Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ 1561 เหนือกว่าขั้นเทวะ!

Now you are reading Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ Chapter 1561 เหนือกว่าขั้นเทวะ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เหอะ ปากเก่งจริงๆ! กล่าวราวกับว่ายังมีระดับที่เหนือกว่าขั้นเทวะ! ไร้สาระสิ้นดี! เช่นนั้นข้าก็อยากเห็นเช่นกันว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้าของเจ้ามันเป็นอย่างไร!”

ศิษย์พี่ใหญ่เอ่ยตอบเสียงเยียบเย็น เหลือบมองเย่หยวนด้วยสายตารังเกียจยิ่ง

เย่หยวนยิ้มและกล่าวว่า

“เช่นนั้นก็จงเบิกตาดูให้ดี”

เมื่อเย่หยวนเริ่มหลอมกลั่นโอสถ แม้แต่ซวนอี้เองยังแสดงสีหน้าเคร่งขรึมจับจ้องไม่วางตา

นับตั้งแต่ที่เขารู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้บรรลุถึงขอบเขตแห่งเต๋าได้แล้ว ซวนอี้ก็ตื่นเต้นถึงขั้นนอนไม่หลับหวังจะเห็นอีกฝ่ายหลอมกลั่นกับตาตนเอง

ในที่สุดวันนี้เขาก็ได้สมความปรารถนาเสียที

ในขณะเดียวกัน ไฟศักดิ์สิทธิ์แผ่ซ่าน กลิ่นอายแห่งเต๋าแผ่กระจายไปทั่วห้องหลอมกลั่น

สีหน้าการแสดงออกของศิษย์พี่ทั้งสี่แปรเปลี่ยนไปอย่างมาก ยามนี้เผยปรากฏล้นความแตกตื่นใจ

ขุมพลังอัศจรรย์เช่นนี้ แม้แต่ท่านอาจารย์ของพวกเขาก็ยังไม่เคยปลดปล่อยออกมาได้

ความยากในการหลอมกลั่นโอสถดาราจันทร์เงินนับว่าระดับชั้นปฐมพื้นฐานเกินไปสำหรับเย่หยวน เขาไม่จำต้องใช้ความพยายามอันใดมากนัก

เวลาหลอมกลั่นค่อยๆผ่านพ้นไป

ชั่วพริบตาหนึ่งชั่วยามพ้นผ่าน ท่ามกลางสายตาสุดตื่นตะลึงของทุกคน ในที่สุดเย่หยวนก็หลอมกลั่นเสร็จสิ้น

ซวนอี้เลิกคิ้วดูคล้ายมึนงงอยู่หลายส่วน

ในขณะที่ศิษย์พี่ทั้งสี่ที่เฝ้ามองไม่ห่างตา ยามนี้ล้วนแต่การันตีผลลัพธ์ในใจแล้วว่า คุณภาพโอสถที่เด็กคนนี้หลอมกลั่นได้คงไม่ต่ำกว่าของท่านอาจารย์พวกเขาแน่นอน!

เห็นเพียงแค่นี้ก็ทำให้พวกเขาทั้งสี่ตระหนักได้แล้วว่า พวกเขายังคงห่างชั้นกับเด็กคนนี้มากนัก

แม้ว่าศิษย์พี่ใหญ่และศิษย์พี่สองจะเป็นจอมเทพโอสถสี่ดาวแล้ว แต่การหลอมกลั่นโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสามให้ได้ขั้นเทวะ ถือว่าได้แต่ฝันไปเท่านั้น

สิ่งที่พวกเขาประหลาดใจที่สุดคือ เย่หยวนเป็นเพียงเซียนอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าชั้นต้นเท่านั้น แต่ไฉนการหลอมกลั่นของเขาถึงได้สมบูรณ์แบบปานนี้?

“เป็นอย่างไรบ้างศิษย์พี่ใหญ่? ตอนนีเชื่อหรือยัง?”

ทันทีทันใด สุ้มเสียงของหนิงซื่ออวี๋พลันดังขึ้นข้างหูของเขา ทำให้ศิษย์พี่ใหญ่สะดุ้งโหย่งได้สติขึ้นมา

ศิษย์พี่ใหญ่ตะคอกส่วนกลับไปว่า

“เด็กคนนี้…แข็งแกร่งอย่างมากก็จริง แต่…ระดับชั้นคงไม่มีทางเหนือไปกว่าขั้นเทวะของท่านอาจารย์แน่นอน! ในแง่มุมของข้า อย่างมากก็ขั้นสวรรค์เองกระมัง!”

หนิงซื่ออวี๋กลล่าวตอบขึ้นมาว่า

“ผ่อนคลาย ท่านปรมาจารย์เย่จะหลอมกลั่นได้ข้เทวะอย่างไม่ต้องสงสัย!”

นางเคยเห็นเย่หยวนหลอมกลั่นโอสถประตูศิลาวายุกับตา จึงทราบดีว่าแค่โอสถดาราจันทร์เงิน อีกฝ่ายยังมิได้เอาจริงด้วยซ้ำ

นางทราบถึงขั้นว่า ตอนที่เย่หยวนเอาจริงชนิดที่ไม่รั้นรอนฝีมือ คงเป็นตอนที่เขาหลอมกลั่นโอสถชำระไขกระดูกสวรรค์

และในเมื่อเย่หยวนไม่จำต้องเอาจริงด้วยซ้ำกับการหลอมกลั่นครั้ง นี่ก็สามารถบอกได้ว่า เขามีความมั่นใจขนาดไหน

อย่างไรก็ตาม ศิษย์พี่ใหญ่ยังคงเค้นเสียงเย็นเอ่ยหยามเหยียดขึ้นว่า

“หึ! เจ้าคิดว่าโอสถขั้นเทวะมันหลอมกลั่นง่ายดั่งกะหล่ำปลีกระมัง? แม้ว่าเขาจะหลอมกลั่นได้ขั้นเทวะจริงๆ แต่มันก็ไม่มีทางเหนือไปกว่าท่านอาจารย์!”

“เช่นนั้นรึ?”

เย่หยวนคลี่ยิ้มเล็กน้อย ฝ่ามือสั่นกระตุกวูบหนึ่ง ปรากฏเม็ดโอสถลอยออกมาจากหม้อหลอม

ทุกคนต่างขยับขยายสายตาจับจ้องทันทีโดยมิตั้งใจ

ปรากฏว่าเป็นโอสถดาราจันทร์เงินขั้นเทวะเช่นกัน!

“เหอะ อย่างที่ข้ากล่าวไปไม่ผิดเพี้ยน อย่างท่านปรมาจารย์เย่หรือจะหลอมกลั่นไม่ได้ขั้นนี้?”

หนิงซื่ออวี๋หยักไหล่ตอบ

ศิษย์พี่ใหญ่เม้มปาก ยังคงกล่าวเถียงออกไปว่า

“แม้จะเป็นขั้นเทวะเช่นกัน แต่อย่างมากก็เทียบกับของท่านอาจารย์ ไอ้เด็กเหลือขอนี่แพ้!”

ซวนอวี้กลอกตาไปมาด้วยความรำคาญ ก่อนกล่าวขึ้นว่า

“เจ้าศิษย์คนนี้! หุบปาก! รอบนี้กลับเป็นอาจารย์ผู้นี้ที่พ่ายให้แก่ปรมาจารย์เย่ โอสถดาราจันทร์เงินของปรมาจารย์เย่บรรลุถึงชั้นเทวะโมฆะ!”

สายตาที่จับจ้องของศิษย์พี่ใหญ่แปรเปลี่ยนไปทันใด อุทานคำลั่นเจือเหลือเชื่อว่า                 “ท่านอาจารย์ล้อเล่นกระมัง? ยังมีใคร…มีใครสามารถไปถึงขั้นเทวะโมฆะได้อีกงั้นรึ?”

ซวนอี้ตะคอกสวนกลับไปทันที

“ก็ใช่ไง! มิฉะนั้นข้าจะเรียกพวกเจ้าให้มาดูทำไม!”

ขั้นเทวะกลับมิใช่จุดสิ้นสุดที่แท้จริง

ในบรรดาโอสถขั้นเทวะด้วยกันยังสามารถแบ่งได้อีกห้าระดับชั้นคุณภาพ!

ขั้นเทวะม่วง ขั้นเทวะโมฆะ ขั้นเทวะวิญญาณไพศาล ขั้นเทวะวิญญาณมรณา และสุดท้ายคือขั้นเทวะตำนาน!

แน่นอนว่ายิ่งคุณภาพโอสถสูงขึ้นเท่าไหร่ ความบริสุทธิ์ก็ยิ่งสูงขึ้นตามไปเท่านั้น

ช่องว่างระหว่างห้าระดับชั้นคุณภาพนี้ยิ่งใหญ่ดั่งฟ้าดิน และแต่ละระดับชั้นประสิทธิภาพของโอสถแตกต่างกันหลายสิบเท่าทวี!

โอสถขั้นเทวะเป็นเพียงเกณฑ์ความบริสุทธิ์ที่สูงจนสามารถให้กำเนิดความสามารถพิเศษแฝงในเม็ดโอสถนั้นได้

แต่ขีดจำกัดที่แท้จริงของศาสตร์แห่งโอสถกลับสูงล้ำเกินจินตนาการไปแล้ว

ว่ากันว่าเหนือขีดจำกัดยังมีช่องว่างสำหรับพัฒนาต่อยอดขึ้นไปได้อีก

เพียงว่าการจะพัฒนาต่อจากขั้นเทวะให้สูงขึ้นไปอีกกลับเป็นเรื่องยากเกินพรรณนาได้

ด้วยระดับชั้นของศิษย์พี่ใหญ่การจะหลอมกลั่นโอสถศักดิ์สิทธิ์สามดาวหาใช่เรื่องยากเกินไปเช่นกัน หากบังเอิญหรือโชคดีจริงๆ อาจมีบ้างที่หลอมกลั่นได้ขั้นเทวะ แต่นั่นก็เป็นแค่ขั้นเทวะม่วงที่เป็นระดับชั้นธรรมดาที่สุด

สำหรับขั้นเทวะโมฆะกลับเป็นเรื่องเกินจินตนาการมากไปแล้ว!

อย่างไรก็ตาม เย่หยวนที่เป็นแค่จอมเทพโอสถสามดาว เขากลับสามารถหลอมกลั่นขั้นเทวะโมฆะได้แล้วจริงๆ!

นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!

ซวนอี้วางโอสถทั้งสองเม็ดเทียบกันชัดๆและกล่าวกับศิษย์ทั้งสี่ของตนว่า

“เช่นนั้นพวกเจ้าก็จงดูด้วยตาตนเอง เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างโอสถทั้งสองเม็ด!”

ศิษย์พี่ใหญ่ขยับขยายสายตาจับจ้องเขม็งไปมา ก่อนอุทานลั่นว่า

“จริงๆด้วย…โอสถของท่านอาจารย์ดูด้อยกว่าเล็กน้อย น่าเสียดายอีกนิดเดียวก็จะบรรลุถึงขั้นเทวะโมฆะได้แล้ว!”

ศิษย์พี่ใหญ่มุ่งเป้าความสนใจไปกับการเปรียบเทียบโอสถทั้งสองเม็ดจนลืมสรรพสิ่งรอบตัวไปโดยชั่วขณะ

นั้นเป็นโอสถชั้นเทวะโมฆะจริงๆ! นี่มันโอสถระดับตำนาน!

เย่หยวนยิ้มและกล่าวว่า

“ท่านอาวุโสซวนอี้ เช่นนั้นเริ่มรอบต่อไปกันเถอะ!”

ซวนอี้พยักหน้ากล่าวว่า

“เช่นนั้นข้าเริ่มก่อน!”

บรรดาศิษย์พี่ทั้งสี่เพิ่งได้สติกันพลับมา ศิษย์พี่ใหญ่เม้มปากแน่นกล่าวว่า

“โอสถชนิดหลังๆ มีแต่จะยากและซับซ้อนขึ้น ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าหนุ่มนี่จะสามารถเอาชนะท่านอาจารย์ได้ทุดรอบ! คราวนี้เตรียมโขกศีรษะขอขมาได้เลย!”

แต่เมื่อเวลาผ่านพ้นไป สีหน้าการแสดงออกของพวกเขาก็ยิ่งตื่นตะใจมากขึ้นเรื่อยๆ

ยิ่งเวลาผ่านไป ฝีไม้ลายมือของเย่หยวนก็นิ่งผงาดง้ำน่าเกรงขามเกินจินตนาการ

หลังจากประสบความยากลำบากในการหลอมกลั่นโอสถหนักขึ้นเรื่อยๆ ซวนอี้ที่มาถึงรอบที่สามในที่สุด เขาก็ไม่สามารถหลอมกลั่นโอสถได้ขั้นเทวะอีกต่อไป

ในขณะที่เย่หยวนยังคงหลอมกลั่นได้ขั้นเทวะอย่างต่อเนื่อง!

“นี่…นี่มันเกินความเข้าใจข้าไปแล้ว! ยิ่งโอสถหลอมกลั่นได้ยากเท่าไหร่ เจ้าหนุ่มนี้กลับหลอมกลั่นได้คุณภาพสูงขึ้น! ไฉนเขาถึงทำได้ขนาดนี้?”

ศิษย์พี่ใหญ่ร้องอุทานขึ้นเจือน้ำเสียงตื่นตะลึงสุดหัวใจ

“ถูกต้อง! เขาคนนี้ยังใช่มนุษย์อย่างเราๆรึเปล่า?!”

ศิษย์พี่สองติงซุนอุทานลือลั่น

“กล่าวได้ว่าขุมพลังที่แท้จริงของเขาเหนือกว่าโอสถเหล่านี้หลายขุม เขาถึงสามารถรีดเร้นประสิทธิภาพโอสถออกมาได้จนถึงขีดสุดทุกเม็ด! ความเข้าใจของเขาบรรลุถึงขอบเขตใดแล้วกันแน่?”

การหลอมกลั่นโอสถของเย่หยวนล้วนแต่ทำให้ผู้คนที่เห็นรู้สึกสิ้นหวัง

พวกเขาไม่เคยคิดฝันมาก่อนสักนิดว่า การหลอมกลั่นโอสถขั้นเทวะจะง่ายปานกินดื่มเช่นนี้!

ไม่นานรอบที่ห้าก็จบลง เม็ดโอสถของเย่หยวนพุ่งออกมาจากเต๋า

ยังคงเป็นขั้นเทวะ!

ในที่สุดสายตาที่จับจ้องของซวนอวี้พลันดูจริงจังขึ้นถนัดตา ในที่สุดเขาก็ตระหนักได้แล้วว่า ตั้งแต่รอบแรกเย่หยวนยังไม่เริ่มเอาจริงเลย!

ความน่าทึ่งของขอบเขตแห่งเต๋าน่ากลัวเกินไป!

บูมมม!

ทันทีทันใด ทุกคนต่างตื่นตะลึงยิ่ง จู่ๆ ประตูด้านนอกร้านก็ถูกพังยับ!

“ไอ้บัดซบเย่หยวน! เตรียมตัวตายได้! หากยังมียอดเซียนอาณาจักรราชันพระเจ้าคนใดกล้าเข้าแทรกแซง ข้าจะส่งมันไปให้หอยุทธ์ทั้งหมด! และเตรียมรับโทษประหารได้เลย!”

ด้านนอกประตู สุ้มเสียงของอู๋เฟินแผดลั่นตะโกนกึกก้อง

เหล่าผู้ที่กำลังเฝ้ามองเย่หยวนหลอมกลั่นโอสถด้วยความหลงใหล ยามนี้ถูกขัดจังหวะกะทันหัน ราวกับถูกขัดความสุขชั่วพริบตา ลองคิดดูสิว่าพวกเขาทั้งหมดจะหงุดหงิดปานใด?!

………………………………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด