Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1521 เพลงดาบเมฆาลับแล!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1521 เพลงดาบเมฆาลับแล! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เปล่าประโยชน์! แม้นแนวคิดแห่งห้วงมิติของเจ้าจะแกร่งกล้า ทว่าระดับที่เจ้าหยั่งถึงยังคงต่ำเกินไป! ยอมแพ้เสีย!”

หญิงสาวกล่าววาจาลงดาบเสียงเย็นสะท้านไร้ซึ่งแยแส

ร่างไสววูบสายหนึ่งของเย่หยวนเคลื่อนโฉบ ฉวยจังหวะปลดปล่อยดับเงาสยบมารเป็นคำรบสอง

หญิงสาวผู้แสนเย็นชาหาได้ปริปากกล่าวอันใด เขตแดนน้ำแข็งแผ่สะพัดไพศาลออก เปลี่ยนสภาพแวดล้อมรอบข้างเย่หยวน

ทั้งคู่ล้วนเป็นยอดฝีมือระดับสูงผู้เชี่ยวชาญในด้านแนวคิด นี่เป็นครั้งแรกที่ขุมพลังแห่งแนวคิดสุดแกร่งกล้าของเย่หยวน พบเจอคู่มือต่อกรที่แท้จริงของมัน

เขาเร้ากระตุ้นวรยุทธเคลื่อนไหวจนถึงขีดสุด แต่ไม่ว่าอย่างไรกลับไม่สามารถตีฝ่าผ่านหญิงสาวนางนี้ไปได้

เขตแดนน้ำแข็งของนางเปรียบเสมือนตาข่ายยักษ์ที่เข้ามัดมือมัดขาของเย่หยวนเอาไว้

แท้ที่จริงแล้ว หญิงสาวนางนี้หาใช่คู่มือเย่หยวนไม่

กระบวนสังหารที่แท้จริงของเย่หยวนคือรุ่งเบิกอรุณ ทว่าจำต้องใช้ภายใต้สภาวะดับเงาสยบมาร

รุ่งเบิกอรุณกล่าวคือสุดยอดกระบวนทำลายล้างสรรพสิ่งใต้สวรรค์

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่ความเร็วของเย่หยวนลุถึงสภาวะสุดยอด เขาก็ค้นพบจุดอ่อนของหญิงสาวผู้แสนเย็นชานางนี้ได้นานแล้ว

แต่หากพิชิตนางด้วยวิธีเช่นนั้น เขาจะไม่สามารถทำความเข้าใจต่อแนวคิดแห่งห้วงมิติได้อีกต่อไป

เขาพยายามบังคับตัวเองให้ถึงขีดจำกัด เพื่อทำความเข้าใจต่อแนวคิดแห่งห้วงมิติภายใต้ภาวะจนมุม

ปัจจุบัน เย่หยวนหลอมรวมสองแนวคิดระหว่างเต๋าแห่งดาบและแนวคิดแห่งห้วงมิติผ่านเพลงดาบที่ปลดปล่อยออกไป

เย่หยวนได้ค้นพบแล้วว่า การเชื่อมต่อกับแนวคิดแห่งห้วงมิติผ่านเต๋าแห่งดาบ มันให้ผลลัพธ์เป็นสองทวีเท่าในหนึ่งความพยายาม

แม้ว่าคู่ต่อสู้ก่อนหน้าเขาจะแข็งแกร่ง แต่เขาคนนั้นก็ยังมเทียบชั้นกับหญิงสาวผู้อสนเย็นชานางนี้ได้

ยามนี้ปฏิกิริยาตอบสนองฉับไว เย่หยวนหมุนตัวไปหานางพร้อมเร่งเร้าระดมพลังทั้งหมดออกมา

ภายใต้สถานการณ์กดดันเช่นนี้ เป็นเรื่องง่ายกว่าสำหรับเย่หยวนที่จะก้าวข้ามขีดกำจัดของตัวเองไปสู่อีกขั้น

ตั้งแต่สู้ในรอบแรก เย่หยวนค้นพบแล้วว่า เหล่าอัจฉริยะยุคบรรพกาลเหล่านี้ล้วนมีความเข้าใจที่แตกต่างจากคนในยุคปัจจุบันเกี่ยวกับพลังแห่งแนวคิด

เฉกเช่นเดียวกับหญิงสาวนางนี้ที่สามารถหลอมรวมเต๋าแห่งดาบเข้ากับแนวคิดแห่งน้ำแข็งได้ในระดับลึกซึ้ง ความสามารถนี้ของนางนับว่าพิเศษและโดดเด่นอย่างมาก กล่าวได้ว่านางคือผู้ไร้เทียมทานที่สุดในยุคนั้นก็ไม่ผิด

มีโอกาสเข้าต่อกรกับผู้ที่หลอมผสานสองแนวคิดได้ ผลประโยชน์ที่ได้รับมันแตกต่างไปจากตอนที่เย่หยวนเข้าฝึกปรือในห้วงบ่มเพาะแห่งความตายโดยสิ้นเชิง

การต่อสู้กับตัวเองเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดตนเองไปอีกขั้น นับเป็นการพัฒนาเชิงแนวตั้ง

แต่การได้ต่อสู้แลกเปลี่ยนกระบวนกับอัจฉริยะเหล่านี้ เป็นการขยับขยายขอบเขตความเข้าใจให้กว้างขึ้น มิใช่เพียงแนวคิดที่ตนเคยมี แต่เป็นการเรียนรู้แนวคิดอื่นๆจากทุกคน นับเป็นการพัฒนาเชิงแนวนอน

เย่หยวนสามารถต่อสู้กับตัวเองกี่ครั้งก็ได้ แต่เป็นโอกาสยากนักที่จะได้แลกเปลี่ยนกระบวนกับอัจฉริยะแห่งยุคบรรพกาลเหล่านี้

“เปล่าประโยชน์! พลังปราณเทวะของเจ้าระดมใช้กะทันหันเกินไป! หากยังไม่รับถอยเจ้าจะตายได้!”

เสียงแผดเย็นสะท้านของหญิงสาวเอ่ยดังขึ้น

แม้จะดูเหมือนว่าหญิงสาวนางนี้คือโฉมงามดั่งธิดาน้ำแข็งที่ไร้ซึ่งความรู้สึก แต่ก็เห็นได้ชัดว่า นางประทับใจในพรสวรรค์การต่อสู้ของเย่หยวนเป็นอย่างมาก นี่จึงเป็นเหตุผลที่นางเอ่ยปากเตือนเช่นนี้

เว้นเสียแต่เย่หยวนจะหาได้สนใจคำเตือนอีกฝ่ายไม่ เขามิได้ฟังนางเลยด้วยซ้ำ

“หึ! ช่างดื้อรั้นนัก!”

เมื่อหญิงสาวเห็นว่าเย่หยวนไม่ฟังคำเอ่ยเตือนใดๆ เช่นนั้นนางเองก็ไม่ยอมถอยแล้วเช่นกัน ดาบยาวในมือกระชับจับแน่นปราดพุ่งด้วยความเร็วสูงสุด

“ปราณดาบเหมันต์พิสุทธิ์!”

นี่คือผลงานชิ้นเอกของนาง เต๋าดาบที่แกร่งกล้าที่สุด!

เต๋าดาบสุกลึกล้ำหลอมรวมเข้ากับแนวคิดแห่งน้ำแข็งขั้นสูง ก่อให้เห็นเพลงดาบที่สามารถปลดปล่อยไอเย็นจับขั้วไขกระดูกศัตรูได้ กล่าวได้ว่าแม้แต่ดับเงาสยบมารของเย่หยวนยังถูกแช่แข็งกลางเวหา

กลิ่นอายแห่งความตายโชยออกมาจากเบื้องหน้า!

ซวบ!

เงาร่างทั้งสองสายตัดผ่านกันและกัน ทันทีทันใดการเคลื่อนไหวของทั้งสองพลันหยุดชะงักในบัดดล

ติ้ง!

ติ้ง!

ช่องท้องของเย่หยวนถูกทะลวงเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่ ธารเลือดรินไหลออกเป็นทางยาว

“ฮ่าๆๆ! ในที่สุดเจ้าเด็กนี่ก็พ่ายลงเสียที! สุดท้ายจำต้องพ่ายแพ้! คราวนี้คงไม่มีอันใดพลิกโพแล้วกระมัง?”

เมื่อเห็นภาพฉากนี้ ปู่เจ้อเริ่มระเบิดหัวเราะเสียงดังลั่น

ทุกคนต่างถอนหายใจเสียงยืดยาวด้วยความโล่งอกสุดหัวใจ กลิ่นอายแห่งความกดดันที่เย่หยวนนำพามาให้พวกเขามันมากเกินไป

เอาชนะฝ่าฟันความเป็นความตายได้อย่างหวุดหวิดถึงสิบสามรอบรวด!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับติงฟาน เขาที่ฝ่าฟันไปถึงรอบที่เก้าย่อมรู้ซึ้งดีว่าคู่ต่อสู้แต่ละคนมันสร้างปัญหาใหญ่ยิ่งใหญ่เพียงใด

อาจกล่าวได้ว่า ยิ่งเข้ารอบลึกเท่าใด ความยากยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

ความเหลื่อมล้ำระหว่างพลังเป็นช่องว่างที่ใหญ่เกินทดแทน!

ทุกครั้งที่เย่หยวนฝ่าฟันไปได้รอบหนึ่ง เสมือนกับมีหุบเขาไท่ซานยักษ์กดทับหัวใจเขารุนแรงขึ้น

ตอนนี้เขารู้สึกดียิ่งกว่าอะไร!

เมื่อเห็นเย่หยวนพ่ายแพ้ลงในที่สุด ติงฟานก็อดถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอกมิได้

แต่ในไม่ช้า สีหน้าการแสดงออกของพวกเขาทั้งหมดพลันแข็งค้างไปทั้งแบบนั้น

“นี่…นี่เป็นไปได้อย่างไร?”

ปาถู่ตื่นตระหนกเอ่ยอุทานลั่น

ท่ามกลางทุกสายตาที่จับจ้อง ภายในภาพฉากปรากฏเป็นภาพฉากที่หญิงสาวนางนั้นค่อยๆสลายหายไป ปรากฏว่านางถูกฆ่าก่อน!

“ก็…ก็เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวนางนั้นชนะมิใช่รึ? ไฉน…ไม่สิ…นางถูกฆ่าตั้งแต่ตอนไหน?”

ติงฟานเอ่ยกล่าวพร้อมท่าทีสุดมึนงง

หญิงสาวนางนั้น กายาค่อยๆสลายหายไป แต่ยามนี้กลับเหลียวมองเย่หยวนด้วยความตกใจยิ่งกว่าอะไร

“เจ้ามันบ้าบิ่นเกินไป!”

หญิงสาวเอ่ยกล่าวน้ำเสียงเย็นดังลั่น

สภาพของเย่หยวนในขณะนี้ค่อนข้างน่าสังเวชนัก ถึงแม้นจะโคจรพลังปราณเพื่อฟื้นฟูร่างกายด้วยวรยุทธมังกรทรราชจุติไปแล้ว ทว่าความเร็วในการฟื้นฟูยามนี้กลับไม่สามารถตอบสนองอาการบาดเจ็บจากแนวคิดที่ทรุดตัวลงเรื่อยๆได้

ได้ฟังหญิงสาวเอ่ยกล่าวเช่นนั้น เย่หยวนคลี่ยิ้มอย่างยากลำบากพลางกล่าวขึ้นว่า

“แต่ข้าก็ชนะมิใช่รึ? ยิ่งกว่านั้น…ข้ายังเข้าใจแล้ว!”

ก่อนหน้านี้ ขณะที่เย่หยวนถูกต้อนหนักจนมุม กล่าวได้ว่าเย่หยวนรีดเร้นศักยภาพของตนเองจนถึงขีดจำกัด นั้นส่งผลให้เย่หยวนบรรลุแนวแห่งห้วงมิติชั้นสวรรค์ระดับหนึ่งขั้นสุดได้!

เย่หยวนสามารถทะลวงผ่านเขตแดนน้ำแข็งของหญิงสาวนางนั้นและเข้าสังหารนางได้ก่อน

อย่างไรก็ตาม ปราณดาบเหมันต์พิสุทธิ์ของนางก็หาใช่สิ่งของแสดงไม่ ภายใต้รัศมีโจมตี มันสร้างทะลวงผ่านช่องท้องของเย่หยวนจนเป็นรูโหว่ได้ในพริบตา

ผลสุดท้ายคือ เย่หยวนได้รับบาดเจ็บสาหัสในขณะที่หญิงสาวนางนั้นตาย!

ดวงเนตรไสวงามของหญิงสาวผู้แสนเย็นชากะพริบเล็กน้อย ก่อนที่นางจะเอ่ยขึ้นว่า

“เจ้าชนะแล้ว! ผ่านเข้ารอบต่อไปได้! ในเมื่อเจ้าสามารถเข้าใจแนวคิดแห่งห้วงมิติได้ถึงระดับนี้ คู่ต่อสู้ในรอบหลังจากนี้ก็หาใช่คู่มือเจ้าอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม…เจิ้งเจี้ยนในรอบสุดท้ายได้ชื่อว่าเป็น ยอดอัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของนิกายบัลลังก์ม่วง เจ้าต้องระวังตัวให้ดี! ฟังว่ามันบ้าระห่ำไม่ต่างจากเจ้า!”

สีหน้าการแสดงออกของเย่หยวนเปลี่ยนไปในทันใด การที่จะทำให้หญิงสาวยอดอัจฉริยะผู้แสนเย็นชานางนี้หวาดหวั่นได้ นับว่าหาได้ยิ่งยาก

สิ่งหนึ่งที่ควรทราบคือ พรสวรรค์ของหญิงสาวนางนี้ ทอดสายตาทั่วทั้งมหาพิภพก็หาได้ยากยิ่ง

ความสามารถในการหลอมผสานเต๋าดาบกับแนวคิดแห่งน้ำแข็งจนบรรลุชั้นสวรรค์ระดับสามได้ขนาดนี้ หาใช่สิ่งที่คนทั่วไปหรือแม้แต่อัจฉริยะจะทำได้

หลังจากที่เย่หยวนก้าวเข้าสู่มหาพิภพถงเทียนแห่งนี้ บุคคลที่เรียกได้ว่าอัจฉริยะจริงๆ กล่าวได้ว่าเขาเพิ่งพบเจอมาแค่ไม่กี่คนเท่านั้น แต่เขาก็ไม่เคยพบใครที่สามารถหลอมรวมพลังแห่งแนวคิดได้มาก่อน

ในบรรดาผู้คนที่ร่วมเดินทางเข้ามาทดสอบในครั้งนี้ เย่หยวนไม่รู้ว่ามีใครสามารถหลอมรวมแนวคิดได้บ้าง แต่เขาเองก็คิดว่าไม่มีใครสามารถผ่านมาถึงรอบสิบสามได้แน่นอน

ดูเหมือนว่าตอนนี้ เย่หยวนจำต้องระวังคนที่ชื่อว่าเจิ้งเจี้ยนไว้เล็กน้อย

เย่หยวนพยักหน้าพร้อมผสานมือกล่าวว่า

“ขอบคุณมาก ข้าจะระวังตัว!”

หญิงสาวผู้แสนเย็นชาพยักหน้าตอบเล็กน้อย ก่อนจะส่งตัวเย่หยวนออกไปโดยตรง ภายในค่ายกลพักฟื้นนี้ ทั้งอาการบาดเจ็บและพลังปราณเทวะของเย่หยวนกำลังฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

“ช่างเป็นค่ายกลที่ทรงพลังโดยแท้! แท้ที่จริงแล้วมันฟื้นฟูได้เร็วเสียยิ่งกว่าโอสถเสียอีก! ความแข็งแกร่งของนิกายบัลลังก์ม่วงในยุคนั้นคงหาใช่กลุ่มอิทธิพลธรรมดาไม่!”

เมื่อสัมผัสได้ถึงความเร็วในการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ เย่หยวนก็เอ่ยชื่นชมอย่างตื่นอกตื่นเต้น

“สำแดงใช้ดับเงาสยบมารควบคู่ไปกับแนวคิดแห่งห้วงมิติเช่นนี้ กล่าวได้ว่ามันก็หาใช่เพลงดาบดับเงาสยบมารได้อีกต่อไป เช่นนั้นควรเรียกมันว่าอะไรดี? อืม…ทิศทางการเคลื่อนไหวอันลึกลับของมันมิอาจคาดเดาได้โดยง่าย คู่ต่อสู้ไม่สามารถจับทางสกัดต้านรับ เช่นนั้น…ไฉนไม่เรียกมันว่า‘เพลงดาบเมฆาลับแล’ล่ะ!”

เย่หยวนเอ่ยพึมพำกับตนเอง

ปัจจุบัน เพลงดาบของเย่หยวนมีพลังแห่งแนวคิดหลอมรวมอยู่ค่อนข้างน้อย

กระบวนดาบอย่างดับเงาสยบมารที่หลอมรวมเข้ากับแนวคิดแห่งห้วงมิติ ทำให้กลิ่นอายเอกลักษณะดั้งเดิมของมันแปรเปลี่ยนไป

นี่เป็นการหลอมรวมสองแนวคิดระดับสูงอย่างเต๋าดาบและแนวคิดแห่งห้วงมิติ ซึ่งคล้ายคลึงกับปราณดาบเหมันต์พิสุทธิ์ของหญิงสาวนางนั้น

การเสริมพลังด้วยแนวคิดแห่งห้วงมิติทำให้เพลงดาบของเย่หยวนลึกซึ้งและยากจะเข้าถึงยิ่งขึ้น

มันแตกต่างไปจากดับเงาสยบมารแบบดั้งเดิมโดยสิ้นเชิง ดังนั้นแล้วเย่หยวนจึงตั้งชื่อให้ใหม่ว่า‘เพลงดาบเมฆาลับแล’จึงน่าจะเหมาะสมกว่า

…………………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด