The Strongest Hokage 314

Now you are reading The Strongest Hokage Chapter 314 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ณ หมู่บ้านคุโมะ

ในห้องทำงานของ ไรคาเงะ

ทันใดนั้นเสียงโต๊ะแตกก็ดังสนั่นขึ้นมา

“บ้าเอ้ย! ตอนนี้ พวกซึนะ กับ พวกคิริ ไร้ประโยชน์แล้ว พวกนั้นถูกทำลายโดยเจ้าหมอนั่น หลังจากนั้นสถานการณ์ก็แย่ลงอย่างรวดเร็ว”

ไรคาเงะ รุ่น 4 ยืนอยู่หน้าโต๊ะประชุมที่หักครึ่งด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด ขณะที่นินจาหลายคนได้แต่ยืนมองหน้ากันและพวกเขาก็ไม่กล้าพูดอะไรออกไป

เพราะ ไรคาเงะ รุ่น 3 เสียชีวิตเร็วกว่าในการ์ตูน ทำให้ ไรคาเงะ รุ่น 4 ต้องขึ้นมารับตำแหน่งเร็งขึ้นกว่าเดิมเช่นกัน ในตอนที่ ไรคาเงะ รุ่น 3 ต่อสู้กับ ไนโตะ A ลูกชายของ ไรคาเงะ รุ่น 3 เชื่อมั่นในพลังของพ่อของเขาและเชื่อว่าพ่อจะเอาชนะ ไนโตะ ได้

แต่ตรงกันข้าม พ่อของเขาไม่ใช้คู่ต่อสู้ของ ไนโตะ เลยด้วยซ้ำไป และหลังจากการต่อสู้ที่ยาวนาน พ่อของเขาก็ถูกสังหารโดย ไนโตะ และเขาก็คิดว่า ไนโตะ ก็ตายไปด้วยเช่นกัน แต่ไม่นานหลังจากนั้น ไนโตะ ก็ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง!

นั้นทำให้ A รู้สึกรำคาญเป็นอย่างมากเมื่อเขาได้ยินว่า ไนโตะ ปรากฏตัวออกมาในสนามรบอีกครั้งและทำลาย กองทัพซึนะ และ กองทัพคิริ ในนามของ โคโนฮะ

“1 หาง กับ 3 หาง ช่างอ่อนแอจริง ๆ…พูดง่าย ๆ ก็คือ พลังสถิตร่าง พวกนั้นอ่อนแอมากเมื่อเทียบกับ คิลเลอร์ B น้องชายของฉัน”

ดวงตาของ ไรคาเงะ รุ่น 4 แสดงจิตสังหารออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน

“เทพเจ้าแห่งนินจา งั้นเหรอ? ถ้ามันกล้ามายุ่งกับหมู่บ้านของเรา ฉันก็จะ…”

ไรคาเงะ รุ่น 4 ได้เห็นการต่อสู้ระหว่าง ไนโตะ และ ไรคาเงะ รุ่น 3

เขารู้ว่า สิ่งเดียวที่พ่อของเขาพอที่จะสู้กับ ไนโตะ ได้ก็คือความเร็ว แต่นอกจากนั้นพ่อของเขาก็ไม่สามารถเทียบกับ ไนโตะ ได้เลย ดังนั้นพ่อของเขาจึงไม่สามารถรับมือกับ ไนโตะ ได้

แต่อย่างไรก็ตาม ไรคาเงะ รุ่น 4 ก็ได้สืบทอดพลังความแข็งแกร่งของร่างกายมาจากพ่อของเขาตั้งแต่แรกเกิด และด้วยการฝึกฝนอย่างหนักมาตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมา ทำให้เขายิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นไปอีก

ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ความเร็วของเขานั้นเร็วมากกว่า ไรคาเงะ รุ่น 3 มาก!

ในตอนนี้ เพราะเขากลายเป็น ไรคาเงะ รุ่น 4 เร็วกว่าที่ควรจะเป็น เขาจึงไม่ได้เข้าร่วมในสนามรบ ทำให้เขาไม่ได้ต่อสู้กับ มินาโตะ ดังนั้นตอนนี้เขาจึงคิดว่าตนเป็นผู้ที่มีความเร็วสูงที่สุดในโลกในตอนนี้

ขณะนั้น นินจา 2 –  คน ก็เดินเข้ามายกโต๊ะที่หักออกไป ขณะเดียวกัน ไรคาเงะ รุ่น 4 ก็จ้องมองด้วยสายตาที่เย็นชา

“ไม่ว่ามันจะแข็งแกร่งแค่ไหน มันก็ไม่มีทางที่จะเผชิญหน้ากับความเร็วของฉันได้!”

…….

ณ หมู่บ้านอิวะ

ที่ห้องประชุมบนอาคารสูง

ซึจิคาเงะ รุ่น 3 กำลังนั่งอยู่ที่ตำแหน่งหัวโต๊ะ โดยที่มีผู้อาวุโสนั่งอยู่รอบโต๊ะ

โอโนกิ มีสีหน้าเศร้าหมองและบรรยากาศในห้องก็เต็มไปด้วยความอึดอัด

“ไนโตะ ลงสู่สนามรบและก็ได้จับตัว พลังสถิตร่าง ของ ซึนะ กับ คิริ ไปแล้ว และหลังจากนั้นเราก็ไม่ได้รับข่าวอะไรอีกเลย พวกท่านคิดว่าเกิดอะไรขึ้นต่อไป?”

“ฉันคิดว่าตอนนี้เขาน่าจะไม่กล้าที่จะเข้ามายุ่งกับหมู่บ้านของเรา เพราะตอนนี้ พลังสถิตร่าง ของเราก็แข็งแกร่งขึ้นมาก และ 4 หาง กับ 5 หาง ก็แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก”

ผู้อาวุโสคนหนึ่งพูดขึ้น

ผู้อาวุโสหลายคน เมื่อได้ยินที่เขาพูด พวกเขาก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งก็พูดขึ้นมาว่า “ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแบบนั้นจริง แต่เราก็ยังคงต้องระวังการซุ่มโจมตีของเขาให้ดี หลายครั้งที่เขาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ความแข็งแกร่งของเขามากถึงขนาดที่สามารถจัดการกับ สัตว์หาง ได้อย่างอยู่หมัด ดังนั้นฉันของแนะนำว่า อย่างให้ พลังสถิตร่าง ทั้ง 2 คนอยู่แยกกันเด็ดขาด เราต้องให้พวกเขารวมพลังกันและเตรียมพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น”

เมื่อ ซึจิคาเงะ รุ่น ได้ยินความคิดเห็นของเหล่าผู้อาวุโส เขาก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ก่อนหน้านี้ที่ฉันได้ต่อสู้กับเจ้าปีศาจตัวนั้น เขายังไม่แข็งแกร่งขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะ เขี้ยวสีขาวแห่งโคโนฮะ ตอนนั้นฉันคงจะลบเขาออกไปจากหน้าประวัติศาสตร์ได้แล้ว…ฉันรู้อยู่แล้วว่าสักวันหนึ่งเรื่องแบบนี้จะต้องเกิดขึ้นและแว้งกัดเราเข้าสักวัน”

“ตอนนี้ เขาเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก จนแม้แต่ สัตว์หาง ก็ไม่สามารถรับมือกับเขาได้”

แววตาแห่งความเสียใจปรากฏขึ้นมาในนัยน์ตาของ ซึจิคาเงะ อย่างชัดเจน หากตอนนั้นเขาใช้กำลังทั้งหมดเพื่อจัดการกับ เขี้ยวสีขาวแห่งโคโนฮะ เขาก็จะสามารถฆ่า ไนโตะ ได้

เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของ ซึจิคาเงะ ผู้อาวุโสบางคนก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย และบางคนก็พูดออกมาว่า “ท่านซึจิคาเงะ อย่าโทษตัวเองเลย ถึงเขาจะแข็งแกร่ง แต่เขาก็เป็นเพียงแค่คนคนเดียว เขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงทิศทางทั้งหมดของสงครามได้หรอก”

“ใช่แล้ว อีกอย่างหมู่บ้านที่ยังคงอยู่ในสงครามก็คือ หมู่บ้านคุโมะ และเราก็ได้ยินมาว่า พลังสถิตร่าง ของ 8 หาง สามารถควบคุมพลังของ สัตว์หาง ได้อย่างอย่างสมบูรณ์แบบแล้วด้วย ซึ่งนั่นจะทำให้พวกเรากลับมาชนะได้”

โอโนกิ พยักหน้าแล้วสูดหายใจเข้าลึก ๆ

หมู่บ้านที่ยังคงทรงพลังในการทำสงครามครั้งนี้ก็คือ หมู่บ้านอิวะ และ หมู่บ้านคุโมะ ทั้ง 2 หมู่บ้านนี้มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขามี สัตว์หาง ถึงหมู่บ้านละ 2 ตัวเลยทีเดียว

หมู่บ้านอิวะ มี 4 หาง กับ 5 หาง และ หมู่บ้านคุโมะ มี 2 หาง กับ 8 หาง

“ตราบใดที่เจ้าพวก คุโมะ เก็บ พลังสถิตร่าง ของพวกเขาเอาไว้ด้วยกัน พวกเขาก็จะไม่พ่ายแพ้ต่อ ไนโตะ อย่างแน่นอน และพวกเขาก็จะมีโอกาสฆ่าเขาได้”

“และในเมื่อตอนนี้ ไนโตะ ยังคงซ่อนตัวอยู่ ฉันคิดว่าเราน่าจะใช้โอกาสนี้ในการโจมตีพวกมันกลับไป!”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ซึจิคาเงะ ก็เงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็มองไปที่ผู้อาวุโสคนหนึ่งและพูดว่า “ฉันจะออกคำสั่งให้นินจา โจนินระดับสูง 50 คน นำกองทัพ โจนิน 1,000 คน เพื่อโจมตีกลับ”

ประโยคนี้ทำให้เหล่าผู้อาวุโสในห้องตกใจเป็นอย่างมาก

โจนินระดับสูง 50 คน ไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ เลย!

“ท่านคือผู้นำของเรามาโดยตลอด ท่านนำทางเราด้วยสติปัญญาของท่านมานับหลาย 10 ปี แม้ว่าฉันจะไม่มันใจกับการตัดสินใจของท่านในครั้งนี้…แต่ฉันก็จะสนับสนุนท่าน!”

“ฉันขอคัดค้าน! หมู่บ้านคุโมะ ยังไม่เคลื่อนไหวเลย แล้วทำไมเราต้องโจมตีก่อนละ?!”

“ฉันเห็นด้วยกับ ท่านซึจิคาเงะ เราต้องโจมตีก่อนเพื่อปล้นทรัพยากรของพวกมันมาให้ได้มากที่สุด ไม่อย่างนั้น ถ้า คุโมะ เข้าร่วมการต่อสู้ เราก็ต้องแบ่งทรัพยากรเหล่านั้นให้กับพวกเขา มันจะทำให้เราได้ทรัพยากรน้อยลงไปอีก”

ในที่ประชุมเกิดการโต้เถียงกันขึ้นมาทันทีหลังจากคำพูดของ ซึจิคาเงะ และผมการลงคะแนนครั้งสุดท้ายก็จบลงด้วยการสนับสนุนการตัดสินใจของ ซึจิคาเงะ

จากผลการตัดสิน โจนินระดับสูง 50 คน และ โจนิน 1,000 คน ก็รวมตัวกันทันที จากนั้นพวกเขาก็เดินทางไปที่ชายแดนของ แคว้นแห่งดิน เพื่อข้ามรมแดนเข้าไปยัง แคว้นแห่งไฟ และพร้อมที่จะเริ่มโจมตีทันที

ในเวลานี้ ไนโตะ เพิ่งจะกลับมาถึงค่ายของ โคโนฮะ

แม้ว่า ไนโตะ จะไม่ได้นำ 7 หาง ไปกับเขาด้วย แต่นินจาคนหนึ่งก็ยังคงสังเกตเห็น ไนโตะ ที่อยู่บนท้องฟ้า

ใช้เวลาไม่นานนักก่อนที่นินจาหลายคนในค่ายจะรวมตัวกันและจ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้า

“นั่นมันอะไรน่ะ?!”

“นั้นมัน…แย่แล้ว! นินจาที่บินได้…ซึจิคาเงะ งั้นเหรอ?!”

เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดเหล่านั้น นินจาโคโนฮะ ก็ดูหวาดกลัวเป็นอย่างมาก พวกเขาทั้งหมดรีบวิ่งไปหยิบอาวุธและจ้องมองไปที่คนที่อยู่บนฟ้าอย่างไม่ละสายตา

ซึจิคาเงะ นำทัพมาโจมตีค่ายด้วยตัวเองเลยเหรอ?!

ไม่แปลกที่พวกเขาจะมั่นใจว่าคนที่พวกเขาเห็นคือ ซึจิคาเงะ เพราะนอกจาก ซึจิคาเงะ แล้ว พวกเขาก็ไม่เคยได้ยินว่ามีนินจาคนไหนบินได้อีกเลย

ยิ่งคนคนนั้นบินเข้าใกล้มากเท่าไร นินจาโคโนฮะ ก็แสดงสีหน้าที่น่าสยดสยองมากขึ้นเท่านั้น และบางคนก็เตรียมพร้อมที่จะใช้คาถานินจาที่รุนแรงที่สุดของพวกเขาออกมา!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด