Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1404 รากความคิด

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1404 รากความคิด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เฉวียนซุยเซิงอ้าปากคล้ายต้องการพูดอะไรออกมา แต่คล้อยหลังกลับพบว่าเขาพูดอะไรไม่ออกสักอย่าง

จินอวี้ในฐานะอันดับหนึ่งแห่งงานชุมนุมร้อยเมือง พ่ายให้แก่เย่หยวนในท้ายที่สุด

ตัวเขาไม่แม้แต่จะโค่นจินอวี้ลงได้ด้วยซ้ำ แล้วนี่นับประสาอะไรกับเย่หยวน?

เฉวียนซุยเซิงเป็นดั่งความภาคภูมิใจของสวรรค์ นอกจากจินอวี้แล้ว ทอดสายตาทั่วร้อยเมืองหลวงเกรงว่าหาผู้ใดทัดเทียมไม่ แต่ตอนนี้…เขากลับไม่มีแม้กระทั่งกล้าที่จะท้าเย่หยวนสู้! ความภาคภูมิใจของสวรรค์เฉกเช่นเขาพบทางแถบที่ยากจะข้ามผ่านแล้ว!

ภายใต้สถานการณ์จนมุมแบบเมื่อครู่ ตามธรรมชาติไม่ว่าใครล้วนต้องกลับลำเปลี่ยนรูปแบบเป็นตั้งรับเพื่อรักษาชีวิตก่อนโดยสัญชาตญาณ แต่เย่หยวนคนนี้กลับเลือกที่จะหันดาบเข้าใส่ความตายแทน! ถึงจะเป็นแบบนั้น อย่างน้อยที่สุดก็น่าจะเผยท่าทีลังเลอะไรเสียบ้าง แต่เย่หยวนกลับยกดาบฟาดฟันโดยไม่ลังเลแม้สักนิด!

ในเวลานั้นเอง เฉวียนซุยเซิงพลันนึกถึงคำกล่าวก่อนหน้าของฉินส่าวอย่างอดมิได้ เด็กหนุ่มคนนี้เกิดมาเพื่อสร้างปาฏิหาริย์! เฉวียนซุยเซิงแอบสบถหยามเหยียดวาจาประโยคนี้ของฉินส่าวอย่างลับๆในตอนนั้น ทว่ายามนี้เขาค้นพบแล้วว่า ฉินส่าวหาได้พูดเกินจริงแม้แต่น้อย

“ตอนนี้มันบาดเจ็บหนัก ฆ่ามันแล้วชิงแหวนเก็บของทั้งหมดในตัวมันมา!”

ท่ามกลางฝูงชน จู่ๆ ใครมิทราบตะโกนดังลั่นเข้าปลุกระดมฝูงชนโดยรอบในทันที

ในศึกสัประยุทธ์รอบที่สองนี้ มีผู้คนมารวมตัวและเฝ้าดูการต่อสู้นี้กว่าพันคนแล้ว!

คล้อยหลังสุ่มเสียงปลุกระดมนี้ ผู้คนจำนวนมากริเริ่มความคิด ต้องการดักจับปลาในน่านน้ำที่ไม่พร้อมเสียแล้วเสี้ยวอึดใจต่อมา ปรากฏกลุ่มคนจำนวนมากเข้าปิดล้อมโดยมีเย่หยวนที่คลานอยู่บนพื้นเป็นจุดศูนย์กลาง ซึ่งที่มิใช่แค่เขา กระทั้งทางด้านจินอวี้เองก็มีคนอีกกลุ่มเตรียมดักฆ่าแล้วเช่นกัน

“ไอ้พวกไร้ยางอาย! เมื่อครู่พวกเจ้าเป็นคนล้มจินอวี้ได้รึไง!?”

เฉวียนซุยเซิงแผดเสียงคำรามลั่นด้วยความโกรธจัด ยามนี้คู่เท้ากระตุกวูบปราดพุ่งออกไปโดยไวดุจฟ้าแลบ

สีหน้าการแสดงออกของฉินส่าวเองก็ไม่สู้ดีเช่นกัน ก่อนเร่งปรี่ไปช่วยเย่หยวนทันที

กวาดสายตาจับจ้องเหล่าศิษย์มากหน้าหลายตาที่เข้ารายล้อมดักจับตาย เย่หยวนพลางเค้นเสียงเย็นหัวเราะเยาะคำหนึ่ง ฝ่ามือกระชับดาบพิชิตมารฟ้าแน่นพร้อมฟันฟาดออกไปตรงหน้าอีกระลอก! แม้สภาพในตอนนี้ของเย่หยวนจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก แต่หากมิใช่ยอดฝีมือระดับชั้นเดียวกับจินอวี้ การจะโค่นเขาลงเกรงว่าคงฝันไป!

วรยุทธ์บ่มเพาะกายเนื้อของเย่หยวนเป็นถึงสุดยอดวิชาในตำนานอย่าง เคล็ดสมบัติศักดิ์สิทธิ์กายาเต่าดำแห่งเผ่าเต่าดำ แม้นี่จะมิอาจเทียบเทียมได้กับสุดยอดวรยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์บนมหาพิภพถงเทียน แต่พลังป้องกันของมันกลับสูงเข้าขั้นวิปลาส เหนือชั้นกว่าวรยุทธ์กายเนื้อทั่วไปอย่างหาที่เปรียบไม่ จุดเด่นของเผ่าเต่าดำคือพลังป้องกันอันแกร่งกล้าและทนทานจนน่าอัศจรรย์ใจ ดังนั้นวรยุทธบ่มเพาะกายเนื้อของพวกเขาย่อมหาใช่ชนชั้นกินเจเช่นกัน

แม้การปะทะครั้งนี้จะค่อนข้างหนักหน่วง แต่มันก็ไม่ถึงขนาดจะทำให้เย่หยวนสูญเสียพลังการต่อสู้ทั้งหมดไปเพียงจัดการกับขยะกองนี้ เศษเสี้ยวพลังของเขาก็เพียงพอแล้ว!

ชวิ้ง!

เย่หยวนสับคลื่นคมดาบพลังสุดน่าสะพรึงออกไปอย่างไร้ปรานี ฝูงคนที่ห้อมล้อมเย่หยวนไว้ต่างหน้าถอดสีกันเป็นแถวด้วยความหวาดกลัว พวกเขามีหรือจะคาดคิด เย่หยวนบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้แท้ๆ แต่ไฉนยังสามารถปลดปล่อยการโจมตีที่น่าสะเทือนขวัญขนาดนี้ได้? เหล่าศิษย์ที่อยู่แถวหน้าไม่แม้แต่จะมีเวลาทำลายจี้หยก พวกเขาถูกเย่หยวนกำจัดทิ้งไม่เหลือซากโดยตรง ส่วนพวกที่อยู่แถวหลังถัดไป ยามนี้รู้ตัวว่าถอยหนีไม่ทันการณ์แล้ว จึงหยิบจี้หยกขึ้นมาทำลายกันชุลมุนพร้อมถูกส่งกลับไปยังแท่นบูชาทันที

“อย่าไปกลัวมัน! สภาพตอนนี้ไม่ต่างจากลูกธนูแรงปลาย กระบวนดาบเมื่อครู่มันขู่ให้พวกเราหวาดกลัวเสียขวัญเท่านั้น บุกเข้าโจมตีพร้อมกัน!” มีใครบางคนกลางฝูงชนตะโกนปลุกกระตุ้นฝูงชนอีกครั้ง

เหล่าศิษย์อีกหลายคนที่กำลังจะทำลายจี้หยกพลันหยุดชะงักทันที พลางคิดกันไปว่า การโจมตีเมื่อครู่คงเป็นพลังทั้งหมดที่เย่หยวนเหลืออยู่แล้ว หลังจากนี้ย่อมไร้พิษสง!

เย่หยวนได้ยินดังนั้นพลันฉีกยิ้มแสยะเย็นกว้าง ต่อหน้าคนพวกนี้เขาหาได้ใส่ใจแม้แต่น้อย

มาหนึ่งตายหนึ่ง!

มาสองตายคู่!

คนเหล่านี้ช่างโง่งมเสียจริงที่คิดว่าเย่หยวนไม่เหลือเรี่ยวแรงแล้ว

พวกเขาหารู้ไม่ว่า วรยุทธบ่มเพาะพลังของเย่หยวนมันน่ากลัวเพียงใด ปริมาณพลังปราณเทวะที่นำจ่ายออกไปในอัตราเพียงเท่านี้ กลับไม่นับว่าเป็นปัญหาอันใดสำหรับตัวเย่หยวนเลย ต่อให้พลังปราณเทวะในกายเขาเหลือไม่มากนัก แต่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ย่อมมีอีกหลากหลายหนทางให้เลือกใช้

คมดาบโบกสะบัดพลิ้ว เย่หยวนล่าสังหารเด็ดชีพของเหล่าศิษย์โง่งมพวกนั้นอย่างไร้ปรานี

ทว่าภายในฝูงชนเหล่านั้นกลับมีสายตาหนึ่งจ้องเขม็งไปที่เย่หยวนไม่คลายอ่อน ดุจอสรพิษเตรียมฉกเหยื่ออันโอชะของมัน

อาณาจักรพลังของบุคคลนี้หาได้โดดเด่นกว่าใครคนอื่น ในทางตรงข้ามกลับดูธรรมดาทั่วไปไม่โดดเด่นแม้แต่น้อย แต่ทันใดนั้น บุคคลนี้พลันเคลื่อนย้ายตำแหน่งไปยังทิศทางด้านหลังเย่หยวนตามธารฝูงชน!

ประจวบเหมาะลอบโจมตี เขาคนนั้นปราดกระหน่ำเต็มสูบจากด้านหลังหวังจับตายด้วยความเร็วดุจสายฟ้าแลบ! กลางใจฉินส่าวเต้นกระหน่ำผิดจังหวะ ยามนี้พลันรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายแสนคุ้นเคย เร่งหันควับขยับขยายสายตาจับจ้องไปที่เย่หยวนทันที

“เย่หยวนระวังข้างหลัง!” ฉินส่าวตะโกนลั่นสุดเสียง

แต่ในจังหวะนั้นเอง กลับมีรัศมีกลิ่นอายอันทรงพลังอีกหอบหนึ่งคำรามลั่นพร้อมเสียงคำรนหอน!

“ฉินหยวนหลง เจ้ากล้า!?”

อีกบุคคลหนึ่งผู้เปี่ยมล้นรัศมีสุดแกร่งกร้าว เขาหาใช่ใครอื่นไม่นอกเสียจากอัสนีคำรนที่เพิ่งเดินทางมาถึง!

เมื่อเขาทราบข่าวว่าเย่หยวนประกาศกร้าวท้าทายเหล่าอัจฉริยะทุกคน อัสนีคำรนก็รู้ทันทีว่าฉินหยวนหลงจะต้องมาที่นี่แน่นอน แต่เขากลับคาดไม่ถึงเลยว่า ฉินหยวนหลงจะหน้าด้านไร้ยางอายได้ขนาดนี้ ถึงขั้นที่ว่าลอบเร้นแฝงตัวอยู่กลางฝูงชนเพื่อหาจังหวะซุ่มโจมตีเย่หยวนจากด้านหลัง!

ปราศจากความสงสัยใด เย่หยวนเป็นศิษย์ของสถานศึกษาหวูเมิ่งที่มีศักยภาพสูงมาก และยังเหนือชั้นเสียยิ่งกว่าฉินเทียน ก่อนออกเดินทาง เหวินอี้หยางเข้ากำชับกับอัสนีคำรนโดยส่วนตัวว่า จงเฝ้าสังเกตการณ์ฉินหยวนหลงอย่างให้คลาดสายตา และอย่างปล่อยให้เขาฆ่าเย่หยวนได้เด็ดขาด

ทว่าใครจะไปคิด ฉินหยวนหลงกลับหนีออกไปจริงๆ!

เซียนอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าซุ่มโจมตีเด็กน้อยอาณาจักรปฐมพระเจ้า เรื่องนี้ไม่ว่าใครทราบต่างต้องรู้สึกอับอายแทน

ฉินหยวนหลงเก็บซ่อนกลิ่นอายระงับอาณาจักรพลังตัวเองไว้ พร้อมเข้าปะปนกลางฝูงชนเพื่อหาตำแหน่งที่เข้าใกล้เย่หยวนให้มากที่สุด ทั้งนี้เขาหวังฆ่าเย่หยวนให้ตายคามือโดยไม่แม้แต่จะมอบโอกาสให้อีกฝ่ายทำลายจี้หยกได้ทัน!     รอยยิ้มแสนเลือดเย็นปรากฏขึ้นบนมุมปากฉินหยวนเทียน ในที่สุดเขาก็สามารถฆ่าเย่หยวนลงได้เสียที!

ไอ้เด็กเหลือขอตัวนี้ มันทำให้ตระกูลฉินเสียหน้าอัปยศอย่างที่สุด ฉะนั้นโทษของมันคือความตาย!

แต่น่าเสียดาย ยามนี้เย่หยวนกำลังหันหลังให้เขาอยู่ ฉินหยวนหลงจึงมิอาจมองเห็นรอยยิ้มแสนเย้ยหยันบนใบหน้าของเย่หยวน!

บูมมมม!

ฉินหยวนหลงสัมผัสได้โดยพลัน เงาร่างเย่หยวนไสวเลือนรางก็อันตรธานหายไปต่อหน้า

ฝ่ามือจับตายที่เขากระหน่ำออกไป ปรากฏว่าไปโดนศิษย์คนอื่นๆที่อยู่เคียงข้างตายคาที่แทน

ฝ่ามือล่าสังหารระดับชั้นอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าทรงอานุภาพเพียงใดมีหรือจะไม่ทราบ? เหล่าศิษย์ในบริเวณนั้นล้วนถูกฝ่ามือนี้ของฉินหยวนหลงบดขยี้ไม่เหลือซากในพริบตา มาตรได้ว่าตายไม่รู้ตัว

ทุกคนในตอนนี้ประหลาดใจยิ่ง เย่หยวนหายไปไหนแล้ว?

ฉินหยวนหลงขนลุกซู่วทุกอณูทั่วร่างยันหนังศีรษะ เขาในตอนนี้เพิ่งรู้ตัวว่า ตนได้มองข้ามสิ่งที่สำคัญที่สุดไปสนิท!

เรื่องนี้มิใช่แค่เขา ทุกคนต่างมองข้ามมันไปสนิท!

เย่หยวนใช้วิชาขี่ดาบได้!

“ท่านอาจารย์ฉินดูเหมือนท่านจะผิดหวังมิใช่น้อย? แต่เรื่องนี้ท่านประมาทเองที่ลืมไปว่าข้าขี่ดาบเหาะเหินได้!”

กลางห้วงเวหาฟ้า เย่หยวนยืนตระหง่านบนตัวดาบพลางกดสายตาจับจ้องฉินหยวนหลงที่อยู่เบื้องหน้าด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าฉินหยวนหลงบิดเบี้ยวน่าเกลียดอย่างหาที่เปรียบไม่ เขาเงยหน้าจับจ้องเย่หยวนฉายแววอำมหิตสุดขั้วหัวใจ

เรื่องสำคัญเช่นนี้เขากลับมองข้ามไปจริงๆ! จริงอยู่ที่เย่หยวนจงใจไม่ใช้วิชาดาบขี่ นั้นก็เพื่อให้ทุกคนลืมเรื่องนี้ไป

นับตั้งแต่ศึกดวลเป็นตายกับฉินส่าว เย่หยวนก็ไม่เคยสำแดงใช้วิชาขี่ดาบต่อหน้าสาธารณชนอีกเลย ชั่วพริบตากว่าหกปีผ่านพ้นไป เย่หยวนสู้ศึกสัประยุทธ์บนพื้นดินมาตลอด ไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ใด เขาก็ไม่เคยหยิบใช้ทักษะนี้สักครั้ง ดังนั้นแล้ว ทุกคนจึงมองข้ามจุดสำคัญข้อนี้ไปสนิท!

ท้ายที่สุดแล้ว ภายในมหาพิภพถงเทียนแห่งนี้ สรรพชีวิตที่อยู่ต่ำกว่าอาณาจักรราชันพระเจ้าลงไปจะไม่สามารถเหาะเหินอากาศได้!

………………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด