่าเจ้าตัวนี้ไม่มีคริสตัลสัตว์อสูรเนื่องจากอะไรก็ไม่รู้แต่ว่าคาดการณ์ว่าเพราะว่ามันมีความพิเศษในการสร้างทรายเหล็กครามแล้วและไม่มีพลังต่อสู้มานักเลยไม่มีคริสตัลไม่อย่างนั้นผู้รอดชีวิตคงหาคริสตัลสองธาตุได้อย่างง่ายดายจนเกินไป

 

“สาเหตุที่ไม่มีสัตว์อสูรตัวอื่นมาคอยดูแลพวกมันคงเพราะว่าเจ้าพวกนี้พึ่งจะวิวัฒนาการมาและยังไม่มีสัตว์อสูรตัวไหนมาเจอหละมั้ง?”เบลซคิดและตาก็ยิ่งเต็มไปด้วยประกาย

 

“ จะมีตัวอื่นอีกรึปล่าวนะ?” เบลซคิดในใจตอนนี้เค้าแทบจะไม่สนใจต้นกุหลาบชําระล้างแล้วเพราะว่ามันก็ยังอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหนสิ่งที่เค้าต้องการในตอนนี้คือการหาอสูรทรายครามซึ่งหายากกว่ามากเพิ่ม

“มิ้วๆ มิ้วๆ มั่วๆ”

เบลซหยิบอสูรทรายครามออกมาไว้ในมือมันพยายามดิ้นออกจากมือของเบลซแต่ว่าแน่นอนว่ามันไม่สามารถทําได้เลยแม้แต่น้อยเบลซถือมันไว้อย่างนั้นแล้วเริ่มหาตัวต่อไปในพื้นทรายสีครามนี้

 

เบลซกะคร่าวๆพื้นทรายนี้กินพื้นที่กว้างราวๆ20×20เมตรเท่านั้นแต่ว่าจุดที่ทรายลึกพอที่พวกมันจะอยู่ได้มีแค่5×5เมตรเท่านั้น

 

หลังจากเช็ครอบๆแล้วว่าปลอดภัยเบลซก็กวักมือเรียกเอลลี่ในเธอช่วยถืออสูรทรายคราม

 

หลังจากที่เบลซดักล่อแล้วรวบข่ายที่สานจากเถาพิษโลหิตทั้งหมดเค้าได้อสูรทรายครามมาทั้งหมด8ตัวแต่น่าจะมีแค่นี้พรุ่งนี้เขาจะพาเพื่อนๆมาขุดทรายเหล็กครามด้วยเบลซสานเถาพิษโลหิตเป็นถุงตาข่ายขนาดใหญ่และใส่อสูรทรายครามเข้าไปทั้งหมดและใช้งาวค่อยๆแซะดินเป็นบล็อคสี่เหลี่ยมโดยมีต้นกุหลาบชําระล้าง และเก็บมันเข้าไปในช่องเก็บของ

 

“กลับกันเถอะ” คืนนี้เบลซได้เก็บเกี่ยวอย่างมหาศาลและเดินกลับไปที่ฐานกับเอลลี่อย่างมีความสุข

เมื่อถึงที่ฐานเอลลี่ได้กล่าวลาเบลซพร้อมกับพูดว่า “ฝันดีนะ”

 

“เธอก็เหมือนกันฝันดี” แล้วทั้งคู่ก็แยกย้ายกันไป

 

“แล้วจะเอายังไงกับพวกนี้ต่อดี?” เบลซมองไปที่อสูรทรายครามที่เค้าไปจับมาเค้าลืมคิดเลยว่าจะเลี้ยงที่ไหนดี

 

“เรียกชิ้นมาก่อนละกัน” เบลซคิดในใจก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านพักแล้วไปเรียกชินที่กําลังอ่านหนังสืออยู่

“มีอะไรหรอ” ชินถาม

 

“นายเห็นพวกนี้ไหมหละ” เบลซยกพวกอสูรทรายครามขึ้นมา

 

“แล้วจะให้ฉันทําอะไร อย่าบอกนะว่าจะให้ฉันทํากรงให้”

 

“ประมาณนั้นแหละ”

 

“นายนี้สร้างงานให้ฉันจริงๆ แล้วตรงไหนหละ”

“อืมม ตรงลานหลังบ้านนั้นแหละสร้างชั่วคราวก่อนอะนะนายแค่สร้างเสาหินตามที่ฉันบอกก็พอ” เบลซพูด

“ได้ๆ แต่มันจะไม่หนีหรอ?” ชินถามด้วยความสงสัย

“ไม่หรอพวกนี้หนะเวลาอยู่ตรงไหนแล้วก็จะอยู่ตรงนั้นเลย”เบลซอธิบายเพราะว่าอสูรทรายครามจะอยู่แค่เฉพาะจุดที่มีทรายเหล็กครามที่พวกมันสร้างขึ้นเท่านั้นและไม่เกลียดที่จะออกจากทรายเหล็กครามดังนั้นตราบใดที่คอยตักทรายออกและควบคุมไม่ ให้ทรายเหล็กครามขยายพื้นที่ไปไกลพวกมันก็จะไม่ไปไหน

“เข้าใจแล้ว” ชินพยักหน้าการสร้างเสาศิลาเป็นงานหมูๆสําหรับเขาเมื่อเทียบกับกําแพงฐานที่เบลซให้เขาทํา

 

“ก่อนอื่นก็ต้องปรับทัศนะคติกันก่อนหละนะ” เพราะว่าเบลซจับมันขึ้นมาทําให้มันพยายามหนีไปจากเบลซและทําตัวไม่ค่อยเชื่องทั้งที่ปกติแล้วมันเป็นสัตว์อสูรไม่กี่ชนิดที่มีนิสัยเป็นมิตร

 

“เอาหละโทษทีนะที่ฉันจับพวกนายมาเดี๋ยวฉันจะสร้างที่อยู่ใหม่ให้แล้วก็เพื่อเป็นคําขอโทษฉันจะให้ไอนี้เพื่อเป็นมิตรภาพสําของพวกเราใช่มั้ย?” เบลซยื่นเปลือกคริสตัลชิ้นนึ่งของนางพญาแมงปองคริสตัลเหมันต์ออกมาให้พวกมัน

 

“นิ้ว? นิ้ว? นิ้ว?” พวกอสูรทรายครามกระพริบตาปริบๆด้วยความกระหายแน่นอนว่าพวกมันก็เป็นสัตว์อสูรย่อมอยากได้ของดีๆมาวิวัฒนาการตัวเองเหมือนกัน

“นิ้ว นิ้ว นิ้ว” พวกมันกลิ้งไปกลิ้งมาเป็นเส้นตรงประมาณว่า“จะยกโทษให้ก็ได้”แล้วเบลซก็พาพวกมันก็ไปที่ลานหลังบ้านซึ่งชินได้เตรียมเสาหินทั้งวางแนวตั้งแต่แนวนอนไว้ให้แล้ว

 

“นิ้ว! นิ้ว! นิ้ว!” พวกอสูรทรายครามพุ่งไปที่เสาศิลาและเริ่มให้ขนของพวกมันสีไปสีมาที่เสาศิลาถ้าสังเกตดีๆจะสังเกตได้ว่ามีผงสีฟ้าครามออกมาที่ละเล็กน้อยออกมาจากการสีของพวกมัน

“เอาหละภารกิจวันนี้เสร็จเรียบร้อยรีบนอนดีกว่า”เบลซกลับ ข้าบ้านพักไปอาบน้ําและเข้านอน

 

วันต่อมา เบลซก็ตื่นแต่เช้าเหมือนเดิมทุกคนก็อาบน้ําและรวมกันกินข้าวเช้า ก่อนจะทําหน้าที่ของตัวเอง โดยชินไปสร้างกําแพงหนามศิลาต่อจากเมื่อวาน เพิ่งหยิ่งหยิงและรินได้ใช้พลังธษตุพืชเร่งโตต้นไม้และเริ่มปลูกข้าวพลังงานสูงเพิ่ม แน่นอนว่าเบลซได้ให้ต้นกุหลาบชําระล้างไปปลูกด้วย ส่วนต้นคริสตัลแบริเออร์มันจําเป็ นต้องขุดหลุมค่อนข้างใหญ่พวกเธอสองคนคงทํากันไม่ไหวเดี๋ยวถ้าวันนี้มีเวลาเหลือก็จะช่วยกันขุด

ส่วนคนอื่นวันนี้จะต้องมาช่วยกันขุดทรายเหล็กครามไปไว้ตรงที่เลี้ยงอสูรทรายครามไว้แน่นอนว่าแค่ครึ่งเดียวมันก็อยู่ได้อย่างสบายๆแล้วและไม่กินพื้นที่มากด้วยที่เหลือก็ให้พวกมันค่อยๆสร้างกันเองส่วนอีกครึ่งนึงก็รวบรวมเก็บไว้ เนื่องจากยังไม่มีที่เก็บเบลซเลยกดสร้างโรงเก็บไม้และหินที่ยังฟรีในครั้งแรกอยู่โดยสร้างไว้ที่ข้างร้านตีเหล็กและเก็บทรายเหล็กครามอีกครึ่งหนึ่งใส่กระสอบและนําไปไว้ในโรงเก็บ

หลังจากนั้นงานเสร็จเร็วกว่าที่คิดไว้มากเลยทําให้พวกเขามีเวลาช่วยกันขุดดินปลูกต้นคริสตัลแบริเออร์ แน่นอนว่ามีอุปกรณ์ไม่พอสําหรับทุกคนก็เลยผลัดๆกันขุดจนในที่สุดก็เสร็จและทุกคนก็ตกลงกันว่าวันนี้จะพักกันก่อนหนึ่งวันเป็นการผ่อนคลายหลังจากทํางานหนักติดกันมาสามวัน พวกเขาแทบจะทําตั้งแต่เช้ายันค่ํามืดไม่ว่า จะเป็นสํารวจต่อสู้สร้างนั้นนี้นั้นนับของปลูกพืช ฯลฯ ดังนั้นโอกาสที่จะได้พักตั้งแต่กลางวันอย่างวันนี้จึงมีไม่มากซึ่งเบลซก็เห็นด้วย

 

กุหลาบชําระล้าง

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

The Great Geneticist in Apocalypse 61 เจออสูรทรายครามแล้วสิ

Now you are reading The Great Geneticist in Apocalypse Chapter 61 เจออสูรทรายครามแล้วสิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

The Great Geneticist in Apocalypse

ตอนที่61 เจออสูรทรายครามแล้วสิ

เบลซจ้องไปยังทรายที่ฟ้าครามที่แทบจะมองไม่เห็นเนื่องจากความมืดมิดในยามราตรีตรงบริเวณที่นูนอยู่นิดหน่อย

“เถาโลหิต”

“พรึบ” เถาพิษโลหิตทั้งเจ็ดมุดลงไปในดินเบลซใช้ความรู้สึกในการควบคุมพวกมันสานเป็นตาข่ายแล้วค่อยๆรวบเข้าไปใกล้ๆ

“ซูวว!” พอได้จังหวะเบลซยกตาข่ายขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วรวบอะไรบางอย่างได้มันเป็นก้อนกลมๆประมาณลูกฟุตบอลมีขนสีน้ําเงินรอบตัวจนไม่เห็นส่วนอื่นของร่างกายนอกจากดวงตากลมอันบ้องแบ้วหนึ่งคู่ของมันของมัน

 

เพียงแวบแรกที่เบลซเห็นเค้าก็พอจะรู้แล้วว่าตัวอะไรเพราะมีข้อมูลจากชิพจนแทบอดเก็บอาการดีใจไม่ได้จนต้องคิดในใจ “เอลลี่นี้ตัวนําโชคของแท้”

 

“ประเมิน”

 

“อสูรทรายคราม<โลหะ ทราย>(เขียวอ่อน)ระดับ1”

“ขุมทรัพย์พ” เบลซอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นและดีใจสุดขีดสิ่งที่เขาคิดว่าจะไม่ได้แต่ก็ได้

อสูรทรายครามเป็นสัตว์อสูรที่หาได้ยากมากเนื่องจากมันเป็นสัตว์อสูรที่พิเศษและมักได้รับการปกป้องจากสัตว์อสูรธาตุทรายหินหรือโลหะตัวอื่นๆและมีจํานวนน้อยด้วย

จากข้อมูลในชิพจริงๆแล้วตัวอสูรทรายครามเองแทบไม่มีพลังต่อสู้และถูกล่าได้ง่ายๆจากสัตว์อสูรตัวอื่นๆแต่ว่ามันกับเป็นที่รักของสัตว์อสูรธาตุขั้นสูงทั้งสามธาตุเพราะว่ามันมีความสามารถเฉพาะตัวที่พิเศษมาก

 

คล้ายๆกับแมงปองคริสตัลที่พวกเบลซไปถล่มมาเมื่อเช้าแม้ว่ามันจะเป็นสัตว์อสูรไร้ธาตุแต่ว่ามันก็มีพิษเพราะว่าเดิมที่มัน ก็เป็นสัตว์มีพิษแถมพิษก็ยังรุนแรงตามความแข็งแกร่งของมันด้วย!

ส่วนเจ้าตัวนี้มันวิวัฒนาการมาจนมีความสามารถพิเศษนั้นคือมันชอบปนหินและพวกแร่ต่างๆและมันสามารถอยู่ได้ในทรายสีฟ้าครามนี้โดยที่ไม่ต้องกินอะไรเป็นพิเศษนอกจากพืชทั่วๆไป น้ําเล็ก น้อยและแร่ธาตุ

 

ประเด็นที่สําคัญก็คือแร่ที่ผ่านการปนของมันจะกลายเป็นวัตถุดิบทําอาวุธและชุดเกราะชั้นดี แร่ระดับเขียวอ่อน ทรายเหล็กคราม!ทรายเหล็กครามมีคุณสมบัติใหญ่ๆเลยก็คือหนึ่งมันเหนียวแน่นและแข็งแรงยิ่งกว่าเหล็กกล้า! สองมันไม่ขึ้นสนิม! นอกจากจะเป็นวัตถุดิบทําอาวุธแล้วยังเป็นเหมือนยาช่วยวิวัฒนาการสําหรับสัตว์อสูรธาตุทรายหินและโลหะด้วยดังนั้นพวกมันจึงมักปกป้องและดูแล อสูรทรายครามดังหัวแก้วหัวแหวน

 

สําหรับคนที่คิดจะฆ่ามันเพื่อเอาคริสตัลสองธาตุขอบอกเลยว่าโง่มากเพราะว่าเจ้าตัวนี้ไม่มีคริสตัลสัตว์อสูรเนื่องจากอะไรก็ไม่รู้แต่ว่าคาดการณ์ว่าเพราะว่ามันมีความพิเศษในการสร้างทรายเหล็กครามแล้วและไม่มีพลังต่อสู้มานักเลยไม่มีคริสตัลไม่อย่างนั้นผู้รอดชีวิตคงหาคริสตัลสองธาตุได้อย่างง่ายดายจนเกินไป

 

“สาเหตุที่ไม่มีสัตว์อสูรตัวอื่นมาคอยดูแลพวกมันคงเพราะว่าเจ้าพวกนี้พึ่งจะวิวัฒนาการมาและยังไม่มีสัตว์อสูรตัวไหนมาเจอหละมั้ง?”เบลซคิดและตาก็ยิ่งเต็มไปด้วยประกาย

 

“ จะมีตัวอื่นอีกรึปล่าวนะ?” เบลซคิดในใจตอนนี้เค้าแทบจะไม่สนใจต้นกุหลาบชําระล้างแล้วเพราะว่ามันก็ยังอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหนสิ่งที่เค้าต้องการในตอนนี้คือการหาอสูรทรายครามซึ่งหายากกว่ามากเพิ่ม

“มิ้วๆ มิ้วๆ มั่วๆ”

เบลซหยิบอสูรทรายครามออกมาไว้ในมือมันพยายามดิ้นออกจากมือของเบลซแต่ว่าแน่นอนว่ามันไม่สามารถทําได้เลยแม้แต่น้อยเบลซถือมันไว้อย่างนั้นแล้วเริ่มหาตัวต่อไปในพื้นทรายสีครามนี้

 

เบลซกะคร่าวๆพื้นทรายนี้กินพื้นที่กว้างราวๆ20×20เมตรเท่านั้นแต่ว่าจุดที่ทรายลึกพอที่พวกมันจะอยู่ได้มีแค่5×5เมตรเท่านั้น

 

หลังจากเช็ครอบๆแล้วว่าปลอดภัยเบลซก็กวักมือเรียกเอลลี่ในเธอช่วยถืออสูรทรายคราม

 

หลังจากที่เบลซดักล่อแล้วรวบข่ายที่สานจากเถาพิษโลหิตทั้งหมดเค้าได้อสูรทรายครามมาทั้งหมด8ตัวแต่น่าจะมีแค่นี้พรุ่งนี้เขาจะพาเพื่อนๆมาขุดทรายเหล็กครามด้วยเบลซสานเถาพิษโลหิตเป็นถุงตาข่ายขนาดใหญ่และใส่อสูรทรายครามเข้าไปทั้งหมดและใช้งาวค่อยๆแซะดินเป็นบล็อคสี่เหลี่ยมโดยมีต้นกุหลาบชําระล้าง และเก็บมันเข้าไปในช่องเก็บของ

 

“กลับกันเถอะ” คืนนี้เบลซได้เก็บเกี่ยวอย่างมหาศาลและเดินกลับไปที่ฐานกับเอลลี่อย่างมีความสุข

เมื่อถึงที่ฐานเอลลี่ได้กล่าวลาเบลซพร้อมกับพูดว่า “ฝันดีนะ”

 

“เธอก็เหมือนกันฝันดี” แล้วทั้งคู่ก็แยกย้ายกันไป

 

“แล้วจะเอายังไงกับพวกนี้ต่อดี?” เบลซมองไปที่อสูรทรายครามที่เค้าไปจับมาเค้าลืมคิดเลยว่าจะเลี้ยงที่ไหนดี

 

“เรียกชิ้นมาก่อนละกัน” เบลซคิดในใจก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านพักแล้วไปเรียกชินที่กําลังอ่านหนังสืออยู่

“มีอะไรหรอ” ชินถาม

 

“นายเห็นพวกนี้ไหมหละ” เบลซยกพวกอสูรทรายครามขึ้นมา

 

“แล้วจะให้ฉันทําอะไร อย่าบอกนะว่าจะให้ฉันทํากรงให้”

 

“ประมาณนั้นแหละ”

 

“นายนี้สร้างงานให้ฉันจริงๆ แล้วตรงไหนหละ”

“อืมม ตรงลานหลังบ้านนั้นแหละสร้างชั่วคราวก่อนอะนะนายแค่สร้างเสาหินตามที่ฉันบอกก็พอ” เบลซพูด

“ได้ๆ แต่มันจะไม่หนีหรอ?” ชินถามด้วยความสงสัย

“ไม่หรอพวกนี้หนะเวลาอยู่ตรงไหนแล้วก็จะอยู่ตรงนั้นเลย”เบลซอธิบายเพราะว่าอสูรทรายครามจะอยู่แค่เฉพาะจุดที่มีทรายเหล็กครามที่พวกมันสร้างขึ้นเท่านั้นและไม่เกลียดที่จะออกจากทรายเหล็กครามดังนั้นตราบใดที่คอยตักทรายออกและควบคุมไม่ ให้ทรายเหล็กครามขยายพื้นที่ไปไกลพวกมันก็จะไม่ไปไหน

“เข้าใจแล้ว” ชินพยักหน้าการสร้างเสาศิลาเป็นงานหมูๆสําหรับเขาเมื่อเทียบกับกําแพงฐานที่เบลซให้เขาทํา

 

“ก่อนอื่นก็ต้องปรับทัศนะคติกันก่อนหละนะ” เพราะว่าเบลซจับมันขึ้นมาทําให้มันพยายามหนีไปจากเบลซและทําตัวไม่ค่อยเชื่องทั้งที่ปกติแล้วมันเป็นสัตว์อสูรไม่กี่ชนิดที่มีนิสัยเป็นมิตร

 

“เอาหละโทษทีนะที่ฉันจับพวกนายมาเดี๋ยวฉันจะสร้างที่อยู่ใหม่ให้แล้วก็เพื่อเป็นคําขอโทษฉันจะให้ไอนี้เพื่อเป็นมิตรภาพสําของพวกเราใช่มั้ย?” เบลซยื่นเปลือกคริสตัลชิ้นนึ่งของนางพญาแมงปองคริสตัลเหมันต์ออกมาให้พวกมัน

 

“นิ้ว? นิ้ว? นิ้ว?” พวกอสูรทรายครามกระพริบตาปริบๆด้วยความกระหายแน่นอนว่าพวกมันก็เป็นสัตว์อสูรย่อมอยากได้ของดีๆมาวิวัฒนาการตัวเองเหมือนกัน

“นิ้ว นิ้ว นิ้ว” พวกมันกลิ้งไปกลิ้งมาเป็นเส้นตรงประมาณว่า“จะยกโทษให้ก็ได้”แล้วเบลซก็พาพวกมันก็ไปที่ลานหลังบ้านซึ่งชินได้เตรียมเสาหินทั้งวางแนวตั้งแต่แนวนอนไว้ให้แล้ว

 

“นิ้ว! นิ้ว! นิ้ว!” พวกอสูรทรายครามพุ่งไปที่เสาศิลาและเริ่มให้ขนของพวกมันสีไปสีมาที่เสาศิลาถ้าสังเกตดีๆจะสังเกตได้ว่ามีผงสีฟ้าครามออกมาที่ละเล็กน้อยออกมาจากการสีของพวกมัน

“เอาหละภารกิจวันนี้เสร็จเรียบร้อยรีบนอนดีกว่า”เบลซกลับ ข้าบ้านพักไปอาบน้ําและเข้านอน

 

วันต่อมา เบลซก็ตื่นแต่เช้าเหมือนเดิมทุกคนก็อาบน้ําและรวมกันกินข้าวเช้า ก่อนจะทําหน้าที่ของตัวเอง โดยชินไปสร้างกําแพงหนามศิลาต่อจากเมื่อวาน เพิ่งหยิ่งหยิงและรินได้ใช้พลังธษตุพืชเร่งโตต้นไม้และเริ่มปลูกข้าวพลังงานสูงเพิ่ม แน่นอนว่าเบลซได้ให้ต้นกุหลาบชําระล้างไปปลูกด้วย ส่วนต้นคริสตัลแบริเออร์มันจําเป็ นต้องขุดหลุมค่อนข้างใหญ่พวกเธอสองคนคงทํากันไม่ไหวเดี๋ยวถ้าวันนี้มีเวลาเหลือก็จะช่วยกันขุด

ส่วนคนอื่นวันนี้จะต้องมาช่วยกันขุดทรายเหล็กครามไปไว้ตรงที่เลี้ยงอสูรทรายครามไว้แน่นอนว่าแค่ครึ่งเดียวมันก็อยู่ได้อย่างสบายๆแล้วและไม่กินพื้นที่มากด้วยที่เหลือก็ให้พวกมันค่อยๆสร้างกันเองส่วนอีกครึ่งนึงก็รวบรวมเก็บไว้ เนื่องจากยังไม่มีที่เก็บเบลซเลยกดสร้างโรงเก็บไม้และหินที่ยังฟรีในครั้งแรกอยู่โดยสร้างไว้ที่ข้างร้านตีเหล็กและเก็บทรายเหล็กครามอีกครึ่งหนึ่งใส่กระสอบและนําไปไว้ในโรงเก็บ

หลังจากนั้นงานเสร็จเร็วกว่าที่คิดไว้มากเลยทําให้พวกเขามีเวลาช่วยกันขุดดินปลูกต้นคริสตัลแบริเออร์ แน่นอนว่ามีอุปกรณ์ไม่พอสําหรับทุกคนก็เลยผลัดๆกันขุดจนในที่สุดก็เสร็จและทุกคนก็ตกลงกันว่าวันนี้จะพักกันก่อนหนึ่งวันเป็นการผ่อนคลายหลังจากทํางานหนักติดกันมาสามวัน พวกเขาแทบจะทําตั้งแต่เช้ายันค่ํามืดไม่ว่า จะเป็นสํารวจต่อสู้สร้างนั้นนี้นั้นนับของปลูกพืช ฯลฯ ดังนั้นโอกาสที่จะได้พักตั้งแต่กลางวันอย่างวันนี้จึงมีไม่มากซึ่งเบลซก็เห็นด้วย

 

กุหลาบชําระล้าง

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+