The Great Worm Lich 135

Now you are reading The Great Worm Lich Chapter 135 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แสงแดดแผดจ้า

 

ต้นปาล์มที่มีใบสีเขียวชอุ่ม

 

คลื่นที่สร้างเสียง “ซ่าา ซ่าา …” ขับกล่อม

 

ชายหาดที่สวยงามและเก่าแก่ ชายหนุ่มที่หล่อเหลาและหญิงสาวที่แสนสวยสวมใส่ชุดว่ายน้ำเซ็กซี่ในขณะที่ถือกระดานโต้คลื่น เผยให้เห็นถึงสัดสวนร่างกายที่งดงาม

 

สิ่งนี้คือความคิดของทุกคนที่รักช่วงฤดูร้อนจะนึกถึงเมื่อพูดถึงคำว่า “ฤดูร้อน” และหมู่เกาะฮาวายในมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือสามารถตอบสนองต่อสิ่งเหล่านี้ได้ทั้งหมด

 

ใต้ต้นปาล์มขนาดใหญ่ข้างร้านอาหารกลางแจ้งและแผงขายเครื่องดื่ม หญิงสาวร่างสูงที่ใส่บิกินี่ลายทางขาวดำบาง ๆ ที่เพิ่งวางสายจากโทรศัพท์กำลังเหม่อลอยอย่างว่างเปล่า

 

หญิงสาวผิวแทนที่สวยงามที่มีจมูกได้รูปและปากอวบอิ่มน่ามองกำลังจิบเบียร์อยู่ข้างเธอขณะใช้นิ้วตัวเองจิ้มไปที่แขนของคนข้าง ๆ แล้วพูดพร้อมรอยยิ้มว่า “นี่ทีน่า! ตาเธอแล้วนะ รีบหมุนขวดเร็วเข้าที่รัก! หมุนมันเลย!”

 

ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ในวงใต้ต้นไม้ก็เริ่มตะโกน “ทีน่า! ทีน่า! ทีน่า! … ”

 

“ไม่นะ เดี๋ยวสิ! นี่มันไม่ใช่แล้ว! ฉันรู้สึกว่ามันชักจะแปลก ๆ … ฉันเริ่มจะรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่แล้วสิ ฉันต้องการเครื่องดื่มเย็น ๆ! หัวใจของฉันกำลังถูกเผาไหม้! ฉันต้องการอะไรที่มันเย็น ๆ …” ในตอนนี้เธอหมดความสนใจ “เกมหมุนขวด” ไปโดยสิ้นเชิง ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนบนชายหาดอย่างเหม่อลอยก่อนจะเดินโซเซไปยังแผงขายเครื่องดื่มเย็น ๆ ที่ตั้งอยู่ด้านข้าง

 

เมื่อหญิงสาวผิวเข้มที่อยู่ข้าง ๆ เห็นท่าทางที่ดูไม่ค่อยดีก็รีบลุกตามเพื่อนใหม่ของเธอไปอย่างรวดเร็ว “ทีน่า เธออยากดื่มอะไรเย็น ๆ ก่อนไหม? เดี๋ยวฉันไปซื้อให้ ที่รัก เธอรู้สึกไม่สบายแบบนี้อยู่ตลอดเลยหรือเปล่า? เธอหน้าซีดมากเลยนะ แล้วเมื่อกี้ใครกันเหรอที่โทรมาหาเธอ?”

 

“โทรศัพท์? ใช่แล้ว! ลี่เฉินไงล่ะ! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน เมื่อช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? เป็นไปได้ไหมว่าเป็นเพราะเขา… โอ้! ฉันควรโทรกลับไปหาเขาก่อน ฉันควรโทรกลับมาเขา!” ทีน่าพึมพำขณะที่เธอกดหมายเลขโทรศัพท์

 

เสียงเรียกเข้าที่เธอได้รับคือเสียงของปลายสายที่กำลังใช้งาน หลังจากหญิงสาวโทรเข้าอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 2 – 3 นาทีในที่สุดการโทรก็ถูกเชื่อมต่อ

 

“ทีน่า คุณมีอะไรงั้นเหรอ?” เสียงสงบนิ่งของจางลี่เฉินดังสะท้อนออกมาจากอีกฝั่งของโทรศัพท์

 

เมื่อได้ยินเสียงของเขาหัวใจของทีน่าก็เริ่มสงบลงอย่างรวดเร็วได้อีกครั้ง “เอ่อ คือ ไม่มีอะไร ฉันแค่อยากจะโทรกลับมาหานายอีกสักครั้ง บางที บางทีฉันอาจจะกลับเที่ยวบินของคืนนี้เลย! เราอาจได้พบกันในวันพรุ่งนี้และไปดูโรงงานของนาย…”

 

“คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นก็ได้ ตอนนี้ผมโทรหาทนายเอ็ดเวิร์ด วิลส์ที่คุณแนะนำให้ไว้แล้ว คุณจำเขาไม่ได้งั้นเหรอ? ผมขอให้เขาช่วยเรื่องตัวแทนธุรกิจเพื่อการเจรจากับสหภาพเกษตรกรที่น่ารำคาญ คุณยังเคยพูดอยู่เลยว่าเขามีประโยชน์อย่างมาก”

 

“ง…งั้นเหรอ? ก็ดีแล้ว…”

 

“คุณมีอะไรอีกหรือเปล่า?”

 

“ไม่มี … ไม่! อย่าเพิ่งวางสายนะ! ลี่เฉิน ฉันไม่รู้ว่าทำไมแต่หลังจากได้ยินเสียงของนายตอนที่นายโทรมาฉันก็เกิดอาการตื่นตระหนก…”

 

“ทีน่า คุณเป็นอะไรหรือเปล่า? ตอนนี้ทริชกับชีล่าอยู่กับคุณที่นั่นด้วยไหม?”

 

“ชีล่ากำลังไปว่ายน้ำกับหนุ่มหล่อในขณะที่ทริชไปโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในฮาวายเมื่อเช้านี้ ตอนนี้ฉันมีเพื่อนใหม่อยู่รอบตัว…”

 

“อย่างนั้นเหรอ?” ทันใดนั้นความคิดที่ไร้เหตุผลก็เกิดขึ้นในใจของจางลี่เฉินก่อนที่เขาจะโพล่งออกไปว่า “ใช่แล้วทีน่า! เดี๋ยวก็จะถึงช่วงวันหยุดฤดูร้อนเร็ว ๆ นี้แล้ว และผมก็ยังไม่เคยไปฮาวายมาก่อน…”

 

“นายวางแผนที่จะมาเที่ยวช่วงวันหยุดฤดูร้อนที่ฮาวายอย่างนั้นเหรอ?” ทีน่าถามด้วยความประหลาดใจ “ถ้างั้นฉันจะได้ไม่กลับนิวยอร์กแล้วรอนายอยู่ที่นี่แทน”

 

“เยี่ยม! เพราะผมคงไม่สามารถอยู่ทำตัวว่าง ๆ ที่นิวยอร์กตลอด 2 เดือนได้”

 

“สัญญาแล้วนะ! ยังเหลืออีกตั้ง 10 กว่าวันก่อนที่จะถึงวันหยุดฤดูร้อน นายจะมาหาฉันในทันทีที่วันหยุดเริ่มต้นใช่ไหมที่รัก?”

 

“แน่นอน ผมจะไปหาคุณในทันที” จางลี่เฉินตอบกลับด้วยใบหน้าเห่อร้อนก่อนจะวางสาย กระบวนการทำงานของหัวใจเขาผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด หลังจากจ้องมองเพดานที่ว่างเปล่าอยู่ครู่หนึ่งเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาไม่สามารถสงบจิตใจตัวเองในตอนนี้ได้เลยไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ขณะที่เขากำลังคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่นั้นเขาก็พรวดพราดวิ่งลงไปชั้นล่างพร้อมกับเสียงดัง “ตึก ๆ ๆ”

 

“แม่ครับ! วันนี้ผมจะออกไปเดินเล่นข้างนอกหน่อยนะครับ!”

 

“ได้สิจ้ะลูกรัก ลูกไม่ได้ออกไปไหนเลยตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นการดีที่จะได้ออกไปข้างนอกและสูดอากาศบ้าง”

 

“ถ้าอย่างนั้นผมออกไปเที่ยวกับจอร์จแล้วทานมื้อกลางวันกับเขาเลยจะได้ไหมครับ?”

 

“ได้สิจ้ะ แต่อย่าลืมนะว่าอย่าไปคิดอะไรมาก อย่าหาเรื่องให้สมองต้องทำงานหนักจนเกินไป อย่ากินอาหารที่มีน้ำมันและอย่าลืมทานยาก่อนมื้ออาหาร…” ลิลี่จู้จี้อีกครั้งขณะเตรียมอาหารกลางวันอยู่ในห้องครัว

 

“รู้แล้วล่ะครับ!” จางลี่เฉินตอบกลับเสียงดังก่อนจะวิ่งออกจากบ้านไป

 

สภาพอากาศนิวยอร์กช่วงกลางเดือนมิถุนายนค่อนข้างร้อนมากแต่โชคดีที่วันนี้ดวงอาทิตย์ถูกปกคลุมไปด้วยเมฆดำชั้นหนึ่ง แม้ว่าฝนจะไม่ตกแต่อากาศก็ยังเย็นกว่าปกติ

 

จางลี่เฉินสวมกางเกงขาสั้นและเสื้อสเวตเตอร์ที่มีภาพการ์ตูนที่ลิลี่ซื้อให้เขาพร้อมกับรองเท้าแตะ เขาเดินตรงไปยังลานจอดรถด้วยร่มเงาของต้นไม้ข้างทาง หลังจากโทรหาจอร์จแล้วตัดสินใจเลือกสถานที่เพื่อนัดเจอกันแล้วเขาก็ตัดสินใจโทรหาแมดดี้ต่อ “ค้นหาเที่ยวบินไปฮาวายก่อน 3 วันหยุดฤดูร้อนจะมาถึง ผมต้องการมันโดยเร็วที่สุด ส่งข้อความรายละเอียดมาให้ผมในภายหลัง … “

 

“วันนี้ฉันไม่ว่าง! ขอร้องล่ะ! วันนี้คุณอย่างเพิ่งกวนฉันจะได้ไหม? ขอร้อง…” เห็นได้ชัดว่าเสียงที่ดังออกมาจากอีกด้านของโทรศัพท์เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

 

“แมดดี้ เกิดอะไรขึ้นกับคุณ?”

 

“อาการของพ่อฉันกำลังแย่ลงเรื่อย ๆ หมอบอกว่าเขาไม่มีเวลาเหลือแล้ว ตอนนี้ฉันอยู่โรงพยาบาลกับคุณแม่ของฉัน…”

 

“อาการแย่ลง? ถ้าอย่างนั้น มันยังรักษาได้ใช่ไหม? ไปโรงพยาบาลที่ดีกว่า … ”

 

“นี่คุณ…นี่คุณยังยินดีที่จะช่วยฉันอยู่อีกงั้นเหรอ?”

 

“แน่นอนสิ! ไปถามหมอแล้วค่อยโทรหาผมในภายหลังด้วยล่ะ โอ้ ใช่! แล้วอย่าลืมหาเที่ยวบินไปฮาวายให้ผมด้วย”

 

หลังจากวางสายที่ 3 ของวันนี้เสร็จจางลี่เฉินก็มองดูรอบ ๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในลานจอดรถ

 

ขณะนี้เกือบจะถึงเวลาอาหารกลางวันแล้วและมีคนเพียงไม่กี่คนที่เดินอยู่บนถนน ชายหนุ่มมองเห็นชายชรา 4 – 5 คนเดินมาพร้อมกับสุนัขข้างกายอย่างช้า ๆ และเห็นเด็ก 3 – 4 คนที่สวมหมวกกันน็อคขณะเล่นสเก็ตบอร์ด พวกเขาหัวเราะไปด้วยกันกับการเล่นแบบเด็ก ๆ

 

“ดูเหมือนว่าเราในตอนนี้จะอารมณ์อ่อนไหวง่ายมากซะเหลือเกิน” จางลี่เฉินเย้ยหยันตัวเองด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินไปที่รถที่เขาไม่ได้ขับมาเป็นเวลานาน

 

 

ไม่ไกลจากเขามีรถตู้คันยาวที่มีสติกเกอร์แประตัวรถไว้ว่า “การบำรุงรักษาเทศบาล”  จอดอยู่ฝั่งตรงข้าม ชายวัยกลางคนในชุดสีเบจที่มีเคราเป็นพวงกำลังมองดูจางลี่เฉินที่ค่อย ๆ จากไปจากกล้องดูดาวภายในรถยนต์ขณะพึมพำกับตัวเอง “เป้าหมาย B098 การตรวจสอบครั้งที่ 7 การโทรออกของเขาเกิดขึ้น 3 ครั้งระหว่างช่วงเวลา 11.20 น. ถึง 11.50 น. และรับสายเพียง 1 ครั้ง จาก 2 ใน 4 สายคือเป้าหมาย B21 ไม่มีความผิดปกติในการโทรแต่อย่างใดอย่างหนึ่ง ขอย้ำว่าไม่มีความผิดปกติและขอแนะนำให้ยกเลิกการตรวจสอบ”

 

เมื่อชายผู้มีเครากำลังพูดพึมพำกับตัวเองทันใดนั้นเสียงคล้ายไมโครเวฟก็ดังขึ้นภายในรถยนต์ ชายวัยกลางคนที่รออยู่ถูมือของเขาอย่างตื่นเต้น “นี่เพื่อน! ฮอทด็อกของพวกเราได้แล้ว! ในที่สุดเราก็จะได้เลิกทำงานตรวจสอบน่าเบื่อนี่กันสักที การต้องมาเล่นซ่อนหากับเด็ก ๆ พวกนี้ตลอดทั้งวันน่าเบื่อจะแย่! ฉันละคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าหัวหน้าใหญ่ของพวกเรากำลังคิดอะไรอยู่! ถ้ามีภารกิจอื่นที่น่าเบื่อแบบนี้อีกในครั้งหน้าฉันจะนำกระทะและเครื่องทำฟองเพื่อที่ฉันจะได้ทอดเบคอนในขณะทำฟองนมในเวลาเดียวกันไปด้วยมาเลย!”

 

“เงียบน่าอเล็กซานเดอร์! การร้องเรียนจะทำให้นายไม่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งนะรู้ไว้ซะ! นี่! ฮอทด็อกของฉันล่ะ อย่ากินทั้งหมดนั่นด้วยตัวคนเดียวสิ เดี๋ยวฉันจะลงชื่อเข้าใช้บันทึกการตรวจสอบและแนะนำให้ขยายเวลาการติดตามต่ออีกหนึ่งสัปดาห์…” ชายวัยกลางคนอีกคนหนึ่งที่มีหนวดเคราวางเครื่องมือออกจากตัวแล้วยิ้ม

 

ตัวแทนทั้งสองออกมาจากด้านหลังรถและเข้าไปในนั่งภายในห้องขับรถขณะเคี้ยวฮอทด็อก พวกเขากำลังขับรถไล่ตามเป้าหมายซึ่งก็คือจางลี่เฉินอย่างระมัดระวัง

 

 

โดยปกติแล้วจอร์จยังคงทำงานอยู่ที่ร้านขายเนื้อในช่วงบ่ายวันเสาร์ หลังจากเลี้ยวซ้ายและขวาบนถนนนิวยอร์กนานกว่า 20 นาทีเขาก็จอดรถไว้ที่ด้านนอกร้านขายเนื้อ

 

ไม่นาน จอร์จที่เพิ่งออกจากงานก็เดินออกมาจากร้านและรีบขึ้นรถของจางลี่เฉินไปอย่างรวดเร็ว

 

หลังทักทายด้วยการกอดกับจางลี่เฉินเสร็จเด็กชายผิวสีก็พูดเสียงดังขึ้นมาว่า “นี่เพื่อน! เป็นการดีที่ได้เห็นนายปลอดภัยและร่าเริงตามปกติ ตามธรรมเนียมของคนจีนแล้ว ให้ฉันได้กินกุ้งมังกรกับนายเพื่อเพิ่มความตื่นตาตื่นใจให้กับนายดีไหม?!”

 

“งั้นไปกินที่ร้านอาหารในเวสต์เอนด์”

“ลืมไปได้เลย! เบอร์เกอร์ต่างหากล่ะที่ฉันต้องการ ร้านเบอร์เกอร์ที่แมดดี้ทำงานล่ะเป็นไง? เพราะเธอทำงานที่นั่นเธออาจให้ราคาพนักงานกับพวกเราได้ก็ได้”

 

“วันนี้เธอไม่ได้ไปทำงานหรอก ฉันเพิ่งคุยกับเธอไปเมื่อครู่นี้เอง ตอนนี้เธออยู่โรงพยาบาล อาการของพ่อเธอทรุดหนักลงไปอีก…”

 

“โอ้ ช่างโชคร้ายจริง ๆ เพื่อน! นายต้องไปอยู่ข้าง ๆ เธอในเวลานี้ไม่ใช่หรอกเหรอไง? ฉันล่ะไม่เข้าใจเรื่องระหว่างพวกนาย 2 คนเลยจริง ๆ ฉันเห็นพวกนายติดต่อกันเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่าน … โอเค! ฉันขอโทษ มันเป็นเรื่องส่วนตัวของนายและฉันไม่ควรไปแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก แต่แมดดี้ต้องการใครซักคนที่จะปลอบเธอในเวลานี้และฉันคิดว่านายสามารถปลอบเธอคนนั้นได้”

 

เมื่อได้ยินคำพูดของเพื่อนสนิทจางลี่เฉินก็ลังเลไปครู่หนึ่ง “นายพูดถูกแล้วจอร์จ! ฉันไม่ควรใจร้ายกับเรื่องพวกนี้ เอาล่ะ ไปโรงพยาบาลกันเลยเถอะ!”

 

จากนั้นเขาขับรถเพื่อมุ่งหน้าไปยังศูนย์วิจัยมะเร็งของนิวยอร์กโดยอาศัยระบบนำทาง

 

หลังจากแวะซื้อเบอร์เกอร์พร้อมโคล่ามา 2 ชุดและทานอาหารกลางวันกันแบบเรียบง่ายเสร็จเรียบร้อย จางลี่เฉินก็มาจอดรถอยู่ที่ศูนย์วิจัยมะเร็งแคสซานดราที่มีขนาดค่อนข้างเล็กแต่ค่อนข้างมีชื่อเสียง ในตอนนี้เป็นเวลาบ่ายโมงแล้วเมื่อเขามาถึง

 

นอกเหนือจากแพทย์และพยาบาลคนที่มักจะเข้าออกที่นี่ก็คือผู้ป่วยโรคมะเร็งและครอบครัวของพวกเขา จางลี่เฉินรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยขณะเดินเข้าไปข้างใน

 

อย่างไรก็ตามสิ่งที่แปลกประหลาดคือทุกคนที่นี่มีรอยยิ้มบนใบหน้าราวกับว่าพวกเขาอยู่ในอารมณ์ที่มีความสุข แม้แต่ผู้ป่วยร่างผอมบางคนก็กระซิบกับพยาบาลอย่างนุ่มนวล ไม่เร็วเกินไปหรือช้าเกินไปราวกับว่าพวกเขาไม่ได้มองโลกในแง่ร้ายหรือสิ้นหวังแต่อย่างใด

 

เนื่องจากเหตุผลเรื่องพื้นที่ทำให้สถานที่แห่งนี้ถูกแยกออกเป็น 2 ส่วน 1.หอผู้ป่วย และ2.ห้องรอพบแพทย์ ห้องรอพบแพทย์ไม่ได้กว้างใหญ่เท่าไหร่นัก ขณะนั่งรออยู่หน้าห้องจางลี่เฉินเหลือบไปเห็นแมดดี้ที่กำลังอยู่กับหญิงวัยกลางคนที่มีรอยยิ้มเข้าพอดี

 

เขาลังเลอยู่ครุ่หนึ่งก่อนจะก้าวเท้าไปข้างหน้า “แมดดี้ ผมได้ยินเรื่องอาการพ่อของคุณเลยตัดสินใจมาหาคุณที่นี่พร้อมกับจอร์จ”

 

เมื่อได้ยินคำทักทายของเขาแมดดี้ก็รู้ตัวในที่สุดว่าจางลี่เฉินได้มาที่ศูนย์วิจัยมะเร็งแคสซานดรานี้แล้ว เธอกำลังตกตะลึงอย่างมากจนแทบพูดไม่ออกกับการปรากฏตัวของชายหนุ่มที่นี่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด