The Legendary Mechanic 471

Now you are reading The Legendary Mechanic Chapter 471 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 471 แสงกระจาย 1

 

หลังเป็นช่างกลสงคราม หานเซี่ยวก็มีความสามารถใหม่ห้าอย่างบนจอ แม้จะไม่มองพวกมัน เขาก็คุ้นเคยกับผลของความสามารถเหล่านี้

 

[ความสัมพันธ์กับเครื่องจักรระดับสูง]มีโบนัสความสัมพันธ์มากกว่าความสัมพันธ์กับเครื่องจักรขั้นกลาง] มันคือแกนหลักของสายช่างกล ดังนั้นเขาจึงเลื่อนระดับมัน เนื่องจากเขามีค่าประสบการณ์เหลือสามร้อยล้าน เขาจึงเพิ่มมันถึงแค่ระดับ5 ทุกระดับจะให้ความสัมพันธ์5% ดังนั้นความสัมพันธ์กับเครื่องจักรเขาจึงเพิ่ม259%

 

ข้อกําหนดเบื้องต้นของการดัดแปลงของเสีย]คือหนึ่งในสามความสามารถจากเทคโนโลยีบีบอัด [การก่อสร้างเครื่องจักรพื้นฐาน] ผลพวกมันคล้ายกับผลของการดัดแปลงของเสีย คือหากเครื่องจักรถูกทําลายและกลายเป็นชิ้นส่วนอะไหล่ ความสามารถนี้จะฟื้นคืนอะไหล่เหล่านี้และเปลี่ยน พวกมันเป็นเครื่องจักรดั้งเดิม แน่นอน เครื่องจักรจะต้องมีค่าสถานะลดลง25%และมีเกรดต่ํากว่าหนึ่งหรือสองขั้น นอกจากนี้ ความสามารถนี้ยังใช้ได้หลายครั้งกับเป้าหมายเดิมจนกว่าเกรดของเป้าหมายจะเป็นสีเทาหรือมีค่าสถานะลดลงถึง75% นี่หมายความว่าความสามารถนี้สามารถใช้กับเป้าหมายเดิมได้สามครั้ง

 

ตามชื่อ ความสามารถนี้มีความสามารถการรีไซเคิลสูง ผลของมันแกร่งกว่าในการต่อสู้จริง นอกจากนี้ มันยังเป็นหนึ่งในเหตุผลที่สายช่างกลสงครามมีคําว่าสงคราม มันช่วยให้ช่างกลมีทางเลือกมากขึ้น ในชีวิตก่อนหน้าของหานเซี่ยว เมื่อผู้เล่นมาถึงระดับสายหลักขั้น5และ6ในเวอร์ชั่น3.0 ช่างกลถึงได้สําแดงพลัง สายช่างกลสงครามมีความซับซ้อนและยากต่อการเล่น คอมโบมันยากมาก และมันก็ต้องใช้สมองสูง สายช่างกลสงครามนับเป็นสายที่ยากสุด

 

[ทลายขีดจํากัดสนามพลังจักรกล]คือความสามารถการเพิ่มพลังทั่วไป คล้ายกับระเบิดสนามพลังจักรกล]และโทลายขีดจํากัด] แต่ด้วยจํานวนสูงกว่า ความแตกต่างระหว่างพวกมันคือ[ระเบิด สนามพลังจักรกลปีนั้นไม่มีผลข้างเคียง ส่วนทลายขีดจํากัดก็จะลดความทนทานของอุปกรณ์ และทลายขีดจํากัดสนามพลังจักรกลจะทําให้อุปกรณ์เข้าสู่สถานะคูลดาวน์ที่ไม่อาจใช้งานได้ มันเป็นความสามารถที่มีผลกระทบมาก แต่ทว่า เมื่อมันใช้พร้อมกับทลายขีดจํากัด การเสริมพลังจะเพิ่มอีก40%และความทนทานจะลดลง339%ทันที หานเซี่ยวเคยใช้ความสามารถนี้บ่อยในอดีต แต่เขาจะใช้เฉพาะกับอุปกรณ์ที่เขาเต็มใจเสียสละ

 

ความสามารถพิเศษสุดคือเทคนิครบสนามพลังจักรกล] ซึ่งยังล็อคจนกว่าความรู้ขั้นสูง สนามพลังแม่เหล็กไฟฟ้าขั้นกลางจะได้เรียนรู้ สิ่งที่พิเศษเกี่ยวกับความสามารถนี้คือมันไม่ใช่ค วามสามารถในการเสริมพลังเครื่องจักร แต่เป็นตัวช่างกลเอง

 

– สนามพลังจักรกลเปลี่ยนจากพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า ดังนั้นมันจึงยังเป็นแม่เหล็กไฟฟ้า ความสามารถนี้ช่วยให้ช่างกลยังสามารถสู้ได้โดยไม่ต้องมีเครื่องจักร เหมือนกับจอมเวทย์ที่ทุกคนมีความสามารถในการต่อสู้ระยะประชิด

 

พรสวรรค์[ภูมิปัญญาสนามรบคือพรสวรรค์ของสายช่างกล หลังเข้าสู่การต่อสู้ พรสวรรค์นี้จะเพิ่มสติปัญญา196ทุกๆนาทีจนกระทั่งถึง15% เมื่อรวมกับพรสวรรค์ในขั้นก่อนหน้า[การวิเคราะห์ ความเข้าใจทางจักรกลที่ช่วยให้ความสัมพันธ์กับเครื่องจักร19%ต่อทุกสิบสติปัญญา มันจึงช่วยให้ช่างกลแข็งแกร่งขึ้นเมื่อระดับเพิ่มขึ้น

 

ในช่วงการต่อสู้ระหว่างผู้เล่น เครื่องจักรของช่างกลจะอ่อนแอลงอย่างต่อเนื่อง และพรสวรรค์นี้จะมาอุดข้อบกพร่องนั้น เมื่อสายช่างกลมีรูปร่างสมบูรณ์ มันจะครอบคลุมในทุกการต่อสู้ หนึ่งในกลวิธีพื้นฐานที่ช่างกลใช้คือการถ่วงเวลา15นาทีด้วยกับดักจนกว่าพวกเขาจะได้รับโบนัสสูงสุด จากนั้นก็ปล่อยเครื่องจักรทั้งหมดเพื่อสร้างความเสียหาย

 

หานเซี่ยวเพิ่มความสามารถความสัมพันธ์กับเครื่องจักรไม่กี่ระดับและไม่แตะอะไรอื่น ใช้ค่าประสบการณ์ไปประมาณ40ล้าน เขาเหลือประมาณ250ล้าน ซึ่งเขาวางแผนเก็บไว้และใช้ช้าๆ จากนั้นก็ใช้แต้มสถานะ96หน่วยกับสติปัญญา

 

แม้เขาจะลังเลในเสี้ยววินาทีเมื่อเห็นตัวเลชไบนสถานะโชคเขา เขาก็ไม่ได้เพิ่มมัน แม้สถานะโชคเขาจะไม่น่ามอง การเพิ่มมันก็ไม่เป็นประโยชน์กับเขานัก โชคเกี่ยวกับอัตราการดรอปของและความสามารถ แต่เขาไม่ได้พึ่งพาโชค ไม่มีความสามารถใดของเขาที่เกี่ยวกับโชค นอกจากนี้ การเพิ่มไม่กี่แต้มก็ยังไร้ประโยชน์ หากเขาอยากเดินบนเส้นทางนี้ เขาต้องเพิ่มอย่างน้อยหลายสิบ ถึงตอนนั้น มันก็ยังไม่แตกต่างมาก ดังนั้น เขาจึงทุ่มทั้งหมดกับสติปัญญา

 

หลังจัดการแต้มสถานะจนหมด สถานะหลังเลื่อนระดับเขาก็ชัดเจน

 

ระดับ : 116

 

สายหลัก : ช่างกล

 

เผ่าพันธ์ : มิติ(รูปแบบมนุษย์)

 

สถานะ : พละกําลัง163 ความเชี่ยวชาญ349 ความทนทาน306 สติปัญญา872 ลี้ลับ102 เสน่ห์41 โชค1

 

แต้มสถานะ : 0

 

แต้มศักยภาพ : 55

 

พลังชีวิต : 27038

 

ความแข็งแกร่ง : 25880

 

พลังงาน : 770[ระดับ9]

 

โบนัสพลังงานระดับ9 : +53พละกําลัง +72ความเชี่ยวชาญ +80ความทนทาน +90สติปัญญา +55ลี้ลับ +7520พลังชีวิตสูงสุด +60%ความสัมพันธ์กับเครื่องจักร

 

ระดับพลัง : 7637โอน่า

 

เกรด : B

 

ท่านเป็นนักรบมากฝีมือ แม้กระทั่งคนระดับเดียวกับท่านก็ไม่อาจตอแยท่านได้ง่ายๆ

 

ขั้นพลังงาน7700 แต่บรรลุแค่B แต่ทว่า ความสามารถจริงฉันเทียบเท่ากับพวกB+ มาตรฐานของเกรดAคือ1หมื่นโอน่า เมื่อมาถึงจุดนี้ ฉันควรไปถึงเกรดภัยพิบัติก่อนหน้าผู้เล่นสัก20-30ระดับ ที่ระดับ 140

 

หานเซี่ยวพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

 

ตอนนี้ฉันอยู่ระดับ116และยังมีบัตรสําเร็จภารกิจอีกใบ ดังนั้นสิ่งเดียวที่ฉันขาดคือค่าประสบการาณ์ เพื่อให้ได้รับค่าประสบการณ์อย่างรวดเร็วและเลื่อนระดับ การเก็บเกี่ยวกับผู้เล่นที่สุด ดังนั้น ตราบเท่าที่แผนฉันสําเร็จในเหตุการณ์มหันตภัยกลายพันธีและนําผู้เล่นอความารีนมาเข้ากองกําลังฉัน ฉันก็จะไปถึงเกรดAได้ในเวอร์ชันถัดไป!

 

หลังปล่อยให้หุ่นยนต์ทําความสะอาดคราบเลือดบนพื้น หานเซี่ยวก็เดินออกห้อง ทันทีที่เขากลับโถง คนที่นั่นก็มามองเขาอย่างประหลาดใจ

 

“ฉันตาฝาดหรือนายเปลี่ยนไป?”เฮอลัสถาม

 

ซิลเวียเดินวนรอบหานเซี่ยว ตบหน้าอกเธอ ถอนหายใจด้วยความโล่งอก” ฉันเกือบจําคนผิดแล้ว”

 

“มันชัดเจนขนาดนั้นเลย?”ปากของหานเซี่ยวกระตุก หน้าตาเขาเปลี่ยนไปจริงๆหลังวิวัฒนาการ แต่เขาไม่คิดว่ามันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเลย

 

“หน้าตานายไม่ได้เปลี่ยนไปมาก แต่เป็นกลิ่นอายที่นายปล่อยออกมา นายดูลึกลับขึ้น แถม ฉันยังจําไม่ได้ว่านายไปมีผลึกนี้บนหน้าผากตอนไหน…”เฮอลัสรู้สึกสั่นสะท้าน”แปลก ฉันรู้สึกกดดัน แต่เราควรมีพลังเท่ากัน นายไปทําอะไรในห้องนั้น?”

 

แน่นอน พวกเขาไม่รู้ว่าหานเซี่ยวสามารถวิวัฒนาการเผ่าพันธ์ได้ในเวลาอันสั้นผ่านหน้าต่างสถานะ เพราะคนอื่นต้องใช้เวลานานมากกว่าจะวิวัฒนาการสําเร็จ ความแตกต่างในเวลาเทียบกันไม่ได้

 

“ฉันแข็งแกร่งกว่าเดิม” หานเซี่ยวยิ้มและโบกมือ” ฉันจะไม่อธิบาย ยังไงก็ตาม นี่ก็คือฉัน”

 

“นายมีแผนฝึกพิเศษอย่างเฟย์ดินไหม?”เฮอลัสถาม

 

นั่งสมาธิลืมตาและถาม”ใครเรียกฉัน?”

 

“หุบปาก!”

 

“โอ้”

 

เฮอลัสมักมีปัญหากับเฟย์ดิน เขาตะโกน มองหานเซี่ยวและถาม”เราจะไปนอเรียสต่อใช่ไหม?”

 

หานเซี่ยวพยักหน้า”ใช่ ฉันทําสิ่งที่อยากทําแล้ว เอเมสขอให้ฉันไปนอเรียสและหาตัวอาจารย์

 

เธอ”

 

เขาแข็งแกร่งขึ้นมาก แต่มันก็ยังใช้เวลานานมากกว่าเขาจะไปถึงระดับเอเมส ก่อนหน้านั้น หานเซี่ยวจําต้องมีคนให้เกาะเหนือสิ่งอื่นใด กาแล็กซี่กว้างใหญ่มาก มีผู้แข็งแกร่งและองค์กรมากมาย นอกจากนี้ เอเมสยังเคยช่วยเขา ดังนั้นมันจึงเป็นรื่องถูกต้องที่จะช่วยเธอทําเรื่องเล็กๆอย่างนี้ให้ได้มากที่สุด การมีความสัมพันธ์อันดีกับบุคคลระดับเธอย่อมเป็นประโยชน์

 

ครั้งนี้ เฮอลัสกล่าวแทรก” ก่อนจะไปนอเรียส ฉันอยากกลับซันนิลและเอาเกราะ[แสงกระจาย]ฉันคืนดาวเคราะห์ชันนิลอยู่ใกล้ๆ มันคงใช้เวลาไม่นาน”

 

ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกาย

 

เขาสนใจชุดเกราะชั้นบัญชาการมานานแล้ว ตอนนั้น เขาไม่มีความสามารถใช้กับมัน แต่ตอนนี้เขามีครบแล้ว

 

“ไม่มีปัญหา เราจะไปด้วยกัน

 

ยานอวกาศค่อยๆลอยลงบนที่ราบนอกเมืองปา นี่เคยเป็นสนามรบมาก่อน สถานที่ที่เต็มไปด้วยเลือด ตอนนี้ มันถูกทําความสะอาดและว่างเปล่า

 

การป้องกันหกชั้นนอกเมืองปาถูกสร้างขึ้นใหม่แล้ว องครักษ์ชุดเกราะลาดตระเวนทั่วและยานพาหนะก็ขับเข้าปาเพื่อล่าสัตว์เป็นครั้งคราว

 

ทันทีที่พวกเขาปรากฏ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนก็ล้อมพวกเขาและตั้งแถวต้อนรับ เฮอลัสได้ติดต่อกับรัฐบาลซันนิลไว้ก่อนมา เมื่อพวกเขาลงจอด เจ้าหน้าที่เหล่านี้ก็ตะโกนเสียงดัง แสดงความชื่นชมต่อเฮอลัส

 

“ไปกันเถอะ ฉันได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ไว้แล้ว เราจะไปห้องวิจัยเพื่อเอาชุดเกราะฉันกันเลย” เฮอลัสยิ้ม

 

พวกเขาตามทหารและเข้าเมืองปาไป เทียบกับปีก่อนหน้า มีการเปลี่ยนแปลงไม่มากนักนอกจากความจริงที่ว่ามีคนบนถนนน้อยลง มันอาจเพราะคนหนุ่มได้เข้าร่วมกับกองทัพมากขึ้น

 

“นั่นเฮอลัสใช่ไหม?พระเจ้า นั่นคือวีรบุรุษของเรา!”

 

ครั้งนี้ คนเดินเท้ารอบพวกเขาสังเกตเห็นเฮอลัส พวกเขาล้มอเขาอย่างตื่นเต้นและแม้แต่หานเซี่ยวกับคนอื่นก็ยังถูกผลัก

 

เฮอลัสรีบยิ้มอย่างเป็นมิตรและคุยกับพวกเขาสักพัก คนจํานวนมากเข้ามากันเรื่อยๆ เขาไม่อาจรับมือได้อีก ดังนั้นเขาจึงบีบตัวออกมา และในที่สุดก็หนีมาได้

 

“นายดังมาก” หานเซี่ยวหัวเราะ

 

เฮอลัสอาย”เจ้าหน้าที่ต้องการแบบอย่างเพื่อเพิ่มความมั่นใจของผู้อาศัย ดังนั้นพวกเขาจึงเล่าเรื่องราวฉันผ่านโทรทัศน์และวิทยุทุกวันเพื่อชมฉัน ทุกคนในเมืองนี้จึงรู้จักฉัน”

 

“วีรบุรุษแห่งเผ่า เท่ห์มาก”ดวงตาของซิลเวียเป็นประกาย

 

“เท่ห์บ้าไรละ จุดจบของวีรบุรุษมักเป็นการเสียสละ”เฮอลัสประท้วง เขายังจําการมองอนาคตของหานเซี่ยวได้

 

เมื่อพวกเขาลอบเข้าประตูของรัฐบาลใจกลางเมือง มันก็ไม่มีประชาชนอีก เฮอลัสเข้าใกล้และรายงานการมาของเขา ไม่นาน ทหารหลายคนก็เดินออกมาต้อนรับเขา นี่เป็นเรื่องของชั้นนิล หานเซี่ยวไม่สนใจฟัง ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจฟังระหว่างทาง

 

หลังคุยสักพัก เฮอลัสก็เรียกคนอื่นมา และเดินไปในสถานที่ทางทหารตามเจ้าหน้าที่ หลังผ่านประตูเหล็กทีละบาน พวกเขาก็มาถึงห้องวิจัย มันกว้างมากและยังมีห้องเก็บเครื่องจักร

 

พวกเขามาถึงห้องทดลอง เกราะชั้นบัญชาการของเฮอลัสถูกวางอยู่บนโต๊ะทดลอง นักวิจัยนับสิบกําลังล้อมมันและทดสอบพารามิเตอร์

 

เจ้าหน้าที่เดินไปหานักวิจัยและกล่าว “นี่คือนายพลเฮอลัส เขามาที่นี่เพื่อเอาชุดเกราะคืน นี่คือใบอนุญาติ”

 

คิ้วหานเซี่ยวเลิกสูง เขาสะกิดหลังเฮอลัสและถาม “นายไปเป็นนายพลตอนไหน?”

 

เฮอลัสยิ้มและตอบเบาๆ” ก็แค่ชื่อนําหน้า”

 

หัวหน้าฝ่ายวิจัยกําลังทดลองอย่างตื่นเต้นเมื่อได้ยินเจ้าหน้าที่ เขามองข้ามหานเซี่ยวและคนอื่นด้วยสีหน้าร้อนใจ เดินไปทางประตูและกล่าว” ผมคิดว่าเราเห็นด้วยที่คุณจะมอบมันให้ผมเพื่อวิจัย ทําไมจู่ๆคุณถึงมาเอามันไป?”

 

“ผมได้ยินว่าพวกคุณได้รับผลลัพธ์บางอย่างแล้ว ดังนั้นผมจึงอยากเอาเกราะผมคืน” เฮอลัสกล่าว”มันมีประโยชน์มากสําหรับผม”

 

ความไม่เต็มใจเขียนชุดเจนบนหน้าของหัวหน้านักวิจัย”เราจะคืนให้คุณได้ยังไง?เกราะนี่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีระดับสูงของซันนิล มันคือสมบัติแห่งชาติและไม่ได้เป็นของคุณคนเดียว”

 

“เอ่อ…แต่ผมคือคนที่มอบมันให้ชาติเรา ผมไม่เห็นว่ามันผิดตรงไหนที่จะเอาคืน”

 

“คุณคือวีรบุรุษแห่งชาติ คุณไม่เต็มใจทําสิ่งเล็กๆน้อยๆแบบนี้งั้นหรือ?” หัวหน้าฝ่ายวิจัยขมวดคิ้ว

 

เฮอลัสถอนหายใจ เขามองเจ้าหน้าที่ข้างๆ และเจ้าหน้าที่ก็นําเอกสารที่พิสูจน์ว่าคําขอของเฮอลัสได้รับอนุญาติจากเบื้องบนแล้ว นักวิจัยเห็นและจําต้องทําตามคําสั่ง พวกเขานําเกราะไปวางในกล่องโลหะและส่งให้เฮอลัส

 

“ไปกันเถอะ” เฮอลัสแตะกล่องและยิ้ม

 

หัวหน้านักวิจัยสั่นเทาด้วยความโกรธ หากเกราะอยู่กับเรา เราจะต้องทําให้มันยิ่งใหญ่และช่วยเหลือเผ่าพันธุ์ได้มากขึ้น คุณมันเป็นแก่ตัว!”

 

สีหน้าเฮอลัสเปลี่ยนไป แต่ก็ไม่พูดอะไร แต่ทว่า ขณะที่เขากําลังจะออกไป เขาก็ตระหนักว่าหานเซี่ยวนั้นหยุดเดิน

 

หานเซี่ยวหันไปและเดินไปหาหัวหน้านักวิจัย เขาคว้าหัวบังคับให้หัวหน้านักวิจัยจ้องตาเขา และกล่าวเสียงเย็น” ฉันจําได้ถึงตอนที่เขาติดตามฉันผ่านการต่อสู้แสนยากลําบาก ฉันจําได้ถึงตอนที่เขาเสียแขน ฉันจําความเจ็บปวดของเขาได้เมื่อฉันปลูกอวัยวะเทียมให้เขา หากไม่ใช่เพราะเผ่าพันธ์บัดซบแของแก เขาคงมีชีวิตอย่างสุขสบายไปแล้ว ดังนั้น สิ่งที่ฉันไม่เข้าใจคือ เขาเห็นแก่ตัวตรงไหน?”

 

“มันเป็นเพราะเขาเป็นคนดี ดังนั้นแกจึงกล้าดูถูกเขา แกรู้ว่าเขาจะไม่ทําร้ายแกสินะ?”

 

หานเซี่ยวพลันเปลี่ยนเป็นรูปแบบมิติ ดวงตาดําสนิทเขาจ้องหัวหน้านักวิจัยเขม็ง”แต่ฉันไม่เหมือนเขา หากแกกล้าพูดจาดูถูกลูกน้องฉันอีกละก็ ฉันจะจับหัวแกยัดไปในรูตูดแก”

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

The Legendary Mechanic 471

Now you are reading The Legendary Mechanic Chapter 471 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 471 แสงกระจาย 1

 

หลังเป็นช่างกลสงคราม หานเซี่ยวก็มีความสามารถใหม่ห้าอย่างบนจอ แม้จะไม่มองพวกมัน เขาก็คุ้นเคยกับผลของความสามารถเหล่านี้

 

[ความสัมพันธ์กับเครื่องจักรระดับสูง]มีโบนัสความสัมพันธ์มากกว่าความสัมพันธ์กับเครื่องจักรขั้นกลาง] มันคือแกนหลักของสายช่างกล ดังนั้นเขาจึงเลื่อนระดับมัน เนื่องจากเขามีค่าประสบการณ์เหลือสามร้อยล้าน เขาจึงเพิ่มมันถึงแค่ระดับ5 ทุกระดับจะให้ความสัมพันธ์5% ดังนั้นความสัมพันธ์กับเครื่องจักรเขาจึงเพิ่ม259%

 

ข้อกําหนดเบื้องต้นของการดัดแปลงของเสีย]คือหนึ่งในสามความสามารถจากเทคโนโลยีบีบอัด [การก่อสร้างเครื่องจักรพื้นฐาน] ผลพวกมันคล้ายกับผลของการดัดแปลงของเสีย คือหากเครื่องจักรถูกทําลายและกลายเป็นชิ้นส่วนอะไหล่ ความสามารถนี้จะฟื้นคืนอะไหล่เหล่านี้และเปลี่ยน พวกมันเป็นเครื่องจักรดั้งเดิม แน่นอน เครื่องจักรจะต้องมีค่าสถานะลดลง25%และมีเกรดต่ํากว่าหนึ่งหรือสองขั้น นอกจากนี้ ความสามารถนี้ยังใช้ได้หลายครั้งกับเป้าหมายเดิมจนกว่าเกรดของเป้าหมายจะเป็นสีเทาหรือมีค่าสถานะลดลงถึง75% นี่หมายความว่าความสามารถนี้สามารถใช้กับเป้าหมายเดิมได้สามครั้ง

 

ตามชื่อ ความสามารถนี้มีความสามารถการรีไซเคิลสูง ผลของมันแกร่งกว่าในการต่อสู้จริง นอกจากนี้ มันยังเป็นหนึ่งในเหตุผลที่สายช่างกลสงครามมีคําว่าสงคราม มันช่วยให้ช่างกลมีทางเลือกมากขึ้น ในชีวิตก่อนหน้าของหานเซี่ยว เมื่อผู้เล่นมาถึงระดับสายหลักขั้น5และ6ในเวอร์ชั่น3.0 ช่างกลถึงได้สําแดงพลัง สายช่างกลสงครามมีความซับซ้อนและยากต่อการเล่น คอมโบมันยากมาก และมันก็ต้องใช้สมองสูง สายช่างกลสงครามนับเป็นสายที่ยากสุด

 

[ทลายขีดจํากัดสนามพลังจักรกล]คือความสามารถการเพิ่มพลังทั่วไป คล้ายกับระเบิดสนามพลังจักรกล]และโทลายขีดจํากัด] แต่ด้วยจํานวนสูงกว่า ความแตกต่างระหว่างพวกมันคือ[ระเบิด สนามพลังจักรกลปีนั้นไม่มีผลข้างเคียง ส่วนทลายขีดจํากัดก็จะลดความทนทานของอุปกรณ์ และทลายขีดจํากัดสนามพลังจักรกลจะทําให้อุปกรณ์เข้าสู่สถานะคูลดาวน์ที่ไม่อาจใช้งานได้ มันเป็นความสามารถที่มีผลกระทบมาก แต่ทว่า เมื่อมันใช้พร้อมกับทลายขีดจํากัด การเสริมพลังจะเพิ่มอีก40%และความทนทานจะลดลง339%ทันที หานเซี่ยวเคยใช้ความสามารถนี้บ่อยในอดีต แต่เขาจะใช้เฉพาะกับอุปกรณ์ที่เขาเต็มใจเสียสละ

 

ความสามารถพิเศษสุดคือเทคนิครบสนามพลังจักรกล] ซึ่งยังล็อคจนกว่าความรู้ขั้นสูง สนามพลังแม่เหล็กไฟฟ้าขั้นกลางจะได้เรียนรู้ สิ่งที่พิเศษเกี่ยวกับความสามารถนี้คือมันไม่ใช่ค วามสามารถในการเสริมพลังเครื่องจักร แต่เป็นตัวช่างกลเอง

 

– สนามพลังจักรกลเปลี่ยนจากพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า ดังนั้นมันจึงยังเป็นแม่เหล็กไฟฟ้า ความสามารถนี้ช่วยให้ช่างกลยังสามารถสู้ได้โดยไม่ต้องมีเครื่องจักร เหมือนกับจอมเวทย์ที่ทุกคนมีความสามารถในการต่อสู้ระยะประชิด

 

พรสวรรค์[ภูมิปัญญาสนามรบคือพรสวรรค์ของสายช่างกล หลังเข้าสู่การต่อสู้ พรสวรรค์นี้จะเพิ่มสติปัญญา196ทุกๆนาทีจนกระทั่งถึง15% เมื่อรวมกับพรสวรรค์ในขั้นก่อนหน้า[การวิเคราะห์ ความเข้าใจทางจักรกลที่ช่วยให้ความสัมพันธ์กับเครื่องจักร19%ต่อทุกสิบสติปัญญา มันจึงช่วยให้ช่างกลแข็งแกร่งขึ้นเมื่อระดับเพิ่มขึ้น

 

ในช่วงการต่อสู้ระหว่างผู้เล่น เครื่องจักรของช่างกลจะอ่อนแอลงอย่างต่อเนื่อง และพรสวรรค์นี้จะมาอุดข้อบกพร่องนั้น เมื่อสายช่างกลมีรูปร่างสมบูรณ์ มันจะครอบคลุมในทุกการต่อสู้ หนึ่งในกลวิธีพื้นฐานที่ช่างกลใช้คือการถ่วงเวลา15นาทีด้วยกับดักจนกว่าพวกเขาจะได้รับโบนัสสูงสุด จากนั้นก็ปล่อยเครื่องจักรทั้งหมดเพื่อสร้างความเสียหาย

 

หานเซี่ยวเพิ่มความสามารถความสัมพันธ์กับเครื่องจักรไม่กี่ระดับและไม่แตะอะไรอื่น ใช้ค่าประสบการณ์ไปประมาณ40ล้าน เขาเหลือประมาณ250ล้าน ซึ่งเขาวางแผนเก็บไว้และใช้ช้าๆ จากนั้นก็ใช้แต้มสถานะ96หน่วยกับสติปัญญา

 

แม้เขาจะลังเลในเสี้ยววินาทีเมื่อเห็นตัวเลชไบนสถานะโชคเขา เขาก็ไม่ได้เพิ่มมัน แม้สถานะโชคเขาจะไม่น่ามอง การเพิ่มมันก็ไม่เป็นประโยชน์กับเขานัก โชคเกี่ยวกับอัตราการดรอปของและความสามารถ แต่เขาไม่ได้พึ่งพาโชค ไม่มีความสามารถใดของเขาที่เกี่ยวกับโชค นอกจากนี้ การเพิ่มไม่กี่แต้มก็ยังไร้ประโยชน์ หากเขาอยากเดินบนเส้นทางนี้ เขาต้องเพิ่มอย่างน้อยหลายสิบ ถึงตอนนั้น มันก็ยังไม่แตกต่างมาก ดังนั้น เขาจึงทุ่มทั้งหมดกับสติปัญญา

 

หลังจัดการแต้มสถานะจนหมด สถานะหลังเลื่อนระดับเขาก็ชัดเจน

 

ระดับ : 116

 

สายหลัก : ช่างกล

 

เผ่าพันธ์ : มิติ(รูปแบบมนุษย์)

 

สถานะ : พละกําลัง163 ความเชี่ยวชาญ349 ความทนทาน306 สติปัญญา872 ลี้ลับ102 เสน่ห์41 โชค1

 

แต้มสถานะ : 0

 

แต้มศักยภาพ : 55

 

พลังชีวิต : 27038

 

ความแข็งแกร่ง : 25880

 

พลังงาน : 770[ระดับ9]

 

โบนัสพลังงานระดับ9 : +53พละกําลัง +72ความเชี่ยวชาญ +80ความทนทาน +90สติปัญญา +55ลี้ลับ +7520พลังชีวิตสูงสุด +60%ความสัมพันธ์กับเครื่องจักร

 

ระดับพลัง : 7637โอน่า

 

เกรด : B

 

ท่านเป็นนักรบมากฝีมือ แม้กระทั่งคนระดับเดียวกับท่านก็ไม่อาจตอแยท่านได้ง่ายๆ

 

ขั้นพลังงาน7700 แต่บรรลุแค่B แต่ทว่า ความสามารถจริงฉันเทียบเท่ากับพวกB+ มาตรฐานของเกรดAคือ1หมื่นโอน่า เมื่อมาถึงจุดนี้ ฉันควรไปถึงเกรดภัยพิบัติก่อนหน้าผู้เล่นสัก20-30ระดับ ที่ระดับ 140

 

หานเซี่ยวพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

 

ตอนนี้ฉันอยู่ระดับ116และยังมีบัตรสําเร็จภารกิจอีกใบ ดังนั้นสิ่งเดียวที่ฉันขาดคือค่าประสบการาณ์ เพื่อให้ได้รับค่าประสบการณ์อย่างรวดเร็วและเลื่อนระดับ การเก็บเกี่ยวกับผู้เล่นที่สุด ดังนั้น ตราบเท่าที่แผนฉันสําเร็จในเหตุการณ์มหันตภัยกลายพันธีและนําผู้เล่นอความารีนมาเข้ากองกําลังฉัน ฉันก็จะไปถึงเกรดAได้ในเวอร์ชันถัดไป!

 

หลังปล่อยให้หุ่นยนต์ทําความสะอาดคราบเลือดบนพื้น หานเซี่ยวก็เดินออกห้อง ทันทีที่เขากลับโถง คนที่นั่นก็มามองเขาอย่างประหลาดใจ

 

“ฉันตาฝาดหรือนายเปลี่ยนไป?”เฮอลัสถาม

 

ซิลเวียเดินวนรอบหานเซี่ยว ตบหน้าอกเธอ ถอนหายใจด้วยความโล่งอก” ฉันเกือบจําคนผิดแล้ว”

 

“มันชัดเจนขนาดนั้นเลย?”ปากของหานเซี่ยวกระตุก หน้าตาเขาเปลี่ยนไปจริงๆหลังวิวัฒนาการ แต่เขาไม่คิดว่ามันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเลย

 

“หน้าตานายไม่ได้เปลี่ยนไปมาก แต่เป็นกลิ่นอายที่นายปล่อยออกมา นายดูลึกลับขึ้น แถม ฉันยังจําไม่ได้ว่านายไปมีผลึกนี้บนหน้าผากตอนไหน…”เฮอลัสรู้สึกสั่นสะท้าน”แปลก ฉันรู้สึกกดดัน แต่เราควรมีพลังเท่ากัน นายไปทําอะไรในห้องนั้น?”

 

แน่นอน พวกเขาไม่รู้ว่าหานเซี่ยวสามารถวิวัฒนาการเผ่าพันธ์ได้ในเวลาอันสั้นผ่านหน้าต่างสถานะ เพราะคนอื่นต้องใช้เวลานานมากกว่าจะวิวัฒนาการสําเร็จ ความแตกต่างในเวลาเทียบกันไม่ได้

 

“ฉันแข็งแกร่งกว่าเดิม” หานเซี่ยวยิ้มและโบกมือ” ฉันจะไม่อธิบาย ยังไงก็ตาม นี่ก็คือฉัน”

 

“นายมีแผนฝึกพิเศษอย่างเฟย์ดินไหม?”เฮอลัสถาม

 

นั่งสมาธิลืมตาและถาม”ใครเรียกฉัน?”

 

“หุบปาก!”

 

“โอ้”

 

เฮอลัสมักมีปัญหากับเฟย์ดิน เขาตะโกน มองหานเซี่ยวและถาม”เราจะไปนอเรียสต่อใช่ไหม?”

 

หานเซี่ยวพยักหน้า”ใช่ ฉันทําสิ่งที่อยากทําแล้ว เอเมสขอให้ฉันไปนอเรียสและหาตัวอาจารย์

 

เธอ”

 

เขาแข็งแกร่งขึ้นมาก แต่มันก็ยังใช้เวลานานมากกว่าเขาจะไปถึงระดับเอเมส ก่อนหน้านั้น หานเซี่ยวจําต้องมีคนให้เกาะเหนือสิ่งอื่นใด กาแล็กซี่กว้างใหญ่มาก มีผู้แข็งแกร่งและองค์กรมากมาย นอกจากนี้ เอเมสยังเคยช่วยเขา ดังนั้นมันจึงเป็นรื่องถูกต้องที่จะช่วยเธอทําเรื่องเล็กๆอย่างนี้ให้ได้มากที่สุด การมีความสัมพันธ์อันดีกับบุคคลระดับเธอย่อมเป็นประโยชน์

 

ครั้งนี้ เฮอลัสกล่าวแทรก” ก่อนจะไปนอเรียส ฉันอยากกลับซันนิลและเอาเกราะ[แสงกระจาย]ฉันคืนดาวเคราะห์ชันนิลอยู่ใกล้ๆ มันคงใช้เวลาไม่นาน”

 

ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกาย

 

เขาสนใจชุดเกราะชั้นบัญชาการมานานแล้ว ตอนนั้น เขาไม่มีความสามารถใช้กับมัน แต่ตอนนี้เขามีครบแล้ว

 

“ไม่มีปัญหา เราจะไปด้วยกัน

 

ยานอวกาศค่อยๆลอยลงบนที่ราบนอกเมืองปา นี่เคยเป็นสนามรบมาก่อน สถานที่ที่เต็มไปด้วยเลือด ตอนนี้ มันถูกทําความสะอาดและว่างเปล่า

 

การป้องกันหกชั้นนอกเมืองปาถูกสร้างขึ้นใหม่แล้ว องครักษ์ชุดเกราะลาดตระเวนทั่วและยานพาหนะก็ขับเข้าปาเพื่อล่าสัตว์เป็นครั้งคราว

 

ทันทีที่พวกเขาปรากฏ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนก็ล้อมพวกเขาและตั้งแถวต้อนรับ เฮอลัสได้ติดต่อกับรัฐบาลซันนิลไว้ก่อนมา เมื่อพวกเขาลงจอด เจ้าหน้าที่เหล่านี้ก็ตะโกนเสียงดัง แสดงความชื่นชมต่อเฮอลัส

 

“ไปกันเถอะ ฉันได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ไว้แล้ว เราจะไปห้องวิจัยเพื่อเอาชุดเกราะฉันกันเลย” เฮอลัสยิ้ม

 

พวกเขาตามทหารและเข้าเมืองปาไป เทียบกับปีก่อนหน้า มีการเปลี่ยนแปลงไม่มากนักนอกจากความจริงที่ว่ามีคนบนถนนน้อยลง มันอาจเพราะคนหนุ่มได้เข้าร่วมกับกองทัพมากขึ้น

 

“นั่นเฮอลัสใช่ไหม?พระเจ้า นั่นคือวีรบุรุษของเรา!”

 

ครั้งนี้ คนเดินเท้ารอบพวกเขาสังเกตเห็นเฮอลัส พวกเขาล้มอเขาอย่างตื่นเต้นและแม้แต่หานเซี่ยวกับคนอื่นก็ยังถูกผลัก

 

เฮอลัสรีบยิ้มอย่างเป็นมิตรและคุยกับพวกเขาสักพัก คนจํานวนมากเข้ามากันเรื่อยๆ เขาไม่อาจรับมือได้อีก ดังนั้นเขาจึงบีบตัวออกมา และในที่สุดก็หนีมาได้

 

“นายดังมาก” หานเซี่ยวหัวเราะ

 

เฮอลัสอาย”เจ้าหน้าที่ต้องการแบบอย่างเพื่อเพิ่มความมั่นใจของผู้อาศัย ดังนั้นพวกเขาจึงเล่าเรื่องราวฉันผ่านโทรทัศน์และวิทยุทุกวันเพื่อชมฉัน ทุกคนในเมืองนี้จึงรู้จักฉัน”

 

“วีรบุรุษแห่งเผ่า เท่ห์มาก”ดวงตาของซิลเวียเป็นประกาย

 

“เท่ห์บ้าไรละ จุดจบของวีรบุรุษมักเป็นการเสียสละ”เฮอลัสประท้วง เขายังจําการมองอนาคตของหานเซี่ยวได้

 

เมื่อพวกเขาลอบเข้าประตูของรัฐบาลใจกลางเมือง มันก็ไม่มีประชาชนอีก เฮอลัสเข้าใกล้และรายงานการมาของเขา ไม่นาน ทหารหลายคนก็เดินออกมาต้อนรับเขา นี่เป็นเรื่องของชั้นนิล หานเซี่ยวไม่สนใจฟัง ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจฟังระหว่างทาง

 

หลังคุยสักพัก เฮอลัสก็เรียกคนอื่นมา และเดินไปในสถานที่ทางทหารตามเจ้าหน้าที่ หลังผ่านประตูเหล็กทีละบาน พวกเขาก็มาถึงห้องวิจัย มันกว้างมากและยังมีห้องเก็บเครื่องจักร

 

พวกเขามาถึงห้องทดลอง เกราะชั้นบัญชาการของเฮอลัสถูกวางอยู่บนโต๊ะทดลอง นักวิจัยนับสิบกําลังล้อมมันและทดสอบพารามิเตอร์

 

เจ้าหน้าที่เดินไปหานักวิจัยและกล่าว “นี่คือนายพลเฮอลัส เขามาที่นี่เพื่อเอาชุดเกราะคืน นี่คือใบอนุญาติ”

 

คิ้วหานเซี่ยวเลิกสูง เขาสะกิดหลังเฮอลัสและถาม “นายไปเป็นนายพลตอนไหน?”

 

เฮอลัสยิ้มและตอบเบาๆ” ก็แค่ชื่อนําหน้า”

 

หัวหน้าฝ่ายวิจัยกําลังทดลองอย่างตื่นเต้นเมื่อได้ยินเจ้าหน้าที่ เขามองข้ามหานเซี่ยวและคนอื่นด้วยสีหน้าร้อนใจ เดินไปทางประตูและกล่าว” ผมคิดว่าเราเห็นด้วยที่คุณจะมอบมันให้ผมเพื่อวิจัย ทําไมจู่ๆคุณถึงมาเอามันไป?”

 

“ผมได้ยินว่าพวกคุณได้รับผลลัพธ์บางอย่างแล้ว ดังนั้นผมจึงอยากเอาเกราะผมคืน” เฮอลัสกล่าว”มันมีประโยชน์มากสําหรับผม”

 

ความไม่เต็มใจเขียนชุดเจนบนหน้าของหัวหน้านักวิจัย”เราจะคืนให้คุณได้ยังไง?เกราะนี่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีระดับสูงของซันนิล มันคือสมบัติแห่งชาติและไม่ได้เป็นของคุณคนเดียว”

 

“เอ่อ…แต่ผมคือคนที่มอบมันให้ชาติเรา ผมไม่เห็นว่ามันผิดตรงไหนที่จะเอาคืน”

 

“คุณคือวีรบุรุษแห่งชาติ คุณไม่เต็มใจทําสิ่งเล็กๆน้อยๆแบบนี้งั้นหรือ?” หัวหน้าฝ่ายวิจัยขมวดคิ้ว

 

เฮอลัสถอนหายใจ เขามองเจ้าหน้าที่ข้างๆ และเจ้าหน้าที่ก็นําเอกสารที่พิสูจน์ว่าคําขอของเฮอลัสได้รับอนุญาติจากเบื้องบนแล้ว นักวิจัยเห็นและจําต้องทําตามคําสั่ง พวกเขานําเกราะไปวางในกล่องโลหะและส่งให้เฮอลัส

 

“ไปกันเถอะ” เฮอลัสแตะกล่องและยิ้ม

 

หัวหน้านักวิจัยสั่นเทาด้วยความโกรธ หากเกราะอยู่กับเรา เราจะต้องทําให้มันยิ่งใหญ่และช่วยเหลือเผ่าพันธุ์ได้มากขึ้น คุณมันเป็นแก่ตัว!”

 

สีหน้าเฮอลัสเปลี่ยนไป แต่ก็ไม่พูดอะไร แต่ทว่า ขณะที่เขากําลังจะออกไป เขาก็ตระหนักว่าหานเซี่ยวนั้นหยุดเดิน

 

หานเซี่ยวหันไปและเดินไปหาหัวหน้านักวิจัย เขาคว้าหัวบังคับให้หัวหน้านักวิจัยจ้องตาเขา และกล่าวเสียงเย็น” ฉันจําได้ถึงตอนที่เขาติดตามฉันผ่านการต่อสู้แสนยากลําบาก ฉันจําได้ถึงตอนที่เขาเสียแขน ฉันจําความเจ็บปวดของเขาได้เมื่อฉันปลูกอวัยวะเทียมให้เขา หากไม่ใช่เพราะเผ่าพันธ์บัดซบแของแก เขาคงมีชีวิตอย่างสุขสบายไปแล้ว ดังนั้น สิ่งที่ฉันไม่เข้าใจคือ เขาเห็นแก่ตัวตรงไหน?”

 

“มันเป็นเพราะเขาเป็นคนดี ดังนั้นแกจึงกล้าดูถูกเขา แกรู้ว่าเขาจะไม่ทําร้ายแกสินะ?”

 

หานเซี่ยวพลันเปลี่ยนเป็นรูปแบบมิติ ดวงตาดําสนิทเขาจ้องหัวหน้านักวิจัยเขม็ง”แต่ฉันไม่เหมือนเขา หากแกกล้าพูดจาดูถูกลูกน้องฉันอีกละก็ ฉันจะจับหัวแกยัดไปในรูตูดแก”

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+