The Great Worm Lich 141

Now you are reading The Great Worm Lich Chapter 141 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตลาดดั้งเดิมของฮาวายที่อลิซพาจางลี่เฉินมาตั้งบนพื้นที่โล่งขนาดใหญ่ด้านหลังอาคารพาณิชย์ซึ่งเป็นบริเวณที่จอดรถ อาจกล่าวได้ว่านักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนในช่วงวันหยุดที่โฮโนลูลูจะไม่สามารถค้นหาสถานที่ที่แปลกประหลาดแบบนี้ได้เองเว้นแต่ว่าพวกเขาจะทำการบ้านอย่างเต็มที่ก่อนมาเที่ยว

 

จางลี่เฉินเดินตามหญิงสาวที่เดินผ่านเคาน์เตอร์แบรนด์ขนาดใหญ่ชั้นหนึ่งของอาคารออกไปด้านนอก หลังจากที่เขาออกจากอาคารมาก็จะเข้าสู่บริเวณพื้นที่ของตลาดดั้งเดิมในทันที จางลี่เฉินรู้สึกราวกับว่าเขาเพิ่งก้าวข้ามมายังโลกที่แตกต่างไปจากเดิมอีกครั้ง

 

ขณะใช้มือของตัวเองปิดบังแสงแดดที่แยงตา จางลี่เฉินมองไปที่ชายหนุ่มคนหนึ่ง เขามีทั้งห่วงทองเหลืองเจาะอยู่ที่จมูกและสวมเสื้อไนกี้สีขาว เขาถือรังผึ้งที่มีขนาดเท่าลูกบอลไว้ในมือขณะตะโกนเรียกลูกค้าให้เข้ามาสนใจ

 

เมื่อเขาหันหลังกลับมาเขาสามารถมองเห็นพนักงานจากเคาน์เตอร์แบรนด์ที่กำลังยืนยิ้มให้เขาอย่างเป็นมืออาชีพ เขาหันไปพูดกับอลิซด้วยความตกใจว่า “การวางหลุยส์วิตตองขายในพื้นที่เล็ก ๆ ที่พอเดินออกมาก็จะเจอกับตลาดนัดขนาดใหญ่ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่านี่คืออะไร ตุ๊กตาบาร์บี้ที่ทำมาจากไม้นี่ ว้าว มันช่างน่าตื่นเต้นจริงๆ!”

 

“มันคือตุ๊กตาวูดู! เช่นเดียวกับแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เกาะนี้เองก็เป็นหนึ่งในแหล่งกำเนิดของลัทธิวูดูเหมือนกัน จนถึงตอนนี้มากกว่าหนึ่งในห้าของผู้คนที่นี่ยังคงเชื่อในลัทธิวูดูอยู่ สำหรับพวกเราชาวฮาวายแล้วประเพณีมีความสำคัญยิ่งกว่าสิ่งของหรูหราพวกนั้นเยอะ มาเถอะมิสเตอร์ลี่เฉิน ฉันจะพาดูรอบ ๆ นี้เอง”

 

ขณะที่อลิซกำลังพูดอยู่ตัวเธอก็เริ่มเดิมเข้าสู่ตลาดดั้งเดิมไปพร้อม ๆ กัน จางลี่เฉินเดินตามหลังเธอไปอย่างว่าง่ายขณะสะพายกระเป๋าเป้พลางมองรอบ ๆ ตลาด ส่วนใหญ่ของคนที่มาตลาดนี้มักจะมีผิวสีแทนซึ่งหมายความว่าที่ตลาดนี้ไม่ใช่กับดักของนักท่องเที่ยวที่จ้องจะขายแต่ของที่ระลึกประหลาด ๆ มันเป็นตลาดที่ให้บริการคนในพื้นจริง ๆ ที่เป็นหลัก

 

“คุณรู้ไหมว่าสิ่งนี้คืออะไร?” อลิซที่เดินนำอยู่ข้างหน้าหยุดที่หน้าแผงขายของชายที่ถือรังผึ้งที่จางลี่เฉินเพิ่งเห็นไป เธอถามขณะชี้ไปที่รังผึ้งในมือเขา

 

“โอ้ ผมสามารถระบุสปีชีส์ที่สำคัญที่สุดได้ 278,675 สปีชีส์ท่ามกลางแมลง 3 ล้านชนิดบนโลกแต่ผมไม่เคยเห็นสิ่งที่แปลกประหลาดแบบนี้มาก่อนเลย มันคือรังผึ้งใช่ไหม?”

 

“เดาถูกแล้วมิสเตอร์ลี่เฉิน นี่คือรังผึ้งตัวต่อของฮาวาย” อลิซที่ประหลาดใจกับคำตอบขบขันที่ถูกต้องของชายหนุ่มเอ่ยถามเขาไปอีกครั้งว่า “แล้วรู้ไหมว่ามันมีไว้เพื่ออะไร?”

 

“ไว้ทำเป็นยามั้งนะ ถ้าให้ผมเดา รังผึ้งเป็นยาดีสำหรับเติมสารสำคัญเพื่อบำรุงปอด”

 

“ไม่ใช่สักหน่อย เป็นแค่รังผึ้งจะเอาไปทำเป็นยาได้อย่างไรกัน!” หญิงสาวไม่เข้าใจสิ่งที่ชายหนุ่มหมายถึงการเติมสารสำคัญเพื่อบำรุงปอด เธอส่ายหัวก่อนจะหยิบเงินออกจากระเป๋ามาสิบดอลลาร์แล้วส่งไปให้คนขาย

 

หลังจากรับรังผึ้งมาแล้วเธอใช้นิ้วของตัวเองแหย่เข้าไปในรังผึ้งนั้นเพื่อควานหาดักแด้ตัวอ้วนสีขาวที่ยังมีชีวิตอยู่แล้วนำมันมาแสดงตัวต่อหน้าจางลี่เฉิน จากนั้นเธอก็วางดักแด้ตัวต่อตัวนั้นใส่เข้าปากและเคี้ยวดักแด้เป็นชิ้น ๆ ก่อนที่จะกลืนมันลงไป “มันเป็นข้าวโพดคั่วสำหรับพวกเราชาวฮาวาย รสชาติอร่อย ๆ ที่ได้จากธรรมชาติ!”

 

ตามความคิดของหญิงสาวแล้วเธอคิดว่าเมื่อลูกชายคนรวยที่แสนหยิ่งยโสจากนิวยอร์กได้เห็นสิ่งนี้เขาจะต้องกลัวจนตะโกนร้องตกใจออกมาเสียงดังอย่างแน่นอน และถึงแม้เขาจะมีความกล้าแต่อย่างน้อยตัวเขาก็ต้องสั่นด้วยความรังเกียจบ้าง แต่สำหรับจางลี่เฉินผู้เติบโตที่หมู่บ้านบนภูเขาแล้วการกินดักแด้ที่ยังมีชีวิตอยู่เป็นเรื่องที่ปกติมาก

 

“ดักแด้พวกนี้อาศัยอยู่ในรังงั้นสินะ” ชายหนุ่มเบิกตา “รังผึ้งที่คุณขายทั้งหมดมีราคาสิบดอลลาร์ต่ออันงั้นเหรอ?”

 

“อันใหญ่ ๆ ที่สดใหม่จะมีราคา 15 – 20 ดอลลาร์ครับ” ผู้ชายที่ไม่รู้แหล่งกำเนิดของจางลี่เฉินอธิบายให้เขาฟังด้วยความกระตือรืนร้น แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องผิดปกติสำหรับเขาที่จะเจอลูกค้าชาวเอเชียแต่บางคนที่เพิ่งเคยเจอก็มีความกล้าที่จะหยิบสิ่งนี้เข้าปากอยู่บ้าง ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ได้แปลกใจกับท่าทีนิ่ง ๆ ของจางลี่เฉินสักเท่าไหร่นัก

 

จางลี่เฉินพยักหน้าก่อนจะลงไปนั่งตรงหน้าแผงขายรังผึ้งเพื่อเลือกรังที่เขาต้องการ เขาเลือกรังที่ใหญ่ที่สุดและถามว่า “อันนี้ราคาเท่าไหร่?”

 

“โอ้! นั่นเป็นรังที่ไม่ค่อยมีมาเท่าไหร่นัก ราคาอยู่ที่สามสิบดอลลาร์! มันเป็นรังที่ใหญ่ที่สุดที่ผมเลือกมาตลอดทั้งเดือน ไม่แน่บางทีมันอาจมีราชินีอยู่ข้างในก็ได้” ผู้ขายร้องขอในราคาที่สูงเกินควร

 

“ราชินี? คุณหมายถึงราชินีที่ยังไม่ตายน่ะเหรอ?” จางลี่เฉินตกใจกับคำตอบที่ได้รับก่อนจะส่ายรังด้วยมือทั้งสองข้างแล้วยกรังไปไว้ใกล้ ๆ กับหูของเขาเพื่อฟังเสียง

 

“ใช่แล้วเพื่อน! ราชินีข้างในยังมีชีวิตอยู่ น่าจะได้ยินเสียงมันคลานอยู่ข้างในนั้นนะ” ผู้ขายบิดนิ้วของเขาอย่างขบขันขณะเดินไปมารอบ ๆ

 

“โกหกกันนี่ แต่การแสดงของคุณก็น่าสนใจดี เอาล่ะ นี่สามสิบดอลลาร์ของคุณ” จางลี่เฉินทำการซื้อขายก่อนจะใช้นิ้วควานหาดักแด้เพื่อนำเข้าปาก “อืมม…รสชาติดักแด้ของฮาวายก็ไม่เลว ถ้าไปทำแบบนี้ในอเมริกาที่อื่นอาจถูกตำรวจจับตัวได้เลยด้วยซ้ำมั้ง ดูเหมือนว่าโฮโนลูลูค่อนข้างจะเป็นเมืองที่ดีทีเดียว มิสอลิซ มีอะไรอย่างอื่นอีกไหมที่คุณอยากแนะนำให้ผมรู้จัก โอ้ ผมสนใจตุ๊กตาวูดูมากจริง ๆ! ผมเคยมีเพื่อนที่แสนอันตรายอยู่คนหนึ่งเอาแต่บอกว่าผมเป็นพ่อมดที่ถือตุ๊กตาวูดูอยู่รอบตัวตลอด”

 

อลิซที่ไม่รู้ว่าทันทีที่จางลี่เฉินพูดประโยคสุดท้ายจบ ใบหน้าของฆาตกรต่อเนื่องที่โหดเหี้ยมที่สุดที่เคยมีมาในนิวยอร์กได้พุ่งขึ้นมาในจิตใจของเขา

 

หญิงสาวผู้ซึ่งคิดว่าเธอถูกเยาะเย้ยอีกครั้งโดยชายหนุ่มก็ยิ้มขบฟันก่อนจะตอบกลับไปว่า “ที่นี่คือตลาดสดของฮาวาย จะไปมีตุ๊กตาวูดูของจริงที่นี่ได้อย่างไรกัน?”

 

หลังจากเดินเล่นไปรอบ ๆ ตลาดดั้งเดิมที่คึกคักอย่างไร้ประโยชน์เสร็จ จางลี่เฉินก็เดินกลับไปที่รถโดยไม่รู้สึกอึดอัดกับสิ่งแปลกประหลาดใด ๆ ในตลาด

 

หลังจากขับรถผ่านไปหลายช่วงตึกในที่สุดอลิซก็จอดรถใต้ต้นปาล์มขนาดใหญ่ข้างถนนต้นหนึ่ง เมื่อมองดูจางลี่เฉินที่กำลังกินดักแด้ตัวต่อด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขเธอก็เปิดหน้าต่างแล้วชี้ไปที่บ้านไม้สีขาวบนชายหาดข้างรีสอร์ทริมทะเล “บ้านเพื่อนฉันอยู่ตรงนั้น คุณรออยู่ในรถไปก่อน เดี๋ยวฉันจะไปเรียกเธอมา”

 

“โอเค”

 

เมื่อได้ยินคำตอบของเขาแล้วหญิงสาวก็กระโดดออกจากรถลงบนขอบถนนตื้นก่อนจะเดินไปทางบ้านไส้สีขาวหลังนั้น แต่ก่อนที่เธอจะทันเดินไปถึงบ้านไม้ หญิงสาวที่มีหน้าตาน่ารักคนหนึ่งที่มีดวงตากลมโตขนาดใหญ่ซึ่งดูเหมือนว่าเธอจะเป็นลูกครึ่งฮาวายและคอเคเชี่ยนก็เดินออกจากบ้านไม้หลังนั้นมา

 

“อลิซ เธอไปรับแฟนของทีน่ามาแล้วใช่ไหม? ทำไมเธอมาหาฉันในเวลานี้ล่ะ?” หญิงสาวลูกครึ่งกล่าวทักทายอลิซขณะยกมือขึ้นมาบังแสงแดด

 

“ไงจอร์จินา! วันนี้ฉันแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้วเธอรู้ไหม! เธอคงนึกไม่ออกหรอกว่าแฟนของทีน่าน่ะน่ารำคาญมากขนาดไหน! เขาทั้งผอมทั้งเตี้ยและดูเหมือนเด็กมัธยมต้น! รู้ไหมว่าเขาเหน็บฉันตอนที่เจอกันครั้งแรกว่าอะไร? เขาบอกว่าฉันดูแข็งแกร่งมาก!”

 

“เกินไปแล้วนะ! แต่อลิซ ฉันเคยบอกเธอไปแล้วนี่ว่าลูกคนรวยอย่างทีน่าและทริชน่ะเป็นกรณีพิเศษ! ดูอย่างชีล่าที่อยู่กับพวกเธอสิ…”

 

“ฮึ ชีล่า ชีล่า! ยัยนั้นน่ะตัวแสบของจริง! แต่ถึงอย่างนั้นยัยนั้นก็ไม่ได้น่ารำคาญเหมือนจางลี่เฉินคนนี้เลย เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนเขาเอาแต่เย้ยหยันฉันไม่หยุด และเหตุผลที่ฉันมาหาเธอนั่นก็เพราะฉันอยากให้ชาร์ล็อตขับรถพาเธอไปหาบอนนี่ คามิลเพื่อไปตั้งแคมป์กับฉันแถว ๆ ภูเขาไฟในคืนนี้ ฉันจะได้ระบายความน่ารำคาญของเขาได้บ้าง!”

 

“อะไรนะอลิซ? ไม่ใช่ความฝันของเธอหรอกเหรอที่อยากจะเป็นไกด์นำเที่ยวในอนาคต หากเธอได้เป็นไกด์นำเที่ยวมืออาชีพเมื่อไหร่เธอจะได้พบกับแขกที่น่ารำคาญมากยิ่งขึ้น…”

 

“จอร์จินา! ตอนนี้ฉันยังไม่ได้เป็นไกด์นำเที่ยวสักหน่อย! ฉันเป็นเพียงหญิงสาวชาวฮาวายคนหนึ่งที่ต้องการจะแก้แค้น! ร่วมมือกับฉันเถอะนะที่รัก จำได้ไหมว่าเธอยังเป็นหนี้ฉันอยู่ เมื่อปีที่แล้วที่เธอเมาเหล้ากับชาร์ล็อตต์และฉันเองที่เป็นคนช่วยเธอแก้ตัวกับลุงไมรอน”

 

“ฉันน่าจะรู้ว่าไม่ควรไปขอร้องให้คนอย่างเธอช่วยเลย! ถ้าตอนนั้นบอนนี่อยู่ด้วยล่ะก็…”

 

“มันไม่สายเกินไปที่จะพูดแบบนี้หรอสาวน้อย? ได้โปรดเถอะนะที่รัก! ถ้าเธอไม่ยอมไปด้วยกันชาร์ล็อตต์ก็จะไม่ยอมไปด้วยแน่ ๆ ฉันต้องการใช้รถของเขาจริง ๆ นะ!”

 

“ก็ได้ เดี๋ยวฉันจะโทรหาเขาให้เอง แต่ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเธอต้องเป็นคนออกนะ ตกลงไหม?!”

 

“ตกลง ให้ฉันจัดการเรื่องนี้เอง!” อลิซกัดฟันพลางโบกมือไปมา

 

“ถ้างั้นก่อนอื่นพาฉันไปหามิสเตอร์จางลี่เฉินที่แสนน่ารำคาญแล้วฉันจะโทรหาเขาให้ทีหลัง”

 

“ทำใจดี ๆ ไว้ด้วย ไม่งั้นเธออาจเป็นลมล้มไปเลยก็ได้!” อลิซดึงมือจอร์จินาขณะพูด หญิงสาวสองคนหัวเราะคิกคักอยู่บนชายหาดก่อนจะวิ่งไปใต้ต้นปาล์มที่อยู่ห่างไกล

 

เมื่อหญิงสาวกลับไปที่รถจางลี่เฉินได้เดินออกมาอยู่นอกตัวรถอยู่ก่อนแล้ว เขายืนอยู่ใต้ร่มเงาของต้นปาล์มเพื่อชื่นชมทิวทัศน์ที่สวยงามของฮาวาย

 

“มิสเตอร์ลี่เฉิน นี่เพื่อนสนิทของฉันเองชื่อจอร์จินา เธอเองก็เป็นเพื่อนกับทีน่าเหมือนกัน” อลิซแนะนำชายหนุ่มและหญิงสาวให้ได้รู้จักกัน “จอร์จินานี่แฟนหนุ่มของทีน่า มิสเตอร์จางลี่เฉิน”

 

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ มิสจอร์จินา”

 

“เช่นกันค่ะมิสเตอร์ลี่เฉิน เรียกฉันว่าจอร์จินาเฉย ๆ ก็ได้”

 

“ถ้างั้นคุณเรียกผมว่าลี่เฉินก็ได้ครับ”

 

สองคนที่เพิ่งได้เจอกันทักทายกันอย่างเรียบ ๆ จอร์จินาไม่คิดว่าจางลี่เฉินจะเป็นคนหยิ่ง ๆ เหมือนอย่างที่อลิซบอก เธอคิดว่ามันเป็นเพียงเพราะดูเขาค่อนข้างเก็บตัวและดูไม่เป็นมิตรกับคนอื่นเท่าไหร่เฉย ๆ

 

อย่างไรก็ตามเธอได้ตกลงที่จะช่วยเหลือเพื่อนสนิทเพื่อเล่นตลก ๆ กับชายหนุ่มร่างผอมตรงหน้านี้ไปแล้วจอร์จินาเลยไม่ได้ท้วงอะไรกับสิ่งที่อลิซกล่าวมาในตอนต้น ท้ายที่สุดแล้วเพื่อนสนิทของเธอก็แค่ต้องการใช้แผนชั่วร้ายที่ไร้เดียวสาเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อระบายความรำคาญของเธอก็เท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังใช้โอกาสนี้ออกไปตั้งแคมป์กับแฟนของเธอได้อีกจึงไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องปฏิเสธ

 

หลังจากโทรหาพ่อที่กำลังทำงานของเธอเพื่อบอกให้เขารู้ว่าเธอจะออกไปตั้งแคมป์ค้างคืนที่บริเวณภูเขาไฟพร้อมกับเพื่อน ๆ โดยมีอลิซเป็นพยานยืนยันก็ได้รับอนุญาตในทันที จากนั้นจอร์จินาก็โทรหาแฟนของเธอและขอให้เขาขับรถบัสไปรับเพื่อน ๆ ของเขาก่อนที่จะมารวมตัวกับเธอที่นี่

 

จางลี่เฉินที่อยู่ข้าง ๆ กล่าวชื่นชมด้วยท่าทีสบาย ๆ “มันเป็นเรื่องที่นึกไม่ถึงในนิวยอร์กสำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 20 ปีจะได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองให้ออกไปตั้งแคมป์ค้างคืนนอกบ้าน แต่ที่ฮาวายกลับสามารถทำได้อย่างง่าย ๆ”

 

“ฟังสิ เขาล้อเลียนเราอีกแล้ว!”

 

“ทำไมฉันคิดว่าเขาพูดในเชิงอิจฉาเรามากกว่าล่ะ”

 

“ที่รัก เธอเข้าใจผิดแล้ว นายคนนี้น่ะตัวน่ารำคาญของจริงเลย”

 

หญิงสาวสองคนกระซิบพูดคุยกันโดยไม่สนใจชายหนุ่มข้าง ๆ พวกเธอคุยกันไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งมีมินิบัสเก่า ๆ ขับเข้ามาและจอดห่างจุดที่พวกเขายืนอยู่ประมาณสองเมตร

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด