Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1540 เคล็ดเพลิงปะทุ!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1540 เคล็ดเพลิงปะทุ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ฟู่วว…ผลึกปราณเทวะแปดล้านก้อน นี่…นี่มันปล้นกันชัดๆ!”

“บ้า นี่มันบ้ากันไปใหญ่แล้ว! โอสถหนึ่งเม็ดราคาแปดล้านผลึกปราณเทวะ! เจ้าเด็กนี้มันหน้าเงินเกินไป!”

“ราคาเรียกร้องสูงลิบลิ่วปานนี้ จำต้องมีทุนรอนความสามารถในการร้องขอเช่นกัน!”

ราคาที่เย่หยวนเสนอออกมาต่างทำให้ทุกคนระเบิดความโกลาหลขึ้นทันที

สำหรับโอสถแค่เม็ดเดียวราคาแปดล้าน นี่ยังไม่รวมค่าสมุนไพรวิญญาณด้วยซ้ำ

ราคาแพงเสียดฟ้าโดยแท้!

ทั่วทั้งเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์แห่งนี้แทบไม่มีโอสถชนิดใดราคาแปดล้านมาก่อน

เด็กคนนี้มันหน้าเงินเกินไป!

มุมปากของหนิงซื่ออวี๋พลันกระตุกอย่างแรง นางกล่าวว่า

“หากเจ้าสามารถหลอมกลั่นได้จริง ราคาแปดล้านยังนับเป็นอันใด? แต่ข้ามีคำขอต่อหน้าทุกคนเป็นพยาน!”

นางไม่เชื่อว่าเย่หยวนจะสามารถหลอมกลั่นโอสถขั้นเทวะได้จริงๆ

บางสิ่งที่แม้แต่ท่านอาจารย์ของนางก็ยังหลอมกลั่นมิได้ แล้วเย่หยวนจะสามารถทำได้อย่างไร?

ยิ่งไปกว่านั้น ความยากในการหลอมกลั่นโอสถประตูศิลาวายุยังยากเสียยิ่งกว่าโอสถฤทัยปราณสวรรค์ไม่รู้กี่เท่า!

ต่อให้เป็นท่านอาจารย์ของนาง โอกาสหลอมกลั่นสำเร็จยังมีน้อยมาก!

เย่หยวนพยักหน้าและกล่าวตัดบททันทีว่า

“อยากจะดูข้าหลอมกลั่นโอสถกระมัง? พาพวกเขาเข้ามาให้หมดเลย”

หนิงซื่ออวี๋ผงะเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น ก่อนจะเร่งเดินตามเย่หยวนเข้าไปทันทีอย่างหงุดหงิดใจ ซึ่งคนอื่นๆเองต่างสบสายตากันไปมาก่อนเดินติดตามเข้าไปเป็นขบวน

เนื่องจากร้านค้าโอสถมิได้ใหญ่โต ห้องหลอมกลั่นของเย่หยวนยิ่งมิได้หรูหราขนาดนั้น และเป็นเพราะผู้คนเข้ามาเฝ้าดูกันไปเป็นจำนวน จึงทำให้ห้องนี้ดูแคบลงถนัดตา

ผู้คนเหล่านี้ต่างชะโงกหน้ายื่นศีรษะเข้าดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น

เมื่อหนิงซื่ออวี๋กวาดสายตามองห้องหลอมกลั่นที่แสนเรียบง่ายและไม่มีอะไรพิเศษเลยเช่นนี้ นางก็พลันกลอกตาเจือสีหน้าดูถูกออกมา

สถานที่โทรมๆเช่นนี้รึจะเป็นแห่งกำเนิดของยอดนักหลอมโอสถ?

สิ่งที่เย่หยวนใช้คือหม้อหลอมระดับสมบัตินภาสวรรค์เลิศล้ำ เนื่องจากหม้อหลอมมณีเหลืองพิสุทธิ์เป็นของเผ่าปีศาจจึงไม่สามารถนำออกมาใช้ต่อหน้าทุกคนได้

นับว่าโชคดีนัก หลังจากที่เย่หยวนเสาะค้นสำรวจในโถงบัลลังก์ม่วงเป็นเวลานาน เขาก็ค้นพบหม้อหลอมโอสถอยู่บ้าง

โอสถประตูศิลาวายุชนิดนี้ แม้แต่หวูเฉินผู้เจนจัดด้านโอสถยังบอกว่าไม่มีสูตรโอสถอยู่ในครอบครองเช่นกัน ดังนั้นนี่จึงเป็นครั้งแรกที่เย่หยวนหลอมกลั่น

คล้อยหลังเตรียมการเสร็จสิ้น เย่หยวนก็เริ่มนั่งสมาธิสรุปสูตรโอสถทั้งหมดลงในหัว

สมุนไพรวิญญาณที่หนิงซื่ออวี๋เตรียมไว้ให้เพียงพอสำหรับหลอมกลั่นสองครั้ง นี่นับเป็นเรื่องยากเล็กน้อยที่จะหลอมกลั่นให้สำเร็จได้ภายในสองครั้ง

แน่นอนว่ากับคนอื่นมันแทบเป็นไปไม่ได้

หนิงซื่ออวี๋จ้องมองเย่หยวนด้วยสายตาแสนดูถูกยิ่ง ชายคนนี้มันก็แค่พวกกขี้โม้แน่นอน!

ภายในห้องนี้เปี่ยมล้นไปด้วยผู้คน การจะทำสมาธิในสถานที่เช่นนี้จะทำได้จริงๆงั้นรึ?

นี่มันมือสมัครเล่นขนาดนั้นเชียว?

หากไอ้เด็กเหลือขอคนนี้สามารถสรุปทวนสูตรโอสถภายใต้สภาวะเช่นนี้ได้จริงๆ มันจะน่าทึ่งเกินไปแล้ว!

หนิงซื่ออวี๋เม้มปากเล็กน้อย พลางเอ่ยขึ้นอย่างหยามเหยียดว่า

“จะทำอะไรก็ทำไปเถิด! ข้าอยากจะเห็นเหลือเกินว่าเจ้าจะความแตกตอนไหน!”

ตอนนี้นางได้ตัดสินเย่หยวนไปแล้วว่า เขาเป็นแค่คนธรรมดาที่มีดีแต่พูดเท่านั้น!

สำหรับโอสถก่อนหน้า มันอาจถูกขโมยมาจากที่ไหนสักแห่ง!

ประมาณหนึ่งชั่วยามต่อมา เย่หยวนค่อยๆลืมตาขึ้นพร้อมลุกตรงไปที่หม้อหลอม

ทุกคนพลันกลั้นหายใจปิดปากเงียบงัน รอให้เย่หยวนหลอมกลั่น!

ฝ่ามือเย่หยวนสั่นไสวเล็กน้อย พร้อมเริ่มสกัดหัวเชื้อทันที!

สมุนไพรวิญญาณส่วนที่เกินออกมา เย่หยวนสะบัดส่งลงไปยังภาชนะอีกโต๊ะหนึ่งทันที

ในไม่ช้าหัวเชื้อทั้งหมดก็ถูกสกัดออกมา

กระบวนการทั้งหมดเสร็จสิ้นอย่างราบรื่นในคราวเดียว

แววประหลาดใจพลันฉายออกมาจากนัยน์ตาของหนิงซื่ออวี๋ วิธีการของเย่หยวนทำให้นางประหลาดใจอย่างมาก

แต่หัวเชื้อที่สกัดลวกๆเช่นนี้จะมีประสิทธิภาพจริงๆงั้นรึ?

แค่สะบัดมือไปมาเล็กน้อยก็ทำได้แล้ว?

การสกัดตัวเชื้อมิได้นับว่าเป็นทักษะที่น่าประทับใจอันใดนัก

แต่หัวเชื้ออันแสนป่นปี้ของเย่หยวน มันแตกต่างจากของจอมเทพโอสถทั่วไป

นี่เขา…หลอมกลั่นโอสถเป็นจริงๆรึเปล่า?

ไร้สาระ!

ทุกขั้นตอนการหลอมกลั่นต้องเป็นไปตามตำราอย่างเคร่งครัด หาใช่สักแต่จะทำเองตามใจชอบ?

“เหอะ หลอกลวงผู้คนต่อไปเถอะ!”

หนิงซื่ออวี๋สบถดังพร้อมสีหน้าแสนดูถูก

เมื่อเย่หยวนยื่นฝ่ามือออกมา เปลวไฟสีขาวซีดพลันปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเขา

“โง่เง่าสิ้นดี ไฟศักดิ์สิทธิ์ระดับสอง? คิดจะใช้ของแบบนั้นหลอมกลั่นโอสถประตูศิลาวายุ? ไม่ไร้สาระเกินไปหน่อยรึ?”

เมื่อเห็นเพลิงบัวฟ้าขจัดจันทร์ขาวของเย่หยวน หนิงซื่ออว็พลันหัวเราะเยาะออกมาทันที

ไฟศักดิ์สิทธิ์ระดับสอง ทั้งคุณสมบัติในด้านอุณหภูมิและความเสถียร มันไม่มีทางใช้หลอมกลั่นโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสามได้เลย

ยิ่งเป็นโอสถประตูศิลาวายุ จำต้องให้ไฟที่มีอุณหภูมิสูงเป็นพิเศษ

สำหรับการหยิบใช้ไฟศักดิ์สิทธิ์ระดับสองในการหลอมกลั่นโอสถปรตูศิลาวายุ ถือเป็นเพียงเรื่องโง่เง่าสิ้นดี!

ภายใต้การเลี้ยงดูอย่างดีของเย่หยวน ในที่สุดก็ทำให้เพลิงบัวฟ้าขจัดจันทร์ขาวของเขาทะลวงขึ้นกลายเป็นไฟศักดิ์สิทธิ์ระดับสองได้สำเร็จ

เพียงว่าความเร็วในการพัฒนาของเพลิงบัวฟ้าขจัดจันทร์ขาวกลับไม่สามารถไล่ตามพัฒนาการของเย่หยวนได้ทันเท่านั้นเอง

ฝ่ามือเย่หยวนสั่นกระตุกเล็กน้อย เพลิงบัวฟ้าขจัดจันทร์ขาวเริ่มหลั่งไหลสู่หม้อหลอมโอสถ

ปุ๋ปุ๋ปุ๋…

ทันทีทันใดเพลิงบัวฟ้าขจัดจันทร์พลันเปล่งแสงประกายออกมา

อุณหภูมิภายในหม้อหลอมโอสถพุ่งสูงขึ้นในทันที!

เคล็ดเพลิงปะทุ!

อุณหภูมิที่แผดเผาสูงขึ้นถึงขีดสุดนี้ ทำให้สีหน้าการแสดงออกของแต่คนละเปลี่ยนไปทันที

“นี่…นี่เป็นไฟศักดิ์สิทธิ์ระดับสองจริงๆงั้นรึ? ไฉนถึงมีอุณหภูมิที่น่าสะพรึงปานนี้?”

“ระดับอุณหภูมิขนาดนี้เทียบเคียงได้กับไฟศักดิ์สิทธิ์ระดับสามเลยกระมัง?”

“ไฟศักดิ์สิทธิ์ระดับสองที่มีอานุภาพเทียบเท่าระดับสาม? นี่มันเรื่องตลกอันใด?”

คลื่นเสียงอุทานกึกก้องดังลั่นจากฝูงชน ส่วนหนิงซื่อวี๋ยามนี้ใบหน้าแข็งค้างไปครู่ใหญ่

แม้อุณหภูมิจะสูงไม่เท่าไฟศักดิ์สิทธิ์ระดับสามขนานแท้ แต่นี่ก็นับว่าใกล้เคียงมาก

ไอ้เด็กเหลือขอนี่ทำได้อย่างไร?

เย่หยวนเพียงหยิบใช้เคล็ดเพลิงปะทุ เพื่อชดเชยพลังไฟที่อ่อนด้อยเกินไป

เย่หยวนปล่อยให้ต้นกล้าแห่งเพลิงควบแน่นจนระเบิดปะทุออกมา และควบคุมอุณหภูมิที่สูงขึ้นฉับพลันให้เสถียรได้ ก่อนจะระดมหลอมให้กลายเป็นหนึ่ง

นี่เป็นวิธีแก้ไขที่เย่หยวนต้องใช้อย่างช่วยไม่ได้ แต่ในแง่มุมของทุกคน กลับเป็นภาพฉากที่มหัศจรรย์นัก

ดวงตาของหนิงซื่ออวี๋เปล่งประกายขึ้นทันที ก่อนจะค้นพบบางสิ่งอย่างได้ในทันที

การจะควบคัมต้นกล้าแห่งเพลิงที่ระเบิดออกมาให้เสถียรได้ขนาดนี้…นับว่าต้องใช้พลังสมาธิที่น่ากลัวมาก!

ทักษะการควบคุมไฟของไอ้เด็กเหลือขอเชี่ยวชาญถึงจึดสุดยอดแล้ว!

เพียงว่า…เขายังเหลือพลังสมาธิเพียงพอสำหรับหลอมกลั่นโอสถต่อจากนี้หรือไม่?

การควบคุมอุณหภูมิของไฟและการควบคุมกรรมวิธีหลอมกลั่น นับเป็นสองส่วนที่ต้องทำแยกกัน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า วิธีการควบคุมไฟของเย่หยวนจำต้องใช้พลังสมาธิมหาศาลยิ่ง เช่นนี้แล้วยังจะเหลืออะไรไปหลอมกลั่นโอสถต่อ?

รอยยิ้มแสยะยิ้มแสนยินดีปรีใจพลันปรากฏที่ขึ้นมุมปากของหนิงซื่ออวี๋ ทักษะการควบคุมไฟไม่เลว แต่นี่กลับเป็นปัญหาตอนหลอมกลั่น!

แต่ในไม่ช้า รอยยิ้มของนางพลันแข็งค้างทันทีบนใบหน้า

ภายในห้องหลอมกลั่น บรรยายการกลับแปรเปลี่ยนไปสุดน่าฉงน

กลิ่นอายแห่งบรรพกาลแผ่กระจายออกมา ราวกับทำให้ผู้คนมึนเมาชั่วขณะและไม่สามารถถอนสายตาจากเย่หยวนได้เลย

“เคล็ดดาราสวรรค์บัญชาสารทิศ!”

เย่หยวนเค้นเสียงแหบตะโกนกึกก้องออกมา ทันทีทันใดรัศมีกลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกจากร่างกลับดูยิ่งใหญ่ประดุจหุบเขาไท่ซานไร้สะทกสะท้านต่อสรรพสิ่ง

ดวงตาของหนิงซื่ออวี๋ราวกับปรากฏเมฆหมอกปกคลุม ยามนี้รุ่มหลงไปกับวรยุทธหลอมกลั่นของเย่หยวนไปแล้ว

ส่วนคนอื่นๆเองต่างจับจ้องไม่วางตาราวกับถูกมนต์สะกด!

ภายในห้องหลอมกลั่นแห่งนี้ กลิ่นอายของเต๋าโอสถและดวงดาราแผ่ซ่านไปทั่ว!

เคล็ดดาราสวรรค์บัญชาสารทิศ เป็นวรยุทธหลอมกลั่นที่เย่หยวนพัฒนาขึ้นมาเอง นอกจากนี้ยังมีเต๋าโอสถเป็นส่วนประกอบสำคัญ

หากทักษะการหลอมกลั่นโอสถของเย่หยวนในอดีต สมัยที่อยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เป็นเพียงต้นกล้าอ่อนรอวันเจริญเติบโต ทักษะของเขาในปัจจุบันก็คือต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านไพศาลและแข็งแกร่งยิ่ง!

…………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด