The Great Worm Lich 131

Now you are reading The Great Worm Lich Chapter 131 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังความพยายามครั้งที่ 2 ในการหลบหนีของชาวโลกล้มเหลว ชาวพื้นเมืองบางคนที่ขี่แมลงยักษ์ก็ได้บินโฉบมายังผนังด้านนอกของตัวเรือแล้วในตอนนี้

 

พวกเขาตะโกนว่า “โอ้ อ่า…” เสียงดังเมื่อแมงมุมยักษ์ที่พวกเขาขี่มาใช้ 2 ขาหน้ายาว ๆ ของมันเกาะติดอยู่บนเรือราวกับมีกาวติดอยู่ใต้เท้า แมงมุมยักษ์พวกนั้นเริ่มคลานขึ้นไปบนเรือโดยทำมุมที่ประมาณ 160 องศา

 

“บ้าเอ้ย! แมงมุมยักษ์ที่พวกนั้นขี่มาสามารถปีนขึ้นเรือได้! พวกมันกำลังขึ้นมาบนเรือนี้แล้ว ทุกคนระวังตัวด้วย!” กะลาสีคนหนึ่งที่ถือขวานอยู่บนดาดฟ้าเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นแมลงยักษ์กำลังคลานขึ้นมาบนเรือเรื่อย ๆ นี้ได้ ในตอนนี้เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

 

และด้วยคำพูดของเขาจึงทำให้ดาดฟ้าเรือเกิดความปั่นป่วน แมงมุมยักษ์ที่กำลังปีนอยู่ตรงกำแพงเรือต่างถูกปกคลุมไปด้วยม่านหมอกสีขาวขุ่น

 

หมอกพวกนั้นดูเหมือนจะมีอุณหภูมิที่สูงมาก ด้วยความช่วยเหลือจากแสงจันทร์ พวกเขาสามารถมองเห็นเลือดของแมลงและชาวพื้นเมืองที่ห่อหุ้มไปด้วยหมอกและเริ่มพองตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ในไม่ช้าพวกเขาก็ถูกทำให้ระเบิดออก โครงกระดูกจำนวนมากที่มีเนื้อหนังติดตามตัวค่อย ๆ ตกลงสู่ทะเล

 

ม่านหมอกนั้นได้ฆ่าชาวพื้นเมืองที่ต้องการปีนขึ้นมาบนเรือไปได้หลายสิบคน กลุ่มหมอกนั้นยังไม่ได้จางหายไปไหน มันลอยและรวมเข้าด้วยกันเพื่อก่อตัวเป็นก่อนเมฆขนาดใหญ่กลางเวหา ทันใดนั้นโลกก็เกิดการสั่นสะเทือนขึ้น เสียงหอน “ฮู้วววว ลูววววว… ” ดังก้องออกมาจากมหาสมุทร

 

พื้นผิวมหาสมุทรที่กว้างหลายพันกิโลเมตรที่อยู่ถัดจากเรือไปเหมือนจะถูกฉีกออกโดยมือยักษ์ที่มองไม่เห็นราวกับมีสัตว์ยักษ์โผล่ออกมาน้ำ

 

สัตว์ในท้องทะเลตัวนั้นมีความยาวเป็น 2 เท่าของเรือสำราญอลิซาเบธ เมื่อมันกระโดดขึ้นมาจากทะเลขนาดตัวของมันได้ปกคลุมท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวไปเกือบหมด มันกระแทกตัวเองเข้ากับก้อนเมฆยักษ์ที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศและขี่เมฆนั้นไป มันขึ้นไปอยู่บนเสาหินยักษ์ทางด้านซ้ายของเรือที่รากฐานเริ่มมีการแตกหักก่อนจะหันตัวกลับไปอีกทาง

 

ด้วยเสียงกังวานที่ดังกึกก้อก เสาหินนั้นแตกออกจากฐานและถูกนำออกไปจากทะเลในที่สุด และด้วยการเคลื่อนไหวนั้น สัตว์ขนาดยักษ์ได้พุ่งตัวเข้าหาคนแคระนับไม่ถ้วนที่กำลังลอยไปตามคลื่นบนพื้นผิวมหาสมุทร

 

หลังจากที่เสาหินพังทลาย เหล่าคนแคระทั้งหมดก็ดูเหมือนจะสูญเสียความสามารถในการคิดไปชั่วคราว ร่างกายของพวกเขาแข็งทื่อราวกับท่อนไม้ เหมือนกับว่าเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ของพวกเขาได้ถูกทำร้ายและโดนสังหารไปโดยเสาหิน แต่จากนั้นไม่นานพวกเขาก็กลับมาสู่โลกความเป็นจริง

 

เพื่อความเชื่อที่อยู่ในใจ ชาวพื้นเมืองส่วนใหญ่จึงได้ขว้างหอกที่อยู่ในมือของพวกเขาไปยังสัตว์ร้ายตัวนั้นซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ได้ผลแต่อย่างใด ในตอนนั้นเองที่เริ่มมีชาวพื้นเมืองบางคนไม่ไล่ตามความตายเหมือนแต่ก่อน พวกเขาเริ่มวิ่งหนีหลังจากได้เห็นการสูญเสีย

 

ความดั้งเดิมของศาสนาที่หยาบโลนได้แตกสลายไปจากใจของพวกเขาเมื่อเสาโทเท็มทรุดตัว พวกเขาเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งมากว่าแม้กระทั่งพระเจ้าที่พวกเขาเคารพนับถือก็ไม่อาจต่อสู้กับสัตว์ร้ายยักษ์ที่กำลังแหวกว่ายอยู่ในท่ามกลางหมอกพร้อมกับกลืนกินเพื่อนร่วมเผ่าของพวกเขาที่กำลังต่อสู้อย่างกล้าหาญไปได้ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่คนพื้นเมืองเลือกที่จะหลบหนี กลุ่มคนแคระเริ่มรู้สึกได้ถึงความหวาดกลัวเหนือกว่าการเปรียบเทียบจากก้นบึ้งของหัวใจ

 

จางลี่เฉินที่ยืนอยู่บนดาดฟ้าของเรือสำราญยังคงร่ายคาถาต่อไปเรื่อย ๆ “เชื่อมต่อ” ใบหน้าของเขาไร้สีสันไปในทันทีในขณะที่เขารู้สึกถึงพลังพ่อมดที่กำลังเดือดพล่านอยู่ในเนื้อและเลือด เขาตะโกนขึ้นกลางอากาศอย่างเงียบ ๆ

 

เนื้องอกก้อนที่ 5 ด้านล่างกรามของเขาค่อย ๆ บวมขึ้นอย่างช้า ๆ ในขณะที่พลังเวทลดลงโดยไม่รู้ตัวเพื่อกลับสู่สภาวะปกติ ชายหนุ่มผู้สร้างความก้าวหน้าให้กับระดับ 5 ของการเป็นพ่อมดไม่ได้ออกคำสั่งให้สัตว์อาคมของตัวเองไปฆ่าคนแคระทั้งหมดที่ไม่ได้เป็นอันตรายไปด้วย

 

หลังทุกอย่างเสร็จสิ้นเขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกก่อนจะหันไปมองดูทริชที่กำลังจ้องมองมาที่เขาด้วยความสับสน ขณะที่ตาของเธอสะท้อนไปยังพื้นผิวมหาสมุทรที่ย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด มันเกือบเหมือนเปลวไฟจากนรกอเวจีก็ไม่ปาน ด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ เขาพูดออกไปอย่างสงบนิ่งว่า “ดูความกลัวที่พวกเขากำลังมีอยู่ในตอนนี้สิ…” จากนั้นก็เอาผ้าห่มคลุมหัวขณะนั่งไขว้ขาอยู่บนดาดฟ้าเรือ

 

หญิงสาว 3 คนที่เพิ่งรู้ซึ้งถึงความจริงของความกลัวเมื่อไม่กี่วินาทีก่อนได้มองไปที่ชายหนุ่มที่รู้สึกเหมือนตัวเขาจะหดเล็กลงอาจเพราะด้วยความเหนื่อยหรืออ่อนล้าอะไรก็ตาม พวกเธอไม่สามารถหาคำใด ๆ มาอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นได้เลย

 

ขณะนั้นเองอลิซาเบธ ฮอล์ลิเดย์ก็ส่งเสียง “วู วู…” ขึ้นมาเป็นครั้งที่ 3 เมื่อเสียงนกหวีดดังขึ้น เรือก็ค่อย ๆ ถอยหลังออกอย่างช้า ๆ ได้โดยไม่มีปัญหาใด ๆ ก่อนจะมุ่งหน้าแล่นเรือไปในทะเลอันกว้างใหญ่

 

หลังออกจากชายฝั่งที่น่าสะพรึงกลัวไปได้ขั้นตอนที่สองของการหลบหนีนี้ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่บนเรือทุกคนแล้ว

 

ที่ห้องควบคุม ฟยอดน่าที่เหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัดได้ปล่อยมือออกจากหางเสือพลางหอบหายใจ เขารู้สึกอ่อนแรงไปหมดทั้งตัว เขาเปิดใช้งานระบบการขับขี่อัตโนมัติในทันที “แอดิเลด ความคืบหน้าในการขยายเส้นทางผ่านเครื่องมือทางทะเลเป็นอย่างไรแล้วบ้าง?”

 

เจ้าหน้าที่นำทางแอดิเลดเป็นเพียงคนเดียวบนเรือที่ไม่ได้เห็นภัยอันตรายใด ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบเพราะเขาอยู่แต่ในห้องควบคุมนี้ตลอดเพื่อค้นหาเส้นทางเดินเรือที่แปลกออกไป เขาเอ่ยตอบไปในลักษณะที่ไม่ค่อยมั่นใจนักว่า “ผมได้ตรวจสอบความผิดปกติซ้ำ ๆ ตามเส้นทางการเดินเรืออัตโนมัตินี้แล้วครับ พบว่าข้อผิดพลาดแรกเกิดขึ้นที่พิกัด 42 ° W.”

 

“นายคิดว่านายหาจุดผิดพลาดนี้ได้อย่างแม่นยำหรือไม่”

 

“ผมมีความมั่นใจเพียง 50% ครับเนื่องจากเราไม่มีระบบนำทางด้วยดาวเทียม”

 

“ก็สูงกว่าที่ฉันคาดหวังไว้ ตามนั้นเลยแอดิเลด ฉันจะอธิษฐานเผื่อนายให้เอง” ฟยอดน่ามองดูวิวยามค่ำคืนที่มืดมนด้านนอกหน้าต่างก่อนจะเอามือทาบหน้าอกที่มีเครื่องหมายกางเขนประดับด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด

 

“ครับท่าน” เมื่อได้ยินคำสั่งของกัปตัน เจ้าหน้าที่นำทางยังคงทบทวนเส้นทางและเริ่มขับเรือเพื่อสร้างทางในทะเลด้วยความเร็วคงที่ 25 ไมล์ทะเลต่อชั่วโมง

 

เมื่อเวลาผ่านไปท้องฟ้าก็ค่อย ๆ สว่างขึ้นเรื่อย ๆ เรือควรเข้าหามหานครนิวยอร์กได้แล้วหากเส้นทางที่พวกเขาค้นหามาได้นั้นถูกต้อง อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขามองออกไปข้างนอกทะเลมันยังคงว่างเปล่า

 

จิตใจทุกคนในห้องควบคุมเริ่มอ่อนล้าแต่ก็ไม่มีใครกล้าเผชิญหน้ากับความจริงที่สิ้นหวังนี้จนกระทั่งในที่สุดอเลกซานโดรผู้ถือหางเสือเรือก็เริ่มรายงานความคืบหน้าด้วยน้ำเสียงสั่นไหว “ท่านครับ เชื้อเพลิงของเราเพียงพอที่จะแล่นเรือต่อไปได้อีกเพียง 10 ไมล์ทางทะเล…”

 

ทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น ฟยอดน่าก็ส่งยิ้มอันขมขื่นออกมาเป็นครั้งแรก เขาถอนหายใจลึก ๆ และปรับหมวกหลังจากได้ยินก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ “ทุกคน ดูเหมือนว่าเราจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเผชิญกับความจริง…”

 

“ท่าน! ท่านครับ! มีสัญญาณแล้วครับ! มีสัญญาณดาวเทียมแล้ว! โอ้! สัญญาณคลื่นสั้นและคลื่นยาวก็ถูกกู้คืนมาแล้วเช่นกัน!” ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่นำทางแอดิแลดก็ร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ “ผมจะพยายามติดต่อไปให้ได้นะครับ! ผมจะลองติดต่อดู … ท่าเรือนิวยอร์ก ท่าเรือนิวยอร์ก! นี่คืออลิซาเบธ ฮอล์ลิเดย์! นี่คืออลิซาเบธ ฮอล์ลิเดย์! โปรดตอบรับด้วยถ้าคุณได้ยินเสียงนี้! โปรดตอบรับด้วยถ้าคุณได้ยินเสียงนี้!”

 

ทุกคนเฝ้ารอกันอย่างใจจดใจจ่ออยู่หลายวินาทีและทันใดนั้นอุปกรณ์สื่อสารก็ส่งเสียงดังขึ้นมา “อลิซาเบธ ฮอล์ลิเดย์ … อลิซาเบธ ฮอล์ลิเดย์ นี่คือหน่วยยามฝั่ง นี่คือหน่วยยามฝั่ง กรุณารายงานตำแหน่งของคุณ … กรุณารายงานตำแหน่งของคุณ!”

 

หน่วยยามฝั่งสหรัฐ (USCG) ซึ่งเป็นหนึ่งใน 5 กองกำลังติดอาวุธที่ใหญ่ที่สุดในประเทศมีหน้าที่รับผิดชอบในการป้องกันชายฝั่ง การบังคับใช้กฎหมายทางน้ำ ความปลอดภัยทางน้ำ เรืออับปาง เครื่องบินกู้ภัย และการควบคุมมลพิษ พวกเขามุ่งมั่นที่จะปกป้องความมั่นคงของชาติทางทะเลอย่างมาก

 

เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของหน่วยยามฝั่งสหรัฐเป็นผู้ให้คำตอบทั้ง ๆ ที่แอดิแลดเรียกหาท่าเรือนิวยอร์ก พวกลูกเรือในห้องควบคุมต่างก็เข้าใจกันไปเองโดยอัตโนมัติว่าทาง USCG ได้รับแจ้งเกี่ยวกับการหายตัวไปของอลิซาเบธ ฮอล์ลิเดย์เนื่องจากพวกเขากลับเข้าท่าไปไม่ทันตามกำหนด

 

พวกเขาต่างกันกำมือแน่นเพื่อแสดงความดีใจและโบกมือพวกเขาไปรอบ ๆ ในขณะที่พวกเขาส่งเสียงเชียร์กันอย่างพร้อมเพรียง พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จสิ้นได้ในที่สุด ฟยอดน่าที่มีหน้าที่ดูแลอลิซาเบธ ฮอล์ลิเดย์ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกจากนั้นก็ทรุดตัวลงไปกับพื้นอย่างอ่อนล้าแต่เต็มไปด้วยความดีใจ

 

ข่าวการช่วยเหลือถูกแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วสู่ทุกคนจากการออกอากาศของเรือ ข่าวดีประเภทนี้จะยิ่งทำให้ทุกคนมีกำลังใจมากอย่างต่อเนื่อง

 

จางลี่เฉินที่ยืนอยู่บนดาดฟ้ามองดูฝูงชนที่โผเข้ากอดกันด้วยน้ำตา เขายิ้มให้ทีน่าและพูดว่า “ดูสิทีน่า ในที่สุดเราก็ได้กลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว”

 

“ที่รัก ฉันรู้ว่าถ้าพวกเราไม่ได้ความช่วยเหลือจากนายพวกเราคงไม่มีทางได้เจอผลลัพธ์แบบนี้ ฉันขอโทษที่ฉันไม่ได้สนใจนายเลยตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้น แต่มันก็แค่นั้น…ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าควรจะพูดอะไรกับนาย เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมัน…หนักเกินไป…เกินไปจริง ๆ” ทีน่าลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะโผกอดชายหนุ่มและสะอื้น “ฉันกลัวมากลี่เฉิน! ฉันกลัวมันมาก ๆ ฉันกลัวมันจริง ๆ!”

 

“ทีน่า เกาะนั้นก็เป็นเหมือนป่าอเมซอนอีกแห่งหนึ่ง กฎของป่าคือคนอ่อนแอจะทำหน้าที่เป็นเหยื่อให้กับคนที่แข็งแกร่ง ถ้าเรามีพลังเราก็จะล้มคนแคระดั้งเดิมพวกนั้นได้แต่ถ้าเราอ่อนแอเราจะถูกกินโดยคนแคระเหล่านั้น ลองคิดดูให้ดีสิ จริง ๆ แล้วคุณควรคิดว่าตัวเองโชคดีแทนที่จะมารู้สึกกลัวมากกว่า”

 

“ตะ … แต่คนพวกนั้นมีกันเป็นพัน ๆ คน…”

 

“พวกเขาเป็นคนหลายพันคนจากโลกอื่นที่พยายามฆ่าเรา พวกเขาไม่ใช่พวกเราทีน่า ทุกสิ่งที่ผมทำไปก็เพื่อความอยู่รอด”

 

ในขณะที่จางลี่เฉินกำลังพูดอยู่ เสียงเฮลิคอปเตอร์ขนาดใหญ่ที่บินอยู่บนฟ้าก็ดังใกล้เข้ามาจากระยะไกล บนทะเลที่ห่างไกลมีเรือลากจูงขนาดใหญ่ที่มีสัญลักษณ์ธงประจำชาติของอเมริกาและธงประจำชาติ ‘ดาวและลายเส้น’ แล่นตรงมายังอลิซาเบธ ฮอลิเดย์ด้วยแรงม้าเต็มพิกัดในลักษณะเร่งด่วน มีเรือเล็ก ๆ 2 ลำตามติดมาด้วยที่แต่ละฝั่งซ้ายขวา มีเฮลิคอปเตอร์ขนาดใหญ่เ 7 – 8 ลำลอยอยู่เหนือหัว

 

“เรือพวกนั้นกำลังจะมาช่วยพวกเราแล้ว! ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะมาถึงเร็วขนาดนี้! ขอบคุณพระเจ้าสำหรับการประทานพรของท่าน…” หลาย ๆ คนตะโกนอย่างมีความสุขบนดาดฟ้า

 

“เดี๋ยวก่อน นั่นไม่ใช่เครื่องบินกู้ภัย…พวกมันคือเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธและเรือรบ! ไม่เพียงแค่นั้น เรือสองในสามลำยังมีปืนใหญ่ติดตั้งอยู่ด้วย! พวกมันดูเหมือนเป็นเรือรบประจัญบานมากกว่าเรือกู้ภัยซะอีก!” ถึงอย่างนั้นผู้คนจำนวนมากก็เริ่มตระหนักว่าสิ่งต่าง ๆ ดูเหมือนจะไม่ถูกต้องเท่าไหร่นัก

 

ในขณะนั้นเรือลากจูงขนาดใหญ่ที่เริ่มเข้ามาใกล้กับอลิซาเบธ ฮอลิเดย์ก็ส่งเสียงประกาศออกมาว่า “ผู้โดยสารทุกคนในอลิซาเบธ ฮอลิเดย์ โปรดทราบ อลิซาเบธ ฮอลิเดย์ โปรดทราบ! พวกคุณทุกคนได้รับการจัดอันดับให้เป็นเป้าหมายของ ‘ภารกิจกำจัดความปลอดภัยสาธารณะ’ ระดับ B โดยเป้าหมายก็คือพวกคุณทุกคน แผนกักกันชั่วคราวจะถูกดำเนินการโดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติด้วยความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัย ‘เซนต์แมรี่’ และ ‘วูลฟ์’ ของกองทัพเรือสหรัฐฯ โปรดดำรงตำแหน่งของคุณและให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับพวกเรา โปรดให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่”

 

เมื่อการออกอากาศดังก้องเข้ามาที่อลิซาเบธ ฮอลิเดย์ ฝูงชนบนดาดฟ้าที่เพิ่งหลบหนีจากอันตรายก็พบว่าทุกคนบนเรือเหล็กยักษ์ 3 ลำที่พวกเขาคิดว่าเป็นผู้ช่วยชีวิตของพวกเขานี้กำลังสวมชุดสูทสีเงินหนา ๆ ที่ดูเหมือนพวกนักอวกาศ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด