True Martial World พิภพเทพยุทธ์ 1167 รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว

Now you are reading True Martial World พิภพเทพยุทธ์ Chapter 1167 รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
บทที่ 1167 รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว

ซืออวี้เซิงถูกอี้อวิ๋นยั่วยุจนโมโหถึงขีดสุด เขาไม่มีทางยอมให้อี้อวิ๋นออกจากงานบรรเลงฉินในวันนี้อย่างปกติสุขแน่นอน

“ซืออวี้เซิง หากวันนี้เจ้าลงมือก็เท่ากับเป็นศัตรูกับข้า ถ้าเจ้าตัดมือแขกของข้าคู่หนึ่ง ข้าก็จะตัดแขนทั้งสองของเจ้า!” เจ้าเมืองฉินโมโห คิดไม่ถึงว่าซืออวี้เซิงจะกล้าลงมือในงานบรรเลงฉินที่เขาจัด!

ที่นี่ไม่ใช่แค่จวนเจ้าเมือง แต่ยังเป็นเมืองสรรพสิ่ง ตามกฎของเมืองสรรพสิ่งแล้วก็ไม่อะไรให้ต่อสู้กัน

“ขอบคุณท่านเจ้าเมืองฉินมากขอรับ แต่เดิมทีเรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างข้าน้อยกับซืออวี้เซิง ท่านเจ้าเมืองโปรดอย่ายื่นมือเข้ามาเกี่ยว” อี้อวิ๋นพูด

เขารู้สึกขอบคุณในความยุติธรรมของเจ้าเมืองฉิน เรื่องในวันนี้ล้วนเกิดจากเขาทั้งสิ้น

อี้อวิ๋นมองซืออวี้เซิงแล้วมองคนที่อยู่ด้านหลังอีกฝ่าย เขารู้ว่าแท้จริงแล้วซืออวี้เซิงพาคนเหล่านี้มาเพื่อจับกุมเขา

หากลงนามในสัญญาก็แล้วไป แต่หากไม่ลงนาม ซืออวี้เซิงก็จะใช้กำลังมาจับเขากลับไปที่หอเซียนสรรพสิ่ง แค่คิดเอาก็รู้ว่าเมื่อเข้าสู่หอเซียนสรรพสิ่งแล้วจะมีจุดจบอย่างไร

“จั่วชิวเฮ่าอวี้ของพวกเจ้าเป็นฝ่ายมาหาเรื่องข้าเอง เขาเดิมพันด้วยมือคู่หนึ่งอย่างไม่ประมาณตน เมื่อพ่ายแพ้ก็ต้องยอมรับและทำตามเดิมพัน ถือเป็นหลักการที่ถูกต้องอย่างไม่มีอะไรสงสัย แต่หอเซียนสรรพสิ่งของพวกเจ้ากับใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างในการลงมือกับข้า เรื่องนี้ข้ายอมรับ ทว่าพวกเจ้ากลับลงมือกับคุณชายอู๋เฟิงและใช้วิธีชั้นต่ำมาข่มขู่ท่านเจ้าเมืองฉิน จะทำเกินไปแล้ว!”

“ข้าไม่ว่าอะไรถ้าพวกเจ้าจะจัดการเรื่องนี้! แต่ข้าก็ถามก่อนว่าหากท่านเจ้าเมืองฉินไม่เอาเรื่อง เช่นนั้นคุณชายอู๋เฟิงจะปลอดภัยดีหรือไม่?”

ฉินอู๋เฟิงโดนวางกับดักก็เพราะอี้อวิ๋น แม้อี้อวิ๋นจะไม่รู้จักอีกฝ่าย แต่เขาก็ต้องจัดการเรื่องนี้ให้ท่านเจ้าเมืองฉิน

“สหายน้อยอี้” เจ้าเมืองฉินขมวดคิ้วห้ามทันที

แม้องค์หญิงจิ้งจอกขาวจะสวมผ้าคลุมหน้า แต่ดวงตาคู่งามก็มีความกังวลปรากฏออกมา

“ท่านเจ้าเมืองฉินไม่ต้องพูดอะไรแล้วขอรับ” อี้อวิ๋นจดจ้องซืออวี้เซิงพร้อมกับถามเสียงทุ้ม “เจ้าได้ยินคำพูดข้าแล้ว”

“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ซืออวี้เซิงหัวเราะเสียงดัง “หากท่านเจ้าเมืองฉินไม่ถือสาเอาความกับเรื่องนี้ เช่นนั้นคุณชายอู๋เฟิงที่อยู่วังเซียนสรรพสิ่งก็ย่อมได้การต้อนรับอย่างไมตรี เมื่อเขาเที่ยงเล่นจนพอใจแล้วก็จะกลับมา หอเซียนสรรพสิ่งจะชำระหนี้พนันของเขาให้เอง”

“ดี!” อี้อวิ๋นไม่กลัวว่าซืออวี้เซิงจะผิดคำพูด ไม่ว่าจะตัวเขาหรือหอเซียนสรรพสิ่งก็ไม่มีทางแตกหักกับเจ้าเมืองฉินอย่างสมบูรณ์

“คุณชายอี้ ซืออวี้เซิงผู้นี้มีชื่อเสียงมานานและแข็งแกร่งจนน่ากลัว ด้านหลังเขายังมีหอเซียนสรรพสิ่งอีก…” ต่งเสี่ยวหวั่นกับหรูเอ๋อร์มีสีหน้ากังวลใจ

“ไม่เป็นไร” อี้อวิ๋นพูดเรียบๆ แล้วพุ่งร่างออกจากเรือประดับไปยังริมทะเลสาบ

“พาตัวไป!”

ซืออวี้เซิงโบกมือ ผู้ติดตามที่อยู่ด้านหลังซ้ายขวาพุ่งตัวไปอยู่ข้างอี้อวิ๋นและจับตัวเขาเอาไว้

ผู้ติดตามคนหนึ่งโบกมือแล้วนำโซ่เส้นหนึ่งออกมา

โซ่เส้นนี้ทำจากเหล็กดำใต้ทะเลลึก ด้านบนมีลวดลายกฎสลักไว้เต็ม เป็นโซ่ผนึกพลังปราณ เมื่อถูกโซ่นี้มัดก็ไม่อาจใช้พลังปราณในร่าง ถูกคนอื่นจัดการได้ตามใจชอบ

“มัดเขาไว้!” มุมปากซืออวี้เซิงมีรอยยิ้มชั่วร้าย

แกร๊กๆๆ!

โซ่เส้นนี้เป็นดังงูหลามตัวหนึ่ง มันวนรอบตัวอี้อวิ๋นแล้วมัดแขนสองข้างของเขาให้ไพล่หลัง

ชั่วพริบตาที่โซ่ประกบ ลวดลายอักขระก็ส่องประกาย สายโซ่รวมเป็นหนึ่งเดียวกันและผนึกการไหลเวียนของพลังปราณในร่างอี้อวิ๋นอย่างสมบูรณ์

เจ้าเมืองฉินมีสีหน้าไม่สู้ดี ซืออวี้เซิงผู้นี้กล้าจับกุมคนที่จวนเจ้าเมืองของเขา ไม่ว่าลูกชายเขาจะเป็นอย่างไร เขาก็ยอมให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด

ขณะที่เขากำลังจะลงมือ จู่ๆ องค์หญิงจิ้งจอกขาวที่อยู่ด้านข้างก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป “ท่านลุงฉิน เมื่อครู่อี้อวิ๋นส่งเสียงให้ข้าว่าท่านลุงฉินอย่าลงมือเจ้าค่ะ”

องค์หญิงจิ้งจอกขาวเป็นห่วงอี้อวิ๋นเช่นกัน แต่ในเมื่ออี้อวิ๋นส่งปราณเสียงให้นางโดยเฉพาะ เขาก็คงไม่อยากให้เจ้าเมืองฉินเข้าไปเกี่ยวจริงๆ

“เวลานี้แล้วยังไม่ลงมืออีก หรือจะปล่อยให้อี้อวิ๋นถูกพาตัวไปหอเซียนสรรพสิ่งจริงๆ?”

ขณะที่เจ้าเมืองฉินกำลังพูด ผู้ติดตามของซืออวี้เซิงก็พาตัวอี้อวิ๋นออกนอกจวนเจ้าเมือง

“พาไปวังเซียนสรรพสิ่ง” ซืออวี้เซิงโบกมือ แต่เมื่อเห็นว่าตอนนี้อี้อวิ๋นยังคงมีสีหน้านิ่งเรียบและฝีเท้ามั่นคง ซืออวี้เซิงก็รู้สึกหงุดหงิด “ช่างกล้ามาก น้ำหน้าอย่างเจ้าก็คู่ควรให้สู้กับข้าด้วยหรือ! ข้าจะรอดูว่าเมื่อถึงวังเซียนสรรพสิ่งแล้วเจ้าจะทนได้ถึงเมื่อไร!”

ซืออวี้เซิงพาอี้อวิ๋นออกนอกจวนเจ้าเมือง ผู้คนริมทะเลสาบพากันหลีกทางให้

ปรมาจารย์โอสถหนุ่มผู้นี้มีเรื่องกับหอเซียนสรรพสิ่ง ตอนนี้ถูกพาออกนอกจวนเจ้าเมือง ไม่รู้ว่าจุดจบจะเป็นอย่างไร เกรงว่าเขาคงถูกหอเซียนสรรพสิ่งใช้เป็นทาสที่ต้องรับใช้ไปตลอดกาล!

หลายคนอดทอดถอนใจไม่ได้เมื่อนึกถึงจุดจบเช่นนี้

ฉินเจิ้งหยางมีสีหน้าเคร่งเครียด แม้อี้อวิ๋นจะส่งเสียงไม่ให้เขาลงมือ แต่เขาจะนั่งนิ่งเฉยได้อย่างไร ตอนนี้อี้อวิ๋นถูกพาออกจากจวนเจ้าเมือง เขาเองก็จะตามไปด้วยเช่นกัน

“อู๋เสีย พวกเราไปวังเซียนสรรพสิ่งด้วยกัน ซืออวี้เซิงกำเริบเสิบสาน เขาเที่ยวใช้อำนาจบาตรใหญ่อย่างไม่เลือกวิธี ข้าอยากรู้นักว่าผู้อาวุโสของหอเซียนสรรพสิ่งจะกล้าฉีกหน้ากับข้าเหมือนเขาไหม”

ในฐานะที่ฉินเจิ้งหยางเป็นเจ้าเมืองของเมืองสรรพสิ่ง ไม่ว่าจะอำนาจหรือความแข็งแกร่งส่วนบุคคลของเขาก็เป็นสิ่งที่กลุ่มอิทธิพลต่างๆ ต้องคำนึงถึง

ตอนนี้ฉินเจิ้งหยางต้องการพบคนระดับสูงของหอเซียนสรรพสิ่ง แต่เขาก็รู้ว่าครั้งนี้พวกคนระดับสูงคงไม่ปรากฏตัว

พวกเขาน่าจะยินยอมให้ซืออวี้เซิงใช้วิธีสุดโต่งเช่นนี้มาจัดการปัญหา

ใช้ลูกชายเขามาข่มขู่และจับตัวอี้อวิ๋นในงานบรรเลงฉิน หากคนระดับสูงของหอเซียนสรรพสิ่งเป็นผู้ใช้วิธีเช่นนี้ก็คงเสื่อมเสียเกียรติเกินไป แต่ซืออวี้เซิงเป็นเด็กหนุ่มบ้าระห่ำและทำอะไรเปิดเผย หากเขาเป็นผู้ลงมือก็ไม่มีใครตำหนิ

นี่เองก็เป็นเรื่องที่ฉินเจิ้งหยางกังวล เขาสงสัยด้วยซ้ำว่าต่อให้เขาไปถึงวังเซียนสรรพสิ่ง พวกผู้อาวุโสสูงสุดของหอเซียนสรรพสิ่งก็อาจหลบซ่อนไม่มาพบหน้า

หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ เรื่องนี้ก็คงยุ่งยากแล้ว

หรูเอ๋อร์เป็นกังวลเมื่อเห็นเจ้าเมืองฉินตามพวกซืออวี้เซิงออกจากจวน ต่งเสี่ยวหวั่นจับมือนางแล้วพูดว่า “พวกเรารีบตามคุณชายไปกันเถอะ”

“อะ…อื้ม!” หรูเอ๋อร์รีบพยักหน้าเมื่อตั้งสติได้

เมื่อเห็นพวกต่งเสี่ยวหวั่นรีบตามออกไป สาวใช้ข้างกายเทพธิดาจื่ออวี่ก็พูดอย่างดีใจในโชคร้ายของคนอื่นว่า “หากวันนั้นออกมาต้อนรับคุณหนูอย่างเคารพนบนอบและยอมเป็นแขกประจำตระกูลกุยหยวนของเรา มีหรือที่จะเจอจุดจบดังเช่นวันนี้?”

“อี้อวิ๋นผู้นี้มีความภักดีมาก แต่การยอมยืนตายแต่ไม่ยอมคุกเข่าเพื่อรอดในเวลานี้กลับไม่ใช่วิธีที่ชาญฉลาดนัก” เทพธิดาจื่ออวี่พูดเสียงเบาพร้อมลุกขึ้นยืน “ข้าคิดว่าท่านเจ้าเมืองฉินคงไปที่วังเซียนสรรพสิ่งแน่นอน งานบรรเลงฉินคงจัดต่อไม่ได้อีก พวกเราเองก็ตามไปดูกันเถอะ”

สายตานางมองไปยังองค์หญิงจิ้งจอกขาวที่อยู่บนเรือเจ้าเมือง จากนั้นก็มองไปยังเรือประดับขนาดใหญ่อีกลำ บนเรือลำนั้นมีเงาร่างรางๆ ดุจเมฆบังพระจันทร์และกลิ่นอายดุจเซียนนั่งอยู่ นั่นคือเทพธิดาโยวฉิน

“อี้อวิ๋นเป็นสหายของเทพธิดาอู๋เสีย เทพธิดาอู๋เสียคงตามไปดูเช่นกัน น่าเสียดายที่ไม่ได้เห็นการประลองของพวกนางสองคน” เทพธิดาจื่ออวี่ยิ้มบางๆ เงาร่างนางบินฉวัดเฉวียนดุจหงส์ไปยังริมทะเลสาบเช่นกัน

“เทพธิดาโยวฉิน” องค์หญิงจิ้งจอกขาวเอ่ยปากพูด “ดูแล้วงานบรรเลงฉินในวันนี้คงจบแต่เพียงเท่านั้น ข้าต้องตามท่านลุงฉินไปที่วังเซียนสรรพสิ่ง”

เทพธิดาโยวฉินที่อยู่บนเรือประดับของสำนักอภิรมย์ถอนหายใจเบาๆ วันนั้นนางกับเทพธิดาอู๋เสียยังตัดสินผลแพ้ชนะไม่ได้ หลังจากวันนั้นก็คอยพะวงถึงการประมือครั้งต่อไปอยู่ตลอด แต่คิดไม่ถึงว่างานบรรเลงฉินครั้งนี้จะยกเลิกเพราะหอเซียนสรรพสิ่งกับอี้อวิ๋น

เทพธิดาโยวฉินเคยได้ยินเรื่องอี้อวิ๋นมาบ้างเช่นกัน อี้อวิ๋นกล้ามีเรื่องกับหอเซียนสรรพสิ่ง เมื่อวันนี้นางได้พบก็รู้สึกว่าคนผู้นี้น่าสนใจเล็กน้อย

“คุณหนู ในเมื่องานบรรเลงฉินถูกยกเลิก เช่นนั้นพวกเราก็กลับกันเถิดเจ้าค่ะ” สาวใช้รูปร่างอรชรนางหนึ่งเดินเข้ามาพูด

เทพธิดาโยวฉินส่ายหน้าเบาๆ “เกรงว่าคนในงานวันนี้มากกว่าครึ่งคงตามไปดูเรื่องสนุก พวกเราเองก็ตามไปดูกันเถอะ หากหอเซียนสรรพสิ่งจะเปลี่ยนอี้อวิ๋นให้เป็นทาสรับใช้ของพวกเขาจริงๆ เช่นนั้นก็เกรงว่าคงมีกลุ่มอิทธิพลไม่น้อยที่ไม่ยอม”

อี้อวิ๋นเป็นอัจฉริยะปรมาจารย์โอสถแต่กลับไร้พลังอำนาจ เขาเป็นดังอัญมณีไร้เจ้าของที่ตกอยู่กลางถนน ไม่ว่าใครก็อยากเก็บมาเป็นของตัวเองทั้งนั้น

โอกาสที่อี้อวิ๋นจะอยู่รอดคือหาทางออกในรอยแยกของกลุ่มอิทธิพลเหล่านี้ เขาไม่อาจเอาตัวออกนอกวง ท้ายที่สุดก็ต้องพึ่งพาสักกลุ่มอิทธิพลเพื่อความปลอดภัย

เทพธิดาโยวฉินพูดถูกแล้ว แม้แต่เจ้าเมืองฉินกับเทพธิดาอู๋เสียยังตามไป คนในงานมากกว่าครึ่งจึงตามไปด้วยเช่นกัน

ที่นอกจวนเจ้าเมืองมีจอมยุทธ์อยู่มาก พวกเขารู้ว่าวันนี้ในจวนเจ้าเมืองมีงานบรรเลงฉิน แต่เนื่องจากไม่มีเทียบเชิญจึงได้แต่มุงล้อมอยู่ด้านนอกเพื่อฟังเสียงฉินจากไกลๆ เมื่อเห็นแขกในงานและเจ้าเมืองฉินพากันออกจากจวนก็ตกตะลึง

พวกเขากำลังทำอะไรน่ะ?

พวกเขายังเห็นอีกว่าที่หน้าสุดของฝูงชนคืออี้อวิ๋นที่ถูกโซ่ผนึกปราณมัดไขว้หลังและพาูออกนอกเมือง

เมื่อมองดูอย่างละเอียดก็พบว่าคนที่จับตัวเขาคือผู้สืบทอดตำแหน่งประมุขรุ่นต่อไปของหอเซียนสรรพสิ่ง…ซืออวี้เซิง!

ซืออวี้เซิงมีชื่อเสียงเลื่องลือในเมืองสรรพสิ่ง เป็นบุคคลอันดับในหมู่เด็กรุ่นเยาว์ แต่เขาเป็นคนทำอะไรเปิดเผย ผิดใจกับคนไม่น้อย คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะจับปรมาจารย์โอสถที่อัจฉริยะที่สุดของเมืองสรรพสิ่ง เรื่องนี้เพียงพอให้เป็นที่ฮือฮา

“เกิดอะไรขึ้น? อี้อวิ๋นถูกจับแล้วหรือ!”

“ต้องเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างหอเซียนสรรพสิ่งกับอี้อวิ๋นแน่นอน การจับตัวนี้คงมีโชคร้ายมากกว่าโชคดี!”

………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด