The Legendary Mechanic 446 เมืองรูน

Now you are reading The Legendary Mechanic Chapter 446 เมืองรูน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 446 เมืองรูน

 

“รับรูปปั้นนี้ไปและหาอันอื่นให้เร็วที่สุด” เฉินซึ่งกล่าว

 

หานเซียวสํารวจรูปปั้นใหม่รูปร่างมันคือมนุษย์ไร้ใบหน้าที่มีตาขนาดใหญ่บนหน้าอก ซึ่งแปลกมากหลังเขาถือมันไว้คําแนะนําของบนหน้าต่างสถานะก็คือโรูปปั้นลึกลับ] แต่มีหมายเหตุเพิ่มเติม

 

รูปปั้นเหล่านี้ที่ท่านค้นพบดูเหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของชุดรวบรวมรูปปั้นให้หมดและอาจจะมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น

 

หานเซียวจับรูปปั้นสองอันและถาม”เพื่อรับเงินแสนอื่นาสผมขอยอมรับงานแล้วผมจะไปหาคุณได้ที่ไหนเมื่องานเสร็จ?”

 

“ตารางงานผมเต็มมาก ยังไงก็ตาม มันเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะหาทั้งหมดเจอในเวลาอันสั้น ผมจะให้หมายเลขติดต่อของผู้ช่วยผมไว้ แค่แจ้งเขา” เฉินซึ่งยิ้มงดงาม

 

แม้เขาจะรู้ตําแหน่งของรูปปั้นหานเซี่ยวก็ไม่ได้เลือกมาหลังรวบรวมรูปปั้นครบมันคงทําให้ เขาดูน่าสงสัยเกินไปท้ายที่สุดเฉินซึ่งรู้สึกว่าการพบหานเซียวเป็นเพราะเรื่องโชค

 

เฉินซึ่งกําลังหารูปปั้นด้วยตัวเอง แต่ไม่เคยเจอเบาะแสด้วยรูปปั้นสองอันพื้นที่ตรวจจับย่อมกว้างกว่าเมหากไม่ใช่เพราะเขามีความอ่อนไหวต่อความถีของรูปปั้นเขาคงไม่อาจหาหานเซี่ยวเจอท่ามกลางฝูงชน

 

เขาไม่เคยคาดหวังว่าจะได้พบกับรูปปั้นอื่นในช่วงการแสดง

 

แม้เขาจะยิ้มอย่างสงบ หานเชี่ยวก็รู้ดีว่าชายคนนี้ตื่นเต้นแค่ไหน

 

เฉินซึ่งกล่าวว่าเขาเป็นนักสะสม ซึ่งแน่นอนว่าไร้สาระ หานเยี่ยวรู้เป้าหมายเขาดี

 

นักร้องคนนี้คือผู้ใช้พลังจิตที่ใช้เสียงเขาเพื่อกระจายพลังแม้เขาจะดูอ่อนโยนและอ่อนแอแต่หากเฉินซึ่งต้องการเขาสามารถกรีดร้องด้วยเสียงแหลมสูงและใช้เสียงทําลายล้างได้ทุกเมื่ออย่างน้อยเขาก็เป็นเกรดB มันเพราะเขาเขาใส่พลังจิตเขาไปในเสียงรูปปั้นทั้งสี่นี้มีผลพิเศษสําหรับเฉินซิ่งพวกมันสามารถเสริมพลังจิตเขาได้

 

รูปปั้นทั้งสี่เดิมเป็นชุดโทเท็มสําหรับรับคําอธิษฐานจากผู้ศรัทธาทั้งกลางวันและกลางคืนพวกมันมาจากศาสนจักร

 

ไม่เหมือนจักรวรรดิคริมสันและสหพันแห่งแสงที่เชื่อในอิสรภาพศาสนจักรอาร์เคนเป็นอารยธรรมทางศาสนาและลึกลับ

 

ในความรู้ของดาวเคราะห์ส่วนใหญ่ความเชื่อและศาสนาเป็นเพียงเครื่องมือเพื่อปลอบโยนหรือชี้นําผู้เชื่อให้มีทัศนคติต่อสิ่งต่างๆในชีวิตอารยธรรมบางแห่งยังเห็นศาสนาเป็นเชื้อร้ายของสังคม

 

อย่างไรก็ตาม มีเส้นทางวิวัฒนาการนับไม่ถ้วนในจักรวาลศาสนาส่วนใหญ่เชื่อในเทพเจ้าไร้ตัวตนแต่บางอันก็เชื่อในเทพเจ้าจริงๆโชคดีสําหรับโบสถ์อาร์เคน พวกเขาเป็นอย่างหลังพวกเขาเริ่มเป็นพวกคนเถื่อนเหมือนฝ่ายอื่นแต่ไม่เหมือนอารยธรรมอื่นที่ก้าวหน้าผ่านเทคโนโลยีหรือเวทมนตร์บรรพบุรุษพวกเขาค้นพบวิธีสื่อสารกับเทพจริงๆเมื่อเทพที่พวกเขาเชื่อสามารถตอบสนองต่อผู้ศรัทธาได้จริงและเมื่อศาสนาสามารถสร้างเทคโนโลยีและสังคมโครงสร้างทางสังคมย่อมแตกต่างจากเทคโนโลยีหรือเวทมนตร์ส่วนใหญ่

 

เทพคืออะไร?ในแง่ของเวทมนตร์ พวกเขาน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีพลังเวทย์มหาศาล จากมุมมองของเทคโนโลยีเทพคือสิ่งมีชีวิตที่เหนือกว่าจากมิติชั้นสูงตัวตนจากมิติชั้นสูย่อมแปลงดังนั้นพวกที่ไม่ได้มีลักษณะพาะจึงถือว่าเป็นเทพไร้ตัวตน

 

ทั้งสองกรณี ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ศรัทธาและเทพจึงมักเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายแต่ทว่าอารยธรรมที่พัฒนาแล้วจะยิ่งระวังทัศนคติพวกเขาต่อเทพไม่ให้คําจํากัดความง่ายๆ

 

ศาสนจักรอาร์เคนมีคําอธิบายของตัวเองต่อการดํารงอยู่ของเทพ และพวกเขาก็มีเทคโนโลยีสุดเหลือเชื่อที่สามารถเปลี่ยนสิ่งที่ผู้ศรัทธาเชื่อให้เป็นจริงๆ ตัวอย่างเช่น ศาสนาที่เชื่อในเทพ ร้ตัวตนศาสนจักรก็มีวิธีทําให้มันเป็นเทพจริงแน่นอนเหตุผลพวกเขาคือ “เทพทุกองค์มีจริงตั้งแต่แรกเริ่มกําลังรอการถวายและเราก็เพิ่งสร้างสะพานสําหรับผู้ศรัทธาที่หลงทาง” ยังไงก็ตามมันเป็นเรื่องไสยศาสตร์เกินไปและช่างกลหานก็ไม่สนับสนุนมัน

 

ดังนั้น นอกจากจักรพรรดิวิญญาณ ซึ่งศาสนจักรอาร์เคนเชื่อ พวกเขาได้รวมผู้ศรัทธานับไม่ถ้วนจากศาสนาอื่น มันเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ร่วมกันโดยทุกศาสนาในกาแล็กซี่ รูปปั้นทั้งสี่นั่นคือสัญลักษณ์ทางศาสนาของศาสนาที่เทพเจ้าปรากฏตัว มันรวบรวมคําอธิษฐานจากผู้ศรัทธามานาน

 

ข้อมูลส่วนใหญ่มาจากบทความต่างๆที่หานเชี่ยวอ่านอารยธรรมจักรวาลทั้งสามมีความสามารถเหลือเชื่อแน่นอนเขาไม่ได้สนใจเรื่องใหญ่แบบนั้น เป้าหมายหลักของเขาคือทําภารกิจให้เสร็จ

 

หลังงานเฉลิมฉลองจบลงหานเซียวก็ลาเฉินซึ่งและกลับไปยานอวกาศเช่า

 

“นายได้อะไรมา?”เฮอลัสอยากรู้มาก

 

“งาน1แสนอื่นาส”

 

“โอ้ เยอะเลยทีเดียว” เฮอลัสกล่าวอย่างแปลกใจ”ช่วยประหยัดเงินได้อีกและมันจะพาซื้อยาน.

 

“มันยังไม่จําเป็น เชื้อเพลิง การบํารุงรักษาและการซ่อมแซมล้วนแต่มีค่าใช้จ่ายสูง”

 

หานเชี่ยวโบกมืออย่างน้อยเขาก็ต้องรอจนกว่าเทคโนโลยีเขาจะพอซ่อมยานก่อนซื้อ ตอนนั้นเขาถึงสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในชีวิตก่อนหน้าเขาผู้เล่นล้วนมียานกันในเวอร์ชั่นสุดท้ายเท่านั้นก่อนหน้านั้นมีเพียงกิลด์ใหญ่ถึงมีกําลังทรัพย์พอ

 

การดักยานอวกาศขององค์กรสีเทาและขายพวกมันให้ผู้ผลิตยานอวกาศในราคาทุนเป็นวิธีหาเงินเขาสามารถทํางานกับกลุ่มทหารรับจ้างใหญ่หากมีโอกาสแต่ทว่าในกรณีนั้นเขาคงทํากําไรได้ไม่มากนักเนื่องจากคนที่มียานล้วนแต่มีอํานาจในอวกาศ เว้นแต่เขาจะเป็นคนขับยาน

 

หลังกําหนดปลายทาง ยานก็ออกตัว

 

เมื่อหานเซี่ยวรู้ตําแหน่งของรูปปั้น เขาจึงไม่ต้องเสียเวลารูปปั้นหนึ่งถูกฝังไว้ใต้พื้นบนดาวเค ราะห์รกร้างเขาแค่ต้องไปดึงมันขึ้นมาวิธีปกติในการเอามันคือผ่านข้อมูลและรายละเอียดของดาว แต่เขาข้ามขั้นตอนยากลําบากเหล่านั้นทิ้งไป

 

ไม่มีการหักเลี้ยวอะไรทั้งสิ้นในการเดินทางหานเชี่ยวลงจอดบนดาวมุ่งตรงไปยังตําแหน่งและขุดรูปปั้นลึกลับอันที่สามนอกจากเวลาที่ใช้ไปกับตําแหน่งนั้น เขาไม่เสียเวลาไปแม้แต่วินาทีเดียวตามประสบการณ์ของผู้เล่นเขาประหยัดเวลาไปได้อย่างน้อยยี่สิบวัน

 

แต่ทว่า รูปปั้นสุดท้ายมีเจ้าของแล้ว

 

สําหรับภารกิจนี้ พวกเขาผ่านหลายพื้นที่ กลับไปกลุ่มดาวทาราแลมและเข้าระบบดาราแม่น้ําตะวันออก

 

“ดาวเคราะห์ลับสีฟ้า : มีอารยธรรมบนดาวเนื่องจากเหตุผลที่ไม่รู้อารยธรรมกาแล็กซี่ ได้ค้นพบว่าดาวนี้ไม่ได้ติดต่อกับอารยธรรมท้องถิ่น และเปิดเผยการดํารงอยู่พวกเขา นี่หมายความว่าดาวเคราะห์ลับสีฟ้าไม่รู้ว่าพวกเขาเคยมีแขกจากนอกอวกาศ และพวกเขายังไม่รู้ว่าจักรวาลเป็นอย่างไรดังนั้นพวกเขาจึงเป็นชนพื้นเมืองโดยสมบูรณ์

 

“แต่ทว่า ภูมิศาสตร์ตําแหน่งดาราศาสตร์ของดาวนี้พิเศษ มันตั้งบนเส้นทางของวัตถุที่กระจัดกระจายออกไปโดยกลุ่มรูหนอนดังนั้นขยะอวกาศจํานวนมากจึงตกลงบนดาวนี้”

 

หานเซียวเปิดแผนที่และแนะนําจุดหมายปลายทางพวกเขาให้คนอื่น

 

วัตถุจากอวกาศทําให้พวกเขาได้รับเทคโนโลยีเกินกําลังตัวเอง แต่เนื่องจากความต่างของระดับเทคโนโลยี ความรู้ที่พวกเขาได้รับจึงมีจํากัด

 

“ในเวลาเดียวกัน ขยะเหล่านี้ก็ทําให้พวกเขาแน่ใจถึงการดํารงอยู่ของอารยธรรมอื่นในจักรวาลแต่นั่นคือทั้งหมดที่พวกเขารู้”

 

“สิ่งที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงคือขยะอวกาศนี้จากอารยธรรมต่างๆแสดงให้เห็นถึงระบ บที่ต่างกันของดาวเคราะห์ลับสีฟ้า ดังนั้นตั้งแต่ช่วงแรกของการพัฒนาพวกเขาได้วิจัยเวทมนตร์เทคโนโลยี อักษรรูนผลึกและอื่นๆการทุ่มเทกับหลายสิ่งเกินไปอาจไม้ดีสําหรับการพัฒนาอารยธรรม สรุปแล้วมาตรฐานเทคโนโลยีพวกเขายังไม่ถึงระดับที่จะออกนอกดาวได้”

 

หานเซี่ยวเคาะหน้าจอ

 

“รูปปั้นสุดท้ายคือขยะอวกาศที่ตกลงบนดาวนี้มันเคยถูกมองว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่โดยองค์กรท้องถิ่น องค์กรนั้นได้เก็บรักษามันไว้ภายใต้การรักษาความปลอดภัยแน่นหนา”

 

“หัวหน้า คุณวางแผนจะทํายังไง?”หนึ่งในพี่น้องโวลก้าถาม

“ลงไปตรงๆและทําการยื่นเรื่องหากพวกเขาไม่ยอมรับเราจะทุบตีพวกเขาจนกว่าจะยอม”

 

น้ําเสียงหานเชี่ยวดุดันมาก

 

เฮอลัสตกตะลึง” นั่นดีแล้วหรอ?เราจะติดต่อกับพวกเขาก่อนและให้ข้อมูลพวกเขาถึงจักรวาลเป็นการแลกเปลี่ยนรูปปั้น?”

 

หานเซี่ยวส่ายหัว

 

ในชีวิตก่อนหน้าเขาผู้เล่นคิดแบบนี้เช่นกัน

 

เนื่องจากความแตกต่างด้านเทคโนโลยีดาวเคราะห์ลับสีฟ้าจึงแบ่งเป็นองค์กรต่างๆที่สู้กันหลังเลือกเจรจาองค์กรที่มีรูปปั้นก็พาตัวเองสูงขึ้นและทําตามคําขอด้านบน อย่างแรก พวกเขาถามถึงข้อมูลจํานวนมากเกี่ยวกับจักรวาล ซึ่งผู้เล่นก็ตอบรับ จากนั้นก็ถามถึงความรู้ขั้นกลางและเทคโนโลยีมากมายซึ่งผู้เล่นก็ตอบรับสุดท้ายพวกเขาร้องขออย่างอุกอาจในการสร้างแขกอวกาศภายนอกเพื่อเอาชนะองค์กรท้องถิ่น

 

ท้ายที่สุดผู้เล่นก็ไม่อาจรับมันได้อีกต่อไปหลังทุบตีในที่สุดพวกเขาก็ล้มเลิกรูปปั้นนี่พิสูจน์ให้เห็นว่าการเจรจานั้นล้มเหลว

 

การเผชิญหน้ากับคนที่มีความคิดดเช่นนั้น หากไม่แสดงให้เห็นว่าหมัดใหญ่แค่ไหน พวกเขาจะคิดว่าตัวเองสูงส่ง

 

แน่นอน หากพวกเขาสามารถตอบสนองต่อคําขอได้ พวกเขาก็จะได้รับรูปปั้นและยังกระทู้นภารกิจเพิ่มแต่ทว่าสําหรับหานเซียวความรุนแรงเป็นวิธีที่สะดวกสุด

 

ดังนั้นหานเซียวจึงไม่อยากเสียเวลาและเลือกจะะปล่อยยานลงไปตรงๆและทําการยื่นคําขอ

 

ตรงตะวันตกเฉียงเหนือของดาวเคราะห์ลับสีฟ้าเมืองรูนเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ตามชื่อมัน มันเป็นเทคโนโลยีรูนมันตั้งอยู่กลางป่าสิ่งก่อสร้างมันสลักด้วยรูนที่ส่องแสงสีฟ้าและขาวรูปแบบอาคารส่วนใหญ่เป็นอาคารสูงบางและเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมมีหอคอยสี่เหลี่ยมสูงตั้งห่างจากกันพร้อมสลักรูนดูดซับพลังงานหอคอยเหล่านี้คือแกนพลังงานของเมืองไม่มีกําแพงเมืองและอาคารก็เริ่มเตี้ยลงเรื่อยๆยิ่งเข้าใจกลาง

 

หลายปีก่อนขยะอวกาศได้ตกลงมาและมันก็เป็นความลับด้านเทคโนโลยีผู้บุกเบิกได้รับเทคโนโลยีจากมันและค่อยๆสร้างเมืองตอนนี้มันเป็นหนึ่งในกองกําลังใหญ่สุดของดาวเคราะห์ลับสีฟ้ามันเป็นยามค่ํา

 

ในปาห่างจากเมืองรูนไป40ไมล์คนหลายสิบสร้างค่ายชั่วคราวรูนกองไฟเปล่งแสงสีแดงเสถียรให้ความอบอุ่น ผู้คนนั่งรอบมันพวกเขากําลังสวมเสื้อหนังและเกราะสลักรูน ขอบค่ายปกคลุมด้วยอักษรรูนขับไล่สัตว์หยุดพวกสัตว์และแมลงไม่ให้คืบคลานเข้ามา

 

“หัวหน้า ของเหล่านี้จะขายที่ตลาดมืดในเมืองรูนได้มากแค่ไหนกัน?” ชายหนุ่มถูมืออย่างคาดหวัง

 

หัวหน้าเป็นชายร่างเตี้ยและผอมดูหเมื่อนหนู เขาหัวเราะเบาๆและกล่าว”มีคนลอบซื้อขยะอวกาศในเมืองรูนอยู่ของเหล่านี้เราน่าจะทําเงินได้อย่างน้อย8000ฟิส”

นี่คือกลุ่มนักค้าของเถื่อนที่ขายขยะอวกาศบางครั้งขยะจากรูหนอนจะไปยังสถานที่ต่างๆบนดาว ขยะดังกล่าวมีค่าต่อการวิจัยและทุกองค์กรก็สะสมพวกมันแต่ทว่าพวกเขาต้องพลาดบางย่างไปดังนั้นตลาดมืดขยะอวกาศจึงถือกําเนิดขึ้นผู้ลักลอบคือกลุ่มคนที่ค้นหาขยะอวกาศและขายพวกมันให้ตลาดมืด

 

ครั้งนี้ พวกเขาได้ยินเสียงบางอย่างทําลายกําแพงเสียง เสียงดังขึ้นเรื่อยๆตัดผ่านความเงียบ ยามค่ําคืนเหมือนมีดแหลม พวกเขายืนขึ้นและรีบไปดูอุกกาบาตเผาไหมปรากฏในท้องฟ้าและตรงมาทางพวกเขา

เหล่านักค้าของเถื่อนคุ้นเคยกับเสียงนี้ดีความแปลกใจปรากฏบนหน้าพวกเขา

 

“ขยะอวกาศ!”

 

อุกกาบาตเผาไหม้ใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็วและมุ่งผ่านเหนือหัวพวกเขาสร้างเป็นลมแรงสั่นปาและใบไม้จากนั้นอุกกาบาตก็ตกใกล้ๆขยี้ต้นไม้บางต้นและทําเสียงดัง

 

บูม!

 

พื้นสั่นสะเทือนและพวกเขาก็เกือบล้ม

 

ไฟและควันโชยขึ้น

 

“พวกเราโชคดีแล้ว!”หัวหน้าดีใจมาก” จุดลงของขยะอวกาศนี้ใกล้เรา เราสามารถนํามันไปได้ก่อนทีมค้นหาของเมืองรูนจะมาถึง!”

 

กลุ่มลักลอบรีบวิ่งไปและมาถึงที่เกิดเหตุ ตรงหน้าพวกเขาเป็นหลุมมีควันหนา ใจกลางมันเป็นวัตถุโลหะทรงไข่สูงประมาณ2.5เมตร

 

“นี่คืออะไร?” พวกเขาอยากรู้

 

“อย่ายืนเฉย รีบยกมันขึ้นมา” หัวหน้าสั่ง

 

ขณะที่พวกเขากําลังเดินเข้าไปใกล้ เสียงดังก็มาจากอีกฝากของปาและหลุมเล็กก็ป รากฏบนพื้นตรงหน้าหัวหน้าผู้ลักลอบ

 

“หยุด!

 

เสียงดังจากอีกฝั่งของปาคนอีกกลุ่มปรากฏพวกเขาสวมเกราะเหล็กติดระเบิดและปืนหนึ่ง ในนั้นสวมแว่นตาซุ่มยิงอินฟราเรดและปากกระบอกปืนเขาก็ยังมีควันเสียงก่อนหน้ามาจากเขา

 

“กองกําลังปราสาทเหล็กไฟ!”ใบหน้าของกลุ่มลักลอบเปลี่ยนไป

 

ปราสาทเหล็กไฟเป็นหนึ่งในองค์กรใหญ่บนดาวเคราะหนี้พวกเขามีเทคโนโลยีเหล็ก ดินปืนและเครื่องจักรยานพาหนะจักรกลพวกเขาน่ากลัวสุดบนสนามรบ

 

พวกเขาไม่ใช่กลุ่มเดียวด้วยเสียงดังทีมมากมายจึงมาขยะอวกาศใหม่นี้เหมือนกระแสน้ําวนที่ดึงดูดทีมทั้งหมดในป่า

 

ทีมเหล่านี้มีสีหน้าเปลี่ยนไป สิ่งที่พวกเขามีให้คือความเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน

 

องค์กรอื่นมักมีทีมปฏิบัติการในดินแดนขององค์กรอื่นเพื่อฉกขยะอวกาศใดๆที่เข้าใกล้ ป้องกันองค์กรอื่นไม่ให้ได้มันไป

 

หากพวกเขาไม่อาจคว้ามันได้ พวกเขาก็จะทําลายมัน!

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

The Legendary Mechanic 446 เมืองรูน

Now you are reading The Legendary Mechanic Chapter 446 เมืองรูน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 446 เมืองรูน

 

“รับรูปปั้นนี้ไปและหาอันอื่นให้เร็วที่สุด” เฉินซึ่งกล่าว

 

หานเซียวสํารวจรูปปั้นใหม่รูปร่างมันคือมนุษย์ไร้ใบหน้าที่มีตาขนาดใหญ่บนหน้าอก ซึ่งแปลกมากหลังเขาถือมันไว้คําแนะนําของบนหน้าต่างสถานะก็คือโรูปปั้นลึกลับ] แต่มีหมายเหตุเพิ่มเติม

 

รูปปั้นเหล่านี้ที่ท่านค้นพบดูเหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของชุดรวบรวมรูปปั้นให้หมดและอาจจะมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น

 

หานเซียวจับรูปปั้นสองอันและถาม”เพื่อรับเงินแสนอื่นาสผมขอยอมรับงานแล้วผมจะไปหาคุณได้ที่ไหนเมื่องานเสร็จ?”

 

“ตารางงานผมเต็มมาก ยังไงก็ตาม มันเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะหาทั้งหมดเจอในเวลาอันสั้น ผมจะให้หมายเลขติดต่อของผู้ช่วยผมไว้ แค่แจ้งเขา” เฉินซึ่งยิ้มงดงาม

 

แม้เขาจะรู้ตําแหน่งของรูปปั้นหานเซี่ยวก็ไม่ได้เลือกมาหลังรวบรวมรูปปั้นครบมันคงทําให้ เขาดูน่าสงสัยเกินไปท้ายที่สุดเฉินซึ่งรู้สึกว่าการพบหานเซียวเป็นเพราะเรื่องโชค

 

เฉินซึ่งกําลังหารูปปั้นด้วยตัวเอง แต่ไม่เคยเจอเบาะแสด้วยรูปปั้นสองอันพื้นที่ตรวจจับย่อมกว้างกว่าเมหากไม่ใช่เพราะเขามีความอ่อนไหวต่อความถีของรูปปั้นเขาคงไม่อาจหาหานเซี่ยวเจอท่ามกลางฝูงชน

 

เขาไม่เคยคาดหวังว่าจะได้พบกับรูปปั้นอื่นในช่วงการแสดง

 

แม้เขาจะยิ้มอย่างสงบ หานเชี่ยวก็รู้ดีว่าชายคนนี้ตื่นเต้นแค่ไหน

 

เฉินซึ่งกล่าวว่าเขาเป็นนักสะสม ซึ่งแน่นอนว่าไร้สาระ หานเยี่ยวรู้เป้าหมายเขาดี

 

นักร้องคนนี้คือผู้ใช้พลังจิตที่ใช้เสียงเขาเพื่อกระจายพลังแม้เขาจะดูอ่อนโยนและอ่อนแอแต่หากเฉินซึ่งต้องการเขาสามารถกรีดร้องด้วยเสียงแหลมสูงและใช้เสียงทําลายล้างได้ทุกเมื่ออย่างน้อยเขาก็เป็นเกรดB มันเพราะเขาเขาใส่พลังจิตเขาไปในเสียงรูปปั้นทั้งสี่นี้มีผลพิเศษสําหรับเฉินซิ่งพวกมันสามารถเสริมพลังจิตเขาได้

 

รูปปั้นทั้งสี่เดิมเป็นชุดโทเท็มสําหรับรับคําอธิษฐานจากผู้ศรัทธาทั้งกลางวันและกลางคืนพวกมันมาจากศาสนจักร

 

ไม่เหมือนจักรวรรดิคริมสันและสหพันแห่งแสงที่เชื่อในอิสรภาพศาสนจักรอาร์เคนเป็นอารยธรรมทางศาสนาและลึกลับ

 

ในความรู้ของดาวเคราะห์ส่วนใหญ่ความเชื่อและศาสนาเป็นเพียงเครื่องมือเพื่อปลอบโยนหรือชี้นําผู้เชื่อให้มีทัศนคติต่อสิ่งต่างๆในชีวิตอารยธรรมบางแห่งยังเห็นศาสนาเป็นเชื้อร้ายของสังคม

 

อย่างไรก็ตาม มีเส้นทางวิวัฒนาการนับไม่ถ้วนในจักรวาลศาสนาส่วนใหญ่เชื่อในเทพเจ้าไร้ตัวตนแต่บางอันก็เชื่อในเทพเจ้าจริงๆโชคดีสําหรับโบสถ์อาร์เคน พวกเขาเป็นอย่างหลังพวกเขาเริ่มเป็นพวกคนเถื่อนเหมือนฝ่ายอื่นแต่ไม่เหมือนอารยธรรมอื่นที่ก้าวหน้าผ่านเทคโนโลยีหรือเวทมนตร์บรรพบุรุษพวกเขาค้นพบวิธีสื่อสารกับเทพจริงๆเมื่อเทพที่พวกเขาเชื่อสามารถตอบสนองต่อผู้ศรัทธาได้จริงและเมื่อศาสนาสามารถสร้างเทคโนโลยีและสังคมโครงสร้างทางสังคมย่อมแตกต่างจากเทคโนโลยีหรือเวทมนตร์ส่วนใหญ่

 

เทพคืออะไร?ในแง่ของเวทมนตร์ พวกเขาน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีพลังเวทย์มหาศาล จากมุมมองของเทคโนโลยีเทพคือสิ่งมีชีวิตที่เหนือกว่าจากมิติชั้นสูงตัวตนจากมิติชั้นสูย่อมแปลงดังนั้นพวกที่ไม่ได้มีลักษณะพาะจึงถือว่าเป็นเทพไร้ตัวตน

 

ทั้งสองกรณี ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ศรัทธาและเทพจึงมักเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายแต่ทว่าอารยธรรมที่พัฒนาแล้วจะยิ่งระวังทัศนคติพวกเขาต่อเทพไม่ให้คําจํากัดความง่ายๆ

 

ศาสนจักรอาร์เคนมีคําอธิบายของตัวเองต่อการดํารงอยู่ของเทพ และพวกเขาก็มีเทคโนโลยีสุดเหลือเชื่อที่สามารถเปลี่ยนสิ่งที่ผู้ศรัทธาเชื่อให้เป็นจริงๆ ตัวอย่างเช่น ศาสนาที่เชื่อในเทพ ร้ตัวตนศาสนจักรก็มีวิธีทําให้มันเป็นเทพจริงแน่นอนเหตุผลพวกเขาคือ “เทพทุกองค์มีจริงตั้งแต่แรกเริ่มกําลังรอการถวายและเราก็เพิ่งสร้างสะพานสําหรับผู้ศรัทธาที่หลงทาง” ยังไงก็ตามมันเป็นเรื่องไสยศาสตร์เกินไปและช่างกลหานก็ไม่สนับสนุนมัน

 

ดังนั้น นอกจากจักรพรรดิวิญญาณ ซึ่งศาสนจักรอาร์เคนเชื่อ พวกเขาได้รวมผู้ศรัทธานับไม่ถ้วนจากศาสนาอื่น มันเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ร่วมกันโดยทุกศาสนาในกาแล็กซี่ รูปปั้นทั้งสี่นั่นคือสัญลักษณ์ทางศาสนาของศาสนาที่เทพเจ้าปรากฏตัว มันรวบรวมคําอธิษฐานจากผู้ศรัทธามานาน

 

ข้อมูลส่วนใหญ่มาจากบทความต่างๆที่หานเชี่ยวอ่านอารยธรรมจักรวาลทั้งสามมีความสามารถเหลือเชื่อแน่นอนเขาไม่ได้สนใจเรื่องใหญ่แบบนั้น เป้าหมายหลักของเขาคือทําภารกิจให้เสร็จ

 

หลังงานเฉลิมฉลองจบลงหานเซียวก็ลาเฉินซึ่งและกลับไปยานอวกาศเช่า

 

“นายได้อะไรมา?”เฮอลัสอยากรู้มาก

 

“งาน1แสนอื่นาส”

 

“โอ้ เยอะเลยทีเดียว” เฮอลัสกล่าวอย่างแปลกใจ”ช่วยประหยัดเงินได้อีกและมันจะพาซื้อยาน.

 

“มันยังไม่จําเป็น เชื้อเพลิง การบํารุงรักษาและการซ่อมแซมล้วนแต่มีค่าใช้จ่ายสูง”

 

หานเชี่ยวโบกมืออย่างน้อยเขาก็ต้องรอจนกว่าเทคโนโลยีเขาจะพอซ่อมยานก่อนซื้อ ตอนนั้นเขาถึงสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในชีวิตก่อนหน้าเขาผู้เล่นล้วนมียานกันในเวอร์ชั่นสุดท้ายเท่านั้นก่อนหน้านั้นมีเพียงกิลด์ใหญ่ถึงมีกําลังทรัพย์พอ

 

การดักยานอวกาศขององค์กรสีเทาและขายพวกมันให้ผู้ผลิตยานอวกาศในราคาทุนเป็นวิธีหาเงินเขาสามารถทํางานกับกลุ่มทหารรับจ้างใหญ่หากมีโอกาสแต่ทว่าในกรณีนั้นเขาคงทํากําไรได้ไม่มากนักเนื่องจากคนที่มียานล้วนแต่มีอํานาจในอวกาศ เว้นแต่เขาจะเป็นคนขับยาน

 

หลังกําหนดปลายทาง ยานก็ออกตัว

 

เมื่อหานเซี่ยวรู้ตําแหน่งของรูปปั้น เขาจึงไม่ต้องเสียเวลารูปปั้นหนึ่งถูกฝังไว้ใต้พื้นบนดาวเค ราะห์รกร้างเขาแค่ต้องไปดึงมันขึ้นมาวิธีปกติในการเอามันคือผ่านข้อมูลและรายละเอียดของดาว แต่เขาข้ามขั้นตอนยากลําบากเหล่านั้นทิ้งไป

 

ไม่มีการหักเลี้ยวอะไรทั้งสิ้นในการเดินทางหานเชี่ยวลงจอดบนดาวมุ่งตรงไปยังตําแหน่งและขุดรูปปั้นลึกลับอันที่สามนอกจากเวลาที่ใช้ไปกับตําแหน่งนั้น เขาไม่เสียเวลาไปแม้แต่วินาทีเดียวตามประสบการณ์ของผู้เล่นเขาประหยัดเวลาไปได้อย่างน้อยยี่สิบวัน

 

แต่ทว่า รูปปั้นสุดท้ายมีเจ้าของแล้ว

 

สําหรับภารกิจนี้ พวกเขาผ่านหลายพื้นที่ กลับไปกลุ่มดาวทาราแลมและเข้าระบบดาราแม่น้ําตะวันออก

 

“ดาวเคราะห์ลับสีฟ้า : มีอารยธรรมบนดาวเนื่องจากเหตุผลที่ไม่รู้อารยธรรมกาแล็กซี่ ได้ค้นพบว่าดาวนี้ไม่ได้ติดต่อกับอารยธรรมท้องถิ่น และเปิดเผยการดํารงอยู่พวกเขา นี่หมายความว่าดาวเคราะห์ลับสีฟ้าไม่รู้ว่าพวกเขาเคยมีแขกจากนอกอวกาศ และพวกเขายังไม่รู้ว่าจักรวาลเป็นอย่างไรดังนั้นพวกเขาจึงเป็นชนพื้นเมืองโดยสมบูรณ์

 

“แต่ทว่า ภูมิศาสตร์ตําแหน่งดาราศาสตร์ของดาวนี้พิเศษ มันตั้งบนเส้นทางของวัตถุที่กระจัดกระจายออกไปโดยกลุ่มรูหนอนดังนั้นขยะอวกาศจํานวนมากจึงตกลงบนดาวนี้”

 

หานเซียวเปิดแผนที่และแนะนําจุดหมายปลายทางพวกเขาให้คนอื่น

 

วัตถุจากอวกาศทําให้พวกเขาได้รับเทคโนโลยีเกินกําลังตัวเอง แต่เนื่องจากความต่างของระดับเทคโนโลยี ความรู้ที่พวกเขาได้รับจึงมีจํากัด

 

“ในเวลาเดียวกัน ขยะเหล่านี้ก็ทําให้พวกเขาแน่ใจถึงการดํารงอยู่ของอารยธรรมอื่นในจักรวาลแต่นั่นคือทั้งหมดที่พวกเขารู้”

 

“สิ่งที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงคือขยะอวกาศนี้จากอารยธรรมต่างๆแสดงให้เห็นถึงระบ บที่ต่างกันของดาวเคราะห์ลับสีฟ้า ดังนั้นตั้งแต่ช่วงแรกของการพัฒนาพวกเขาได้วิจัยเวทมนตร์เทคโนโลยี อักษรรูนผลึกและอื่นๆการทุ่มเทกับหลายสิ่งเกินไปอาจไม้ดีสําหรับการพัฒนาอารยธรรม สรุปแล้วมาตรฐานเทคโนโลยีพวกเขายังไม่ถึงระดับที่จะออกนอกดาวได้”

 

หานเซี่ยวเคาะหน้าจอ

 

“รูปปั้นสุดท้ายคือขยะอวกาศที่ตกลงบนดาวนี้มันเคยถูกมองว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่โดยองค์กรท้องถิ่น องค์กรนั้นได้เก็บรักษามันไว้ภายใต้การรักษาความปลอดภัยแน่นหนา”

 

“หัวหน้า คุณวางแผนจะทํายังไง?”หนึ่งในพี่น้องโวลก้าถาม

“ลงไปตรงๆและทําการยื่นเรื่องหากพวกเขาไม่ยอมรับเราจะทุบตีพวกเขาจนกว่าจะยอม”

 

น้ําเสียงหานเชี่ยวดุดันมาก

 

เฮอลัสตกตะลึง” นั่นดีแล้วหรอ?เราจะติดต่อกับพวกเขาก่อนและให้ข้อมูลพวกเขาถึงจักรวาลเป็นการแลกเปลี่ยนรูปปั้น?”

 

หานเซี่ยวส่ายหัว

 

ในชีวิตก่อนหน้าเขาผู้เล่นคิดแบบนี้เช่นกัน

 

เนื่องจากความแตกต่างด้านเทคโนโลยีดาวเคราะห์ลับสีฟ้าจึงแบ่งเป็นองค์กรต่างๆที่สู้กันหลังเลือกเจรจาองค์กรที่มีรูปปั้นก็พาตัวเองสูงขึ้นและทําตามคําขอด้านบน อย่างแรก พวกเขาถามถึงข้อมูลจํานวนมากเกี่ยวกับจักรวาล ซึ่งผู้เล่นก็ตอบรับ จากนั้นก็ถามถึงความรู้ขั้นกลางและเทคโนโลยีมากมายซึ่งผู้เล่นก็ตอบรับสุดท้ายพวกเขาร้องขออย่างอุกอาจในการสร้างแขกอวกาศภายนอกเพื่อเอาชนะองค์กรท้องถิ่น

 

ท้ายที่สุดผู้เล่นก็ไม่อาจรับมันได้อีกต่อไปหลังทุบตีในที่สุดพวกเขาก็ล้มเลิกรูปปั้นนี่พิสูจน์ให้เห็นว่าการเจรจานั้นล้มเหลว

 

การเผชิญหน้ากับคนที่มีความคิดดเช่นนั้น หากไม่แสดงให้เห็นว่าหมัดใหญ่แค่ไหน พวกเขาจะคิดว่าตัวเองสูงส่ง

 

แน่นอน หากพวกเขาสามารถตอบสนองต่อคําขอได้ พวกเขาก็จะได้รับรูปปั้นและยังกระทู้นภารกิจเพิ่มแต่ทว่าสําหรับหานเซียวความรุนแรงเป็นวิธีที่สะดวกสุด

 

ดังนั้นหานเซียวจึงไม่อยากเสียเวลาและเลือกจะะปล่อยยานลงไปตรงๆและทําการยื่นคําขอ

 

ตรงตะวันตกเฉียงเหนือของดาวเคราะห์ลับสีฟ้าเมืองรูนเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ตามชื่อมัน มันเป็นเทคโนโลยีรูนมันตั้งอยู่กลางป่าสิ่งก่อสร้างมันสลักด้วยรูนที่ส่องแสงสีฟ้าและขาวรูปแบบอาคารส่วนใหญ่เป็นอาคารสูงบางและเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมมีหอคอยสี่เหลี่ยมสูงตั้งห่างจากกันพร้อมสลักรูนดูดซับพลังงานหอคอยเหล่านี้คือแกนพลังงานของเมืองไม่มีกําแพงเมืองและอาคารก็เริ่มเตี้ยลงเรื่อยๆยิ่งเข้าใจกลาง

 

หลายปีก่อนขยะอวกาศได้ตกลงมาและมันก็เป็นความลับด้านเทคโนโลยีผู้บุกเบิกได้รับเทคโนโลยีจากมันและค่อยๆสร้างเมืองตอนนี้มันเป็นหนึ่งในกองกําลังใหญ่สุดของดาวเคราะห์ลับสีฟ้ามันเป็นยามค่ํา

 

ในปาห่างจากเมืองรูนไป40ไมล์คนหลายสิบสร้างค่ายชั่วคราวรูนกองไฟเปล่งแสงสีแดงเสถียรให้ความอบอุ่น ผู้คนนั่งรอบมันพวกเขากําลังสวมเสื้อหนังและเกราะสลักรูน ขอบค่ายปกคลุมด้วยอักษรรูนขับไล่สัตว์หยุดพวกสัตว์และแมลงไม่ให้คืบคลานเข้ามา

 

“หัวหน้า ของเหล่านี้จะขายที่ตลาดมืดในเมืองรูนได้มากแค่ไหนกัน?” ชายหนุ่มถูมืออย่างคาดหวัง

 

หัวหน้าเป็นชายร่างเตี้ยและผอมดูหเมื่อนหนู เขาหัวเราะเบาๆและกล่าว”มีคนลอบซื้อขยะอวกาศในเมืองรูนอยู่ของเหล่านี้เราน่าจะทําเงินได้อย่างน้อย8000ฟิส”

นี่คือกลุ่มนักค้าของเถื่อนที่ขายขยะอวกาศบางครั้งขยะจากรูหนอนจะไปยังสถานที่ต่างๆบนดาว ขยะดังกล่าวมีค่าต่อการวิจัยและทุกองค์กรก็สะสมพวกมันแต่ทว่าพวกเขาต้องพลาดบางย่างไปดังนั้นตลาดมืดขยะอวกาศจึงถือกําเนิดขึ้นผู้ลักลอบคือกลุ่มคนที่ค้นหาขยะอวกาศและขายพวกมันให้ตลาดมืด

 

ครั้งนี้ พวกเขาได้ยินเสียงบางอย่างทําลายกําแพงเสียง เสียงดังขึ้นเรื่อยๆตัดผ่านความเงียบ ยามค่ําคืนเหมือนมีดแหลม พวกเขายืนขึ้นและรีบไปดูอุกกาบาตเผาไหมปรากฏในท้องฟ้าและตรงมาทางพวกเขา

เหล่านักค้าของเถื่อนคุ้นเคยกับเสียงนี้ดีความแปลกใจปรากฏบนหน้าพวกเขา

 

“ขยะอวกาศ!”

 

อุกกาบาตเผาไหม้ใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็วและมุ่งผ่านเหนือหัวพวกเขาสร้างเป็นลมแรงสั่นปาและใบไม้จากนั้นอุกกาบาตก็ตกใกล้ๆขยี้ต้นไม้บางต้นและทําเสียงดัง

 

บูม!

 

พื้นสั่นสะเทือนและพวกเขาก็เกือบล้ม

 

ไฟและควันโชยขึ้น

 

“พวกเราโชคดีแล้ว!”หัวหน้าดีใจมาก” จุดลงของขยะอวกาศนี้ใกล้เรา เราสามารถนํามันไปได้ก่อนทีมค้นหาของเมืองรูนจะมาถึง!”

 

กลุ่มลักลอบรีบวิ่งไปและมาถึงที่เกิดเหตุ ตรงหน้าพวกเขาเป็นหลุมมีควันหนา ใจกลางมันเป็นวัตถุโลหะทรงไข่สูงประมาณ2.5เมตร

 

“นี่คืออะไร?” พวกเขาอยากรู้

 

“อย่ายืนเฉย รีบยกมันขึ้นมา” หัวหน้าสั่ง

 

ขณะที่พวกเขากําลังเดินเข้าไปใกล้ เสียงดังก็มาจากอีกฝากของปาและหลุมเล็กก็ป รากฏบนพื้นตรงหน้าหัวหน้าผู้ลักลอบ

 

“หยุด!

 

เสียงดังจากอีกฝั่งของปาคนอีกกลุ่มปรากฏพวกเขาสวมเกราะเหล็กติดระเบิดและปืนหนึ่ง ในนั้นสวมแว่นตาซุ่มยิงอินฟราเรดและปากกระบอกปืนเขาก็ยังมีควันเสียงก่อนหน้ามาจากเขา

 

“กองกําลังปราสาทเหล็กไฟ!”ใบหน้าของกลุ่มลักลอบเปลี่ยนไป

 

ปราสาทเหล็กไฟเป็นหนึ่งในองค์กรใหญ่บนดาวเคราะหนี้พวกเขามีเทคโนโลยีเหล็ก ดินปืนและเครื่องจักรยานพาหนะจักรกลพวกเขาน่ากลัวสุดบนสนามรบ

 

พวกเขาไม่ใช่กลุ่มเดียวด้วยเสียงดังทีมมากมายจึงมาขยะอวกาศใหม่นี้เหมือนกระแสน้ําวนที่ดึงดูดทีมทั้งหมดในป่า

 

ทีมเหล่านี้มีสีหน้าเปลี่ยนไป สิ่งที่พวกเขามีให้คือความเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน

 

องค์กรอื่นมักมีทีมปฏิบัติการในดินแดนขององค์กรอื่นเพื่อฉกขยะอวกาศใดๆที่เข้าใกล้ ป้องกันองค์กรอื่นไม่ให้ได้มันไป

 

หากพวกเขาไม่อาจคว้ามันได้ พวกเขาก็จะทําลายมัน!

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+