The Legendary Mechanic 371 การปฏิบัติที่ต่างกัน

Now you are reading The Legendary Mechanic Chapter 371 การปฏิบัติที่ต่างกัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สิ่งมีชีวิตที่ฉลาดจะสามารถปลุกยีนพิเศษได้ ผ่านการฝึกฝนต่างๆ เซลล์จะสร้างพลังพิเศษขึ้น นี่คือพลังงาน พลังงานเหมือนแม่น้ำเชี่ยว เซลล์และยีนเหมือนหินใต้น้ำ เมื่อแม่น้ำใหญ่ขึ้น หลังผ่านไปเรื่อยๆ ยีนก็เริ่มวิวัฒนาการ กลายเป็นสมบูรณ์แบบ มันเหมือนการบีบอัดการวิวัฒนาการล้านปี

เกรดAเป็นเกณฑ์มาตรฐานหรือที่เรียกว่าเกรดมหันตภัย มันคือพลังระดับสูงในกาแล็กซี่ และพวกที่โชคดีพอจะมาถึงระดับนี้ได้ย่อมไม่ธรรมดา เมื่อยีนวิวัฒนาการถึงระดับหนึ่ง มันจะพบสิ่งกีดขวางที่ไม่อาจทำลายได้ กล่าวอีกนัยหนึ่ง มันก็คือไม่มีถนนข้างหน้าอีกต่อไป

ในยุคสำรวจก่อนปฏิทินกาแล็กซี่ สามอารยธรรมใหญ่ยังสู้กันเอง โลกมีความคิดว่าพลังทุกประเภทนั้นแตกต่างกัน นั่นจนกระทั่งศาสตราจารย์สจวต โอน่าแห่งสหพันธ์แห่งแสงได้คิดค้นทฤษฏีขั้นพลังงานขึ้น จากนั้นทุกคนจึงรู้ว่า’พลังงาน’คือสิ่งที่พวกพิเศษทุกคนใช้งานกัน จากนั้นมันก็ผสานเป็นระบบขนาดใหญ่ สร้างมาตรฐานการแบ่งขั้นจนถึงทุกวันนี้ ย้อนกลับไป เกรดAถูกมองว่าเป็นเส้นชัยของการวิวัฒนาการ และไม่มีใครฝ่าด่านมันไปได้

สงครามเป็นดาบสองคม พวกพิเศษระดับAนับไม่ถ้วนตกตาย แต่ในเวลาเดียวกัน สงครามก็เป็นตัวเร่ง ศักยภาพของผู้ที่รอดชีวิตถูกบังคับให้สูงสุด ในช่วงท้ายของสงคราม ในที่สุดก็มีพวกพิเศษที่ทำลายกำแพงระดับAได้ มันเป็นระดับที่แตกต่างออกไป และมันก็ทำให้โลกตกใจ

อารยธรรมไม่เคยคิดว่าความแข็งแกร่งของแต่ละคนจะไปถึงระดับนั้นได้ ระดับที่สามารถต่อกรกับกองทัพของสามอารยธรรมใหญ่ได้ แม้มันจะยังเล็กเมื่อเทียบกับสนามรบกาแล็กซี่อันกว้างใหญ่ ไม่ว่าทั้งกลุ่มจะแข็งแกร่งแค่ไหน มันก็ไม่น่าตกใจเท่าคนๆเดียวที่สามารถสยบได้ทั้งกองกำลัง การดำรงอยู่ของตัวตนที่เหนือกว่าระดับAคือการคุกคาม และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้สามอารยธรรมใหญ่หยุดทำสงครามกัน

เมื่อความสงบสุขมากเยือน  การดำรงอยู่ของตัวตนนั้นก็ยังมีความหมายลึกซึ้ง และตำแหน่งพวกเขาก็สูงมาก ท้ายที่สุด เกรดเหนือกว่าระดับAก็ค่อยๆได้รับการแบ่ง สูงกว่านั้นคือS และยังมีเกรดที่สูงยิ่งกว่า แต่ทว่า ผู้คนก็ยังเรียกพวกพิเศษที่เหนือกว่าระดับAว่าผู้อยู่เหนือระดับA มันเป็นความทรงจำในประวัติศาสตร์

ในปฏิทินกาแล็กซี่ปัจจุบัน มีพวกพิเศษที่เหนือกว่าระดับAแค่4คนในวงแหวนดาวกระจาย ทั้งหมดมีชี่อเสียง และฉายานับไม่ถ้วน เอเมสเป็นที่รู้จักในฐานะ[จักรพรรดินีมังกร] ซึ่งเกิดจากบัลลังก์ที่ทำจากโครงกระดูกมังกรและผู้สร้างเกาะมังกรลอยฟ้า ซึ่งเป็นสิ่งที่มีชื่อเสียงสุดที่เธอเคยทำ

ครั้งนี้ เอเมสกำลังลอยอยู่กลางอากาศ ทุกคนบนท่าจอดรู้สึกกดดัน องครักษ์มังกรมาถึง โอบล้อมทหารรับจ้างและเล็งปืนนับไม่ถ้วนใส่พวกเขา สมาชิกของกลุ่มทหารรับจ้างทั้งสามไม่อาจเข้าใจทัศนคติของเอเมสได้ พวกเขากลัว

นักโทษเผ่าเงินยืนข้างๆและเอเมสก็รู้คร่าวๆว่าเกิดอะไรขึ้น เธอกล่าวด้วยเสียงสนใจ”เผ่าเงิน..เข้าใจแล้ว งั้นพวกแกก็เป็นทหารรับจ้างที่เผ่าเงินจ้างมาสินะ?”
เสียงเธอไม่คมชัด มันค่อนข้างแหบแห้งและเหมือนคลื่นแม่เหล็ก
“ใช่แล้ว”โกอากล่าว”เผ่าเงินกำลังจะถูกขายให้เกาะมังกรลอยฟ้า ดังนั้นเราจึงตามมา เราขออภัยสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่เราหวังว่าคุณจะปล่อยเราไป”

 

เธอแค่อยากลองพยายาม เธอทำได้แค่หวังว่าเอเมสจะยกโทษให้พวกเธอเพื่อเห็นแก่หน้าเผ่าเงิน ยังไงซะเผ่าเงินก็เป็นราชวงศ์จักรวาลและก็มีเบื้องหลังที่แข็งแกร่งมาก

เอเมสยิ้มจาง ไม่สนใจสถานะของเผ่าเงิน”นี่คือวงแหวนดาวกระจาย ไม่ใช่ทะเลวิญญาณดวงดาว”

จากนั้นเธอก็ควบคุมบัลลังก์และบินไปยังที่พักอาศัยเธอใจกลางเกาะลอยฟ้าพร้อมทิ้งประโยคไว้”นำทหารรับจ้างทั้งหมดมาหาฉัน”

องครักษ์มังกรพาทุกคนไปใจกลางเกาะมังกร และทหารรับจ้างก็ไม่มีทางเลือก อย่างน้อยเอเมสก็ไม่ได้ฆ่าพวกเขาทันีท ดังนั้นมันอาจมีความหวัง

อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้ดีขึ้นเลย เมื่อมองไปด้านหลัง เชลยเผ่าเงินซึ่งพวกเขาได้ผ่านความยากลำบากมามากเพื่อช่วยกลับถูกองครักษ์อีกกลุ่มพาไปตลาดทาส ฮอร์ไรด์อยู่ในนั้นด้วย และก็มีใบหน้ายิ้มแย้ม ปัญหาเรื่องเผ่าเงินในสายตาเอเมสก็แค่เรื่องเล็กๆ เธอไม่คิดอยากใส่ใจเลย มันแค่เพราะเธอได้ยินรายงานว่ามีคนสร้างปัญหา เธอจึงตัดสินใจลงมือ ปัญหาที่เหลือเธอจึงปล่อยให้ลูกน้องเธอจัดการ

ฮอร์ไรด์ได้ตัวเผ่าเงินไป และไม่ว่าเพ็กกี้จะยังมีชีวิตอยู่หรือตาย เขาก็ไม่จำเป็นต้องจ่าย ทำให้เขาเป็นผู้ชนะที่ได้กำไรงามสุด

ความช่วยเหลือของทหารรับจ้างทำให้เขากังวลมากในทีแรก แต่ตอนนี้ เขารู้สึกว่ามันตลก คนเหล่านี้ทุ่มเทไปมาก แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้ ฮอร์ไรด์รู้สึกดีมาก เขาเยาะเย้ยทหารรับจ้างและออกไปพร้อมเผ่าเงิน

คนของกลุ่มทหารรับจ้างทั้งสามผิดหวังมากและซึมเศร้า พอตเตอร์เดินไปข้างหน้า สบถในภาษาเขาตลอด ไม่มีใครชอบความรู้สึกของคนกำลังจะเสียทุกอย่าง

ทีมที่พาตัวพวกเขาไปดันเป็นทีมของธีออน ธีออนผลักหานเซี่ยว”พวกแกกล้าโจมตีองครักษ์มังกร ท่านเอเมสจะต้องใช้พลังเปลี่ยนพวกแกเป็นผุยผง!”

หานเซี่ยวหันกลับไปจ้องธีออน

“มองอะไร?เดินต่อไป”ธีออนตะโกน

หานเซี่ยวถูกผลักอีกครั้ง ความแข็งแกร่งเหมือนลมอ่อนๆนั่นไม่ทำให้เขาขยับเลย หานเซี่ยวส่ายหัวและลืมเรื่องธีออน เขาไตร่ตรองถึงสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น จากสิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับเอเมส ตราบเท่าที่ลูกน้องเธอไม่ถูกฆ่าหรือบาดเจ็บ มันก็มีความเป็นไปได้ที่จะพลิกสถานการณ์ ถึงแม้เอเมสจะคาดเดาอารมณ์ได้ยาก แต่เธอก็ไม่ถือเป็นพวกกระหายเลือด

ใจกลางเกาะมังกรลอยฟ้าเป็นที่พำนักของเอเมส พระราชวังขนาดใหญ่คล้ายป้อมปราการมีกระดูกมังกรประดับอยู่ทั่ว พวกเขาผ่านไปทีละห้องจนกระทั่งมาถึงโถงหรู รอการจัดการ

หลังรอสักพัก เอเมสก็ลอยเข้ามา บัลลังก์หยุดตรงหน้าพวกเขา เธอจับแก้มและกล่าว”พวกแกโจมตีลูกน้องฉัน แม้จะไม่มีการบาดเจ็บหรือสูญเสีย ฉันก็ต้องลงโทษ วิลแซนเดอร์ กฏของเราว่ายังไง?”

บางคนเดินออกจากด้านข้าง เขาเกือบเหมือนไม้ไผ่ ทำให้ผู้คนกังวลว่าลมอ่อนจะพัดเขาปลิวไป เขามีเขาคู่บนหัว ผิวแดง มีหางและปีกกระดูกด้านหลัง นี่คือลูกผสมเช่นกัน เขามียีนของปีศาจ

ชายคนนี้เรียกว่าวิลแซนเดอร์ ผู้บัญชาการองครักษ์มังกรและลูกน้องโดยตรงของเอเมส เขาก้าวออกมา หรี่ตาและลูบเคราเขา”ตามกฏแล้ว ทุกคนที่สู้กลับจะต้องถูกประหาร”

ผู้คนกลับตื่นตรพหนก

เอเมสพยักหน้าและกล่าว”งั้นคนของวงแหวนนภา คมดาบและทองม่วงควนถูกคุมขัง บอกหัวหน้ากองทัพพวกเขาให้จ่ายค่าไถ่มา”

“อะแฮ่ม…”วิลแซนเดอร์กระแอมและกล่าวอย่างระมัดระวัง”กฏบอกว่าประหาร…:

“คำพูดของฉันคือกฏ”เอเมสกล่าวเสียงเย็น

ความรู้สึกผิดฉายผ่านดวงตาวิลแซนเดอร์”งั้นท่านจะถามผมทำไม?”

ด้วยสีหน้าไร้เดียงสา เอเมสกระพริบ”ฉันแค่ถามสุ่มๆ”

เธอไม่ได้จัดการอะไรและลืมกฏที่เธอตั้งไว้หมดแล้ว เธอแค่ถามเพราะรู้สึกชอบมัน และก็เปลี่ยนมันตามใจชอบ

“ติดต่อหัวหน้าพวกแกและบอกพวกเขาให้ทำการจ่ายค่าไถ่ จากนั้นเราจะปล่อยพวกแกไป”เอเมสมีความสัมพันธ์กับทหารรับจ้างทั้งสามกลุ่มบ้าง เธอมักจ้างพวกเขามาทำบางสิ่งบางอย่าง สามกองทัพไม่เคยขอเงินเลย และทุกครั้ง หัวหน้าก็จะทำสิ่งต่างๆให้เธอเอง ทั้งหมดเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับเธอ อย่างที่พูด ‘อย่าตบหน้าใครด้วยรอยยิ้ม’ เอเมสไม่อยากทำให้เรื่องยากลำบาก

เมื่อได้ยิน โกอา เซอลีนี่ และพอตเตอร์ก็ถอนหายใจโล่งอก พวกเขาไม่รู้ว่าเอเมสรู้จักหัวหน้าพวกเขา พวกเขารู้สึกแค่ว่าพวกเขารอดความตายมาได้

แต่ทว่า เอเมสหันมามองหานเซี่ยวด้วยสีหน้าขี้เล่นและกล่าว”ตอนนี้มันถึงตาแกแล้ว หากแกไม่มีอะไรจะพูดมาก ฉันก็จะเริ่มโจมตี”
ไม่เหมือนกลุ่มทหารรับจ้างทั้งสาม กลุ่มทหารรับจ้างเล็กๆนี้ไม่มีอะไร ไม่จำเป็นต้องดูแลเป็นพิเศษ

บรรยากาศตึงเครียด และอารมณ์ของสามกลุ่มทหารรับจ้างก็เปลี่ยนไป

ทหารรับจ้างเหล่านี้ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ พวกเขาต่อสู้เคียงข้างกันและทำการติดต่อกัน พวกเขาไม่อาจดูสหายถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตาได้

อากาศกลายเป็นบีบรัด มันเป็นสนามพลังของเอเมสที่เริ่มรวมตัวกัน

“เห้ย!การปฏิบัติที่แตกต่างกันนี่มันชัดเจนเกินไปแล้ว!”เฮอลัสรู้สึกสั่นกลัว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด